หน้า 2 จากทั้งหมด 2
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 2:44 pm
โดย triathlon
รอลุ้นแล้วกัน
อาจมีหุ้นถูกๆ ดีๆ มาให้เราเก็บ แต่ที่กลัวคือ พื้นฐานประเทศจะเปลี่ยนนะ ถ้าเราไม่ต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติ
หวังว่าเหตุการณ์เช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้น
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 2:49 pm
โดย Nawat
ครม.เห็นชอบหลักการแก้กม.ต่างด้าวยอมรับห่วงต่างชาติถอนลงทุน
9 มกราคม 2550 14:23 น.
ครม.เห็นชอบหลักการร่างแก้ไขกฎหมายต่างด้าว สั่ง"ปรีดิยาธร-เกริกไกร"แจงป้องกันความสับสน ยอมรับห่วงต่างชาติถอนลงทุน แค่เห็นชอบหลักการก่อนให้กฎษฎีกาปรับปรุงรายละเอียดอีกครั้ง
นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าวและได้ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กลับไปพิจารณารายละเอียดของร่างแก้ไขให้รัดกุมอีกครั้ง
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ให้ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อให้การนำเสนอข่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ชี้แจงนักลงทุนต่างประเทศ เกี่ยวกับการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการหยิบยกประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติ เตรียมถอนการลงทุนในประเทศไทยเข้ามาหารือด้วย ซึ่งที่ประชุมรู้สึกเป็นห่วง จึงได้เห็นชอบในหลักการไปก่อน ส่วนรายละเอียดต้องให้กฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง
นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 2:54 pm
โดย Oatarm
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์
ครม.เห็นชอบร่างแก้ไข กฎหมายธุรกิจคนต่างด้าว
9 มกราคม 2550 14:05 น.
ครม.เห็นชอบร่างแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ แก้คำนิยาม"คนต่างด้าวใหม่" พร้อมกำหนดเวลาให้ปรับตัว
นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เห็นชอบในหลักการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ 2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แล้วมอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาในแง่กฎหมายให้มีความรัดกุมมากขึ้น พร้อมทั้งให้นายเกริกไกร จิระแพทย์ รมว.พาณิชย์ ทำหน้าที่ชี้แจงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมาย มีดังนี้
1. แก้ไขคำนิยม"คนต่างด้าว" โดยกำหนดให้ครอบคลุมถึงนิติบุคคลที่มีคนต่างด้าวมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ตั้งแต่กึ่งหนึ่งของจำนวนคะแนนเสียงที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคลนั้นด้วย เพื่อป้อกงันการหลีกเลี่ยงกฎหมายให้หลุดพ้นจากการเป็นคนต่างด้าว โดยการกำหนดบุรมสิทธิให้คนต่างด้าวมีสิทธิออกเสียงเหนือกว่าคนไทย หรือในทางกลับกันกำหนดให้คนไทยมีสิทธิออกเสียงน้อยกว่าคนต่างด้าว(ร่างมาตรา4)
2. แก้ไขปรับปรุงบทลงโทษ มาตรา 35 มาตรา 36 และมาตรา 37 โดยเพิ่มโทษปรับให้สูงขึ้นเพื่อให้เหมะสมกับการกระทำความผิด สำหรับโทษจำคุกคงเดิม
3. กำหนดบทเฉพาะกาล เพื่อรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจาการแก้ไขปรับปรุงบทนิยาม "คนต่างด้าว" ให้ผู้ประกอบธุรกิจอยู่ก่อนแล้วตามกฎหมายเดิมได้รับสิทธิประกอบธุรกิจต่อไปได้ โดยให้มาแจ้งเพื่อขอหนังสือรับรองภายในเวลาที่กำหนดและหากเป็นการประกอบธุรกิจในบัญชีสามจะประกอบธุรกิจได้ต่อไป
สำหรับการประกอบธุรกิจในบัญชี 1 และบัญชี 2 จะประกอบธุรกิจต่อไปได้อีก 2 ปี และกำหนดบทเฉพาะกาลให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปรับปรุงบทกำหนดโทษให้สูงขึ้นได้มีโอกาสปรับตัวและปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
4. ปรับปรุงบัญชีสามท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดย
4.1 ยกเลิกธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะกำกับดูแลอยู่แล้ว ได้แก่ธุรกิจนำเที่ยว
4.2ยกเว้นธุรกิจที่หน่วยงานที่กำกับโดยตรงขอให้ยกเว้น
4.3 ตัดข้อกำหนดเรื่องทุนขั้นต่ำของธุรกิจและค้าส่งออก ซึ่งมีผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกและค้าส่งทุกรายต้องขอนุญาต
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 2:55 pm
โดย miracle
ระเบิดเวลาเริ่มถอยหลัง
ไม้บรรทัดต้องขีดด้วยดินสอหรืออะไรก็ต้อง ได้เส้นตรง
ไม่ใช่ได้เส้นโค้ง
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:08 pm
โดย Nawat
ทั้งไทยทั้งต่างชาติยังต้องพึ่งพาอาศัยกันไปอีกนาน
หวังว่าสุดท้ายคงตกลงกันได้ด้วยดี
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:15 pm
โดย lekmak333
'หม่อมอุ๋ย' ยัน หุ้นตกแรง ไม่เกี่ยวกับการออก พ.ร.บ.ต่างด้าวใหม่
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิด
เผยว่า กรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายวันนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการที่คณะ
รัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว แต่อย่างใด
