หน้า 96 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 4:55 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
ฮงเรียนรู้มากๆก็ดีแล้ว
พี่ไม่รู้ทุกอย่างในโลกหรอก
วันหน้าวันหลังจะไปขอคำปรึกษาบ้าง
คงไม่ว่ากัน

ยินดีครับ ถ้าเป็นไปได้อยากจะนัดกินกาแฟกันซักวันนะครับ

ผมจะเอาข้อมูลที่ผมเก็บรวบรวมมาหลายปี

ให้ดู เป็นข้อมูลที่ผมลงทุนเสาะหามาด้วยต้นทุนที่แพงเลยล่ะ

ผมเองก็อยากเห็นพี่วิบูลย์ ทำ valuation คร่าวๆให้ดู

แต่เข้าใจว่าไม่สะดวกทางหน้าเว็บ

เลยเผื่อจะทำให้ผมดูเป็นวิทยาทาน โดยให้ผมอนุญาติเลี้ยงกาแฟ

เป็นค่าครู น่ะครับ  :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 4:55 pm
โดย naris
VIB007 เขียน: โอเคครับ
ลองดูไม่ยากหรอก สู้ สู้

ว่าแต่ว่าอีกสองตัวที่ค้างอยู่
ยังรออ่านอยู่นะ
ตัวที่สองอยู่หน้า90ครับพี่ เหลือตัวที่สามSNC ติดไว้หน่อยครับ ช่วงนี้ติวลูกจนไมเกรนขึ้น 555 หัวไม่แล่น เหมือนจะไม่สบายเลยพี่. :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:04 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
ถามหน่อย ฮง
สมมุตินะ สมมุติ
Indicator ทุกอย่างที่ฮงดูบอกมันดีหมด
ได้เวลาซื้อหุ้นแล้ว
ฮงก็ซื้อเข้าไปเต็มปอด

แต่ราคาหุ้นที่ซื้อกลับลดลงทุกวัน
แล้วฮงจะ Cutloss เมื่อไหร่

ที่ถามนี่เพราะพี่รู้สึกว่า
ถ้าทำตามที่ฮงเล่ามาหลายๆวันนี่
มันจะโอเค ถ้าเราซื้อหุ้นตามสัญญานแล้วหุ้นมันขึ้น
แต่คำถามมีอยู่ว่า
ถ้าหุ้นราคามันตกลงๆหละ
เราจะทำอย่างไร

อย่างนักเก็งกำไรก็จะมีจุดคัตลอส เช่น 3% 5% 10%
อย่างนักเทคนิคก็จะขายเมื่อสัญญานเป็นขาย
เป็นต้น

ที่หลัก fundflow
ยังไม่เห็นทางหนี
ช่วยบอกหน่อย
เป็นคำถามที่ผมอยากตอบนะครับ

คิดว่ามีหลายคนคิดแบบนี้

ผมต้องตอบแบบนี้ก่อน คือ indicator บางอย่างมันเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากเหตุ

สมมุตินะครับ  ผมบอกว่ารอบนี้ผมดูเงินบาทเป็นหลักว่าต้องเริ่มแข้งค่าผมถึงจะเข้าไปลงทุน

(เงินบาทแข็งฝรั่งมักจะซื้อหุ้น)

ปรากฏว่าเงินบาทแข็งจริง และผมติดตามจากข่าวสาร เช่นเรื่องการส่งออก

นำเข้า นโยบายแบงค์ชาติ อัตราดอกเบี้ย ต่างๆ เงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้น

แต่หุ้นที่ผมซื้อราคาลงไป ผมก็ไม่ขายครับ  แต่ถ้าผมดูแล้ว การส่งออกมีปัญหา   แล้วจะตามมาด้วยค่าเงินกลับมาอ่อนอีกครั้ง ผมก็จะลด port ครับ

คือ สรุปว่า  ถ้าไม่มีปัจจัยใหม่ๆที่จะมาทำให้ indicator ที่ผมดูเปลี่ยนแนวโน้ม

ผมไม่ cutloss ครับ เพราะผมถือว่าเราไม่มีวันซื้อได้จุดต่ำสุด

ไม่ว่าจะทฤษฏีอะไรก็ตาม การซื้อได้จุดต่ำสุด เป้นเรื่องของดวง

ผมจะ cut ต่อเมื่อมัปัจจัยใหม่ๆเข้ามาที่เราคาดไม่ถึงและเป็นปัจจัยลบ

พูดไปก็เหมือน vi ที่ไม่ยอมขายหุ้นถ้าพื้นฐานไม่เปลี่ยนแต่ราคาลงเพราะ

mr.market อารมณ์ไม่ดีนั้นแหละครับ

และถ้าผิดทางผมก็ไม่สนใจว่าผม loss เท่าไหร่ ผม cut ออกหมดเลย

เพื่อรอโอกาศใหม่ในคราวหน้าครับ

ที่ผมสมมุติข้างบนผมไม่ได้ดูเงินบาทอย่างเดียวนะครับ

แต่ผมสมมุติว่ามีแค่ตัวแปรเดียวจะได้สื่อสารกันเข้าใจง่าย

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:05 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"]
ยินดีครับ ถ้าเป็นไปได้อยากจะนัดกินกาแฟกันซักวันนะครับ

