Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

jaychou เขียน:เพราะผู้คนจากกรุงเทพ ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางไปสุวรรณภูมิ รวมค่าใช้จ่ายขึ้นเครื่องบินออกต่างจังหวัด หลายๆเส้นทางมันแพงกว่าและช้ากว่ารถทัวร์ครับ

บล.นครหลวงไทย : AOT มูลค่าเหมาะสมที่ 68.55 บาท

              AOT : บอร์ดอนุมติให้สายการบินภายในแบบ Point to Point กลับมาใช้ท่า
อากาศยานดอนเมืองตั้งแต่ 15 มี.ค 49 ข่าวหุ้น)
             ความเห็นนักวิเคราะห์ : การอนุมัติให้สายการบินภายในแบบ Point to Point กลับมา
ใช้สนามบินดอนเมืองได้ถือว่าเป็นไปตามคาดหมายเนื่องจากจะทำให้ลดความแออัดของสนาม
บินสุวรรณภูมิที่ใกล้จะเต็มขีดจำกัดความสามารถที่ 45 ล้านคน/ปี เนื่องจากปัจจุบันในปี 49 มีผู้
โดยสารใช้บริการสนามบินกรุงเทพ(ดอนเมือง+สุวรรณภูมิ)รวมถึง 42 ล้านคน คิดเป็น 93% ของ
ความสามารถรองรับในปัจจุบันของสนามบินแล้ว ขณะที่ จะทำให้ AOT สามารถเลื่อนความจำ
เป็นในการเร่งขยายเฟส 2 ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณสูงถึงประมาณ 48,000 ล้านบาท
ออกไปได้ถึงปี 53 ขณะที่หากเทียบกับสร้าง Low Cost Airline Terminal ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
แล้วยังสามารถเลื่อนการสร้างเฟส 2 ไปได้เพียงถึงปี 51 และหากไม่ทำอะไรเลยจะต้องเริ่มขยาย
เฟส 2 แล้วในปีปัจจุบัน ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่ต่อไปจะมีการเสนอให้มีการย้ายสายการบินแบบ Point
to Point ระหว่างประเทศไปใช้ที่สนามบินดอนเมืองด้วยเช่นกันซึ่งจะทำให้ช่วยความลดความ
แออัดของสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่ง SCIBS คาดว่าหากได้รับการอนุมัติจะเป็นแบบ
วิธีสมัครใจเช่นเดียวกับที่อนุมัติให้สายการบินภายในแบบ Point to Point ครั้งนี้สำหรับการ
พิจารณาย้ายสายการบินภายในแบบ Point to Point หรือส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินของ Low Cost
Airline ไปใช้ดอนเมืองได้แบบสมัครใจในครั้งนี้ เนื่องจากจะเป็นแก้ปัญหาความแออัดของสนาม
บินได้อย่างตรงจุดเนื่องจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้โดยสารส่วนใหญ่มา
จากสายการบิน Low Cost Airline ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนเที่ยวบินคิดเป็น 22% ของเที่ยวบินรวม
และจำนวนผู้โดยสารคิดเป็น 17% ของจำนวนผู้โดยสารรวม
             SCIBS ยังยืนยันว่าการย้ายสายการบิน Point to Point หรือ Low Cost Airline กลับ
ไปดอนเมืองน่าจะเป็นผลดีต่อ AOT โดยคาดว่าการเริ่มใช้สนามบินดอนเมืองได้ตั้งแต่เดือนมี.ค
50 จะทำให้สนามบินดอนเมืองมีผลการดำเนินงานคุ้มทุนในปี 50 ขณะที่ ปัจจุบันยังคงประมาณ
การกำไรปกติ AOT ในปี 50 ไว้คงเดิมที่ 2,255 ล้านบาท ลดลง 64%yoy เนื่องจากโครงการอื่น
ที่คาดว่าดำเนินการที่สนามบินดอนเมืองก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปจากการเริ่มกลับมาใช้สนามบิน
ของ Low Cost Airline แทน อย่างไรก็ตาม ความสามารถในเชิงการสร้างรายได้ของสนามบินที่
แน่นอนของทางเลือกนี้น่าจะทำให้ AOT มีความมั่นคงทางด้านรายได้ที่จะได้รับมากกว่าทาง
เลือกอื่น
              คำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน : SCIBS ยังคงการประเมินมูลค่าเหมาะสมของ AOT ไว้
ที่ 68.55 บาท ซึ่งในปัจจุบันราคาหุ้นมี upside อยู่ที่ 22% ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานใน Q1/50
คาดว่าจะออกมายังไม่ดี แต่ตั้งแต่ Q2/50 เป็นต้นไปน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากประเด็นหลัก คือ การ
ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินซึ่งเริ่มในเดือนก.พ 50 และในเดือนเม.ย 50 จะมีการปรับ
ขึ้นค่าธรรมเนียมการขึ้นลงจอดสนามบินต่อ ทั้งนี้ ทั้ง 2 ส่วนเป็นสัดส่วนรายได้หลักอยู่ราว 60%
              มุมมองทางเทคนิค : แนวโน้มจะดีดตัวในลักษณะ v shape โดยยังเคลื่อนตัวใต้ค่า
เฉลี่ย 25 วัน แนะนำ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นและขายแนวต้าน แนวรับ 55.5 บาท แนวต้าน 57.5 บาท

บล.ธนชาต : AOT แนะนำขาย Target price 57 บาท

          เมื่อวานนี้ AOT ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับแผนการ
ย้ายเที่ยวบินบางส่วนไปที่สนามบินดอนเมือง โดยแผนดังกล่าวจะทำการย้ายเที่ยวบินทั้งในและ
ต่างประเทศที่เป็น point-to-point flights ไปยังสนามบินดอนเมือง ขณะที่ connected
flights ยังคงอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ  
            แผนดังกล่าวนี้จะช่วยลดความคับคั่งของจำนวนผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ และทำ
ให้แผนการก่อสร้าง low cost terminal มูลค่า 1.3 พันล้านบาท เลื่อนออกไป ยิ่งกว่านั้นจะเป็น
การเพิ่มประสิทธิภาพของสายการบินต้นทุนต่ำ เนื่องจาก ระยะเวลาที่ใช้ในการหมุนเวียนของ
เครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองต่ำกว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ
             แต่ข่าวร้ายคือ การใช้ทั้งสองสนามบินในการดำเนินงาน จะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนิน
งานให้แก่ AOT โดยไม่สร้างรายได้เพิ่ม เช่น ปัจจุบัน AOT มีจำนวนพนักงาน 100 คน/ตร.ม.
ของพื้นที่ terminal ถ้าไม่มีการสร้างรายได้เพิ่มเลย จะพบว่า การใช้ 1 terminal ที่สนามบิน
ดอนเมืองจะต้องมีจำนวนพนักงานเพิ่ม ซึ่งค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น 300 ล้านบาท/ปี หรือ 7% ของ
operating cash costs ในปี FY06 ยิ่งกว่านั้น การย้ายเที่ยวบินดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความ
สับสนแก่ผู้โดยสารว่าจะต้องเดินทางไปสนามบินไหน
          ถึงแม้ว่าเราเชื่อว่าสนามบินเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำในระยะยาว และราคาหุ้นใน
ปัจจุบันก็ซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่เราให้ไว้ แต่เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายปัจจัยที่
ยังส่งผลกระทบด้านลบต่อบริษัทฯ และยังกดดันราคาหุ้นในปีนี้ เช่น 1) ผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้นใน
1QFY07 เนื่องจาก ค่าเสื่อมและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการย้ายสนามบินใหม่, 2) ค่าใช้
จ่ายในการซ่อมบำรุงที่สูงขึ้น เนื่องจาก การก่อสร้างสนามบินที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และ
3) แนวโน้มนักท่องเที่ยวที่ลดลง เนื่องจาก ผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดในช่วงปีใหม่ ดังนั้น
เรายังคงแนะนำ “ขาย”      
            เทคนิค: ระยะสั้นจะเป็นการซิกค่อยซิกแซกขึ้น ซื้ออ่อนตัวดัดดีดกลับช่วงสั้น แนวรับ
55-54.50 แนวต้าน 57-57.50 , 58

jaychou เขียน:ไม่แน่ใจว่ามีใครโพสต์ในกระทู้ไหนหรือยัง

อย่าเพิ่งพูดว่า transit จะมีปัญหาเลยครับ ไม่ได้บอกว่า domestic จะต้องย้ายกลับมาทั้ง 100% นี่นา ตื่นตกใจกันไปหรือเปล่า สายการบินในประเทศก็ยังสามารถลงที่สุวรรณภูมิได้นี่ครับ ถ้าไม่มีปัญหาจริงๆก็คงไม่มีใครอยากย้ายหรอก

สายการบิน low cost ที่ย้ายไปสุวรรณภูมิทั้งหมด ไม่แน่ใจว่าขาดทุนจนเจ๊งไปบ้างหรือยัง เพราะผู้คนจากกรุงเทพ ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางไปสุวรรณภูมิ รวมค่าใช้จ่ายขึ้นเครื่องบินออกต่างจังหวัด หลายๆเส้นทางมันแพงกว่าและช้ากว่ารถทัวร์ครับ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อๆไป ใครจะไปขึ้นเครื่องบินล่ะ ผลลัพธ์ก็คือ เจ๊ง อย่างไม่ต้องสงสัย ถ้านึกไม่ออกก็ลองนั่งแท๊กซี่จากสีลมไปสุวรรณภูมิ เทียบกับนั่งแท๊กซี่จากสีลมไปดอนเมืองครับ

โอ  นโยบายที่กลับไปกลับมา  ความแน่นอนและความมั่นคงไม่มีเลยตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา