Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมมี รพ หลายตัว แต่มี tnh มากที่สุด เหตุผลที่ชอบ tnh ก็คือ

มีผู้ถือหุ้นเป็นกลุ่ม landmark ซึ่งหวังว่าจะมีส่วนช่วยในการที่จะพัฒนาการบริการ  การขยายสาขา  การดึงลูกค้าต่างประเทศ การหาหุ้นส่วนที่เป็นต่างประเทศโดยเฉพาะตะวันออกกลาง และอื่นๆ ลองคิดๆดูนะครับ

การที่ยังใช้พื้นที่ไม่เต็มที่ไม่เหมือน ntv

location ของรพ อยู่ในที่ที่กำลังเติบโต

ที่ไม่ชอบคือ
การบริหารดูเหมือนยังไม่เป็นมืออาชีพเท่าไร  แต่หวังว่าคงจะค่อยๆพัฒนา
สถานที่ตั้งเช่าเขามา มีความเสี่ยง  คงเช่าต่อได้แต่จะถูกหรือแพง
ไปทีไรหาที่จอดรถง่ายเกินไป

ตอนนี้ผมมีหุ้น ร.พ. ตัวเดียวครับ
ผมมี NTV ตั้งแต่ 80 กว่าและทยอยซื้อเรื่อยๆ

คงต้องติดตาม ความคืบหน้าในการชำระค่าที่ดินงวดที่เหลือ
และการสร้าง ร.พ. แห่งใหม่ครับ สำหรับหุ้นตัวนี้

NTV
AHC

โดยเฉพาะ NTV กลางปีก่อน 70 บาทเอง

juntuma เขียน:หุ้นพีอียี่สิบยังมีคนซื้อ
แล้วบอกว่าตัวเองเป็นวีไอ

เป็น VI ห้ามซื้อหุ้น PE 20 ???
Warren ซื้อ coca-cola PE 22 งั้นคงไม่ใช่ VI แล้ว

juntuma เขียน:เอาเปรียบสังคมหรือเปล่าไม่สน
ขอฉันได้ส่วนต่างราคาเท่านั้นเอง

ใครเอาเปรียบใคร
ลองอ่านที่ผม post ดู
หมายเหตุ: ผมอยู่รพ.รัฐนะ เดี๋ยวจะหาว่าผมแก้ต่าง

juntuma เขียน:หุ้นอื่นมีเยอะแยะ  พีอีดีกว่า  ปันผลดีกว่าไม่เล่น

หึๆ แล้วแต่มุมมองแล้วกัน
แต่ถ้าคิดว่า PE ต่ำ ปันผลสูง "เท่านั้น" ถึงจะเป็น VI
ผมก็ no comment
ปล.ผมก็ไม่ได้มีหุ้นที่ PE 20 นะ

EPS Growth (CAGR) ของ NTV
จากปี 2002 - 2006 อยู่ในระดับสูงถึง 30.1%
เมื่อเทียบกับ P/E ที่ระดับ 14.76 (as of Feb 2, 2006)
ทำให้มี PEG ประมาณ 0.5 เท่า เท่านั้นเอง
ซึ่งเป็นหุ้นที่ถูกที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่ม ร.พ.
เมื่อเทียบกับ Growth

นอกจากนี้ยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้เป็นอันดับต้นๆของกลุ่ม
NTV เป็น ร.พ. ที่เน้นศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง
จึงทำให้ NPM ปรับตัวดีขึ้นมากในปี 2006

อย่างไรก็ตาม Growth ที่ผ่านมาในอดีตไม่ได้บอกถึง Growth ในอนาคต
Growth ของ NTV นั้น จึงต้องฝากไว้กับความสำเร็จของ ร.พ. แห่งใหม่
ที่คาดว่าจะสร้างได้ภายในปีนี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า
ซึ่งต้องติดตามต่อไป ...

