หน้า 2 จากทั้งหมด 2
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 7:04 am
โดย bigshow
พนักงานธนาคารเครียด ถูกบีบขายบริการแบงก์
โดย ผู้จัดการรายวัน 21 สิงหาคม 2548 23:21 น.
ธนาคารพาณิชย์ไทย รุกปรับตัว ก้าวเป็น "ยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้ง" แสวงหาช่องทางดำเนินธุรกิจ เพิ่มผลิตภัณฑ์สนองความต้องการลูกค้า แต่กลับตกม้าตายจากปัญหาภายใน ล่าสุดพนักงานแบงก์ไทยพาณิชย์ เครียดถึงขั้นเสียชีวิตแล้ว 3 ราย ประธานสภาพแรงงาน ยืนยันพนักงานส่วนใหญ่เกิดความคับข้องใจ เพราะแบงก์ตั้งเป้าหมายสูง และใช้มาตรฐานต่างชาติวัดผลงานและประเมินเงินเดือน ขณะที่แบงก์อื่นยังเดินหน้าเป็นแบงก์ให้บริการครบวงจร มั่นใจไม่เกิดปัญหาซ้ำรอย
ภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Master Plan) ของภาครัฐ และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกยุคปัจจุบัน ส่งผลให้สถาบันการเงินต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยสถาบันการเงินประเภทบริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือ ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก ต้องเตรียมพร้อมโดยอาจควบรวมกันจัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย(ธย.) หรือ ธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ(ธพ.) ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ต้องเร่งปรับตัวเอง ก้าวสู่ความเป็น "ยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้ง" หรือ ธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการอย่างครบวงจร หลังพากันบาดเจ็บจากวิกฤติทางการเงินครั้งเลวร้ายเมื่อปี 2540
การปรับเปลี่ยนดังกล่าว ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ต่างต้องแสวงหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทุกความต้องการของลูกค้า มาเพิ่มช่องทางการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในแง่ของผู้ใช้บริการ นับเป็นเรื่องที่ดีมากกับการที่ธนาคารเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ตามที่ต้องการ แต่ในแง่ของผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างพนักงานธนาคารคงไม่รู้สึกยินดีมากนัก
ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นธนาคารอีกแห่งหนึ่ง ที่ได้สรรหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ประกัน ลิสชิ่ง ฯลฯ รวมถึงการเดินเข้าหาลูกค้า ตลอดจนการปรับโฉมองค์กรทั้งโครงสร้างภายใน และการจ้างบริษัทที่ปรึกษาจากต่างประเทศเข้ามาเสริม เพื่อผลักดันตัวเองไปสู่จุดหมายความเป็น ยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้ง จนเป็นที่ยอมรับมาก แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ประสบปัญหาภายใน เช่น การประท้วงของพนักงาน หรือแม้แต่การสูญเสียชีวิตของพนักงานแล้วถึง 3 ราย สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังสะท้อนถึงความกดดันของพนักงานอันเกิดจากการถูกกำหนดให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานหรือไม่
นายอดิศร์ ไวชนะ ประธานสหภาพแรงงานผู้บังคับบัญชา ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พนักงานธนาคารส่วนใหญ่เกิดความคับข้องใจ เกี่ยวกับนโยบายเป้าหมายและแนวทางการดำเนินธุรกิจของผู้บริหารระดับสูง ที่จะให้ธนาคารก้าวเป็นยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้ง หรือการให้บริการที่ครบวงจร ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ระบบการทำงานของต่างชาติ ที่คิดว่าดีแล้ว เข้ามาใช้กับพนักงานของธนาคาร
โดยเฉพาะการปรับขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานที่ไม่เท่าเทียมกัน โดยไม่ได้สนใจถึงความรู้สึก และการปฏิบัติงานจริงของพนักงาน และสาขาทั่วประเทศ จึงเป็นที่มาของการนัดชุมนุมประท้วง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมจากผู้บริหารเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน ซึ่งไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริหารธนาคารในการเรียกพนักงานเข้าไปเจรจา
