Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

[quote="ลูกอิสาน"]

อีกประเด็นที่สงสัย ทำให้ผมยังยื่นคืนภาษียังไม่ได้ คือผมสมรสแล้ว และช่องภรรยามีให้เลือก

-มีเงินได้แยกคำนวณภาษี
-มีเงินได้แยกยื่นแบบ

ไม่ทราบว่าต่างกันอย่างไร เพราะปีนี้ผมตั้งใจจะแยกยื่นภาษีกับภรรยาเลยเลือกแบบ 2 ปรากฏว่าพอจะกรอกเงินปันผลของภรรยา โปรแกรมไม่ยอมให้กรอกครับ

เลยเปลี่ยนใหม่เลือกแบบแรก ปรากฎว่าใส่เงินปันผลของภรรยาได้ สรุปภาษีก็ไม่มีปัญหา แต่พอ submit โปรแกรมบอกว่าให้กรอกเงินได้40(1) ที่เป็นเงินเดือนของภรรยาด้วย

ลูกอิสาน เขียน:ปีนี้มีให้กรอกหมายเลขประจำตัวของผู้จ่ายเงินได้(บริษัทที่จ่ายเงินปันผล) ด้วย

ถ้าเรามีรายได้จากหลายบริษัทไม่รู้ทำไง เพราะมีช่องให้กรอกช่องเดียว ผมไปอ่านเจอจากคุณ alastor ให้กรอกหลายเลขบริษัทที่จ่ายปันผลให้เรามากที่สุด ก็เลยทำกรอกไปตามนั้นครับ

Confirmed ครับ

ลูกอิสาน เขียน: อีกประเด็นที่สงสัย ทำให้ผมยังยื่นคืนภาษียังไม่ได้ คือผมสมรสแล้ว และช่องภรรยามีให้เลือก

-มีเงินได้แยกคำนวณภาษี
-มีเงินได้แยกยื่นแบบ

ไม่ทราบว่าต่างกันอย่างไร เพราะปีนี้ผมตั้งใจจะแยกยื่นภาษีกับภรรยาเลยเลือกแบบ 2 ปรากฏว่าพอจะกรอกเงินปันผลของภรรยา โปรแกรมไม่ยอมให้กรอกครับ

เลยเปลี่ยนใหม่เลือกแบบแรก ปรากฎว่าใส่เงินปันผลของภรรยาได้ สรุปภาษีก็ไม่มีปัญหา แต่พอ submit โปรแกรมบอกว่าให้กรอกเงินได้40(1) ที่เป็นเงินเดือนของภรรยาด้วย

จากที่อ่านมาของพี่ๆ ที่กล่าวว่าหากรายได้เกิน 4 ล้าน ไม่ควรยื่นเงินปันผลเป็นรายได้ ผมเลยลองทำตารางเพื่อพิจารณาดูครับ

ตารางนี้ใช้ได้บนเงื่อนไข :
1.ทุกคนยื่นภาษีจากเงินได้ประเภทที่ 1 แล้วหัก ค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนเรียบร้อยแล้ว >>> ทำให้ทราบว่า ตนเองมีฐานภาษีระดับใด
2.เงินปันผลจากตาราง เป็นรายได้พึงประเมินสุทธิเรียบร้อยแล้ว (ปราศจาก ค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน เพราะ ข้อ 1.ใช้ไปแล้ว)
3.บริษัทในตลาดจ่ายภาษี 15 20 25 30 50 % ครับ



จากตาราง ใช้งานดังนี้
โดยสมมุติว่าได้รับเงินปันผลมา 100 บาท จาก 1 บริษัท

1.ฐานภาษี 10% ได้รับเงินปันผลจากบริษัทที่เสียภาษี 15% ขึ้นไปนั้น จะได้ประโยชน์จากเครดิตเงินปันผล สามารถขอคืนภาษีได้
เช่น
-รับเงินปันผล 100 บาท จากบริษัทที่เสียภาษี 15% จะขอคืนภาษีได้ 15.89 บาท
-รับเงินปันผล 100 บาท จากบริษัทที่เสียภาษี 20% จะขอคืนภาษีได้ 22.50 บาท
-รับเงินปันผล 100 บาท จากบริษัทที่เสียภาษี 25% จะขอคืนภาษีได้ 30 บาท
-รับเงินปันผล 100 บาท จากบริษัทที่เสียภาษี 30% จะขอคืนภาษีได้ 38.57 บาท
-รับเงินปันผล 100 บาท จากบริษัทที่เสียภาษี 50% จะขอคืนภาษีได้ 90 บาท

2.ฐานภาษี 37% สำหรับผู้มีเงินได้พึงประเมินสุทธิเกิน 4 ล้านบาท ได้รับเงินปันผลจากบริษัทที่เสียภาษี 30%  แม้จะนำเงินปันผล 100 บาทนี้ ไปยื่นรวมเป็นเงินได้ ก็จะไม่ต้องเยภาษีเพิ่มเติม
แต่รับเงินปันผลจากบริษัทที่เสียภาษีน้อยกว่า 30% จะต้องเสียภาษีเพิ่มเติม
ซึ่งไม่เกิดประโยชน์จากเครดิตเงินปันผลนั่นเอง

3.สรุปคือฐานภาษี 10% และ 20% ได้ประโยชน์จากเครดิตเงินปันผลครับ ควรยื่นขอคืนภาษีจากเงินปันผลนี้

4.สรุปคือฐานภาษี 30% ได้ประโยชน์จากเครดิตเงินปันผลครับ เฉพาะบริษัทที่เสียภาษีตั้งแต่ 25% ขึ้นไป ควรยื่นขอคืนภาษีจากเงินปันผลนี้

5.สรุปคือฐานภาษี 37% ได้ประโยชน์จากเครดิตเงินปันผลครับ เฉพาะบริษัทที่เสียภาษี 50% เท่านั้น จึงควรยื่นขอคืนภาษีจากเงินปันผลนี้

ทำให้ผมเข้าใจเรื่องเครดิตเงินปันผลมากขึ้น ขอบคุณพี่ๆครับ

ในชีวิตจริง คงได้รับเงินปันผลจากหลายบริษัทที่จ่ายภาษีต่างอัตราภาษีกัน
ต้องคำนวณผลประโยชน์จริงๆก่อนที่จะยื่นนะครับ ว่ายื่นไปจะคุ้มมั้ย หรือต้องจ่ายเพิ่ม
(โดยเฉพาะเงินปันผลประเภทยกเว้น (ที่ไม่ใช่ BOI) หากยื่นไป อาจทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มเติม สำหรับฐานภาษี 20% ขึ้นไป)

ส่วนผมอยู่ในช่องสีชมพู (ไปอีกนาน) ได้ประโยชน์จากเครดิตเงินปันผลอย่างสบายใจครับ

หวังว่าคงประโยชน์สำหรับผู้จะใช้ประโยชน์จากเครดิตเงินปันผลนะครับ

ขอบคุณมากครับ

MCOT กับ SSC เครดิตภาษีได้เท่าไหร่เหรอครับ รบกวนช่วยบอกได้ไหมครับ

ตรงนี้เราต้องใส่อย่างไรครับ



ขอบคุณครับ

maqwid เขียน:ตรงนี้เราต้องใส่อย่างไรครับ



ขอบคุณครับ

กรณีผู้จ่ายเงินได้เป็นนิติบุคคล ให้กรอกในคอลัมม์ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
โดยดูได้จากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
หากมีผู้จ่ายเงินได้มากกว่า1ราย ให้กรอกรายที่จ่ายให้เรามากที่สุด

Kao เขียน: กรณีผู้จ่ายเงินได้เป็นนิติบุคคล ให้กรอกในคอลัมม์ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
โดยดูได้จากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
หากมีผู้จ่ายเงินได้มากกว่า1ราย ให้กรอกรายที่จ่ายให้เรามากที่สุด

ขอบคุณครับ ยื่นภาษีแล้ว

ขอบคุณน้อง Kao มากครับ
วันนี้ผมโทรไป call center ตามเบอร์โทรที่ให้มา
สรุปได้ว่าเป็นอย่างนี้ครับ..

-กรณีเรามีคู่สมรสที่มีเงินได้และเลือกแยกคำนวณภาษี หมายความว่าสามี-ภรรยายื่นภาษีในคราวเดียวกัน แต่โปรแกรมจะแยกคำนวณภาษีให้ ดังนั้นจะมี 2 คอลัมคือผู้มีเงินได้ และคู่สมรส และเราต้องกรอกเงินได้ให้ครบทุกประเภทที่มีทั้งสามี-ภรรยา

-ส่วนกรณีเรามีคู่สมรสที่มีเงินได้และเลือกแยกยื่นแบบ หมายความว่าสามียื่นภาษีแล้ว ภรรยาต้องยื่นภาษีแยกต่างหาก (ส่วนใหญ่เป็นภงด91 อาจจะมีส่วนน้อยที่สามารถยื่น ภงด90) และเงินได้ภรรยาของภรรยาที่ไม่ใช่40(1) ให้นำมากรอกรวมในคอลัมสามีทั้งหมด เช่นเงินปันผล

สรุปว่าตอนนี้ผมยื่นได้แล้วครับ แบบแยกยื่นภาษี เพราะยังไม่ได้หนังสือหักภาษีณ.ที่จ่ายของภรรยา

ที่มีมาใหม่ในโปรแกรมปีนี้ นอกเหนือจากที่ให้กรอกหมายเลขประจำตัวผู้จ่ายเงินได้แล้ว อีกอย่างคือเงินปันผลที่เครดิตภาษีไม่ได้ มีช่องให้กรอกแล้วนะครับ ไม่ต้องไปใส่ใน ช่องเงินปันผลจากกองทุนรวม ฯ แล้วครับ



ขอบคุณคุณ Toy_ noy มากครับ
ดูง่ายและชัดเจนดีครับ

v_sukit เขียน:

ปันผลจากกองทุนรวม และ ดอกเบี้ยเงินฝาก แบ่งเป็น

kt2498 เขียน:

ปันผลจากกองทุนรวม และ ดอกเบี้ยเงินฝาก แบ่งเป็น

ทีแรกผมก็เข้าใจเหมือนกันกับคุณ KAO แต่พอดีไปค้นในห้องสินธร ที่พันทิพ เกี่ยวกับเครดิตภาษี  
    สรุปว่า รายการที่เครดิตภาษีไม่ได้ (2.1-2.5) เราสามารถเลือกได้ว่าไม่ต้องนำมารวมเป็นเงินได้เพื่อคำนวณภาษี ตามข้อมูลจากห้องสินธร และแนววินิจฉัยของสรรพากร (Link แนบท้าย)
*******************************************
ข้อสงสัย
สอบถามเพิ่มเติมครับว่า ในการคำนวณภาษีเงินได้ แล้วเราต้องนำเงินปันผลของบางบริษัทที่ไม่สามารถเครดิตภาษีได้ หรือ บริษัทเดียวกันแต่มีการจ่ายปันผล แยกเป็น
2.1 กำไรจาก BOI    แต่ไม่ถูกหัก ณ ที่จ่าย 10 %
2.2 กำไรเฉพาะส่วนที่ได้รับยกเว้น  แต่ถูกหัก ณ ที่จ่าย 10 %
2.3 กำไรที่รับรู้ทางบัญชี ตามวิธีส่วนได้เสีย (ซึ่งปัจจุบันจะไม่มีแล้วเพราะให้รวบเป็นงบเดียว ตามมาตรฐานใหม่) แต่ถูกหัก ณ ที่จ่าย 10 %
2.4 กำไรที่มาจากผลขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปี แต่ถูกหัก ณ ที่จ่าย 10%
2.5 ไม่มีกำไรที่ต้องเสียภาษี (งงมาก กับปันผล KTB ปีที่แล้ว) แต่ถูกหัก ณ ที่จ่าย 10 % เช่นกัน

     โดยต้องรวมทุกรายการทั้งหมด ไม่ว่าจะเครดิตได้หรือไม่ก็ตาม หรือว่าให้รวมทุกรายการที่สามารถเครดิตภาษีได้ ไม่ว่าจะอัตรา 30, 25, 20, 12.5%
     ที่สงสัยมากเพราะผมเองเคยยื่นแบบภงด.90 โดยรวมทุกรายการทั้งหมดมาแล้ว ซึ่งสรรพากรก็ OK แต่ก็มีเพื่อนร่วมงานยื่นแบบเฉพาะรายการที่เครดิตภาษีได้ ซึ่งสรรพากรก็ OK เช่นเดียวกัน ก็เลยงงๆๆๆๆๆ ค. 50 11:42:28 ]

