หน้า 8 จากทั้งหมด 9
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 8:39 pm
โดย maiaowna
[quote="maiaowna"]จอง 1 ที่ครับตอนเย็นๆนี้โอนให้
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 8:45 pm
โดย green-orange
ประกาศครับ (วันนี้งานยุ่งๆเพิ่งกลับถึงบ้านมาเห็นครับ)
คอร์สเต็มแล้วนะครับ ขออนุญาติงดรับผู้สนใจเรียนคอร์ส fund flow แค่นี้ก่อนนะครับ รู้สึกว่าห้องมันจะแน่นครับ เดี๋ยวขอเวลาผมทำรายชือแล้วจะมาประกาศรายชือนะครับ
ขอบคุณครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 8:59 pm
โดย green-orange
และขอ update รายชื่อเพื่อนๆที่เข้าเรียนคอร์ส fundflow analysis ดังนี้นะครับ update วันที่ 27 พค เวลา 20:45
ตอนนี้ปิดรับสมัครแล้วนะครับ
1 Linzhi
2 inuyasha
3 classy
4 magix
5 takeshi
6 vilage
7 คน...ภูพาน
8 him_aeng
9 Gobkung
10 boong24
11 boong24 - เพื่อน
12 KoSoL
13 underdog
14 underdog - เพื่อน
15 tuaa05
16 ondkung
17 ondkung - เพื่อน
18 kpboy
19 Artofid
20 Artofid - เพื่อน
21 m_kok
22 totoro
23 Sorgios
24 watsport11
25 poundy2
26 ake3004
27 ovod99
28 earthcu
29 loyyy
30 ssaran
31 revoluter
32 revoluter - เพื่อน
33 chatcsaw
34 chatcsaw - เพื่อน
35 direk
36 Blueocean
37 arrongibsonus
38 arrongibsonus - เพื่อน
39 Kiels
40 acisc
41 chamchumrat1
42 nuttipol
43 vivitawin
44 vivitawin - เพื่อน
45 out look
46 m_mummie
47 neong
48 VI_mania
49 hiamak
50 tingun
51 densin
52 For real
53 taoaaa1
54 neo_potato_Th
55 ฝาโค้ก
56 chatchaisa
57 kongza
58 SEHJU
59 J.Livermore
60 wii_wiis
61 wii_wiis - เพื่อน
62 wii_wiis - เพื่อน
63 stj2602
64 blue56
65 worapot_ta
66 Yod
67 JIRO
68 Blueblood
69 PPA
70 khantarit
71 moonchild
72 ??? ใครก็ไม่รู้ครับ ช่วยแจ้งด้วย
73 s@int
74 jilin22
75 โว้กว้าก
76 boong24 - เพื่อน
77 ฉ้รสสร
78 ?? ใครก็ไม่ทราบครับ ยังไม่แจ้งให้ทราบ
79 Kopprakhun
80 pranda2010
81 พี่ตึก
82 พี่ตึก - เพื่อน
83 พี่ตึก - เพื่อน
84 พี่ตึก - เพื่อน
85 พี่ตึก - เพื่อน
86 pordee
87 maiaowna
มีสองท่านไม่สามารถมาได้คือพระ Linzhi (ขอให้ได้บุญเยอะๆครับ ไปบวชซะนานเลยครับ) และ J.Livermore เนื่องจากติดธุระด่วนรวมมีผู้เข้าอบรม 85 ท่านครับ
เจอกันวันเรียนนะครับเพื่อนๆ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 29, 2010 6:39 pm
โดย Sorgios
ขอบคุณพี่ green-orange มากครับที่จัดคอร์สนี้
อาจารย์เก่งมาก ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ
แถมยังได้ฟังความเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆที่ไปเรียนด้วยครับ
*ขอบคุณนะครับคุณ sehju :D
*ขอบคุณหุ้นเบาะรถของน้อง neo-potatoนะครับ ไว้ต้องลองศึกษาดู :lol:
สอครับ :P
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 29, 2010 8:14 pm
โดย boong24
ขอบคุณ คุณ green-orange มากครับสำหรับคอร์สดี ๆ แบบนี้ครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 29, 2010 11:04 pm
โดย weewee
ขอบคุณพี่ชาญ มากๆครับ ท่านอาจารย์อัดมาให้เพียบเลย
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 12:43 am
โดย Yod
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 10:33 am
