Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อ้าว เจ็งแล้วเหรอครับบิสวีค
เสียดายครับ เนื้อหาเรื่องหุ้นดีกว่าเล่มอื่นๆมาก

ปล.พี่วิบูลย์กล้ามากเลยครับที่เขียนบทความล่าสุด

Glaxo เขียน:อ่านที่พี่วิบูลย์เขียนใน Biz Week เล่มล่าสุด เขียนได้สะใจจริงๆ

ว่าแต่ว่า The Nation แจ้งแล้วว่าจะยกเลิก Biz Week
แล้วพี่กับ อ.มน จะเขียนต่ออีกไม๊ครับ

ลูกอิสาน เขียน:อ้าว เจ็งแล้วเหรอครับบิสวีค  
เสียดายครับ เนื้อหาเรื่องหุ้นดีกว่าเล่มอื่นๆมาก

ปล.พี่วิบูลย์กล้ามากเลยครับที่เขียนบทความล่าสุด

สวัสดีครับน้องลูกอีสาน
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
ครั้งสุดท้ายที่เจอกันน่าจะเป็นตอนที่เจอที่เนชั่น
นั่นก็ประมาณสามปีแล้วซินะ
สบายดีนะครับ
ท่าทางจะร่ำรวยกว่าเดิมเยอะ
รวยแล้วอย่าลืมคนแถวนี้บ้างนะ อิ อิ

ที่คุณGlaxoและน้องลูกอีสานถามมานั้น
ผมสอบถามไปแล้วเป็นเรื่องจริงครับ
กรุงเทพธุรกิจBiz Weekจะปิดตัวในเดือนนี้มิยเป็นเดือนสุดท้าย
เซ็คชั่นถนนนักลงทุนจะถูกไปรวมกับกรุงเทพธุรกิจรายวัน

ส่วนคอลัมน์ Value Way จะมีต่อหรือเปล่า
ยังตอบไม่ได้เพราะต้องดูหน้ากระดาษว่างหรือเปล่า
ผมเจอคุณมนล่าสุดพูดกันว่า
เราสองคนสบายแล้ว ไม่ต้องหาเรื่องมาเขียนแล้ว อิ อิ

ส่วนคอลัมน์ล่าสุดเรื่อง"ดัชนีหุ้นไทยไม่ไปไหน"นั้น
ผมอยากเขียนมานานแล้ว แต่ไม่ได้จังหวะสักที
ไม่ใช่ผมเชียร์รัฐบาลสมัครนะ
แต่ผมคิดว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ
สิ่งที่ผมอยากเห็นคือการเมืองที่มีเสถียรภาพ
ไม่่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม
และคนไทยควรจะมีมารยาททางการเมืองมากกว่านี้
ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ประท้วงไล่รัฐบาลหรือปฏิวัติ
โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว
แหกตาดูกันบ้าง

เห็นเมืองไทยแล้วนึกถึงประเทศฟิลิปปินส์ที่ผมไปหลายครั้ง
คอรัปชั่น การเมืองน้ำเน่า ประท้วงไล่รัฐบาล
เป็นอย่างนี้มาหลายสิบปี
คนที่ซวยคือประชาชน คนจนเต็มเมืองเลยครับ
เพราะจบมาหางานทำไม่ได้
นักลงทุนกลัวการเมืองปินส์ จนไม่กล้าลงทุน
ไม่มีการลงทุน ก็ไม่มีงานทำ คนตกงาน ไม่มีเงิน อาญากรรมเต็มเมือง
ดูๆไปเหมือนเมืองไทยจริงๆ
ประเทศเราดีกว่าเขานิดเดียวจริงๆนะ

คนไทยเลิกทะเลาะกันเถอะครับ
ให้รัฐบาลทำงานให้ครบเทอมแล้วมาว่ากันใหม่
เหมือนประเทศที่เขาเจริญ(ทางการเมือง)แล้วได้ไหม(ว่ะ)
อย่างอเมริกา คนเกลียดบุชเต็มเมืองแต่ไม่เห็นมีปฏิวัติ

ตราบใดที่คนไทยยังไม่มีมารยาทเช่นนี้
คงเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วยาก

ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไข อ่ะงับ
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรเกิดก่อนนะ เราก็กินมันทั้ง 2 อย่างใช่มะ
ดังนั้น ก็ขึ้นกับคุณภาพของไก่และไข่ที่เรากินแล้วหล่ะ ถ้าคุณภาพดีเราก็จะสุขภาพดี ถ้าไม่ดีก็...คิดแล้วเศร้าจัง

สวัสดีครับทุกท่าน
ไม่ทราบว่ามีท่านไหนข้ามไปถือ value stock ตลาดต่างประเทศบ้างไหมครับ
อ้อ ขอถามว่า ถ้า Value investor ไม่ต้องเทรดบ่อยๆ ก็ต้องใช้ Broker ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำสินะครับ (ผมหมายถึง internet trading) แล้วข้อมูลของโบรกเหล่านี่จะดีเหมือนกับพวกที่ต้องจ่ายขั้นต่ำหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ

ถึง biz week จะปิดตัวลง
ถึง กรุงเทพธุรกิจ จะไม่มี column value way


ไม่ว่าอย่างไร ก็จะรอติดตามงานของพี่ทั้ง2คนอยู่เสมอครับ
ขอบคุณสำหรับงานดีๆที่มีให้อ่าน ให้ศึกษากันมาหลายปีครับผม

noooon010 เขียน:ถึง biz week จะปิดตัวลง
ถึง กรุงเทพธุรกิจ จะไม่มี column value way


ไม่ว่าอย่างไร ก็จะรอติดตามงานของพี่ทั้ง2คนอยู่เสมอครับ
ขอบคุณสำหรับงานดีๆที่มีให้อ่าน ให้ศึกษากันมาหลายปีครับผม

ขอบคุณแฟนพันธุ์แท้ครับ

Aun18 เขียน:สวัสดีครับทุกท่าน
ไม่ทราบว่ามีท่านไหนข้ามไปถือ value stock ตลาดต่างประเทศบ้างไหมครับ

ผมว่ามีหลายท่านซื้อหุ้นต่างประเศอยู่นะครับ
แต่ของผมไม่มี

Aun18 เขียน:อ้อ ขอถามว่า ถ้า Value investor ไม่ต้องเทรดบ่อยๆ ก็ต้องใช้ Broker ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำสินะครับ (ผมหมายถึง internet trading) แล้วข้อมูลของโบรกเหล่านี่จะดีเหมือนกับพวกที่ต้องจ่ายขั้นต่ำหรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ

ไม่จำเป็นครับว่าจะต้องใช้อินเตอร์เนต เทรดดิ้ง
ที่จำป็นต้องใช้น่าจะเป็นเก็งกำไรมากกว่า เพราะจ่ายค่าคอมเยอะ
ถ้าเทรดน้อยๆอะไรก็ได้

ผมยังเทรดผ่านอินเทอร์เนตไม่เป็นเลยครับ
คิดว่าไม่จำเป็น

VIB007 เขียน:

ลูกอิสาน เขียน:อ้าว เจ็งแล้วเหรอครับบิสวีค

เรื่อปล่อยให้รัฐบาลทำงาน 4 ปีเต็ม ผมว่าก็ดีครับ แต่ว่าหาก รัฐบาลทำงานแบบโกงกิน เอาผลประโยชน์เข้าตัวเป็นหัก บ้านเมืองเอาไว้ ท้ายสุด ก็ไม่ไหวนะครับ

กระบวนการทำงานของฝ่ายค้านเราก็เห็นว่าทำอะไรไม่ได้เลย แล้วหากว่าทำงานครบ 4 ปี โกงกินมากมายคงไม่เหลืออนาคตให้ใครแล้วครับ

เห็นอีกกระทู้ไม่ให้พูดเรื่องการเมืองใน Web ก็จะหลีกเลี่ยงวิจารณ์การเมืองนะครับ
โดยส่วนตัวนะครับ เห็นด้วยกับแนวคิดของพี่วิบูลย์มาก
ผมคิดว่าองค์กร, กลุ่มสังคม หรือ สังดม ของคนไทย หลายครั้งจะเห็นว่าคนไทยบางครั้งบางคนชอบแทรกแซง หรือ ทำกิจกรรม ที่ขัดจังหวะกับระบบที่ถูกวางไว้ โดยคิดว่ากิจกรมที่ตนทำนั้นจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ (Hero มาแล้วจ้า)โดยเข้าใจไปเองว่าระบบไม่สามารถแก้ปัญหาของมันเองได้ต้องการการแทรกแซง ซึ่งสวนตัวผมว่าไม่จริงซะส่วนใหญ่ ตรงกันข้ามผมกับคิดว่าถ้าเราเข้าไปขัดกลไกการทำงานของระบบมากเกินไป จะทำให้ไม่เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนกับระบบนั้น และอาจเสียเวลามากขึ้น
ยากที่เด็กคนไหนจะสามารถขี่จักรยาน 2 ล้อได้ ถ้าพ่อแม่คอยแต่ให้ลูกขี่จักรยาน 4 ล้อเพราะกลัวลูกล้มแล้วเจ็บ
มันเป็นธรรมชาติ (ที่ดีโดยเฉพาะธรรมชาติระบบเสรีแห่งความคิดและการกระทำ) ครับที่คน-สังคมต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและเจ็บปวดจึงจะได้สังคมที่พัฒนาอย่างยังยืน เพราะคนที่คิดและทำแบบเดิมๆจะรับรู้ด้วยตนเองครับว่าถึงเวลาที่จะต้องทำสิ่งใหม่เพื่อหลุดพ้นจากความผิดพลาดและเจ็บปวดนั้น ไม่ใช่ถูกยัดเยียดให้เปลียนแปลงโดยไม่เข้าใจและรู้ซึ้งว่าทำไม
และนี่น่าจะเป็นระบบเสรีแห่งความคิดและการกระทำที่แท้จริงโดยไม่มีอะไรไปรบกวนเกินเส้นที่ถูกขีดไว้
หน้าที่ของคนในสังคด้วยกันควรเน้นที่การให้ความรู้-ข้อมูลที่ถูกต้องแก่คนในสังคมด้วยกันเท่านั้นไม่ใช้การบังคับยัดเยียดให้ทำตาม
(เหมือน Web นี้ที่ให้แต่ข้อมูลดีๆ ไม่มีการชี้นำบัคับใครใช่ปะ อิ อิ)
False alam & noise สามารถทำให้การทำงานของขบวนการเดินไปผิดทางหรือรบกวนขบวนการเกินจริงจนทำให้พัฒนาล่าช้าได้นะครับ

raruen เขียน: [

เห็นด้วยทั้งหมดนี่เลยครับ
รู้สึกเสียชาติเกิดที่มาเป็นหนุ่มยุคบ้านเมืองแตกแยกครับ
จะสร้างเนื้อสร้างตัวก็ลำบากนะครับ.

ปล. อยากเป็นคนยุคพี่สมพงษ์ (ใน Ad สผ) ครับ

ไม่ได้เจอกันนานนะครับคุณraruen
จำได้ว่าคุณraruenเป็นรุ่นแรกๆที่เข้าโพสในกระทู้นี้
ห่างหายไปนาน สบายดีนะครับ

ch_army เขียน:เรื่อปล่อยให้รัฐบาลทำงาน 4 ปีเต็ม ผมว่าก็ดีครับ แต่ว่าหาก รัฐบาลทำงานแบบโกงกิน เอาผลประโยชน์เข้าตัวเป็นหัก บ้านเมืองเอาไว้ ท้ายสุด ก็ไม่ไหวนะครับ

กระบวนการทำงานของฝ่ายค้านเราก็เห็นว่าทำอะไรไม่ได้เลย แล้วหากว่าทำงานครบ 4 ปี โกงกินมากมายคงไม่เหลืออนาคตให้ใครแล้วครับ

Tui_Number2 เขียน:เเห็นอีกกระทู้ไม่ให้พูดเรื่องการเมืองใน Web ก็จะหลีกเลี่ยงวิจารณ์การเมืองนะครับ
โดยส่วนตัวนะครับ เห็นด้วยกับแนวคิดของพี่วิบูลย์มาก
ผมคิดว่าองค์กร, กลุ่มสังคม หรือ สังดม ของคนไทย หลายครั้งจะเห็นว่าคนไทยบางครั้งบางคนชอบแทรกแซง หรือ ทำกิจกรรม ที่ขัดจังหวะกับระบบที่ถูกวางไว้ โดยคิดว่ากิจกรมที่ตนทำนั้นจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ (Hero มาแล้วจ้า)โดยเข้าใจไปเองว่าระบบไม่สามารถแก้ปัญหาของมันเองได้ต้องการการแทรกแซง ซึ่งสวนตัวผมว่าไม่จริงซะส่วนใหญ่ ตรงกันข้ามผมกับคิดว่าถ้าเราเข้าไปขัดกลไกการทำงานของระบบมากเกินไป จะทำให้ไม่เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนกับระบบนั้น และอาจเสียเวลามากขึ้น
ยากที่เด็กคนไหนจะสามารถขี่จักรยาน 2 ล้อได้ ถ้าพ่อแม่คอยแต่ให้ลูกขี่จักรยาน 4 ล้อเพราะกลัวลูกล้มแล้วเจ็บ
มันเป็นธรรมชาติ (ที่ดีโดยเฉพาะธรรมชาติระบบเสรีแห่งความคิดและการกระทำ) ครับที่คน-สังคมต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและเจ็บปวดจึงจะได้สังคมที่พัฒนาอย่างยังยืน เพราะคนที่คิดและทำแบบเดิมๆจะรับรู้ด้วยตนเองครับว่าถึงเวลาที่จะต้องทำสิ่งใหม่เพื่อหลุดพ้นจากความผิดพลาดและเจ็บปวดนั้น ไม่ใช่ถูกยัดเยียดให้เปลียนแปลงโดยไม่เข้าใจและรู้ซึ้งว่าทำไม
และนี่น่าจะเป็นระบบเสรีแห่งความคิดและการกระทำที่แท้จริงโดยไม่มีอะไรไปรบกวนเกินเส้นที่ถูกขีดไว้
หน้าที่ของคนในสังคด้วยกันควรเน้นที่การให้ความรู้-ข้อมูลที่ถูกต้องแก่คนในสังคมด้วยกันเท่านั้นไม่ใช้การบังคับยัดเยียดให้ทำตาม
(เหมือน Web นี้ที่ให้แต่ข้อมูลดีๆ ไม่มีการชี้นำบัคับใครใช่ปะ อิ อิ)
False alam & noise สามารถทำให้การทำงานของขบวนการเดินไปผิดทางหรือรบกวนขบวนการเกินจริงจนทำให้พัฒนาล่าช้าได้นะครับ

จริงๆไม่อยากพูดเรื่องการเมืองหรอก
เพราะที่บ้านผมยังแตกออกเป็นสองฝ่าย
เวลาคุยกันเรื่องการเมืองทีไร ทะเลาะกันทุกที
ดังนั้นไม่แปลกใจครับที่ห้ามคุยกันในเวป
ไม่มีวันจบแน่นอน

แต่ที่ผมอยากบอกก็คือ
การประท้วงและการปฏิวัติที่เกิดขึ้นในรอบ 70 ปีที่ผ่านมา
มันก็ไม่ได้ช่วยให้ประเทศไทยก้าวหน้าตามคนอื่นทัน
โดยเฉพาะสิงคโปร์ เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน
แม้แต่มาเลเซียเรายังตามเขาเลย
ทั้งๆที่สามสิบสี่สิบปีก่อน ไทยยังมีอะไรมากกว่าประเทศเหล่านี้

ไม่ต้องพูดถึงสมัยรัชกาลที่ห้า
ที่ประเทศไทยมีรถไฟใช้ก่อนประเทศญี่ปุ่น!
แล้วดูตอนนี้ซิ ญี่ปุ่นเขามีรถไปหัวกระสุนมาสี่สิบปีแล้ว
ไทยยังใช้หัวรถจักรดีเซลอยู่เลย
การขนส่งทางรางของญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพมาก
รถไฟใต้ดินเต็มเมือง
แต่ไทยมีรถไฟฟ้าแค่สองสายสั้นๆ
มันเกิดอะไรขึ้น!

อยากให้คนไทยตั้งคำถามเหล่านี้
และหันมาสามัคคีกันมากขึ้น
แทนที่จะทะเลาะกันเหมือนไก่ตีกันในเล้ารอเขาเอาไปเชือดเหมือนในปัจจุบัน

สาธุ

คือผมรู้สึกว่ากระทู้นี้มีประโยชน์มากๆครับ ผมเคยซื้อหุ้นและก็ขาดทุนไปมาก แต่ก่อนผมซื้อหุ้นโดยไม่รูเลยว่าบริษัทนั้นทำอะไร(จริงๆน่ะครับ) แต่ตอนนี้ผมคงเปลี่ยนแนวใหม่ คิดว่าคงทัน (ผมอายู 25 ครับ)
   ผมมีเรืองรบกวนนิดหน่อยน่ะครับ คือว่าผมอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกมีปัญหาเรื่องของการดูงบบัญชีหน่ะครับ  ทำให้อ่านแล้วงงมากเวลาพี่ post  กัน อยากให้ช่วยแนะนำหนังสือภาษาไทยที่อ่านง่ายๆ เป็นพื้นฐานหน่อยครับ
         นับถือด้วยใจจริง
  ถ้าพวกพี่จัดการสอนเมื่อไหนผมจะเป็นคนแรกๆที่สมัครครับ