ในการก้าวเป็นยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้ง ธนาคารได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นฝรั่งชื่อ GALLUP เข้ามา ให้คำแนะนำซึ่งแนวทางการปฏิบัติ รวมทั้งนโยบายของธนาคาร ได้ลอกต้นแบบจากต่างชาติเข้ามาใช้โดยไม่ได้มีการปรับปรุงหรือแก้ไข เพื่อสอดคล้องกับลูกค้า และพนักงานที่เป็นคนไทยเลย จนเกิดแรงบีบและกดดันให้พนักงานธนาคารฆ่าตัวตายถึง 3 คน
"รายแรกเป็นผู้จัดการสาขาสุขสวัสดิ์ รับแรงกดดันไม่ไหว กระโดดตึกเสียชีวิต รายที่ 2 เป็นผู้จัดการสาขา สระแก้ว เครียดมากจากการบังคับของสำนักงานใหญ่ให้เดินตามกรอบยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้งที่ฝรั่งสร้างขึ้น หันมาดื่มเหล้าจนเสียชีวิต จากเดิมที่ไม่เคยดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่เลย และรายล่าสุดที่ เป็นพนักงานหญิงสาขาสุโขทัย เสียชีวิตทั้งที่ยังตั้งท้อง 7 เดือน" นายอดิศร์กล่าว
สาเหตุการเสียชีวิตของพนักงานหญิงนั้น เกิดจากธนาคาร บังคับให้ขายผลิตภัณฑ์ของธนาคาร โดยมีเป้าหมายกับพนักงานในแต่ละราย โดยเฉพาะการขายประกันฯ ซึ่งพนักงานแต่ละรายได้เป้าหมายทำยอดขายรายละ 35,000 บาท หากไม่สามารถขายได้ก็จะต้องรับผิดชอบซื้อไว้เอง ซึ่งการขายประกันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประกันโดยตรงหลายบริษัทที่มีชื่อเสียง ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตรงใจผู้บริโภค ทำให้การขายประกันฯของธนาคารเป็นไปได้ยาก ส่งผลให้พนักงานหญิงเกิดความเครียด ลำไส้เน่า เสียชีวิตทั้งที่ยังท้องอยู่
นายอดิศร์กล่าวว่า การประเมินผล บริษัทที่ปรึกษาฝรั่ง เป็นผู้ประเมินผลงานของสาขาทั่วประเทศ ปรากฏว่าไม่มีสาขาใดผ่านเกณฑ์มาตรฐานรยูนิเวอร์แซลแบงก์กิ้ง ของโลก เช่น การให้บริการกับลูกค้าหน้าเคาน์เตอร์ ต้องไม่มีลูกค้ามายืนรอเข้าคิวจำนวนมาก ซึ่งช่วงเช้าถึงเที่ยง ลูกค้าเดินมาใช้บริการรายการใดๆ ก็ตาม จะต้องใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที เวลาเที่ยงถึงบ่ายโมง จะต้องให้บริการไม่เกิน 10 นาทีต่อหนึ่งรายการ และบ่ายจนถึงเย็นปิดทำการ ต้องให้บริการได้ไม่เกิน 7.5 นาทีต่อหนึ่งรายการ ซึ่งเป็นการให้บริการที่มีมาตรฐานระดับโลก แต่ไม่เหมาะสม หรือสามารถใช้กับลูกค้าและธุรกรรมของไทย เพราะแค่การกรอกเอกสารก็เกิน 10 นาทีแล้ว ทำให้สาขาทุกแห่งของธนาคารทั่วประเทศ ไม่ผ่านมาตรฐานโลกตามที่ผู้บริหารต้องการเลย
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 7:10 am
โดย bigshow
เกิดจากธนาคาร บังคับให้ขายผลิตภัณฑ์ของธนาคาร โดยมีเป้าหมายกับพนักงานในแต่ละราย โดยเฉพาะการขายประกันฯ ซึ่งพนักงานแต่ละรายได้เป้าหมายทำยอดขายรายละ 35,000 บาท หากไม่สามารถขายได้ก็จะต้องรับผิดชอบซื้อไว้เอง ซึ่งการขายประกันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประกันโดยตรงหลายบริษัทที่มีชื่อเสียง ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตรงใจผู้บริโภค ทำให้การขายประกันฯของธนาคารเป็นไปได้ยาก
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 9:53 am
โดย jaychou
ดูกันเอาเองครับ สำหรับงบดุลบริษัทประกันชีวิตทั้งหมดทั้ง 25 บริษัทในประเทศไทย
http://www.doi.go.th/stat_data/thai-ver ... Status.htm
คำถามที่ควรตั้งสำหรับ growth stock ก็คือ หุ้นจะโตไปอย่างที่คาดจริงหรือไม่
ลองดูว่าหากบริษัททั้งหมดในธุรกิจนี้ พยายามโต 10 เท่าใน 10 ปี ใครจะเป็นผู้ชนะครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 9:54 am
โดย jaychou
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 11:29 am
โดย ลูกอิสาน
jiras เขียน:ขึ้นมาเยอะเหมือนกันนะคุณลูกอีสานจากแถวๆ 15 บาท
วันนี้ 55 บาท
หากเราชื่อว่าราคาหุ้นจะไปถึง 500 บ./หุ้น
ซื้อที่ 55 บาท เราก็ยังทำกำไรได้หลายเท่าอยู่ดี
เหมือนที่ Peter Lynch พูดไว้ใน Beating the street
ใครที่ซื้อ walmart หลังจากที่ราคาขึ้นมาได้หลายเท่าแล้ว
ก็ยังสามารถทำกำไรได้หลายเท่าอยู่ดี
ถ้าหุ้นดีจริง ไม่มีคำว่าสาย ใช่ใหมครับ..
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 11:54 am
โดย ลูกอิสาน
Jeng เขียน:
ขอถามอีกรอบ ไทยประกันเปิดมากี่ปี ปัจจุบันมี 146,000 ล้านแล้วหรือยัง
AIA เปิดมาอีกปี ปัจจุบัน มี 146,000 แล้วหรือยัง
คำถามของพี่เจ๋ง สามารถหาข้อมูลบางส่วนได้ตามเวปที่คุณ jachou link มาให้ครับ แต่ผมขอเสริมอีกหน่อยครับ
http://www.doi.go.th/stat_data/thai-ve ... Result.htm
และที่ขาดเสียไม่ได้ สำหรับข้อมูล update รายเดือนสำหรับชาวประกันชีวิต ต้องที่นี่ครับ..
http://www.tlaa.org/thai/statistic_repo ... index.html
เท่าที่ทราบปัจจุบัน AIA มีเงินลงทุนประมาณ 270,000-280,000 ล้านครับ
ส่วนอันดับ 2 ไทยประกันประมาณ 100,000 ล้าน
ประเด็นที่สงสัยว่าทั้ง 2 บริษัทข้างต้น ดำเนินกิจการมานาน ทำไมมีเงินลงทุนแค่นี้ เปรียบเทียบกับ SCNYL อยากให้เปรียบเทียบกับ AACP (อยุธยา อไลแอนด์ ซี พี) จะเห็นภาพชัดเจนกว่าเพราะเพิ่งตั้งบริษัทมาไม่นานเช่นกัน แต่อาศัยการทุ่มซื้อตัวแทน-ทีมขายอย่าง และรุกตลาดอย่างหนักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
AACP
1999-7000
2000-8800
2001-12000
2002-16600
2003-25800
2004-38200
จะเป็นได้ว่า AACP เริ่มรุกตลาด 3-4 ปีที่ผ่านมา
SCNYL
1999-1800
2000-1900
2001-2500
2002-2800
2003-4200
2004-
8000
และจะเห็นได้ว่า SCNYL เริ่มประสบความสำเร็จจาก Bancassurance ปีที่แล้วนี้เอง
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 12:16 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="adi"]ผมไม่มีความรู้เรื่องบริษัทประกัน แต่ผมรู้สึกว่าตัวเลข 130000 แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับผม เลยอยากขอถามดังนี้ครับ
1. ตัวเลข 30% ของ claim/premium นี่เป็นปกติของอุตสาหกรรมประกันชีวิตใช่ไหมครับ แล้วตัวเลขนี้รวม benefits ที่จะคืนลูกค้ารึยังครับ น่าใช่ก็น่าจะโอเค
2. ในสมมุติฐานคิดรวมตอนที่ตัด
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 12:38 pm
โดย ลูกอิสาน
ข้อมูลอีกด้าน
นายนะเพ็ง กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาระบุว่า ธนาคารกดดันให้พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ขายประกันให้กับบริษัทประกันในเครือจนเป็นที่มาให้ผู้จัดการสาขา 3 แห่ง ถึงขั้นต้องฆ่าตัวตายเนื่องจากรับแรงกดดันไม่ไหวว่า
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยพนักงานที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ต่างมีปัญหาด้านสุขาภาพ และครอบครัวของผู้ตายได้ทำหนังสือชี้แจงมายังกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคาร เพื่อชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานแต่อย่างใด สำหรับผู้จัดการสาขาที่สหภาพแรงงานธนาคารไทยพาณิชย์ที่เสียชีวิตจากการดื่มสุรา ซึ่งถูกแกนนำสหภาพโยงประเด็นเข้าสู่การดื่มสุราเพราะเครียดจากการทำงานว่า ได้รับการชี้แจงจากครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า ผู้จัดการสาขาคนดังกล่าว ไม่เคยดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่แต่อย่างใด แต่สาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากวันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ร่วมดื่มฉลองงานแต่งงานของญาติ จากนั้นกลับเข้าไปนอน และเสียชีวิตในช่วงเช้า โดยได้รับรายงานยืนยันจากแพทย์ว่าเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่ใช่อย่างที่สหภาพฯกล่าวอ้างว่าดื่มเหล้าจัดเพราะเครียดจากงาน
ส่วนกรณีที่ผู้จัดการสาขาหญิงที่ท้องและเสียชีวิตขณะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ได้รับการยืนยันจากครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า ผู้จัดการที่เสียชีวิตในขณะตั้งครรภ์นั้นมีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือ โรคไทลอยด์ ซึ่งตามปกติแพทย์จะห้ามการมีครรภ์ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อมารดา แต่ผู้จัดการสาขาคนดังกล่าวต้องการที่จะมีบุตร และอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หลังจากเสียชีวิตแพทย์อธิบายสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากเลือดไม่ได้ไหลไปหล่อเลี้ยงมารดา ซึ่งทำให้เสียชีวิต "สาเหตุการเสียชีวิตของผู้จัดการสาขา ไม่ได้เกิดจากการที่ธนาคารกดดันให้ผู้จัดการสาขา หรือพนักงานขายประกัน แต่เป็นเรื่องปัญหาสุขภาพ