ผมจะเอาข้อมูลที่ผมเก็บรวบรวมมาหลายปี

ให้ดู เป็นข้อมูลที่ผมลงทุนเสาะหามาด้วยต้นทุนที่แพงเลยล่ะ

ผมเองก็อยากเห็นพี่วิบูลย์ ทำ valuation คร่าวๆให้ดู

แต่เข้าใจว่าไม่สะดวกทางหน้าเว็บ

เลยเผื่อจะทำให้ผมดูเป็นวิทยาทาน โดยให้ผมอนุญาติเลี้ยงกาแฟ

เป็นค่าครู น่ะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:07 pm
โดย VIB007
naris เขียน:
ตัวที่สองอยู่หน้า90ครับพี่ เหลือตัวที่สามSNC ติดไว้หน่อยครับ ช่วงนี้ติวลูกจนไมเกรนขึ้น 555 หัวไม่แล่น เหมือนจะไม่สบายเลยพี่. :lol:
โทษทีจำไม่ได้
ว่าแต่ว่าใครว่ากันว่าสมัยนี้
พ่อแม่เครียดเรื่องเรียนกว่าลูก
ท่าทางจะจริงแฮะ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:15 pm
โดย por_jai
naris เขียน: ตัวที่สองอยู่หน้า90ครับพี่ เหลือตัวที่สามSNC ติดไว้หน่อยครับ ช่วงนี้ติวลูกจนไมเกรนขึ้น 555 หัวไม่แล่น เหมือนจะไม่สบายเลยพี่. :lol:
:8) นริศผมผ่านมาแล้ว
     ผมแยกเรื่องนี้ออกเป็น2อย่างนะ
     ปัญหาแรก คือต้องติวลูกเอง อันนี้ก็ต้องทำไปเพราะเราเลือกที่จะทำอย่างนี้เอง
     ปัญหาที่สอง คือเรื่องทุกข์ใจหรือเครียด
     เรื่องนี้ผมกลับไม่เครียด
     คือผมถือว่าผมทำดีที่สุดแล้ว ได้แค่ไหน ก็ได้แค่นั้น
 
     เรื่องผงเข้าตาคนอื่นนี่เราไม่ค่อยเคืองครับ
     เห็นแล้วขำซะอีก
     พอเข้าตาเรามั่ง...แฮ่...

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:16 pm
โดย hongvalue
naris เขียน:
อยากถามฮงเพิ่มเติม ในเมื่อฮงเป็นทั้งทางเทคนิค ดูแนวการเคลื่อนไหวของเงิน และศึกษาพื้นฐานก่อนซื้อ

ฮงคิดว่า จุดอ่อน จุดแข็งของทั้งสามมีอะไรบ้างครับ

ก่อนอื่นออกตัวก่อนนะว่าที่ผมพูดอาจไม่ตรงกับหลายคนที่ศึกษานะครับ

มันเป็นมุมมองที่ผมเจอมาด้วยตัวเอง และคุยกับหลายๆคนน่ะ

พูดเรื่องพื้นฐานก่อนแล้วกัน ผมว่าพื้นฐานหุ้นสำคัญมาก เพราะว่ามันเป็น

เหตุเป็นผลที่สุดแล้ว ว่าเราถือหุ้นที่ดี ที่จะ growth ที่ราคาถูก

ที่จะมีปันผลเยอะ พอเรารู้จักพื้นฐานดีๆเราก็กล้าถือ

จุดอ่อนของพื้นฐาน ผมคิดว่าหลายครั้งไม่ได้บอกจังหวะในการซื้อขายหุ้น

และ ถ้าดูแต่พื้นฐานอย่างเดียว  ก็จะขาดเรื่องจิตวิทยาตลาดไป

ซึ่งผมว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องรู้ว่าคนอื่นคิดกันยังไง

จุดแข็งของ fundflow ก็คงจะเป็นการที่เราหาที่มาที่ไปของเงินได้

และทำให้เราซื้อหุ้นที่กำลังจะขึ้นโดยที่บางครั้งพื้นฐานของมันยังไม่เปลี่ยน

แต่เพราะเงินไม่มีที่ไปจึงมาลงทุนในหุ้น และถ้าเรารู้ว่าสภาพคล่องมันเยอะ

ก็จะทำให้เราไม่ขายหุ้นโดยเรายึดมุมมองของเราคนเดียวว่าหุ้นมันแพงแล้ว

แต่เราจะคำนึงด้วยว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบเยอะพอที่ทำให้หุ้นยังไปต่อได้

