หน้า 87 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 8:29 pm
โดย TPH
ไอ้ Hi5 เนี่ยผมมีเพื่อนกับญาติมาถามว่าเคยเล่นหรือเปล่า ไอ้เราสงสัยว่าจะ in trend เลยถามกลับไปว่ามันคืออะไร พวกถึงกับส่ายหน้าและส่ายหัวไปและไม่คุยอีกเลย  :lol: สงสัยว่าผมจะแก่เกินไปแล้วมั้ง เพิ่งจะสามสิบต้น ๆ  :lol:

สำหรับกระทู้นี้เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นการลงทุนในหุ้นให้ผมเลย ผมเจอ web thaivi และก็ใช้เวลาเกือบ 3 เดือนที่จะไล่อ่านกระทู้ตะแกรงร่อนจนจบ อ่านไปงงไปก็กัดฟันอ่านจนจบ ไล่หาหนังสือที่พี่ VIB007 แนะนำตั้งแต่ขั้น basic จนถึง advance เลือกที่ดีที่เจ๋งอย่างละ 1 เล่ม โดยขั้นเบสิคผมเลือก one up on wall street ของ Peter Lynch ขั้นกลางผมเลือกของอ. Fisher Common Stock & Uncommon profit และขั้นสูงผมเลือกอ. Graham The Intellegent Investor มาอ่าน โดยรวมแล้วผมชอบของอ. Fisher มากตอนนี้กลับมาอ่านรอบที่ 3

พี่ VIB007 ผมมีคำถามมาถามบ้าง อาจจะเห่ยหรือไม่ก็ไม่รู้ ก็ลองตอบกลับมาดูได้ก็ขอบพระคุณอย่างสูง
1. บ.ที่อยู่ในตลาดหุ้นตัวใดที่มี High switching cost สูงครับ
2. ระหว่างบริษัทที่มี High switching cost สูงกับ barrier to entryสูง อย่างไหนดีกว่ากัน
3. เราสามารถนำหลักการลงทุนของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากฝั่งตะวันตกมาใช้กับตลาดบ้านเราได้หรือไม่
4. Margin of safety ในนิยามของพี่คืออะไร ผมเห็นแต่ละคนมีนิยามที่ไม่เหมือนกัน
5. เราจำเป็นต้องรู้วิธีการหามูลค่าโดย DCF หรือไม่ เพราะอะไร

รบกวนพี่ VIB007 แค่ 5 ก่อนเท่าที่คิดออกตอนนี้

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 9:24 pm
โดย hongvalue
พี่วิบูลย์มีคนรอคิวเยอะนะครับเนี้ย

กระทู้คุณ i will be vi

พี่ปรัชญาก็ให้มาถามพี่วิบูลย์



เห่อเห่อ  อีกหน่อยต้องกดบัตรคิวแล้วล่ะ

ใครได้คิวถามเบอร์อะไร

ผมกดก่อนละกันนะ เบอร์ 001

50 คำถาม เพิ่งถามไป 5 คำถาม

อิอิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:06 pm
โดย noooon010
VIB007 เขียน:
มีความสุขกับการถ่ายภาพนะครับผม :D

พอดีช่วงนี้ผมก็เข้า web กล้องเหมือนกันครับ
ถ่ายมาเกือบ 10ปี เดี๋ยวนี้อะไรๆมันเปลี่ยนเร็วจัง

เมื่อวานอ่านหนังสือกล้อง
เค้ายังบอกว่า ถ้าเราไม่พัฒนาตนเอง ไม่ศึกษาเพิ่ม ก็เท่ากับถอยหลัง

พอมาอ่านหนังสือ คุณ วินทร์ เลียววาริณ
(รอยเท้าเล็กๆของเราเอง)
หน้า23-25 เรื่องความฝัน

อ่านแล้วก็รู้สึกว่า จริงๆเราฝัน เรานึกได้
และคนที่ทำลายความฝันนั้น ส่วนหนึ่งก็คือเราเอง

ใครจะคิดว่าคนนั้นคนนี้เทพ ไม่เทพ หรือ เมพขิงๆ(ศัพท์เด็กแนว :lol: )

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ทุกคนก็คือ คนเหมือนกันครับ
ผมเข้าไปใน web กล้องบางอัน ก็โดนด่าเหมือนกันครับ
ใช้คำว่าด่า เพราะเค้ารู้สึกว่าเราโง่ ไม่รูเหรอว่ารุ่นนี้ มีอุปกรณ์/technology อะไรใหม่บ้าง

...แต่พอคุยกับเซียนถ่ายภาพข้างบ้าน
เค้าเป็นช่างภาพ ถ่ายภาพวันละ .... หลายบาทล่ะกันครับ

เค้ายังใช้กล้องเก่าๆ เค้าบอกแค่ว่า
อย่าหลงกับ technology
กล้องนี่ เค้าใช้แค่ความทนของกล้อง และมันตอบสนองการทำงานของเค้าก็พอ

....ผมนึกถึงประโยคที่มีเทพกล้อง(ในใจผม :lol: )บอกว่า

เราไม่ตอบสนองต่ออุปกรณ์ หมายถึงความสามารถเราไม่เท่าอุปกรณ์ที่เรามี

มันโดนมากเลยครับ
เพราะถ้าเราบ้าอุปกรณ์ เราก็เป็นแค่ level 1 ใน photography gr. เท่านั้นครับ
(level สูงสุด คือ 7 = เข้าใจและใช้อุปกรณ์ของตนเองอย่างคุ้มค่า)

ส่วนช่างภาพอีกคนที่พึ่งคุยกัน kenny p
ชื่อเค้าดังมาก

คุยกันแล้ว เป็นกันเองดี
แล้วผมว่า แนวทางของเค้าก็เป็นการทำงานแบบเน้นคุณค่าเช่นกัน