ข้อมูลตรงไหนผิดพลาด แย้งได้เลยนะครับ

naris เขียน:NTV TNH แพงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ราคาเหมาะสมNTVร้อยเดียวขาดตัว

ราคาเหมาะสมTNH7บาทก็แล้วกัน

จะได้ซื้อเพิ่มอีก

ปล.มีทั้งสองตัวนะครับ ทุบหุ้นตัวเองนี่ไม่ผิดใช่ไหมครับ  :lol:

ใครว่าราคาเหมาะสมของ TNH 7 บาทพี่ สูงป๊าย ต้องลงต่ำกว่านั้นดิ :lol:

สำหรับ AHC นั้น
อัตราส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ROA, NPM
อยู่ในอันดับต้นๆ ของกลุ่ม ร.พ.
แต่ P/E ต่ำ เนื่องจากการเติบโตของรายได้และกำไร
อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ร.พ.
ไม่ได้โตหวือหวาเหมือน ร.พ. อื่น

อย่างไรก็ตาม การเข้า Acquisition รพ. อีสเทิร์นซีบอร์ด
และเปลี่ยนมาเป็นเอกชล 2 สามารถเพิ่ม Capacity
และเป็นตัวแปรสำคัญที่จะรักษาการเติบโตของกำไรในอนาคตได้เป็นอย่างดี
แต่ในระยะสั้นจะมี Operating cost และดอกเบี้ยที่ต้องชำระ
รวมทั้งค่าเสื่อมราคาที่ต้องบันทึก ซึ่งจะเป็นตัวกดดัน EPS
แต่ผมเชื่อว่าน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เปิดให้บริการไปสักพัก
และมีผู้มาใช้บริการเอกชล 2 เพิ่มขึ้น

ผมคิดว่าเป็นหุ้นที่มี Downside Risk ต่ำ
สำหรับผู้ที่พอใจผลตอบแทนในระดับ 10 - 15% ต่อปี
ในกรณีที่ถือลงทุนระยะยาว น่าจะทำได้ไม่ยากนัก

อย่างไรก็ตาม อาจจะมีลุ้นผลตอบแทนที่สูงกว่านั้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของ เอกชล 2

เปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่างครับ
โดยเฉพาะ ท่านที่เคยไปใช้บริการ AHC มาแล้ว
เป็นอย่างไรบ้าง มาเล่าสู่กันฟังได้ที่ร้อยคนร้อยหุ้น

ผมรอดูอีก1ไตรมาทครับ ยังไม่น่าจะคุ้มทุนเร็วขนาดนี้

สำหรับ TNH นั้น มีประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจดังนี้

1. สถานที่ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนที่กำลังโต จากสนามบินสุวรรณภูมิ
(มองเป็นความเสี่ยงได้เช่นเดียวกัน)
2. จดทะเบียนใน mai จึงเสียภาษีเพียง 20%
3. Capicity Utilization ในปัจจุบันไม่ถึง 50%
จึงสามารถรองรับการเติบโตไปได้อย่างน้อยๆอีก 3 ปี
โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มในแง่การขยายสาขา เช่น AHC, NTV
4. เปิดศูนย์เฉพาะทางด้านหัวใจและกระดูก
5. วาง position ตัวเองเป็นโรงพยาบาลระดับบน
และมีเป้าหมายในการเพิ่มผู้ป่วยต่างชาติให้มากขึ้น
6. เป็น ร.พ. ที่มี EPS Growth โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆของกลุ่ม ตั้งแต่เข้าตลาด

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมมีการวิเคราะห์ไว้ในร้อยคนร้อยหุ้นอย่างค่อนข้างละเอียดแล้วครับ
มีทั้งพี่หมอศรราม พี่นริศ คุณ woody และอีกหลายๆท่านมาร่วมกันให้ข้อมูล
สมาชิกเต็มห้องคึกคักไม่แพ้ราคาหุ้น ...  

แหะ ๆ ntv ลงมาต่ำกว่า100 จะเตรียมทัพพีมาช้อนครับ

naris เขียน:ผมรอดูอีก1ไตรมาทครับ ยังไม่น่าจะคุ้มทุนเร็วขนาดนี้

พี่นริศมองว่าเมื่อไร รพ เอกชล 2 น่าจะถึงจุดคุ้มทุนครับ??

เท่าที่ผมฟังนโยบายมา การถึงจุดคุ้มทุนของ รพ เอกชล 2 ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากการดันลูกค้าประกันสังคมของ รพ เอกชล 1 ออกไปก่อน ดังนั้นการถึงจุดคุ้มทุนของ รพ เอกชล 2 อาจจแลกมาด้วยผลกำไรของ รพ เอกชล 1 ที่ลดลงด้วย หรือเปล่าครับ ???

ขอบคุณครับ  :D

[quote="โอ@"][quote="naris"]NTV TNH แพงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ราคาเหมาะสมNTVร้อยเดียวขาดตัว

ราคาเหมาะสมTNH7บาทก็แล้วกัน

จะได้ซื้อเพิ่มอีก

ปล.มีทั้งสองตัวนะครับ ทุบหุ้นตัวเองนี่ไม่ผิดใช่ไหมครับ

metro เขียน:

พี่นริศมองว่าเมื่อไร รพ เอกชล 2 น่าจะถึงจุดคุ้มทุนครับ??

เท่าที่ผมฟังนโยบายมา การถึงจุดคุ้มทุนของ รพ เอกชล 2 ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากการดันลูกค้าประกันสังคมของ รพ เอกชล 1 ออกไปก่อน ดังนั้นการถึงจุดคุ้มทุนของ รพ เอกชล 2 อาจจแลกมาด้วยผลกำไรของ รพ เอกชล 1 ที่ลดลงด้วย หรือเปล่าครับ ???

ขอบคุณครับ

[quote="juntuma"]หุ้นพีอียี่สิบยังมีคนซื้อ
แล้วบอกว่าตัวเองเป็นวีไอ
เอาเปรียบสังคมหรือเปล่าไม่สน
ขอฉันได้ส่วนต่างราคาเท่านั้นเอง
หุ้นอื่นมีเยอะแยะ

naris เขียน:NTV TNH แพงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ราคาเหมาะสมNTVร้อยเดียวขาดตัว

ราคาเหมาะสมTNH7บาทก็แล้วกัน

จะได้ซื้อเพิ่มอีก

ปล.มีทั้งสองตัวนะครับ ทุบหุ้นตัวเองนี่ไม่ผิดใช่ไหมครับ  :lol:

NTV 100 พอน่าสน
แต่ TNH ผมขอ 30 หุ้น 100 แทนนะครับ :lol:

NTV : ประมาณ g 10,5,3% (ปี 50,51,52) แบบอนุรักษ์ครับ ได้มูลค่าประมาณ 100 บาท/หุ้น ซึ่งงบ Q1/50 ผมว่าได้ตามเป้านะ แต่เห็นผู้บริหารคาดว่าน่าจะได้ 20 % (เพราะว่าเปิด OPD ชั้น 5 + NTV 2 OPD กลางปี 50 ก่อน แล้งเป็นรพ.เต็มตัวในปี 52)  ผมขอส่ง NTV ประกวดครับ

เห็นคุยเรื่องโรงพยาบาลกัน  เลยขอร่วมวงคุยด้วยหน่อยนะครับ

ผมอ่านนิตยสารผู้จัดการรายเดือน ฉบับเดือนมิถุนายน 50

มีบทความหนึ่งชื่อว่า  The Heart by Siriraj

เนื้อหาได้กล่าวถึง  บริการใหม่ของโรงพยาบาลศิริราช

เป็นคอนเซ็ปต์การตกแต่งและบริการรูปแบบ Home Hospital  ที่นำมาประยุกต์ใช้กับศูนย์ตรวจรักษาโรคหัวใจ

มีการตกแต่งศูนย์แห่งใหม่นี้ให้ดูหรูหราไม่แพ้โรงพยาบาลเอกชน  รวมทั้งยังเพิ่มขีดบริการบางอย่างเพื่อเทียบเท่าเอกชน  เช่น  ความรวดเร็วและความเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด

ที่สำคัญ  หากเป็นโรงพยาบาลเอกชน  ราคาอาจสูงเกือบ 20,000 บาทต่อค่าห้องหนึ่งคืน  แต่ที่นี่ตั้งราคาไว้เพียง 9,000 บาท

เมื่อโรงพยาบาลของรัฐ  ที่มีชื่อเสียงทางด้านแพทย์  มีการปรับปรุงให้บริการในอีกระดับหนึ่ง  โรงพยาบาลเอกชนก็ได้รับผลกระทบไหมครับ

ปล.  เห็นข่าว SVH  จะขยายคลีนิคไปทั่วประเทศกว่า 2000 แห่ง  คงคิดคล้าย 7-11 หรือเปล่าเนี่ย

[quote="chatchai"]เห็นคุยเรื่องโรงพยาบาลกัน

ผมเห็นหนังสือพิมพ์ลงหางานพวกแพทย์มาหลายอาทิตย์แล้วน๊า่
ยังไม่เอาออกเลย ไม่รู้ว่าหาแพทย์ได้กันหรือยัง
ดูท่าทางโรงพยาบาลเล็กๆจะมีปัญหาในการหาแพทย์เหมือนกันนะครับ

โอ@ เขียน:ผมเห็นหนังสือพิมพ์ลงหางานพวกแพทย์มาหลายอาทิตย์แล้วน๊า่
ยังไม่เอาออกเลย ไม่รู้ว่าหาแพทย์ได้กันหรือยัง
ดูท่าทางโรงพยาบาลเล็กๆจะมีปัญหาในการหาแพทย์เหมือนกันนะครับ

มันมีมาตั้งนานแล้วเหมือนกันนะครับน้องโอ@ ไม่ทราบว่าได้เปิดฉบับเดียวกันหรือเปล่า พี่อ่านมติชนนี่มีประจำ

ในส่วนของ SVH ได้ลองเปิด Clinic สาขาแรกที่ Central รัตนาธิเบตร์ครับ. เดินหาต้องนาน ตอนแรกนึกว่าอยู่ในตัวห้าง แต่มาเจอ Clinic อยู่ตรงตึกแถวข้างนอกห้าง เท่าที่ดูไม่ค่อยมีคนเลยครับ อาจเป็นเพราะเพิ่งเปิดด้วยมั้ง คงต้องลองดูไปสักระยะว่าได้รับการตอบรับขนาดไหนครับ

โรงพยาบาลเกรด A อยู่ดีดีจะไปเล่นตลาด Mass เปิดปูพรม
เขาคิดอะไรของเขาเนี่ย ใช้ Brand โรงพยาบาลกรุงเทพยังดีซะกว่าอีก

ต้องใช้งบเท่าไหร่ สร้างให้คนรับรู้ว่า คลีนิก SVH ราคาไม่แพง
พอสร้างให้เขารับรู้ ต้องมาสร้างความแตกต่างอีกว่า แต่ SVH สาขาใหญ่ เกรด A นะ
น่าสับสนจริงๆ

การดูแต่ upside โดยไม่ดูความเสี่ยงประกอบ เป็นกับดักที่น่ากลัวสำหรับนักลงทุนทุกคน นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ให้ความสำคัญกับ upside (growth, margin of safety, etc.) มากไปกว่า downside เลย

ดังนั้น ควรถามด้วยว่า "4. รพ.ไหน ความเสี่ยงในระยะ 5 ปีต่ำที่สุด"

ถ้ารวมคำถามนี้เข้าไปแล้ว คำตอบน่าจะเป็น BH กระมัง

mambo เขียน:การดูแต่ upside โดยไม่ดูความเสี่ยงประกอบ เป็นกับดักที่น่ากลัวสำหรับนักลงทุนทุกคน นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ให้ความสำคัญกับ upside (growth, margin of safety, etc.) มากไปกว่า downside เลย

ดังนั้น ควรถามด้วยว่า "4. รพ.ไหน ความเสี่ยงในระยะ 5 ปีต่ำที่สุด"

ถ้ารวมคำถามนี้เข้าไปแล้ว คำตอบน่าจะเป็น BH กระมัง

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ต้องดูความเสี่ยงประกอบด้วย แต่ความเสี่ยงแต่ละอย่างแต่ละคนก็รับได้ไม่เหมือนกันนะครับ....

เรื่องการรับสมัครแพทย์ของโรงพยาบาลเล็กๆ

ผมว่าเมืองไทยผลิตหมอทุกๆปีออกมาเยอะนะ แต่เก่ง ดี ใจรักงานนี้ จะมีสักกี่คน

ผมเห็นเยอะทีเดียวที่พอโดนไปฝึกหัดไกลๆ รีบใช้เส้นขอย้ายเข้ากรุง และพอจบ ก็รีบจ่ายเงินไม่ทำงานใช้ทุน มาเปิดคลีนิกเก็บค่ารักษาแพงๆ

ผมว่าหมอที่เป็นหมอจริงๆคงมีน้อยครับ

ขอบคุณมากครับ

BHT เขียน:เรื่องการรับสมัครแพทย์ของโรงพยาบาลเล็กๆ

ผมว่าเมืองไทยผลิตหมอทุกๆปีออกมาเยอะนะ แต่เก่ง ดี ใจรักงานนี้ จะมีสักกี่คน

ผมเห็นเยอะทีเดียวที่พอโดนไปฝึกหัดไกลๆ รีบใช้เส้นขอย้ายเข้ากรุง และพอจบ ก็รีบจ่ายเงินไม่ทำงานใช้ทุน มาเปิดคลีนิกเก็บค่ารักษาแพงๆ

ผมว่าหมอที่เป็นหมอจริงๆคงมีน้อยครับ

เคยคุยกับรุ่นน้องที่เป็นหมอเห็นว่าต่อไป หมอ อาจจะต้องใช้ทุนมากกว่านานกว่าตอนนี้นะครับ เหมือนจะเป็น 12 ปี แล้วก็ตอนนี้ มีโครงการ รับหมอเพิ่มเยอะขึ้นมากครับ เหมือนมีโครงการ หมอ Mega Project ด้วย ก็คงช่วยได้มากครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2227 17 มิ.ย. - 20 มิ.ย. 2550
 
การเมืองพ่นพิษ กลุ่มรพ.กรุงเทพ ปรับรายได้ใหม่  

กลุ่ม ร.พ.กรุงเทพ ยอมรับสถานการณ์วุ่นวายทางการเมือง ฉุดรายได้ของ ร.พ.ลดลง ประกาศปรับตัวเลขรายได้ใหม่เหลือ 20 % จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 25 % พร้อมชะลอทุกโครงการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้


นายวัลลภ อธิคมประภา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การแพทย์กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ปรับเป้ารายได้ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ว่า จะมีอัตราการเติบโตในปีนี้ที่ 25 % ให้เหลือ 20 % ทั้งนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์เหตุความวุ่นวายทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง และส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยรวม รวมถึงธุรกิจในกลุ่มการแพทย์ด้วย โดยตัวเลขรายได้ครึ่งปีแรกของกลุ่มขณะนี้อยู่ที่18 % ต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้


นอกจากนี้กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ยังได้ทบทวนโครงการลงทุนต่างๆภายในประเทศของโรงพยาบาล ซึ่งตั้งงบประมาณไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 1,000 ล้าน โดยขณะนี้มีโครงการที่ชะลอการลงทุนออกไปแล้ว อาทิ โครงการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ และอาคารจอดรถ ของโรงพยาบาลกรุงเพทภูเก็ต โครงการปรับปรุงอาคารหลังเก่าของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาเป็นต้น อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลยังมีงบประมาณอีกส่วนหนึ่ง ในการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาล ที่มีศักยภาพคุ้มค่าต่อการลงทุน ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มกำลังศึกษาอยู่


"เราจะชะลอการลงทุนในโครงการที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไปก่อน โดยเราตั้งเป้าลงทุนในประเทศปีนี้ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ ถือว่ามีความเสี่ยง ดังนั้น อาจต้องมีการชะลอโครงการลงทุนลงบ้าง หรือทำเท่าที่จำเป็น โดยโครงการที่ชะลอการลงทุนแล้ว อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จากเดิมจะมีการก่อสร้างตึกใหม่เพิ่มอีกหนึ่งตึก ก็ปรับมาเป็นการขยายอาคารเดิมแทน รวมถึงชะลอการก่อสร้างที่จอดรถด้วย ขณะที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้ชะลอการปรับปรุงอาคารหลังเก่าออกไปก่อน โดยการลงทุนทั้งหมดในปีนี้จะเน้นไปที่สิ่งจำเป็น และสร้างรายได้เท่านั้น"


กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวต่อว่า ในส่วนการลงทุนต่างประเทศ ขณะนี้ ได้มีการระงับโครงการลงทุนที่จีนออกไปก่อน เนื่องจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้ใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนประมาณหมื่นล้านบาทแล้ว ในการซื้อโรงพยาบาล และปรับปรุงโรงพยาบาล ขยายเตียง รวมถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ในเมืองไทย


อย่างไรก็ตามในส่วนโครงการที่ยังเดินหน้าต่อคือการลงทุนในตลาดตะวันออกกลาง โดยโรงพยาบาลกรุงเทพได้ร่วมลงทุนกับนักธุรกิจที่ อบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรต ในการเปิดโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง ซึ่งจะเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการรักษาโรคทั่วไป โดยโรงพยาบาลกรุงเทพถือหุ้น 30 % หรือคิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในกลางปีหน้า นอกจากนี้โรงพยาบาลยังสนใจเข้าไปลงทุนโรงพยาบาลในประเทศซาอุดิอารเบีย และเมืองดูไบด้วย

ข่าวนี้เป็นข่าวที่เป็นข้อมูลให้กับ VI ที่ชอบลงทุนในกลุ่ม ร.พ.ได้ระวังไว้หน่อยค่ะ  เพราะตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศไม่ดี  จะส่งผลให้ลูกค้า ร.พ.เอกชนลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลาง อาจจะเลือก ร.พ.รัฐ คลินิค หรือซื้อยากินเองแทนไป ร.พ.เอกชน  อยากให้ระวังว่า ธุรกิจ ร.พ.อาจจะซ้ำรอยเดิม คือล้มละลาย  เนื่องจากมี fixed cost สูง  ลงทุนสูง

ตอนนี้ ร.พ.เอกชน 2 แห่งในจังหวัด(ขอสงวนนามจังหวัด) กำลังประสบภาวะนี้อยู่ค่ะ  ซึ่งทั้ง 2 แห่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์  โดย ร.พ.แห่งหนึ่งปิดให้บริการผู้ป่วยในทั้ง floor แล้ว ส่วนอีก ร.พ.หนึ่งอาจจะต้องปิดกิจการ หรือล้มละลายค่ะ  ในขณะที่ ร.พ.ของรัฐฯ ผู้ป่วยมากขึ้นมากค่ะ  

จึงอยากเตือนให้ระวัง ๆ กันหน่อยค่ะ  เพราะผลประกอบการที่ผ่านมาของ ร.พ.แต่ละแห่งก็สะท้อนภาวะนี้ให้เห็นกันแล้ว