ข้อเสียก็คือ fundflow ส่วนใหญ่จะเข้าแต่หุ้นใน set 50 ทำให้หุ้นตัวเล็กๆ

ที่มี story เราไม่สามารถดู fundflow แล้วซื้อได้

และการดู fundflow เพียงอย่างเดียวก็บอกไม่ได้ว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อสุด

เพราะว่ามันไหลเข้าหุ้นที่มีสภาพคล่องทั้งนั้น



ก่อนจะพูดเรื่องเทคนิค

ขอสรุปข้างบนก่อนก็คือว่า

ผมคิดว่าถ้าเราประยุกตฺ fundflow และพื้นฐานหุ้นได้

เราจะเป็นนักรบที่ครบเครื่องมาก ตลาดหุ้นไทยยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ

ฉะนั้นเม็ดเงินเข้าออกจากต่างประเทศเป็นเรื่องที่มองข้ามไปเลย

ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก

ผมเองหลังจากนี้ต้องการจะฝึกฝนเรื่องการหา story หุ้นรายตัว

ให้เก่งกว่านี้เพื่อเป็นการเสริมจุดอ่อนของผม และประยุกต์สองศาสตร์

เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน



ต่อเรื่องเทคนิค  

ผมคงไม่กล้าพูดเยอะ เพราะผมไม่ชำนาญนัก ขอพูดนิดเดียว

ผมคิดว่าเทคนิค สามารถดู จิตวิทยาตลาด หรือ แนวโน้มของตลาดได้

ซึ่งช่วยให้เราไม่ว่ายน้ำทวนกระแส

ข้อเสีย  ผมว่าน่าจะคือ มันเอาแต่อดีตมาตัดสิน ข้อมูลทุกอย่างเป็นอดีต

แต่ว่าเล่นหุ้นต้องมองอนาคต


ผมเองก็หวังว่าวันข้างหน้าเข้าใจเทคนิคมากขึ้นแล้วจะผสม

3 ศาสตร์เข้าเป็นหนึ่งเดียวครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:21 pm
โดย hongvalue
[quote="VIB007"][quote="hongvalue"]
ยินดีครับ ถ้าเป็นไปได้อยากจะนัดกินกาแฟกันซักวันนะครับ

ผมจะเอาข้อมูลที่ผมเก็บรวบรวมมาหลายปี

ให้ดู เป็นข้อมูลที่ผมลงทุนเสาะหามาด้วยต้นทุนที่แพงเลยล่ะ

ผมเองก็อยากเห็นพี่วิบูลย์ ทำ valuation คร่าวๆให้ดู

แต่เข้าใจว่าไม่สะดวกทางหน้าเว็บ

เลยเผื่อจะทำให้ผมดูเป็นวิทยาทาน โดยให้ผมอนุญาติเลี้ยงกาแฟ

เป็นค่าครู น่ะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:22 pm
โดย hongvalue
[quote="ศิษย์เซียน007"]

แฮะๆ cds-spread นักลงทุนหลายท่านเห็นแล้วต้องคิดว่าเกี่ยวกับ cds แน่เลย.....ถูกต้องนะครับ

cdsผมมองเห็นว่าเป็นพ่อมดดำที่คอยช่วยเร่งปฏิกิริยาให้กับราชันย์แห่งความมืด(ราคาบ้าน)ของวิกฤตศก.โลกครั้งนี้ครับ

ค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อประกันต้องจ่ายให้กับcdsหรือจะเรียกว่าค่าเบี้ยประกันรายปีก็ได้ครับ ก็คำนวณมาจาก cds-spread นั่นเองครับ จะต้องจ่ายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงเครดิตหุ้นกู้ที่ได้รับประกับไว้ โดยวัดที่อันดับเครดิตของหุ้นกู้นั้นๆ เช่น ถ้าหุ้นกู้ถูกปรับลดอันดับเครดิตความเสี่ยงก็จะมากขึ้นcds-spread ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยครับ

สำหรับผมก็ดูว่าถ้า cds-spread สูงมากๆก็อาจแปลได้ว่าความเสี่ยงของหุ้นกู้ที่จะกลายเป็นหนี้เสียก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ผู้รับประกันต้องคุ้มครองความเสียหายจากหุ้นกู้ที่อยู่ภายใต้การประกัน(โดยเฉพาะการรับประกันcdo)ที่สำมะคัญอาจทำให้บริษัทผู้รับทำประกันถูกปรัดลดการจัดอันดับเครดิตก็จะเป็นเรื่องใหญ่เลยงานเข้าเพราะต้องเพิ่มหลักค้ำประกันเมื่ออันดับเครดิตลดลง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:29 pm
โดย hongvalue
[quote="ศิษย์เซียน007"]


อันนี้พูดเหมือนจะอำลากระทู้

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 5:53 pm
โดย ก้อนหิน
งั้นถามอีกนะครับ

พี่วิบูลย์ว่า ถ้าต้องเลือกคุณสมบัติสามข้อในการเป็น vi ที่ประสบความสำเร็จ นี่ คิดว่าต้องมีอะไรบ้างครับ

ถามฮงด้วยว่า ถ้าจะเป็น fund flow investor ที่ประสบความสำเร็จต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างครับ ขอสามข้อ เหมือนกันครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 6:57 pm
โดย sai
ช่วงนี้ยิงคำถามกันเหมือนคาวบอย ดวลปืนกันเลย  :lol:  :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 7:41 pm
โดย noooon010
:D

นานๆจะมีข้อมูลมา share พี่วิบูลย์ ซะที หลังจากประมาณ 30 หน้าก่อน ผม post วิธี คั่นหน้า กระทู้ตะแกรงร่อนหุ้น  :D

อันนี้เป็น link ของหนังสือ x-ray คนไทย 360 องศาครับพี่ครับ
มีภาพของหนังสือ กับ เนื้อหาคร่าวๆด้วยครับ

http://images.google.co.th/imgres?imgur ... h%26sa%3DG

ผมสนใจเรื่องพวกนี้สักพักครับ
หยุดไปช่วงหนึ่งเพราะเรียน viknowhow กับพี่มน

พอมาตอนหลังพี่มนพูดถึงเศรษฐศาสตร์มากขึ้น

ยิ่งอ่านหนังสือพี่โจ๊ก(สุมาอี้)
จริงๆ เศรษฐศาสตร์ ก็เหมือน มนุษยศาสตร์นะครับ
เราสังเกต ทำความเข้าใจพฤติกรรมต่างๆ
แล้วก็นำมาคิดอะไรต่อไปได้เยอะเลย

มีความสุขในการอ่านหนังสือนะครับพี่ครับ  :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 8:47 pm
โดย VIB007
เอามาโพสดู ตรงใจข้อไหนมาคุยกัน
ผมชอบทุกข้อเลย
ขอบคุณหมอนุ่นด้วย

____________________________________________________

ด้วยบุคลิกของคนไทยที่ไม่นิยมการเผชิญหน้า หรื่อมีความขัดแย้งกับคนอื่นๆ การประนีประนอมจึงมีสูงในสังคมไทย แต่ใช่ว่าการประนีประนอมหมายถึงการยอมรับของแต่ละฝ่าย เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างเก็บข้อข้องใจไว้รอเวลาระเบิดออกมามากกว่าการแสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ อันหมายความว่าไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของตนเอง จึงเป็นช่วงทางที่สะท้อนความคิดเห็นของคนไทยที่ตรงไปตรงมามากที่สุดช่องทางหนึ่ง ลักษณะนิสัยของคนไทยจากเว็บ จึงเป็นการมองคนไทยด้วยคนไทยที่น่าจะตรงไปตรงมามางที่สุดจากการรวบรวมจากเว็บไซต์ยอดนิยม มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคนไทยหลาย ๆ ความคิดที่พอสรุปเป็นลักษณัที่มีการพูดถึงบ่อย ๆ บนเว็บไซต์ได้ทั้งสิ้น 41 ลักษณะนิสัย ดังนี้

1.มีแต่คำด่า ไม่เคยมีคำเสนอแนะ

2.ปากไม่ตรงกับใจ ทำอย่างหนึ่ง แต่ปากด่าอีกอย่าง

3.ชอบทำตามกระแส

4.ไม่มีใครมารุกรานก็จะตีกันเอง แต่ถ้ามีใครมารุกรานจะรวมใจกันเป็นหนึ่ง

5.วัวหายแล้วล้อมคอก

6.ไม่มาทวงก็จะเพิกเฉย

7.เมื่อมีปัญหาก็มักไปกราบไหว้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์

8.ไม่ค่อยสงสัย หรือถึงสงสัยก็ไม่ถาม แต่ติ-วิจารณ์เก่ง

9.หากจำเป็นจริงๆก็ทำจนได้ แต่ต้องมีผู้นำที่กล้าคิด กล้าทำ นำหน้าก่อน

10.มีความยืดหยุ่นสูง ให้อภัยกันเสมอ

11.ถ้าบอกว่าผิด เดี๋ยวคนนั้นก็ว่า คนนี้ก็ว่า

12.อยากทำเท่ ต้องซื้อรุ่นใหญ่สุด กินขวดใหญ่สุด (ไม่คิดถึงความพอเพียงก่อน)

13.มีคู่แข่งเปิดมาตัดราคาแย่งลูกค้าคุณ

14.มักนิยมแบ่งชนชั้น

15.ไทยมุง ต้องเล่าให้เป็นเท่าตัวเกินกว่าเหตุที่เกิด จะได้ตื่นตัวเร็วขึ้น

16.ซิกแซก

17.ชอบหลอกเด็ก ๆ ถึงเรื่องผี จับกลุ่มกันก็พูดถึงเรื่องผี ชอบดูหนังเดียวกับผี (สอนตัวเองในสิ่งที่ไม่ควรจะกลัว)

18.ชอบของฟรี

19.แก้ยาก ขี้โกงก็หนึ่งล่ะ ไม่ชอบเสียเปรียบคนอื่นก็อีกหนึ่ง

20.ชอบ และพร้อมจะเชื่อเรื่องเสียกายก้องเสมอทำให้เราสะใจ (อย่างเช่น เชื่อคำนินทาของเพื่อนร่วมงานมากกว่าความดีหรือผลงานที่คยสร้างเอาไว้)

21.ขี้อิจฉา คิดว่าความเห็นของตัวเองดีและถูกทุกอย่าง ไม่ชอบเห็นใครประสบความสำเร็จหรือดีเกินตัวเอง

22.มาสาย นัดแล้วไม่ตรงเวลา

23.หัวเราะแบบแห้ง ๆ ฮะๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร หัวเพราะหรือยื้มไว้ก่อน

24.ช่างหัวมันเถอะ

25.ได้แต่นึกจะเอาเปรียบ แต่พอเขาจับได้ก็มาโวยวาย

26.ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ

27.คิดแต่จะค้าน คิดแต่จะจับผิด

28.รอคนอื่นยกมือก่อนแล้วค่อยยกมือตาม

29.ใครอย่าได้พลาดมาเชียว ไม่ว่าจะโกหกหรือไม่โกหก ก็โดนทับถมอยู่ดี ดีแต่ตัวชั่วแจ่คนอื่น

30.ไม่พกพวกตารางเดินรถ แผนที่ เวลาไปไหนมาไหนถามชาวบ้านหรือพนักงานตลอด

31.จะสงวนสิทธิ์ก็ไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องมีคนไปก๊อปมาอยู่ดี

32.ผัดวันประกันพรุ่ง

33.พ่อแม่ทำไม่ได้ เลยฝากความหวังไว้กับลูก

34.บังคับให้เรียนรู้ไม่ได้ ต้องหลอกล่อให้สนุก ใช้ความสะดวกสบาย

35.เดี๋ยวก็ลืม

36.ไม่ชอบคนที่รวยกว่า ไม่ยอมรับความจริง ชอบเชียร์มวยรอง หมดปัญญา

37.มักง่าย เห็นแก่ตัว บางคนก็นึกจะจอดรถตรงไหนก็จอด

38.นินทาว่าร้าย ชอบยุ่งชอบแส่งานคนอื่น เพราะอิจฉา

39.ต้นตระกูลของการปฏิเสธ

40.ชอบพูดคำว่า ไม่ ก่อนที่จะได้ใช้สมองคิดเสียอีก

41.ทั้งที่รู้ตัวว่าทำผิด แต่พอคนมาพูดก็ตีความว่าเป็นคำด่า ไม่ยอมรับแก้ตัวสารพัด โยนความผิดให้คนอื่น


บทความส่วนหนึ่ง จากหนังสือ "X-RAY คนไทย 360 องศา"

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 8:50 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:

คือ จริงๆผมว่า มีหลายอย่างที่ผมและพี่ไม่สะดวกโพสในเว็บ

หรือบางทีมันก็เยอะจนขี้เกียจพิมพ์

ผมก็เลยคิดว่าถ้าเจอแล้วคุยกัน น่าจะมันกว่านี้เยอะน่ะครับ
ไว้ว่างๆเจอกันนะน้อง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 8:53 pm
โดย VIB007
ก้อนหิน เขียน:งั้นถามอีกนะครับ

พี่วิบูลย์ว่า ถ้าต้องเลือกคุณสมบัติสามข้อในการเป็น vi ที่ประสบความสำเร็จ นี่ คิดว่าต้องมีอะไรบ้างครับ

ถามฮงด้วยว่า ถ้าจะเป็น fund flow investor ที่ประสบความสำเร็จต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างครับ ขอสามข้อ เหมือนกันครับ
คุณสมบัติในการเป็นวีไอสามข้อเหรอ
นี่เลย
ข้อที่หนึ่ง อดทน
ข้อที่สอง อดทน
ข้อที่สาม อดทน
ฮา ฮา