...
... มีหลายครั้งที่เราสามารถศึกษาแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าได้จากสิ่งต่างๆรอบตัว
และมีหลายครั้งที่เรานำแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ไปใช้ในชีวิตประจำวันเช่นกันครับ

จากผู้อ่านคนหนึ่ง ที่อยากขอบคุณทุกๆท่านที่ทำให้มีกระทู้ดีๆอย่างนี้ครับ
ขอให้ทุกท่านหลับฝันดีและมีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์แข็งแรงครับ

ปล. คิดว่า dow จะเหลือ 6000 จุดไหม เห็นกระทู้บางอันเค้าถามมา  :lol:  :lol: (ผมแซวเล่นนะครับ)

ปล.2 พออ่านหนังสือเกี่ยวกับ buffett อย่างที่พี่วิบูลย์พูดถึงแล้วรู้สึกว่าการลงทุนของเค้าทำให้เราลงทุนอย่างสบายใจจริงๆครับ

ปล.3 ผมชอบเล่มนี้มากๆครับ
พอๆกับ value way เลยครับ  :D

รูปภาพ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 12:03 am
โดย V_accy
เข้ามาแอบอ่าน
ขอบคุณพี่ๆลุงๆทุกคนที่แบ่งปันครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 12:07 am
โดย hongvalue
V_accy เขียน:เข้ามาแอบอ่าน
ขอบคุณพี่ๆลุงๆทุกคนที่แบ่งปันครับ

ช่วยขยายความหน่อยครับ

ว่าใครคือลุง

เดี่ยวเขาจะได้ตามมาเคลียร์ถูกคนครับ

พูดเล่นๆนะครับ

เอาเป็นว่ารู้กันครับ

ว่าลุงคือใคร

ก็คนที่อายุมากสุดที่โพสหน้าที่แล้วนั้นแหละครับ

และยังไม่ได้โพสในหน้านี้ ขึ้นต้นด้วยตัว p ลงท้ายด้วยตัว i

มีคนเดียว

ฮา

ป.ล. ผมไม่ได้ระบุชื่อนะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 12:11 am
โดย hongvalue
[quote="VIB007"]แล้วนี่ฮง
เราจบประเด็นหุ้นไทยหุ้นอเมริกาหรือยังนี่

ที่พี่ยังค้างอยู่มีเรื่องอะไรบ้างนะ
เท่าที่จำได้มี
หนึ่ง การถือเงินสด
สอง Margin of Safety
สาม การถือหุ้นตัวเดียว เสี่ยงมั๊ย
สี่ พี่เทพ
ห้า Hi-5

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 5:43 am
โดย Ryuga
MSFT ปีบัญชีเหมือน MBK บ้านเรา ถ้าใช้ปี 1995 เป็นฐาน นับจนถึงปัจจุบัน กำไร MSFT โต 21.8% ทบต้น ในขณะที่กำไรโต 23.9% ทบต้น (ตัวเลขที่ผมอ้างไม่ได้คิดแค่ปีหัวปีท้ายนะครับ แต่ใช้ปี 1995 เป็นฐาน แล้วรวมเอารายได้-กำไรทุกปีจากจุดนั้นมาจนปัจจุบันเป็นตัวคำนวณ บอกไว้ก่อนเผื่อใครไปคิดแล้วไม่ตรงกัน วิธีนี้จะฆ่ากิจการที่กำไรผันผวนในระหว่างกลางไปได้เลย)

เทียบเฉพาะใน DJIA ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของกำไร MSFT กับ INTC จะคล้ายคลึงกันตรงที่มันจะโตเป็นพิเศษตอนที่บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถัดจากนั้นอัตรากำไรสุทธิก็จะเริ่มลดลงเรื่อยๆ ต้นทุนขายเพิ่มสูงขึ้น (ราคาขายผลิตภัณฑ์ตก ยอดจำนวนขายเลยเพิ่ม ต้นทุนขายก็เพิ่มด้วย) ไปถึงจุดหนึ่งกำไรก็จะกระโดดอีกเพราะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซ้ำอีก

เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของเขาต้องสะท้อนความคาดหวังผู้บริโภคที่ต้องการของดีขึ้นประสิทธิภาพดีขึ้นเรื่อยๆ  MSFT แทบจะผูกขาด OS ถ้าไม่มีของใหม่แล้วเขาจะขายอะไรเพราะตลาดจะอิ่มตัวอย่างรวดเร็ว นึกถึง Moore หนึ่งในผู้ก่อตั้ง INTC ที่ตัวเองตั้งกฎขึ้นมาเองแล้วก็ต้องทำตามกฎนั้นเองเพื่อไม่ให้ถูกฆ่าตายในโลกแห่งการแข่งขัน ผมไม่แน่ใจว่ามีบริษัท software มากน้อยแค่ไหนในอเมริกาที่ทำลายตัวเองแล้วไม่ประสบความสำเร็จกับของใหม่จนต้องม้วนเสื่อกลับบ้านเก่า ประการหนึ่งที่ผมเห็นว่าปู่บัฟไม่ชอบหุ้นประเภทนี้ก็เพราะมันต้องทำลายตัวเองด้วยภาวะจำยอมอยู่ตลอดเวลา

ผมไม่รู้ตลาดน้ำดำของอเมริกา แต่เฉพาะส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มในอเมริกา PEP ขึ้นเป็นเบอร์ 1 นำ KO มาหลายปีแล้ว หลังๆ มาส่วนต่างของส่วนแบ่งตลาดยิ่งห่างกัน ไม่ใช่ว่า PEP เก่ง แต่เป็นเพราะส่วนแบ่งตลาด KO ถอยลงไปเองในขณะที่ PEP ยังรักษาส่วนแบ่งไว้ได้ใกล้เดิม สัก 10 ปีที่แล้ว KO มีกำไรเป็น 2 เท่า มีมูลค่าตลาดเป็น 3 เท่าของ PEP มาวันนี้ ทั้งกำไรทั้งมูลค่าตลาดจี้ก้น KO มาติดๆ ผมดูผ่านๆ ไม่ลึกซึ้งอะไรนัก เห็น KO ไปซื้อกิจการเครื่องดื่มพลังงาน น้ำผลไม้ น้ำบ้าน้ำบออะไรอีกก็ไม่รู้หลายๆ ที่ ก็พอจะเร่งให้กำไรโต 2 หลักได้หลาย Q พ้นหอยทาก period มาได้หน่อย

