ผมอ่านแล้วคิดว่า สปน.ตีความเข้าข้างรัฐไว้ก่อน2. กรณีการคำนวณค่าปรับตามเงื่อนไขสัญญาข้อ 11 วรรค 2 ที่ระบุว่า
"หากผู้เข้าร่วมงานมิได้ดำเนินการตามผังรายการที่ระบุไว้ในวรรคแรก
ผู้เข้าร่วมงานยินยอมชำระค่าปรับในอัตราร้อยละ 10 (สิบ) ของ
ค่าตอบแทนที่รัฐจะได้รับในปีนั้นๆ โดยคิดเป็นรายวัน" สปน.ได้คำนวณ
ค่าปรับตั้งแต่ บมจ.ไอทีวีปรับผังรายการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547
จนถึง วันที่ 9 พฤษภาคม 2549 เป็นเงินทั้งสิ้น 75,960 ล้านบาท
โดยที่สปน. คำนวณจากค่าสัมปทาน ปีละ 1,000 ล้านบาท ค่าปรับ
ร้อยละสิบ คือ 100 ล้านบาท คูณด้วยจำนวนวัน ดังนั้นในปี 2548
ค่าปรับทั้งปีเป็นเงิน 36,500 ล้านบาท
บริษัทฯ ได้แย้งว่าตามเจตนารมณ์ของสัญญาค่าปรับให้คิดเป็นรายวัน
เพราะการกระทำความผิดและการแก้ไขให้ถูกต้องอาจมีจำนวนวันไม่
ครบทั้งปี โดยกำหนดให้ค่าปรับต่อวันมีมูลค่าร้อยละ 10 ของค่าสัมปทาน
ต่อวัน ฉะนั้นการคำนวณควรเป็นดังนี้ คือ คำนวณค่าสัมปทานเป็นรายวันก่อน
(1 พันล้าน หารด้วย 365 วัน) เป็นเงินประมาณ 2.74 ล้านบาท
แล้วจึงคำนวณค่าปรับต่อวัน (ร้อยละสิบของค่าสัมปทานต่อวัน) เป็นเงิน
2.74 แสนบาท ดังนั้นค่าปรับทั้งปี 365 วันในปี 2548 เป็นเงินจำนวน
100 ล้านบาท บริษัทฯ คำนวณค่าปรับรวมทั้งสิ้นเป็นเงินประมาณ 208 ล้านบาท
มิใช่จำนวน 75,960 ล้านบาทตามที่สปน.คำนวณ บริษัทฯ มีความเห็น
เพิ่มเติมว่า ค่าปรับดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่าค่าสัมปทานตลอดอายุสัญญา
30 ปี ถึง 3 เท่า ซึ่งไม่น่าจะสมเหตุสมผล
ซึ่งไอทีวีก็แย้งแบบสมเหตุสมผล
ตามความคิดเห็นของผมไอทีวีไม่น่าจะต้องเสียค่าปรับถึง75,960 ล้านบาท