และที่สำคัญเราไม่ใช่รายแรกที่ให้พนักงานสาขาธนาคารขายประกัน" นายนะเพ็งพาแสง กล่าว สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่ขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้พนักงานสาขาธนาคารขายประกันได้ในช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ประกอบด้วย ธนาคารเอเชีย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารไทยพาณิชย์ถือเป็นธนาคารแห่งที่ 5 ที่ขออนุญาตให้พนักงานธนาคารสามารถขายประกันชีวิตได้ นายนะเพ็งพาแสง กล่าวว่า
ภาพการทำงานของพนักงานสาขาในอนาคตจำเป็นต้องปรับรูปแบบการทำงานให้สอดรับกับแนวโน้มการแข่งขัน เพราะรูปแบบการให้บริการต่อไปสาขาจะเป็นช่องทางการขายและการให้บริการกับลูกค้า ขณะที่รูปแบบในอดีตการทำงานของพนักงานจะเป็นการหาเงินฝาก ปล่อยกู้ หรือติดตามหนี้เท่านั้น "นวัตกรรมการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป รูปแบบการ เพราะในอนาคตเครือข่ายสาขาจะมีทั้งโปรดักท์ของกองทุนรวม ประกัน เข้ามาขายอยู่ในสาขา เพื่อสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับธนาคาร ตามนโยบายมั่งสู่ความเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร (ยูนิเวอร์เซล แบงก์)" นายนะเพ็งพาแสงกล่าว
ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ปฏิเสธเป็นตัวการบีบให้พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ต้องฆ่าตัวตาย เพราะรับแรงกดดันจากธนาคารไทยพาณิชย์ ในการทำเป้ายอดขายกรมธรรม์ไม่ไหว ผู้บริหารชี้แบงก์อื่นที่เดินหน้าการเป็นแบงก์ที่ให้บริการการเงินอย่างครบวงจรก็ทำเช่นเดียวกัน คาดปีนี้มียอดขายผ่านแบงก์ไทยพาณิชย์ประมาณ 4.1 พันล้านบาท
นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) หรือ SCNYL เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่พนักงานของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)ได้รับแรงกดดันในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของธนาคารจนถึงขั้นต้องฆ่าตัวตายว่า เชื่อว่าธนาคารไทยพาณิชย์ไม่สร้างแรงกดดันจนเป็นสาเหตุที่ให้พนักงานบางคนต้องฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่มีการดำเนินธุรกรรมทางการเงินแบบครบวงจร (ยูนิเวลเซลแบงก์) เช่นเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ทำหน้าที่เหมือนโบรกเกอร์ในการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต ซึ่งจากเดิมที่ถืออยู่ 25% ก็เพิ่มสัดส่วนเป็น 43.34% เพื่อให้สามารถควบคุมการบริหารและเสนอบริการที่ดีที่ให้ตรงตามความต้องการลูกค้าได้
นายคาร์ดีน กล่าวว่า การขายผลิตภัณฑ์ของไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ พนักงานของธนาคารต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการลูกค้า ซึ่งหากลูกค้าซื้อกรมธรรม์ไปแล้วไม่พอใจก็สามารถคืนกรมธรรม์ได้ภายใน 15 วัน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็มีน้อยมาก ดังนั้นการทำงานให้ได้ตามเป้าหมายจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสนอผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามเป้าหมายโดยไม่คำนึงถึงความต้องการลูกค้า โดยปัจจุบันมียอดขายกรมธรรม์ผ่านธนาคารประมาณ 3,000 กรมธรรม์ต่อเดือน
ด้านนายอิกนาสิโอ อากีล่าร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การทำงานร่วมกันระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์กับไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ด้านธนาคารไทยพาณิชย์จะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย กลยุทธ์การเสนอขาย ในขณะที่ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์จะเป็นเพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ของบริษัทเท่านั้น อย่างไรก็ตามในปีนี้ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ตั้งเป้าหมายจะเสนอขายผลิตภัณฑ์ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ให้ได้ 4.1 พันล้านบาท
