Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมอยากทำงานแบบไม่แคร์สื่อครับ

ขอดันกระทู้กลับมาหน่อยนะครับ
เห็นมีบางท่านกำลังเบื่องาน

ขอดันกระทู้กลับมาหน่อยนะครับ
เห็นมีบางท่านกำลังเบื่องาน
Very Happy

ตั้งเป้าไว้ว่า อิสรภาพทางการเงิน
อายุสัก 35-40 ปี แล้วหลังจากนั้นทำอาชีพเดิมเป็นพาร์ททาม
เป็นนักลงทุน คุณค่าเป็นงานประจำที่สบยๆชิว

ไม่เลิกอาชีพเดิมครับ เพราะมาเป็นมาเรียนตอนแรก เพราะอยากเป็นอาชีพนี้
บังเอิญโชคดีว่า รายได้สูงกว่าหลายอาชีพครับเป็นผลพลอยได้แต่ก็เสี่ยง

100 ล้าน
อายุ60
ผลตอบแทนทบต้นปีละ10%

What ever it takes...
1. Routine works free in 3.5 years
2. Financial freedom in 9.5 years

พี่โดมครับ routine work free ผมพอเข้าใจ
แต่ financial freedom ของพี่หมายถึงอะไรครับ
ทำไมต้องรออีกตั้ง 6 ปีหลังจากหยุดงานประจำ
จึงจะมี financial freedom และมันหมายถึง
เงินจำนวนเท่าใดเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่อเดือนครับ
ปล. ความรู้ด้านการลงทุนของพี่ก้าวหน้าไปเร็วดีครับ
ขอให้ถึงเป้าหมายก่อนกำหนดครับ  :D

เป้าหมาย Compounding 25% per year

พอร์ตหุ้น
อยู่คนเดียว(แบบอยู่ได้) 10 ล้าน
มีครอบครัว ลูก 3 ขั้นต่ำ 50 ล้าน

อิสระภาพทางการเงิน ตั้งใจไว้ที่ Passive income เดือนละ 1 ล้าน ปีละ 12 ล้าน
ขนาดของพอร์ตไม่สำคัญ เท่า Passive income ที่ดีและมั่นคงครับ

[quote="2BOK"]What ever it takes...
1. Routine works free in 3.5 years
2. Financial freedom in 9.5 years

พี่โดมครับ routine work free ผมพอเข้าใจ
แต่ financial freedom ของพี่หมายถึงอะไรครับ
ทำไมต้องรออีกตั้ง 6 ปีหลังจากหยุดงานประจำ
จึงจะมี financial freedom และมันหมายถึง
เงินจำนวนเท่าใดเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่อเดือนครับ
ปล. ความรู้ด้านการลงทุนของพี่ก้าวหน้าไปเร็วดีครับ
ขอให้ถึงเป้าหมายก่อนกำหนดครับ

Financial freedom ของผมคือ
ตอนที่ผมไม่ต้องห่วงหารายได้เสริมใดๆ
เงินที่ฝากไว้กับบริษัทที่เราลงทุนมันมากเกินพอ
สำหรับค่าใช้ในชีวิตประจำวัน
ค่าใช้ของลูกในอนาคต
ค่าใช้จ่ายการหาความสุขจากกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ
เค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลของเราในวัยแก่ชรา
และเงินส่วนเกินจากค่าใช้จ่ายพวกนั้น
มันก็กลับไปต่อยอดพอร์ตได้อีก

คุณโดมคิดเฉพาะรายได้จากเงินปันผล หรือ รวม capital gain ด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

2BOK เขียน:Financial freedom ของผมคือ
ตอนที่ผมไม่ต้องห่วงหารายได้เสริมใดๆ
เงินที่ฝากไว้กับบริษัทที่เราลงทุนมันมากเกินพอ
สำหรับค่าใช้ในชีวิตประจำวัน
ค่าใช้ของลูกในอนาคต
ค่าใช้จ่ายการหาความสุขจากกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ
เค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลของเราในวัยแก่ชรา
และเงินส่วนเกินจากค่าใช้จ่ายพวกนั้น
มันก็กลับไปต่อยอดพอร์ตได้อีก

คุณโดมคิดเฉพาะรายได้จากเงินปันผล หรือ รวม capital gain ด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

เงินปันผลครับ ของแท้ที่ได้ในมือครับ

ส่วนแคปปิตอลเกน นั้น ผมไม่ใส่ใจเอามาเป็นรายได้ ครับ
แต่ผมใส่ใจต่อมูลค่ารวมของพอร์ตครับ

ผมไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ว่าผมขายหุ้นแต่ละตัวไป
ว่าได้กำไรเท่าไหร่เพราะผมถูกสอนว่า
เราขายหุ้นเมื่อพื้นฐานเปลี่ยนแปลงในทางลง และ เมื่อเต็มมูลค่า

ผมใส่ใจตรงขาย ไปซื้อตัวใหม่ แล้วทำให้พอร์ตโตขึ้นไหม

ตอนนี้อายุ 20 พอร์ต 5 หลัก

เป้าหมาย อีก 10 ปี จะมีพอร์ต 6 หลักให้ได้ครับ

ส่วนเรื่อง retire เอาไว้ทำงานก่อนแล้วค่อยคิดอีกที

[quote="chinn"]อายุ 29ครับ ไม่ทำงาน และไม่กลับไปทำงานประจำอีกแล้ว

ลาออกมาตอน Port 20 ล้านกว่าๆ

...........................
เส้นทาง สร้าง Port

เริ่มทำงานที่ธนชาต 18 กุมภาพันธ์ 2546

ได้ค่าคอมช่วงตลาด Boom

ผมขอมัง

ตอนนี้อายุ 18 พอร์ต 7 หลัก

ตั้งเป้าอายุ 35 พอร์ต 9 หลักต้นๆ

อิสรภาพทางการเงิน อายุ 45 :lol:  :lol:

Viเล่นขาลง มวยวัดเล่นขาขึ้น tfexตามมา ในอนาคตคิดว่า

จะเล่นแบบนี้

แต่ตอนนี้ Vi 90% จบม.6 เมื่อไร อาจจะมาแบบมวยวัด

ไม่มีเป้าหมายที่จะretireค่ะอยากทำไปเรื่อยๆๆจนกว่าจะทำไม่ไหวแล้ววว ฮ่าๆๆๆส่วนพอร์ตนั้นขอเป็นแปดเก้าสิบหลักจนกว่าจะจากกันไปข้างนึงค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

เป้าหมายเบื้องต้นขอมี เงินปันผล ปีละ  800000 บาทหักภาษีแล้วเหลือ 720000   หารเฉลี่ยวันละ 2000 บาทผมก็คิดว่าพอใช้ได้อย่างสบายไม่เดือดร้อน  สมมุติคิดเป็นเงินต้นน่าจะราวๆ  800000/0.08 = 10 ล้านบาท

บางครั้งการตั้งเป้าหมายที่ไกลเกินไป โดยที่ไม่ได้ตระหนักถึงพื้นที่เราเหยียบย่ำ อาจจะทำให้เดินตกเหวได้ดื้อๆนะครับ

ปล. ไม่ได้ว่าใครในที่นี้เป็นแบบนั้นนะครับ แค่อยากจะมาเตือนสติเฉยๆครับ

 :P  :P

การตั้งเป้าหมายที่สูง เป็นสิ่งที่ดีนะครับ ถ้าไปไม่ถึงดวงดาว อย่างน้อยก็ตกลงบนยอดเขา ขนาดของความสำเร็จขึ้นอยู่กับขนาดของความคิดของเราเองครับ
ถ้าเราคิดเล็ก เราก็จะไม่แสวงหาหนทางที่จะไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ได้ ถ้าเราคิดใหญ่ ถึงแม้ตอนนี้เราเล็กอยู่ แต่เราจะช่างสังเกตุ และศึกษามากขึ้นหาหนทางเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ได้

อายุสัก 35- 40 ปี พอร์ทโตสัก 20 ล้าน
ขอผลตอบแทนปันผลสัก 6-7`%ต่อปี
ก็มีเงินเดือนละ1แสนเศษแล้ว ใช้จ่ายแบบพอเพียง ตามสมควร ไม่สุรุ่ยสุร่ายเกินไป เอาเงินที่เหลือจากปันผลไปลงทุนต่ออีก แค่นี้ชีวิตก็สบายชิวๆได้แล้วคับ

ปี2554ที่จะถึงนี้ ผมสามารถปรับลด routine work ได้ไปหลายส่วนโดยคงเหลือแต่งานที่มีลักษณะรวบง่ายที่สุด ลดภาระในเรื่องของงานเอกสาร(ซึ่งผมไม่ชอบเอาเสียเลย) มีเวลาว่างมากขึ้น และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้มองในแง่ว่าขาดรายได้จากงานประจำไป เพราะรายได้จากการทำงานที่ผม set ไว้ใหม่ ยังเพียงพอกับการรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวในครอบครัว อีกทั้งตั้งแต่ปีนี้ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนของผม เริ่มจะให้ผลตอบแทนได้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นับว่าเป็นโชคดีพอสมควรที่ผมมาถึงจุดที่พอเรียกว่ามี financial freedom ได้

jek ae เขียน:ปี2554ที่จะถึงนี้ ผมสามารถปรับลด routine work ได้ไปหลายส่วนโดยคงเหลือแต่งานที่มีลักษณะรวบง่ายที่สุด ลดภาระในเรื่องของงานเอกสาร(ซึ่งผมไม่ชอบเอาเสียเลย) มีเวลาว่างมากขึ้น และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้มองในแง่ว่าขาดรายได้จากงานประจำไป เพราะรายได้จากการทำงานที่ผม set ไว้ใหม่ ยังเพียงพอกับการรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวในครอบครัว อีกทั้งตั้งแต่ปีนี้ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนของผม เริ่มจะให้ผลตอบแทนได้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นับว่าเป็นโชคดีพอสมควรที่ผมมาถึงจุดที่พอเรียกว่ามี financial freedom ได้

ยินดีด้วยอย่างยิ่ง ครับพี่หมอ

ตอนนี้อายุ 43 ปี  ยังทำงานประจำอยู๋
ลงทุนมา  พอร์ท เกิน 30 ล้าน
ไม่หวังมาก แค่ 6- 10 %  ต่อปี พอแล้ว

อีก10ปีครับ ทำงานอยู่นอกประเทศ ตั้งใจเอาเงินไปลงทุนกินปันผล และกลับประเทศ ไปทำงานที่มีความเครียดน้อยกว่าปัจจุบันครับ

ไม่เคยคิดจะ retire นะครับ คนเราต้องหาอะไรทำสนุกๆ

แต่ตั้งใจว่าอยากมีเงินเย็นเกิน 20 ล้าน แล้วมีความสามารถในการกินปันผล 7-10% ต่อปี เงินนี้มีหน้าที่ทบต้นไป เอามาใช้บ้าง

ส่วนอีกด้านหนึ่งอยากมีเงินลงทุน อาจจะหุ้นหรือกิจการเล็กๆ แม้รู้ดีว่าถ้าบริหารพิร์ตจนมี 20 ล้านแล้วก็คงไม่อยากทำอย่างอื่น แต่คนเราก็มีความฝัน 55 อยากทำกิจการที่ทำให้คนมีความสุข ลูกค้าก็สุข ยิ่งพนักงานก็ต้องมีความสุข รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วสัก 40% อยากปันผลให้พนักงาน ไม่มีลิมิตกำไรมากก็รวยกันไปเลยทั้งบริษัท 55 อีก 10-20% เอาไว้ช่วยเหลือสังคมโดยเฉพาะการศึกษา คนไหนเรียนดี แต่ยากจนเขียนมาขอเงินก็เอาไปเลย แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขแล้วววว

แล้วผมจะเอาความฝันอันแสนไกลมาเล่าทำไมเนี่ย ตื่นๆ 55

jek ae เขียน:ปี2554ที่จะถึงนี้ ผมสามารถปรับลด routine work ได้ไปหลายส่วนโดยคงเหลือแต่งานที่มีลักษณะรวบง่ายที่สุด ลดภาระในเรื่องของงานเอกสาร(ซึ่งผมไม่ชอบเอาเสียเลย) มีเวลาว่างมากขึ้น และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้มองในแง่ว่าขาดรายได้จากงานประจำไป เพราะรายได้จากการทำงานที่ผม set ไว้ใหม่ ยังเพียงพอกับการรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวในครอบครัว อีกทั้งตั้งแต่ปีนี้ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนของผม เริ่มจะให้ผลตอบแทนได้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นับว่าเป็นโชคดีพอสมควรที่ผมมาถึงจุดที่พอเรียกว่ามี financial freedom ได้

   

หมายถึงจะตรวจผู้ป่วยน้อยลงหรือครับ น่าเสียดายความรู้นาครับ

2BOK เขียน:

jek ae เขียน:ปี2554ที่จะถึงนี้ ผมสามารถปรับลด routine work ได้ไปหลายส่วนโดยคงเหลือแต่งานที่มีลักษณะรวบง่ายที่สุด ลดภาระในเรื่องของงานเอกสาร(ซึ่งผมไม่ชอบเอาเสียเลย) มีเวลาว่างมากขึ้น และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้มองในแง่ว่าขาดรายได้จากงานประจำไป เพราะรายได้จากการทำงานที่ผม set ไว้ใหม่ ยังเพียงพอกับการรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวในครอบครัว อีกทั้งตั้งแต่ปีนี้ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนของผม เริ่มจะให้ผลตอบแทนได้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นับว่าเป็นโชคดีพอสมควรที่ผมมาถึงจุดที่พอเรียกว่ามี financial freedom ได้

jek ae เขียน:

2BOK เขียน:

jek ae เขียน:ปี2554ที่จะถึงนี้ ผมสามารถปรับลด routine work ได้ไปหลายส่วนโดยคงเหลือแต่งานที่มีลักษณะรวบง่ายที่สุด ลดภาระในเรื่องของงานเอกสาร(ซึ่งผมไม่ชอบเอาเสียเลย) มีเวลาว่างมากขึ้น และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้มองในแง่ว่าขาดรายได้จากงานประจำไป เพราะรายได้จากการทำงานที่ผม set ไว้ใหม่ ยังเพียงพอกับการรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวในครอบครัว อีกทั้งตั้งแต่ปีนี้ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนของผม เริ่มจะให้ผลตอบแทนได้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นับว่าเป็นโชคดีพอสมควรที่ผมมาถึงจุดที่พอเรียกว่ามี financial freedom ได้

2BOK เขียน:

jek ae เขียน:

2BOK เขียน:

jek ae เขียน:ปี2554ที่จะถึงนี้ ผมสามารถปรับลด routine work ได้ไปหลายส่วนโดยคงเหลือแต่งานที่มีลักษณะรวบง่ายที่สุด ลดภาระในเรื่องของงานเอกสาร(ซึ่งผมไม่ชอบเอาเสียเลย) มีเวลาว่างมากขึ้น และที่สำคัญคือ ผมไม่ได้มองในแง่ว่าขาดรายได้จากงานประจำไป เพราะรายได้จากการทำงานที่ผม set ไว้ใหม่ ยังเพียงพอกับการรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวในครอบครัว อีกทั้งตั้งแต่ปีนี้ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนของผม เริ่มจะให้ผลตอบแทนได้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นับว่าเป็นโชคดีพอสมควรที่ผมมาถึงจุดที่พอเรียกว่ามี financial freedom ได้

เข้ามาอ่านครับ
ไม่กล้าแชร์ อายตัวเอง  

VI มือใหม่ครับ
ผมคำนวณคร่าว ๆ จะเงิน 14 ล้านเมื่ออายุ 55 ปี คิดว่าเพียงพอครับ

ขอบคุณที่เข้ามาแชร์เป้าหมายและความหวัง

แสดงความดีใจกับทุกท่านครับที่ประสบความสำเร็จ
และ กำลังจะบรรลุเป้าหมาย

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังเริ่ม หรือ อยู่กลางทาง
ขอให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทุกประการ

เดินบนความไม่ประมาทนะ หรือ มีสตินะครับ

ใครถึงเป้าหมายแล้ว อย่าลืมมาบอกกล่าว ที่นี่นะครับ