คำถามนี้..ของ k. chaitorn มันอยู่ใน ตะกร้า too difficult สำหรับผม
แต่เ็ป็นคำถามที่ดี จะลองตอบดู {ถูกหรือไม่ ไม่ว่ากัน}
.....
"การศึกษาบริษัทที่เติบโตยั่งยืนนั้น
นอกจากข้อมูลบริษัทเดิมที่เป็นพื้นฐานในการคาดคะเนการเติบโตในอนาคตแล้ว
เราสามารถใช้ความรู้นี้ในการมองบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น
และประวัติดำเนินงานน้อย แต่มีโอกาสเป็นผู้ชนะในระยะยาวต่อไปได้อีกนาน"
"เช่น กรณี apple เรามีข้อสังเกตที่พอระบุสัญญาณต้น ๆ
อะไรได้บ้างที่บริษัทใหม่ ๆ นี้จะเป็นผู้ชนะต่อไป
เพื่อเป็นการค้นหาผู้ชนะกับ mega trend ในครั้งหน้าครับ"
...
อันที่เป็น apple เพราะว่า
tech company มันเป็น "riding on the edge of technology model"
แปลว่าโต้คลื่นไปกับขอบสุดของการพัฒนาเทคโน แปลง่ายๆว่า ต้อง ใหม่กว่า ดีกว่า จ๊าบกว่า
customer switching สูง หรือ stickyness มีน้อย หลายปีก่อนBBสุดฮิต แป็บเดียวก็หายหมด
สมมติ apple หยุดแค่ iphone5s ไป 2 ปีไม่ออกรุ่น ใหม่เลย
ส่วน samsung ในอีก 2 ปี ออกไปถึงรุ่น 14 ยังงี้
พอช้า แล้ว จะกลับมามันยาก แบบ เข็นครกขึ้นเขา ดังนั้น ต้องนำหน้าตลอด
..
ปี2008 เป็น Gamechanger ของ Apple และก็เป็นปี PEAK สุด ของ nokia
จุดที่ เป็น
คีย์ วารีเอเบิ้ล สำคัญสุดคราวนี้ ก็คือ
app store
Apple and the App Store
http://en.wikipedia.org/wiki/App_store
In 2007, Apple Computer launched the iPhone, the company's first ever smartphone. When the device launched, the device did not provide any support for third-party software: Apple's CEO Steve Jobs believed that web apps served over the internet could provide adequate functionality required for most users. Soon after its release, however, developers had managed to "jailbreak" the iPhone and begin coding third-party apps for the device, distributed through package managers such as Installer.app (which itself was based on APT) and Cydia.[8]
With the release of iPhone OS 2.0 in July 2008, Apple launched the App Store; officially introducing third-party app development and distribution to the platform. The service allows users to purchase and download new apps for their device through either the App Store on the device, or through the iTunes Store on the iTunes desktop software. Apple asserts a large number of restrictions on app developers: all apps are subject to a review by Apple staff when submitted and can be rejected if they do not pass Apple's technological and content guidelines. Additionally, Apple takes a 30% commission on revenues for paid apps sold through the store
มันเป็น model ใหม่ ที่มีประโยชน์ เช่นไม่มี virus อีกแล้ว
ในเครื่อง ก็ เป็น close loop จะ copy program อะไรลงไปเอง ไม่ได้เลย.
...............
nokia เอง ปี 2007-2008 พลาดไป(inertia model) ตอนนั้น nokia ใหญกว่า apple มาก
เกมส์นี้ แสดงให้ถึงคำว่า "เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่เป็นปลาเร็วกินปลาช้า"
แล้วพลาดอีก ไปใช้ software ของ microsoft ยุค 3G ของ nokia มาสายไปปล่อย
โอกาสใน apple samsung ไปได้ หลายๆปี ถ้าตอนนั้น nokia รีบปรับ model มาใช้ android แบบ samsung
apple อาจจะลำบากกว่านี้ เพราะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่ง ยักษ์ 2 รายคือ samsung กับ nokia
...
การทำนาย อนาคต ของ บ. เทคโน จึงเป็นไปได้ ยาก
เพราะ
1. model มันไม่ stable การเปลี่ยนแปลง เกินขึ้นได้เร็ว เมื่อไหร่ คู่แข่ง ออกอะไร เหนือกว่าเรา เราก็ไป
(google มาหลัง yahoo แปะเดียวแซง yahoo ไปได้ แต่ถ้าสมมติ yahoo ไปซื้อ flipboard + twitter แล้ว
เอามาทำโมเดลใหม่ ก็น่าคิดคือ การเกิดใหม่ มีได้ตลอด
2. switching สูงและเร็ว พฤติกรรมลูกค้า พร้อมเปลี่ยน ทำให้ เป็นการ"สร้างประสาทบนพื้นทราย" market share หรือ brand
ไม่มีความหมาย ถ้า เทคโน ไม่จ๊าบ
3. leading cost อยาก nokai dell ไม่ได้ ช่วยอะไร เมื่อ gamechange
..............
ลองไปดูตัวเลขอดีตกัน
compare apple - nokia 2007-2012
...............
ปี2007 ยอดขาย nokia peak ที่ 51,138 ส่วน netincome กับ FCF peak ที่ ประมาณ 7พัน
ปี2008 ยอดขายลดลง เล็กน้อยเหลือ 50,830 ส่วน netincome กับ FCF ลดลงเกือบครึ่งเหลือ 3พันกว่า
..
ส่วน apple ปี 2007-2008 free cash flow เพิ่มจาก 4พัน ไป 8พัน เกือบ 2x
...
------------
compare
***
ถ้าจะจำได้ 2008 เกิด subprime
ทั่วโลก -40% แล้วดู กำไร apple ปี 2008
...
ภาพเก่าๆ q4-2007
...
โต triple digit growth ใน very bad year
...
ราคาหุ้น 2008-2009
...
ราคาวันนี้ หลังจาก split 7:1 แล้ว
2008-2014 6ปี 7x
....
(ถ้าข้อมูล ผิดพลาดใดๆ ขออภัยด้วย
โปรด check แหล่งต้นทางซ้ำ)
...
ย้อนไปดูแล้ว ประวัติศาสตร์ อาจะไม่เป็นอย่างนี้ ก็ได้ ถ้า
nokia แค่ใช้กลยุทธ์เดียวกับ samsung
...
.จึง ยากที่จะทำนาย ..อนาคตได้
...
uncontrol key variable มีมาก
ถ้าจะซื้อ ก็ ดู 3 ปี แล้ว share
....
key word>มี "
Comparative key drivers (ยอดขาย growth, marketshare growth, FCF growth, net income growth)
Compare to key competitor/ compare to market"
เหนือกว่า ก็ซื้อเลย