Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

pwz เขียน:ผมนั่งคิดหาข้อผิดพลาดและการพัฒนาตัวเองไปสู่ระดับมือโปรอยู่ครับ จากการที่ผมได้คุยกับเซียนหลายๆคนอ่านหลายๆกระทู้ทำให้ผมได้ค้นพบว่าถ้าเราอยากจะเป็นโปรต้องเข้าตีตอนฟ้ามัว คือเห็นก่อนคนอื่นว่าหุ้นตัวนั้นดีและมีdriverที่จะทำให้มันขึ้นในไม่ช้า

ผมเชื่อว่าการที่สมาชิกในเว็บหาหุ้นPEไม่เกิน8roe 20-30%ไม่ใช่เรื่องยากแค่เปิดไฟล์ของพี่ครรชิตก็กรองหุ้นมาได้ระดับนึงแล้ว แต่จุดที่สำคัญคือเราจะรู้ได้ยังไงว่าซื้อตอนไหนถึงจะถึงจุดที่มันใกล้ขึ้นมากที่สุดเพื่อลดความเสียหายจากกรณีที่ตลาดcrashและเพื่อทำให้พอร์ตของเราโตได้อย่างรวดเร็ว

BeSmile เขียน:คุณโจครับ มีคำถามมาถามครับ พอดี Post ข้างนอกแล้วไม่ค่อยได้คำตอบ
ตอนต้นปีที่ราคายางพารา ได้ปรับสูงขึ้นมามาก ทำให้หุ้นที่มียาง ทั้งหลาย เด้ง หลาย ๆ เด้ง มาก จนเกาะ ราคาไม่ทัน คราวนี้ พอเริ่มเข้าไปดู จะเห็นว่า มีหุ้นที่ขายยาง มีผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นบริษัท ในตลาด และเข้าใจว่าราคาหุ้นที่ปรับช่วงต้นปี น่าจะสะท้อนในงบปีนี้ เพียงแต่จะเข้า Quarter ไหนไม่รู้ ? ซึ่งผมก็มีข้อสงสัยว่า ราคาหุ้นยาง นั้น บริษัทที่ถือ สามารถนำกำไรมา Book ราคาได้อย่างไรบ้างครับ ? หรือถ้าไม่ Book เพื่อจะไม่รับรู้ กำไร / ขาดทุน โดย Book เป็นราคาทุน เนื่องจากถือมาหลายปี ?
********

จากศึกษาเพิ่มเติม บริษัท สามารถ ถือหุ้นได้ 2 แบบ คือ
1. Port ลงทุน ซึ่งก็ Book โดยใช้ราคาทุน หรือ ราคา Book Value (ทำตอนสิ้นปีและต้องมีการรับรู้ กำไร/ขาดทุน จาก Book value) น่าจะเหมือนกับ KYE

2. Port Trading ใช้ราคาตลาด ในการ Book ซึ่งถ้าไม่มีการขายจริง จะรับรู้แบบ Unrealize Gain/Loss ซึ่งจากการเข้าไปดูแล้ว Port บริษัทดังกล่าวน่าจะใช้วิธีที่ 1 ดังนั้นกำไรที่ได้จากราคาตลาด จึงไม่อาจนำมานับได้ ยกเว้นจะโอนเข้า Port Trading แล้วบันทึกเป็น Unrealize Gain/Loss
-รบกวนสอบถามความเห็นคุณโจด้วยครับ

กรณีบริษัทที่ถือ หุ้นยางพาราคือ CGS ผมก็เห็นว่าราคาต่ำกว่า Value เหมือนกัน แต่บริษัท หลักทรัพย์นี่ผมประเมินมูลค่าไม่เป็นเลยครับ ได้แต่ เดา ๆ
- แล้วรบกวนสอบถามเรื่องหุ้นยางพารา ระหว่าง STA กับ TRUBB ด้วยครับ
ถามเยอะหน่อยนะครับ  :D

ลูกอิสาน เขียน: การหาหุ้นที่กำไรจะโตมากๆ ผมก็ไม่ได้ใช้วิธีพิสดารอะไรเลยครับ ก็อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ดูข่าวที่ผู้บริหารให้สัมภาษณ์ อ่านแบบ 56-1 ติดตามข่าวบริษัทเป็นปกติเหมือนกับทุกๆคน หากบริษัทมีแผนการขยายงาน การปรับเปลี่ยนธุรกิจหรืออะไรก็แล้วแต่ที่กำไรอาจจะโต ผมก็สนใจทั้งนั้นและคอยติดตามความก้าวหน้า แต่ที่ผมให้ความสำคัญคือความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง เพราะบริษัทส่วนใหญ่ก็บอกว่ากำไรจะโตทั้งนั้น แต่เราต้องดูความเป็นไปได้ ดูเหตุและผลว่าจะทำได้จริงหรือไม่ หลังจากเราได้หุ้นที่เราแน่ใจว่ากำไรจะโตมากๆค่อนข้างแน่ เราก็ต้องไปดู valution ดูราคาหุ้นว่าแพงไปหรือเปล่า กรณี hemraj ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ผมติดตามเบาะแสจากหุ้น glow ผมเห็นว่าหุ้น glow จะเติบโตมากแต่ราคาขึ้นก็ขึ้นมาตอบสนองไปพอสมควรแล้ว ไปสะดุดที่โรงไฟฟ้าใหญ่ที่สุดของบริษัทที่จะก่อสร้างมีหุ้นส่วนน้อยอย่าง hemraj ถือหุ้นอยู่ด้วย 35% ผมลองหาส่วนแบ่งกำไรที่คาดว่าจะได้รับ นำไปรวมกับกำไรปกติของ hemraj พบว่าราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นค่อนข้างเยอะ ดีกว่าของ glow มาก เลยได้พุดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นหุ้นตัวนี้ในงานมีตติ้ง tvi ภาคใต้ครั้งก่อนเดือนมีนาคม แต่อย่ามองด้านได้ด้านเดียวครับ ความเสี่ยงก็มีอยู่เรื่องปัญหาการฟ้องร้องกับ NGO ถ้ามีผลจริงอาจทำให้โครงการล่าช้าไปบ้างแต่ที่สุดผมคิดว่าน่าจะผ่านไปได้ครับ...

ข้อสังเกตของผมประเด็นนึงคือปัจจุบันการลงทุนที่เน้นพื้นฐานแบบ vi เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะมีคนใช้แล้วได้ผลจริง ดังนั้นการแข่งขันหาหุ้นดีๆมีค่อนข้างสูง หากเราเจอหุ้นที่ดีและคิดว่าให้ผลตอบแทนต่อปีที่พอใจ อย่ารีรอครับต้องรีบจับจองเป็นเจ้าของ ไปตลาดตอนตีสามถึงต้องรอหน่อยแต่ดีกว่ามาตอนตลาดวายไปแล้ว..

แนวคิดการหาหุ้นลงทุน ผมพยายามมองง่ายๆว่า ราคาหุ้นขึ้นอยู่กับผลกำไร

1.เราก็เลือกหุ้นที่กำไรจะโตที่สุด
2.โดยที่มีความแน่นอนที่สุด
3.ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนอง

มันซับซ้อนขนาดนี้เองครับ...

suport495562 เขียน:ถามพี่โจ้ ช่วยวิเคราะห์ PTTRA ให้หน่อย ครับควรจะรับที่ราคาเท่าไหร่
ราคา 25 บาทถือยาว 2 ปีได้ไหมครับ

syj เขียน:วันนี้ มีข่าว SSE จะเข้ามาซื้อ EPCO
ราคา Tender Offer ที่ 2 บาท
แต่ดูๆ แล้ว จะเป็นไปได้หรือเปล่า

SPACK เผย SSE เสนอซื้อหุ้น EPCO จากผถห.ใหญ่ 2 ราย 43% ที่ 2.00 บ./หุ้น
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2553 17:31:20 น.
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์(SPACK)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วันนี้มีวาระที่ บมจ.ซันไซน์ คอร์ปอเรชั่น (SSE) ขอเสนอซื้อหุ้น บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ราย ราว 204.58 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 43% ที่ราคา 2.00 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ ทาง SSE จะซื้อหุ้น EPCO ในส่วนที่ SPACK และ SOMERS (U.K.) LIMITED ถือหุ้นอยู่ โดยทางข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่  ณ วันที่ 10 พ.ค.53 ปรากฎว่า SPACK ถือหุ้นใหญ่สุด 126,677,775 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24.58%

"SPACK ขายทั้งหมด และ SOMERS (U.K.) LIMITED  ก็ขายทั้งหมด จำนวนรวมกันประมาณ 43% และได้สิทธิรับปันผลระหว่างกาลด้วยถ้ามี"นายยุทธ กล่าว

หลังจากนี้ SPACK จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่อขออนุมัติการขายหุ้นครั้งนี้ ขณะที่ฝ่ายผู้ซื้อคือ SSE ก็ต้องนำเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน หากได้รับความเห็นชอบก็จะดำเนินการทันที และทาง SSE ก็จะต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น EPCO เพราะเป็นการเข้าซื้อหุ้นเกิน 25%

วันนี้ หุ้น EPCP ปิดตลาดที่ 1.88 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1.24 ล้านบาท เปิดตลาดที่ 1.88 บาท ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.89 บาท และ ต่ำสุดที่ 1.87 บาท

ส่วนหุ้น SPACK ปิดตลาดที่ 3.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2.11 ล้านบาท เปิดตลาดที่ 3.80 บาท ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.80 บาท และต่ำสุดที่ 3.78 บาท

ลูกอิสาน เขียน: เป็น PTTAR หรือ PHATRA หรือเปล่าครับ แต่ถึงเป็นตัวใดตัวนึงก็ต้องขอโทษด้วยครับ เพราะผมไม่ได้ติดตามหุ้นแบบนี้เลย ธุรกิจเข้าใจยาก ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้และตัวแปรเยอะ ถ้าให้แนะนำตัว PTT น่าจะดีกว่าเพราะมีการกระจายถือหุ้นหลายบริษัททำให้โดยรวมสามารถลดความผันผวนได้ รวมถึงผู้ประกอบการเบอร์ 1 ด้านพลังงาน ปิโตร แทบไม่มีคู่แข่งในประเทศครับ...

suport495562 เขียน:
ขอบคุณพี่โจครับ ถาม PTTAR ครับ อิอิอิ

RONNAPUM เขียน:

แต่ถ้าเชียร์ขอเป็นทีมเอเชียละกันครับ แบบเกาหลีไต้ที่นัดแรกชนะกรีซก็น่าเชียร์ครับ  เชียร์หรือดูบอลไม่มีอะไรเสียหายเป็นความสุขราคาถูก แต่อย่าให้ความโลภบังตาไปพนันบอลนะครับ เสียอนาคตมาไม่รู้กี่คนแล้ว...

Iceberg_s เขียน:ผมเคยได้ยินว่าพี่โจ อ่านข่าวจากทางเน็ต
พอจะแนะนำได้มั๊ยครับว่า อ่านของที่ไหนบ้าง