โดย green-orange
ขอขอบคุณทางเวปไซค์ คุณหมอสามัญชน และพี่ๆทุกคน ที่ให้โอกาสพวกเราได้เรียน และศึกษาหาความรู้ และรวมถึงเป็นแหล่งข้อมูลดีๆ ของเราชาว VI นะครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 11:07 am
โดย maiaowna
โดนอาจารย์อัดมาสะมึนเลยเมื่อวาน
กลับมาหลับยาวๆ ขอบคุณคุณ green-orange
มากๆครับ :8)
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 11:42 am
โดย kpboy
ขอบคุณทีมงานทุกๆท่าน รวมทั้งท่านอาจารย์ที่กรุณา
และที่สำคัญคือคุณ green-orange นะครับที่เป็นคนจัดงานนี้ขึ้น
ผมว่าความรู้ที่เราได้ เลาลองมาพูดคุยกันดูอีกทีมั๊ยคัรบ เผื่อใครมีประเด็นอะไรเข้าใจไม่เข้าใจอย่างไร ลองตั้งเป็นอีกกระทู้ก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 11:53 am
โดย sai
kpboy เขียน:ขอบคุณทีมงานทุกๆท่าน รวมทั้งท่านอาจารย์ที่กรุณา
และที่สำคัญคือคุณ green-orange นะครับที่เป็นคนจัดงานนี้ขึ้น
ผมว่าความรู้ที่เราได้ เลาลองมาพูดคุยกันดูอีกทีมั๊ยคัรบ เผื่อใครมีประเด็นอะไรเข้าใจไม่เข้าใจอย่างไร ลองตั้งเป็นอีกกระทู้ก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ
ถ้ามีการตั้งกระทู้ แบ่งปันในงานสัมนานี้ด้วย คงเป็นประโยชน์กับทั้งคนที่มีโอกาสไปแต่ ยังไม่เข้าใจ หรือ คนที่ไม่มีโอกาสไปร่วมงานมากมากเลยครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 5:07 pm
โดย poundy2
ขอบคุณพี่วิชาญและทีมงานทุกท่าน มากๆครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 5:39 pm
โดย โว้กว้าก
ขอบคุณพี่วิชาญที่จัดงานครับ ส่วนสรุปเนื้อหา ถ้ามีการ upload เอกสารประกอบการเรียนจะดีมากเลยครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 7:12 pm
โดย Blueocean
ชอบมากครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 8:51 pm
โดย คนบ้านนอก
sai เขียน:ถ้ามีการตั้งกระทู้ แบ่งปันในงานสัมนานี้ด้วย คงเป็นประโยชน์กับทั้งคนที่มีโอกาสไปแต่ ยังไม่เข้าใจ หรือ คนที่ไม่มีโอกาสไปร่วมงานมากมากเลยครับ
เห็นด้วยกับพี่ Sai ครับ ไม่มีโอกาสไปเรียนครับ
ติดเคอร์ฟิวที่บ้าน เนื่องจากช่วงนี้หนีเข้ากรุงบ่อยไป :lol:
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 10:29 am
โดย ake3004
From P Sai requested kab.
-2011 will be 1 of the best yr for SET as fund flow switch from high debt country to low debt country.
-SET might be crash again around Aug 10 , Sep if nothing change from this.
-As GDP in q2 will be much down because of Thai service revenue in Apr-June will be much down.
-We can see from hotel current retention rate 10-20%.
-should buy gold in Aug (from statistic).Price should be up to USD1500.Main factor is fund flow to gold instead of EU, US stock mkt.
-Soros said in 08 that EU currency will be gone finally.A. Visit thought so.
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 10:36 am
โดย hongvalue
ake3004 เขียน:From P Sai requested kab.
-2011 will be 1 of the best yr for SET as fund flow switch from high debt country to low debt country.
-SET might be crash again around Aug 10 , Sep if nothing change from this.