'บริษัทที่อยู่ใน 3 บัญชี มีเพียง 20,000 รายเท่านั้น ขณะที่บริษัททั้งหมดมีถึง 5.4
แสนราย เพราะฉะนั้นจึงคิดว่าไม่น่ากระทบอะไร' ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:22 pm
โดย Nawat
ครม.รับหลักการร่างแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว
นางเนตรปรียา ชุมไชโย ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ 2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแล้ว และครม.มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาในแง่กฎหมายเพื่อให้มีความรัดกุมมากขึ้น พร้อมทั้งให้นายเกริกไกร จิระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ชี้แจงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ถึงความจำเป็น และเหตุผลในการเสนอ ร่างกฏหมายแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวด้วย
ก่อนหน้านี้ คุณหญิงชฎา กล่าวว่า ด้านภาคการเงินไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีกฎหมายของ พ.ร.บ.สถาบันการเงิน ได้ระบุไว้ให้ต่างชาติถือหุ้นได้เพิ่มจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 49 อยู่แล้ว แต่หากมีความจำเป็นไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนได้และอาจมีความเสียหายได้ ทางการก็จะอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นเกินร้อยละ 49 ได้ ตามความเหมาะสม แต่ในธุรกิจอื่นๆ เอกชนต่างชาติต้องการทราบความชัดเจน เมื่อจะเข้ามาร่วมทุนในประเทศ ต้องตั้งบริษัทย่อย ต่างชาติจะถือหุ้นได้เท่าใด และส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และปัญหากลุ่มนอมินี หรือตัวแทนถือหุ้นของเทมาเส็ก ในกลุ่มชินฯ ต่างชาติก็ต้องการให้มีความชัดเจน
ดังนั้น ทุกอย่างมีความชัดเจนจะทำให้ต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยไม่ต้องการให้มีสัญญาณต้องการพึ่งพาเงินทุนต่างชาติน้อยลง เพราะในความจริงแล้ว การพัฒนาในยุคปัจจุบันยังต้องการอาศัยการถ่ายทอดเทคโนโลยี การสร้างงานในประเทศ เพราะอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์ แต่ก็สามารถเลือกในสิ่งที่ต้องการนำเข้ามาได้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีหอการค้าต่างประเทศ หรือ เจเอฟซีซีที ออกมาคัดค้านรัฐบาล กรณีการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศไทย และหาก ครม.อนุมัติให้มีการผ่านกฏหมายฉบับดังกล่าว อาจทำให้ต่างชาติหลายรายถอนการลงทุนในประเทศไทย ว่า เหตุที่หอการค้าออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน เพราะยังไม่ได้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนของกฏหมายฉบับนี้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (10 มกราคม) จะนัดหารือกับบรรดาหอการค้าต่างประเทศ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในรายละเอียด พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ปฎิเสธการลงทุนจากต่างชาติ และยึดแนวทางนี้มาโดยตลอด.
นายกฯ เชื่อต่างชาติลงทุนเพิ่มยัน กม.ธุรกิจต่างด้าวโปร่งใส-เป็นธรรม
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้ให้ข้อสังเกตุที่สำคัญในแง่กฎหมาย คือ ต้องดูให้รัดกุมมากขึ้น เพราะจะมีผลกระทบ 2 ด้าน คือ ในประเทศ และผู้ลงทุนในภาพกว้าง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า จะสามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้นักลงทุนได้เข้าใจถึงการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่ยึดในเรื่องความโปร่งใสและเป็นธรรม
"ถ้าเราชี้แจงให้นักลงทุนได้เข้าใจรับทราบและมีส่วนร่วมแล้ว เขาจะเห็นเองว่าเรายึดเรื่องความเป็นธรรมและความโปร่งใสอย่างไรบ้าง" นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า จากนี้ไปคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเป็นผู้พิจารณารายละเอียดถ้อยคำในกฎหมายให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าคงจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน ทั้งนี้ พอกฤษฎีกาเสร็จแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเสนอกลับมาที่ ครม.อีก สามารถเสนอไปยัง สนช.ได้เลย
นสพ.โพสทูเดย์[/quote]
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:22 pm
โดย triathlon
ลองมาดูผลกระทบกันคร่าวๆนะครับ
ชินคอร์ป กับกลุ่ม ทั้งหมด มี AIS, SATTEL, ITV
DTAC ผู้ถือหุ้น structure เดียวกับกุหลาบแก้ว น่าจะต้องโดนด้วย
ค้าปลีก มี makro, bigc ลองไปดูชื่อผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทไทยนะครับ เอาเข้าจริงๆ พวกนี้ strucutre เดียวกับกุหลาบแก้ว
Chuo ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ต่างด้าวห้ามทำ โฆษณาครับ
โรงแรม มีกี่แห่งในไทยที่เป็นของคนไทยครับ
อีกอย่าง ผลที่ตามมาที่ยังนึกกันไม่ถึง ถ้าแก้กฏหมายแล้ว ต่างชาติที่เคยมาซื้อที่ดิน คอนโดในรูปของบริษัท พวกนี้โดนหมดครับ เพราะรูปแบบการจัดตั้งเหมือนกุหลาบแก้วมากๆ
มองแง่ร้ายมากไปไหม ถ้าคิดว่าจะเจอร้อยจุดอีกรอบ
เงินสดเหลือนิดเดียวเอง
:?
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:28 pm
โดย 007-s
[quote="lekmak333"][quote] 'หม่อมอุ๋ย' ยัน หุ้นตกแรง ไม่เกี่ยวกับการออก พ.ร.บ.ต่างด้าวใหม่
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:29 pm
โดย woody
จำ 80/20 rules กันได้ไหมเอ่ย 20,000 บริษัทนี่แหล่ะครับจะ account for กี่% หล่ะนี่ :twisted:
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:43 pm
โดย chatchai
PDI โดนด้วยหรือเปล่าเนี่ย ลงแรงจัง
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 3:59 pm
โดย MisterK
minor, mint, s&p เจ้าของถือสัญชาติไทยหรือเปล่าครับ โดนหางเลขด้วยมั้ย
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 4:16 pm
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
Update/ 'หม่อมอุ๋ย' เผยพ.ร.บ.ต่างด้าวใหม่ ให้ต่างชาติที่ถือหุ้นรวมเกิน 50% ต้องลดสัด
ส่วนถือหุ้นลงภายใน 1 ปี และที่มีเสียงโหวตเกิน 50% ลดสิทธิออกเสียงใน 2 ปี
'หม่อมอุ๋ย' เผยพ.ร.บ.ต่างด้าวใหม่ ให้ต่างชาติที่ถือหุ้นรวมเกิน 50% ต้องลดสัดส่วน
ถือหุ้นลงภายใน 1 ปี และที่มีเสียงโหวตเกิน 50% ลดสิทธิออกเสียงใน 2 ปี เชื่อ นลท.ต่างชาติ
ไม่ได้รับผลกระทบแน่ แต่เตรียมชี้แจงให้หอการค้าตปท.เข้าใจพรุ่งนี้ 11.00 น. ยันหุ้นร่วงวันนี้
ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหานอมินีแน่
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เปิดเผยว่า การแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ได้มีการแก้ไขในเรื่องคำจำกัดความใน
การให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในบริษัทไทย จะต้องไม่เกิน 50% ซึ่งหมายรวมถึงการถือหุ้นแทน
ด้วย ส่วนการออกเสียงโหวตกฎหมายกำหนดว่าจะต้องมีสิทธิออกเสียงไม่เกิน50% ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้หากบริษัทใดจัดอยู่ในบัญชีที่ 1 และบัญชีที่ 2 ที่ถือหุ้นในบริษัทเกิน 50% จะต้องเข้ามาแจ้ง
กับกระทรวงพาณิชย์ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ และให้ดำเนินการลดสัด
ส่วน โดยการขายหุ้นออกไปภายใน 1 ปี และหากบริษัทใดที่อยู่ในบัญชีที่ 1 และ 2 ที่มีสิทธิออก
เสียงเกิน 50% จะต้องเข้ามาแจ้งกับกระทรวงพาณิชย์ภายใน 1 ปีและทำการปรับลดสัดส่วนการ
ออกเสียงดังกล่าวให้เป็นไปตามเกณฑ์ภายใน 2 ปี นับจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
ส่วนหากบริษัทใดเข้าเกณฑ์บัญชีที่ 3 ที่มีการถือหุ้นเกิน 50% และหากมีสิทธิออก
เสียงเกิน 50% จะต้องเข้ามาแจ้งกับ ทางกระทรวงพาณิชย์ภายใน 90 วัน ซึ่งสามารถดำเนิน
กิจการได้ตามปกติต่อไป สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทไทยรายใหม่ ซึ่งนับ
ตั้งแต่วันที่ออกกฎหมายดังกล่าวไปนักลงทุนต่างชาติจะต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมายฉบับใหม่
ที่ออกมาทั้งหมด
ทั้งนี้ธุรกิจในบัญชี 1 ประกอบด้วย กิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง
เกษตรกรรม ค้าที่ดิน เป็นต้น และ 2 ที่ ประกอบด้วย กิจการการขนส่งทางน้ำ อากาศ บก กิจการ
การบินในประเทศ คมนาคม อาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นต้น เป็นธุรกิจเฉพาะที่สงวนไว้สำหรับคนไทย
และธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงหรือมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติของ
ไทย ส่วนธุรกิจในบัญชี 3 ที่ประกอบด้วย ธุรกิจนายหน้า และค้าปลีก ค้าส่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่
คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันกับคนต่างด้าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า เชื่อ การแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าว จะไม่มีผลกระทบต่อการ
ทำธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค. 2550) จะชี้แจงให้กับหอการค้าต่าง
ประเทศได้เข้าใจถึงการแก้ไขพ.ร.บ.ในครั้งนี้อย่างชัดเจน ในเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
'ในเรื่องของธุรกิจประกันและธนาคาร เราได้แยกออกไปแล้ว เพราะสองตัวนี้มี
กฎหมายคุ้มครองอยู่ ซึ่งเกรงว่าจะไปทับซ้อนกัน เราจึงออกไปแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ประเทศอื่นก็ทำ
กันเหมือนกับต่างประเทศที่มีอยู่ ประเทศเราเป็นอนาธิปไตยเพราะฉะนั้นเราจะต้องดูแลและต้อง
สงวนในสิ่งที่ต้องควรสงวนไว้' ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ส่วนกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายวันนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบ
ธุรกิจคนต่างด้าว แต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทที่อยู่ใน 3 บัญชี ที่ได้รับผลจากการแก้ไขพ.ร.บ.ใน
ครั้งนี้ มีจำนวนเพียง 20,000 รายเท่านั้น ในขณะที่บริษัททั้งหมดมีถึง 5.4 แสนรายเพราะฉะนั้น
จึงคิดว่าไม่น่ากระทบอะไร
ที่มา : efinancthai
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 4:16 pm
โดย phobenius
ก้องเกียรติ ชี้ต่างชาติจะไม่มีการลงทุนใหม่ เริ่มทยอยถอนเงินลงทุนออกจากไทย หลังจาก ครม. อนุมัติแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เพราะต่างชาติมองว่าประเทศไทยไม่ต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติ ระบุ ธุรกิจค้าปลีก ค้ารถยนต์ โทรคมนาคม ได้รับผลกระทบหนักสุด
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า การที่ ครม.อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขอแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ถือเป็นการไม่ต้อนรับการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ และเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติคงจะไม่มีการลงทุนเพิ่มในประเทศไทย เพราะกังวลกับกฎระเบียบที่ออกมา ขณะเดียวกันนักลงทุนที่อยู่ในประเทศ ก็คงจะทยอยถอนการลงทุนออกไป เพราะจะต้องมีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นให้มีสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 49 ตามที่กฎหมายกำหนด และจะต้องหาคนไทยอีกร้อยละ 51 มาถือหุ้นแทน ซึ่งก็คงจะลำบาก เพราะเชื่อว่าคงจะมีนักลงทุนไทยไม่กี่รายที่มีเม็ดเงินมากพอสำหรับการลงทุน ดังนั้นในที่สุด นักลงทุนต่างชาติก็จะไม่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีก และจะมีแต่การถอนเงินออก ซึ่งสุดท้ายเงินบาทก็จะต้องอ่อนค่าลงมา
นายก้องเกียรติ กล่าวว่า บริษัทขนาดใหญ่ในธุรกิจค้าปลีก ค้ารถยนต์ และการค้า โทรคมนาคม ได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก พ.ร.บ.ดังกล่าว ในขณะที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดนผลกระทบค่อนข้างน้อย เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน โดยไม่มีข้อจำกัด โดยต้องผ่านทางบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด นอกจากกนี้ยังเตือนด้วยว่า จะมีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะจะทำให้นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในตลาดหุ้น ทยอยถอนเงินออกจากไทย เพราะนโยบายภาครัฐไม่สนับสนุนการลงทุนของต่างชาติ
ผมเคยเตือนมาหลายครั้งแล้วว่า หากมีการผ่าน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว เท่ากับเป็นการไม่ต้อนรับนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องพึ่งพาเงินลงทุนต่างชาติอยู่ ดังนั้น เท่ากับเป็นการกีดกันต่างชาติ ซึ่งไม่มั่นใจว่าต่างชาติจะมีมาตรการตอบโต้ประเทศไทยด้วยการกีดกันการส่งออกหรือไม่ นายก้องเกียรติกล่าว
ผ้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากภาคเช้าทันที โดยลดลงไปถึง 16.39 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคาดว่ามาจากการที่ต่างชาติกังวลกฎหมายดังกล่าว
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน กล่าวว่า จากปัจจัยเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ตลอดจนปัญหาของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ อาจมีผลทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2550 ลดลงอย่างน้อยร้อยละ 0.5-1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และจะมีผลทำให้ประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ลดลง อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยบวก คือ การเลือกตั้งที่มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากมีประธานสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และมีกรอบระยะเวลาที่ต้องร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 4:23 pm
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
ผมเคยเตือนมาหลายครั้งแล้วว่า หากมีการผ่าน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว เท่ากับเป็นการไม่ต้อนรับนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องพึ่งพาเงินลงทุนต่างชาติอยู่ ดังนั้น เท่ากับเป็นการกีดกันต่างชาติ ซึ่งไม่มั่นใจว่าต่างชาติจะมีมาตรการตอบโต้ประเทศไทยด้วยการกีดกันการส่งออกหรือไม่ นายก้องเกียรติกล่าว
อันนี้ก็ระเบิดเวลา ที่หม่อมอุ๋ยสร้างขึ้นอีกหรือเปล่า
มาตรการ 30% เพื่อปกป้องส่งออก
มาตรการ นอมินี ทำลายส่งออก ????
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 4:26 pm
โดย sunrise
[quote="lekmak333"][quote] 'หม่อมอุ๋ย' ยัน หุ้นตกแรง ไม่เกี่ยวกับการออก พ.ร.บ.ต่างด้าวใหม่
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 6:17 pm
โดย shinnozuke
มีโอกาสจะได้เห็น 5xx จุดหรือเปล่าครับ :?
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 6:23 pm
โดย Frodo
สำหรับตอนนี้ผมว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
5xx ก็ไม่น่าจะยากแล้วครับ
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 6:26 pm
โดย beammy
รัฐบาลเปิดทำเนียบพรุ่งนี้แจงหอต่างชาติ สาเหตุแก้กฎหมายนอมินี
9 มกราคม 2550 17:46 น.
รัฐบาลเปิดทำเนียบพรุ่งนี้ชี้แจงหอการค้าต่างประเทศ"ปรีดิยาธร"ระบุ เหตุที่ต้องแก้กฎหมายธุรกิจต่างด้าว เพื่อให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น ชี้"กุหลาบแก้ว"ต้องปฏิบัติตามกติกาใหม่
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลงว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติการแก้ไขพ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่อแก้ไขปัญหานักลงทุนต่างชาติหลีกเลี่ยงกฎหมายในการถือหุ้นธุรกิจในประเทศไทย หลังจากมีการร้องเรียนกรณีการถือหุ้นแทนหรือนอมีนีในบริษัทกุหลาบแก้วเกิดขึ้น และจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาในวันพรุ่งนี้(10 ม.ค.)
โดยก่อนที่จะเสนอเข้าที่ประชุมครม.กระทรวงพาณิชย์ ได้ใช้เวลาประมาณ 60 วันในการพิจารณาแก้ไขร่วมกับภาคเอกชน โดยมีสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นแกนนำในหารือร่วมกับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เหมาะสม อย่างไรก็ดี ร่างแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าวจะต้องเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง
ทั้งนี้ ร่างแก้ไขพ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542ได้มีการแก้ไขคำจำกัดความของคำว่า บริษัทต่างชาติให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเขียนให้ชัดว่า บริษัทต่างชาติ คือ บริษัทใดที่ต่างชาติถือหุ้นเกิน 50% ก็แปลว่าเป็นบริษัทต่างชาติ ซึ่งรวมถึงที่ให้คนไทยถือหุ้นแทนด้วย และ 2.กรณีต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 50% แต่ใช้สิทธิออกเสียงเกิน 50% หรือเรียกว่า voting right ซึ่งสามารถครอบงำบริษัทได้เหมือนเดิม วิธีนี้ก็คือ ให้สิทธิออกเสียงก็ไม่เกิน 50% เช่นกัน
เขากล่าวว่า เมื่อแก้ไขคำจำกัดความให้ชัดเจนแล้ว บริษัทที่อยู่ในเมืองไทยมานานก็มีโอกาสผิดกฎหมายในข้อ 1 หรือ 2 วิธีการแก้ไข คือ ถ้าผิดเรื่องการออกเสียง ถ้าเป็นธุรกิจในลิสต์ที่ 3 คือ ธุรกิจบริการทั่วไปให้แจ้งภายใน 1 ปี จากนั้น ก็สามารถทำธุรกิจต่อได้ ถ้าอยู่ในลิสต์ 1 คือ อาชีพสงวนของคนไทย คือ เกษตรกรรม และตัดผม เป็นต้น และลิสต์ที่ 2 คือ อาชีพที่เกี่ยวกับความมั่นคง ให้แจ้งภายใน 1 ปี เมื่อแจ้งแล้ว มีโอกาสปรับแก้ voting right และสัดส่วนการถือหุ้นให้อยู่ใน 50% ภายใน 2 ปี นับจากกฎหมายออกและรวมปีที่แจ้งด้วย ส่วนกรณีของนอมินีหรือรวมแล้วถือเกิน 50% ถ้าเป็นลิสต์ที่ 3 ให้มาแจ้งภายใน 90 วัน จากนั้น ก็ให้เดินธุรกิจต่อโดยไม่ต้องลดหุ้น แต่ถ้าเป็นลิสต์ที่ 1 และ 2 ให้มาแจ้งภายใน 90 วัน จากนั้นต้องทยอยแก้ไข โดยลดจำนวนหุ้นลงให้เหลือภายใน 50%ในเวลา 1 ปี
"กรณีที่ถือหุ้นไม่เกิน 50% ไม่มีนอมินี แต่ผิดที่ออกเสียงเกิน ตรงนี้ เราบอกว่า ถ้าเป็นบริษัทในลิสต์ที่ 3 คือ ธุรกิจบริการทั่วไป บริษัทกลุ่มนี้สามารถมาแจ้งว่า ถือปฏิบัติมานานแล้วใน 1 ปี ถ้าแจ้งในเวลาดังกล่าว เราถือว่าให้ปฏิบัติต่อไปได้ โดยไม่ต้องลดสิทธิการออกเสียงลง ทั้งนี้ ธุรกิจในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ไม่อันตราย เป็นธุรกิจที่รอความพร้อมของคนไทย แต่เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในเมืองไทยนาน ก็แค่มาแจ้งให้เราทราบ ดังนั้น กลุ่มนี้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่กระเทือน แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่เข้ามาใหม่หรือภายหลังกฎหมายอนุมัติต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด"เขากล่าว
เขากล่าวว่า ที่รัฐบาลทำไปทั้งหมด ก็เพื่อให้ธุรกิจต่างชาติที่เคยเข้าลงทุนในไทยนานแล้ว แต่เราไม่เคยใช้กฎหมายบังคับนี้มา ให้เขาสามารถเดินต่อไปได้ และกฎหมายฉบับเคยมีการแก้ไขและมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2542 และเมื่อเป็นกฎหมายแล้วปรากฎว่ามีการใช้คนไทยถือหุ้นแทนหรือเรียกว่านอมินี แต่ไม่มีการร้องเรียน จึงไม่มีการตีความตามกฎหมายว่าใครผิดใครถูก เรื่องก็คาราคาซังเรื่อยมา
นอกจากนี้ หลายบริษัทต่างชาติได้ทำตามคำแนะนำของนักกฎหมาย ซึ่งพยายามทำให้ตัวเองตรงคำในกฎหมาย คือ ถือไม่เกิน 51% แต่ที่จริงก็ยังครอบงำบริษัท โดยทำให้สิทธิการออกเสียงหุ้นไม่เท่ากันหรือ voting right คือ ต่างชาติสามารถออกเสียงได้มากกว่า ทั้งสองอันเป็นเทคนิคในการเลี่ยงกฎหมาย ซึ่งเดิมก็ไม่มีการร้องเรียน จนเกิดกรณีกุหลาบแก้ว ซึ่งมีการร้องเรียนขึ้น ทางกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมธุรกิจการค้าก็พิจารณาตีความและส่งเรื่องให้ตำรวจสอบสวน ทำให้บริษัทจำนวนมากอกสั่นขวัญแขวนว่าจะโดนด้วยหรือเปล่า
"เราได้พิจารณาบรรยากาศการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ จริงอยู่มีกลเม็ดที่ไม่ถูกกฎหมายจริง แต่เราปล่อยมานาน ฉะนั้น จำเป็นต้องรักษาบรรยากาศการลงทุน คือ เขียนกฎหมายให้ชัด และ ถ้าบังเอิญเขาอยู่มานาน ก็ต้องให้โอกาสเขาแก้ตัว ให้เวลาปรับให้เข้ากับกฎหมาย เพื่อบรรยากาศการลงทุนจะได้ไม่เสีย ถ้าไม่ทำและปล่อยไปนักลงใหม่ก็ไม่กล้าเข้ามา ส่วนที่เราคุมในบัญชี 1,2,3 นั้นถือว่า เป็นกลุ่มธุรกิจไม่เยอะเมื่อเทียบกับที่ไม่คุมที่มีเป็นแสนๆบริษัท และที่เราทำก็ถือว่า เป็นหลักสากลที่ต่างประเทศเขาก็ใช้"ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้(10 มกราคม)เวลา 11.00 น.จะชี้แจงถึงรายละเอียดของการแก้ไขพ.ร.บ ดังกล่าวต่อสภาหอการค้าต่างประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เขากล่าวว่า ส่วนกรณีบริษัทกุหลาบแก้วนั้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในบัญญชีที่ 2 ก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย โดยต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นลง ส่วนในแง่การสอบสวนก็ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งเราได้เสนอให้สภาฯได้พิจารณาในกรณีนี้ด้วย สำหรับธุรกิจประกันชีวิต และ สถาบันการเงิน ได้แยกออกมา เพราะถือว่า มีกฎหมายเฉพาะ
ที่มา :
http://www.bangkokbiznews.com
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:04 pm
โดย Nawat
หอการค้าต่างประเทศมองพ.ร.บ.แก้ไขไม่เลวร้าย
9 มกราคม 2550 18:57 น.
นายปีเตอร์ แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าต่างประเทศ (เจเอฟซีซีที) ในไทย ระบุว่า ไม่รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด กับเงื่อนไขสำหรับการให้นักลงทุนต่างประเทศ ปฏิบัติตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่าวด้าวฉบับแก้ไข พร้อมระบุว่า เงื่อนไข และขอบเขตของกฎหมายฉบับแก้ไขนี้ อยู่ในระดับกลางๆ ตามที่เขาคาดการณ์ไว้แล้ว
หอการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับแก้ไขดังกล่าว ไม่ได้แย่อย่างที่ควรจะเป็น เพราะบริษัทในบัญชี 3 สามารถรอดพ้นจากสถานะที่ค่อนข้างอันตรายไปได้ แต่การที่นักลงทุนต่างประเทศมีความไม่มั่นใจมากขึ้น ยังจะส่งผลกระทบในแง่ลบอยู่
นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:07 pm
โดย Nawat
ครม.อนุมติร่างแก้ไขกม.คอนโดฯเปิดต่างชาติถือเกิน49%
9 มกราคม 2550 17:54 น.
ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วานนี้ (9 ม.ค.) เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.อาคารชุด (ฉบับที่...) พ.ศ... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเป็นการแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 ซึ่งได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งมีหลักการและรายละเอียดบางประการไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ กำหนดให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดไม่เกิน 49% ของอัตราส่วนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมครม.มีข้อสังเกตเพิ่มเติมและให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาต่อไป เช่น การกำหนดสัดส่วนของคณะกรรมการควบคุมจัดการนิติบุคคลอาคารชุดที่เป็นสัญชาติไทย โดยในส่วนคณะกรรมการควบคุม ทีมีจำนวน 9 คนนั้น ที่ประชุมครม.มองว่า ควรมีกรรมการที่เป็นคนไทยไม่น้อยกว่า 5 คน และเรื่องสิทธิการเรียกประชุมของเจ้าของร่วม เช่น เจ้าของร่วมควรมีการเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 25%
ที่ประชุมครม.ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในบางพื้นที่ เช่น บางจังหวัดหรือบางโซน ที่มีนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก อาจมีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารชุดจำนวนมาก ซึ่งครม.เสนอว่า ในพื้นที่ดังกล่าวอาจจัดให้มีสัดส่วนของการถือครองโดยชาวต่างชาติ ในสัดส่วนที่เกิน 49% ได้หรือไม่ เช่น อาจให้ให้เป็นเจ้าของได้ 70% เป็นต้น โดยคณะกรรมการกฤษฎีกานำไปพิจารณาทบทวนต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมครม.ได้มีข้อสังเกตให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาเพิ่มเติมในเรื่องการกำหนดสัดส่วนคณะกรรมการควบคุมจัดการนิติบุคคลอาคารชุดที่มีสัญชาติไทย และสิทธิของเจ้าของร่วมในการเรียกประชุม โดยสามารถเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 25% ก็สามารถเรียกประชุมได้
นสพ.กรุงเทพธุรกิจ
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:13 pm
โดย Nawat
รมว.พาณิชย์แจงยิบเหตุแก้ร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเหตุผลการเสนอแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีคนต่างด้าวหลีกเลี่ยงเข้ามาประกอบธุรกิจที่สงวนโดยอาศัยช่องกฎหมาย โดยออกหุ้นบุริมสิทธิให้คนต่างด้าวที่ลงทุนน้อยกว่าคนไทย แต่มีสิทธิออกเสียงมากกว่า และหรือให้คนไทยถือหุ้นแทน
ดังนั้น กระทรวงฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขกม.ดังกล่าว เพื่อให้สามารถกำกับดูแลการประกอบธุรกิจคนต่างด้าวได้อย่างเหมาะสมในขณะเดียวกันไม่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการลงทุนการต่างประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยอมรับว่า กฎหมายเดิมมีช่องว่าง ทำให้มีคนบางจำพวกใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเลี่ยงกฎหมาย จึงต้องแก้ไขกฎหมายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้กฎหมายมีความรัดกุม และมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้มากขึ้น ถือเป็นการล้างไพ่ใหม่หมด แต่การแก้ไขครั้งนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร แต่ถ้าจะมีผลน่าจะเป็นทางดีมากกว่า เพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดความโปร่งใส ส่วนใครจะถอนลงทุนเป็นเรื่องของนักลงทุนที่จะตัดสินใจเอง
สำหรับสาระสำคัญของร่างที่แก้ไขมี 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
1) แก้ไขคำนิยาม "คนต่างด้าว" เดิมพิจารณาความเป็นคนต่างด้าวจากสัดส่วนการถือหุ้น/ลงทุนของคนต่างด้าวเท่านั้น ได้แก้ไขโดยให้พิจารณาจากสิทธิออกเสียงด้วย คือ หากคนต่างด้าวมีสิทธิออกเสียงตั้งแต่กึ่งหนึ่งขึ้นไปของนิติบุคคลนั้นให้ถือว่า นิติบุคคลนั้นเป็นคนต่างด้าว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการออกหุ้นบุริมสิทธิให้คนต่างด้าวที่ลงทุนน้อยกว่าคนไทยมีสิทธิออกเสียงมากกว่าคนไทย
สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้วและได้รับผลกระทบจากการแก้ไขคำนิยามดังกล่าว ทำให้กลายเป็นนิติบุคคลต่างด้าว จะได้รับการผ่อนปรนให้สามารถประกอบธุรกิจนั้นต่อไปได้
โดยธุรกิจตามบัญชี 3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจบริการสามารถประกอบธุรกิจได้ต่อไปจนกว่าจะเลิก ส่วนธุรกิจตามบัญชี 1 และ 2 ซึ่งเป็นธุรกิจที่กระทบต่อความมั่นคง ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อีก 2 ปี เพื่อให้มีเวลาปรับตัว ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทันที
2) แก้ไขบทกำหนดโทษ กรณีที่ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือถือหุ้นแทนซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เพิ่มโทษปรับและปรับรายวันให้สูงขึ้น 5 เท่าจากเดิมปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 1 ล้านบาท เป็น 5 แสนบาทถึง 5 ล้านบาท และเพิ่มโทษปรับรายวันจากวันละ 1-5 หมื่นบาท ส่วนโทษจำคุกให้เป็นไปตามเดิม
แต่จะมีการผ่อนปรนโดยให้ผุ้กระทำความผิดก่อนหน้านี้มีระยะเวลาปรับตัวเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้แจ้งต่อทางราชการภายใน 90 วันและให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายใน 1 ปี
3)ปรับปรุงบัญชีธุรกิจที่ควบคุม โดยยกเลิกธุรกิจที่กฎหมายหรือมีหน่วยงานอื่นดูแลอยู่แล้ว และหน่วยงานดังกล่าวได้ขอให้ก.พาณิชย์ยกเลิกการควบคุมธุรกิจนั้น ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าเฉพาะที่ไม่มีการส่งมอบสินค้า และธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องธุรกิจหลักทรัพย์ อนุพันธ์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องธุรกิจพาณิชย์ ธุรกิจเงินทุน เครดิตฟองซิเอร์ รวมถึงให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เป็นธุรกิจที่ต้องขออนุญาต ทั้งนี้ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่เป็นประเภทอุตสาหกรรม ธุรกิจส่งออก และธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแต่อย่างใด
นสพ.โพสทูเดย์
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 7:16 pm
โดย tachikoma
lekmak333 เขียน:
14000 บริษัท ไม่น้อยเลย
14000 บริษัทนี้จ้างพนักงานไว้กี่คนเหรอครับ
ผมหนาว....
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 10:43 pm
โดย Neocapritermes
นิติบุคคลสัญชาติไทยกับต่างด้าวนี่มีสิทธิประโยชน์ต่างกันยังไงบ้างครับ
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 09, 2007 11:18 pm
โดย ManInBlack
อาจารย์เซนท่านหนึ่งเดินทางไปกับศิษย์สองคน แวะพักร้านน้ำชาเห็นธงสบัดบนยอดเสา
ศิษย์คนแรกว่า : ธงสั่นไหว
ศิษย์คนที่สองว่า : ลมสั่นไหว
อาจารย์ว่า : จิตเธอสั่นไหว
___________________
เอาเชือกมาวางไว้หนึ่งเส้น แล้วถามไอสไตน์ว่า เชือกนี้ยาวหรือสั้น
คำตอบ : มันเป็นสัมพันธภาพ ต้องดูว่าเทียบกับอะไร
___________________
ผู้ที่ผมนับถือเป็นอันดับสองรองจากท่านเจ้าสำนัก Temp'Box คือคุณแมงเม่ามือใหม่แห่งสินธร เคยให้ข้อสรุปที่ผมพยายามจะไม่ลืมว่า
"ราคากำหนดข่าวสาร"
____________________
ถ้าวันนี้ SET บวก 30 จุด port ทุกท่านกำไรขึ้นอีก 5%
คำถาม : ท่านจะแปลข่าวสารการผ่านกฎหมายนอมินี่ วันนี้ว่าอย่างไร ???
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 15, 2009 9:47 pm
โดย miracle
เงียบหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว
เสียดายจัง