อดทนหาความรู้
อดทนตอนหุ้นตก
และอดทนถือเงินสดไม่ซื้อหุ้น

ส่วนการเป็นนักลงทุนแบบฟันโฟลว์ต้องรอ.....ฮง เจ้าพ่อฟันโฟลว์

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 8:55 pm
โดย VIB007
[quote="hongvalue"][quote="ศิษย์เซียน007"]


อันนี้พูดเหมือนจะอำลากระทู้

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 04, 2009 11:59 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
ท้อทำไม
คนที่จะประสบความสำเร็จต้องเอาคำสองคำออกจากพจนานุกรม
หนึ่ง ท้อ
สอง เป็นไปไม่ได้

ขอบคุณครับพี่ จะจำเอาไว้ครับ

ต้องมองบวก

thinking positive โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

5555555555555555555555

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 12:14 am
โดย hongvalue
ก้อนหิน เขียน:
ถามฮงด้วยว่า ถ้าจะเป็น fund flow investor ที่ประสบความสำเร็จต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างครับ ขอสามข้อ เหมือนกันครับ

อืม ไม่เคยคิดเลยนะว่าต้องมีไรบ้าง

ตอบแบบ simple หน่อยละกัน

นึกออก 2 ข้อนะ

1.ต้องรู้เศรษฐศาสตร์มหภาคขั้นกลางถึงขั้นลึก
เพราะว่าปัจจัยพวกนี้ส่งผลต่อเม็ดเงินในระบบ
แรงจูงใจในการเคลื่อนย้ายเงินไปที่ต่างๆ
เม็ดเงินเข้าออกจากต่างประเทศ

2.ต้องมีสถิติความสัมพันธ์ของทฤษฏี เศรษฐศาสตร์ต่างๆ
กับราคาหุ้น ที่เยอะพอสมควร แบบว่าต้องไล่ story ถูกว่า
ถ้าดัชนีตัวนี้ขึ้นหรือลง จะมีผลอะไรตามมาในตลาดหุ้น
ความสัมพันธ์เท่าไหร่ ดัชนีนั้น เช็กได้ที่ไหน ช่วงนี้ใช้ได้มากหรือน้อย
เรื่องนี้ต้องเก็บข้อมุลกันเอง ณ.ตอนนี้ผมมีคร่าวๆ เป็นหลายร้อยเหมือนกัน
คัดเหลือแต่เด็ดๆ ก็เหลือซัก 50-60 รูปได้อะ
อย่างเช่นว่าเกิดวิกฤติครั่งก่อนๆ ใครขายหุ้น ขายเท่าไหร่
ขายเมื่อไหร่ จบเมื่อไหร่ เริ่มขายหนักๆเพราะอะไร หยุดขายเพราะอะไร
ใครมาซื้อต่อ เพราะอะไร  พวกนี้ผมจะนั่งไล่ story เม็ดเงินตลอดนะ
หรือว่าตอนเกิดเหตุการณ์ aaa ดัชนีตัวนี้ไปที่นั้นเท่านี้ ฝรั่งขายเท่าไหร่
ค่าเงินเป็นไง bond เป็นไร ตลาดเงินเป็นไง
เวลาลดดอกเบี้ย ลดกี่ครั้ง ลดเพราะอะไร ลดแล้วหุ้นจะ perform
ช่วงไหนบ้างของ วงจรดอกเบี้ย perform แล้วขึ้นเท่าไหร่
ใช้เวลาเท่าไหร่ ไรเงี้ย  พูดไปก็ซ้ำๆน่ะ คือ
ผมนั่งไล่จนจำได้หมดเลยนะ คือดูซ้ำๆไง ดูบ่อยมากจน
นั่งวาดภาพเอาเองได้แล้ว แกนซ้าย แกนขวา ตัวเลขเท่าไหร่บ้าง




ถ้าจำได้ขนาดนี้และรู้ที่มาที่ไปได้ก็ถือว่าดู fundflow ได้แล้วล่ะ

ไม่ยากหรอก  :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 12:18 am
โดย hongvalue
ถ้าเปิดบัญชีที่ phatra

ลองถามโบรกดูดิว่ามีเอกสารชื่อ

the year ahead: the darkest hour is just before the dawn

เหลือไหม ลองขอดู เล่มนี้ดีมาก เพื่อนผมเอามาให้

คือ ข้อมูลแบบสุดยอดมากๆอะ เล่มนี้ผมเอาขึ้นหึ่งเลย

หาข้อมูลลึกขนาดนี้ได้ไม่บ่อย

ลองๆไปหาดูนะ พี่ก้อนหิน :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 12:27 am
โดย hongvalue
ถามพี่วิบูลย์หน่อยว่า

พี่ทำงานเกี่ยวกับน้ำมัน

พี่พอคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันได้ไหม

ไม่ได้คาดได้ว่าราคาจะเท่าไหร่นะ

แบบคาดว่า ราคาในปีหน้ายังไงก็ต้องสูงกว่านี้

เพราะว่า เศรษฐกิจดี บริโภคเท่านี้ opec ผลิตเท่านี้

ทำไมพี่ถึงบอกว่าราคาน้ำมันไม่รู้เลย(หน้าเก่าๆ)

เราดูแนวโน้มไม่ได้เลยหรือครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 8:09 am
โดย nortuss
[quote="VIB007"][quote="nortuss"]พี่วิบูลย์ ครับ เวลาเราวิเคราะ งบการเงิน (กำไร-ขาดทุน) ควรเจาะจงดูที่งบไหนครับ(งบรวม-งบเฉพาะกิจการ) แล้วถ้าจะให้เปรียบเทียบความสำคัญ จะแบ่งกี่%
ex งบรวม 80%

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 8:27 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:ถามพี่วิบูลย์หน่อยว่า

พี่ทำงานเกี่ยวกับน้ำมัน

พี่พอคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันได้ไหม

ไม่ได้คาดได้ว่าราคาจะเท่าไหร่นะ

แบบคาดว่า ราคาในปีหน้ายังไงก็ต้องสูงกว่านี้

เพราะว่า เศรษฐกิจดี บริโภคเท่านี้ opec ผลิตเท่านี้

ทำไมพี่ถึงบอกว่าราคาน้ำมันไม่รู้เลย(หน้าเก่าๆ)

เราดูแนวโน้มไม่ได้เลยหรือครับ
มันพอคาดการณ์ระดับกลางได้ส่วนหนึ่ง
เช่น ตอนที่น้ำมันลงไปเหลือ 30 เหรียญเมื่อเดือนที่แล้ว
ก็ฟันธงได้เลยว่ามันอยู่ตรงนั้นไปอีกสี่ห้าปีไม่ได้
มันต้องขึ้น
เพราะต้นทุนหลุมใหม่ๆก็ 60-70 เหรียญต่อบาร์เรลแล้ว
หลุมเก่าๆก็ 15-20 เหรียญ
ที่ราคาน้ำมัน 30 เหรียญจะทำให้ผู้ผลิตหยุดขายสินค้าที่ขาดทุน
ทำให้ซัพพลายลดลงด้วยกลไกตลาด
ราคาน้ำมันต้องขึ้นอยู่แล้ว
แต่จะขึ้นไปเท่าไหร่ไม่รู้

ที่พี่บอกเสมอว่า
ราคาน้ำมันบอกไม่ได้นั้น
เพราะสังเกตไหมว่า
เวลาน้ำมันขึ้นก็บอกจะไป 200 เหรียญ
พอราคาน้ำมันลงก็บอกจะไป 15 เหรียญ
มัน"เดา"กันทั้งนั้นหละ
และส่วนใหญ่จะเดาผิด
ก็เลยบอกว่าอย่าเชื่อนักวิเคราะห์
แค่นั้นหละ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 8:28 am
โดย VIB007
nortuss เขียน:
เข้าใจครับ
งบทุกอันก็สำคัญนี่ครับ
แบ่งเป็นเปอร์เซนต์ทำไมล่ะ...
พี่วิบูลย์ครับ ที่ผมให้เปอเซ็นท์ความสำคัญ ผมหมายถึงระหว่างงบรวมกับงบเฉพาะกิจการนะครับ ไม่ใช่พวกงบดุล กำไรขาดทุน กระแสเงินสด[/quote]

ก็ดูมันทั้งสองงบนั่นหละ
อย่าไปคิดมากจนเป็นเปอร์เซนต์

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 8:39 am
โดย nortuss
ตอบเร็วทันใจจังเลยพี่วิบูลย์ ขอบคุนมากคับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 10:52 am
โดย ก้อนหิน
ที่ถามเรื่องคุณสมบัติ นี่คือ ผมอยากรู้ว่าเป็นแบบไหนจะถูกกับจริตตัวเองมากกว่าครับ


ขอบคุณทั้งสองคนมากครับ

สรุปว่า เป็น vi ฝึกแค่อดทน
แต่เป็น ffi นี่ ต้องบลาๆๆๆ ยาวจัง แหะแหะ  ยกย่องฮงเลยจริงๆ

หนังสือที่บอกจะพยายามหาอ่านดูครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 1:11 pm
โดย sai
น้องฮงครับ การดูฟันโฟลว์ นี่ เหมือนกันกับนักวิเคราะห์ของแต่ละโบ๊รคไหมครับ ที่เค้าเรียกว่านักกลยุทธ์ ประมาณเนี่ยครับ เพราะเคยฟัง คุณ พงศ์พันธ์ กิมเอง และ  อีกคนคือคุณ ปู๊น ผมจำโบร๊คไม่ได้ ที่ รายการ money biz เวลาเค้าพูดเค้าจะพูดคล้ายคล้ายน้องฮงเลยครับ เกี่ยวกับ libor sperd  , ค่าเงิน , อัตราดอกเบี้ย บลาบลา พอดีไม่คอ่ยเข้าใจเท่าไร แต่ฟังดูแล้วมีส่วนคล้ายที่ฮงเล่าให้ฟังเลยครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 2:04 pm
โดย VIB007
[quote="ก้อนหิน"]ที่ถามเรื่องคุณสมบัติ นี่คือ ผมอยากรู้ว่าเป็นแบบไหนจะถูกกับจริตตัวเองมากกว่าครับ


ขอบคุณทั้งสองคนมากครับ

สรุปว่า เป็น vi ฝึกแค่อดทน
แต่เป็น ffi นี่ ต้องบลาๆๆๆ ยาวจัง แหะแหะ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 4:44 pm
โดย noooon010
มีข้อคิดมาฝากเวลาลงทุนหุ้นครับ
...โดยผมขออนุญาติเปรียบเทียบการลงทุนกับชีวิตประจำวันนะครับ

ผมดู vcd สอนถ่ายภาพของ web ตากล้อง.com ครับ
เค้าบอกว่า ถ่ายภาพทิวทัศน์ ... ปกตินอกจากเราจะมองแต่ช่องมองภาพ

เราอย่าลืมมอง รอบๆด้วย
เพราะบางครั้ง เราถ่ายรูปแถวน้ำตก แถวเหว หรือพื้นที่ลื่นๆ เราอาจล้มได้
เราบาดเจ็บได้ หรือกล้องเสียหายได้

พอนึกถึงการลงทุน ผมว่า ก็น่าจะเข้าได้กับการที่เราดู Economic & กระแสความสนุกที่ทำให้ฝันดี (Fun(d) flow) ไปด้วย

แต่บางครั้ง ถ้าเรามัวแต่มอง บริเวณ รอบๆตัวเรา จนเราลืมสังเกต subject ที่เราจะถ่ายภาพ

เราลืมสนใจเรื่องวัดแสง speed shutter ฯลฯ เราก็อาจจะได้ภาพที่ไม่สวย/ดีอย่างที่ใจเราคิดเช่นกัน

เพราะการถ่ายภาพ เป็นศิลปะ
และการลงทุนก็เช่นกัน

แม้เราทราบหลักการแล้ว
เราก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตัวเรา

และต้องระวังปัจจัยหลักอีกอัน คือ ใจเราเอง ...

บางครั้ง สัญญานทุกอย่างบอกให้ซื้อ แต่เราไม่กล้าซื้อ
บางครั้ง สัญญานทุกอย่างบอกให้ขาย แต่เราไม่กล้าขาย

ผมคิดว่า ธรรมะสามารถช่วยให้เรา มีสติ มีสามธิ และปัญญา ได้นะครับ

มีความสุขกับการลงทุนหุ้นคุณค่านะครับผม  :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 05, 2009 7:24 pm
โดย zesar
VIB007 เขียน: มันพอคาดการณ์ระดับกลางได้ส่วนหนึ่ง
เช่น ตอนที่น้ำมันลงไปเหลือ 30 เหรียญเมื่อเดือนที่แล้ว
ก็ฟันธงได้เลยว่ามันอยู่ตรงนั้นไปอีกสี่ห้าปีไม่ได้
มันต้องขึ้น
เพราะต้นทุนหลุมใหม่ๆก็ 60-70 เหรียญต่อบาร์เรลแล้ว
หลุมเก่าๆก็ 15-20 เหรียญ
ที่ราคาน้ำมัน 30 เหรียญจะทำให้ผู้ผลิตหยุดขายสินค้าที่ขาดทุน
ทำให้ซัพพลายลดลงด้วยกลไกตลาด
ราคาน้ำมันต้องขึ้นอยู่แล้ว
แต่จะขึ้นไปเท่าไหร่ไม่รู้

ที่พี่บอกเสมอว่า
ราคาน้ำมันบอกไม่ได้นั้น
เพราะสังเกตไหมว่า
เวลาน้ำมันขึ้นก็บอกจะไป 200 เหรียญ
พอราคาน้ำมันลงก็บอกจะไป 15 เหรียญ
มัน"เดา"กันทั้งนั้นหละ
และส่วนใหญ่จะเดาผิด
ก็เลยบอกว่าอย่าเชื่อนักวิเคราะห์
แค่นั้นหละ
พี่วิบูลย์ครับ ทำไมต้นทุนของหลุมใหม่ ๆ ถึงได้สูงกว่าหลุมเก่า ๆ ครับ ?