หน้า 2 จากทั้งหมด 3

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 11:44 am
โดย สุมาอี้
jaychou เขียน: คราวนี้ถามจริงๆ ที่เรียกว่า "Random Walk" มันเป็นยังไงครับ เคยได้ยินมานานแล้ว
Random Walk ก็หมายถึง ราคาในวันพรุ่งนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นจากราคาวันนี้เท่ากับโอกาสที่มันจะลดลงจากราคาวันนี้เป๊ะ

ลองเริ่มต้นที่ราคาหุ้น 1 บาท แล้วทอยเหรียญ ถ้าออกหัว ก็เพิ่มขึ้นหนึ่งบาทเป็น 2 บาท ถ้าออกก้อยก็ลดลงหนึ่งบาทเหลือ 0 บาทด้วย ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สัก 20 ทีจะได้กราฟที่เลื่อยไปเลือยมาอย่างไร้ทิศทาง

คนที่เชื่อแนวคิดนี้จะ buy and hold index funds อย่างเดียวเลย

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 12:20 pm
โดย oaaa19
ขออนุญาติแย้งคุณ tt นิดนึง

DSM อาจจะเหมาะกับคนที่เข้าใจ DSM อย่างลึกซึ้งมากกว่า เพราะ ถ้าผิดพลาดไป จะกลายเป็นว่า ขาดทุนหนักกว่าเดิมอีก ตัวอย่างก็มีให้เห็นในpantip กลุ่ม สินธร อยู่เรื่อยๆ

ทุกคนก็ต้องเคยผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น

เห็นด้วยเรื่อง อ่าน อ่าน แล้วก็อ่าน

ล้าง port ออกมานั่งดูก่อนดีกว่า  

Load 56-1 ของหุ้นที่สนใจจาก
http://www.set.or.th/set/downloadreport ... country=TH   มาอ่านก่อน
แล้วมาอ่าน ร้อยคนร้อยหุ้น

ขอ งบดุล12ปีของพี่ครรชิตมาดู มีประโยชน์มาก
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 85cf22201f

อ่านหนังสือที่คุณกระทิงแดงให้ Link ไว้

ทำใจให้นิ่งๆก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:06 pm
โดย booklover
ผมว่าต้องพยายาม เปิด net ให้น้อยลงนะครับ

แล้วเอา

เวลาไปอ่านหนังสือมากๆทั้งการลงทุน หนังสือด้านธุรกิจ

อื่นๆทั้ง marketing , management ,finace , accout

อาจจะฟังดูยากแต่หลายๆคนที่นี่ก็จบ คณะที่ไม่มีพื้นฐาน

ด้านพวกนี้มาก็อ่านได้ครับ

พวกรายสัปดาห์

ดีๆอย่าง การเงินการธนาคาร , MBA , ฐานเศรษฐกิจ

เมื่ออ่านมากๆ สุดท้ายจะมองว่าหุ้นเป็นธุรกิจแล้วจะซื้อ

แบบมีเหตุผลมากขึ้นน่ะครับ ไม่ใช่ซื้อเพราะเค้าว่าดี

แต่ซื้อเพราะเราเข้าใจว่ามันดียังไง  พอมีปัญหาก็มาถาม

พี่ๆในนี้ในจุดที่ไม่เข้าใจน่ะครับ ส่วนใหญ่จะยินดีช่วย

ถ้าไม่ใช่คำถามประเภท เกิดไรขึ้นทำไมตก ทำไมขึ้น  

แนะนำหุ้นให้หน่อยประเภทนี้น่ะครับ :D อยู่ที่ความพยายามของเราน่ะ

ครับ ที่สำคัญต้องพยายามเองครับ แข่งกับตัวเองให้ได้

แล้วจะดีเองครับ สู้ๆครับ ผมมั่นใจว่าคนที่ลงทุนสำเร็จ

ทุกคนอ่านหนังสือกันเยอะมาก แล้วก็ชอบสะสมหนังสือ

เป็นงานอดิเรกครับ :D

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:06 pm
โดย slam2711
ยังไม่สายไปครับ ที่จะศึกษา จริงๆจังๆ หาข้อผิดพลาด แล้วแก้ไขสะ
ครั้งแรกผมก้อเล่นหุ้นปั่น ขาดทุนไป 40% ในเวลาไม่กี่เดือน
หลังจากนั้นก้อเริ่มศึกษาแนวทาง vi อ่านจากเวปนี้ แล้วมาปรับใช้กับเรา
ผมก้ออ่านงบไม่ค่อยเป็นครับ ใช้แบบกึ่งสำเร็จรูปเอา
ดูจากบทวิเคราะห็หลายๆ เจ้า ดูจากบทวิเคราะห์ที่ราคาสูงๆ กะที่ต่ำๆ
แล้วนำมาวิเคราะห์อีกที สอบถามจากทางบริษัทบ้าง ก้อได้แบบงูๆ ปลาๆ
ตอนนี้กลับมากำไร 10% กว่าแล้ว แต่ยังต้องศึกษาเพิ่มเรื่อยๆ
หาหนังสือที่ในเวปแนะนำมาอ่าน แล้วทดลองทำแบบฝึกหัด
และที่สำคัญที่สุด หัดนั่งสมาธิ ทำใจครับ (ใจเราน่ากลัวที่สุด)

เป็นกำลังใจให้ครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:14 pm
โดย jaychou
ขอบคุณสำหรับคำอธิบาย Random Walk ครับ รู้สึกว่าหุ้นตัวหนึ่งที่ถืออยู่จะคล้ายๆ Random Walk เห็นมันป้วนเปี้ยนระหว่าง Top Gainer กับ Top Loser ครับ ฮ่าๆ

พวก Trading System อย่าง DSM จำเป็นต้องใช้วินัยและจิตใจที่มั่นคง มากกว่า VI อีกนะครับ อาจารย์ซีเคเคยบอกไว้ว่า ถ้าเทรด 10 ครั้งคุณทน cut loss 9 ครั้งเพื่อที่จะทำกำไร 1 ครั้งไม่ได้ ก็ไม่ควรใช้ Trading System ครับ

Re: ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 1:33 pm
โดย SupachaiZ594
ให้ติดตามหุ้นเหมือนเดิม แต่ห้ามซื้อขาย จนกว่าเราหายอยากค่อยซื้อขายได้(จุดนี้สำคัญที่สุด ถ้ายังห่วงมันจะวิ่ง แสดงว่ายังไม่พร้อมที่จะลงทุน ถ้ารู้สึกเบื่อราคาหุ้นเมื่อไหร่ ค่อยลงทุน)

สุดยอดวิชาครับ นับถือ ๆ ๆ ๆ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 2:48 pm
โดย สุมาอี้
jaychou เขียน: พวก Trading System อย่าง DSM จำเป็นต้องใช้วินัยและจิตใจที่มั่นคง มากกว่า VI อีกนะครับ อาจารย์ซีเคเคยบอกไว้ว่า ถ้าเทรด 10 ครั้งคุณทน cut loss 9 ครั้งเพื่อที่จะทำกำไร 1 ครั้งไม่ได้ ก็ไม่ควรใช้ Trading System ครับ
อันนี้ลึกซึ้งมากครับ สอดคล้องกับกลยุทธ์การเล่นโป๊กเกอร์ที่ผมเขียนในบล็อกด้วย ไว้ต้องหาโอกาสศึกษา DSM ดูบ้าง

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 6:06 pm
โดย Rocker
อยากให้คิดแบบนักธุรกิจอะ จะได้ไม่ต้องกังวล
และที่สําคัญไม่ต้องสนราคาหุ้นระยะสั้น

คิดแบบนักธุรกิจคือ เสมือนเราเปิดธุรกิจทําเอง
เราต้องรู้ทั้งหมดเกี่ยวบริษํทที่เราจะทํา ปัจจัย บวก ลบ ผู้บริหารอีก


VI เป็นยากตรงที่ Emotion ครับมันต้องใช้เหตุผลสู้กับอารมย์ตนเองครับ
ผมว่าหากคุณเข้าใจธุรกิจที่คุณลงหรือว่าทําไรอยู่ก็ไม่น่ามีไรให้ห่วงนะ
แต่
ตอนนี้คุณไร้เข็มทิศ แนะนําให้หาหลักการที่เหมาะกับนิสัยตัวเองให้เจอก่อนครับ แล้วค่อยกลับมาใหม่ :D

เรื่องการลงทุนมันเป็นเรื่องส่วนตัวอะครับ แต่ละคนไม่เหมือนกันเลย
ส่วนใหญ่จะประยุกต์ให้เหมาะกับตัวเอง นิสัย วินัย ครับ สําคัญมาก

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 6:39 pm
โดย 007-s
ไม่มีคำว่าสายไป .....ไม่มีคำว่าล้มเหลว .....ใช้ได้กับทุกเรื่องนะคะ

ทุกอย่างน่าสนุก ถ้าเรา คิดในมุมมองที่ "สร้างสรรค์" ไม่ใช่คิดในแนวทาง "แข่งขัน"

อันดับแรก ...การคิดว่าจะต้องเอาคืนให้ได้ ....เป็นวิถีแห่งการแข่งขัน

วาดรูปให้สวย กับ วาดรูปให้เสร็จ ....ต่างกันลิบเลยค่ะ

ตอนแรกๆ มือยังใหม่ ...ก็เห็นเป็นกันแทบทุกคน (มือเก่าๆ ก็เห็น ยังมี ติดดอย ขายหมู ตกรถ ไรกันอยู่เนืองๆเลยย  :lol: )
ดังนั้น อย่าไปท้อ อย่าไปทับถมตัวเองขนาดนั้น ดูแต่ละคำพุดที่คุณ ทุ่งทานพระจันทร์ ใช้พูดกะสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ..มันดูต่อว่าตัวเองเกินไป

วิธีแก้ ของดิฉัน ก็คล้ายๆ กะหลายคนค่ะ
ตอนเมาหมัด ดิฉันเริ่มรู้ตัวว่า เอ้ย นี่ฉันงงเต๊กนี่นา ฉันทำไรลงไปเนี่ย ซื้อๆขายๆ ขาดทุน กำไร อะไรเนี่ย ...สรุป ได้ความว่า ไม่เข้าใจนี่นา ทั้งที่ขาดทุนก็ไม่เข้าใจ ไอ้ที่กำไร ก็ยังงงๆอยู่ว่า ทำไปได้ไง

ตอนนั้น ดิฉันล้างพอร์ทเลยค่ะ แล้วนั่งดู นาน 8 เดือน จึงเริ่มลงมือใหม่อีกครั้ง
(อย่าไป เสียใจ หรือดีใจนะ ว่า ตัวไหนขายแล้วขึ้น ตัวไหนขายแล้วลง อย่าไปเกิดอาการสะใจ ...นั่นเข้าข่าย "แข่งขัน" ไม่ใช่"สร้างสรรค์"ค่ะ)
ระหว่าง 8 เดือนนั้น ไม่ซื้อขายจริงๆเลย
ศึกษา ทำความเข้าใจ และซ้อม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ลงทุนในกระดาษ นาน 8 เดือน
ลงทุนซื้อขาย สมมุติ แต่ทำเหมือนจริงหมด จดหมด ซื้อเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ ตรงไหนใช่ จดเหตุผลที่เชื่อไว้ ตรงไหนไม่ใช่ ขาดทุนยังไง หาเหตุผลมาให้ได้

แค่อย่าไปคิดว่า นี่มันเรื่องคอขาดบาดตาย คอก็จะไม่ขาด และเราก็จะไม่ตาย

ถึงตอนที่มั่นใจว่าเข้าใจแล้ว ก็เริ่มลงทุนด้วยเงินจริงๆ ก็ทำเหมือนกะที่ลงทุนในกระดาษแล้วใช้ได้น่ะแหละ

:D

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 6:49 pm
โดย artvr4
ทุกอย่างไม่มีคำว่าสายครับ เพียงแต่ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่

หลายปีก่อน ตอนจบ และเข้ามาทำงานใหม่ๆ  ผมเอาเงินเก็บที่ได้จากตอนเรียนจบทำงานระหว่างเรียนเมืองนอก กับเงินที่พ่อส่งมาให้ก็ประหยัดอดออมเข้าไว้ ซึ่งเป็นทุนหลักแสน มาเล่นหุ้นช่วงเก็งกำไร ตลาดหุ้น กำลัง พีคสุด


  ตอนนั้น ซื้อตัวไหนก้ได้เงินครับ แต่พอ ตลาดตกจากหวัดนก  จากเงินแสนตอนต้น ที่ทำให้ได้กำไรอีกเป็นแสน สุดท้าย ผมขาดทุนครับ จากสามแสนกว่า เหลือมาไม่ถึง ห้าหมื่น  

  บอกตรงๆ ผมดีใจครับที่ผมขาดทุนหนักๆ  มันทำให้ เรามองอะไรในความเป็นจริง  ความหยิ่ง ยโส  นึกว่าแน่ (ผมจบด้านการเงินซะด้วยสิ ด้านตลาดทุนเลยแหละ) มันหายไปหมด จาก น้ำเต็มแก้ว  กลายเป็นน้ำครึ่ง แก้ว

จากเล่น เก็งกำไร ไม่อดทนในการถือหุ้นระยะยาว ตอนนี้ก็ถือยาวแบบเป็นปีๆได้

  จากที่เคย ไม่ฟังความเห็นอะไร ปฎิเสธ หนังสือ การลงทุนทุกเล่ม เพราะคิดว่า มันไร้สาระ    

ผมกลับไปศึกษาเรื่องการลงทุนใหม่ แล้วก็ลงทุนอีกรอบครับ  พร้อมกับทุนก้อนใหม่

 เรียกได้ว่า ณ ปัจจุบัน เข้าใจถึง ธรรมชาติของตลาดหุ้นมากขึ้นในระดับที่พอใจ  แต่ต้องศึกษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  แม้ตอนนี้ จะมีหุ้น ที่ซื้อขาดทุน บ้าง แต่ ก็ไม่พะวงเหมือนแต่ก่อน เพราะทำการบ้านมากกว่าเดิม




 คำแนะนำผม  ล้างพอร์ท ก่อนครับ  กลับไปศึกษา ให้มากขึ้น  นอกจากด้านความรู้แล้ว    ก็ลองศึกษาอารมณ์ ของตลาดดูครับ    ตอนนี้อย่า เพิ่งหวังจะเอาที่ขาดทุน คืนมา    เพราะผมเห็นคนที่คิดอย่างนั้น สุดท้ายก็ต้องกลับไปเล่นเก็งกำไรอีก   เอาไว้เป็นบทเรียนครับ   ทุกอย่างไม่สายครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 7:56 pm
โดย Mon money
เริ่มจากอะไรที่ง่ายๆก่อน เช่นเดินห้าง มองหาว่ามีสินค้าอะไรบ้าง เขาทำการค้าขายอย่างไร กำไรดีไหม ถ้าหากมีโอกาสได้ร่วมทุนจะเอาไหม

ทางที่ดีก็ใช้เวลาหลังจากล้างพอร์ตไปอ่านหนังสือดีกว่า ผมว่าคุณต้องอ่าน

1 จิตวิทยาการลงทุน หายากหน่อยนะ แต่ตามร้านSE-EDน่าจะมี
2 The Intelligent Investor น่าหาง่าย เพิ่งวางแผง

อย่างอื่นยังไม่ต้องทำอะไรหรอก

และอย่าขี้เกียจอ่านล่ะ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 23, 2006 9:42 pm
โดย oatty
ตามพี่เจ๋งไปนั่งสมาธิซักอาทิตย์นึงครับ จะได้ฝึกความอดทนก่อน

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 12:06 am
โดย ManInBlack
38 ขั้นตอนเพื่อเป็นนักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จ

1. เราสะสมข้อมูลวิธีการเล่นหุ้นจากแหล่งต่างไม่ว่าจะเป็น หนังสือ สัมมนา หรือทำวิจัยเอาเอง
2. เราเริ่มต้นซื้อขายด้วยความรู้ ใหม่ที่เพิ่งเรียน มา
3. เราเอาแต่ แจกตังค์ และเริ่มรู้ความจริงว่าเรายังรู้ไม่พอ
4. เราเริ่มเก็บข้อมูลเพิ่ม
5. เปลี่ยนตัวที่เรากำลังเล่น
6. จากนั้นก็กลับไปยังตลาดเพื่อเทรดหุ้นด้วยความรู้ที่ ปรับแก้แล้ว
7. เราถูก อัดไม่เป็นท่า อีกและเริ่มเสียความมั่นใจ ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามา
8. เราเริ่มฟัง ข่าวภายนอก และฟังนักเล่นหุ้นคนอื่นๆ
9. เรากลับไปยังตลาด และบริจาคเงินต่อ
10. เปลี่ยนตัวหุ้น
11. หาข้อมูลเพิ่ม
12. กลับไปตลาดและบริจาคต่อ
13. เรา มั่นใจมากจนเกินไป และตลาดก็ช่วยลดมันลง
14. เราเริ่มเข้าใจว่าการเทรดให้สำเร็จนั้น ต้องใช้เวลาและความรู้เกินกว่าที่เราคาดคิดไว้
นักเล่นหุ้นจำนวนมากจะยอมแพ้ที่จุดนี้เพราะเค้ารู้ดีว่าจะต้องทำงานหนัก (ซึ่งเค้าไม่อยากลงมือทำ)
15. เราจะเอาจริงและทุ่มเทกับการเรียนวิธีเทรด ของจริง เสียที
16. เราเทรดโดยใช้วิธีของเราซึ่งก็สำเร็จบ้าง แต่รู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
17. เราเริ่มเข้าใจว่าต้องมีกฎเกณฑ์มาบังคับใช้กับวิธีของเรา
18. เราหยุดพักการซื้อขายเพื่อพัฒนาตัวเอง และทำวิจัยกฎเกณฑ์ในการซื้อขายของเรา
19. เราเริ่มเทรดอีกครั้ง ครั้งนี้ด้วยกฎและพยายามค้นหาความสำเร็จ แต่โดยรวม เรายังคงรีรอเมื่อถึงเวลาต้องลงมือ เราเริ่มเทรดอีกครั้ง และครั้งนี้ด้วยกฎที่วางไว้และเราก็เริ่มประสบผลสำเร็จบ้าง แต่โดยรวมเรายังคงรีรอมากกว่าจะลงมือเมื่อถึงเวลา
20. เราเพิ่ม ลบ และแก้ไขกฎเกณฑ์ที่เราคิดว่าจำเป็นเพื่อที่จะชำนาญในการใช้กฎของเรามากขึ้น
21. เรากลับไปยังตลาด และยังบริจาค ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
22. เราเริ่มคิดรับผิดชอบต่อผลจากการเทรดของเรา เพราะเราเริ่มเข้าใจว่า ความสำเร็จอยู่ในตัวเรา ไม่ใช่อยู่ที่วิธีการเทรด
23. เราเริ่มเทรดต่อและเริ่มชำนาญมากขึ้นกับวิธีและกฏเกณฑ์ของเรา
24. ในขณะเทรดเรายังคงมีแนวโน้มที่จะฝ่าผืนกฎของเราและผลลัพธ์ของเรายังคงผิดพลาด
25. เรารู้ว่าความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม
26. เรากลับไปและเริ่มวิจัยกฎต่างๆอีกครั้ง
27. เราสร้างความมั่นใจในกฎของเราและกลับไปสู่ตลาดเพื่อเทรด
28. ผลการเทรดของเราดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เรายังคงรีรอในการลงมือตามกฎของเรา
29. เราเริ่มเห็นความสำคัญของการทำตามกฎมากขึ้นเมื่อเราเห็นผลเสียจากการไม่ทำตามมัน
30. เราเริ่มเห็นว่าความล้มเหลวอยู่ในตัวเรานั่นเอง (นั่นคือการขาดวินัยในการทำตามกฎเพราะความกลัวอะไรบางอย่าง) และเราเริ่มต้นฝึกฝนในการเข้าใจตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
31. เราเริ่มเทรดและตลาดสอนเราให้เข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น
32. เราเริ่มเชี่ยวชาญในวิธีและกฏการเทรดของเรา
33. เราเริ่มทำเงินอย่างต่อเนื่อง ๆ
34. เราเริ่มมั่นใจจนเกินไป และตลาดก็ทำให้เราด้อยลงอีกครั้ง
35. เราก็ยังคงเรียนรู้บทเรียนของเรา
36. เราต้องหยุดคิดและยอมให้กฎเกณฑ์ของเราเทรดแทนเรา (เทรดเริ่มน่าเบื่อแต่จะประสบความสำเร็จ) และพอร์ตหุ้นของเราเริ่มโตขึ้น เมื่อเราเพิ่มปริมาณในการลงทุน
37. เราทำเงินได้มากขึ้นมากกว่าที่เราเคยฝันไว้เสียอีก
38. เรายังคงดำเนินชีวิตต่อไปและประสบความสำเร็จในเป้าหมายต่างๆที่เราเคยหวังไว้

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 8:41 am
โดย WICHAIR
อืม... ผมว่าทุกคนในห้องนี้เป็นเหมือนคุณทุ่งฯทุกคนแหละครับ ตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ รวมทั้งผมด้วย (คิดว่านะ) เหมือนกันเดียะเลยครับ ทั้งความรู้สึก สับสน ร้อนรุ่ม กระวนกระวาย ฯลฯ
เป็นไปตามแรงกรรมแห่งความโลภครับ ต้องทำใจให้นิ่ง ตัดความโลภทิ้งไป (ทำยากหน่อย) แยกให้ออกครับว่าอันไหนมันเน่า อันไหนมันดี แล้วคอยจ้องแต่ที่มันดีๆ มี growth เยอะๆ เป็นหุ้นที่มีอนาคตในระยะยาว ถ้ามันลงมาเยอะๆ เสียบเลยครับ แล้วก็รอ มันลงอีกก็เสียบอีก แล้วรอต่อ อันที่มันเน่าๆ ถึงมันขึ้นไปชนเพดาน (ceiling) กี่รอบ มันจะขึ้นไปหาสวรรค์วิมานอะไรก็อย่าไปสนใจมันครับ และอย่าไปเข้า web site ที่เน้นหุ้นปั่นมากๆ อ่านมากแล้วสับสน และเกิดความโลภ (ผมว่านะ tvi ระยะหลังๆ นี่ก็เล่นหุ้นปั่นกันเยอะเกินไปแล้วนะครับ)
ผมทำอย่างนี้นะครับ ช่วงหลังๆ นี่สบายใจครับ กิ่นอิ่ม นอนหลับ ได้กำไรบ้างพอประมาณ มีเวลาให้ครอบครับ
ผมว่าพี่ๆ เพื่อนๆ ในห้องนี้ก็ให้คำแนะนำดีๆ นะครับ เช่นคุณนริศ พี่มน ฯลฯ จากประสบการณ์ทั้งนั้นครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 9:07 am
โดย สุมาอี้
WICHAIR เขียน:ผมว่านะ tvi ระยะหลังๆ นี่ก็เล่นหุ้นปั่นกันเยอะเกินไปแล้วนะครับ
ทำไมรู้สึกคล้ายๆ กันเลย เดี๋ยวนี้เริ่มเป็นแนวหาข่าวและเก็ง EPS ไตรมาสต่อไปกันมากขึ้น ไม่ค่อยโดนใจเหมือนแต่ก่อน  :D

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 10:46 am
โดย yoyo
เวปนี้อบอุ่นดีจัง  :lol:

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 5:23 pm
โดย ทุ่งทานพระจันทร์
สวัสดีครับ เมื่อวานผมล้าง port เรียบร้อยครับ

วันนี้มานั่งจดๆ จ้องๆ ซื้อไปหลายตัวเหมือนกัน ความจริงหุ้นที่ซื้อก็ศึกษามานานแล้วแต่มักจะถือได้ไม่นานก็ขายไปเล่นหุ้นปั่น

(มีเรื่องจะสารภาพวันนี้แอบไปจิ้มจุ่ม EMC-W1 ได้กำไรมาพอถัวที่ขาดทุนเมื่อวานได้นิดหน่อย แล้วะไม่เล่นอีกแล้วครับ ถือเป็นการสั่งลา)

วันนี้ผมมี MCS, ILINK, TRC และอื่นๆ อีกสองตัว ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดมาก(สองตัวแรก) อัตราการเติบโตสูง ส่วน TRC ก็ยังไปได้อีกไกลสำหรับธุรกิจวางท่อต่าง ILINK ก็ความเสี่ยงต่ำมาก ถ้าไม่มีอุกาบาตตกลงมาชน ส่วนมากก็ดูในร้อยคนร้อยหุ้นเอาครับ ส่วน SPACK และ UMS นี่ถือมาได้สักพัก ก็คงไม่ขายครับ ถือไปเรื่อยๆ ปันผลก็ได้มาแล้ว ความจริงวันนี้ผมสนใจ AMATA มากๆ ราคาน่าซื้อทีเดียว แต่ขอดูอีกระยะหนึ่งก่อนอยากให้มันมาแตะ 10 บาท 5555

หุ้นทุกตัวที่มีผมอ่านแบบ 56-1 เรียบร้อยแล้ว และถือว่าสบายใจ (@_@ ตาลาย) ถ้าขาดตกบกพร่องอย่างไรช่วยชี้แนะด้วยครับ

ความจริงผมมองหาหุ้นกลุ่มอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ครับ แต่ยังหาไม่เจอ ถ้าแนะนำได้ก็รบกวนด้วยครับ ผมจะลองไปศึกษาดูอีกครั้งครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 8:33 pm
โดย chatchai
แล้วคุณทุ่งท่าพระจันทร์ได้คำนวณหาราคาพื้นฐานของแต่ละบริษัทแล้วหรือยังครับ

หุ้นดีก็ไม่ใช่ว่าจะซื้อได้ทุกราคานะครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 9:00 pm
โดย washira
เสาร์อาทิตย์นี้ว่าจะคำนวนให้เสร็จครับ ศึกษาจาก หนังสือ พี่สุมาอี้ครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 9:46 pm
โดย yoyo
washira เขียน:เสาร์อาทิตย์นี้ว่าจะคำนวนให้เสร็จครับ ศึกษาจาก หนังสือ พี่สุมาอี้ครับ
ตกลงว่าคุณ washira กับคุณทุ่งทานพระจันทร์คือคนเดียวกันใช่มั๊ยครับ งง!! ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แต่ถึงใช่ก็ไม่เป็นไรอยู่ดี

เอาเป็นว่าถ้าเริ่มหันมาสนใจการลงทุนแบบ vi แล้วเริ่มต้นด้วยการอ่าน 56-1 อย่างละเอียด ... ผมว่ามาถูกทางแล้วครับ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 10:14 pm
โดย ทุ่งทานพระจันทร์
yoyo เขียน: ตกลงว่าคุณ washira กับคุณทุ่งทานพระจันทร์คือคนเดียวกันใช่มั๊ยครับ งง!! ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แต่ถึงใช่ก็ไม่เป็นไรอยู่ดี

เอาเป็นว่าถ้าเริ่มหันมาสนใจการลงทุนแบบ vi แล้วเริ่มต้นด้วยการอ่าน 56-1 อย่างละเอียด ... ผมว่ามาถูกทางแล้วครับ
คนละคนครับ ผมยังไม่มี ah กะ rrc (มันขาดทุนนี่นา)

แต่ผมว่าสไตล์ผมน่าจะคล้ายพี่เขาครับ คือ เล่นหุ้นไม่มีพื้นฐาน ขาดทุน แล้วเบื่อ อยากเป็น vi

ส่วนการคำนวนมูลค่า ผมยืมมือพี่ชายช่วยครับ แกอบรม broker มาครับแต่ปัจจุบันทำงานอยู่กรมศุลฯ

ผมคำนวนไม่ค่อยเป็นครับ วันที่ 8 ธันวานี้ จะเป็นวันรวมญาติครับ ว่าจะให้แกช่วยสอนการอ่านแบบ 56-1 และงบการเงิน แบบละเอียดเลยครับ


ยังๆไม่ได้ซื้อ แล้วเสมอตัว ดีกว่า รีบซื้อแล้วขาดทุน ใช่ไหมครับ

อบอุ่นจริงๆ ที่นี่

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 10:46 pm
โดย yoyo
yoyo เขียน: ตกลงว่าคุณ washira กับคุณทุ่งทานพระจันทร์คือคนเดียวกันใช่มั๊ยครับ งง!! ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แต่ถึงใช่ก็ไม่เป็นไรอยู่ดี

เอาเป็นว่าถ้าเริ่มหันมาสนใจการลงทุนแบบ vi แล้วเริ่มต้นด้วยการอ่าน 56-1 อย่างละเอียด ... ผมว่ามาถูกทางแล้วครับ
จริงแล้วไม่มีอะไรหรอกครับ เห็นมีมันบังเอิญดี
เห็นว่าหุ้นคล้ายๆกัน เข้ามาในเวปใกล้ๆกัน เพิ่งจะเริ่มศึกษาแนวทาง vi เหมือนๆกัน
คุณทุ่งทานตะวันบอกว่าเพิ่งล้าง port ไปเมื่อวาน
ส่วนคุณ washira บอกว่าเพิ่งล้าง port วันนี้ ... ต่างกันวันนึง ...

ค่อยๆศึกษาไปนะครับ .. ใหม่ๆผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน เริ่มต้นด้วยการอ่าน 56-1 ถึงจะหนาหน่อย แต่ก็ยังพออ่านรู้เรื่อง ไม่เหมือนงบการเงิน แรกๆกันอ่านไม่รู้เรื่องเลย ก็หาพวกหนังสือสอนอ่านงบการเงินมาดู ฝึกอ่านอยู่เป็นปีๆ ตอนนี้ก็พออ่านได้ แต่ไม่ได้อ่านแล้วทะลุมาก

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 11:13 pm
โดย trillionaire
...ผมเคยสิงสถิตย์ตามบอร์ดหุ้นต่างๆมานาน...
...ระยะหลังๆรู้สึกว่า จะมีแต่หุ้นปั่น หุ้นเก็งกำไร หาค่าขนมกันไปวันๆ...
...พอได้มาอยู่ที่THAIVIนี้ รู้สึกเหมือนตัวเอง ตาสว่าง...
...เจ็บใจที่เสียเวลาไปกับการเล่นหุ้นในแบบที่ผิดๆ ...
...จะพูดไปต้องให้เครดิตคุณyoyo...ที่ไปออกรายการMoney talk(มั้ง)...
...เป็นคนจุดประกายให้ผมคิดได้...
...ไม่เป็นไรครับคุณทุ่งทานพระจันทร์ ....
...ผมเคยเสียหุ้นทีละหลายล้านมาแล้ว เข้าใจความรู้สึกดี...
...ว่าอยากจะเอาคืนเป็นยังงัย แต่บางอย่าง"ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง","ยิ่งถัวยิ่งเจ็บ"

...ตะก่อน หุ้นดีกำไรนิดหน่อยขายทิ้ง หุ้นเน่าเก็บไว้รอคืนทุน...
...มาวันนี้ หุ้นNewlow ไม่แตะ มองแต่หุ้นNew highอย่างเดียว...
...อย่างนึงที่อยากฝากVIรุ่นใหม่ๆ(รวมทั้งผมด้วย)ว่า...
...ไม่ใช่ว่า ซื้อหุ้นที่คนในบอร์ดนี้เค้าเชียร์ ก้อสบายใจว่าได้เป็นVIแล้ว...
...ที่นี่สอนให้ค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูล ทุกอย่างจะเชื่อได้ต้องมีevidence-basedจริงๆ...
...หากมามั่วๆ มีหวังโดนพี่ๆรุมยำ อิอิ
...เป็นกำลังใจให้นะครับ ยังงัยๆเราก้อน้องใหม่รุ่นใกล้ๆกัน... :wink:

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 12:58 am
โดย ลูกไม่ท้อ
ManInBlack เขียน:38 ขั้นตอนเพื่อเป็นนักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จ

1. เราสะสมข้อมูลวิธีการเล่นหุ้นจากแหล่งต่างไม่ว่าจะเป็น หนังสือ สัมมนา หรือทำวิจัยเอาเอง
2. เราเริ่มต้นซื้อขายด้วยความรู้ ใหม่ที่เพิ่งเรียน มา
3. เราเอาแต่ แจกตังค์ และเริ่มรู้ความจริงว่าเรายังรู้ไม่พอ
4. เราเริ่มเก็บข้อมูลเพิ่ม
5. เปลี่ยนตัวที่เรากำลังเล่น
6. จากนั้นก็กลับไปยังตลาดเพื่อเทรดหุ้นด้วยความรู้ที่ ปรับแก้แล้ว
7. เราถูก อัดไม่เป็นท่า อีกและเริ่มเสียความมั่นใจ ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามา
8. เราเริ่มฟัง ข่าวภายนอก และฟังนักเล่นหุ้นคนอื่นๆ
9. เรากลับไปยังตลาด และบริจาคเงินต่อ
10. เปลี่ยนตัวหุ้น
11. หาข้อมูลเพิ่ม
12. กลับไปตลาดและบริจาคต่อ
13. เรา มั่นใจมากจนเกินไป และตลาดก็ช่วยลดมันลง
14. เราเริ่มเข้าใจว่าการเทรดให้สำเร็จนั้น ต้องใช้เวลาและความรู้เกินกว่าที่เราคาดคิดไว้
นักเล่นหุ้นจำนวนมากจะยอมแพ้ที่จุดนี้เพราะเค้ารู้ดีว่าจะต้องทำงานหนัก (ซึ่งเค้าไม่อยากลงมือทำ)
15. เราจะเอาจริงและทุ่มเทกับการเรียนวิธีเทรด ของจริง เสียที
16. เราเทรดโดยใช้วิธีของเราซึ่งก็สำเร็จบ้าง แต่รู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
17. เราเริ่มเข้าใจว่าต้องมีกฎเกณฑ์มาบังคับใช้กับวิธีของเรา
18. เราหยุดพักการซื้อขายเพื่อพัฒนาตัวเอง และทำวิจัยกฎเกณฑ์ในการซื้อขายของเรา
19. เราเริ่มเทรดอีกครั้ง ครั้งนี้ด้วยกฎและพยายามค้นหาความสำเร็จ แต่โดยรวม เรายังคงรีรอเมื่อถึงเวลาต้องลงมือ เราเริ่มเทรดอีกครั้ง และครั้งนี้ด้วยกฎที่วางไว้และเราก็เริ่มประสบผลสำเร็จบ้าง แต่โดยรวมเรายังคงรีรอมากกว่าจะลงมือเมื่อถึงเวลา
20. เราเพิ่ม ลบ และแก้ไขกฎเกณฑ์ที่เราคิดว่าจำเป็นเพื่อที่จะชำนาญในการใช้กฎของเรามากขึ้น
21. เรากลับไปยังตลาด และยังบริจาค ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
22. เราเริ่มคิดรับผิดชอบต่อผลจากการเทรดของเรา เพราะเราเริ่มเข้าใจว่า ความสำเร็จอยู่ในตัวเรา ไม่ใช่อยู่ที่วิธีการเทรด
23. เราเริ่มเทรดต่อและเริ่มชำนาญมากขึ้นกับวิธีและกฏเกณฑ์ของเรา
24. ในขณะเทรดเรายังคงมีแนวโน้มที่จะฝ่าผืนกฎของเราและผลลัพธ์ของเรายังคงผิดพลาด
25. เรารู้ว่าความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม
26. เรากลับไปและเริ่มวิจัยกฎต่างๆอีกครั้ง
27. เราสร้างความมั่นใจในกฎของเราและกลับไปสู่ตลาดเพื่อเทรด
28. ผลการเทรดของเราดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เรายังคงรีรอในการลงมือตามกฎของเรา
29. เราเริ่มเห็นความสำคัญของการทำตามกฎมากขึ้นเมื่อเราเห็นผลเสียจากการไม่ทำตามมัน
30. เราเริ่มเห็นว่าความล้มเหลวอยู่ในตัวเรานั่นเอง (นั่นคือการขาดวินัยในการทำตามกฎเพราะความกลัวอะไรบางอย่าง) และเราเริ่มต้นฝึกฝนในการเข้าใจตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
31. เราเริ่มเทรดและตลาดสอนเราให้เข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น
32. เราเริ่มเชี่ยวชาญในวิธีและกฏการเทรดของเรา
33. เราเริ่มทำเงินอย่างต่อเนื่อง ๆ
34. เราเริ่มมั่นใจจนเกินไป และตลาดก็ทำให้เราด้อยลงอีกครั้ง
35. เราก็ยังคงเรียนรู้บทเรียนของเรา
36. เราต้องหยุดคิดและยอมให้กฎเกณฑ์ของเราเทรดแทนเรา (เทรดเริ่มน่าเบื่อแต่จะประสบความสำเร็จ) และพอร์ตหุ้นของเราเริ่มโตขึ้น เมื่อเราเพิ่มปริมาณในการลงทุน
37. เราทำเงินได้มากขึ้นมากกว่าที่เราเคยฝันไว้เสียอีก
38. เรายังคงดำเนินชีวิตต่อไปและประสบความสำเร็จในเป้าหมายต่างๆที่เราเคยหวังไว้
ลองมานั่งอ่านดู ก็เห็นว่าจริงแหะ  เข้าท่าดี ชอบใจตรงข้อ 36 ทันทีเริ่มมีกฎเกณฑ์มันจะกลายเป็นความน่าเบื่อไปเลย แต่ก็น่าจะมั่นใจได้ว่ายังได้กำไรอยู่
มันจะรู้สึกว่า ชีวิตเราจะขาดความหวือหวาไปเลย ไม่สนุกเหมือนพวก Day trader แต่ก็จะไม่เจ็บตัว
ว่าที่จริงถ้าจะให้ดี ก่อนจะทำอะไรทั้งหมดอยากแนะนำให้หัดนั่งสมาธิดูนะ แนะนำให้นั่งสมาธิในแบบ สติปัฏฐานสี่ โดยเฉพาะในแบบที่ให้ดู  " จิตใจ " ของตัวเองหนะ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 10:57 am
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
เวปนี้มีแต่สิ่งดีๆให้เพื่อนสมาชิกใหม่ทุกๆท่าน (รวมทั้งผมด้วย)
หากเราตั้งใจจะศึกษามันจริงๆ เพราะมันไม่ได้มาโดยง่ายๆครับ
ขอเป็นกำลังใจให้กับสมาชิกใหม่ที่กำลังมีปัญหาการเล่นลูกแบบไร้ทิศทาง แบบคุณทุ่งฯ
เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยขาดทุนเช่นเดียวกันมาก่อนครับ

ขอเน้น: เมื่อศึกษาเข้าใจการลงทุนแบบ VI ดีแล้ว เวลาเลือกลงทุนหุ้น สำหรับผมจะให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้นๆ คือ

            1. Margin of Safety ต้องมีมากพอ (เพราะหุ้นดีหลายตัว ที่เราวิเคราะห์เจอ แต่ก็ซื้อไม่ได้ เนื่องจากราคามันสะท้อนผลประกอบการไปแล้ว)
            2. บริษัทต้องมีธรรมาภิบาลที่ดี (สำหรับผมแม้ว่าจะวิเคราะห์เจอหุ้นที่เข้าหลักเกณฑ์แล้ว แต่ถ้าผู้บริหารไม่โปร่งใส มีประวัติไม่ดี มี Black List
                ผมจะไม่ซื้อเด็ดขาด เพราะเคยโดนมาแล้ว)

ปล. ผมชักสนใจการนั่งสมาธิแล้วซิ  คุณลูกไม่ท้อ พอแนะนำหลักการเบื้องต้นบ้างได้ไหมครับ :D

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 11:43 am
โดย por_jai
[quote="กระบี่อยู่ที่ใจ"]
ปล. ผมชักสนใจการนั่งสมาธิแล้วซิ

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 12:10 pm
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
ขอบคุณครับ พี่พอใจ  :D

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 10:53 pm
โดย ลูกไม่ท้อ
ขอโทษนะครับ เพิ่งเข้ามาอ่าน เลยแนะนำช้าไปนิด
ต้องทำความเข้าใจกับการนั่งสมาธินิดหนึ่งนะครับ
การนั่งสมาธิมีอยู่สองกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรก เรียกว่า สมถสมาธิ
กลุ่มที่สองเรียกว่า วิปัสสนาสมาธิ
การนั่งในแบบสมถ คือการมุ่งจิตไปยังสิ่งๆหนึ่ง (โฟกัส) เช่นต่อคำบริกรรมพุทโธ
จะทำให้กำลังของจิตกล้าแข็งและทำให้ได้ฌาณได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรจะต้องเป็นในแนววิปัสสนา นั่นคือไม่ได้เน้นการมุ่งจิต แต่เน้นที่การเฝ้าดู คือคอยเฝ้าดูพิจารณา โดยทั่วไปจะเน้นการเฝ้าดูอยู่สี่อย่างได้แก่ กาย , เวทนา , จิต , ธรรม
ดูกาย ก็เช่น ดูลมหายใจ , ดูการเคลื่อนไหวเวลายืน เดิน นั่ง นอน
ดูเวทนา ก็ดูความรู้สึกต่างๆ รวมไปถึงความรู้สึกเจ็บปวดเวลาที่นั่งสมาธิ
ดูจิต ก็ดูว่าจิตมีอารมณ์อย่างไร คิดอะไร ฯลฯ
ดูธรรม อันนี้ผมว่าจะสูงไปหน่อย ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ
การนั่งสมาธิในแนววิปัสสนาที่ดูทั้งสี่อย่างที่กล่าวมา อาจเรียกอีกอย่างว่า สติปัฏฐานสี่
คือให้มีสติคอยเฝ้าดูสี่อย่างที่กล่าวมา อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าพอมาเอาฝั่งวิปัสสนาแล้วจะละทิ้งสมถ ไปเลยก็ไม่ได้ เพราะควรจะต้องมี กำลังของจิตที่ได้จากสมถ มาช่วยด้วย เค้าเปรียบเหมือนว่า ฝึกสมถ เพื่อเสริมกำลังของกล้ามเนื้อแขน แต่ฝึกวิปัสสนา เพื่อลับมีดดาบให้คม เพื่อที่จะสามารถ ตัดเอาความไม่รู้ (โมหะ ) ให้ขาดสะบั้นลงได้ โดยประเด็นที่สำคัญคือมองให้เห็นถึงการเกิด ดับ ให้ได้ อันนี้ผมว่ามันมีอะไรลึกซึ้งอยู่เหมือนกันนะ ในเรื่องของการมองให้เห็นการเกิดดับ
(ถ้าพูดในแนว Metaphysics หรือ อย่างที่ไอน์สไตน์พูดไปถึงในเรื่องของมิติที่สี่ มันจะเกิดได้ในช่วงของรอยต่อของภพระหว่างการเกิดดับนี่เอง)
ผมจะไม่ค่อยชอบดู กาย ดูเวทนาเท่าไหร่ ประมาณว่าฝึกมาค่อนข้างนานแล้ว ก็เลยจะเพ่งไปที่ดูจิตไปเลย แต่ผมคิดว่าผมมีบาปอะไรบางอย่างอยู่ทำให้ไม่สามารถหลุดพ้นได้ซักที
ก็เลยได้แต่ต้วมเตี้ยมอยู่แค่ตรงนี้ แต่อย่างคำที่พระพูทธเจ้าเคยกล่าวไว้ที่ว่า ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ หรือ ผู้ที่ปฏิบัติจะรู้เห็นได้ด้วยตนเองเท่านั้น  อันนี้ผมว่ามีอยู่จริง อยากจะขอให้น้อมใจเข้ามาลองฝึกดูครับผม
เว็บไซต์ที่พูดถึงแนว สติปัฏฐานสี่ได้ดีก็คือ http://larndham.net/index.php
ส่วนเว็บไซต์ที่เน้นดูจิตคือ  http://www.wimutti.net/
แล้วจะรู้ว่า คนที่ปฏิบัติธรรมก็เล่นหุ้นได้ดี แบบมีกระตังค์ และไม่เครียดด้วยครับผม
(หมายเหตุเท่าที่ทราบ เสี่ยสองที่รวยเป็นร้อยสองร้อยล้าน ก็เป็นคนหนึ่งที่นั่งสมาธิเหมือนกัน )

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 9:53 am
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
ขอบคุณครับ คุณลูกไม่ท้อ น่าสนใจดี จะลองดูครับ :D

ขาดทุนกับการลงทุนแบบไร้ทิศทางมามาก ตอนนี้ถือว่ายังสายไปไหม

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 5:42 pm
โดย tattoo_thai
ผมก็ยังอ่านงบการเงินไม่ค่อยเป็น วัดมูลค่าหุ้นก็ยังไม่ได้ครับ เพิ่งจะเริ่มศึกษาได้ไม่กี่เดือน ผมว่าคุณน่าจะใจเย็นๆนะ ค่อยๆศึกษาไปจนมั่นใจว่าคุณสามารถคิดเองได้ ยังไงซะตลาดหุ้นมันก็เปิดตลอดปีอยู่แล้ว มันไม่หนีไปไหนหรอกครับ

อีกอย่างผมคิดว่าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ควรจะเป็นเงิน "เย็น" นะครับ เวลาหุ้นมันราคาตกหรือไม่ขยับไปไหนหลายๆเดือน คุณก็จะไม่วุ่นวายใจ เพราะมันเป็นเงินเย็นครับ