ในช่วงที่ผ่านมาช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งป็นช่องทางการจำหน่ายที่สามารถผลิตภัณฑ์เบี้ยปีแรกมากสุดถึง 85% โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะขยายฐานตลาดสู่ลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ตามกลยุทธ์ของธนาคารไทยพาณิชย์จากปัจจุบันที่มีอัตราการถือครองกรมธรรมเพียง 15% ถือเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะรุกลูกค้ากลุ่มนี้ นอกจากนี้ ภายในสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายให้ได้เบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้น 48% หรือประมาณ 8.6 พันล้านบาท โดยในช่วง 5 เดือนข้างหน้า บริษัทจะเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และออกกรมธรรม์ใหม่ๆทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว โดยคาดว่าจะได้รับอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 4-5% นอกจากนี้ยังเตรียมขยายธุรกิจผ่านช่องทางที่หลากหลายมากขึ้นนอกจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ได้แก่ สร้างตัวแทนให้ได้1,000 คนภายในสิ้นปี เปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง และพัฒนาระบบซอฟร์แวร์ให้ทันสมัยและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริษัทมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 4,888 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 63% และบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์สามารถพลิกมาทำกำไรสุทธิได้ถึง 69 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิถึง 65 ล้านบาท และขยับจากอันดับ 7 มาอยู่ที่อันดับ 4 และมีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) 5.4% นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายสูงสุดในเครือขายของนิวยอร์คไลฟ์อินเตอร์เนชั่นแนลในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้แก่ จีน อินเดีย ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปินส์และเกาหลี หรือคิดเป็น 34%ของเบี้ยประกันใหม่ทั้งหมดที่มีอยู่ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ ได้รับเบี้ยปีแรกมากสุดถึง 2,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22% และเมื่อรวมเบี้ยปีแรกของเครดิตไลฟ์ที่ขายผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์อีก 84 ล้านบาท ทำให้เบี้ยปีแรกของแบงก์แอสชัวรันส์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 2,520 ล้านบาท ซึ่งยอดขายติด 1 ใน 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 12:50 pm
โดย ลูกอิสาน
เหมือนผมกำลังแก้ต่างให้ SCNYL หรือเปล่าครับเนี่ย :lol: :lol:
ยังไงติ-ชมแล้วอย่าลืมเสนอชื่อหุ้น 10 เด้งด้วยนะครับ
เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของกระทู้ มีคนเสนอน้อยจิงๆ
ผมขอเสนอหุ้นสำรอง 10 เด้งอีก 3-4 ตัวครับ เพื่อเพิ่มโอกาสความถูกต้อง
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 1:27 pm
โดย Jeng
ขอบคุณคุณลูกอิสาน ที่ให้ความกระจ่างครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 1:30 pm
โดย adi
ไม่ใช่หรอกครับคูณลูกอีสาน ผมว่ายังงี้มันก็ดีออกเหมือนช่วยกันคิดมากกว่า
กลับไปเรื่องที่ไม่ได้ตัด reserve อีกที ถ้าตอนคิดยังไม่ได้หักออกน่าจะทำให้ตัวเลขเกินจริงได้ครับ เพราะว่าประกันใหม่เข้ามาน่าจะน้อยกว่าตัวเลขหักออกเนื่องจากต้องหักออกเต็มจำนวน
ผมเสนอว่าเวลาคิดน่าจะเอา net premium income มา forecast ว่าจะโตกี่เปอร์เซนต์ในแต่ละปีน่าจะดีกว่า แล้วก็ลองเทียบกับ industry standard ดู หลังจากนั้นอาจจะแปลงกลับไปเป็น reserve หรือ investments อีกทีนึงได้
เพราะเท่าที่ดู สมมุติฐานเกือบทุกอย่างก็ค่อนข้าง conservative (ไม่ว่าจะเป็น 6% income of investment) ยกเว้นเจ้า 130000 ตัวเดียวเท่านั้นที่ผมยังคาใจอยู่
คนอื่นก็ลองเอาไปต่อยอดกันเองแบบที่คุณลูกอีสานบอกละกันครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 8:21 pm
โดย ลูกอิสาน
adi เขียน:
ผมเสนอว่าเวลาคิดน่าจะเอา net premium income มา forecast ว่าจะโตกี่เปอร์เซนต์ในแต่ละปีน่าจะดีกว่า แล้วก็ลองเทียบกับ industry standard ดู หลังจากนั้นอาจจะแปลงกลับไปเป็น reserve หรือ investments อีกทีนึงได้
ก็
net premium income นี่ละครับ ที่คำนวณยากเพราะมันได้รวมเอาเบี้ยของปีก่อนๆนั้นมาด้วย ผมทำเป็นตาราง excel แต่ก็ยังไม่แน่ใจในหลายๆประเด็น ใครสนใจก็ลองไปทำดูครับ โดยให้จุดเริ่มต้นเป็นเบี้ยประกันปีแรก ซึ่งเรามีตัวเลขที่แน่นอน จากเวปที่ผมทำ link ครับ
ประเด็นที่ทำให้ผมไม่แน่ใจ มีสาเหตุครับ..
1.บริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่ ขายกรรมธรรม์เป็นแบบสามัญ แต่ของ SCNYL มีสัดส่วนของกรรมธรรม์แบบ single premium จำนวนมาก
2.ต้นทุนการประกัน -ค่าคอมมิสชั่น ผมคิดว่าการขายประกันผ่านธนาคาร จะมีต้นทุนด้านนี้ต่ำกว่าบริษัทประกันทั่วไป เพราะไม่ต้องลงทุนในการ recruit -ฝึกอบรมพนักงานขาย ซึ่งเป็นงานที่ยากที่สุด และมีต้นทุน เป็นหน้าที่ของธนาคารแทน
อีกประเด็นที่ลืมโพสต์..
คือ SCNYL ติด
call market ซื้อขายได้วันละ 3 ครั้ง ตลาดเปิดเช้า เปิดบ่าย และตลาดปิด ดังนั้นหากใครคิดจะซื้อ ต้องมั่นใจนะครับ และคาดว่าผู้ถือหุ้นใหญ่คงไม่เดือดร้อนกับประเด็นนี้ครับ เพราะต่างก็ต้องการหุ้นเพิ่มทั้ง 2 ฝ่าย ตอนที่ Bancassurance เริ่มไปได้ดี SCB ก็ไปหักคอฝ่ายนิวยอร์คไลฟ์ขอเพิ่มสัดส่วนหุ้นจาก 25% เป็น 43% ครับ
นอกจาก SCNYL มีการขายประกันผ่านธนาคาร ยังมีอีกสายเป็นการขายประกันผ่านตัวแทน ปัจจุบันมีสัดส่วนแค่ไม่เกิน 10% ของเบี้ยรวมทั้งสิ้นครับ
หากการขายผ่านธนาคารตีบตัน ก็ยังสามารถรุกทางด้านนี้ได้ครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 8:35 pm
โดย ลูกอิสาน
:lol: :lol: ขอเพิ่มหุ้นลูกเสือสำรอง 10 เด้ง สัก 3-4 ตัวนะครับ
เพื่อเพิ่มโอกาสการทายถูก..
1. SNC(4.58) แม้ในระยะสั้นจะมีความกังวลในเรื่องวัถตุดิบทองแดง ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก แต่ในระยะยาว การอยู่ในอุตสาหกรรมที่การเติบโตสูง ผู้บริหารที่เก่ง มีวิสัยทัศน์ และอายุยังน้อย จะทำให้หุ้นตัวนี้มีศักยภาพเป็นหุ้นหลายเด้ง ได้ครับ
2.SLC (3.08)หุ้นตัวเล็กๆ ผลิตซอฟแวร์ หากผลิตภัณฑ์บางตัวประสบความสำเร็จ และสามารถขายในตลาดโลกได้ ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปได้ ผู้บริหารก็เป็นคนหนุ่มไฟแรงครับ
3.WG(34.75)หุ้นของพี่ฉัตรชัย หากมีการเปลี่ยนแปลงการบริหาร มีการให้ความสำคัญในการจัดสรรเงินลงทุนเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นมากขึ้น ตลอดจนการ unlock สินทรัพย์ซ่อนเร้น ตัวนี้ก็น่าสนใจครับ
4.UMS(15.4) ตลาดสินค้าถ่านหินรายย่อย มีการขยายตัวทุกๆปี เพราะลดต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการได้ หากมีการจัดการบริหารดีๆ ก็มีโอกาสที่จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน
5. metco(292) tr(408) ah(21.2) 3 ตัวนี้มีส่วนที่เหมือนกันคือ ปันผลน้อยๆ นำเงินไปลงทุน ต้องดูว่าลงทุนแล้วคุ้มกับต้นทุนเงินทุนหรือเปล่า
:lol: :lol: ... 8 ตัวนี้ต้องมีหุ้นที่ทายถูกบ้างละ :lovl:
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 9:42 pm
โดย ลูกอิสาน
นายนะเพ็งพาแสง กล่าวยอมรับว่า ในทางปฎิบัติธนาคารให้นโยบายกับพนักงานทุกระดับในการขายผลิตภัณฑ์ทุกประเภท โดยเฉพาะประกันชีวิตซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องมีทักษะในการเจรจา ต้องคุยและทำความเข้าใจกับลูกค้าหลายครั้ง ส่วนเรื่องความพร้อมในการขายนั้น ที่ผ่านมาธนาคารได้ส่งเสริมให้พนักงานสอบใบอนุญาตในการเป็นนายหน้าขายแล้ว 3,000-4,000 คน รวมทั้งมีการพัฒนาและอบรมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากการเทรนพนักงานแล้ว ทางธนาคารยังได้พัฒนาจุดขายโดยทยอยเปิดสาขาอีก 57สาขาจากเป้าทั้งปีที่กำหนดไว้ 120 สาขา ซึ่งกว่า 50%เป็นการเปิดสาขาต่างจังหวัด ซึ่งภายในสิ้นปีนี้ธนาคารจะมีสาขารวม 682 สาขา เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการเป็น Universal Banking โดยที่การเปิดสาขาเหล่านี้จะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคาร เนื่องจากต้นทุนต่อสาขาเพียง 3ล้านบาท จุดคุ้มทุนภายใน 3ปีและมีกำไรใน 2 ปี ซึ่งปัจจุบันทุกสาขาของธนาคารสามารถทำกำไรได้
"การขายผลิตภัณฑ์ทั้งสินเชื่อ เงินฝาก สินเชื่อบุคคล ประกัน และกองทุน เป็นเป้าหมายทางธุรกิจ โดยธนาคารมีเป้าหมายจะให้ลูกค้าใช้บริการ 2ผลิตภัณฑ์ต่อราย แต่ที่ผ่านมามีการขยายฐานลูกค้าจากการเปิดบัญชีใหม่มาก ปัจจุบันกำลังดูบัญชีลูกค้าที่มีอยู่ประมาณ 6ล้านบัญชี ซึ่งในส่วนของรีเทลนั้นต้องทำรายได้ให้ธนาคารในสัดส่วน 38% ในด้านการขายแบงก์แอสชัวร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของทุกธนาคาร ณสิ้นเดือนสิงหาคมทำได้แล้ว 1,500ล้านบาทหรือคิดเป็น 43%ของเป้าหมายค่าธรรมเนียมที่กำหนดไว้ทั้งปี 2,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่กำหนดเป้าหมาย 2,000ล้านบาท โดยเฉพาะประกันชีวิตเครดิต ไลฟ์ที่เติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะสินเชื่อบ้านขยายตัวได้ดี ซึ่งในระยะ 8เดือนที่ผ่านมานี้ ปล่อยกู้ไปแล้ว 36,000ล้านบาทจากเป้าทั้งปี 2548 ที่ตั้งไว้ที่ 44,000ล้านบาท "
เป้าหมายเปิด 120 สาขานะครับ ไม่ใช่ 60 สาขา
ผมมองว่ากลยุทธ์นี้ของคุณวิชิต คุณหญิงชฎา มาถูกทางแล้วครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 9:57 pm
โดย jiras
ผมขอเสริมเกี่ยวกับการให้พนักงานขายประกันนะครับ
ผมเคยทำงานไทยพาณิชย์แต่ออกมานานแล้วแต่ยังติดต่อเพื่อนอยู่ ที่ผ่านมาธนาคารให้ค่าตอบแทนที่พนักงานขายประกันค่อนข้างน้อยทำให้ขาดแรงจูงใจในการขาย(น้อยที่สุดในบรรดาธนาคารทั้งหมด) ปีแรกๆจะขายได้เพราะใช้ฐานลูกค้าเดิมแต่ปีต่อไปพนักงานจะขายได้ยากขึ้นและไม่ค่อยมีความกระตือรือล้นที่จะขาย อันนี้อาจจะเป็นความเสี่ยงอีกอย่างนึงครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 10:57 pm
โดย adi
ลูกอิสาน เขียน:
ก็ net premium income นี่ละครับ ที่คำนวณยากเพราะมันได้รวมเอาเบี้ยของปีก่อนๆนั้นมาด้วย ผมทำเป็นตาราง excel แต่ก็ยังไม่แน่ใจในหลายๆประเด็น ใครสนใจก็ลองไปทำดูครับ โดยให้จุดเริ่มต้นเป็นเบี้ยประกันปีแรก ซึ่งเรามีตัวเลขที่แน่นอน จากเวปที่ผมทำ link ครับ
ทราบครับ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นที่คุณลูกอีสานคำนวณนี่เริ่มจากเบี้ยประกันปีแรกแล้วค่อยๆบวกทบมา
ของผมหมายถึงเดา เอ๊ย forecast net premium income จาก net premium income ปีก่อนๆ เช่นคาดว่าจะเติบโตจากปีที่แล้วกี่เปอร์เซนต์ แล้วโดยปกติ industry นี้ net premium โตกี่เปอร์เซนต์ต่อปี
แบบนี้ไม่ต้องเอาตัวเลขสี่พันล้านตอนแรกมาคิดให้งง เพราะไม่งั้นเราก็ไม่ได้ตัด reserve ซึ่งอาจทำให้ตัวเลขดูดีเกินจริงได้ครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 22, 2005 11:04 pm
โดย adi
ผมว่าผมจบเรื่อง scnyl ของผมเท่านี้ดีกว่าเพราะไม่ถนัดจริงๆ หลายคนอาจบอกว่าหุ้นประกันง่าย สำหรับผมเนี่ยทั้งหุ้นแบงค์ ไฟแนนซ์ ประกัน เนี่ยยากสุดๆ เพราะใช้เงินเป็นสินค้า การหา cash flow to equity ก็จะงงๆเพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ management มากเหมือนกัน
(มาถึงตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าปล่อยไก่ไปกี่ตัวแว้ววว)
ผมมีหุ้นที่ตรงกับคุณลูกอีสานอีกตัวนึงคือ metco ซึ่งเป็นตัวที่ทำ valuation ไม่ยากมากนัก อาจจะมาคุยกันเพิ่มได้ครับถ้ามีเวลา
ถ้าแค่ 5X ละก็ พอหาได้ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 23, 2005 9:57 am
โดย worapong
ถ้าตั้งเป้า 10 เด้งเลยมันยากนะครับ แต่ถ้า 5เด้งนี่ se-ed , IT น่าจะทำได้นะครับ อย่าง se-ed โตประมาณ 10-15% ต่อปี ปันผล 8-9% ต่อปี ส่วน IT โต 15-20% ต่อปี ปันผล 5% ต่อปี ถ้ารวมเงินปันผลและ capital gain ก็น่าจะทำได้ครับ สำหรับ IT มีความเสี่ยงคือในตลอด10ปีข้างหน้า อาจมีบางช่วงเวลาที่กำลังซื้อหด ถ้าเค้าขายไม่ได้ สินค้าจะตกรุ่น และจะขาดทุนได้ครับ แต่ถ้าเกิดตอนนั้นหุ้นเค้าราคาถูกมากๆ แล้วเค้ายังคงเป็นผู้นำต่อไป เค้าคงกลายเป็น10เด้งได้ครับ :twisted: :twisted:
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2005 3:11 pm
โดย Tiger
ผมบ้างนะ เอามันนะครับ อย่าซีเรียส
ทีเด็ด 10 เด้งของผม คือ M-CHAI ครับ
เป็นโรงพยาบาลที่ค่อย ๆ เติบโตครอบคลุมพื้นที่ โซนภาคใต้ตอนบน
โดยใช้การเข้าไปซื้อหุ้นโรงพยาบาลที่มีศักยภาพแต่มีปัญหาการเงินครับ
แล้วมาจัดการบริหารให้ได้กำไร
แต่การเติบโตก็ไปได้ช้า และมีขีดจำกัด จนกระทั่ง....
หมายเหตุ ผมมีส่วนได้ ส่วนเสีย ทั้งทางตรง และทางอ้อมจากโรงพยาบาลนี้นะครับ
ฟังแต่ไอเดียแล้วกัน จริง เท็จ ต้องติดตามดูรายละเอียดกันเองนะครับ
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2005 3:18 pm
โดย Tiger
ไปจับมือกับโรงพยาบาลวิภาวดี ลงทุนใน โรงพยาบาลเจ้าพระยา ปิ่นเกล้า
ทำการ Renovate และ Repositioning ใหม่
แม้สัดส่วนการลงทุนจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็เป็น jigsaw ตัวใหญ่ ในการใช้
ศักยภาพที่มี่ให้สร้างมูลค่าได้เต็มที
พูดถึง jigsaw ก่อน
โรงพยาบาลเจ้าพระยา น่าจะเป็นโรงพยาบาลแรก ในเมืองไทย ที่ใช้เทคโนโลยี
stem cell ในการรักษา เรื่อง โรคหัวใจ และในอนาคตเรื่องโรค กระดูก
โดยใช้องค์ความรู้ และการร่วมมือกับ (ถ้าจำไม่ผิด) บริษัทในอิสราเอล
โดยหลักที่ว่า ผู้คนปัจจุบันเมื่อแก่ตัว ส่วนใหญ่ก็จะมีปัญหาเรื่อง หัวใจ และกระดูก
เป็นสัดส่วนที่สูงอยู่มาก ปัจจุบันมีคนไข้ต่างชาติมารักษาแล้ว 12 คน
so far so good สำหรับผลการรักษา
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2005 3:26 pm
โดย Tiger
M-CHAI ถือได้ว่าเป็นเจ้าถิ่น พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง มีบุคลากรพื้นที่ที่แข็งแกร่ง
ถ้าบวกกับการรักษาแบบเข้าข่ายทันสมัยมากที่สุดแห่งนึงของโลก
บวกกับผู้ร่วมลงทุนที่มีวิสัยทรรศน์ และกำลังด้านอื่น
โรงพยาบาลเจ็ง ๆ หรือ
ศูนย์ดูแล สุขภาพ ผู้ป่วย และ ผู้สูงอายุ (ที่มีอันจะกินมาก ๆ)
Long stay ที่บำบัดสุขภาพทั้งแผนเก่าและใหม่ ทั้งทางเทคโนและจิตใจ
ถ้า Mega Project นี้เกิดที่หัวหิน
Mega Project นี้แหละครับ จะทำให้ M-CHAI ถึง 10 เด้งแน่นอน
ฝันดีครับทุกท่านที่ติดตาม
:lol:
งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2005 3:40 pm
โดย wizard
เล่น10เด้ง
ก็ต้องเล่นหุ้นเน่าคาดว่าจะพื้นก็
picni
ถ้าไม่โดนเตะออกจากเกมก่อน