หน้า 6 จากทั้งหมด 9

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 10:26 pm
โดย zesar
เข้ามาฟังฮงฝอยต่อ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 11:07 pm
โดย palm_s5
คุณฮงครับ
เลข 1-5 ที่วงไว้ในตารางคืออะไรเหรอครับ :roll:  

พยายามนึกตาม แต่ยังไม่ค่อยเก็ท

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 2:03 am
โดย hongvalue
[quote="palm_s5"]คุณฮงครับ
เลข 1-5 ที่วงไว้ในตารางคืออะไรเหรอครับ :roll:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 2:42 am
โดย hongvalue
ผมขอฝอยต่อ

ถึงผมจะเล่นแนว fundflow แต่ว่า

ผมกลับชอบโทรไปคุยกับนัก เทคนิค

ผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมชอบคุยกับนักเทคนิค

สมมุติว่าผมมองว่าจะมีเงินไหลเข้า

แล้วเงินไหลเข้ามาจริง

ถ้าผมจะดูสัญญาณขายทาง fundflow

มันก็ต้องคอยดูว่าเม็ดเงินจะออกเมื่อไหร่

ซึ่งบางทีมันช้าไปนิด

แต่ว่านักเทคนิคบางคนเขาเร็ว

เช่น เขาบอกว่า rsi เกิน 80% กว่าๆ แสดงสัญญาณ

overbought

แต่ผมยังหา indicator ทาง fundflow ยากนะว่าหุ้นที่ระดับไหนที่เรียกว่า overbought

จริงๆแล้วถ้าถามว่าตอนนี้ผมมีส่วนผสมในการลงทุนอย่างไร

ผมคิดว่า

fundflow 45 : fundamental 30 : technic 25

ผมรู้สึกว่าอย่างนั้นนะ




ผมจะเล่าวิธีการหาข้อมูลก่อนลงทุนของผมให้ฟัง

สมมุติฐานหลักๆของผมรอบนี้คือ

ค่าเงินดอลอ่อนค่า

ผมก็ต้องไปไล่มาก่อนว่า usd index มีความสัมพันธ์กับ

หุ้น asia และ thai แค่ไหน

แต่ประเด็นก็คือว่า

ผมไม่มีประสบการณ์ในการวิเคราห์แนวโน้มค่าเงิน

ผมเลยต้องให้เพื่อนในก๊วนของผมส่ง research การวิเคราห์ค่าเงินมาก่อน

แล้วพอผมรวบรวมได้ประมาณ 5-6 โบรกเกอร์

ผมก็นั่งอ่านว่าเขามองแนวโน้มค่าเงินกันว่าอย่างไรบ้าง

ถ้าผมไม่เข้าใจผมก็จะไปหาหนังสือเศรษฐศาสตร์มาอ่าน

แต่ผมอ่านเสร็จผมก็จะยังเหลือประเด็นที่ผมไม่แน่ใจ

ถ้าผมมีคำถามเกี่ยวกับค่าเงินจะถามทั้งหมด 10 ข้อ

ผมก็จะทยอยโทรไปหานักวิเคราห์ที่มีเบอร์โทรอยู่ในนั้น



เวลาโทรไปก็จะประมาณนี้



ฮงวายู่  : ฮาโหล  ขอเรียนสายคุณ xxx หน่อยครับ


xxx  : พูดอยู่ครับ ไม่ทราบว่าจากไหนครับ


ฮง  : ผมเป็นคนที่อ่าน research ของคุณ xxx แล้วมีข้อสงสัยบางประการน่ะครับ ขอเรียนถามหน่อยได้ไหมครับ
(ตามประสบการณ์ของผมร้อยละ 80% จะเต็มใจตอบให้ผม ขอบคุณนักวิเคราห์ค่าเงินผู้ใจดี)


หลังจากนั้นพอผมถามครบทุกประเด็น ถ้านักวิเคราห์ค่าเงินคนนั้นดูยังไม่รีบร้อนจะวางสาย