พี่วิบูลย์มีความเห็นเรื่องทำลายตัวเองของ KO มั้ยครับ  :8)

- - - - - - - - - -

นวัตกรรมเป็นหัวใจหนึ่งของความสำเร็จแต่ในหลายๆ ธุรกิจก็ไม่ค่อยจำเป็นนัก

อย่าง McDonald's หรือ Starbucks ถึงจะเป็นกิจการระดับโลก สินค้าอาหารของเขาก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีนวัตกรรมที่วิจิตรพิสดารมากมายอะไร Starbucks นี่ว่าจะขายกาแฟก็ไม่เชิง เข้าใจว่าเขาขายสุนทรียรส

การตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้ในระดับโลกเป็นเรื่องที่น่าสนใจและท้าทายกว่า

ทำไมรถยนต์อเมริกาถึงแพ้ญี่ปุ่น  :?

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 5:45 am
โดย Ryuga
มาฟังพี่ฮงขงเบ้งคุยสนุกดี ขอเสริมนิดหน่อยนะครับเรื่องโตทั่วโลก

ข้อเท็จจริงที่ผมเห็นคือ โตทั่วโลกหรือไม่ไม่สำคัญ สำคัญแค่ว่ามันจะโตต่อไปได้หรือไม่

บริษัทข้ามชาติสัญชาติอเมริกาหลายๆ แห่งที่ผมเห็นนั้น อาจมีรายงานว่าตัวเองขยายกิจการไปต่างประเทศมากมายเป็นสี่ซ้าห้าสิบประเทศ บางบริษัทก็เยอะกว่านั้น

แต่ถ้าใครจะคิดว่ากำไรบริษัทจะโตได้ 40-50 เท่าตามการคูณด้วยจำนวนประเทศ(หรือจำนวนประชากร) ก็ฝันเฟื่องดีๆ นี่เอง เพราะตลาดใหญ่ที่สุดของโลก/ผู้บริโภคใหญ่ที่สุดของโลกคืออเมริกาซึ่งมี GDP หย่อน 1/4 ของโลกนิดหน่อย

ตลาดนอกอเมริกานั้นมีความเสี่ยง มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์มากมาย กำลังซื้อก็ต่ำกว่า ค่านิยม การบริโภค วัฒนธรรมก็ไม่เหมือนกันรวมถึงแรงเสียดทานจากผู้ประกอบการเจ้าถิ่น แล้วรายได้ต่อหัวประชากรของประเทศอื่นที่ต่ำกว่าก็ทำให้เขาต้องขายของชนิดเดียวกันในราคาแค่ต่ำๆ เมื่อเทียบกับในบ้านตัวเอง

เค้าอาจรายงานว่าขยายกิจการไป 50 ประเทศทั่วโลก แต่พอดูจริงๆ รายได้-กำไร 70-80% ขึ้นไปกลับอยู่เฉพาะในอเมริกา

ขยายกิจการไปทั่วโลกแล้วยังไง กำไรหลักๆ มันก็ยังอยู่ในบ้านเขานั่นแหละ ทั่วโลกมีปัญหาเขาก็ไม่เดือดร้อนมากนัก แต่พอในบ้านมีปัญหาก็เดือดร้อนกันหมด

สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กแค่ไหน ทรัพยากรธรรมชาติอะไรก็ไม่มี แต่ชัยภูมิดีหน่อยเพราะเป็นเส้นทางเรือสินค้าผ่าน

ประเทศเล็กจิ๊บๆ แค่นี้ แล้วทำไมเขาโตได้โตดีจนกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ตลาดในประเทศเล็กนิดเดียวเท่านั้น

คนไทยในบริษัทไทย ถ้าไม่ขังตัวเองอยู่ในกรอบว่าตัวเองโตไม่ได้แล้วทำไมจะโตไม่ได้ล่ะ  :8)

มันก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าบริษัทอเมริกาได้เปรียบบริษัทไทยหรือบริษัทสัญชาติอื่นๆ ในเรื่องตลาดที่ใหญ่ที่สุด มันหมายความว่าถ้าเราจะโตให้เท่าเขา เราต้องทำให้ได้เหนือกว่าเขา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราทำไม่ได้  :8)  :8)

ผมสงสัยเรื่องที่คนพูดว่าหุ้นอเมริกาโตได้ทั่วโลกแต่หุ้นไทยโตไม่ได้นั้น มีสักกี่คนที่รอบรู้เรื่องหุ้นอเมริกาจริงๆ  :?

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 8:42 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:

อืม พี่ผมไม่เคยเห็นอาทิตย์ขึ้นมาหลายเดือนแล้ว

เดือนกันยาปีที่แล้วไป ปราย มาที่แถวแม่ฮ่องสอนอะ

ไปส่งของกะเพื่อน รถ atv อะขับมันดีนะ
ที่ถามนี่เพราะผมก็ม่ได้เห็นอาทิตย์ขึ้นมาหลายปี
เพราะตื่นสายเกินเจ็ดโมงทุกที
แต่ทุกวันนี้จะเห็นอาทิตย์ขึ้นแทบทุกเช้า
เพราะตื่นเช้าเกือบทุกวัน
(อาจจะนอนน้อยลงตามวัย ฮุ ฮุ)

เช้าๆสวยดีนะ อากาศดีด้วย ไม่ร้อน
สำคัญอย่านอนดึก
hongvalue เขียน: ว่าแต่ผมว่าพรุ่งนี้ พี่วิบูลย์ต้องมาตอบคำถามผมต่อแล้วนะ