.
prediction is a deadly trap
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 10:50 am
โดย hongvalue
พูดประโยคเดียวเดี่ยวโดนแฟนคุณวิศิษฐ์ด่า
ผมก็แฟนแกเหมือนกันนะแต่แค่ออกมาเตือนว่า
การคาดการณ์เป็นสิ่งอันตรายเราใช้ indi เป็นแล้วดูเองดีกว่า
เพราะว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคุณวิศิษฐ์อาจจะเปลี่ยนมุมมอง
แล้วก็ได้เพียงแต่เราไม่ได้ไปเจอแก ก็เลยคิดว่าแกมองแบบเดิม
อีกตั้งหลายเดือนมี unknown factor ตั้งเยอะ ไม่มีใครรู้หรอก
จะขึ้นจะลง
อีกอย่างคนที่ไปเรียนมาถามเรื่อง yield curveแล้วคิดว่า
การ flat ของ yield curve จะทำให้ flow ไหลออกซึ่ง
ความเห็นผมคิดว่าคงไม่ใช่ขนาดนั้นเพราะเขาก็บอกเองว่า
มันเป็น leading 3 เดือนถึง 2 ปีประเด็นคือคำว่า 3 เดือน
ถึงสองปี time frame แบบนี้เราจะให้น้ำหนักมันแค่ไหน
มันกว้างไปไหม อะไรต่างๆ
ผมคิดว่าไม่มีสูตรสำเร็จในการดูเพราะการเกิดขึ้นของ
indi ในแต่ละครั้งบางทีมีเหตุผลไม่เหมือนกัน
ถ้าการ flat ของ curve เกิดจากระยะสั้นขึ้นไปหาระยะยาว
กับระยะยาวลงมาหาระยะสั้น เห็นปะมันเกิดได้สองแบบ
แต่มันก็ flat ได้เหมือนกัน แล้วเราจะบอกว่าการ flat ของทั้งสองแบบ ตลาดต้องสะท้อนออกมาเหมือนกันได้หรือเปล่า?
แชร์มุมมองเฉยๆนะครับ อาจจะผิดก็ได้
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 11:41 am
โดย ake3004
thanks for sharing kab.
v still need to update news kab.
Just keep his concept.
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 11:53 am
โดย ดำ
อ่านความเห็นของเซียนฮงช่วงหลังๆ นี้ รู้สึกว่า นิ่งขึ้นเยอะ
แนะนำให้ลองศึกษาธรรมะดูครับ อาจยกระดับขึ้นเป็นเซียนเหนือเซียนเลยทีเดียว
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 12:58 pm
โดย maiaowna
ขอบคุณพี่ฮงครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 1:15 pm
โดย kpboy
คุณฮงพูดให้แง่คิดดีมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับมุมมองเจ๋งๆนะครับ
สำหรับเรื่องyeild curve อันนึงที่ อ. ยกให้เป็นตัวสำคัญเลยเพราะท่านว่า ตลาดbondของusมันใหญ่มาก จนส่งผลกระทบไปทั่วโลก ดังนั้นพอท่านว่า y.c.ของusในช่วงถึงปีหน้า มันจะยังไม่ปรับขึ้น ประกอบกับการที่ยุโรปมีปัญหาpublic debtเยอะ เลยจะทำให้เงินทุนมันไหลมาทางฝั่งเอเชียเยอะขึ้นในปีหน้าน่ะครับ
y.c.นี่ อ.ท่านมองแต่ของusเป็นหลักนะครับ ท่านบอกของไทยมันทั้งเล็กและก็ไม่เคลื่อนไหว เลยแทบไม่มีผลอะไรน่ะครับ
ปัจจัยอื่นที่สำคัญอีกตัวที่ อ.มองก็คือ ฐานเงินครับ ก็คือm2ของบ้านเรานั่นเอง คือมองประมาณว่าหากm2เยอะ ก็คือเงินที่อยู่ว่างๆจะเยอะ ซึ่งส่วนหนึ่งจะไหลเข้าตลาดทุนครับ
