หน้า 2 จากทั้งหมด 2

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 5:46 pm
โดย piranart
ในการเปิดสาขาของ it จะใช้เงินลงทุนประมาณ 7 ล้านบาทในการตบแต่งสาขาซึ่งสามารถได้เครดิตจาก supplier 2-3 เดือน inventory ก็สามารถได้เครดิตพอๆกัน ส่วนยอดขายมักจะตั้งเป้าไว้ประมาณ 5-8 ล้านบาทต่อเดือนตั้งแต่เดือนแรก ดังนั้นจะเห็นว่ากระแสเงินสดเป็นบวกตั้งแต่เดือนแรก ทำให้ในปัจจุบัน it มีเงินสดเหลือ จึงมีปัญหาต้องไปหาที่ฝากเงิน ดังนั้นการซื้อสินค้าจึงอยากจะจ่ายสดเพราะจะได้รับส่วนลดมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากมากๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทุกครั้งเพราะกลัวว่า supplier จะรู้ทันแอบบวกราคามาก่อน ดังนั้นต้องทำในลักษณะที่ supplier คาดการณ์ไม่ได้   ส่วนสาขาไหนที่เขารู้สึกว่าดีแล้วเจ้าของสถานที่มีความต้องการเงินก็มีการเจรจาจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าหลายปีเพื่อได้ส่วนลด ขนาดทำขนาดนี้แล้วปีที่แล้วยังจ่ายปันผล  70%ของกำไรเลย ที่จ่ายเกิน70% ไม่ได้เพราะไม่อยากไปเปลี่ยนแปลงราคาแปลงสภาพของ it-w1
การที่ it focus ที่ core business และไม่ take asset ผมว่าเป็นสิ่งที่สมควรทำนะ ไม่อธิบายเหตุผลนะเพราะพิมพ์ไม่เก่ง ลองคิดกันเองดูแล้วกันคิดลึกๆหน่อย

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 6:15 pm
โดย woody
ความเห็นส่วนนี้เป็นสิ่งที่พี่ Piratorn ฝากมานะครับ  บวกกับของผมด้วยนิดหน่อยนะครับ

เรื่องของพื้นที่ที่ IT ดำเนินงานอยู่นั้นส่วนใหญ่แล้วไม่ได้ถือว่าเป็น Prime Area เนื่องจากการทำลักษณะดังกล่าวนั้นจะทำให้ค่าใช้จ่ายหรือค่าเช่านั้นสูง แต่จะไปใช้พื้นที่ที่คิดว่าทำอย่างอื่นแล้วไม่ค่อยรุ่งแล้วแทน ยกตัวอย่างเช่น Zeer รังสิตซึ่งแต่เดิม IT อยู่ที่ชั้น 3 แต่เมื่อผู้เช่าเดิมที่อยู่ชั้นบนสุดกลับไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ทางผู้บริหาร Zeer ก็ได้เชิญให้ IT ไปใช้พื้นที่ด้านบนแทนโดยที่จะคิดอัตราค่าเช่าให้ถูก....พื้นที่เช่าส่วนนี้ภายหลัง IT ได้นำมาใช้เป็นโกดังด้วยเลย

นอกจากนี้ถ้าพูดถึงที่ Prime Area แล้ว IT ก็ไม่ได้มีการริเริ่มที่จะทำนะครับ สังเกตุได้จากสาขา Paragon ที่เริ่มพยายามลอง Model ธุรกิจใหม่ๆ ดูด้วยเช่นกัน

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 7:38 pm
โดย chatchai
จากงวดสิ้นปี 48  บริษัทมียอดขายรวม 4,421.42 ล้านบาท  มี EBIT จำนวน 201.67 ล้านบาท  เทียบเป็นสัดส่วนต่อยอดขาย 4.56%

จากงวดไตรมาสที่ 1 ปี 49  บริษัทมียอดขายรวม 1,187.97 ล้านบาท  มี EBIT จำนวน 49.67 ล้านบาท  เทียบเป็นสัดส่วนต่อยอดขาย 4.18%

ผมไม่รู้ว่า  การที่บริษัทมีเงินสดเหลือเยอะแล้วไปชำระเงินให้ Supplier ก่อน  เพื่อให้ได้ส่วนลดนั้น  บริษัทได้ส่วนลดกี่เปอร์เซ็นต์  

แต่จากที่บริษัทมี สัดส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเพียงแค่ 4% กว่าๆ  ก็น่าห่วงการทำกำไรนะครับ

หรือว่าธุรกิจมีสัดส่วนกำไรน้อยมากๆ  ถ้าบริษัทไม่มีเงินสดเหลือพอ  เพื่อที่จะได้ส่วนลด  แล้วอาจจะลำบาก  ยิ่งถ้าต้องกู้หนี้ยืมสินด้วยแล้ว  หักดอกเบี้ยจ่ายจะเหลือกำไรไหมครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 8:20 pm
โดย สุมาอี้
inventory ของสินค้า IT อันตรายกว่าสินค้าประเภทอื่น เพราะราคาสินค้า IT จะลดลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว คิดจะซื้อสดมาตุนไว้อาจเจ็บตัวได้ครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 11, 2006 8:52 pm
โดย CK
สุมาอี้ เขียน:inventory ของสินค้า IT อันตรายกว่าสินค้าประเภทอื่น เพราะราคาสินค้า IT จะลดลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว คิดจะซื้อสดมาตุนไว้อาจเจ็บตัวได้ครับ
แต่สินค้าที่มี turn over rate สูง
หรือไม่ใช่ IT โดยตรง
ก็สามารถทำได้ครับ

เช่น accessories หรือ supplies

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 1:03 pm
โดย piranart
โดยปรกติสินค้าพวก it กำไรไม่มากครับ แล้วยังล้าสมัยเร็วด้วยดังนั้นการที่ it สามารถบริหารได้จึงถือว่าเป็นความเด่นของเขา คนอื่นจะเข้ามาก็ไม่ง่าย โดยเฉพาะคู่แข่งจากต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะในต่างประเทศจะมียอดขายทางด้าน software ที่ค่อนข้างจะสูง ซึ่งมีกำไรดีกว่า hardware แต่ในบ้านเราก็รู้ๆกันว่าอย่างไร ในอนาคตอัตรากำไรจะเพิ่มขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายในการบริหารส่วนที่เป็น core จะคงที่หรือเพิ่มขึ้นน้อย   อนาคตถ้ามี IT modern trade จากต่างประเทศที่อยากจะเข้ามาในภูมิภาคนี้ IT City น่าจะเป็นเป้าหมายในการที่จะเข้ามาร่วมทุน และนี่เป็นอีกสาเหตุที่กองทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อหุ้นอยู่ในขณะนี้

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 5:51 pm
โดย ssintra
ถ้าเราเอาภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันเป็นเกณฑ์ ผมมีแนวความคิดว่าสินค้าไอทีซึ่งจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยตัวหนึ่ง น่าจะเป็นสินค้าตัวแรกๆที่จะไม่ซื้อในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาซึ่งน่าจะมีผลต่อยอดขายในอนาคตครับ
รบกวนอยากทราบ same store sales ของ It ว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไรด้วยครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 8:36 pm
โดย piranart
ยอมรับครับว่าสินค้า it อาจจะเป็นสินค้าที่จัดว่าฟุ่มเฟือย  ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีผมก็คงจะเปลี่ยน notebook โซฟา และอื่นๆที่ไม่ใช่สินค้า it ถี่น้อยลง  แต่ผมคงยังใช้หมึก กระดาษพิมพ์ และถ้า mouse เสียผมก็คงยังซื้อ ชม net หมดผมก็คงยังต้องใช้  กระเป๋าnotebook ขาดก็คงต้องซื้อใหม่ ถ้าลูกโตขึ้นที่โรงเรียนบอกต้องมีคอมพิวเตอร์ใช้ ก็คงจะต้องซื้อให้  ประเทศไทยอัตราการใช้it ยังน้อยมากเทียบกับประเทศอื่นๆ  ถ้าไปดูสินค้าใน IT City ผมว่าเขาน่าจะขาย printer มากนะครับ และพวก ascessery and supplier ด้วย

เป็นแค่ my point of view นะ (ผมมี IT เยอะอาจ bias ครับ)

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 10:24 pm
โดย chatchai
ลูกค้าของ IT ส่วนใหญ่  เป็นรายย่อย  หรือว่าองค์กร ครับ

ผมเดาว่าน่าจะเป็นองค์กร  เพราะรายย่อยน่าจะไปหาซื้อตามพันธุ์ทิพย์มากกว่า

และถ้าเป็นองค์กร  สภาวะเศรษฐกิจก็น่าจะส่งผลต่อ  ปริมาณการใช้งานประเภท IT ด้วยนะครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 10:49 pm
โดย SAFARI
ไอที ขายสินค้าเงินสด ลูกค้าต้องเอาเงินมาซื้อของที่ร้าน ดังนั้นลูกค้าจึงน่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไป หรือพนักงานบริษัทที่ เจ้านายให้มาหาซื้อของเกี่ยวกับไอที เพราะต้องการบิลVAT ไปเบิกบริษัทได้

ผมว่าเรื่อง same store sale คงจะมีการเติบโตที่ดี เพราะปีที่แล้วเปิดสองสาขา โดยที่สาขาพารากอนยังไม่คุ้มทุน ก็ยังสามารถทำกำไรของไตรมาสแรกโตได้ขนาดนี้ ผมว่าเรื่องการจัดการสินค้าและสต๊อกทำได้ดีทีเดียวครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 12, 2006 10:58 pm
โดย woody
ssintra เขียน:ถ้าเราเอาภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันเป็นเกณฑ์ ผมมีแนวความคิดว่าสินค้าไอทีซึ่งจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยตัวหนึ่ง น่าจะเป็นสินค้าตัวแรกๆที่จะไม่ซื้อในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาซึ่งน่าจะมีผลต่อยอดขายในอนาคตครับ
รบกวนอยากทราบ same store sales ของ It ว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไรด้วยครับ
เรื่องนี้ผมก็กลัวเหมือนกันครับคุณ ssintra เพราะสำหรับผมสินค้า IT น่าจะถูกจัดเป็นของฟุ่มเฟือยเช่นกัน แต่ผมก็แปลกใจพอควรว่าแล้วทำไมผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งปีปัจจัยลบมากมายเหมือนกันไม่ว่าจะเศรษฐกิจและการเมือง IT ยังสามารถเติบโตได้ดีใน Q1 ที่ผ่านมา ในขณะที่หนังสือซึ่งไม่น่าจะจัดว่าเป็นของฟุ่มเฟือยเท่าไหร่กลับได้รับผลกระทบมากกว่า....ทั้งนี้คำตอบส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเรื่องของ Stage of Growth ที่อยู่ต่างกันระหว่างธุรกิจทั้งสองก็เป็นได้อย่างที่พี่ piratorn บอกว่าคนไทยยังถือว่าใช้อุปกรณ์ IT น้อยอยู่มากๆ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ

อย่างไรก็ดีคงต้องรอดูกันอีกซักระยะครับว่าผลระยะยาวจะออกมาเป็นอย่างไร

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 9:16 am
โดย nanakorn
ถ้าเราเอาภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันเป็นเกณฑ์ ผมมีแนวความคิดว่าสินค้าไอทีซึ่งจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยตัวหนึ่ง น่าจะเป็นสินค้าตัวแรกๆที่จะไม่ซื้อในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาซึ่งน่าจะมีผลต่อยอดขายในอนาคตครับ
ผมมีความคิดว่า สินค้า IT เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่ขึ้นกับลูกค้าครับ  ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ IT ในที่่ทำงานต่างๆเกือบทั้งหมดเป็นของจำเป็น เสียต้องซ่อม หรือซื้อใหม ไม่มีใช้ไม่ได้ ในบางกรณีตกรุ่นก็ต้องเปลี่ยน  แต่อุปกรณ์ IT ส่วนตัวหลายๆอย่างเป็นของฟุ่มเฟือย คือจริงๆแล้วเป็นของเล่นนั่นเอง  ผมไม่ทราบว่าสัดส่วนลูกค้าของ IT เป็นอย่างไรครับ

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 13, 2006 11:35 pm
โดย piranart
ผมก็เคยถามตัวเองเหมือนกันครับว่าใครคือลูกค้าของ IT  เคยคิดเหมือนกันว่าลูกค้าองค์กรน่าจะมาก  แต่มาทราบภายหลังว่าลูกค้าที่เป็นคนธรรมดามากกว่า ข้อดีของการซื้อของที่ IT คือใช้บัตร credit ได้ ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม ผ่อนได้โดยการผ่าน Partner ต่างๆ เช่น easy buy โดยที่พนง ขายจะพยายามถามด้วยว่าอยากผ่อนไหมเพราะ IT จะได้รับผลประโยชน์จาก partner เหล่านี้ด้วย
มีคนอีกหลายประเภทรวมทั้งตัวผมเองด้วย จะรู้สึกงงในการเดินที่ pantip แต่รู้สึกสบายใจกว่าในการที่จะดูหรือซื้อของที่ IT

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 14, 2006 12:18 am
โดย Kao
ผู้บริหารบอกว่าในวันประชุมผู้ถือหุ้นว่า ลูกค้าหลักของITเป็นลูกค้าปลีกทั่วไป (ที่ไม่ค่อยมีความรู้ทางเทคนิคมากนัก)

ผมว่าข้อดีของIT คือ ความน่าเชื่อถือ ราคามาตรฐาน สะดวกสบาย ซื้อแล้วสบายใจ ซึ่งตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 14, 2006 12:46 pm
โดย โอ@
N(1.xxเอาละมาดูกันดีกว่า ผมคิดเล่นมั่ง
กำไรปีที่แล้ว 150 ล้านบาท

ให้โต 25% 5 ปีเลยอ่ะ ยากเห๊อะ!!
1 187.5
2 234.3
3 292.9
4 366.2
5 457.7

ทีนี้มาดูกันสมมติว่าไม่มีหุ้นมาหารเพิ่ม ก็ต้องหารประมาณ 351 ล้านหุ้น
ได้ EPS อีกห้าปีข้างหน้า 1.3
ให้ P/E 15 ละกัน ไม่รู้เหมือนกันทำไมให้เท่านี้ ราคาควรเป็น 19.5
แต่ถ้า P/E 14 ละ PTTEP ยังประมาณนี้เลยก็จะได้ 18.2
ถ้าลดลงมา 13 ก็จะเหลือ 17 บาท

y(1+0.15)^5
= 0.497y เอาซะว่า 0.5y ละกัน
** y คือราคาเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้า

ถ้าเอากำไร 15% ราคาตอนนี้ก็ต้องซื้อระหว่าง 8.5 -> 9.75 แล้วแต่ P/E ตอนนู่นว่าอยากได้เท่าไหร่

บทสรุปก็คือมีทางเป็นไปได้ แต่เสี่ยงเกินไป

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 06, 2007 12:10 pm
โดย booklover
ผ่านไปปีกว่าๆลองมาตามผลประกอบการดูครับ :D

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 06, 2007 10:26 pm
โดย Ryuga
หวังว่า Q3 จะไม่ร่วงเยอะนะครับ :lol:

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 07, 2007 10:05 am
โดย atsu
Ryuga เขียน:หวังว่า Q3 จะไม่ร่วงเยอะนะครับ :lol:
ผมคาดว่าจะฟื้นด้วยซ้ำ  :lol:
แต่พอเห็นราคาช่วงนี้ชักเสียว
หลายๆครั้งในตลาดหุ้นไทย  ราคามักจะนำหน้าไปถูกทางก่อนผลประกอบการออก  :evil:

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 11, 2007 1:01 am
โดย shyklang
ความเห็นส่วนตัวนะ ครับ ที่คุยกับคนภายใน เอสวี กับ ไอทีซิตี้

อุปกรณ์ ที่ ไม่ใช้ สินค้า ที่ เป็น รายใหญ่ อย่าง HP SONY ACER EPSON หรือ พวกอุปกรณ์ ต่อพ่วง จะเป็น สินค้า ฝากขายเป็นส่วนใหญ่ อาจไม่ต้อง ห่วงเรื่อง สินค้าตกรุ่น มากนัก แต่ ถ้า เค้า จัดการเรื่อง สินค้าคงคลัง ดี ๆ กำไรจะดีกว่านี้ แยะ ส่วน การ ขาย องค์กร ถ้า เป็น ภาครัฐ เอสวีโอเอเป็นคนดู ครับ  :roll:  :lol:  :shock:

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 11, 2007 6:28 am
โดย touchup
ตัวนี้เป็น superprime ไหมครับ
จะได้ซื้อติดพอร์ตไว้มั่ง

คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 12, 2007 8:21 am
โดย ch_army
ผมว่าทางบริษัทน่าจะเพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจอีกนิดด้วยการจัดอบรม ฟรีให้ผู้เกษียณ หรือว่าจ้างทีมงานที่มีการอบรมทำนองนี้อยู่แล้ว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม และสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไปนะครับ แบบว่าอบรมแล้วก็อาจจะขอแนะนำสินค้าไปด้วย แจกโบร์ชัวร์ ให้คำแนะนำเรื่องสินค้า ไม่รู้ว่าคนอื่นๆว่ากันอย่างไรครับ

Re: คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2012 3:59 pm
โดย pak
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทฯ ที่ต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบ
ใน Pantip นั้น ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงมากมาย

อะไรก็คาดเดาได้ยากจริงๆครับ

Re: คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2012 5:55 pm
โดย workart
เป็นตัวที่คงต้องรอดูว่าจะปรับเปลื่ยนยังไงเลย ช่วงนี้ซัดข่าวร้ายกันอยู่แต่คงต้องดูว่าพื้นฐานจริงๆเป็นไงแอบตามดูต่อดีกว่า หึหึ

Re: คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 18, 2012 6:55 pm
โดย sei96
เค้าว่ากันว่า.. ราคาหุ้นสะท้อนทุกอย่าง.. ชาว thai VI คิดว่า.. อนาคตของ IT CITY จะออกมารูปแบบไหน จะเหมือนกับ California WOW หรือไม่...
รอดูไตรมาสนี้ ถ้าหากได้สักกำไร/หุ้นสัก 0.07 บาทเท่าไตรมาสที่ 2/2012 ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
แต่ถ้าหากมีปาฏิหาริย์ได้ 0.10 บาทเนี่ย เกมส์พลิกทันที

Re: คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 18, 2012 10:53 pm
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
sei96 เขียน:เค้าว่ากันว่า.. ราคาหุ้นสะท้อนทุกอย่าง.. ชาว thai VI คิดว่า.. อนาคตของ IT CITY จะออกมารูปแบบไหน จะเหมือนกับ California WOW หรือไม่...
รอดูไตรมาสนี้ ถ้าหากได้สักกำไร/หุ้นสัก 0.07 บาทเท่าไตรมาสที่ 2/2012 ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
แต่ถ้าหากมีปาฏิหาริย์ได้ 0.10 บาทเนี่ย เกมส์พลิกทันที
ทำไมถึงเทียบกับ cawow ครับ ไม่เข้าใจ ทุกอย่างต่างกันหมด

Re: คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 19, 2012 9:19 pm
โดย MrRobot
มันเป็นไปตามวัฎจักร IT หรือเปล่า IT น่าจะเป็นเหมือน Modern Trade เเต่ดูดีดี ทำไมเราต้องซื้อคอมที่นี่ทั้งๆที่มีทั้ง Banana IT JIB เเละอีกเยอะเเยะหลายเจ้า ผมเคยสังเกตุว่าคนเดินใน IT ไม่มากเเต่เขามีกำไรเเละปันผลดีตลอดมันต้องมีอะไรดีเเน่ๆ จะรักษาผลงานดีดีได้ตลอดหรือไม่ เมื่อเวลาผ่านไปจะได้เห็นว่าเขาเจ๋งจริงไหม

Re: คิดยังไงกับงบ IT ที่ออกมาครับ ??

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 23, 2012 9:38 pm
โดย kasam
555 เอา IT เทียบกับ CAWOW เสียของเลยครับ