เดี่ยวจะกลายเป็นมาแซวกันเยอะเกินไป

คนอ่านเขาจะเข้ามาฟังทีเด็ดพี่วิบูลย์ต่ออะ

ก็สี่เรื่องข้างบนนั้นแหละ hi5 ตอบกันไปแล้วนะ
แซวกันบ้างหนุกๆ
คุยกันเรื่องเบาๆสบายๆบ้างนะ
ชีวิตมันไม่ได้ซีเรียสตลอดเวลาหรอกน้อง
อย่างที่ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ว่า
"ทำใจให้สงบ แล้วจะพบความสุขที่เยือกเย็น"

อย่ารีบร้อน ใจเย็นๆ
พี่ยังจำได้ว่าถามอะไรบ้าง
แต่ต้องขอเวลาหน่อย อิ อิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 8:48 am
โดย VIB007
Ryuga เขียน:

นวัตกรรมเป็นหัวใจหนึ่งของความสำเร็จแต่ในหลายๆ ธุรกิจก็ไม่ค่อยจำเป็นนัก

อย่าง McDonald's หรือ Starbucks ถึงจะเป็นกิจการระดับโลก สินค้าอาหารของเขาก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีนวัตกรรมที่วิจิตรพิสดารมากมายอะไร Starbucks นี่ว่าจะขายกาแฟก็ไม่เชิง เข้าใจว่าเขาขายสุนทรียรส
อันนี้ลองคิดดูดีๆ
คุณ Ryuga ว่าที่พูดมาข้างบนนั้น
มันเป็น"ความเชื่อ"หรือ"ความจริง"
ช่วยบอกผมหน่อย

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 8:52 am
โดย VIB007
[quote="Ryuga"]

พี่วิบูลย์มีความเห็นเรื่องทำลายตัวเองของ KO มั้ยครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 9:54 am
โดย naris
VIB007 เขียน:
ใกล้เคียงมาก
naris ลองยกตัวอย่างความเชื่อกับความจริงให้ฟังหน่อย
เอาจากประสบการณ์จริงนะ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 12:42 pm
โดย hongvalue
Ryuga เขียน:มาฟังพี่ฮงขงเบ้งคุยสนุกดี ขอเสริมนิดหน่อยนะครับเรื่องโตทั่วโลก

พี่ริว ขอเยอะๆ เลย

พี่ริวครบเครื่องอยู่แล้ว ผมจะรอฟังนะ

เอาเยอะๆๆๆๆๆๆ เลยนะ

ไม่ชอบนิดหน่อยยย

:D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 1:25 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
แล้วเขาก็ถามว่า  น้องเดี่ยวนี้เขามีตั๋วทองใช่ไหม

ผมไม่แน่ใจเลยถามกลับไปว่า  หมายถึง gold future? เหรอ

เขาบอกเออ ใช่ อะไรเจอร์ๆนั้นแหละ  แล้วเขาก็บอกผมว่า

ทำไมน้องไม่เล่นล่ะ เล่นหุ้นมันเสี่ยงจะตาย

ผมก็เงียบๆ เพราะคิดว่าพูดไปเดี่ยวยาว แล้วผมก็เจ็บไหล่มาก

นึกอะไรไม่ค่อยออก ผมบอกว่าผมไม่กล้าซื้อ gold future เพราะว่า

ทองมันขึ้นมาเยอะแล้ว ผมดูไม่เป็น

หมอนวดบอกว่า น้องเชื่อพี่ มันลงไปเดี่ยวมันก็ขึ้นมา

ทองไม่มีตก น้องเชื่อพี่ น้องต้องคิดอย่างพี่

ผมก็อืม อืม ครับครับ ไม่กล้าเถียง เดี่ยวโดนกดไหล่หนักๆอีก

:lol:  :lol:   ผมมานั่งคิดดูคนเราส่วนใหญ่ไม่หาข้อเท็จจริง

อาศัยแต่ความเชื่อ และภาพเล็กๆมายึดถือว่าเป็นจริง


ไม่มีไรเล่าให้ฟังเฉยๆว่า gold future นิยามมากเลย

เพราะผมไม่เคยได้ยินหมอนวดที่ไหน พูดเรื่องการเก็งทองเลย

เพิ่งเคยได้ยินเนี้ยแหละ
เอาเรื่อง"ทอง"ก่อน
เพราะกำลังฮอต

อย่างโบราณเขาว่าไว้เรื่อง"ตื่นทอง"
สมัยนี้ก็บ้าทองไม่แพ้กัน
ยิ่งราคาทองขึ้นเอาๆ
เป็นใครก็ตาโต เห็นแล้วโลภ อยากรวยไปหมด
เชื่อไหมว่า
ในสถานการณ์เช่นนี้จะมี"เซียนทอง"ปรากฏตัวออกมา
โดยเฉพาะคนข้างบ้านที่ซื้อทองไว้ตั้งแต่ไม่กี่พันบาท
แล้วก็เอาออกมาขายได้กำไรหลายเท่า
เสร็จก็เริ่มบอกต่อ
ให้รู้ว่า"กูแน่"
พอขายทองที่มีจนหมด
เสร็จ"ราคาทอง"กลับไปต่ออีก
แล้วจะทำอย่างไร????

คนส่วนใหญ่บอกว่า
เดี๋ยวมันก็กลับมา
แต่มันไม่กลับนะท่าน
มันไปต่อ
เช่น ซื้อทองคำมาเก็บไว้เมื่อห้าปีที่แล้ว
ที่ราคา 6,000 บาท
ขายไปเมื่อวานที่ 15,000 บาท
คิดว่าเดี๋ยวมันก็กลับมา
แต่มันพุ่งต่อไปที่ 17,000 มา 18,000
ไป 19,000 - 20,000 - 21,000 ไปเรื่อยๆ

ถึงตอนนี้รู้สึกอย่างไรครับ
จาก"ฉลาด"กลายเป็น"โง่"ไปเลย
เพราะขายหมู กำไรหด
จิตวิทยาเช่นเดียวกับคนเล่นหุ้น

เสร็จแล้วก็ทน"โง่"ไม่ได้
ก็กูเป็น"เซียน"นี่หว่า
เลยกลับเข้าไปใหม่
คราวนี้ติดเลยครับติด
แกะไม่ออกแล้ว

สุดท้ายก็ต้องรอไปอีกหลายปี
กว่าราคาทองจะขึ้นกลับมาที่เดิม

มันเป็นอย่างนี้มาหลายร้อยปีแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ทิวลิป น้ำมัน ทองคำ
แต่มนุษย์ไม่เคยเรียนรู้จากอดีต
และคิดว่า
"โลกสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่เหมือนเดิม"

ใช่โลกไม่เหมือนเดิม
แต่จิตใต้สำนึกของมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยน
พฤติกรรมของมนุษย์ในเรื่องความโลภไม่เคยเปลี่ยน
ฟองสบู่มักเกิดจากความโลภ
และแตกเพราะความกลัว

ใครมีทองตอนนี้อยากซื้อก็ซื้ออยากขายก็ขาย
ส่วนผม ไม่มีให้ขายและไม่คิดจะซื้อทองสักนิดตอนนี้
ถ้ามีจะขายให้หมดพอร์ตเลย
แล้วก็นอนหลับฝันดี
เลิกดูทองไปอีกหลายปี
ขึ้นไปบาทละ 20,000 ก็ไม่เป็นไร
กำไรแค่นี้น่าจะ"พอใจ"แล้ว

วันนี้ท่าน"ขาย"ทองหรือยัง ฮุ ฮุ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 10:39 pm
โดย BABY TERMITE
VIB007 เขียน: อันนี้ลองคิดดูดีๆ
คุณ Ryuga ว่าที่พูดมาข้างบนนั้น
มันเป็น"ความเชื่อ"หรือ"ความจริง"
ช่วยบอกผมหน่อย
นวัตกรรมของ McDonald's หรือ Starbucks นั้น น่าจะเป็นความรู้ในการจัดการระบบ นะครับ ไม่ง่ายนะครับที่จะจัดการได้อย่างนั้น เทรนคนได้อย่างนั้น

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 8:34 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
พี่วิบูลย์มีคนรอคิวเยอะนะครับเนี้ย

เห่อเห่อ  อีกหน่อยต้องกดบัตรคิวแล้วล่ะ

ใครได้คิวถามเบอร์อะไร

ผมกดก่อนละกันนะ เบอร์ 001

50 คำถาม เพิ่งถามไป 5 คำถาม

อิอิ
เข้ามาสารภาพบาปวะฮง
ท่าทางพี่จะตอบไม่ทันแล้ว
เวลาแต่ละวันเข้าเวปน้อยเต็มที

นี่ห้าคำถามใช้เวลากว่าห้าวัน
ยังคุยกันไม่จบเลยเอาเป็นว่า
50 คำถามเราจะใช้เวลากัน 1 ปีแล้วกัน อิ อิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 8:35 am
โดย VIB007
BABY TERMITE เขียน: นวัตกรรมของ McDonald's หรือ Starbucks นั้น น่าจะเป็นความรู้ในการจัดการระบบ นะครับ ไม่ง่ายนะครับที่จะจัดการได้อย่างนั้น เทรนคนได้อย่างนั้น
มีใครมีความเห็นอะไรอย่างอื่นอีกไหมเรื่องนี้

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 8:41 am
โดย VIB007
[quote="naris"]
ส่วนอีกสองตัวนี้ติดไว้ก่อนนะพี่วิบูลย์ ไว้พรุ่งนี้คงจะว่างพิมพ์อีกรอบครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 9:12 am
โดย newbie_12
นวัตกรรมเป็นหัวใจหนึ่งของความสำเร็จแต่ในหลายๆ ธุรกิจก็ไม่ค่อยจำเป็นนัก

อย่าง McDonald's หรือ Starbucks ถึงจะเป็นกิจการระดับโลก สินค้าอาหารของเขาก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจำเป็นต้องมีนวัตกรรมที่วิจิตรพิสดารมากมายอะไร Starbucks นี่ว่าจะขายกาแฟก็ไม่เชิง เข้าใจว่าเขาขายสุนทรียรส
ทั้ง McDonald's และ Starbucks นี่แหละ สุดยอดนวัตกรรมเลยหล่ะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 9:17 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:

ผมเห็นด้วยครับว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ

คิดเอง ชอบขอคำตอบกันตรงๆ

อย่างเช่น ถามก็ไม่ถามวิธีคิด

แต่มาถามว่า xxx yyy น่าซื้อไหม

พอติดหุ้นก็โทรไปถามโทรทัศน์

ก็เลยเป็นช่องทางบางคนเอาไว้ปั่นหุ้น

โดยสร้างภาพว่าตัวเองเก่ง ดี ได้กำไรเยอะ

เวลาจะออกของก็ปล่อยให้คนอื่นตามเว็บบอร์ด

พวกนี้ก็มีถมไป

ถ้าคนอ่านคิดว่าตัวเองก็สามารถหาหุ้นเองได้

ไม่ต้องไปยืมจมูกเซียนๆหายใจ

ก็คงจะไม่ติดหุ้นกัน

คนรู้จักผมยังชอบโทรมาบอกเลยครับพี่

เฮ้ย ฮงอ่านบอร์ดยัง xxx เชียร์ตัวนี้แล้วนะ

สำหรับผมแล้วมันไม่เห็นมีค่าอะไรเลย

พวกเราทุกคนมีมือ มีเท้า มีสมอง ทำไมต้องไปซื้อตามคนอื่น

พอซื้อตามแล้วไม่ดีก็ไปว่าเขา
เวลามีคนมาถามผม
คำถามที่ผมได้ยินมากที่สุดคือ
"ตอนนี้ซื้อหุ้นตัวไหนดี"
อยากรู้อยู่แค่เนี่ย

