Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เลือกทางสายกลางน่ะครับ
หรือ จุดที่ demand กับ supply พอดีกัน

มีคนขาย ก็มีคนซื้อครับ
แต่ขอซื้อถูกๆ

เป้าหมายของมาตรการนี้ ผมว่าดี

เพียงแต่ มันหักดิบไปหน่อย

เบรกหัวทิ่มงี้ ไม่รู้ ทำให้ flow เงินใหลเข้ามันจะชงักงันจนไม่ balance รึเปล่า

1. จิงอยู่ว่ากั้นระยะสั้นอย่างเดียว แต่นักเก็งกำไรก็มีบทบาทที่จำเป็นต่อระบบรวม

2. ไม่มีทางที่มาตรการนี้จะไม่กระทบเงินลงทุนระยะยาวเลยใร real sector. ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ายังเป็นตัวสำคัญที่เราต้องการเพื่อ drive ประเทศเราอยู่

ปรัชญา เขียน:ถ้าไม่มีมาตรการนี้

ต้มยำกุ้งรอบ2มาถึง

คุณเฟยหงรับผิดอะไรบ้าง

ผมว่า 30% มันเกินไปหน่อยไหมครับ...

ลองคิดดูว่าถ้าบริษัทคุณเกิดไปลงทุนในต่างประเทศ
แล้วตัวบริษัทต้องการเงินก้อนนั้น ไปลงทุนไปทำอย่างอื่น
เงินบริษัทตัวเองมี 100 แต่เอาออกมาได้แค่ 70
ที่เหลือต้องกู้เอา

ผมว่านักลงทุนต่างชาติเค้าน่าจะรู้สึกว่า มันไม่ยุติธรรมกับเค้า
เค้าอุตส่าห์เอาเงินมาลงทุน แต่พอจะเอาเงินกลับ
อยู่ดีๆก็เอากลับได้แค่ 70%

ผมอยากรู้ว่า ตลาดสิงคโปร์ เวียดนาม เค้ามีกฎหมายอย่างนี้ไหมครับ
ผมเข้าใจว่ากฎหมายนี้ ออกมาเพื่ออะไร

แต่ 30% นี่มันเกินไปหรือป่าว ผมนั่งคิดๆด้วยตัวเองดู ผมว่าแค่ 10% ก็พอแล้ว
ผมไม่เก่งอ่ะ ถ้าใครเข้าใจว่าทำไมถึงต้อง 30% บอกที

5. สำหรับธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่เป็นการลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment) ที่เป็นส่วนของทุน หรือเงินโอน ให้ลูกค้าผู้ถูกกันเงินยื่นคำร้องผ่านสถาบันการเงินพร้อมเอกสารหลักฐาน เมื่อสถาบันการเงินพิสูจน์และรับรองความถูกต้อง และ ธปท. เห็นสมควร จะคืนเงินดังกล่าวแก่ลูกค้าโดยเร็ว

ผมคิดว่าคุณเฟยหงคงแค่เพียงเสนอความเห็นว่าควรใช้มาตราการลดดอกเบี้ยก่อนทำแบบนี้ครับ การฟ้องร้องก็คงเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง เอาผิดได้ก็คงเพียงแค่ให้ออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่ได้ตั้งใจแต่เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการคงไม่ต้องมาชดใช้มังครับ การเปลี่ยนแปลงราคาที่รุนแรงแบบนี้ถ้าติดต่อกันหลายวันคงกระทบมากครับ (นึกถึงทฤษฎีคุณดัชนีไทย) ถ้าคนขาดทุนจากหุ้นมากๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้บัญชีมาร์จิ้น และที่ต้องโดนบังคับขายถ้าไม่มีเงินมาคืนจะเกิดอะไรขึ้น หวังว่าคนส่วนนี้คงมีไม่มากนะครับ

จำได้ว่าตอน Bernange (New Head of FED) สัมภาษณ์ นสพ สักแห่งแล้ว สื่อเอาไปตีความว่าจะเพิ่ม Interest rate หุ้นถล่มทั่ว Asia เละ.....
ไม่มีใครโดนลงโทษอะไรนะครับ เห็นแค่ออกมาขอโทษแล้วก็จบ

การลงทุนมีความเสี่ยง ตัวใครตัวมันครับ

ถ้าไม่ได้เจอเรื่องยากๆก็ไม่มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือใช่ไหมครับ? นี่น่าจะเป็นเรื่องดีมากกว่าเรื่องร้ายนะ เดี๋ยว Fri นี้ได้เงินเดือนมาผมต้องวาง plan กันอีกซักตั้ง ^-^

prin เขียน:5. สำหรับธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่เป็นการลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment) ที่เป็นส่วนของทุน หรือเงินโอน ให้ลูกค้าผู้ถูกกันเงินยื่นคำร้องผ่านสถาบันการเงินพร้อมเอกสารหลักฐาน เมื่อสถาบันการเงินพิสูจน์และรับรองความถูกต้อง และ ธปท. เห็นสมควร จะคืนเงินดังกล่าวแก่ลูกค้าโดยเร็ว

ผมว่า คนที่เอาเงินมาลงทุนจริงๆ ไม่มีผลกระทบเลยนะครับ

เอาเข้ามา 100 ก็ใช้ได้ 100

จะกระทบก็แต่เงินที่เอาเข้ามาเก็งกำไรค่าเงิน,หุ้น และตราสารหนี้ เท่านั้นแหละครับ

ผมว่า พอฝรั่งหายตกใจ น่าจะหยุดขาย ส่วนที่ขายแล้วก็พักไว้ก่อน ไม่ต้องเอาออก

เพราะถ้าขายอีก เวลาจะเอากลับมา จะใช้ได้แค่ 70%

เว้นแต่ว่า คิดว่าจะไม่ลงทุนกับเมืองไทยอีกแล้ว

ผมว่าน่าจะออกมาเตือนก่อนทำนองว่า ขณะนี้พบการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่ผิดปกติ  หากค่าเงินบาทยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะใช้มาตราการกันเงินสำรอง 30% ชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน ในการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาท หากไม่ได้ผลก็จะขยายต่อออกไปอีกครั้งละกี่วันก็ว่าไป หากเงินบาทกลับสู่ภาวะปกติก็จะพิจารณายกเลิกมาตราการดังกล่าวทันที

อย่างน้อยก็เป็นการให้สัญญาณออกมาก่อน เพื่อเป็นการปรามนักเก็งกำไรค่าเงิน และส่งสัญญาณให้นักลงทุนทราบก่อนว่า มาตราการดังกล่าวจะใช้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

นี่เล่นออกมาไม่ให้ตั้งตัวอย่างนี้ ทำยังกะจะปฏิวัติเลยนะ

คนของ ธปท.ก็เถอะ  คนหนึ่งบอกคาดการณ์ไว้แล้ว  อีกคนบอกนึกไม่ถึงว่าจะตกหนักขนาดนี้

แถมบอกว่า "ไม่มีทางเลือก" ..... ไม่มีจริงๆ ละหรือ  ตลกมากครับ  

ผมคิดว่าฟ้องร้องได้ครับ   เพราะมาตรการนี้เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและตปท.  ซึ่งเป็นผลเสียโดยตรงกับประเทศ
เป็นการทำลายตลาดทุน  สร้างความเสียหายด้าน mkt.cap ให้ตลาดหุ้นไทยถึงเกือบ 8 แสนล้านบาทภายในวันเดียวเท่านั้น  
(แถมบอกด้วยว่าคาดการณ์ไว้แล้ว)    นั่นหมายถึงว่า  การที่มูลค่าตลาดหุ้นจะลดลงไป 8 แสนล้านนั่นเป็นเรื่องปกติมาก.....   คาดการณ์ไว้แล้ว  
นั่นคือ จงใจสร้างความเสียหายกับตลาดทุนอย่างหนัก.......
โดยที่ผลได้กับค่าเงินบาทและการส่งออกนั้น....น้อยมาก  (ถามมาแล้ว)  

ดังนั้น  การจงใจที่ดำเนินนโยบายเพื่อสร้างความเสียหายกับ  ประเทศชาติ  อย่างหนักถึงเกือบ 1 ล้านล้านบาทในวันเดียว   ถือเป็นความผิดใหญ่หลวงที่ต้องมีคนรับผิดชอบนะครับ

เห็นด้วยกับการเป็นห่วงเรื่องค่าเงิน
แต่ ไม่เห็นด้วยกับมาตราการที่ออกมา ที่ไม่จำกัดวงปล่อยกว้างไปหน่อย ทำให้ผลกระทบรุนแรงกว่าที่คาด ผมว่าตัวหม่อมเองก็สะอึกเหมือนกัน คงไม่คิดว่าผลมันจะรุนแรงขนาดนี้
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินทุนต่างชาติมีผลสำคัญต่อตลาดทุนบ้านเรา จะให้เขาเข้ามาต้องเอาใจเขานิด ตกใจแบบนี้เป็นผมก็ไม่เอาไปที่อื่นดีกว่า
ผมว่างานนี้หม่อมต้องแสดงความรับผิดชอบผลกระทบนี้ด้วย  :x

ถ้าผมเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ผมก็เผ่นเหมือนกัน ไม่เอาด้วยหรอก ตอนนี้ยังมีกำไรอยู่ เกิดไทยบ้าจี้อะไรหนักกว่านี้กำไรหดจนไม่เหลือผมก็ไม่อยู่แน่ ถอยไปตั้งตัวซักปีแล้วค่อยว่ากันใหม่

อีกนิดมันคัน :lol:

นี่ถ้าตลาดบอกว่านักลงทุนไทยห้ามนำเงินออกจากตลาดหุ้น ก่อน 1 ปี เพื่อให้ตลาดมีเสถียรภาพ ไม่อย่างนั้น จะริบเงิน  เป็นคุณจะทำไง

ต่างชาติที่เอาเงินมาลงทุนก็คงมีแบบเราๆเยอะ ไม่ได้มีเจตนามาเก็งค่าเงิน แต่โดนแบบนี้ก็เซ็งเหมือนกัน
 :evil:

รอสักระยะ แล้วผล มันออกมาไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
ดูว่า ชาวบ้าน บ่นเรื่องข้าวของแพงขึ้นหรือเปล่า ตกงานมากขึ้นหรือเปล่า ..

ถ้าดี

จะเป็นตัวอย่างให้กับ ตลาดหุ้น ในอีกหลายประเทศ ที่อาจจะทำตาม

ถ้าไม่ดี

ก็เป็นตัวอย่างให้อีกหลายประเทศ ไม่อยากทำตาม

... เห็นมีคนบอกว่า เป็นวิธีการที่ อาเจนตินา เคยทำ ...

มีรายละเอียดต่างกันอย่างไรครับ ใครรู้ บ้าง
...



แต่วิธีนี้ เหมือนป้องกัน เงินร้อนไหล เข้าออก เร็วเกินไป
ไม่รู้ ว่าป้องกัน การฟอกเงินได้หรือเปล่า

...

เอาเข้ามา 100 ได้ไปเล่น 70 ถ้าอยู่ไม่ครบเงื่อนไขโดน

10 แปลว่าคนที่จะเข้ามาเล่นทุกคนต้องมั่นใจว่าอย่างน้อย

ต้องได้กำไร 15%ไม่รวมคอมถึง คุ้มทุน   อืม เป็นพี่ๆจะ

เข้ามาลงทุนไหมครับ

ผมคิดว่ารอดูผลของมาตรการก่อน ถ้าไม่ได้ผลคิดว่าผู้ว่าธปท คงมีสปิริตลาออกเองละครับ  แต่ให้เวลาทำงานก่อนละกันครับ  ใจเย็นใจเย็นครับ

คุณ เฟยหง กล่าว:

ผมคิดว่าฟ้องร้องได้ครับ   เพราะมาตรการนี้เป็นการทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและตปท.  ซึ่งเป็นผลเสียโดยตรงกับประเทศ
เป็นการทำลายตลาดทุน  สร้างความเสียหายด้าน mkt.cap ให้ตลาดหุ้นไทยถึงเกือบ 8 แสนล้านบาทภายในวันเดียวเท่านั้น  
(แถมบอกด้วยว่าคาดการณ์ไว้แล้ว)    นั่นหมายถึงว่า  การที่มูลค่าตลาดหุ้นจะลดลงไป 8 แสนล้านนั่นเป็นเรื่องปกติมาก.....   คาดการณ์ไว้แล้ว  
นั่นคือ จงใจสร้างความเสียหายกับตลาดทุนอย่างหนัก.......
โดยที่ผลได้กับค่าเงินบาทและการส่งออกนั้น....น้อยมาก  (ถามมาแล้ว)  

ด้วยความเคารพต่อความคิด และ ความชอบในหนังสือคุณเฟยหง

ผมว่า เงินมันไม่ได้หายไปไหน เพียงย้าย จากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่งเท่านั้นครับ
แล้ว ผู้ส่งออก จะไปฟ้องร้องเอาเงินส่วนต่างคืนจากนักเก็งกำไรได้หรือเปล่า
ครับ

ถามนักลงทุนที่กลัวมาตรการ ธปท. ว่า ถ้าหุ้นไทยถูกจริง น่าลงทุน มีอนาคต
จะขายหนีทำไม ครับ        

ส่วนเรื่องการแทรกแซง ของรัฐนั้น เริ่มตั้งแต่  37 บาท กว่า ใช้เงินไปหลาย
อยู่ครับ แต่ไม่ได้ผล  เอาไม่อยู่ เงินไหลมา 35 บาท อย่างที่เห็น แถมใช้เวลา
ไม่นานด้วยครับ แล้วจะให้ ธปท.ทำอย่างไร  หรือต้องเข้าไปสู้จนตายเหมือน
ตอนปี 39-40 หรือเปล่า

ส่วนเรื่องมาตรการดอกเบี้ย ถ้าลดดอกลง ผู้ฝากเงินก็เป็นคนรับเคราะห์ไป
แถมเงินจะวิ่งจาก ธนาคาร เข้าตลาดหุ้น เพื่อรักษาผลตอบแทนที่ดีกว่า
กลายเป็นมารับของแพงจากฝรั่ง   คราวนี้ ฝรั่งคงยิ้มหน้าบาน กำไรทั้งค่า
เงินทั้งราคาหุ้นที่ รายย่อยมารับไม้ต่อด้วย

แล้วถามว่าถ้าไม่มีมาตรการที่ใช้ได้ผล อย่างที่เห็น ( ถึงจะดูเหมือนให้ยา
แรงไปหน่อยก็เถอะ ) จะรู้ได้อย่างไรว่า เงินจะวิ่งไปถึงไหน  อาจจะ
30 หรือ 25 บาท เลยก็ได้ใครจะไปรู้  แล้วถึงตรงนั้น ฝรั่งกำไรค่าเงินพอใจ
แล้วจะวิ่งออก  ถามว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างไร   น่าจะค่อยๆ ซึม รึเปล่า
หรือ วิ่งพรวดแย่งกันหนีตายอย่างวันนี้ เพราะเดี๋ยวนี้ เงินมันวิ่งเร็วกว่าเมื่อ
ก่อนเยอะมากนะครับ ขยับเมาท์ทีเดียว หรือโทรกริ๊กเดียว ก็ขายหุ้นได้แล้ว

แล้วถ้าเราลงทุนโดยดูว่าราคาหุ้น มี ปันผลรองรับ อย่างไร หุ้นตัวนั้นก็ต้อง
แสดงคุณค่าของตัวมันเองในไม่ช้านี้

ทั้งหมดนี้เป็นความเห็น จาก สมองน้อยๆ ของผมเองครับ อยากแชร์ความ
คิดเห็นพี่ๆ เพื่อนๆ ว่าแต่ละคนคิดอย่างไรบ้าง

ปล. ชอบหนังสือคุณเฟยหงครับ

คนไทยมักจะคิดว่าฝรั่งรวมหัวกันได้  

รวมหัวกันแล้วนึกอยากจะทำอะไรก็ทำได้  อยากให้ค่าเงินประเทศไหนแข็ง  ประเทศไหนอ่อน  เท่าไรก็ทำได้ดังใจ

จริงหรือครับ

การที่สมัยก่อน  ประเทศเราถูกโจมตีค่าเงินบาท  อยู่ๆฝรั่งนึกอยากจะโจมตีก็ทำเลยหรือครับ

ไม่ใช่เป็นเพราะค่าเงินบาทเราไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสมัยนั้นหรือครับ

และครั้งนี้ก็เช่นกัน  การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น  เป็นเพราะอยู่ๆฝรั่งรวมหัวกันอยากให้แข็งเท่าไรก็ได้หรือครับ

ไม่ใช่เป็นเพราะการส่งออกเราเติบโตดี  ดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวสูงขึ้น  และเงินทุนสำรองต่างประเทศเรามีมากมายเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศหรือครับ

ผมอยากถามว่าถ้าการส่งออกเราถดถอย  ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด  ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงไหมครับ  ผมจำได้ว่าเมื่อปีก่อน  ช่วงที่เราขาดดุลบัญชีเดินสะพัด  ค่าเงินบาทเราก็อ่อนค่ามากกว่าประเทศอื่น

              แล้วคราวนี้ค่าเงินบาทจะโดนทุบอีกไหมครับ...............

[quote="chatchai"]คนไทยมักจะคิดว่าฝรั่งรวมหัวกันได้

chatchai เขียน:คนไทยมักจะคิดว่าฝรั่งรวมหัวกันได้  

รวมหัวกันแล้วนึกอยากจะทำอะไรก็ทำได้  อยากให้ค่าเงินประเทศไหนแข็ง  ประเทศไหนอ่อน  เท่าไรก็ทำได้ดังใจ

จริงหรือครับ

การที่สมัยก่อน  ประเทศเราถูกโจมตีค่าเงินบาท  อยู่ๆฝรั่งนึกอยากจะโจมตีก็ทำเลยหรือครับ

ไม่ใช่เป็นเพราะค่าเงินบาทเราไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสมัยนั้นหรือครับ

และครั้งนี้ก็เช่นกัน  การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น  เป็นเพราะอยู่ๆฝรั่งรวมหัวกันอยากให้แข็งเท่าไรก็ได้หรือครับ

ไม่ใช่เป็นเพราะการส่งออกเราเติบโตดี  ดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวสูงขึ้น  และเงินทุนสำรองต่างประเทศเรามีมากมายเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศหรือครับ

ผมอยากถามว่าถ้าการส่งออกเราถดถอย  ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด  ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงไหมครับ  ผมจำได้ว่าเมื่อปีก่อน  ช่วงที่เราขาดดุลบัญชีเดินสะพัด  ค่าเงินบาทเราก็อ่อนค่ามากกว่าประเทศอื่น

เห็นด้วยครับ...

หลงทางต่างชาติกันหรือเปล่า

ต่างชาติมาสอนเล่นฟิวเจอร์
หุ้นที่มีน้ำหนักต่อตลาดเขามีเยอะเก็บมาตลอด

หากเขาคิดว่า...  แทงฟิวเจอร์ไว้ก่อน
แล้วฉวยโอกาสช่องว่าง

แล้วก็มีแผนที่1   เทขาย
แล้วก็มีแผนที่2  เทขายให้มันลดลง  จนต้องจับ  บัญชีมาร์จิ้น  มาฟร้อดเซลล์
แล้วก็ได้หลายเด้ง

บีบ  แบบ  ลองกำลังกับแบ๊งค์ชาติ

พวกนักลงทุนตามหลังเขามาตลอด
ยังจำได้ถึงวันที่คุณนิวัฒน์  
ยิงตัวตายที่อาคารตลาดหลักทรัพย์เพราะหมดด้วยบัญชีมาร์จิ้น

[quote="chatchai"]คนไทยมักจะคิดว่าฝรั่งรวมหัวกันได้

ทำได้ครับการที่จะให้เงินเราแข็งกว่าชาวบ้าน
ถ้าเรามองว่า เศรษฐกิจบ้านเราดีจริง หากแต่"การพึ่งพิงภาคการส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 80% ของ GDP" ทำให้มีช่องว่างนี้ การที่เราส่งออกได้มาก ดุลบัญชีดี เราควรมีค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นตามหลักของเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ (ไม่นับดุลเงินโอน หรือดุลอื่นๆนะครับ) ฉะนั้นการที่บ้านเรามีคู่ค้าเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีผลกระทบจากการที่เงินดอลล่าห์มีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด การเลือกประเทศเราเป็นฐานในการเก็งกำไรเงินบาทจึงมีสิทธิทำได้ง่าย กอปรกับการที่ประเทศไทยขาดการปกครองที่มีประสิทธิภาพเพราะ ธปท.ไม่อิสระจริงอย่างที่มันควรจะเป็น(หรือคุณคิดว่ามันอิสระ) ,ตามปกติแล้ว ธปท.ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับรัฐบาลเลย,ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจในด้านนโยบายอาจไม่ส่งประสิทธิภาพเพียงพอ(เนื่องมาจากความคิดด้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งบอกถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายโดดเดี่ยวมากขึ้น) และอาจส่งผลมาถึงวันนี้
 ปล ผมเชื่อว่าทางต่างชาติและนักลงทุนสถาบันไทยเทศได้ทำ scenario เอาไว้แล้ว ว่าจะดำเนินนโยบายมาทางไหน และพอมาทางนี้มันเลยเข้าทางพอดี

ถ้าออกมาตรการกลับไปกลับมาอย่างนี้
น่าจะฟ้องได้นะครับ รอบคอบจริงๆ ตั้งแต่เรื่องหวยแล้ว ถอนไปถอนมา

ว่าแต่จะเอาผลกระทบที่หายไปคืนมาได้ไงละครับพี่

ถ้าไม่มีมาตรการกลับหลังหันออกไป ( หม่อมอุ๋ย ประกาศยกเลิกกัน 30 %
สำหรับเงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ) ผมคงไม่ว่าอะไร

แต่เมื่อเกิดแบบนี้ ต้องมีคนรับผิดชอบครับ

ถ้าผมเป็นผู้ว่าแบงค์ชาติ หรือ รมว.คลัง ผมคงเลือกรับผิดชอบ
ด้วยการลาออกครับ

ผมมาเห็นด้วยกับคุณเฟยหง
มีวิธีอื่นที่จะซอฟกว่านี้
และสร้างผลดีทางอื่นมาช่วยกัน trade off ได้
และ smooth กว่า
เช่นลดดอกเบี้ย เพื่อให้ทุนนอกที่มาฝากเอาส่วนต่างลดลง

บางคนพูดว่าคนเล่นหุ้นเป็นคนส่วนน้อย
แค่ 4 แสนคน   ขอให้เสียสละเพื่อชาติ
แล้วก็มาทำอะไรชุ่ยๆแบบนี้
ถามหน่อย "ชาติ" แปลว่าอะไร

ถ้าพูดงี้ แทบทุกอาชีพ ทุกวงการ
ถือเป็นคนส่วนน้อยหมด
ช่างตัดผมมีแค่กี่แสนคน
สถาปนิกมีแค่กี่แสนคน
ชาวไร่ข้าวโพดมีแค่กี่แสนคน
ฯลฯ

ทุกอาชีพ วงการ มีสิทธิอันชอบธรรม
ที่จะลุกขึ้นต่อสู้ ทักท้วง อย่างสันติ
เพื่อปกป้องสิทธิ ผลประโยชน์ สวัสดิภาพ ของตัวเอง
ที่จะรอดพ้นจากความชุ่ย   ความไม่รอบคอบ
ของนโยบายรัฐ หรือผลประโยชน์ของชนชั้นนายทุนใหญ่

ขอสนับสนุนด้วยอีกหนึ่งแรงครับ

[quote="artvr4"]ถามครับ

เห็นไทยเรากู้เงินจากเจบิค

เพื่อลงทุนรถไฟฟ้าหรือเปล่าคับ

แสดงว่าจะมีเงินก้อนหนึ่งเข้ามาหรือเปล่าคับ

ผมว่าเขาทำตามหน้าที่นะ ฟ้องไป ศาลปกครองก็คงไม่รับหรอก