Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เสียดายสิ ตั้งแต่เล่นมาไม่เคยเจอแบบนี้ เลยไม่กล้าซื้อ มันฝ่อ

ที่เสียดายคือ หุ้นทรู หึหึ (ฉ้านน เสียดายหุ้นไม่มีพื้นฐานเป็นครั้งแรก)

เสียดายที่ซื้อน้อยไปหน่อย :lol:

เสียดายนิดหน่อยครับ

แต่พอร์ตของผมไม่เสียหายอะไรมากครับ

ตอนนี้ขาดทุนกำไรไปหน่อย 8)

ไม่ได้เสียดายที่ไม่ซื้อครับ
แต่เสียดายที่ซื้อไม่ได้
ยอมขาย hmpro atc ตั้งบิด uec ราคา 12.5
ขาย hmpro ได้ แต่ uec มาไม่ถึงคิวทั้งที่ปิด 12.5
วันนี้เด้งคู่
เอ ตูขายทำไมอะเนี่ย

ถ้ารู้แบบนี้ก็ขายบ้านเล่นหมดตัวไปแล้ว
แต่ใครล่ะจะรู้อนาคต..........นอกจากพระเจ้าหรือคนที่ทำตัวเป็นพระเจ้า

บริษัทที่ผมถือหุ้นอยู่ ผมซื้อด้วยมูลค่าที่เหมาะสมของมันแล้ว

ดังนั้น ไม่ว่าตลาดจะกระทิง จะหมี หรือจะ panic ยังไงก็ตาม ราคาตลาดของมันก็ไม่มากหรือน้อยกว่าที่ผมประเมินไว้หรอก

แต่สิ่งที่ผมประเมินไม่ได้ก็คือ ทำไมหม่อมท่านเล่นงี้ฟระเนี่ย?  :twisted:

วันนี้ ผม ขายหมดเลยครับ เหลือ แต่หุ้น ปันผล  กับหุ้น เพิ่มทุนที่ราคาต่ำจริง
ขอถือเงินสด  มีลางสังหรณ์ว่า ฝรั่งจะขายแม้ว่า หุ้นจะบวก ไม่ได้ดูหุ้น เพราะทำธุระทั้งวัน

สรุป ฝรั่งขายจริงๆด้วย  คงขอดูท่าทีก่อนครับ

[quote="คลายเครียด"]เมื่อวานนี้ไม่เสียดาย เพราะซื้อไปแล้ว
ซื้อโดยไม่สนใจว่าหม่อมจะพูดอะไร
หุ้นมันไดเวอร์เจ๊งกับผลประกอบแบบสุดๆ
มีดิสเก๊าท์ให้ตั้งเกือบยี่สิบเปอร์เซนต์

แต่พรุ่งนี้ก็คงไม่เสียดาย
เพราะขายไปแล้วครับ
ชอร์ตแพ้ได้เงินกำไร

[quote="Dr.T"][quote="chatchai"]ผมกลับคิดว่า

เห็นด้วยครับ เมื่อวานโชคดี
ถ้าอุ๋ยไม่กลับลำ
ผมเน่าครับ  รับเร็วไป

ครับ โชคดี ถ้าอุ๋ยไม่กลับลำ ผมก็เน่าด้วย
รอดตายหวุดหวิด

[quote="chatchai"]ผมกลับคิดว่า

ขายทิ้งอย่างมีเหตุผล

ทำไมต้องมาเลือกขาย

ใน

วันนั้นด้วยครับ

พื้นฐานกิจการเปลี่ยนทันทีเลยที่ประกาศมาตราการหรือ

จริงๆ กลับมาคิดว่าเมื่อวันอังคารควรขายให้หมดพอร์ทเลยตั้งแต่เช้า

เพราะถ้ามองภาพรวมจะเห็นได้ว่า
ในอนาคต จะไม่มีเงินต่างชาติเพิ่มเข้ามาเลยเพราะใครจะมาลงทุนในไทยถ้ากฏ70/30 ยังอยู่