Jimmy เขียน: แต่ที่ผมอยากบอกก็คือ
การประท้วงและการปฏิวัติที่เกิดขึ้นในรอบ 70 ปีที่ผ่านมา
มันก็ไม่ได้ช่วยให้ประเทศไทยก้าวหน้าตามคนอื่นทัน
โดยเฉพาะสิงคโปร์ เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน
แม้แต่มาเลเซียเรายังตามเขาเลย
ทั้งๆที่สามสิบสี่สิบปีก่อน ไทยยังมีอะไรมากกว่าประเทศเหล่านี้

ไม่ต้องพูดถึงสมัยรัชกาลที่ห้า
ที่ประเทศไทยมีรถไฟใช้ก่อนประเทศญี่ปุ่น!
แล้วดูตอนนี้ซิ ญี่ปุ่นเขามีรถไปหัวกระสุนมาสี่สิบปีแล้ว
ไทยยังใช้หัวรถจักรดีเซลอยู่เลย
การขนส่งทางรางของญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพมาก
รถไฟใต้ดินเต็มเมือง
แต่ไทยมีรถไฟฟ้าแค่สองสายสั้นๆ
มันเกิดอะไรขึ้น!

อยากให้คนไทยตั้งคำถามเหล่านี้
และหันมาสามัคคีกันมากขึ้น
แทนที่จะทะเลาะกันเหมือนไก่ตีกันในเล้ารอเขาเอาไปเชือดเหมือนในปัจจุบัน

สาธุ

เห็นด้วยครับพี่วิบูลย์ไม่รู้ว่าเมือไรว่าคนพวกนี้จะทำเพี่อบ้านเมืองจริง ๆ ซะที


=========================
ชีวิตมีแค่สองหมื่นกว่าวันจะมัวรอมันไปถึงไหนก้าวเดินออกไปแล้วทำมัน

[quote="claforan"]คือผมรู้สึกว่ากระทู้นี้มีประโยชน์มากๆครับ ผมเคยซื้อหุ้นและก็ขาดทุนไปมาก แต่ก่อนผมซื้อหุ้นโดยไม่รูเลยว่าบริษัทนั้นทำอะไร(จริงๆน่ะครับ) แต่ตอนนี้ผมคงเปลี่ยนแนวใหม่ คิดว่าคงทัน (ผมอายู 25 ครับ)

minngaraya เขียน:เรียน คุณ หมีบึงกุ่ม
สนใจที่ทำ text file ครับ และอยากทราบวิธีการทำครับ(เผื่อทำกับ webboard อื่น) ถ้ารบกวนช่วยส่งที่ [email protected]
ขอบคุณล่วงหน้าครับ minngaraya

เรียนตอบคุณ minngaraya ครับ

ผมอาจเขียนให้คุณเข้าใจผิด  ที่ผมทำเป็นเพียงแค่เลือก copy ข้อความในกระทู้นี้แล้ว เอามาแปะเองใน MS-Word ครับ

edit เองใส่หัวข้อเองตามเนื้อหาครับไม่ได้มีวิธีการหรือเทคนิคอะไรพิเศษหรอกครับ

หวัดคีครับพี่วิบูลย์
ผมเคยถามพี่เกี่ยวกับค่าเบต้า พี่บอกว่าสำหรับพี่กับพี่มนไม่จำเป็นต้องใช้ ผมขอรบกวนพี่ยกตัวอย่างการหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นโดยที่ไม่ใช้ค่าเบต้าครับ
เพราะผมดูจากหนังสือของคุณสุมาอี้เห้นต้องใช้ค่าเบต้าลงในสุตรการหามูลค่าที่แท้จริงอะครับ

ขอบคุณครับ



=========================
ชีวิตมีแค่สองหมื่นกว่าวันจะมัวรอมันไปถึงไหนก้าวเดินออกไปแล้วทำมัน

Jimmy เขียน:หวัดคีครับพี่วิบูลย์
ผมเคยถามพี่เกี่ยวกับค่าเบต้า พี่บอกว่าสำหรับพี่กับพี่มนไม่จำเป็นต้องใช้ ผมขอรบกวนพี่ยกตัวอย่างการหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นโดยที่ไม่ใช้ค่าเบต้าครับ
เพราะผมดูจากหนังสือของคุณสุมาอี้เห้นต้องใช้ค่าเบต้าลงในสุตรการหามูลค่าที่แท้จริงอะครับ

ขอบคุณครับ

นี่เลย
หนังสือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่าหลักสูตรโคลอมเบีย
แปลโดยคุณพรชัย (เจ้าเก่า)
หาดู ใช่เลย

ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูล รบกวนขอชื่อหนีงสือหน่อยครับพี่วิบูล

เพิ่งได้มาอ่านที่กระทู้นี้หลังจากที่สมัครมาตั้งนานแล้ว รู้สึกเสียดาย น่าจะมาอ่านตั้งแต่ก่อนหน้านี้ละ  :(  

ผมเพิ่งเริ่มสนใจการลงทุนมาไม่นานนี้เอง แต่เริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นมาบ้างแล้วครับ (ไม่เกี่ยวกับ VI เท่าไร เป็นหนังสือหุ้นทั่วไปน่ะครับ) แต่อ่านไปเหมือนยังจับอะไรไม่ได้เลย จำอะไรก็ไม่ได้ แต่พอมาอ่านที่ TVI ทำให้พอมองภาพออกแล้วครับ (แม้จะยังไม่ชัดเจนเท่าไร  :lol: )

อย่างที่บอกว่าผมเริ่มสนใจมาไม่นานนี่เอง (ประมาณ 3 เดือนละ) แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่กล้าที่จะลองลงทุนดูเลย ผมเป็นประเภทถ้าไม่มีข้อมูล ให้อ่านหรือทำความเข้าใจจนมั่นใจซะก่อน ก็จะยังไม่ทำน่ะครับ มีคนบอกว่า ควรหัดทำไปพร้อมๆกับเรียนรู้ไปเลย (learning by doing) แต่ก็ไม่กล้าซะที เพราะผมรู้สึกว่าไม่รู้จะเริ่มจากอะไรยังไง และเหมือนมันยังขาดอะไรซักอย่างน่ะครับ

ผมเป็นคนไม่มีพื้นฐานทางด้านการลงทุนและการเงินเลยซักนิดเดียว เรียนมาคนละทางกันเลย ซ้ำเมื่อก่อนยังขยาดซะอีก ตอนนี้รู้อย่างเดียวว่าอยากอ่านหนังสือให้มากกว่านี้น่ะครับ หัวจะได้ไม่กลวงซะที จะได้รู้ว่าควรจะเริ่มจากอะไร

สำหรับมือใหม่แล้วอยากให้พี่ๆ แนะนำหนังสืออะครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปนะครับ เป็นภาษาไทยยิ่งดีครับ กลัวอ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ก็ทราบนะครับว่าคงมีหลายๆท่านถามไปแล้ว ขอรบกวนหน่อยนะครับ (แล้วอย่างหนังสือ the new buffetology นี่ยังมีขายอยู่ไหมครับ ผมไม่เคยเห็นเลย)

สุดท้าย อยากจะขอบคุณพี่ๆ ทุกคน ครับที่ให้ความรู้ แม้จะอ่านไปได้แค่ 12 หน้า และยังเหลืออีกเยอะ !!! แต่ก็จะพยายามอ่านต่อครับ (แต่หลังๆอ่านแล้วเริ่มมึน คงต้องไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมก่อนรึป่าวครับ)

ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ

VIB007 เขียน: นี่เลย
หนังสือ การลงทุนแบบเน้นคุณค่าหลักสูตรโคลอมเบีย
แปลโดยคุณพรชัย (เจ้าเก่า)
หาดู ใช่เลย

ขอบคุณครับพี่เดี๋ยวจะไปหาดูครับ

[quote="cib-Z"]เพิ่งได้มาอ่านที่กระทู้นี้หลังจากที่สมัครมาตั้งนานแล้ว รู้สึกเสียดาย น่าจะมาอ่านตั้งแต่ก่อนหน้านี้ละ

ขอบคุณมากนะครับ คุณVIB007นะครับ สำหรับคำแนะนำ
ตอนนี้ผมก็ขวนขวายหาความรู้อย่างจริงจังอยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่าเหมือนไม่มีหลักให้ยึด เลยอาจได้ความรู้แบบจะสะเสะปะไปบ้าง
ไม่มีใครให้คุยด้วยครับ ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนความคิด เพราะเพื่อนๆก็ไม่มีใครเล่นหุ้นหรือลงทุนอะไรกันเลย (คงเป็นเพราะเพิ่งเรียนจบด้วยรึป่าว...แต่ก็คงไม่เกี่ยวอีกใช่ไหมครับ)
แต่มาที่นี่แล้วได้ไอเดียอีกมากมาย

สำหรับเรื่องที่ว่าจะอ่านกระทู้นี้จบเมื่อไรเร็วช้าอย่างไร ก็ไม่ทราบครับ แต่จะอ่านไปเรื่อยๆจนจบแน่ๆ ไว้จบเมื่อไรจะมาบอกครับ

ในงานสัมนาพี่วิบูลย์บอกว่าจะหยุดทำงานประจำ

ถ้าพี่มีเวลาว่างมากขึ้นน่าจะเปิดคอร์สอบรมให้น้องๆนะครับ

cib-Z เขียน:ขอบคุณมากนะครับ คุณVIB007นะครับ สำหรับคำแนะนำ
ตอนนี้ผมก็ขวนขวายหาความรู้อย่างจริงจังอยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่าเหมือนไม่มีหลักให้ยึด เลยอาจได้ความรู้แบบจะสะเสะปะไปบ้าง
ไม่มีใครให้คุยด้วยครับ ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนความคิด เพราะเพื่อนๆก็ไม่มีใครเล่นหุ้นหรือลงทุนอะไรกันเลย (คงเป็นเพราะเพิ่งเรียนจบด้วยรึป่าว...แต่ก็คงไม่เกี่ยวอีกใช่ไหมครับ)
แต่มาที่นี่แล้วได้ไอเดียอีกมากมาย

สำหรับเรื่องที่ว่าจะอ่านกระทู้นี้จบเมื่อไรเร็วช้าอย่างไร ก็ไม่ทราบครับ แต่จะอ่านไปเรื่อยๆจนจบแน่ๆ ไว้จบเมื่อไรจะมาบอกครับ

ด้วยความยินดีครับ
ช่วงแรกๆที่ผมเริ่มลงทุนแบบแวลูเมื่อหกเจ็ดปีก่อน
ผมต้องคิดคนเดียว ทำคนเดียว
ไม่มีใครเข้าใจวิธีนี้
ถามพี่หรือเพื่อนก็บอกว่าวิธีนี้ใช้กับตลาดหุ้นเมืองไทยไม่ได้
พวกเขาลองมาหมดแล้ว เจ๊งหมดแล้ว อย่าลองเลย เสียเวลา

โชคดีที่ผมไม่เชื่อเพราะถือว่าตลาดหุ้นที่ไหนในโลกก็เหมือนกัน
ผมลงทุนคนเดียวมาเป็นปีกว่าจะมาเจอเวปทีวีไอนี้
ตอนนั้นยังชื่อ www.Thaivalueinvestor.com อยู่เลย
ที่รู้เพราะเพื่อนบอกและชวนมางานสัมมนาครั้งแรกของทีวีไอ
เลยได้รู้จักคุณมนตรี พี่ไก่_ธันวาเป็นหลัก
มีเจ้าจินนี่อีกคนตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหน
เป็นจุดเริ่มต้นของกระทู้นี้ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ทีวีไอรุ่นแรกที่เข้าสัมมนาครั้งแรกที่ผมจำได้ (จำได้ไม่หมดอย่าน้อยใจนะ)
มีผู้เข้าร่วมประมาณ 20 คนจัดที่ชั้นสี่หรือชั้นห้าของตลาดหลักทรัพย์
เป็นห้องประชุมเล็กๆ
มีคุณมนและคุณธันวาเป็นวาทยากร
พี่ไก่ธันวาพูดถึงการมีอิสรภาพทางการเงิน
ส่วนคุณมนพูดถึงการลงทุนในหุ้นแบบวีไอ
เรียกว่าเป็นการสัมนาเหมือนการประชุมกันมากกว่า
มีพี่เจ๋ง โยโย และท่านอื่นๆ
ใช้เวลาสามสี่ชั่วโมง

จากนั้นการสัมนาก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
คนมาฟังเป็นร้อยๆคนขึ้นไป

ที่เล่ามานี้ไม่ได้มีอะไรมาก
เพียงแต่อยากบอกว่า เวปนี้ช่วยให้นักลงุทนได้เจอคนที่มีความคิดคล้ายๆกัน
เรียกว่ามาถูกที่แล้วละครับ
เวปนี้แทบจะเปลี่ยนชีวิตผมเลยนะ
ผมรู้จักเพื่อนๆหลายๆท่านที่นี่
รู้จักกับดร.นิเวศน์ ผู้ใหญ่หลายท่านจากที่นี่
ได้มีโอกาสเขียนหนังสือ เขียนคอลัมน์
ไปพูดออกงาน ออกทีวี สัมภาษณ์ต่างๆ
(ถึงแม้บางครั้งจะเป็นตัวสำรองของคุณมนก็เถอะ เวลาเมียไม่อนุญาตให้ออกจากบ้านวันหยุด อิ อิ)
ก็นับว่าคุ้มค่าชีวิตมากๆแล้ว

nuttipol เขียน:ในงานสัมนาพี่วิบูลย์บอกว่าจะหยุดทำงานประจำ

ถ้าพี่มีเวลาว่างมากขึ้นน่าจะเปิดคอร์สอบรมให้น้องๆนะครับ

ผมอยากมีเวลามาอยู่กับลูกมากขึ้น
เขาโตขึ้นทุกวัน
เวลาไปทำงานต้องออกจากบ้านขับรถทำงาน
กว่าจะกลับถึงบ้านใช้เวลาวันหนึ่ง 11-12 ชั่วโมง
เรามีเวลาให้เขาและตัวเองแค่วันละ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

ผมไม่อยาก"ขายชีวิต"ตัวเองให้กับบริษัท
จึงซื้อเวลาตัวเองกลับมาทั้งหมดเลย

ผมว่าคอร์สอบรมของคุณมนก็ทำได้ดีอยู่แล้ว
ถ้าสนใจอ้อนให้คุณมนเปิดอีกหลายๆรอบเถอะครับ
ข้อมูลการสอนมีทุกอย่าง
ส่วนผมถ้าสอนต้องเริ่มใหม่หมด
และที่สำคัญตอนี้ผมขี้เกียจมากๆเลย
ผมทำงานมาหลายสิบปี อยากพักผ่อนก่อนนะครับ อิ อิ

ลองสอบถามในเวปดูนะครับ
ว่าคอร์สคุณมนจะเปิดอีกเมื่อไหร่
ต้องบอกว่าคุณมนตั้งใจสอนมากนะครับ
วันก่อนไปร้านหนังสือด้วยกัน
คุณมนยังซื้อหนังสือเกี่ยวกับกลยุทธของBCG มาอ่านเลย
บอกเอาไว้สอนหนังสือ.....คิดดูแล้วกัน
ใครจะบ้าอ่านตำราหนาขนาดนั้น

VIB007 เขียน: ผมไม่อยาก"ขายชีวิต"ตัวเองให้กับบริษัท
จึงซื้อเวลาตัวเองกลับมาทั้งหมดเลย

เป็นคำพูดที่กินใจมากๆครับ
ขอบคุณมากๆครับพี่ครับ

เพิ่งเริ่มลงทุนค่ะ พบที่นี่เมื่อ 2 เดือนก่อน อ่านมาได้ 25 หน้า(ไม่ค่อยมีเวลาค่ะ ทำงานด้วยเลี้ยงลูกด้วย) ตั้งใจว่าอ่านจบจะpost ขอบคุณ แต่เกรงว่าจะอีกหลายเดือน ขอแสดงตัวออกมาขอบคุณก่อนค่ะ ขอบคุณทุกๆคนที่ให้ความรู้ โดยเฉพาะอ.วิบูลย์ ไม่เคยทิ้งกระทู้นี้เลย อ่านแล้วต้องไปหาดูรูป อ.!!!  หล่อซะ!! เหมือนพระเอกหนังจีนเลย  

อาจเป็นคำถามที่ดูตลก แต่ไม่รู้จริงๆน่ะ ใครรู้บอกหน่อยว่าเวลาอ่านค้างไว้แล้วจะกลับเข้ามาอ่านต่อที่หน้าเดิมโดยไม่ต้องไปเริ่มเปิดจากหน้า 3ไป4..5 ..6 ทีละหน้าไปเรื่อยๆต้องทำอย่างไร กรณีกระทู้จะเป็น 100 หน้าอย่างงี้น่ะ

เป็นคำถามที่ดีมากๆครับ
เพราะผมก็พบปัญหานี้

สมมติว่า คุณ เก็ตถวา อ่านถึงหน้า 36 แล้วอยากเริ่ม start ที่หน้านั้น

1.ลองสังเกตุที่ Address bar ของ IE นะครับ

copy http: ...  นะครับ แต่ละหน้า ข้อมูลมันต่างกันครับ

วิธีที่ผมใช้คือ click ขวา แล้ว กด Create Shortcut น่าจะง่ายที่สุดนะครับ

พออ่านไปเรื่อยๆ ก็เปลี่ยน ชื่อ shortcut เป็น

กระทู้ตะแกรงร่อน หน้า 43 ... อะไรทำนองเนี้ยครับ

มีความสุขกับการศึกษาการลงทุนนะครับผม (ผมก็กำลังศึกษาเช่นกันครับ )