ผมจะเอาประเด็นอื่นๆที่ผมวิเคราห์แล้วถามเขาว่า

เขาคิดว่าเป็นไปได้ไหม


จริงๆแล้วไอ้ประเด็นต่างๆ ที่ผมโพสมาก่อนหน้านี้

ผมไม่กล้าคิดเอง แล้วซื้อหรอก ผมไม่มั่นใจขนาดนั้น

ผมเอาแนวคิดเบื้องต้นไปถามคนที่เก่งกว่าผมมาหลายๆคน แล้วให้เขาช่วย confirm ก่อน

ถ้าคนที่มีเที่ยวบินเฉพาะด้าน confirm ให้ผมแล้ว

ผมก็จะถือว่า สมมุติฐานของผมควรค่าแก่การใช้งาน



ผมเคยโพสว่าในห้องเทคนิคว่า

ผมได้ไปฟัง top present เกี่ยวกับค่าการกลั่นที่โบรก

trinity  หลังจากผมทบทวนจบ

ผมก็ยังไม่กล้าซื้อหุ้นพลังงาน

เพราะผมไม่มีประสบการณ์ในการซื้อหุ้นพลังงาน

ต่อมาผมดูแนวโน้ม fundflow แล้ว

ถ้าค่าเงินดอลอ่อนราคาน้ำมันน่าจะขึ้น

แต่ผมก็ยังไม่กล้าเล่นอยู่ดี

ผมเลยต้องไปโพสถามเฮียวิบูลย์ว่า

ค่าการกลั่นคาดการณ์ได้ไหม

เราจะสามารถคาดการณ์ราคาน้ำมันได้อย่างไร

ซึ่งก็ได้คำตอบเรื่องต้นทุนหลุมเก่า หลุมใหม่มา

ว่าหลุมใหม่ต้นทุนแถว 50-60 หลุมเก่าประมาณ 10-15

ผมลองชั่งใจดูแล้ว ราคา top ตอนผมซื้อ

downside ไม่น่าเยอะ ถ้าประเมินจากปัจจัยภายนอกเรื่อง

ค่าเงินดอล เรื่องต้นทุนหลุม และเรื่อง q4 มี stockloss เยอะ

ผมก็เลยซื้อไปด้วยความหวาดกลัว

ผมทำเพราะผมอยากเล่นหุ้น cyclical เป็น

ผมอยากรู้ว่าดูยังไง ซื้อแล้วขึ้นลงยังไง

ผมก็ต้องลงสนามจริง




จริงๆแล้ว ผมไม่ได้มั่นใจในสิ่งที่ผมคิดมากนัก

แต่ผมมีวิธีที่จะตรวจสอบสิ่งที่ผมคิด

กับคนที่มั่นใจว่าเก่งกว่าผม

และเมื่อตรวจสอบภาพใหญ่และภาพเล็กเสร็จแล้ว

ผมก็จะโทรไปถามนักเทคนิคว่า

ตัวที่ผมจะเก็บเทคนิคเป็นอย่างไรบ้าง

คำถามหลักๆที่ผมจะถามเขาก็คือ

ตรงไหนที่หลุดแล้วเปลี่ยน trend

ตรงไหนที่เลยแล้วแสดงว่าเปลี่ยนเป็นขาขึ้นเต็มตัว




เห็นไหม ผมไม่ต้องเก่งเองหมดก็ได้

แต่ผมมีวิธีรวบรวมข้อมูลเร็วกว่าคนอื่น

ผมรู้ว่าใครที่เก่งในสิ่งที่ผมขาด

ผมรู้ว่าใครที่เชี่ยวชาญด้านไหน

แค่นี้ผมก็ทำเงินได้แล้ว

ทุกวันนี้ผมมั่นใจว่าข้อมูลผมเร็วมาก

ข่าวหลายๆข่าวที่ออกในหนังสือพิมพ์

ผมรู้ก่อนตั้งหลายอาทิตย์แล้ว

ข้อมูลที่กองทุนได้กัน

หรือ โบรกเกอร์ present ให้กองทุนต่างประเทศ

ผมก็แทบจะได้ชนิดวันต่อวัน




สภาพแวดล้อมของผมเหมาะแก่การเล่น fundflow ที่สุดแล้ว

ผมไม่ได้มีจุดแข็งเรื่องการมองแนวโน้มอุตสาหกรรมที่แตกฉานเหมือน ด.ร.นิเวศน์

ผมไม่ได้รู้จักหุ้นเยอะเหมือนพี่ลูกอีสาน


แต่ผมมีบ่อปลาของผม

บ่อที่รายย่อยคนอื่นที่คิดแข่งกับผมในสนามนี้เสียเปรียบผมเต็มประตู

ในเรื่องข้อมูล เครือข่าย เที่ยวบิน



ผมพอใจที่จะตกปลาในบ่อที่ผมส่งคนไปวางเบ็ดเอาไว้รอบบ่อ


ผมไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นตามใคร

ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบวิธีของใคร

ผมกำหนดสนามที่ผมได้เปรียบชาวบ้าน

แล้วก็ดักกินคนที่มีเที่ยวบินในสนามนี้น้อยกว่าผม

เท่านั้นก็พอแล้ว



เคล็ดลับการทำเงินจากตลาดหุ้นมันก็คือ

เล่นในสนามที่เราได้เปรียบเต็มประตู

ก็เท่านั้นเอง



ถ้าทำได้แล้วจะรู้ว่าการเล่นหุ้นนั้นไม่ยากอย่างที่คิด
(แต่ต้องทำการบ้านโคตรหนัก)



ผมนำวิธีหากินของผมมาเล่าให้ฟังเลย เอ้า

:lol:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 11:34 am
โดย crazyrisk
hongvalue เขียน:

เคล็ดลับการทำเงินจากตลาดหุ้นมันก็คือ

เล่นในสนามที่เราได้เปรียบเต็มประตู



:lol:
สงสัย เซียนฮง ต้องเปลี่ยน logo เป็น ซุนวูแล้วมั๊งล่ะเนี่ย...

ผมเชื่ออย่างนึงในการลงทุนครับ

เล่นหุ้น  ไม่ว่าจะเป็นแนวไหน

จะซื้อ TOP  ตามเซียนฮง

ซื้อ IRP ตามเซียน Yo

ซื้อ SVI ตาม พี่โจ

ซื้อ STPI ตาม เซียน พี่สามัญชน

ซื้อ PSL ตามเซียน blueblood

ซื้อ SNC  ตามเซียนพี่พอใจ

ซื้อ Grammy ตามเซียนพี่นริศ

ซื้อ AOT ตาม ท่านอาจารย์ ดร.

ซื้อ

ซื้อ Live ตามเซียน....


ทั้งหมด คือการ ทำโจทย์วิทยาศาสตร์ครับ

เราซื้อด้วยการตั้งสมมติฐานว่า


เรามั่นใจว่า  ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้ว ราคาหุ้นที่ลงมานั้น มันเป็นอย่างไร..... และมีแนวโน้มว่า จะเป็นอย่างไร.........  

เราซื้อเพราะ  เทคนิค ....

ซื้อเพราะ อันเดอร์ วายู

ซื้อเพราะ  อะไรก็แล้วแต่

คือการตั้งสมมติฐาน และทดลอง

หากสมมติฐานถูก  เราก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์นั้น

ถ้าผิด  ก็ให้  ยอมรับ  จาก สมมติฐานตัวเอง

หลายๆคน  พอหุ้นลง  กลับไม่ยอมเชื่อในสมมติฐานตัวเองเบื้องต้น

และกอดหุ้นไว้.... ตราบนานเท่านาน .......

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 12:56 pm
โดย nanchan
System ------ :arrow:  Vinai  :lol:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 12:13 am
โดย vi_tal signs
คุณฮง  ตอนนี้เก่งขนาดไหนไม่รู้


แต่ต่อไปในอนาคต  ต้องเป็นมือ pro  แน่นอน


เพราะมีใจใฝ่ในความรู้   ฉันทะ  วิริยะ  จิตตะ  วิมังสา  เต็มเปี่ยมเลย


  ขอเอาใจช่วย ( และแอบขอความรู้ด้วยครับ )   :oops:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 9:49 am
โดย picatos
อ่านเทคนิคการลงทุนของฮงแล้วประทับใจจริงๆ...

ระดับความรู้ กับวิธีการมองนี่ น้องๆ hedge fund เลยนะเนี่ย เสียดายไม่มีเครื่องมือทางการเงินให้ฮงใช้เยอะเหมือนกับพวก hedge fund ไม่อย่างงั้นผลตอบแทนน่าจะยิ่งดีไปกว่านี้

ถ้าฮงตั้ง hedge fund เมื่อไหร่ ขอฝากเงินไปลงทุนด้วยนะครับ...  :D

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 7:43 pm
โดย Neocapritermes
ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับความรู้เรื่องวิธีการลงทุนและการหาข้อมูลของคุณฮง
ผมว่าความรู้ในส่วนนี้มีประโยชน์กับเพื่อนๆท่านอื่นๆอย่างมาก ทำให้ได้เรียนรู้ว่าคนที่เค้าประสบความสำเร็จในการลงทุนนั้น เค้ามีกระบวนการคิดกันอย่างไร ซึ่งเราสามารถนำมาปรับใช้กับวิธีการคิดและวิธีการลงทุนของเราได้
:bow:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 8:29 pm
โดย hongvalue
[quote="crazyrisk"]

คือการตั้งสมมติฐาน และทดลอง

หากสมมติฐานถูก

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 8:30 pm
โดย hongvalue
[quote="nanchan"]System ------ :arrow:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 8:46 pm
โดย hongvalue
[quote="picatos"]อ่านเทคนิคการลงทุนของฮงแล้วประทับใจจริงๆ...

ระดับความรู้ กับวิธีการมองนี่ น้องๆ hedge fund เลยนะเนี่ย เสียดายไม่มีเครื่องมือทางการเงินให้ฮงใช้เยอะเหมือนกับพวก hedge fund ไม่อย่างงั้นผลตอบแทนน่าจะยิ่งดีไปกว่านี้

ถ้าฮงตั้ง hedge fund เมื่อไหร่ ขอฝากเงินไปลงทุนด้วยนะครับ...

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 8:47 pm
โดย hongvalue
[quote="hongvalue"][quote="nanchan"]System ------ :arrow:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 9:00 pm
โดย hongvalue
อีกเรื่องนึงที่ผมชอบทำก็คือว่า

อย่างทุกวันนี้ผมไม่ได้เข้าไปโพสในห้องร้อยคนร้อยหุ้น

แต่ผมเข้าไปตามอ่านตลอด

ผมจะจำได้เลยว่า

user name อะไรถนัดหุ้นกลุ่มไหนบ้าง

ตามหุ้นกลุ่มไหนเยอะ

บางครั้งผมก็จะ

pm ไปถามบ้าง หรือว่า ถามหน้าเว็บบ้าง

คือผมว่ามันต้องเป็นอัตโนมัติเลยว่า

ถ้าคุณอยากรู้หุ้นกลุ่มไหน

คุณจะนึกถึงใครเป็นคนแรก

แล้วก็ตรงไปขอคำแนะนำ

ผมว่าเรื่องแบบนี้ก็สำคัญ

เพราะว่า บางครั้งสมมุติฐานของเราไม่จำเป็นต้องลองผิดลองถูกถ้าเราไปถามคนที่อยู่กับมันมานาน



เวลาผมไปสัมนาข้างนอก ก่อนงานจะเริ่ม

ผมชอบเดินไปชวนนักวิเคราห์คุย

ผมชวนเขาคุยเพราะผมอยากรู้ว่า

เที่ยวบินจริงๆ เขาเก๊าหรือเปล่า

หรือว่า เขาแค่เขียน research เก่ง

ถ้าผมคุยแล้วผมรู้สึกว่าเขาเก๊ามาก

ผมก็จะบอกเขาว่า

ผมชื่อ สถาพร นะยินดีที่ได้รู้จัก

แล้วมีอะไรผมก็ email ไปที่ถามเขา

แล้วก็บอกว่า คนที่เคยคุยกันไง

เขาก็จะตอบเมล์ให้ผม เนื่องจากว่าจำได้ว่าเคยคุยกัน



คือ ผมมี list เลยว่าเรื่องไหนถามใครได้มั้ง

และ คนที่ผมจะถามส่วนใหญ่จะตอบให้ผมค่อนข้างแน่นอน


แบบนี้ผมก็ได้เปรียบ สงสัยสมมุติฐานอะไรก็มีคนที่ผมแน่ใจว่าเก๊าจริงมาช่วยผม




นี้เป็นเทคนิคของผมที่ใช้ในการเก็บข้อมูล

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 9:07 pm
โดย hongvalue
จริงๆตอนนี้ผมแอบสนใจวิชาการดู

bid offer นะ

พี่พอใจเล่าให้ผมฟังว่าเซียนที่เขารู้จักดู

bid offer เก่งมากๆ

ผมเองเคยไปฟังเซียนหุ้นระดับพันล้านท่านนึง

พองานเลิกก็มีคนเดินไปถามหุ้น

pttar ตอนนั้นราคาต่ำกว่านี้เยอะ

เซียนหุ้นท่านนั้นอธิบายว่า bid offer

pattern ยังไงหุ้นน่าจะขึ้น

ผมก็ยืนฟังอยู่ แต่ค่อนข้างยาก ผมก็ฟังไม่เข้าใจเท่าไหร่

แต่ผมมาดูราคาหุ้น pttar ในวันนี้แล้ว

ก็ทำให้รู้สึกอยากรู้ว่าพวกคนที่ดู bid offer เก่งๆ

เขาสังเกตุกันยังไงบ้าง

แต่เรื่องนี้หาเรียนยากเหลือเกิน

แต่ซักวันผมต้องหาทางเข้าใจความลับของการดู

bid offer ให้ได้

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 9:14 pm
โดย hongvalue
ขอฝอยนอกเรื่องซักเล็กน้อย



ผมไปที่ฟาร์มโชคชัยที่สระบุรีมา

ไปแล้วก็รู้สึกว่าจริงๆความสุขในชีวิตของคนเราคืออะไรกันแน่

ถ้าผมมาใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งนา ในฟาร์ม

กับคนรักของผม

แล้ววันๆก็ใช้ชีวิต child child

นั่งรีดนมวัว  ร้องเพลง อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

เงินทองพอมีใช้

ก็มีความสุขแล้ว

วูบนึงรู้สึกขึ้นมาว่า

มีเงินเยอะๆแล้วก็ซื้อหาความสุขไม่ได้

บางคนไม่มีเงินเยอะ ก็มีชีวิตที่แสนสุขแล้ว

เพราะไม่ต้องแกร่งแย่งชิงดีชิงเด่น

ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเครียดมากๆ

พรุ่งนี้คุณอาจจะเส้นเลือดในสมองแตกตายไปเลยก็ได้



ตอนที่ไปที่ ปราย  ก็รู้สึกว่าอยู่กับธรรมชาติแล้วจิตใจปรอดโปร่ง ไม่อยากจะกลับกรุงเทพ

รู้สึกว่าอากาศดี



ถ้าผมมีเงินซักก้อน ผมอาจจะไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด

ไม่ต้องดูจอหุ้น ไม่ต้องนั่งลุ้นนั่งเก็งข่าว

จิตใจไม่ว้าวุ่น



นั้นอาจจะเป็นความสุขที่แท้จริงของชีวิตคนก็ได้


ป.ล. ขออภัยที่นอกเรื่อง ทีม mod อย่าเพิ่งย้ายกระทู้ไปห้องนั่งเล่นล่ะ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 9:43 pm
โดย vi_tal signs
ชีวิตไม่มีไรมากหรอกครับ

 ลองฝึกวิปัสสนา กรรมฐาน ดู ก็จะเห็นธรรม  บางอย่าง

นะครับ :wink:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 11:21 am
โดย Blueblood
ฮงนี่มันคนกล้าจริงๆ ถ้าขวนขวายหาความรู้ขนาดนี้ไม่เก่งไม่รู้จะว่าไงแล้ว

ป.ล. "เก๋า" นะฮง ไม่ใช่ "เก๊า" :P

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 11:24 am
โดย poppo
[quote="hongvalue"]ขอฝอยนอกเรื่องซักเล็กน้อย



ผมไปที่ฟาร์มโชคชัยที่สระบุรีมา

ไปแล้วก็รู้สึกว่าจริงๆความสุขในชีวิตของคนเราคืออะไรกันแน่

ถ้าผมมาใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งนา ในฟาร์ม

กับคนรักของผม

แล้ววันๆก็ใช้ชีวิต child child

นั่งรีดนมวัว

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 11:37 am
โดย poppo
[quote="poppo"][quote="hongvalue"]ขอฝอยนอกเรื่องซักเล็กน้อย



ผมไปที่ฟาร์มโชคชัยที่สระบุรีมา

ไปแล้วก็รู้สึกว่าจริงๆความสุขในชีวิตของคนเราคืออะไรกันแน่

ถ้าผมมาใช้ชีวิตอยู่ในทุ่งนา ในฟาร์ม

กับคนรักของผม

แล้ววันๆก็ใช้ชีวิต child child

นั่งรีดนมวัว

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 1:30 pm
โดย newbie_12
จริงๆ ความสุขมีได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอรวยแล้วจึงมีความสุขหรอกครับ เคยได้ยินเรื่องเล่าประมาณว่า

มีนักธุรกิจคนหนึ่ง ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนเจ็บป่วย หลังรักษาตัวหายดี ก็ได้ไปพักฟื้นที่บ้านต่างจังหวัด

ณ ที่นี้ ขณะที่เขากำลังเดินเล่นอยู่ริมน้ำ ก็ได้พบกับชายท้องถิ่นคนหนึ่งยืนตกปลาอยู่
ก็ได้คุยกัน จึงพบว่าเป็นคนที่มีความสามารถมาก เขาจึงถามว่า ทำไมไม่ไปทำงานให้ก้าวหน้า หาเงินมากๆ

ชายผู้นั้นจึงถามกลับว่า ถ้าได้เงินมากๆ แล้วจะเอาไปทำอะไร

นักธุรกิจบอกว่า จะได้เอามาซื้อบ้านตากอากาศริมแม่น้ำ ไว้พักผ่อน ใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ต้องเครียด ยืนตกปลาอย่างมีความสุข

ชายผู้นั้นก็ตอบว่า ผมก็กำลังทำอยู่นี่ไงล่ะ

ที่เล่ามานี่ ไม่ได้บอกว่าอย่ามุ่งมั่น ที่จะไปให้ถึงจุดหมายนะครับ

แต่บางทีต้องควบคุมจิตใจ และตัวกูของกูให้ได้ด้วย

คนเราไม่รู้จักพอหรอกครับ

มีสิบล้านก็อยากมีร้อยล้าน มีร้อยล้านก็อยากมีพันล้าน

น้องฮงเคยฟังเพลงทะเลใจไหมครับ มีความหมายดีมากนะครับ

โดยเฉพาะท่อนนี้

.... ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกลับไม่เจอ

ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพร้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข......

ขอให้โชคดีมีสุขครับ
เยี่ยมเลยครับ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 4:40 pm
โดย ศิษย์เซียน007
คุณฮงยอดเยี่ยม การปรับฐานรอบนี้ของSETน่าจะเข้าไปรับแถวที่เท่าไรดีครับบางท่านบอกว่ารอให้SETปรับฐานซัก1/3แล้วค่อยเข้าไปรับครับ  :?:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 4:42 pm
โดย ศิษย์เซียน007
[quote="ศิษย์เซียน007"]คุณฮงยอดเยี่ยม การปรับฐานรอบนี้ของSETน่าจะเข้าไปรับแถวที่เท่าไรดีครับบางท่านบอกว่ารอให้SETปรับฐานซัก1/3แล้วค่อยเข้าไปรับครับ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 5:12 pm
โดย picatos
พี่ mudley group ที่ฮงพูดถึง ผมเคยอ่านความเห็นของพี่เค้า แล้วก็รู้สึกว่าพี่เค้าเจ๋งดี น่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง

แต่การจะเอากลยุทธของ Hedge Fund มาใช้ในการลงทุนในไทยนี่ ท่ายากอยู่เหมือนกัน เพราะ เครื่องมือทางการเงินของเรามีน้อยเหลือเกิน System ก็ต้องออกแบบให้ดี และมีความรู้ในการทำโมเดลและความเสี่ยง ซึ่งยากเกิน (สมัยทำงานเคยอ่านหนังสือ Quantitative Finance ของ Paul Wilmott แล้วก็ไม่ไหวครับ ต้อง Math แข็งจริงๆ ถึงจะอ่านรู้เรื่อง เพราะ มันเป็น math ขึ้นสูงพวก stochastic differential equation อะไรประมาณนั้น) เงินทุนก็ต้องหนา ไม่งั้นไม่คุ้ม

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 24, 2009 10:24 am
โดย Luty97
ไม่รู้ว่าจะถามใครดีพอดีมีข้อสงสัย...

ถามเซียนฮงละกันนะ

ถ้าวันที่ 1-6-09 นี้ที่ GM จะหมดเวลาต้องยื่นแผนฟื้นฟู..

-เลยอยากถามว่าถ้า GM ล้มละลาย ฟันโฟว์ ทั่วโลกน่าจะเป็นอย่างไร

-หรือ ถ้าไม่ล้ม ฟันโฟว์ทั่วโลกจะเป็นอย่างไร

รีบตอบพี่หน่อยก็ดีนะ เอาไว้ใช้ประกอบการลงทุน อิอิ  :lol:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 6:21 pm
โดย hongvalue
[quote="ศิษย์เซียน007"]คุณฮงยอดเยี่ยม การปรับฐานรอบนี้ของSETน่าจะเข้าไปรับแถวที่เท่าไรดีครับบางท่านบอกว่ารอให้SETปรับฐานซัก1/3แล้วค่อยเข้าไปรับครับ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 6:27 pm
โดย hongvalue
[quote="Luty97"]ไม่รู้ว่าจะถามใครดีพอดีมีข้อสงสัย...

ถามเซียนฮงละกันนะ

ถ้าวันที่ 1-6-09 นี้ที่ GM จะหมดเวลาต้องยื่นแผนฟื้นฟู..

-เลยอยากถามว่าถ้า GM ล้มละลาย ฟันโฟว์ ทั่วโลกน่าจะเป็นอย่างไร

-หรือ ถ้าไม่ล้ม ฟันโฟว์ทั่วโลกจะเป็นอย่างไร

รีบตอบพี่หน่อยก็ดีนะ เอาไว้ใช้ประกอบการลงทุน อิอิ

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 8:06 pm
โดย Luty97
ไม่ค่อยเก็ทมากนัก(พี่ไม่ฉลาดเอง อิอิ)

แต่จับใจความว่ายังไม่น่ามีแพนิค...

เอาเป็นว่า เริ่มลุย เมื่อไรส่งสัญญาณด้วยนะ  :lol:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 9:55 pm
โดย hongvalue
มาตอบพี่ติต่อ

หลังจาก internet ที่บ้านใช้ได้แล้ว :lol:



ผมเคยตามประเด็นเรื่องสามค่ายรถยนต์อยู่ซักพัก

แต่ได้ใจความว่า

ตลาดไม่ค่อยสนใจประเด็นนี้

จำได้ว่ามีปัญหาเรื่องแผนไม่ผ่านเอย

ถูกให้ไปแก้ จะล้มละลาย

แต่ dowjone ก็ลงเต็มที่แค่ ร้อย สองร้อยจุด

อีกวันก็บวกต่อ

ผมเลยไม่ค่อยได้ตามเรื่องค่ายรถเท่าไหร่นัก

แต่ผมจะลองเสนอ

ดัชนีตัวนึงที่ใช้ในการดูอารมณ์ของนักลงทุน

สำหรับดัชนี s&p500



รูปอาจจะไม่ update มากนัก

แต่อยากแชร์มุมมองเรื่อง indicator นะครับ

ดัชนีตัวนี้เรียกว่า vix index

(สามารถเข้าไปดูนิยามและรายละเอียดได้ในนี้)

http://en.wikipedia.org/wiki/VIX


ลองดูจากรุปประกอบกับคำอธิบายครับ

รูปภาพ

แต่ผมลองสอบถามผู้เชียวชาญด้าน indicator

ในเบื้องต้น

สามารถถอดความของ vix index ได้ดังนี้


VIX Index เป็นตัววัดความผันผวนของตลาด s&p 500

ว่าแต่ละวันมีการเคลื่อนไหวอย่างไร โดยวัดจาก

Implied Volatility จาก s&p Index options

ยิ่งตลาดมีความผันผวนสูง และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อน

ว่า ตลาดเริ่มรับไม่ได้กับความเสี่ยง หากปัจจัยลบใดเข้า

มากระทบ แม้ว่าจะลบไม่มาก ตลาดก็พร้อมที่จะปรับตัวลง

แรงได้เช่นกัน




ผมจะอธิบาย correlation ดังนี้ครับ

(ลองดูภาพประกอบได้เลยครับ)

ถ้า vix index ขึ้น s&p 500 จะลง

ในอดีตตอนที่ vix index ต่ำกว่า 20 และลงไป

เรื่อยๆ หุ้น s&p500 ก็ขึ้นไปเรื่อยๆเหมือนกัน

จนถึงช่วงปลายปีที่แล้ว

เราจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ lehman ล้ม

vix index พุ่งขึ้นไปถึงแถวๆ 80

แต่ล่าสุด(ไม่ใช่ในเอกสารนะ update กว่าในเอกสาร)

ลงมาถึงแถวๆ 30 ซึ่งน่าจะเป็นระดับที่

ใกล้เคียงกับตอนที่ยังไม่เกิดปัญหาสถาบันการเงิน

และจากรูปเราจะเห็นได้ว่าตอนที่ s&p500 มี newlow

นั้น vix index ไม่ได้มี newhigh ถ้ายืมศัพท์ของ

นักเทคนิคมาใช้ก็ต้องบอกว่า

เกิดการ bullish divergence ระหว่าง vix index กับ s&p 500

(สัญญาณซื้อในแง่ของ vixindex)



ที่เล่ามาทั้งหมดผมคิดว่า

ข่าวของ gm จะไม่ทำให้ตลาดเกิด panic

ถ้าดูจาก vixindex ณ.ระดับปัจจุบัน

ผมคิดว่าแนวโน้มของตลาดยังมี

momentum ที่ดี

ยกเว้นว่าหลังวันที่

1-6-09  vix index พุ่งแรงมาก

และ ted-spread usdindex bondyield

พร้อมใจกันส่งสัญญาณขาย

อันนั้นจะเป็น case ไม่ค่อยดี

แต่ผมคิดว่าโอกาศเกิดแค่

10% เท่านั้นครับ

ตอนนี้ผมมองตลาดดีขึ้นเล็กน้อย

หลังจากได้ข้อมูลชุดใหม่เข้ามา




ไม่แน่ใจว่าตอบตรงคำถามไหมนะครับ

:lol:

fundflow in q2 และ downside risk ในระยะถัดไป

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2009 10:27 pm
โดย Luty97
ชัดเจนขึ้นเยอะเลย

แต้งกิ้วๆมากๆ ขอให้ปีนี้ฮง บวก ตามใจนึกละกันนะ อิอิ  :lol: