หน้า 2 จากทั้งหมด 4
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 12:26 pm
โดย akekarat
จะว่าไปก็ต้องบอกว่า จำนวนหุ้นจะถูก dilite ทุกปี ปีละ 240,000 หุ้นครับ ถ้าโครงการนี้ผ่าน
แต่ที่สำคัญคือ มันแปลก ๆ นะ ที่อยู่ ๆ ผู้บริหารสูงสุด จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาที่ใหญ่ที่สุด หลังจาก ESOP ใช้สิทธิเสร็จเรียบร้อยแล้ว
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 12:32 pm
โดย tatandchin
akekarat เขียน:ตัวเลขอาจจะคลาดเคลื่อนนะครับ เพราะผมพิมพ์ไปคิดไป ไม่ได้เตรียมการอย่างละเอียดอะไร
ถ้า ESOP ครั้งนี้ กระจายแก่ทุกฝ่ายอย่างทั่วถึง ไม่ใช่ได้กันอยู่แค่สองคน ส่วนตัวผมก็คงยอมรับได้
เห็นด้วยคับว่าไม่ควรให้กันแค่ 2 คนเช่นนี้ คับ ถ้าจะให้ก็ควรให้ให้ทั่วถึงตามสัดส่วนที่เหมาะสมคับถึงจะ fair
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 1:04 pm
โดย CK
ผมคิดว่า การออกอีสปที่ยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่สุด
คือการตั้งงบสำหรับโบนัสผู้บริหารที่จะได้อีสป
เช่น 12 ล้านบาท
แล้วเอาเงินกำไรสะสม ไปซื้อหุ้นคืน
แล้วเอาหุ้นที่ซื้อคืนได้ ไปให้ผู้บริหารที่ได้อีสป
ให้ฟรีก็ได้ครับ
แต่ควรเป็น performance-based stock option plan
เช่น ผูกกับ FCF ที่บริษัททำได้ในแต่ละปี
ถ้า FCF ลดลงหรือเท่าเดิม ก็ไม่ได้ ESOP
แต่ถ้า FCF เพิ่ม 5% ก็ได้ 50% ของ plan
ถ้าเพิม 10% หรือมากกว่า ก็ได้เต็ม 100%
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 1:04 pm
โดย akekarat
ถ้าผมได้ไปประชุมผู้ถือหุ้น ผมคงมีคำถามเรื่องนี้ซัก 3 ข้อ
1. พนักงานที่เหลือกว่า 200 คน มีความเห็นอย่างไรกับ ESOP ครั้งนี้
2. ESOP ครั้งนี้ จะช่วยให้องค์กร มี Productivity และ Motivation เพิ่มขึ้น เพื่อการเจริญเติบโตและความแข็งแกร่งแก่บริษัท และผลประโยชน์ผู้ถือหุ้นอย่างไร
3. ผู้ได้รับผลประโยชน์ทั้งสองท่าน มีความเห็นว่า ESOP ครั้งนี้ สมเหตุสมผลหรือไม่
การที่ผู้บริหาร ไม่มีส่วนได้เสียเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ก็มีข้อเสียตรงที่จะไม่เข้าใจมุมมองและไม่เห็นแก่ผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นในฐานะเจ้าของบริษัท แต่ในทางกลับกัน การที่ ผู้บริหารกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (เกือบที่สุด) ก็อาจส่งผลเสียในด้านการแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัท และด้านธรรมมาภิบาลได้เช่นกัน ดังที่เกิดกับหุ้นบางตัวเมื่อไม่นานมานี้
สรุป ยังไงผมก็ไม่เห็นด้วยกับ ESOP ครั้งนี้
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 3:23 pm
โดย 007-s
akekarat เขียน:
แต่ที่สำคัญคือ มันแปลก ๆ นะ ที่อยู่ ๆ ผู้บริหารสูงสุด จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาที่ใหญ่ที่สุด หลังจาก ESOP ใช้สิทธิเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อืมม ใช่
แปลความยังไงได้เนี่ย
หรือ บริษัทขาดผู้บริหารท่านนี้ไม่ได้แน่ๆ สำคัญมาก ถ้าแกไม่อยู่บริษัทคงกระเทือนหนัก
หรือเปล่าหว่า :roll: :?: :roll:
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 3:45 pm
โดย thawattt
คุณ 007-s
แปลความยังไงได้เนี่ย
หรือ บริษัทขาดผู้บริหารท่านนี้ไม่ได้แน่ๆ สำคัญมาก ถ้าแกไม่อยู่บริษัทคงกระเทือนหนัก
หรือเปล่าหว่า
เที่ยวไปวิเคราะห์ Swot ตัวอื่น ๆ ตั้งนาน ลืมนึกถึงประเด็นนี้ที่คุณ 007-s พูดถึงจริง ๆ แหะ หรือความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของบริษัทนี้ อยู่ที่กรรมการผู้จัดการ และรองกรรมการผู้จัดการรึเปล่าครับ น่าสนใจครับ แบบนี้ต้องร้องเพลงว่า ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึกครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 3:52 pm
โดย thawattt
คุณ CK
ผมคิดว่า การออกอีสปที่ยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่สุด
คือการตั้งงบสำหรับโบนัสผู้บริหารที่จะได้อีสป
เช่น 12 ล้านบาท
แล้วเอาเงินกำไรสะสม ไปซื้อหุ้นคืน
แล้วเอาหุ้นที่ซื้อคืนได้ ไปให้ผู้บริหารที่ได้อีสป
ให้ฟรีก็ได้ครับ
แต่ควรเป็น performance-based stock option plan
เช่น ผูกกับ FCF ที่บริษัททำได้ในแต่ละปี
ถ้า FCF ลดลงหรือเท่าเดิม ก็ไม่ได้ ESOP
แต่ถ้า FCF เพิ่ม 5% ก็ได้ 50% ของ plan
ถ้าเพิม 10% หรือมากกว่า ก็ได้เต็ม 100%
เห็นด้วยครับว่า ESOP ควรเป็น performance-based stock option plan
ว่าแต่ว่า คุณ CK พอทราบไหมครับว่ามีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ใดที่ให้แบบนี้บางครั้ง ที่ผูกติดเงื่อนไขนี้ครับ น่าสนใจศึกษาว่า เมื่อทำแล้ว ช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มกับผู้ถือหุ้นหรือไม่ มีบริษัทใดที่ใช้แล้วได้ผลและไม่ได้ผลอย่างไรครับ :D
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 3:53 pm
โดย 007-s
นั่นสิคะ เพราะจำนวนหุ้นที่ให้ ทั้งสองท่านนี้ เป็นจำนวนที่เยอะถ้าวัดเทียบรายบุคคล
ดิฉันเข้าใจว่าก่อนจะออกนโยบายนี้ออกมา เขาย่อมต้องตกลงกะหุ้นใหญ่เดิม เรียบร้อยแล้ว มันก็น่าจะผ่านแน่นอนล่ะ มตินี้
คงไม่ต้องเสียเวลาไปคัดค้านอะไร
(อันนี้เดาประกอบจาก ช่วงก่อนหน้า ที่เกิดแรงขายเยอะติดๆกันหลายวัน ที่เรารายกระจ้อยร่อย ให้ข้อสังเกตุไว้ ในร้อยคนร้อยหุ้น)
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 4:02 pm
โดย akekarat
007-s เขียน:นั่นสิคะ เพราะจำนวนหุ้นที่ให้ ทั้งสองท่านนี้ เป็นจำนวนที่เยอะถ้าวัดเทียบรายบุคคล
ดิฉันเข้าใจว่าก่อนจะออกนโยบายนี้ออกมา เขาย่อมต้องตกลงกะหุ้นใหญ่เดิม เรียบร้อยแล้ว มันก็น่าจะผ่านแน่นอนล่ะ มตินี้
คงไม่ต้องเสียเวลาไปคัดค้านอะไร
(อันนี้เดาประกอบจาก ช่วงก่อนหน้า ที่เกิดแรงขายเยอะติดๆกันหลายวัน ที่เรารายกระจ้อยร่อย ให้ข้อสังเกตุไว้ ในร้อยคนร้อยหุ้น)
จริงอยู่ที่ต้องใช้เสียงมากถึง 10% หรือ 1.785 ล้านหุ้นเพื่อคัดค้านการออก ESOP
แต่ว่าถ้ามีคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมรวมกันมากกว่า 5% สามารถคัดค้านเป็นการให้สิทธิรายบุคคล ที่มากกว่า 5% ของ ESOP ได้ครับ
ก็ประมาณ 892,500 หุ้น ไม่น่าจะมากเกินไปครับ
แต่ในความเป็นจริงอีกครั้ง เรื่องนี้คงเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่แล้ว ผมก็ไม่แน่ใจว่าการเทขายออกมาเมื่อเดือนก่อนเป็นผลมาจากเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า แต่ขนาดประธานกรรมการที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ WG ด้วยห้าแสนกว่าหุ้น เป็นประธานกรรมการออก ESOP ซะเอง มตินี้ก็คงผ่านแหละครับ ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะทำอะไรได้?
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 4:06 pm
โดย chatchai
[quote="ต.หยวนเปียว"]คุณฉัตรชัยยังไม่ได้ไปเกาะเสม็ดหรือครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 4:12 pm
โดย ต.หยวนเปียว
[quote="chatchai"][quote="ต.หยวนเปียว"]คุณฉัตรชัยยังไม่ได้ไปเกาะเสม็ดหรือครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 4:14 pm
โดย ต.หยวนเปียว
แหะๆ ขออภัยครับเพื่อนๆ
อ่านWG เพลินๆ
ไปชวนคุณฉัตรชัยคุยเรื่องลูก ในกระทู้นี้ :lol:
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 10:47 pm
โดย เพื่อน
[quote="คลายเครียด"]คงไม่ใช่นิทานอีสปเรื่อง ม้าอารี นะครับ
:lol:
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 10:49 pm
โดย BenjaMinburee
เคยอ่านพ่อรวย เงินสี่ด้าน แล้วกล่าวถึงมุมมองที่แตกต่างระหว่างกรรมการและผู้ถือหุ้น ได้สัมผัสกันก็ครานี้
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าในเอกสารการประชุม ที่มากับรายงานของปีที่แล้ว คือในการประชุมประจำปี 47 มีผู้ถือหุ้นเสนอถึงการซื้อหุ้นคืนแต่ถูกกรรมการปฏิเสธนี่ครับว่าไม่มีนโยบายซื้อหุ้นคืนจะมีประโยชน์กับ บ.
แต่ผมคิดว่าถ้าปีไหนบ.กำไรดีขึ้นใช้วิธีเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้บริหารและพนักงานเป็นเงินตามผลงานแล้วให้พวกผู้บริหารและพนักงานมาซื้อหุ้นในตลาดน่าจะบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 28, 2007 11:09 pm
โดย Mr. Boo
ไปซื้อมา๑๐๐หุ้น ร่วมแจมด้วย
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 12:04 am
โดย ปุย
เพื่อน เขียน:
ผมว่าการออก อีสปครั้งนี้ เป็นการสร้างความแตกแยกภายในองค์กรเค้าเองมากกว่าครับ
ผมก็ขอค้านอีกคนครับ
เห็นด้วยกับความคิดว่าน่าจะกระจายหุ้นอีสปให้กว้างกว่านี้ และตั้งราคาใช้สิทธิมีส่วนลดจากราคาปัจจุบันเล็กน้อยก็พอ อาจจะเพิ่มจำนวนอีสปก็ยังได้ถ้าตั้งราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบันด้วยซ้ำ
....
ถ้าเราค้านวิธีการ ให้เค้าเพิ่มจำนวนอีสปได้ แต่ต้องตั้งราคาใช้สิทธิใกล้เคียงราคาตลาดหรือสูงกว่า จะเป็นไปได้มั้ยครับ
ผมเห็นคล้าย กับ พี่เพื่อนนะครับ ไม่รู้ผู้บริหารคนอื่น จะคิดยังไง
เท่าที่ผมดูรายชื่อ ก็มีอีก 4-5 ท่าน ที่ทำงานมาเป็น 10 ปีแล้ว
อย่างนี้ มันเหมือนให้รางวัล ผู้บริหารแค่ 2 คน จากผลงานในอดีตมากกว่า
และไม่ทราบว่า โครงการ ESOP นี้ จะมีอีกหรือเปล่าครับ (อย่างน้อยภายใน 5 ปีนี้) เพราะเห็นระบุว่า ครั้งนี้ ครั้งที่ 1 และยังมีหุ้นเหลืออีก 12.15 ล้านหุ้น
ถ้าผมเป็นกรรมการโครงการนี้ ผมจะเสนอว่า
จะมีโครงการ ESOP 5 ครั้ง ปีละครั้ง ครั้งละ 240,000 หน่วย (ทั้งหมด 1.2 ล้านหน่วย)
ครั้งแรก ปี 50 ให้ 2 ท่าน ท่านแรก 200,000 ท่านที่สอง 40,000
ครั้งที่ 2-5 จะประกาศ จัดสรรแต่ละคราวไป
น่าจะเรียกขวัญ กำลังใจของผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นได้มากกว่านี้ :!:
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 12:35 am
โดย chatchai
พี่เพื่อนครับ กรณีที่จะให้ราคาแปลงสภาพสูงใกล้เคียงตลาด โดยเพิ่มจำนวนหุ้นให้ชดเชยแทนนั้น
ผมว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็คือว่า เวลาแปลงสภาพ คือ
1. ผู้บริหารก็จำเป็นต้องใช้เงินสดมาแปลงสภาพจำนวนมาก
2. อีกทั้งจำนวนหุ้นก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก ผลกระทบต่อ EPS ก็จะมากขึ้น
3. เงินสดที่บริษัทได้รับจากการแปลงสภาพก็ไม่มีความจำเป็นของบริษัทครับ
เรื่องการจัดสรรให้แก่กรรมการแค่ 2 ท่านนั้น ผมก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับเพื่อนๆหลายท่านว่า ควรที่จะจัดสรรให้แก่พนักงานระดับบริหารในระดับล่างลงไปด้วย (หรือว่าท่านอื่นไม่อยากรับเป็น ESOP อยากรับเป็นเงินสด)
หวังว่าประชุมผู้ถือหุ้นปีนี้ น่าจะคึกคักมากที่สุดนะครับ ช่วยๆกันไปประชุมมากๆ และซักถามกันเยอะๆครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 12:41 am
โดย Kao
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ อ.นิเวศน์ และท่านอื่นๆอีกหลายคน ที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการออกESOPครั้งนี้ครับ เลยอยากจะออกเสียงคัดค้านหรือแก้ไขเงื่อนไขบางอย่างเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นมากขึ้นครับ
ขณะนี้รวมรวบหุ้นได้219,000หุ้น
หากพี่ฉัตรชัยร่วมด้วยก็รวมเป็น 624,100หุ้น (3.6%ของหุ้นที่ออก)
ยังขาดอีกแค่ 1,100,900หุ้น :lol: ก็จะมีสิทธิคัดค้านได้ครับ
พี่ฉัตรชัยและท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไรครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 12:49 am
โดย Kao
อีกประเด็นหนึ่ง เรื่องภาษีเงินได้ครับ
สมมติว่าช่วงที่ผู้บริหารใช้สิทธิแปลงสภาพ ราคาตลาด45บาท ราคาใช้สิทธิ10บาท ส่วนต่าง35บาท จะถือเป็นเงินได้ด้วยครับ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ผู้บริหารที่ใช้สิทธิจำเป็นต้องขายหุ้นเพื่อนำเงินมาจ่ายภาษี ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นลดลงได้ครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 5:52 am
โดย jaychou
ปีนี้เป็นที่บริษัททั้งหลาย "หิวเงิน" จริงๆครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 8:34 am
โดย Viewtiful Investor
อีก 24,200 หุ้น จากผมด้วยครับ แจกให้แค่ 2 คน ผมไม่ยอมครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 8:48 am
โดย สุมาอี้
อยากให้อีสปเป็นแบบกระจายทั่วถึงใช่มั้ยครับ เอาแบบ SF ดีมั้ยครับ ให้กรรมการทั้งชุดรวมทั้งกรรมการตรวจสอบด้วย งงจริงๆ :shock:
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 9:02 am
โดย tt
ใกล้ๆ XD,XM จะมีการแย่งหุ้นกัน เพื่อเสียงโหวดมั๊ยนี่เพราะผมว่าจำนวนหุ้นใน web นี้น่าจะเกินล้านหุ้น ถึงผมจะไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็รู้สึกว่าเรามาทีหลังมาขอร่วมส่วนแบ่งเขา เขาทำของเขามาตั้งนานแล้ว ก็เลยยังงงๆว่าจะยังไงดี
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 10:43 am
โดย zen
อยากได้กี่หุ้น ไปเหมาเอาเลยครับ ในตลาด
วันนี้ 44.50 บาท เองครับ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 11:00 am
โดย 007-s
tt เขียน:ใกล้ๆ XD,XM จะมีการแย่งหุ้นกัน เพื่อเสียงโหวดมั๊ยนี่เพราะผมว่าจำนวนหุ้นใน web นี้น่าจะเกินล้านหุ้น ถึงผมจะไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็รู้สึกว่าเรามาทีหลังมาขอร่วมส่วนแบ่งเขา เขาทำของเขามาตั้งนานแล้ว ก็เลยยังงงๆว่าจะยังไงดี
ถ้าคิดว่าผู้ถือหุ้นเหมือนมาทีหลัง มาขอส่วนแบ่งอะไรเนี่ย จะเข้าตลาดทุนทำไมคะ
ไม่เห็นด้วยค่ะ
ถ้าคิดเอาแต่ว่า นี่คือบริษัทของผู้บริหาร ก็ให้เอาบริษัทออกจากตลาดไปค่ะ
สำหรับจะใครแย่งหุ้นมั้ย ไม่ต้องแย่งค่ะ
ดิฉันโยนซ้ายให้เลย แต่โดยดี ไม่สู้ค่ะ ขอหมอบ
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 11:02 am
โดย akekarat
tt เขียน:ใกล้ๆ XD,XM จะมีการแย่งหุ้นกัน เพื่อเสียงโหวดมั๊ยนี่เพราะผมว่าจำนวนหุ้นใน web นี้น่าจะเกินล้านหุ้น ถึงผมจะไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็รู้สึกว่าเรามาทีหลังมาขอร่วมส่วนแบ่งเขา เขาทำของเขามาตั้งนานแล้ว ก็เลยยังงงๆว่าจะยังไงดี
Tender Offer ออกไปสิครับ ถ้างั้น เพราะบริษัทที่ทำอะไรไม่คำนึงถึงผู้ถือหุ้นส่วนรวม คงไม่เหมาะกับคำว่า "มหาชน"
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 11:06 am
โดย Reminiscence of 3 Dogs
แรงทิ้งซ้ายเจ๊007ทำเอาหุ้นเป๋ :P
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 11:47 am
โดย smart_investor
เพื่อน
จำได้ว่าสมัย Ticon เค้าให้ราคาใช้สิทธิอีสปไว้สูงกว่าราคาตลาดช่วงนั้นอีก ปรากฎว่าผู้ลงทุนกลับมีความรู้สึกมั่นใจว่าผู้บริหารต้องสร้างผลกำไรได้สูงจนราคาหุ้นขึ้นไปได้สูงกว่าราคาตลาดขณะนั้นอีก แล้วก็เป็นจริง ได้ประโยชน์ทั้งผู้บริหารและผู้ถือหุ้นด้วย
เห็นด้วยกับคุณเพื่อนครับว่า ESOP ที่ดีควรจะให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดเพื่อเป็นการจูงใจผู้บริหารและพนักงานให้ตั้งใจทำผลงานให้ดี
แต่แปลกดีครับ ผมกลับไม่ค่อยเห็นบริษัทในประเทศไทยทำแบบนั้น ส่วนใหญ่ออก ESOP แต่ละครั้ง ทำอย่างกับ Grand Sales แน่ะเรียกได้ว่าลด แลก แจก แถมทีเดียว อย่างกรณีนี้ก็ให้ส่วนลดถึงเจ็ดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์จากราคาตลาดทีเดียว
แต่ก็อย่างว่าครับ ขืนให้ราคาใช้สิทธิสูงกว่าราคาตลาดก็อาจทำให้ผู้บริหารสนใจแต่เรื่องการสร้างราคาหุ้นแทนการพัฒนาบริษัทก็ได้
สำหรับกรณี WG หากไม่เห็นด้วย เราคงต้องรวมพลังผู้ถือหุ้นครับ ผมคิดว่าอย่างน้อยๆ ก็น่าจะได้เกิน 5% นะ เพื่อให้ทางบริษัทเข้าใจความรู้สึกของผู้ถือหุ้นอย่างพวกเรา
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 12:17 pm
โดย akekarat
ผมมองว่าผลประกอบการต่อจากนี้ของ WG คงจะแสดงผลกำไรได้มากขึ้นกว่าปีผ่าน ๆ มามาก เนื่องจากหลาย ๆ เหตุผลตามนี้
1. การเปลี่ยนผู้บริหารหลักของแอมคอร์ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านที่ดีขึ้น
2. กองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ลงไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว จะเริ่มได้ดอกเบี้ยระดับ MLR
3. ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเงินตอบแทนพนักงานจนเกษียณ (ดูจากงบปี 49) ทำให้รายจ่ายหลาย ๆ อย่าง จะไม่ปรากฏในปี 50 และต่อ ๆ ไปอีก
เมื่อมีโอกาสที่ผลประกอบการจะดีขึ้นแบบกระโดดช่วงกว่าปีที่ผ่านมา และการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็หมดไปแล้ว ต่อไปคงไม่สามารถแสดงผลกำไรได้ต่ำกว่าความเป็นจริงอีกต่อไป เลยถึงเวลาที่จะต้อง ESOP หรือเปล่าครับ?
อีกเรื่องหนึ่ง เหตุผลที่บริษัทคงเพิ่มทุนแทนที่จะซื้อหุ้นคืนจากตลาด เป็นเพราะว่า การเพิ่มทุน จะส่งผลเสียเฉพาะต่อผู้ถือหุ้นโดยตรง ไม่กระทบการบริหารจัดการในบริษัท และในมุมมองของบริษัทและผู้บริหาร การเพิ่มทุน ก็จะได้เงินสดเข้ามาในบริษัท
ถ้าซื้อหุ้นคืน
1. บริษัทสูญเสียเงินสดในบริษัทไปในการซื้อหุ้น
2. เสี่ยงต่อการได้หุ้นในราคาที่สูงเกินความเหมาะสม
ถ้าเพิ่มทุน
1. บริษัทได้เงินสดจากเงินเพิ่มทุน
2. ผลกระทบต่อราคาหุ้น และโดยเฉพาะเงินปันผล จะส่งผลต่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่กระทบกับบริษัท เพราะบริษัทยังคงนโยบายปันผลเท่าเดิม แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือ จำนวนปันผลต่อหุ้นเท่านั้น ซึ่งผู้ถือหุ้นรับเต็ม ๆ
เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ๆ ครับ แต่รับได้ไม่ค่อยง่าย
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2007 12:21 pm
โดย ลูกอิสาน
ผู้ถือหุ้นหลายท่านอาจจะไม่พอใจในการออกอีสป
และนำประเด็นนี้ตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น
แต่หุ้นจะดีหรือไม่ดี ถือหรือไม่ถือ อย่าลืมดูประเด็นอื่นๆประกอบด้วยนะครับ
ถ้าเป็นไปตามที่คุณเอกรัตน์โพสต์ไว้ คือถ้ามีการให้อีสปเกิน 5% ต่อหนึ่งคน จะต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านเกิน 890,000 หุ้น ซึ่งเป็นไปได้มากที่จะคัดค้านได้ครับถ้า..
1.ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เช่น ดร.นิเวศน์ พี่ฉัตรชัย โหวตคัดค้าน แต่เรื่องอย่างนี้ต้องเคารพการตัดสินใจของแต่ละท่านนะครับ เพราะบางครั้งหากเราถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็น wealth หลัก มุมมองหลายด้านอาจจะคิดไม่เหมือนกับผู้ที่ถือหุ้นน้อยๆครับ ผมเคยเจอคนที่ถือหุ้นใหญ่ thip โหวตตรงข้ามกับรายย่อย
2.ผู้ถือหุ้นพยายามไปประชุมกันมากๆ
3.ผู้ถือหุ้นที่ไปประชุมไม่ได้ ทำเรื่องมองฉันทะให้ผู้ที่ไปประชุมเพื่อคัดค้าน ประเด็นนี้ต้องมีคนอาสาเป็นตัวกลางรับมอบฉันทะจากเพื่อนๆครับ