ดังนั้นต่างชาติมีแต่จะเอาเงินออกจากประเทศไทยเพราะเค้ามองไม่เห็น capital gainในอนาคต และเงินบาทจะอ่อนค่าลงเรื่อยๆ

ดังนั้นนักลงทุนไทยรีบขายออกให้หมดแล้วรอ น่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่า ถูกแล้วน่าจะมีถูกอีกเรื่อยๆ
ต่างชาติก็ไม่กลัวเพราะขาดทุนกำไรเฉยๆ ซื้อเข้ามาเป็น แสนล้าน บาทแข็งอีก กำไรสองเด้งอยู่แล้วออกไปแล้วทิ้งประเทศไทยได้เลยเพราะเราเล็กมาก

แถมหลังจากนี้
FDI จะน้อยลงเรื่อยๆ
การค้าขายกับต่างชาติก็จะดีเฉพาะส่งออกเท่านั้น
แต่ไม่ได้เพิ่ม competitive edge ให้เราเลยเพราะต่างชาติไม่มาลงทุน ความรู้ใหม่ๆ ก็ไม่เข้ามา

การขายไปก่อนเพื่อรอดูสถานะการณ์น่าจะดีสุด สำหรับ หุ้นbig cap ส่วนหุ้นที่ต่างชาติไม่เกี่ยวข้อง
ผมว่าพื้นฐานอาจไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ระยะยาวเปลี่ยนแน่นอนเพราะเราจะกลายเป็นประเทศปิดไป

ต่างชาติจะมาลงทุนก็ต้องมีส่วนลดเพิ่มอีกสัก 20%จาก black tuesday ครับเพราะว่าราคาหุ้นจะถูกเกิน และการลงทุนครั้งนี้ต้องมี safety margin เพิ่มขึ้น

แต่ถ้ารู้ว่า BOT จะ U-turn ซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ครับกำไรทั้งนั้น  :lol:

ผมอาจจะสื่อให้เข้าใจผิดว่าให้ขาย

ผมคงไม่สามารถแนะนำได้ว่าซื้อหรือขาย

แต่อาจจะสื่อว่า  ซื้อหรือขาย  ต้องตั้งอยู่ในบนการวิเคราะห์ที่ละเอียดถี่ถ้วนถึงผลกระทบ

วิกฤตหลายครั้งในช่วงนี้  ทำให้เพื่อนๆหลายคนมีความคิดว่า  เมื่อหุ้นตกหนักให้รีบซื้อ  ใครขายคือคนที่ตกใจเกินเหตุ

แล้วหลังวิกฤต  เช่น  การปฎิวัติที่ผ่านมา  รวมทั้งเมื่อวันที่ 19  ใครเสี่ยงเข้าซื้อ  แล้วได้รับกำไร  ยิ่งทำให้เพื่อนๆหลายคนคิดว่าเป็นสูตรตายตัว  ถ้ามีวิกฤตอีกก็จะเข้าซื้อทันที  โดยไม่ได้วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนก่อน

ถ้าคืนวันที่ 19  ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น  คนที่เข้าซื้อวันที่ 19 ก็อาจจะเสียใจ  แล้วการเปลี่ยนแปลงในคืนนั้น  เราสามารถวิเคราะห์ได้ก่อนหรือไม่ว่าจะเกิดขึ้น

แต่ถ้าไม่เกิดขึ้น  จะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆหรือไม่  คงไม่ใช่ทุกบริษัทที่ได้รับผลกระทบ  แต่ก็ไม่ใช่ทุกบริษัทที่รอด

การเข้าช้อนเมื่อหุ้นตกหนัก  ตกเร็ว  คงไม่มีสูตรตายตัวว่าจะรับแล้วได้กำไรทุกครั้ง  หุ้นจะฟื้นตัวเร็วทุกครั้ง

สงครามซัดดัมบุกคูเวต  ซึมเป็นครึ่งปี   เหตุการณ์วิกฤตค่าเงินตกต่ำหลายปี  ใครเข้าไปรับช่วงแรกๆ  ช้อนหักไม่เหลือแน่นอน

ตอนราคา FIN1 ตกหนักๆ  ใครรับไปก็คงเหลือแต่ใบหุ้น

อย่าทำอะไรก่อนการวิเคราะห์  และถ้าเกินความรู้ของตัวเอง  ก็ต้องระวังให้มากๆ

ขอบคุณพี่ฉัตรครับ...ที่คอยเตือนเสมอๆ

         
         
         
         
         

ผมว่าต่อให้หม่อมอุ๋ยไม่กลับลำคนซื้อก็ได้กำไรอยู่ดี
เพราะราคาหุ้นชั้นดี อย่าง ptt advanc ktb kbankตรงนั้นมันถูกสุดๆแล้ว
เพียงแต่ใครจะไปรู้ว่าหม่อมอุ๋ยจะพลิกลิ้นกลับลำภายในวันเดียว
olo  :evil:

ความจริงผมไม่ใช่นักลงทุนแนววีไอ
เลยผสมผสานหลักคิดอื่นๆเข้ามาด้วย

เมื่อวันอังคาร ผมไม่ได้อยู่ดูตลาดช่วงเช้า
เปิดคอมมาดูหุ้นตอนบ่าย
ดัชนีหุ้นลงไปจนเกือบถึงจุดชี้เป็นชี้ตาย
ที่เซอกิทเบรคเกอร์ที่สองอยู่แล้ว

ในขณะนั้น แน่ใจได้เลยว่า
พวกเล่นเดย์เทรด  ไม่มีใครกล้าซื้อหุ้น
ส่วนคนที่ซื้อไปแล้ว ก็ต้องขายหุ้นทิ้งอย่างแน่นอน
ดังนั้น  พอดัชนีเริ่มดีดกลับขึ้นมาได้  
ย่อมเป็นจังหวะให้เข้าซื้อหุ้นที่ทำไดเวอร์เจ๊งกับ
พีอี พีบีวี ยีลด์แบบเวอร์สุดๆ

ลองคิดดูซิครับ

"หุ้นลงหนักที่สุด ตั้งแต่ตั้งตลาดหลักทรัพย์เป็นต้นมา"

ลงมันทุกกลุ่ม  โดยไม่สนใจว่า
เป็นหุ้นเก็งกำไร หุ้นปันผล หุ้นวีไอ หุ้นวีเอส หุ้น ฯลฯ

ปรากฏการณ์แบบนั้น
ทำให้ผมไม่ต้องสนใจคำพูดของหม่อมอุ๋ย
เพราะยังไง หม่อมอุ่ยก็ต้องหาทางแก้สถานการณ์ให้ได้
ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม  
ต่อให้ต้องแก้ผ้า เอาหน้ารอดก็ต้องยอมทำ
ส่วนวิธีแก้ไขแบบ แก้ผ้าเอาหน้ารอดนั้น
จะได้ผลหรือไม่ ก็ค่อยว่ากันอีกที  
สรุปก็คือ  

ยังไงหม่อมอุ๋ยก็ต้องทำให้หุ้น"ขึ้นชั่วคราว"ให้ได้

ถ้าผมกล้าซื้อเพราะ

ราคาหุ้นไดเวอร์เจ๊งแบบเวอร์สุดๆ กับพีอี พีบีวี ยีลด์

ดัชนีหุ้นสามารถขยับขึ้นมาจากเซอกิทเบรคเกอร์ที่สอง
ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนเทขายหนีตายกันมากที่สุด

บวกกับหม่อมอุ๋ยต้องหาทางแก้ผ้าเอาหน้ารอดแน่ๆ

ถ้าในความเห็นของวีไอพันธ์แท้
เห็นว่า มันเป็นเรื่องของความโชคดีบนความเสี่ยง
ก็คงแล้วแต่จะคิดครับ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ผมเสียดายครับ เพราะมีบางตัว ลงถึงราคาที่ผมคิดว่ามีส่วนต่างของความปลอดภัยที่เพียงพอ

แต่ผมดันไม่อยู่บ้าน ไปสัมนา เพราะไม่นึกว่าหม่อมอุ๋ยจะยกเลิกมาตรการ  .... อด

สมัยตอนหุ้น 1700 ก็มีคนคิดอย่างนี้เยอะนะครับ  ราคาหุ้นชั้นดีอย่าง fin1, phatra, tfb, bbl, scc,pttep   ลงเยอะ ๆ อย่างนี้เป็นไปได้ยังไง   ลงมาได้ไง 50%  อย่างนี้ต้องช้อนกำไรเห็น ๆ

สามปีผ่านไป .... (ราคา adjust เพิ่มทุนแล้ว)
scc 154  เหลือ  16.8  
bbl  260 เหลือ   19.25
tfb  136 เหลือ  10.25
pttep 74.40 เหลือ  16.20
phatra โดนขอซื้อถูก ๆ ออกจากตลาด
fin1, DS, ....   = 0.00

เล่นกับไฟถูกซักกี่ครั้ง    ผิดซักครั้งก็หมดได้    :twisted:

[quote="MisterK"]สมัยตอนหุ้น 1700 ก็มีคนคิดอย่างนี้เยอะนะครับ

คลายเครียด เขียน:

ราคาหุ้นไดเวอร์เจ๊งแบบเวอร์สุดๆ กับพีอี พีบีวี ยีลด์

ดัชนีหุ้นสามารถขยับขึ้นมาจากเซอกิทเบรคเกอร์ที่สอง
ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนเทขายหนีตายกันมากที่สุด

บวกกับหม่อมอุ๋ยต้องหาทางแก้ผ้าเอาหน้ารอดแน่ๆ

อ่ีานแล้วรู้เลยครับ ว่าตัวเองยังด้อย การตัดสินใจฉับพลันในภาวะวิกฤตยังใช้ไม่ได้ ตอนนั้นคิดไม่ได้แบบนี้:oops:

[quote="คัดท้าย"][quote="MisterK"]สมัยตอนหุ้น 1700 ก็มีคนคิดอย่างนี้เยอะนะครับ

ผมก้อซื้อน้อยไปหน่อยเหมือนกันครับ (น่าลงมาร์จิ้นให้รู้แล้วรู้แรดไปเลย 555)

แต่คิดว่า วันอื่นๆ คงมีเหตุการณ์ที่ทำให้หุ้นบางตัวที่ผมถือ ลงมาให้ผมเก็บอีกบ้าง (ลงแบบไม่มีเหตุผล มีทุกวันนะผมว่า)

มีเงินแค่นี้ง่ะ ...

ตกครั้งนี้....ผมไปเชียงใหม่ ไปตีกอล์ฟอยู่ดอย เลยได้อยู่ดอยจริงๆ  8)  
ตกครั้งก่อนหน้านี้....ผมอยู่โอกินาว่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มี internet
ตกครั้งก่อนหน้านั้นอีก...ผมเดินทางกลับจาก USA มาเมืองไทย

สงสัยผมจะเป็นญาติกับ Peter Lynch


ไม่เป็นไร...เอาใหม่.... หนุกๆ โอกาสมาแล้วก็ไป...

ถ้าเวลามี  โอกาสมา อาวุธครบ.... เราจะกล้าตัดสินใจหรือเปล่า ....

ถ้าแพ้ ก็...ดูว่าเราเรียนรู้อะไรจากมันบ้าง...ไม่ใช่มาตีโพยตีพาย...
เรื่องประเทศชาติ... เรื่องนึง
เรื่องชีวิตนักลงทุน ....ก็เป็นอีกเรื่องนึง....

สู้ต่อไป....

ผมก็อยากจะซัดตัวเดียวกับพี่เสี่ย ค แหละครับ
แต่เอาตังค์ไปซื้อหุ้นจับฉลากซะก่อน

อยากจะร้องไห้      

เพิ่มอีกนิด ไม่มี edit เลยต้องต่อ
ตอนนี้คงรอเล่น DSM กับเจ้าตัวที่ว่านะครับ

คัดท้าย เขียน:คิดแค่ราคา ไม่ได้ครับ อย่าดูราคาครับ เป็น VI ต้องดูมูลค่าครับ

ต้องให้เตือนอีกแล้ว :lol: