หน้า 57 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 21, 2005 2:11 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ถ้าเห็นหุ้นตัวเองลดลง 50% ไม่ได้ ก็อย่ามาเสนอหน้าในตลาดหุ้น 
.............................คำสอน วอร์เรน บัฟเฟต    
โหย โดนเลยเรา อืม

แต่ไม่เปงไร คิดว่าคงโดนซะ 99 % เลยนะ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 21, 2005 3:06 pm
โดย VIB007
[quote] ถ้าเห็นหุ้นตัวเองลดลง 50% ไม่ได้ ก็อย่ามาเสนอหน้าในตลาดหุ้น
.............................คำสอน วอร์เรน บัฟเฟต

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 21, 2005 9:29 pm
โดย thaistock2005
เดี่ยวนี้ผมหันมาลงทุนโดยหวังกระแสเงินสด
นั่นคือทรัพย์สินที่ซื้อจะให้ผลตอบแทนเราได้เท่าไหร
ผมหวังที่ 15 % เป็นอย่างต่ำ
ถ้ามันยิ่งลงผมยิ่งซื้อ
แต่ต้องมั่นใจนะครับ
ว่ามันจะให้ผลตอบแทนเราได้ตามที่เราวางแผน

ดังนั้นตอนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องราคาครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 22, 2005 1:54 pm
โดย topbuy
ขอบคุณ ข้อมูลของคุณวิบูลย์ :D  :D  :D
ผมอยากสอบถามเป็นแนวคิดต่อว่า
1.ในสภาวน้ำมันแพง  อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูง  อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขึ้น
1.1หุ้นหมวดไหน ที่จะได้รับผลประโยชน์จากเหตุการณ์ดังกล่าว
1.2หุ้นหมวดไหนบ้างที่สามารถผลักภาระให้ผู้บริโภคได้
2.หุ้นไทยตัวไหนบ้างที่สามารถ สร้าง brand ออกไปแข็งขันกับระดับโลกได้หรือมีแนวโน้มที่จะสร้าง brand เติบโตได้
3..ในธุรกิจสัมปทานของรัฐหุ้นตัวใด ที่ได้รับประโยชน์จากทิศทางการเติบโตในอนาคต

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 23, 2005 9:03 pm
โดย VIB007
[quote="topbuy"]ขอบคุณ ข้อมูลของคุณวิบูลย์ :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 24, 2005 6:20 am
โดย topbuy
ขอบคุณมากครับ
คำตอบของคุณวิบูลย์ เป็นคำแนะนำที่ลึกซึ้งมาก  เป็นประโยชน์มากครับ
การสร้างแบรนด์ เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ ผมในฐานะนักเรียนของอาจารย์วิบูลย์หลานศิษย์อ.บัฟเฟตต์  ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือ opp day ผมจะลองติดตามแนวคิดของผู้บริหารที่ผมมองว่าสินค้า มีศักยภาพในการแข่งขันได้ ดูว่าเขามีมุมมองกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 24, 2005 7:15 am
โดย topbuy
การเรียนรู้จากผู้รู้จริงเพียง 1 วัน มีค่ามาก คลำหาทางเป็นเดือน ๆคำพูดนี้คงไม่เกินจริง  ต่อไปผมคงอยู่ใน ขั้นตอนการนำไปปฏิบัติจะเป็นการพิสูจน์ความเข้าใจในสิ่งที่เรียนรู้  ผมคงต้องสอบถามอาจารย์วิบูลย์ เป็นระยะๆ หวังว่าภายใน 10 ปี ผมจะสามารถเหมือนอ.วิบูลย์ ที่มีอิสรภาพทางการเงิน สามารถให้เงินทำงานแทนเรา มีความสุขกับการลงทุน    :D  :D  :D ไม่มีใครแก่เกินเริ่มต้นชีวิตใหม่  :D  :D  :D  :D  :D  :D  :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 25, 2005 3:42 pm
โดย VIB007
[quote="topbuy"]การเรียนรู้จากผู้รู้จริงเพียง 1 วัน มีค่ามาก คลำหาทางเป็นเดือน ๆคำพูดนี้คงไม่เกินจริง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 25, 2005 5:13 pm
โดย thanwa
[quote="VIB007"

ผมนิยาม"อิสรภาพทางการเงิน"ส่วนตัวไว้ดังนี้

ถ้าเรายังคิดถึงเงิน และเงินมีอำนาจเหนือเรา
แสดงว่าเรายังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน
ไม่ว่าเราจะมีเงินมากน้อยแค่ไหน
คนมีเงินเป็นสิบล้าน หรือพันล้าน แต่ยังกลุ้มใจนอนไม่หลับเพราะเงิน
ก็ถือว่ายังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน

แต่คนที่อยู่เหนือ"เงิน"
คนที่เงินทำอะไรไม่ได้
คนนั้นบรรลุ"อิสรภาพทางการเงิน"[/quote]

คมจริงๆ !! คุณวิบูลย์

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 25, 2005 6:45 pm
โดย JackJune
คุณวิบูลย์ คิดว่าท่านเทพจะแปลงร่างแตกพาร์เพื่อให้นักลงทุนเบี้ยน้อยได้มีโอกาศเก็บเกี่ยวเปล่าครับ เคยได้ยินว่าทาง ท่านเทพบอกยังไม่มีแผนแต่ผมว่าอีกสักปีน่าจะมีโอกาสนะ่ครับ ยิ่งถ้า ท่านไฟฟ้าเข้าตลาดมา

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 26, 2005 5:02 am
โดย topbuy
ผมอ่านหนังสือ แก่นแท้ของอ.บัฟเฟตต์ และเหนือกว่าวอลสตรีท ของ อ. Lynch   อ.ปู่จะเน้นในsuper stock ที่มีความแข็งแกร่ง และแน่นอน  แต่อ.Lynch บอกว่า การที่จะสร้างผลตอบแทนที่แตกต่าง  จะต้องมาจากหุ้น turnaround หุ้นน่าเบื่อ หุ้นเติบโต  
จากประสบการณ์ของคุณวิบูลย์
1.ผมเชื่อว่าข้อคิดของ อ.ทั้ง 2 ท่านถูกต้อง แต่ถ้าเรามีเงินลงทุน ประมาณ 1 ล้าน  คุณวิบูลย์มีแนวคิดในการจัด port ลงทุนอย่างไร
2. เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นก้นบุหรี่ของคุณวิบูลย์  ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เพราะผมเชื่อว่า เหตุผลในการเลือกหุ้นแต่ละตัวของคุณวิบูลย์จะต้องมี margin of safety พอสมควร

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 26, 2005 6:08 am
โดย topbuy
นิยาม อิสรภาพทางการเงิน ของคุณวิบูลย์ โดนใจมาก เป็นความจริงที่ว่าคุณภาพชีวิต ที่ทุกคนต้องการไม่เท่ากัน  ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าใช้จ่ายเพื่อยกระดับทางสังคม  
ความสุขที่เรามี  ถึงแม้จะไม่เท่าคนอื่น  แต่ก็เป็นความสุขของเรา  
ความสุขที่สามารถแบ่งปันคนอื่นได้  เป็นความสุขที่ดีมากเพราะเป็นความสุขที่ไม่รู้จบ
คำโบราณที่ว่าอยากสบายต้องมี รายได้จาก ค่าเช่า ดอกเบี้ย  เงินปันผล  
ค่าเช่า  ผมถนัด แต่กว่าจะให้ดอกผล อีก 10 ปี ต้องจ่ายให้ธนาคาร  ดอกเบี้ยขึ้น กังวลใจอยู่บ้างแต่ยังโชดดีที่ fix ไว้ 5 ปี
เงินปันผล  ผมว่ามีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนที่ดี  แต่ถ้าเลือกหุ้นผิด เราก็ถูกลงโทษ  ปัจจุบันผมยังไม่มีความมั่นใจในการคัดเลือกหุ้น ยังไม่มีความชำนาญเพียงพอ  แต่หวังว่าจะหาแนวทางได้ในระยะเวลาไม่นานนัก  ตอนนี้คงต้องสอบถามคุณวิบูลย์เป็นประสบการณ์เรื่อยๆ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 27, 2005 3:45 pm
โดย VIB007
JackJune เขียน:คุณวิบูลย์ คิดว่าท่านเทพจะแปลงร่างแตกพาร์เพื่อให้นักลงทุนเบี้ยน้อยได้มีโอกาศเก็บเกี่ยวเปล่าครับ เคยได้ยินว่าทาง ท่านเทพบอกยังไม่มีแผนแต่ผมว่าอีกสักปีน่าจะมีโอกาสนะ่ครับ ยิ่งถ้า ท่านไฟฟ้าเข้าตลาดมา
เคยอ่านบทสัมภาษณ์ผู้บริหารพี่เทพ
บอกไว้ว่าอยากให้หุ้นพี่เทพเป็นหุ้นลงทุนระยะยาว
ดังนั้นเลยไม่มีนโยบายแตกพาร์ให้หุ้นเสียราคา

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ในภายภาคหน้า

สำหรับผมในกรณีนี้
หุ้นพาร์ 5 บาท ราคา 400 บาทต่อหุ้น
กับหุ้นพาร์ 1 บาท ราคา 80 บาทต่อหุ้น
ไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด

ข้อผิดพลาดอีกอย่างสำหรับนักลงทุน
คิดว่าราคาหุ้นต่ำ"ถูก"กว่าราคาหุ้นสูง
หุ้น 80 บาท"ถูก"กว่าหุ้น 400 บาท

ซึ่งไม่จริงเสมอไป

บางครั้งหุ้น 80 บาท"แพง"กว่าหุ้น 400 บาทเยอะครับ

ถ้าอยากจะซื้อจริงๆ
หุ้นราคา 400 บาท พาร์ 5 จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
กับ
หุ้นราคา 80 บาท พาร์ 5 จำนวน 500 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
ไม่ต่างกันครับ
ดังนั้น คนเบี้ยน้อยก็ซื้อได้ครับที่ราคาปัจจุบัน

แต่อยู่ที่"ความรู้สึก"มากกว่าครับที่คิดว่า"แพง" ซื้อไม่ไหว
JackJune เขียน:ผมอ่านหนังสือ แก่นแท้ของอ.บัฟเฟตต์ และเหนือกว่าวอลสตรีท ของ อ. Lynch   อ.ปู่จะเน้นในsuper stock ที่มีความแข็งแกร่ง และแน่นอน  แต่อ.Lynch บอกว่า การที่จะสร้างผลตอบแทนที่แตกต่าง  จะต้องมาจากหุ้น turnaround หุ้นน่าเบื่อ หุ้นเติบโต  
จากประสบการณ์ของคุณวิบูลย์
1.ผมเชื่อว่าข้อคิดของ อ.ทั้ง 2 ท่านถูกต้อง แต่ถ้าเรามีเงินลงทุน ประมาณ 1 ล้าน  คุณวิบูลย์มีแนวคิดในการจัด port ลงทุนอย่างไร
อยู่ที่ความเข้าใจและความถนัดรวมทั้งประสบการณ์ของแต่ละคน
ผมคงตอบแทนไม่ได้

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เชื่อคือเรื่องการกระจายความเสี่ยง
ผมว่า"ยิ่งกระจายความเสี่ยง ยิ่งเสี่ยง"

JackJune เขียน:2. เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นก้นบุหรี่ของคุณวิบูลย์  ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เพราะผมเชื่อว่า เหตุผลในการเลือกหุ้นแต่ละตัวของคุณวิบูลย์จะต้องมี margin of safety พอสมควร
ข้อผิดพลาดคือเราลงทุนในธูรกิจที่เราไม่เข้าใจอย่างแท้จริง
และส่วนใหญ่เราซื้อหุ้นตามที่คนอื่นบอกว่าดี

พอหุ้นราคาลงก็"ขาดทุน"
เพราะไม่ได้คิดเองว่าซื้อมาทำไม เพราะอะไรและจะทำอย่างไรถ้าหุ้นลง
JackJune เขียน: ปัจจุบันผมยังไม่มีความมั่นใจในการคัดเลือกหุ้น ยังไม่มีความชำนาญเพียงพอ  แต่หวังว่าจะหาแนวทางได้ในระยะเวลาไม่นานนัก  ตอนนี้คงต้องสอบถามคุณวิบูลย์เป็นประสบการณ์เรื่อยๆ
ด้วยความยินดีครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 12:06 am
โดย harry
ถ้าอยากจะซื้อจริงๆ
หุ้นราคา 400 บาท พาร์ 5 จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
กับ
หุ้นราคา 80 บาท พาร์ 5 จำนวน 500 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
ไม่ต่างกันครับ
ดังนั้น คนเบี้ยน้อยก็ซื้อได้ครับที่ราคาปัจจุบัน
มาแก้ให้ครับ เป็น

ถ้าอยากจะซื้อจริงๆ
หุ้นราคา 400 บาท พาร์ 5 จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
กับ
หุ้นราคา 80 บาท พาร์ 1 จำนวน 500 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
ไม่ต่างกันครับ
ดังนั้น คนเบี้ยน้อยก็ซื้อได้ครับที่ราคาปัจจุบัน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 3:26 pm
โดย VIB007
Thanks, Harry

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 07, 2005 11:07 am
โดย Monet
ถ้าอยากจะซื้อจริงๆ
หุ้นราคา 400 บาท พาร์ 5 จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
กับ
หุ้นราคา 80 บาท พาร์ 1 จำนวน 500 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
ไม่ต่างกันครับ
ดังนั้น คนเบี้ยน้อยก็ซื้อได้ครับที่ราคาปัจจุบัน
40,000 บาทสำหรับพอร์ตของผม มันไม่น้อยน่ะสิครับ
ผมมีอยู่ทั้งพอร์ต 100,000 บาท (เงินออมที่รับความเสี่ยงได้)
ตั้งใจจะลงทุนสัก 4 บริษัท
ก็เป็นบริษัทละประมาณ 25,000 บาท
ตอนนี้มีอยู่ 3 ตัวแล้ว มีตัวใหญ่สุดคือ SCC ได้ซื้อ 100 หุ้น
ส่วน PTTEP, TR, TF ก็เลยได้แต่มองดู
กำลังหาตัวที่ 4 อยู่ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 07, 2005 10:25 pm
โดย jiras
เคยแต่อ่านมานาน รบกวนถามคุณวิบูลย์เกี่ยงกับ pttep ในราคาปัจจุบันนี้
คุณวิบูลย์ ยังสะสมเพิ่มหรือไม่ครับ (ผมมีแล้ว 1,000 หุ้น) อยากซื้อเพิ่มถ้า
มีจังหวะครับ :)

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 10:44 am
โดย VIB007
Monet เขียน:
40,000 บาทสำหรับพอร์ตของผม มันไม่น้อยน่ะสิครับ
ผมมีอยู่ทั้งพอร์ต 100,000 บาท (เงินออมที่รับความเสี่ยงได้)
ตั้งใจจะลงทุนสัก 4 บริษัท
ก็เป็นบริษัทละประมาณ 25,000 บาท
ตอนนี้มีอยู่ 3 ตัวแล้ว มีตัวใหญ่สุดคือ SCC ได้ซื้อ 100 หุ้น
ส่วน PTTEP, TR, TF ก็เลยได้แต่มองดู
กำลังหาตัวที่ 4 อยู่ครับ
แต่ก่อนผมก็คล้ายๆกันคือ
ตั้งใจถือหุ้นสัก 4-5 บริษัท
ผมซื้อหุ้นแต่ละตัวจะ limit ไว้ไม่เกิน 25% ของพอร์ต
ปรากฏว่าหุ้นที่ดีมีน้อยเกินไป
ตั้งแต่นั้นมาเลยเข้าใจที่บัฟเฟตบอกไว้ว่า
"Too much of Good Thing is Wonderful"
ถ้ามีโอกาส ผมเลยไม่มีลิมิตสำหรับการซือ้หุ้นแต่ละตัวอีกเลย
และพบว่าถือหุ้น 1-2 บริษัทก็"เพียงพอ"แล้ว
jiras เขียน: เคยแต่อ่านมานาน รบกวนถามคุณวิบูลย์เกี่ยงกับ pttep ในราคาปัจจุบันนี้
คุณวิบูลย์ ยังสะสมเพิ่มหรือไม่ครับ (ผมมีแล้ว 1,000 หุ้น) อยากซื้อเพิ่มถ้า
มีจังหวะครับ
ผมว่าที่ราคานี้ก็แล้วแต่"ใจ"ละครับ
ว่าใครจะ"กล้า"มากกว่ากัน

สำหรับผมยังไม่ได้ขายสักหุ้น
ขณะที่เพื่อนๆชิ่งหนีไปเสียแล้วตั้งแต่ 300 กว่ายัน 500 บาทต่อหุ้น

ลองอ่านบทความของท่านดร.นิเวศน์วันนี้ดูสิครับ
แล้วจะพบว่า
บางครั้งเราพบว่าหุ้นดีๆที่เราขายไป
เราไม่ได้กลับไปซื้ออีกเลย
http://www.thaivi.com/index.php?option= ... &Itemid=49

ถ้าจะเก็บเพิ่มก็ลองดูๆแล้วกันว่า เรารู้จักบริษัทนี้ดีแค่ไหน
และหา"มูลค่า"ของบริษัทออกมาได้เท่าไหร่
ราคามันเวอร์เกินไปหรือยัง

ถ้าตอบคำถามข้างบนเองได้
ก็ไม่ต้องรอคำตอบจากผมว่า "ผมเก็บเพิ่มหรือเปล่า"
จริงไหมครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 11:46 am
โดย jiras
สำหรับ pttep ผมมองว่าเป็นหุ้นที่ดี เพียงแต่ราคามันค่อนข้างแกว่งจากคนที่เข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ผมยังมองว่าราคามันขึ้นมาเร็วเกินไป อยากได้ที่ต่ำกว่า 400 บาท แต่ก็ไม่ลงมาให้ซะที คือว่ายังเกี่ยงราคาที่จะซื้อเพิ่มแต่ที่ถืออยู่ก็ไม่อยากขาย คงต้องรอไปก่อน ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ :)

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 12:24 pm
โดย Belffet
คำว่า วิเคราะห์บริษัทให้เข้าใจของพี่วิบูลย์เนี่ย ถ้าบริษัทที่ทำธุรกิจหลากหลาย และใหญ่โตอย่าง _ นใ_ญ่ เราก็ต้องเสียเวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจใช่มั๊ยครับ แล้วข้อมูลที่มีอยู่ตามเวบไซต์ หรืองบการเงินตามปกติที่เราใช้วิเคราะห์กันอยู่เนี่ยมันเพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจเพื่อลงทุนในบริษัทนั้นๆหรือไม่

อีกอย่างพี่เห็นด้วยแค่ไหนกับคำพูดที่ว่า "หาหุ้นที่คุณคิดจะกอดไปจนตายให้เจอ" ในตลาดมันมีอะไรที่แน่นอนขนาดนั้นเลยหรือครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 3:32 pm
โดย VIB007
Belffet เขียน:คำว่า วิเคราะห์บริษัทให้เข้าใจของพี่วิบูลย์เนี่ย ถ้าบริษัทที่ทำธุรกิจหลากหลาย และใหญ่โตอย่าง _ นใ_ญ่ เราก็ต้องเสียเวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจใช่มั๊ยครับ แล้วข้อมูลที่มีอยู่ตามเวบไซต์ หรืองบการเงินตามปกติที่เราใช้วิเคราะห์กันอยู่เนี่ยมันเพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจเพื่อลงทุนในบริษัทนั้นๆหรือไม่
บางบริษัทผมอ่านฟอร์ม 56-1 แล้วยังไม่เข้าใจเลยครับว่าบริษัททำอะไร
การเข้าใจบริษัทไหนบริษัทหนึ่งนั้น
ขึ้นกับประสบการณ์และการค้นคว้าของเราจริงๆ

งบการเงินและข้อมลในเวปไซค์
คงทำให้เราเข้าใจส่วนหนึ่ง

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เราหาได้ก็คือ
การหาจากพื้นที่จริง เช่น สำรวจร้านค้า พูดคุยกับพนักงาน
ข่าวสารในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ

ฟิลิป ฟิชเชอร์เรียกขบวนการนี้ว่า "Scuttlebutt"

อีกอย่างการลงทุนในหุ้นคือการลงทุนโดยดูอนาคต
ข้อมูลที่มีบางครั้งเป็นข้อมูลที่ผ่านมาแล้ว
การยึดข้อมูลในอดีตมาทำนายอนาคต
เช่น นำข้อมูลย้อนหลัง10 ปีมาทำ Earning Projection ไปอีก 10 ปี
ตามตำราหนังสือที่มีขายทั่วๆไปนั้น
บางครั้งอนาคตอาจไม่เป็นไปตามอดีตก็ได้

"ขับรถต้องมองกระจกหน้า
แต่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะมองแต่กระจกหลัง"

บัฟเฟตเคยบอกเอาไว้ครับ
Belffet เขียน:อีกอย่างพี่เห็นด้วยแค่ไหนกับคำพูดที่ว่า "หาหุ้นที่คุณคิดจะกอดไปจนตายให้เจอ" ในตลาดมันมีอะไรที่แน่นอนขนาดนั้นเลยหรือครับ
คิดว่ามีก็มี
คิดว่าไม่มีก็ไม่มี


ผมว่ามนุษย์นี่เป็นสิ่งที่แปลกมากๆ
โดยเฉพาะ"ความคิด"ของมนุษย์

แต่ก่อนผมเคยสงสัยมากๆว่า
ทำไมมนุษย์แต่ละคนถึงมีสิ่งต่างๆไม่เหมือนกัน
บางคนจน บางคนรวย
จนถึงขนาดคิดว่าคนที่"รวย"คือคนที่เอาเปรียบคนอื่น
ส่วนคนที่จนเพราะเกิดมาจน

แต่ก็พบว่ามีคนที่มีพื้นฐานคล้ายๆกัน
คนหนึ่งจน อีกคนรวย
คนหนึ่งหาเงินไม่พอใช้
ขณะที่อีกคนหนึ่งมีเงินมากมายเหลือเฟือ
ทั้งๆที่มีรายได้ไม่ต่างกัน

และแล้วก็พบ"ความจริง"จากหนังสือ
Think and Grow Rich เขียนโดย อ.Napolene Hill
ที่ว่า
จริงๆแล้ว เราจะเป็นอย่างไร อยู่ที่"ความคิด"ของเราเอง
คนจะรวยจะจน อยู่ที่ตัวเราเอง
ไม่ได้เกิดจากกรรมหรือชะตาชีวิตแต่อย่างใด

มีคนมากมายที่เกิดมาไม่มีอะไรแถมยากจน
แต่ก็สร้างฐานะตนเองขึ้นมาได้
โดยไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร
แถมเป็นคนใจบุญ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อีกต่างหาก

และมีอีกมากมายที่ร่ำรวยแล้วก็กลับไปยากจน

ในการลงทุนก็เช่นเดียวกัน
ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็ทำได้
ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ เราก็แพ้ตั้งแต่ต้น
ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองครับ


ถ้าเราคิดว่ามีหุ้นที่เราถือได้ตลอดชีวิต มันก็จะมี
ถ้าเราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นไปไม่ได้ครับ

แต่ขอบอกอีกอย่างแล้วกันครับว่า
"ในตลาดหุ้นนั้น สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่อน"

โชคดีครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 3:58 pm
โดย Belffet
ขอบคุณมากครับพี่วิบูลย์

พูดถึง scattlebut ผมอยากเล่าเรื่องอะไรเรื่องนึงครับ

มีหุ้นที่ผลิตกระดาษอยู่ตัวนึง สินค้าของเขาดังมาก คุณภาพดีและมีแทบทุกสำนักงาน อันนี้ผมไม่เถียงว่า หากทำ scattlebut เพื่อดูตลาดทั่วไป จะเห้นว่ากระดาษตัวนี้เป็นที่นิยมมากๆ แม้จะราคาแพงกว่าก็ตาม

โอ้ว เยี่ยมแฮะ ใครมันขายกระดาษตัวนี้เนี่ย เจ๋งสุดๆ ยอดขายต้องดีมากแน่เลย ถึงใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแบบนี้

คิดได้ดังนั้น เราก็เลยไปดูหุ้นค่า PE ก็โอเค แม้มีสภาพคล่องต่ำ แต่หลายๆอย่างก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เพราะมองว่าการที่คนติดแบรนด์และนิยมใช้เรียบร้อยแล้ว จะสร้างกำไรได้ดีในระยะยาว

น่าลงทุนจะตายไป หลายคนคงคิดอย่างนั้น

แต่มีรุ่นน้องผมคนหนึ่งได้คาบข้อมูลบางอย่างมาครับ เพราะเขาทำงานอยู่กับองค์กรนั้น พบว่า การบริหารงานมีหลายอย่างไม่ชอบมาพากล ผู้บริหารดูแล้วไม่โปร่งใส มีนอกมีใน รวมถึงบรรยากาศของพนักงานดูไม่ค่อยรักในองค์กรมากนัก การ Turnover ของพนักงานค่อนข้างเยอะมาก

ข้อมูลแบบนี้ เราหาไม่ได้จากการ Scattlebut นี่ครับ การ Scattlebut อาจกลายเป็นกับดักกับนักลงทุนก็ได้ในกรณีดังกล่าว

แม้แต่การทำ Company Visit ก็อาจไม่ได้ข้อมูลจำพวกนี้ ซึ่งเป็นเรื่องวงในของบรรดาพนักงานและผู้บริหารจริงๆ

ทีนี้ในนามผู้ลงทุนรายย่อยอย่างเราจะทำยังไงดีครับ ในเมื่อภายนอกมันดูโอเค แต่ภายในที่เราไม่รู้ (หรือรู้ได้ยาก) เราจะไปทราบได้ยังไงหากไม่มีผู้คลุกคลีอยู่ภายในมาบอก

ถือว่าเล่าสู่กันฟังครับ เพราะผมเชื่อว่า หลายท่านที่นี่ในฐานะ VI มีทางออกในกรณีนี้อยู่แล้ว นั่นเพราะเมื่อเราเห็นพื้นฐานเปลี่ยน การตัดสินใจบางอย่างก็จะเกิดขึ้นจริงมั๊ยครับ แต่เราควรจะทำยังไงระหว่างรอจนกว่าจะได้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วน (ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่) ค่อยลงทุน หรือลงทุนไปก่อนค่อยหาวิธีแก้ เมื่อพบข้อบกพร่องบางอย่างในหุ้นของเรา

โอย ยาวครับ พิมพ์มากๆชักงง หวังว่าจะไม่เบื่อกันเสียก่อนนะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 4:16 pm
โดย VIB007
Belffet เขียน:
แต่มีรุ่นน้องผมคนหนึ่งได้คาบข้อมูลบางอย่างมาครับ เพราะเขาทำงานอยู่กับองค์กรนั้น พบว่า การบริหารงานมีหลายอย่างไม่ชอบมาพากล ผู้บริหารดูแล้วไม่โปร่งใส มีนอกมีใน รวมถึงบรรยากาศของพนักงานดูไม่ค่อยรักในองค์กรมากนัก การ Turnover ของพนักงานค่อนข้างเยอะมาก

ข้อมูลแบบนี้ เราหาไม่ได้จากการ Scattlebut นี่ครับ การ Scattlebut อาจกลายเป็นกับดักกับนักลงทุนก็ได้ในกรณีดังกล่าว
ผมว่าเราอาจจะเข้าใจคำว่า "Scuttlebutt" กันคลาดเคลื่อน
การหาข้อมูลจากพนักงานในองค์กรก็ถือว่าเป็นการทำ "Scuttlebutt" เช่นเดียวกัน
ดังนั้นการหาข้อมูลทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับบริษัทนั้นเป็นการทำ"Scuttlebutt" ทั้งนั้นครับ
ไม่ได้จำกัดว่าเป็นข้อมูลที่ได้จากสื่อภายนอกเท่านั้น
Belffet เขียน: แม้แต่การทำ Company Visit ก็อาจไม่ได้ข้อมูลจำพวกนี้ ซึ่งเป็นเรื่องวงในของบรรดาพนักงานและผู้บริหารจริงๆ

ทีนี้ในนามผู้ลงทุนรายย่อยอย่างเราจะทำยังไงดีครับ ในเมื่อภายนอกมันดูโอเค แต่ภายในที่เราไม่รู้ (หรือรู้ได้ยาก) เราจะไปทราบได้ยังไงหากไม่มีผู้คลุกคลีอยู่ภายในมาบอก
ไม่รู้เหมือนกันครับว่าควรจะทำยังไงดี
นอกเหนือจากสอบถามพนักงานของบริษัทด้วยตนเอง

การหาข้อมูลของบริษัทในด้านเชิงคุณภาพ (Qualitative) นั้น
เป็น"ศิลปะ"เอามากๆ
เช่น เราคงไม่สามารถนำข้อมูลที่หาได้มาเขียนกราฟ หรือ Ratio
เพื่อหาความน่าเชื่อถือของผู้บริหารได้

แต่บางครั้งข้อมูลเพียงแหล่งเดียว
คงต้องฟังหูไว้หู
อย่าเชื่อทั้งหมด
คงต้องหาข้อมูลจากแหล่งอื่นๆเพื่อนำมาพิจารณาเพิ่มเติมครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 08, 2005 4:25 pm
โดย Belffet
เคลียร์ครับ คุณวิบูลย์ ขอบคุณมากๆครับ  สำหรับคำแนะนำดีๆ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 09, 2005 9:14 am
โดย dikdik
ยังคงได้ความรู้ไม่รู้จบจากหน้านี้  คุณวิบูลย์นี่สุดยอดจริงๆ
ผมเชื่อเรื่องกรรมดี  กับกรรมไม่ดีนะ  อย่างกรรมดีที่คุณวิบูลย์ก่อไว้
จะส่งผลให้คุณวิบูลย์และครอบครัว  มีแต่คนเคารพรัก
คุณวิบูลย์เป็นอาจารย์สอนให้ความรู้คนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
ถึงแม้จะไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นอาจารย์ก็ตาม
คนในเวบนี้ที่เข้ามาอ่านแล้วได้ความรู้จากคุณวิบูลย์ก็ต้องเคารพรักคุณวิบูลย์
ในฐานะอาจารย์  ผมก็เป็นคนหนึ่่งในนั้นที่ได้รับความรู้มหาศาลโดยเฉพาะเกี่ยวกับการลงทุน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 09, 2005 11:12 am
โดย VIB007
ผมรู้สึกว่าตัวผมชักจะลอยๆ ไม่ติดพื้นยังไงก็ไม่รู้ ฮ่า ฮ่า
ขอบคุณครับสำหรับคำชม

เป้าหมายของผมในการตอบกระทู้นี้คือ
ถ้าเพียงแค่หนึ่งคนเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ตัวเองดีขึ้นได้
ผมว่าแค่นั้นก็"เพียงพอ"แล้วครับ


คนเรานั้นอยากจะเปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนแปลงโลก
แต่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตนเอง
มันน่าแปลกใจมากๆ
นั่นเป็นเพราะเรามองแต่ภายนอก
แต่ไม่ได้มองเข้าไปในจิตใจของตนเอง

ถ้าเราเข้าใจจิตใจของตนเองแล้ว
และยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง
เราก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้
เพราะเราคือโลก หรือ "You are the World"
ดังคำของท่านกฤษณมูรติกล่าวเอาไว้

มันเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์จริงๆ
ถ้าเราเข้าใจใน"ความคิด"และ"จิตใจ"ของเราเอง
ว่าทั้งสองสิ่งนั้นมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของเราเพียงใด

ขอเพียง"คิดดี ทำดี พูดดี"
ชีวิตก็จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่เอ....แล้วที่ว่ามานี้เกี่ยวกับการลงทุนตรงไหนหว่า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 09, 2005 11:26 am
โดย Belffet
งั้นวกมาที่เรื่องลงทุนอีกซักทีนะครับ เพื่อไม่ให้หลุด concept

อยากเรียนถาม อ.วิบูลย์ สัญญาณตลาดหุ้นตกต่ำเราดูได้จากไหนบ้าง

ผมเชื่อว่า ซักวันนึง เหตุการณ์ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างหนักแบบ ปี40 จะวนกลับมาอีก เรามีวิธีคาดการณ์ก่อนอย่างไร และควรรับมือแบบไหน

แล้วการที่เราลงทุนกับตลาดหุ้นอย่างเดียวมันมีความเสี่ยงในตัวแค่ไหน ถ้าวันหนึ่งตลาดเกิดพังทลายลง จะเป็นไปได้ไหมที่จะเกิดเหตุเช่นนั้นขึ้น แล้วเราในฐานะ VI มองเรื่องนี้อย่างไรกัน

ปล. บางครั้งผมมองว่าตัวเองถามอะไรโง่ๆออกไปเหมือนกันนะ แต่ในเมื่อมันสงสัยก็อยากจะถามน่ะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ปล2 ขออนุญาติเรียก อาจารย์ ไปเลยละกัน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 6:06 pm
โดย VIB007
พอดีวันนี้เวลาน้อย
ต้องกลับบ้านไปเลี้ยงลูก

ไว้พรุ่งนี้จะมาตอบนะครับ

อ้อ ปล. ไม่อนุญาตให้เรียกผมว่า "อาจารย์"ครับ
ให้เรียก "พี่" หรือ "น้อง" จะเข้าท่ากว่าครับ

ใครไม่ทราบอายุผม บอกให้ก็ได้ว่า
ผมเกิดปีเดียวกับที่ นิล อาร์มสตรองค์เหยียบดวงจันทร์ (ถ้าหยียบจริง)
แถมเดือนเดียวกันอีกต่างหาก

ถ้ายังไม่ทราบก็ใบ้อีกหน่อย
คือ ผมกับคุณมนตรีเกิดปีเดียวกัน

เอาล่ะ นับญาติกันแล้วก็ใช้สรรพนามตามสะดวกนะครับ
แต่อย่าเรียกผมว่า"อาจารย์"ล่ะ ......... ฮ่า ฮ่า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 9:36 pm
โดย por_jai
VIB007 เขียน: ใครไม่ทราบอายุผม บอกให้ก็ได้ว่า
ผมเกิดปีเดียวกับที่ นิล อาร์มสตรองค์เหยียบดวงจันทร์ (ถ้าเหยียบจริง)
แถมเดือนเดียวกันอีกต่างหาก

ถ้ายังไม่ทราบก็ใบ้อีกหน่อย
คือ ผมกับคุณมนตรีเกิดปีเดียวกัน
8) first man on the moon
    ผมนับว่าเป็นพระพุทธเจ้าของพวกเรานะ
    เพราะท่านไปมาหมด นรก สวรรค์
    อย่าว่าแต่พระจันทร์เล๊ย
    แต่สำหรับ พี่นีล อาร์มสตรอง
    ก็คงจะเป็นวันนี้แหละ
    JUL 20,1969
    ยังเป็นแฟนพันธุ์แท้ ของวิบูลย์อยู่นะ
    ตามอ่านตลอด
    คมเหมือนเดิม
    มีลูกแล้วเป็นไงบ้าง
    สำหรับผมตอนมีลูกคนแรก
    ผมเพิ่งรู้วันนั้นว่าพ่อแม่รักผมแค่ไหน..

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 11, 2005 3:08 pm
โดย VIB007
[quote="por_jai"]