Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

buglife เขียน:ตกลง 30/70 เนี่ยะ ผ่อนผันหมดทุกตลาดใช่ไหมครับ
เก็งกำไรค่าเงินกันได้เหมือนเดิมแล้ว เย้

รู้สึกพันธบัตรโดนกักครับ

จริงๆอยากเห็น List เหมือนกันนะ ว่าอะไรกัก อะไร ไม่กัก  :D

อยากทราบจากผู้เชียวชาญเรื่องเศรษฐกิจมหภาคเหมือนกันครับ     อย่างสมมติว่าเกิดฝรั่งถอนเงินออกจากระบบไปอาจจะหลายหมื่นหรือหลายแสนล้าน    จะเกิดอะไรกับระบบเศรษฐกิจไทยบ้างไหม    จะเกิดเงินฝืด เงินเฟ้อ   หรือข้าวยากหมากแพง  ประชาชนรัดเข็มขัดหรือเปล่า (เวอร์ไปมั้ยนี่)    หรือระบบเศรษฐกิจเรารองรับได้สบาย ๆ

หัวข้อกระทู้ดีจังเลยครับ สองวันมานี้เห็นหลายกระทู้นึกว่ามาผิดเว็บ

คนที่สองแล้ว ที่เจอว่า พูดน้อยจริงๆ

2003-2006 3 ปี posts 5

อสังหาไม่โดนกักครับ

ตอบคำถามที่ว่ามาตรการของแบ๊งชาติกับมูลค่าทีแท้จริงในตลาดหุ้น

ขอตอบว่า ถ้ามีการปรับตัว ให้เข้ากับกระแสเดิม ที่สร้างไว้ ในรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นบูม แต่บางคนอาจจะมองว่าเป็นการขายสมบัติของชาติ นั่นอีกเรื่อง

ถ้ามีการสานต่อนโยบายเดิม มูลค่าที่แท้จริง ในตลาดหุ้นก็จะค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

ตามความเชื่อมั่น

ผลของเหตุการณ์ครั้งนี้ นับว่าดี ถ้าผู้มีอำนาจ รู้สึกให้เร็ว มีอารมณ์ให้น้อย และแก้ไข

แต่ถ้ายังลุแก่อำนาจ แล้ว ทำอะไร อย่างไม่เกรงใจใคร ต่อไป

นั่นหมายถึง มูลค่าที่แท้จริง จะลดลง จาก เพื่อนๆชาวโลกจะไม่คบค้าด้วย

เหมือนอย่างที่คุณฉัตรชัยว่าไว้ ว่าทำไม pe บ้านเราถึงได้ต่ำ

ถ้าบริษัทในประเทศไทยจะระดมเงิน  ออกหุ้นกู้จำนวนมาก  จะทำอย่างไร?

ขายต่างประเทศ  จะขายได้ไหม?

ขายในประเทศ  ก็มีคนซื้อมากพอไหม?

แล้วบริษัทใหม่ๆที่จะระดมทุนเข้ามาจดทะเบียนในตลาด  ยังต้องไป Road Show ต่างประเทศอีกไหมครับ

แล้วถ้าจะขายเฉพาะคนไทย  จะมีเม็อเงินเพียงพอไหมครับ

แล้วเงินที่จะเข้ามาซื้อกองทุนรวมอสังหาฯละครับ จะโดนกัก 30%หรือเปล่า
ถ้าโดนคงกระทบหลายบริษัทเหมือนกัน

สรุปว่า กัก ไม่กัก อันไหนบ้างเนี่ยะ
ยังคิดกันไม่เสร็จป่าวฮับ
ต้องรอเสียงสรรเสริญก่อน
ตลาดไหนสรรเสริญมากๆ ก็ปล่อย
ตลาดไหนไม่มีปากเสียง ก็กัก

นั่งเทียนกันยังไม่เสร็จมั้งเนี่ยะ ฮา

อืม ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วลองไล่เป็น asset class เลยดีไหมครับ จะได้ลองโทรไปถามเลย ตั้งแต่ตั๋วเงิน ไล่ไปถึง พันธบัตร กองทุนอสังหาฯ อสังหาฯ หุ้น ฟิวเจอร์ เอเฟท ว่าแต่จะถามถึงตัวไหนอีกดีครับ

[quote="chatchai"]ถ้าบริษัทในประเทศไทยจะระดมเงิน

[quote="Muffin"][quote="chatchai"]ถ้าบริษัทในประเทศไทยจะระดมเงิน

สงสัยต้องหันไปสนใจกับหุ้นที่มีศักยภาพที่ผูกขาดการแข่งขัน และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินตราต่างประเทศ

เอาหุ้นแบบนี้ดีกว่าแฮะ ไม่เดือดร้อนดี

เอามุมมองพี่ท่านหนึ่งที่ดูแลกองทุนมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

เค้าบอกว่า รัฐไม่สามารถกันเงินสำรองที่ไหลเข้ามาได้แล้ว แต่ยังคงที่จะไม่อยากให้เงินบาทแข็งไปนัก ดังนั้นมาตรการที่สามารถทำได้คือ การลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกันการไหลเข้าของเงิน ..
แล้ววันนี้ HSBC และ Standard and Poor ออกมาแนะนำไทยให้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกันเงินไหลเข้า และ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย

ผมว่าตอนนี้เงินบาทแข้งคงยังไม่น่าจะมีอะไรเพราะอ่อนค่าไปแล้ว แต่ถ้าเริ่มอ่อนอีกครั้งมะไหร่ มาตรการการลดดอกเบี้ยคงจะเริ่มนำมาใช้ละมั้งครับ

แล้วถ้ามาตรการการลดดอกเบี้ยนี้เกิดนำมาใช้จริง กลุ่มอสังหาน่าจะกลับมาน่าสนใจ เพราะราคาน้ำมันก็ไม่ใช่ขาขึ้น ดอกเบี้ยก็ลง เข้าทางอสังหาเลยครับ

ผมก็ไม่รู้ว่าเค้ามองกันถูกมั้ย ยังไงก็ฟังไว้ประกอบการพิจารณาดูครับผม ยังไงผมจะรอฟังพี่ๆมาสานต่อประเด็นนี้นะครับ

ขอบคุณครับ  :D

ช่วยแก้ให้นะครับ

ตอนแรกบอกว่าลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกันเงินไหลเข้า ถูกต้องแล้ว

ต่อมา คุณ metro บอกว่า เมื่อค่าเงินบาทอ่อนอีก อันนี้ไม่ต้องลดดอก

แต่ถ้าอ่อนมากกเกินไป ก็เพิ่มดอกเบี้ยครับ

เอากันจริงๆก็คือ ผมกลัวฝรั่งงอนไม่เอาเงินเข้ามาลงทุนเมืองไทย มันจะทำให้หุ้นเมืองไทยซึมไปอีกนานเลยทีเดียว กลัวมันลงเยอะว่างั้น
เลยไม่กล้าเข้าไปรองไว้ จากเมือก่อนหาราคาเหมาะสมที่ safety 20% ตอนนี้ขอเพิ่มเป็น 30% ก่อนละกัน

อีกเรื่องนึงที่อย่าลืมนะครับ เหมือนคุณคัดท้ายบอกครับ ผมดูกราฟย้อนหลังปีนึงแล้วก็ตกใจ
หลายๆตัวลงกระหน่ำขนาดนี้ยังไม่ท่าที่ขึ้นมาเลย

โอ@ เขียน:เอากันจริงๆก็คือ ผมกลัวฝรั่งงอนไม่เอาเงินเข้ามาลงทุนเมืองไทย มันจะทำให้หุ้นเมืองไทยซึมไปอีกนานเลยทีเดียว กลัวมันลงเยอะว่างั้น
เลยไม่กล้าเข้าไปรองไว้ จากเมือก่อนหาราคาเหมาะสมที่ safety 20% ตอนนี้ขอเพิ่มเป็น 30% ก่อนละกัน

อีกเรื่องนึงที่อย่าลืมนะครับ เหมือนคุณคัดท้ายบอกครับ ผมดูกราฟย้อนหลังปีนึงแล้วก็ตกใจ
หลายๆตัวลงกระหน่ำขนาดนี้ยังไม่ท่าที่ขึ้นมาเลย

เหตุการณ์นี้สอนให้ VI พันธ์ทางอย่างผม เห็นถึงความบ้าคลั่งและไม่มีเหตุผลของผู้คนได้ดีจริงครับ อย่างที่คุณ โอ@ เห็น จะเห็นว่าจริงๆแล้วราคาหุ้นตอนนี้หลายตัวยังไม่ได้ถูกมากมายอย่างที่หลายๆคนคิด

จริงๆใจผม ถ้ามันลงอีกค่อยมาว่ากันครับ ตอนนี้รอดีก่า  :D

ธปทเลิกเกณฑ์30%อสังหาฯ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 ธันวาคม 2549 07:54 น.


      ธปท.ออกประกาศยกเว้นมาตรการเพิ่มเติมใหธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การรับซื้อเงินต่างประเทศจากลูกค้าหรือบุคคลรับอนุญาตในรูปเช็คเดินทางและธนบัตร
     
      วานนี้ (21 ธ.ค.) ธนาคารแห่ปงระเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่อนผันวิธีปฏิบัติการกันสำรองที่ ธปท.ได้ออกประกาศไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยธุรกรรมที่จะได้รับการผ่อนผันไม่ต้องกันสำรอง 30% นอกจากธุรกรรมที่เงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เฉพาะหุ้นทุน เงินลงทุนในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX) และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) ซึ่งไม่ว่าเงินลงทุนดังกล่าวจะตกลงซื้อขายกันเมื่อใดก็ตามแล้ว
     
      ยังมีธุรกรรมการรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่เป็นเงินลงทุนโดยตรง(FDI) ซึ่งหมายถึงธุรกรรมการลงทุนในระยะยาวของผู้ลงทุนต่างชาติที่มีต่อธุรกิจในประเทศไทยทั้งที่จัดตั้งในรูปของนิติบุคคลและส่วนบุคคล โดยผู้ลงทุนถือหุ้นในกิจการ(Equity Capital) ตั้งแต่ 10%ขึ้นไป และมีส่วนรวมในการบริหารจัดการธุรกิจนั้น รวมถึงการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน คอนโดมิเนียมด้วย
     
      ขณะเดียวกัน ธุรกรรมการรับซื้อเงินตราต่างประเทศจากลูกค้า หรือบุคคลรับอนุญาตในรูปเช็คเดินทางและธนบัตร การรับซื้อเงินตราต่างประเทศจากธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่เป็นการต่ออายุสัญญาเดิม(Rollover Swap) ที่ทำกับสถาบันการเงินเดิม การรับซื้อเงินตราต่างประเทศแลกบาทที่สืบเนื่องจากการซื้อตราสารหนี้ก่อนวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา และธุรกรรมเกี่ยวกับการรับซื้อเงินตราต่างประเทศที่เป็นเงินบริการ
     
      รวมทั้งธุรกรรมการรับซื้อเงินตราต่างประเทศจากสถานทูตไทย สถานกงสุลไทย หรือหน่วยงานรัฐบาลที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย อีกทั้งสถานทูตต่างประเทศ สถานกงสุล ทบวงการชำนัญพิเศษแห่งองค์การสหประชาชาติองค์การหรือสถาบันระหว่างประเทศที่ประจำการในประเทศไทย และยังมีธุรกรรมเงินกู้สกุลเงินตราต่างประเทศของหน่วยงานราชการที่นำมาขายรับบาท
     
      พร้อมทั้งเงินตราต่างประเทศของบุคคลไทยที่เข้ามาฝาก FCD และนำมาขายรับบาท ที่มีเอกสารหลักฐานว่าเงินตราต่างประเทศที่นำฝากดังกล่าวเป็นประเภทที่ได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผันการกันสำรองตามระเบียบ เช่น เงินตราต่างประเทศที่ได้รับเป็นค่าสินค้าหรือบริการ และประเภทที่ได้รับการผ่อนผันตามประกาศนี้
     
      สำหรับการตรวจสอบเอกสารหลักฐานนั้น ให้สถาบันการเงินเรียกให้ผู้ขายหรือผู้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแสดงเอกสารหลักฐานและเมื่อพิสูจน์ว่าเป็นเอกสารจริงและถูกต้อง อีกทั้งเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตามวัตถุประสงค์จริงที่ได้รับการยกเว้นจริงให้สถาบันการเงินสามารถรับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องกันเงินสำรอง นอกจากนี้กำหนดให้สถาบันการเงินเป็นผู้พิจารณาเอกสารหลักฐานในวันที่ทำสัญญา(Trade Date) หรือวันส่งมอบเงิน(Settlement Date) ทั้งนี้ในวันส่งมอบเงินสถาบันการเงินจะต้องมีเอกสารหลักฐานตามที่เจ้าพนักงานกำหนดด้วย
     
      ส่วนวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการกันสำรองสำหรับการลงทุนตลาดหลักทรัพย์ผู้ขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อการลงทุนในตลาดหุ้น TFEX และ AFET สามารถให้นำเงินบาทที่แลกเข้าบัญชี NRBA ได้ตามปกติ แต่สถาบันการเงินต้องดูแลให้การขายหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อการลงทุนในลักษณะข้างต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามจากการที่มีการยกเลิกจำกัดวงเงินในบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ(NRBA) เดิมกำหนดให้ในแต่ละวันต้องมียอดคงค้างได้ไม่เกิน 300 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ไม่ได้มีการจำกัดวงเงินดังกล่าวแล้ว แต่ในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรธปท.ก็จะแจ้งเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

[quote="chatchai"]ถ้าบริษัทในประเทศไทยจะระดมเงิน

เป็นกระทู้ที่อ่านเเล้ว จรรโลงใจเเละสติปัญญามากครับ
2-3 วันก่อน หากระทู้ดีๆอ่าน เเบบนิ้ ยากครับ

ขอให้ทุกท่านโชคดี เเละมีความสุขกับการลงทุนระยะยาวนะครับ

มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้  คุณสามัญชน และ ฯลฯ

จากการชี้แจงหลักเกณฑ์ธุรกรรมที่ได้รับการยกเว้น

เงินกู้ยืมยกเว้นเฉพาะที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 19 ธ.ค.

ดังนั้น  บริษัทในประเทศไทย  ต่อจากนี้ไปก็ไม่สามารถกู้ยืมเงินต่างประเทศได้แล้ว

โอแม่เจ้า  แล้วจะกระทบต่อการกู้เงินมาสร้างรถไฟฟ้าไหมเนี่ย