ทั้งหมดที่พูดมานี่คือเท่าที่ผมจำได้นะครับ ผิดตกยกเว้นกันไว้นะครับ
ขอบคุณมากครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 1:19 pm
โดย kpboy
อ่อ เสริมอีกนิดนึง เรื่องที่ว่าตลาดหุ้นbottomช่วงปลายปี อาจารย์ท่านว่าส่วนนึงท่านนำข้อมูลเอาจากตลาดoptionของusน่ะครับ ว่าสัญญาputต่างๆจะexpireช่วงนั้น หลังจากนั้นตลาดน่าจะเริ่มฟื้นตัวอีกที
ซึ่งท่านก็บอกเหมือนกันว่า เป็นมุมมองสำหรับวันนี้ และต้องคอยupdateกันตลอดครับ
เหมือนเดิมนะครับ อันนี้พูดจากความจำ ยังไม่ได้กลับไปเปิดหนังสือจริงจังเลย หากผิดพลาดยังไง ขออภัยไว้ด้วยครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 1:27 pm
โดย kpboy
ยิ่งอ่าน comment คุณฮง ยิ่งชอบครับ เลยอยากขอเข้ามาชมด้วย แถมถามด้วยซะหน่อย
เห็นด้วยเต็มที่เลยครับว่า เรารู้วิธีอ่านindi จะมีประโยชน์ที่สุดครับ
ในตอนสอนอ.ท่านก็พยายามสอนเรื่องการอ่านด้วยครับ แต่อาจจะด้วยเวลา หรือด้วยภูมิปัญญาผม เลยได้ไม่ครบครับ
อย่างเรื่องy.c. อ.ท่านก็พูดเหมือนกันครับ ว่าปกติ y.c. ของ long term จะสูงกว่า short term หากไม่ปกติก็คือ ไม่y.c. ของ L-T มันตกลง ก็คือ ของS-Tมันสูงขึ้น
โดยที่อาจารย์ท่านบอก เหมือนจะว่า หาก y.c.ของ L-Tตกลงมา ก็คือคนเริ่มไม่มั่นใจในเศรษฐกิจในอนาคต เลยต้องลด ดอกเบี้ย ประมาณนี้รึเปล่าครับ
แต่ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า หาก y.c. ของS-Tมันสูงขึ้นไปใกล้L-Tนี่หมายความว่ายังไงน่ะครับ
ยังไงรบกวนคุณฮง ช่วยขยายให้อีกนิดได้มั๊ยครับ...ขอกันตรงๆเลยนะครับ ไหนๆผมเองก็เป็น fcคุณฮงอยู่แล้ว
ขอบคุณมากครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 31, 2010 4:07 pm
โดย hongvalue
ดำ เขียน:อ่านความเห็นของเซียนฮงช่วงหลังๆ นี้ รู้สึกว่า นิ่งขึ้นเยอะ
อาจเป็นเพราะว่าผมแก่ขึ้นด้วยแหละครับ
เริ่มใจเย็นขึ้นกว่าเมื่อก่อน และอีกส่วนนึงคงเป็นเพราะว่า
เราอยู่ในตลาดนานเราเห็นความไม่แน่นอนเยอะเราเลย
ไม่คิดว่ามีอะไรที่ถูกหรือผิดเสมอครับ
ผมเคยเจอเซียนพันล้านมาแล้ว บุคลิกก็ไม่มั่นใจอะไรจนเกินไป
ครับ เลยคิดว่าแล้วผมอยู่ในตลาดมาแค่ไม่กึ่ปีจะรู้อะไรซักแค่ไหนกันเชียว
kpboy เขียน:
โดยที่อาจารย์ท่านบอก เหมือนจะว่า หาก y.c.ของ L-Tตกลงมา ก็คือคนเริ่มไม่มั่นใจในเศรษฐกิจในอนาคต เลยต้องลด ดอกเบี้ย ประมาณนี้รึเปล่าครับ
แต่ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า หาก y.c. ของS-Tมันสูงขึ้นไปใกล้L-Tนี่หมายความว่ายังไงน่ะครับ
ยังไงรบกวนคุณฮง ช่วยขยายให้อีกนิดได้มั๊ยครับ...ขอกันตรงๆเลยนะครับ ไหนๆผมเองก็เป็น fcคุณฮงอยู่แล้ว
ขอบคุณมากครับ
ผมไม่รับประกันนะว่าผมจะตอบถูกหรือเปล่า 55555
ดูกันที่เหตุผลก็แล้วกัน
l-t ลดลงมาใกล้น่าจะหมายถึงการที่ outlook เศรษฐกิจไม่ดีทำให้น่าจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายและทำให้บอนที่ระยะยาวที่ถูก fix ดอกเบี้ยเอาไว้จะได้รับผลกระทบเยอะกว่า bond ระยะสั้น
จริงๆแล้วเวลา outlook ไม่ดี bond ระยะสั้นก็ลงครับแต่ระยะยาวจะลงเร็วกว่า
ส่วนระยะสั้นขึ้นไปหา l-t แล้วทำให้เส้น y-c flat ผมคิดว่าไม่น่ากลัวเท่าไหร่เพราะเงินไม่ได้หนีเข้า safe heaven นี้นาเหตุการณ์ระยะสั้นขึ้นไปนี้น่าจะเกิดกับ ust 2ปีตอนซักช่วงปี 2005-2006 ได้ครับ
อย่างไรก็ตามการดูน่าจะแม่นยำขึ้นถ้าเราใช้ real interest rate ทำเป็นเส้นเพื่อดูคู่กันไปด้วยครับ อาจจะใช้ short term rate-inflation expectation ก็ได้ครับ ผมมีกราฟครับแต่ว่าไม่มีเครื่องสแกนเลยให้ดูไม่ได้
นี้ถ้าไม่บอกว่าเป็นแฟนไม่มาตอบให้นะครับเนี้ย
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ล้อเล่นนะ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 01, 2010 11:22 pm
โดย kpboy
ขอบคุณ คุณฮงมากครับ ไม่เสียทีที่เป็นแฟนคลับ 555
หลังจากได้ความรู้จากคุณฮง ก็เลยไปต่อยอดอีกนิด ว่าไอ้เวลาที่S-T Y.C.มันปรับตัวขึ้นทำให้ flat เค้าเรียกกันว่า bearish flattening ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดเมื่อมีการคาดการว่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้นใช่มั๊ยครับ เลยไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 02, 2010 12:28 am
โดย Blueblood
เข้ามาขอบคุณอาจารย์รวมทั้งคุณวิชาญและทีมผู้จัดด้วยครับ ได้ความรู้และเปิดโลกทัศน์ได้ดีจริงๆครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 02, 2010 9:07 am
โดย ake3004
after my above writing, My friend who is management in MAI's company has share his view in thai kab.
GPD มันเป็นการวัดเทียบกับปีก่อนนะครับ ทำให้ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โตเป็นเลข 2 หลัก
(เพราะไตรมาส 1 ปีที่แล้วนี่ นรกแตกจริง ๆ )
ส่วนตัวผมไม่คิดว่า GDP ไตรมาส 2 จะติดลบนะครับ (เพราะไตรมาส 2 ปีที่แล้วก็ยังเป็นแค่ช่วงเริ่มฟื้น)
ภาคโรงแรมหรือท่องเที่ยวอาจได้ผลกระทบ แต่ภาคการผลิต อุตสาหกรรม กับส่งออกนี่ยังแข็งแกร่งอยู่มาก
(ภาคโรงแรมท่องเที่ยวไตรมาส 2 ปีที่แล้วก็ไม่ได้ดีมาก เพราะเศรษฐกิจโลกโดยรวม กับความวุ่นวายภายในก็มี)
การลงทุน ปีที่แล้ว ทุกคนกำลังการผลิตเหลือ เลยไม่ลงทุน ส่วนปีนี้ คนอาจไม่ค่อยมั่นใจปัญหาการเมือง เลยชลอไปในช่วงที่ผ่านมา
ผมเลยคิดว่า GDP ไตรมาส 2 ออกมาไม่ติดลบ แต่ตัวเลขคงไม่ใช่ 2 หลักอย่างไตรมาส 1
อีกอย่าง เค้าก็สามารถออกข่าวได้ว่า GDP ครึ่งปียังเติบโต (เอาไตรมาส 1 เกลี่ยกับไตรมาส 2 )
สำหรับผม ไม่ค่อยเชื่อว่า SET จะ Crash เพราะตัวเลข GDP เพราะการซื้อหุ้นเป็นการซื้ออนาคต
ดูอย่างพวกค่าการกลั่นหรือค่าระวางเรือขึ้น หุ้นก็ขึ้นเลยโดยไม่สนใจว่าบริษัทรับรู้รายได้หรือยัง เพราะเค้ามองไปที่อนาคต
ผมเลยคิดว่า SET ได้ absorb เหตุการณ์ในประเทศที่ผ่านมาไประดับหนึ่งแล้ว
ถ้าจะลงอีกมาก ๆ ผมคิดว่า
1. ผลกระทบเศรษฐกิจยุโรปต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม อันนี้ จริง ๆ คุยกันมานานแล้ว เพราะเศรษฐกิจยุโรปแต่ละประเทศ ความเข้มแข็งทางการเงินไม่เท่ากัน
แต่มาใช้สกุลเงินเดียวกัน ประเทศที่เศรษฐกิจยังดีจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินที่ตกต่ำไปด้วย (เช่นเยอรมัน)
ทำไมอังกฤษถึงไม่ไปใช้เงินยูโร เมื่อปีกว่า ๆ ก่อน เคยมีการทำนายด้วยซ้ำ ว่าจะมีประเทศที่แยกตัวออกมาใช้เงินสกุลตัวเองแทนยูโร
2. แนวโน้มเศรษฐกิจไทยจากนี้ไป เพราะการฟื้นความเชื่อมั่น ต้องใช้เวลา ตอนนี้จะเป็นช่วงคนรอดูสถานการณ์
ถ้าดี ก็อาจฟื้นเร็ว ซึ่งที่ผมเห็น ภาครัฐก็มีการ road show หรือพิจารณามาตรการณ์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นอยู่ (รวมถึงกระตุ้นจากการใช้จ่ายภาครัฐเองด้วย)
3. ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเอง กับแนวโน้มซื้อขายของต่างชาติ
ประมาณนี้ละมั๊งครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 02, 2010 10:46 am
โดย vivitawin
hongvalue เขียน:
prediction is a deadly trap
ถ้าใครเพิ่งเป็น VI ได้ไม่นาน มาเจอ คอร์ส Fundflow อาจารย์ บอกว่า วิกฤตกรีซ หุ้นจะลงแรง ธาตุไฟอาจแตกได้นะครับ คือไม่รู้จะเอาอย่างไรดี หลักการ VI ก็ทำแล้วถือหุ้นดีราคามีMOS แต่ก็กลัวว่า วิกฤตกรีซจะลงแรงทำให้ขาดทุนทางบัญชีหนักเพราะไม่ได้ขายออกไปก่อน และถือหุ้นไว้เต็มพอร์ต สงสัยว่าจะขายไปก่อนดีไหม สับสนในชีวิตมากมาย
เลือกเอาสักอย่าง หรือเอาแบบกลางๆก็ได้ เช่นไม่ประมาท ไม่panic อาจถือหุ้นที่แข็งแกร่งทนทานต่อขาลง หรือจะขายหุ้นออกบางส่วน หรือว่าตัดFF ทิ้ง เอาแบบ VI อย่างเดียว ก็ได้ (บัฟเฟตหรืออ.นิเวศน์ไม่ได้ดู FF ก็ผลตอบแทนดีนะ) เอาที่ทำแล้วสบายใจ ถูกจริตเรา นอนหลับสบายดีที่สุดครับ
มีใครอยากเรียน fundflow analysis บ้าง
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 02, 2010 11:37 am
โดย ake3004
i think na kab.
VI way is listen to every source of info u can.
But making decision based on logical way.
Getting info without own thinking in logical way cannot b VI kab.
The success way of VI is quality of thinking.Is it make sense we buy or hold or sell?
no one knows the future.
that's why I copy above Thai writing to balance na kab