ไม่คนมาถามเลยว่าผมมีหลักการในการลงทุนอย่างไร

เราสนใจแค่ผลลัพธ์และวิธีการ
แต่ไม่รู้ไม่สนใจหลักการ

เรามีแต่"วิธีการ"
แต่ไม่มี"หลักการ"
พอวันหนึ่งสถานการณ์มันนอกเหนือจากวิธีการที่เรารู้
เราก็ไปไม่ถูก

แต่ถ้ามีหลักการ
มันปรับเปลี่ยนไปได้สารพัดนึก

หลักการเดียวกัน
แต่วิธีการต่างกัน
มีให้เห็นอยู่เยอะแยะ

การศึกษาบ้านเรามันสอนแต่ตอบข้อสอบ ก ข ค
คนไทยเลยสนใจแต่ผลลัพธ์ว่าจะกาข้อไหนถูก

ถ้าให้ดีต้องเลิกข้อสอบอัตนัย (เลือกข้อที่ถูก) ในโรงเรียน
เปลี่ยนเป็นปรนัย (เขียนคำตอบเอง) ให้หมด
คนไทยถึงจะยอมหัดคิดเองบ้าง

คนไทยถ้าคิดเองเป็นคงไม่ยอมให้ใครมาปลุกระดม
จูงจมูกเหมือนทุกวันนี้

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 9:23 am
โดย VIB007
newbie_12 เขียน: ทั้ง McDonald's และ Starbucks นี่แหละ สุดยอดนวัตกรรมเลยหล่ะครับ
เห็นไหมว่าเราเริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันแล้ว
มันสนุกไหมละที่เราเห็นต่างกัน
แทนที่เราจะไปหาเสื้อมาคนละสีมาใส่
แล้วประท้วงกันข้างถนน
ลองมาค้นหา"ความจริง"ซิว่า
ความจริงในเรื่องนี้คืออะไร
.....ฮง ช่วยเป็น Moderator (เจ้าภาพ) ให้หน่อยเรื่องนวัตกรรมนี้
บางคนบอกไม่จำเป็น
บางคนบอกสุดยอด

อย่าสรุปเอาเองก่อนนะ
ว่ากันในกระทู้นี้หละไม่ต้องตั้งใหม่

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 9:27 am
โดย por_jai
newbie_12 เขียน:
ทั้ง McDonald's และ Starbucks นี่แหละ สุดยอดนวัตกรรมเลยหล่ะครับ
ไม่ได้คุยกันนานเล่าให้ฟังหน่อยสิ
เป็นคนในวงการหรือเปล่า
ผมก็เคยทำขาย/ตลาดมา30กว่าปี
ผมอยากรู้ว่าสองเจ้านี้มี
สุดยอด"นวัตกรรม(innovation)"ตรงไหนบ้าง
ถ้าเป็นเรื่อง รูปธรรม ผมมองไม่เห็นนะเล่าให้ฟังหน่อย
แต่ถ้าเป็น นามธรรม ผมเองก็อยากทราบเหมือนกันว่ามันสร้างมาได้อย่างไร
ที่ผมมองเห็นเด่นสุดเรื่องนี้ก็คงเป็น Brand
ยังมีอย่างอื่นอีกมากมายใช่ไหม เล่าให้ฟังหน่อย
เวลามีคนเก่งๆการตลาดอย่างนี้มาเล่า
ชอบฟังเป็นcase studyมาก

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 9:30 am
โดย por_jai
:8) ดีครับ
     เรื่องมาร์เก็ตติ้งแบบไม่เชียร์ซื้อเชียร์ขายนี่ชอบถกครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 9:37 am
โดย sai
por_jai เขียน: ไม่ได้คุยกันนานเล่าให้ฟังหน่อยสิ
เป็นคนในวงการหรือเปล่า
ผมก็เคยทำขาย/ตลาดมา30กว่าปี
ผมอยากรู้ว่าสองเจ้านี้มี
สุดยอด"นวัตกรรม(innovation)"ตรงไหนบ้าง
ถ้าเป็นเรื่อง รูปธรรม ผมมองไม่เห็นนะเล่าให้ฟังหน่อย
แต่ถ้าเป็น นามธรรม ผมเองก็อยากทราบเหมือนกันว่ามันสร้างมาได้อย่างไร
ที่ผมมองเห็นเด่นสุดเรื่องนี้ก็คงเป็น Brand
ยังมีอย่างอื่นอีกมากมายใช่ไหม เล่าให้ฟังหน่อย
เวลามีคนเก่งๆการตลาดอย่างนี้มาเล่า
ชอบฟังเป็นcase studyมาก
นวัตกรรมที่เด่นของแมคโดนัลผมมองว่าอาจไม่ได้เป็นเรื่องการพัฒนาสินค้าอย่างเดียวนะครับ แต่เท่าที่สังเกตุดูเค้ามีวิธีการที่แยบยลที่จะดึงดูดให้ลูกค้าเค้าสามารถแวะเข้ามาที่ร้านได้เป็นประจำสม่ำเสมอ เมื่อเข้าบ่อยก็จะชินและ มาเรื่อยเรื่อยครับ เช่นจะมีกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับเด็กเสมอเสมอ และ มีรายการแฮปปี้มิลค์ที่เป็นรายการอาหารที่ขายพร้อมของเล่นเด็กชิ้นเล็กเล็ก(มีเป็นชุดชุดตามความนิยมในช่วงนั้นนั้น) และมีเป็นคอลเล็กชั่นหนึ่งชุดหลายตัว และ ค่อยค่อยแลกได้อาทิตย์ละตัว ทำให้ลูกค้าต้องเข้ามาที่ร้านเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพราะผมสังเกตุเองจากน้องชาย(อายุ  28 แล้ ว) ดูแกชื่นชอบสะสมพวกนี้และเป็นลูกค้าของ แมค เสมอ และเห็นกลุ่มลูกค้าไม่ใช่เด็กที่สะสมของพวกนี้เยอะเหมือนกัน อีกคนก็ลูกสาวผมรบเร้าทุกอาทิตย์ว่าจะมีแจกนู้นแจกนี่ต้องไปซื้อครับ อิอิ เด๋วรอพี่ newbie_12 มาเล่าต่อดีกว่า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 9:54 am
โดย por_jai
sai เขียน: นวัตกรรมที่เด่นของแมคโดนัลผมมองว่าอาจไม่ได้เป็นเรื่องการพัฒนาสินค้าอย่างเดียวนะครับ แต่เท่าที่สังเกตุดูเค้ามีวิธีการที่แยบยลที่จะดึงดูดให้ลูกค้าเค้าสามารถแวะเข้ามาที่ร้านได้เป็นประจำสม่ำเสมอ เมื่อเข้าบ่อยก็จะชินและ มาเรื่อยเรื่อยครับ เช่นจะมีกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับเด็กเสมอเสมอ และ มีรายการแฮปปี้มิลค์ที่เป็นรายการอาหารที่ขายพร้อมของเล่นเด็กชิ้นเล็กเล็ก(มีเป็นชุดชุดตามความนิยมในช่วงนั้นนั้น) และมีเป็นคอลเล็กชั่นหนึ่งชุดหลายตัว และ ค่อยค่อยแลกได้อาทิตย์ละตัว ทำให้ลูกค้าต้องเข้ามาที่ร้านเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพราะผมสังเกตุเองจากน้องชาย(อายุ  28 แล้ ว) ดูแกชื่นชอบสะสมพวกนี้และเป็นลูกค้าของ แมค เสมอ และเห็นกลุ่มลูกค้าไม่ใช่เด็กที่สะสมของพวกนี้เยอะเหมือนกัน อีกคนก็ลูกสาวผมรบเร้าทุกอาทิตย์ว่าจะมีแจกนู้นแจกนี่ต้องไปซื้อครับ อิอิ เด๋วรอพี่ newbie_12 มาเล่าต่อดีกว่า

สมัยผม
อย่างโซนี่ออกวอล์คแมนจึงจะนับเป็นนวัตกรรมครับ
การแจกของถือเป็นตัวP promotion ส่งเสริมการขายเท่านั้นเองครับ
เปิดใจมาแลกเปลี่ยนความรู้กัันนะครับ ตามที่วิบูลย์ว่า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 10:11 am
โดย hongvalue
VIB007 เขียน: .....ฮง ช่วยเป็น Moderator (เจ้าภาพ) ให้หน่อยเรื่องนวัตกรรมนี้
บางคนบอกไม่จำเป็น
บางคนบอกสุดยอด

อย่าสรุปเอาเองก่อนนะ
ว่ากันในกระทู้นี้หละไม่ต้องตั้งใหม่

เหว๋อ ให้ผมเป็นเจ้าภาพเนี้ยนะ


เดี่ยวตอนเที่ยงผมมาตอบนะครับ พอดีต้องไปดูหุ้นก่อนครับ

dowjone อาการหนักมาก ให้มันลงไปเยอะๆเลยก็ดีเหมอืนกันนะ

พูดถึง เห่อเห่อ

เดี่ยวมาตอบครับพี่วิบูลย์

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 1:01 pm
โดย hongvalue
แหม ให้ผมเป็นเจ้าภาพ แต่อย่าสรุปเอาเอง

แล้วแบบนี้จะให้ตอบว่าไงอะ

ผมเปิดประเด็นใหม่ดีกว่า



ทำไมปั้มน้ำมัน jet (สมัยก่อน)ถึงมีคนนิยมเข้าไป

มีคนบอกว่าเป็นเพราะห้องน้ำสะอาดกว่าปั้มอื่นๆ

ผมก็ไม่รู้ว่า ปั้ม jet ทำแบบนี้แล้วลูกค้าเยอะจริงเหรอ

แต่ผมคนนึงนะที่ชอบเข้าปั้ม jet ห้องน้ำกว้างและสะอาด

ไม่เหมือนบางปั้ม แคบๆ เหม็นๆ อ่างล้างมือก็โสโครก ship

สรุป ห้องน้ำปั้ม jet เป็น innovation หรือป่าว คงไม่ใช่

แต่เป็น diffentation มากกว่า

สรุปว่า เราจะเรียก แบบไหนว่า นวัตกรรม แบบไหนว่า ความแตกต่างล่ะ

นวัตกรรมน่าจะมาถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ผ่านการวิจัยมาแล้วหรือป่าว

อย่าง wal-mart ใช้ just in time,rfid , และการติดวิทยุสื่อสารและระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมให้รถบรรทุก ถ้ารถส่งของเสร็จก็แวะรับสินค้าจากผู้ผลิตบริเวณใกล้เคียง  จะได้ประหยัดต้นทุนไม่ต้องตีรถกลับป่าวๆ


แบบนี้สำหรับผมถือเป็น innovation ในการประหยัดต้นทุนนะ

หรือยังเมื่อก่อนมี email ธรรมดา แล้วมีคนทำ instant message

แบบนี้ผมถือว่า instant message เป็น innovation นะ



ประเด็นคือ นืยามของ innovation แต่ละคนเหมือนกันป่าว


ผมเปิดประเด็นให้แล้วนะพี่วิบูลย์  :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 1:23 pm
โดย mprandy
กระทู้ classic ที่อ่านกี่ทีก็ยังไม่เบื่อ

เรื่อง innovation เป็น key success หรือไม่ ความเห็นมันต่างกันเยอะจริง ๆ ไม่เว้นแม้แต่แวดวง VI

บางคนบอกให้เลือกบริษัทที่มี innovation บางคนบอกว่าอย่าเด็ดขาด ให้เืลือก copycat แทน

ของอย่างนี้ไม่มีใครถูกผิด

ดูเหตุผลของเขา แล้วเอามาพิจารณากันว่าอะไรเป็นอะไร ดีกว่าหรือเปล่า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 1:30 pm
โดย naris
เรื่องนวัตกรรมเนี่ยผมว่ามันมีทั้งจับต้องได้และไม่ได้นะพี่วิบูลย์  สินค้าดังติดตลาดที่ผู้บริโภคยอมรับ จะต้องมีทั้งสองตัว แต่มีน้อยมากแตกต่างกัน และทั้งสองอย่างก็ต่างมีจุดอ่อนจุดแข็งที่ต่างกัน

ไอ้เจ้าจับต้องได้นี่ เช่นสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้าแบบพี่ว่าไว้ ต้องอยู่ในเขตที่กฎหมายเขาเอื้อกับผู้คิดค้น
แผนการรบจะใช้ได้ผลเมื่อเราเป็นผู้ออกแบบสถานที่รบเอง ฝรั่งตาน้ำข้าวที่ถนัดในเรื่องการค้นคว้าวิจัย จึงพยายามออกกฏหมายนี้ไปทั่วโลก เพื่อลบจุดอ่อนและสร้างจุดแข็ง แต่จุดอ่อนก็อยู่ที่ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการออกแบบพัฒนาและวิจัยที่สูง ถ้าไปอยู่ในประเทศที่ไม่เอื้อเช่นจีน ก็เสร็จพี่จีนเช่นกัน เพราะพี่จีนต้นทุนถูกกว่า คอยก๊อปอย่างเดียว 555

ส่วนไอ้เจ้าจับต้องไม่ได้นี้ เป็นนามธรรม ใช้ความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นหลัก อยู่ในฐานความเชื่อที่ว่า ราคาไม่มีผล ขอให้มีความพอใจ
ซึ่งทำได้จากการสร้างความเป็นพรีเมี่ยมในสายตาผู้บริโภค และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ตอบสนองข้อ1
จุดอ่อนในข้อนี้อยู่ที่ต้นทุนในการสร้างภาพพจน์ สร้างสิ่งที่ฟุ่มเฟือยทางความรู้สึก จับต้องไม่ได้(ค่าการตลาด)

ย้อนกลับมาหาพี่แม็ค พี่สตาร์บัค พี่โค้ก ผมว่าเขาเน้นข้อสองเป็นหลัก
พี่แม็คกับพี่บั๊ค ถ้าพูดถึงงบการเงินจะเห็นว่ากลยุทธ์ทั้งสองมีทำเลเป็นองค์ประกอบ ทำให้เกิดfixed costที่สูงกว่าพี่โค้กและถ้าเทียบกับยอดขาย พี่บั๊กน่าจะเหนื่อยสุดในสามข้อนี้เพราะเป็นของฟุ่มเฟือย ราคาสูง แถม fixed costสูงกว่าอีกสองที่ๆเหลือ  
เลยต้องแก้เกม ด้วยการปิดสาขาที่คนน้อย ไม่เป็นหน้าเป็นตา และจับราคาต่อแก้วที่ถูกลง เพื่อให้ยอดขายเทียบค่าโสหุ้ยไม่เพิ่มนั่นเอง
ส่วนพี่แม็คเป็นของกินที่จำเป็นอยู่แล้ว เลยอาจมีการปิดสาขาที่น้อยหน่อย แต่กระตุ้นกลุ่มลูกค้าโดยการลดราคาให้ถูกลงตามเม็ดเงินในกระเป๋าของพี่กัน
สุดท้ายพี่โค๊ก ต้นทุนหลักๆสี่ส่วนคือ ค่าเสื่อมโรงงาน ค่าการตลาด และระบบขนส่ง และต้นทุนสินค้า โชคดีที่ปีนี้วัตถุดิบและค่าขนส่งลดลง ทำให้ไม่น่าจะเหนื่อยเพราะเศรษฐกิจมาก แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือเทรนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ดื่มน้ำดำน้อยลง และของเลียนแบบที่ชักจะมากขึ้นเรื่อยๆมากกว่าครับ

ปล.นั่นเป็นความเห็นล้วนๆนะครับ :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 1:38 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:แหม ให้ผมเป็นเจ้าภาพ แต่อย่าสรุปเอาเอง

แล้วแบบนี้จะให้ตอบว่าไงอะ

ผมเปิดประเด็นใหม่ดีกว่า
ไม่ถนัดเป็นกรรมการใช่ไหมล้า
ชอบชกเองมากกว่าดิ

คืออย่างนี้
ที่ให้ฮงเป็นเจ้าภาพนะ
เราจะได้เรียนรู้ความอดทนที่จะไม่ด่วนสรุปเรื่องเอาเอง
ต้องรวบรวมข้อมูลแล้วให้คู่ต่อสู้ค่อยๆคลายของออกมา
จากนั้นก็ค่อยๆตีเข้าไปทีละนิด
จนหมดหนทางต่อสู้เอง
มันก็ยาก แต่ก็อยากให้ลองดู
แต่อย่าตอบเองก่อนนะ

พี่ว่าประเด็นของ Starbuck กับ Mcdonald นี่ใช้ได้เลย
บางท่านบอกว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ต้องใช้นวัตกรรม
บางท่านบอกบริษัทเหล่านี้หละสุดยอดนวัตกรรม
เลยอยากรู้ว่าจริงๆแล้ว
บริษัทบริการอย่างนี้ต้องมีนวัตกรรมหรือเปล่า

เราต้องอยู่ในประเด็น
อย่างเพิ่งเปิดประเด็นใหม่

เอาหล่ะ เริ่มใหม่
(คงไม่ค่อยมีใครมาใช้งานละสิ
ไหนๆก็เอาความรู้ชาวบ้านไปหลายคนแล้ว
ทำงานหน่อย อิ อิ)