Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

มาส่งกำลังใจให้VIทุกท่านครับ

(อยากเป็นVIมานานแล้วแต่ไม่สำเร็จสักที  อยากเป็นต่อไป)

ทำไมไม่เรียก under value investor นะ

เพราะจะเปลี่ยนจากนักลงทุนที่เน้นคุณค่าไปเป็นนักลงทุนที่(มีค่า)ต่ำกว่าคุณค่า มั้งครับ

แบบว่า ตัว under value ไม่ได้บอกวิธีของ INVESTOR  แต่กลายไปเป็น บอกลักษณะของ INVESTOR แทน

อิอิ ล้อเล่งงงงง

invaluable investor  นักลงทุนผู้ประเมินค่า(ของหุ้น)มิได้  

invaluable investor  นักลงทุนผู้ประเมินค่า(ของหุ้น)มิได้

ชอบๆ  :D

it is when u put all eggs in one basket .. but with great cares...

knowledge=ความรู้
insight=นิพพาน เป็นการนำความรู้ที่มีอยู่มาปฏิบัตให้เห็นจริง

เช่น ทุกคนรู้ว่า อริยสัจ 4 เป็นหนทางสู่นิพพาน แต่ทุกคนไม่ถึงนิพพาน หากไม่ได้ปฏิบัติให้ถึงแก่นแห่งนิพพาน

aot เขียน:knowledge=ความรู้
insight=นิพพาน เป็นการนำความรู้ที่มีอยู่มาปฏิบัตให้เห็นจริง

เช่น ทุกคนรู้ว่า อริยสัจ 4 เป็นหนทางสู่นิพพาน แต่ทุกคนไม่ถึงนิพพาน หากไม่ได้ปฏิบัติให้ถึงแก่นแห่งนิพพาน

8) หมอครับ
    ปฏิบัติยังไม่แน่ว่าจะได้เลยครับ

vi ที่แท้จริงจะลงทุนในหุ้นที่เป็น ไม้ยืนต้น จากต้นเล็ก ๆ กลายเป็นต้นใหญ่ ออกดอก ออกผล ตามฤดูกาล
  แต่หุ้นไทยส่วนใหญ่เป็นไม้ล้มลุก อายุมักจะสั้น พอมีข่าวดี ราคาก็วิ่งไปให้เก็บดอก เก็บผล   ทิ้งไว้ไม่นานก็เหี่ยวลงมาเหมือนเดิม ต้องรอใส่ปู๋ย(เงินก้อนใหม่) มารดถึงจะโตใหม่ออกดอก ออกผลอีกที

 คุณกำลังลงทุนกับ ไม้ยืนต้น หรือ ไม้ล้มลุก ไม่สำคัญ

 สำคัญที่คุณต้องรู้ตัวว่ากำลังลงทุนกับอะไร อยู่ช่วงไหนของวงจรชีวิตของต้นไม้ทั้งสองแบบ

คุณกำลังลงทุนกับ ไม้ยืนต้น หรือ ไม้ล้มลุก ไม่สำคัญ

สำคัญที่คุณต้องรู้ตัวว่ากำลังลงทุนกับอะไร อยู่ช่วงไหนของวงจรชีวิตของต้นไม้ทั้งสองแบบ

โดนใจจัง:lol:
_________________
จงอย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น

[quote="2 dogs"]invaluable investor

สุดยอดทุกความเห็น  :?

พอร์ตโฟลิโอของผมจะมีหุ้นอยู่เพียง1-2 ตัว (พี่เบิ้มและรองพี่เบิ้มในกลุ่มพลังงาน) เดิมเคยซื้อไม่ยอมขายอยู่ 3-4 ปี ก็ได้ผลดี เพราะพ่อเล่นขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องจนราคาขึ้นจาก 45 มาเป็น 270 ในเมื่อกลางปี 49
แต่ใน 1 ปีหลังราคาหุ้นถูกกดดันจากการที่ราคาพลังงานโลกปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง กระแสการเมืองและการที่ศาลปกครองรับฟ้องจากกลุ่มผู้บริโภค  จึงต้องปรับตัวเปลี่ยนสไตล์เสียใหม่ ครั้งล่าสุดผมแบ่งขายพี่เบิ้มไป 25%ของพอร์ตที่ราคาเฉลี่ย 236 เมื่อ 6 ธันวา 49 โดยมีสมมติฐานว่าราคาหุ้นน่าจะปรับตัวลงในระยะกลางเนื่องจาก
          -เป็นช่วงที่ราคาขึ้นมาอย่างแรงและในเวลาอันสั้น จาก 116 มาเป็น240 ในเวลา 9 วันทำการ
          -ปริมาณซื้อขายแต่ละวันก็ไม่น่าจะมากพอที่จะพยุงราคาหุ้นให้ทรงอยู่หรือขึ้นต่อได้
          -ต่างชาติซึ่งเป็นฝ่ายผลักดันราคาหุ้นเริ่มเปลี่ยนทิศทางมาเป็นขายสุทธิ
          -มี price gap ที่ 226-228 ขณะที่ราคาไต่ขึ้น
          -ราคาน่าจะยังถูกกดดันจากปัจจัยด้านการเมืองและศาลรับฟ้องอยู่
                       แพลนไว้ว่าจะรับคืนที่ 226 (price gap)   ไม่รู้ออกหัวหรือก้อย  คอยดู (ขณะที่เขียน 11 ธค 49 ราคาปิดอยู่ที่ 230) หากไม่เป็นไปดังคาดจะลองซ้ำอีก 1-2 หน ถ้ายังใช้ไม่ได้ก็กลับไปใช้สไตล์เดิม  ช่วยเชียร์ด้วยครับ

ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็น VI แต่ผมเองก็ไม่เคยคิดที่จะเล่นหุ้นปั่น หรือหุ้นหวือหวาถึงแม้ว่ามันจะมีความอยากอยู่เป็นนิจก็ตาม

ผมว่าเหตุผลที่ทำให้ผมมามีส่วนร่วมในเว็บนี้ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากถูกมองหรือถูกเรียกว่าเป็น VI แต่เป็นเพราะผมเป็นห่วงเม็ดเงินและผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงทุนทุกครั้งมากกว่า และอยากเป็นนักลงทุนที่มีระเบียบและหลักการมากกว่าที่ถูกมองว่าเป็นแค่นักพนันหรือนักเสี่ยงโชค และผมก็เลือกที่จะโตช้าๆแต่ยั่งยืน มากกว่าที่จะโตเร็วแล้วตายเร็ว