คำตอบ
อ้อ...ตอนเครดิตภาษี พวกเงินปันผลที่ไม่มีสิทธิ์เครดิตภาษี(เช่นได้ BOI, ได้สิทธิพิเศษตามกฏระเบียบเฉพาะกาล ฯลฯ) อย่านำมารวมเป็นรายได้นะครับ  ไม่งั้นเงินเครดิตภาษีจะหายไปเยอะครับ เป็นสิทธิของผู้มีรายได้ที่จะนำเงินปันผลที่ไม่มีสิทธิ์เครดิตภาษีมารวมเป็นรายได้หรือไม่ก็ได้  มีการฟ้องร้องกันในเรื่องนี้มาแล้วและมีคำตัดสินออกมาแล้วเป็นแนวทางดังที่ผมว่าไว้
แต่ถ้าเห็นใจรัฐบาลว่ากำลังถังแตกต้องการช่วยอุดหนุน จะนำปันผลดังกล่าวมารวมเป็นรายได้ก็ทำได้ เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของท่าน ไม่ว่ากันครับ

คุณ . (ฆ้องชัย)  มีคำตัดสินที่ว่ามั้ยครับ
สรรพากรเขตที่ผมยื่น คนที่ตรวจสอบให้บอกว่า ต้องนำมาคำนวนทั้งหมดครับ

คุณ pongto คห.9....มีครับ เป็นคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.189/2545 เลขที่หนังสือ กค. 0706/4507  วันที่ 10 พฤษภาคม 2547  

ผมมีก๊อปปี้อยู่ ถ้าต้องการให้บอกเบอร์แฟกซ์หรือที่อยู่มาจะส่งไปให้  หรือ ให้ไปขอดูที่สรรพากรเขตเลย เขาต้องมีแน่นอน....สรรพากรเขตไหนหรือครับที่บอกให้คุณเอาไปรวมคำนวณ?  

ผมเจอปัญหานี้มาเหมือนกัน สรรพากรเขตxx....จัดการแก้แบบที่ผมยื่นไปให้เสร็จเลย เอาปันผลที่ว่ามารวมคำนวณให้เรียบร้อยโดยผมมิได้ร้องขอ  เงินเครดิตภาษีผมหายไปเป็นแสน เล่นเอามึนไปเลย

ผมไม่แน่ใจว่าการกระทำของสรรพากรเขตxx ถูกต้องหรือไม่?  จึงไปสอบถามผู้รู้และค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อความกระจ่าง แล้วกลับไปถกกับเจ้าหน้าที่สรรพากรเขตxx ด้วยเหตุผลและหลักฐาน  จนในที่สุดเจ้าหน้าที่นั้นยอมรับว่าผมถูกต้อง เขาเข้าใจผิดไปเอง จึงแก้ไขให้เรื่องถูกต้องตามความเป็นจริง

ผมก็อภัยให้เขาไม่เอาเรื่อง คิดว่าเขาคงเข้าใจผิดจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาที่ทุจริตต่อหน้าที่ ของมันผิดพลาดกันได้ครับ

จากคุณ : . (ฆ้องชัย)  - [ 4 พ.ค. 50 22:10:22 ]

ส่งไปให้แล้วนะครับ อธิบายเพิ่มเติม.....
ตัวอย่างเช่น.
หนังสือรับรองจ่ายเงินปันผล SCC จะมีถึง 3 รายการในแผ่นเดียวกัน คือ

เงินปันผลได้รับเครดิตภาษี
1) ภาษีนิติบุคคล 30%        ปันผล   20,500 บาท
2) ภาษีนิติบุคคล 25%        ปันผล     1,025 บาท
เงินปันผลไม่ได้รับเครดิตภาษี
3) กำไรสุทธิส่วนที่ได้หักผลขาดทุนฯ  ปันผล 9225 บาท
  ( ยกเว้นภาษีนิติบุคคล )  
หมายเหตุ...เงินปันผลทั้ง 3 รายการถูกหักภาษีรายได้ ณ ที่จ่าย 10%

คำอธิบาย......
1) ถ้าต้องการเครดิตภาษี ต้องนำรายการ 1และ2 มาคำนวณทั้งคู่จะเลือกรายการเดียวไม่ได้...(บางคนต้องการจะเลือกรายการเดียวเพราะอยู่ตรงใกล้เขตเส้นแบ่งอัตราภาษีรายได้พอดี...ไม่อนุญาตให้ทำได้)
2) รายการที่ 3 จะนำมารวมคำนวนหรือไม่ก็ได้ เป็นสิทธิของผู้ยื่นแบบจะเลือกเอาเอง

ได้รับแล้วครับ ขอบคุณครับ
ปีหน้าผมน่าจะได้เครดิตภาษีเพิ่มขึ้น แต่ปีนี้คงแล้วกันไปละกันครับ ยกประโยชน์ให้สรรพากรไป
ผมใช้เลขที่หนังสือsearch ในweb ของกรมสรรพากร หาหนังสือฉบับนี้ไม่เจอเลยครับ
จากคุณ : pongto   - [ 7 พ.ค. 50 11:31:49 ]

ผมเจอแล้วครับ ไม่ใช่ฉบับนี้ แต่น่าจะแทนกันได้
http://www.rd.go.th/publish/11162.0.html
http://www.rd.go.th/publish/31010.0.html
***************************************

สงสัยเกี่ยวกับ LTF ขอคำแนะนำด้วยครับ
สมมติ ปี 2550 เงินได้ 1 ล้านบาท ผมมีสิทธิซื้อ LTF ได้ไม่เกิน 15% คือ 150,000 ฿ แต่ผมซื้อไป 200,000 ฿ แต่การขาย LTF เป็น First In First Out
แล้วส่วนที่เกินสิทธิลดหย่อน 50,000 ฿ ผมสามารถขายในปี 2551 ได้เลยมั๊ยครับ ?
ขอบคุณครับ

ศุภาลัย เขียน:ผมเจอแล้วครับ ไม่ใช่ฉบับนี้ แต่น่าจะแทนกันได้
http://www.rd.go.th/publish/11162.0.html
http://www.rd.go.th/publish/31010.0.html
***************************************

ขอบคุณมากครับ ผมก็เข้าใจผิดอยู่นาน
อย่างนี้เราก็ไม่ควรนำไปรวมนะครับ เว้นแต่เรามีเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ก็ต้องขอคืนภาษีหักณ.ที่จ่าย

เลขที่หนังสือ
: กค 0706/1926


วันที่
: 7 มีนาคม 2549


เรื่อง
: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณียื่นแบบแสดงรายการ (ภ.ง.ด.90)

ข้อกฎหมาย
: มาตรา 40(4)(ข) มาตรา 47 ทวิ มาตรา 48(3) และมาตรา 50(2)(จ) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อหารือ
:          ขอทราบวิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งเงินปันผลที่ได้รับเครดิตภาษีและเงินปันผลที่ไม่ได้รับเครดิตภาษี นั้น

แนววินิจฉัย
:           1. กรณีบุคคลธรรมดาได้รับเงินปันผล ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยจากผู้จ่ายหลายราย ซึ่งเป็นเงินปันผลที่ได้รับเครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีในอัตราร้อยละ 10.0 ของเงินได้ โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่นก็ได้ ตามมาตรา 48(3) วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีเลือกนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น ผู้มีเงินได้จะได้รับเครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และในกรณีที่ได้รับเงินปันผลที่ได้รับเครคิตภาษีจากผู้จ่ายหลายราย ผู้มีเงินได้จะต้องนำเงินได้ดังกล่าวที่ได้รับในปีภาษีทุกรายมารวมคำนวณภาษีไม่มีสิทธิเลือกเฉพาะบางรายนำมารวมคำนวณภาษีเพื่อได้รับเครดิตภาษี
         2. กรณีบุคคลธรรมดาได้รับเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งเป็นเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ไม่ได้รับเครคิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรที่ได้รับดังกล่าวได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 10.0 ของเงินได้ ตามมาตรา 50(2)(จ) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว หากผู้มีเงินได้เลือกเสียภาษีในอัตราร้อยละ 10.0 ของเงินได้ ก็ไม่ต้องนำเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไรดังกล่าวไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น ทั้งนี้ ตามมาตรา 48(3) วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้
: 69/33954

ลองดูตัวอย่างนี้ :

ตัวอย่างที่ 10 การขายคืนหน่วยลงทุน ซึ่งมีเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนจำนวนหนึ่งเกินกว่าอัตรากำหนดตามข้อ 3.1 (1) โดย ผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนนั้นเป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปีปฏิทินไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการลงทุนตามข้อ 3.1 (2) ถือว่าปฏิบัติผิดเงื่อนไขการลงทุน (สมมติว่าผู้ลงทุนมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี เมื่อคำนวณตามเงื่อนไขการลงทุนแล้วสามารถลงทุนได้สูงสุดจำนวนเงิน 300,000 บาท)
วันที่ลงทุน/ขายคืน จำนวนเงินลงทุน NAV ต่อหน่วย จำนวนหน่วย จำนวนเงินค่าขายคืน
(ลงทุน) 25 กันยายน 2547 500,000 10 50,000 -
(ลงทุน) 25 เมษายน 2548 100,000 11.50 8,695.65 -
(ลงทุน) 10 ตุลาคม 2548 200,000 10.75 18,604.65 -
(ลงทุน) 2549 : : : :
(ขายคืน) 20 ธันวาคม 2550 - 12.00 (30,000) 360,000
17
จากตัวอย่าง ผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จำนวนเงิน 500,000 บาท เกินกว่าอัตราที่กำหนด (15% ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับในปีภาษีนั้น ซึ่งตามตัวอย่างนี้ คือเกิน 300,000 บาท) จำนวนเงิน 200,000 บาท (ซึ่งไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษี) และในปี พ.ศ. 2550 ได้ขายคืนหน่วยลงทุนที่ซื้อไว้ในปี พ.ศ. 2547 นั้นบางส่วนจำนวน 30,000 หน่วย (ถือหน่วยลงทุนน้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน ผิดเงื่อนไขการลงทุน) และการขายคืนตามตัวอย่างนี้ เมื่อคำนวณตาม วิธี FIFO แล้ว ผู้ลงทุนได้รับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน (จำนวน = 30,000 x 12 = 360,000 บาท) มากกว่าเงินลงทุน (ต้นทุน) (จำนวน = 30,000 x 10 = 300,000 บาท) ผลประโยชน์มีค่าเป็นบวกหรือกำไรเท่ากับ 60,000 บาท (360,000 300,000 = 60,000 บาท) ผู้ลงทุนต้องดำเนินการ ดังนี้
(1) เงินผลประโยชน์ที่ผู้ลงทุนได้รับทั้งสิ้นจำนวน 60,000 บาท จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%
(2) ผู้ลงทุนมีหน้าที่นำเงินผลประโยชน์นั้น (60,000 บาท) ไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่นที่ผู้ลงทุนได้รับในปีภาษี พ.ศ. 2550 เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
(3) ผู้ลงทุนจะต้องชำระคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับมาในปีภาษี พ.ศ. 2547 ของเงินลงทุนเฉพาะจำนวน 100,000 บาท หลังจากหักเงินที่ลงทุนเกินอัตรากำหนดจำนวน 200,000 บาท ซึ่งไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีก่อนแล้ว พร้อมเงินเพิ่ม (ระยะเวลาที่ใช้คำนวณเงินเพิ่มเริ่มนับเมื่อพ้นกำหนดเวลาการยื่นรายการหรือนำส่งภาษีจนถึงวันชำระหรือนำส่งภาษี) ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรดำเนินการชำระคืนโดยเร็ว

ขอสรุป ความเข้าใจหน่อยว่า ถูกหรือไม่
1. พวกเงินปันผลที่ไม่มีสิทธิ์เครดิตภาษี(เช่นได้ BOI, ได้สิทธิพิเศษตามกฏระเบียบเฉพาะกาล ฯลฯ ตาม ข้อ 2.1 -2.5)   ไม่ต้องนำมารวมในการยื่น ( ปีที่แล้ว ก็ยื่นไปหมดเลย เสียดายจัง )

2.  จากตาราง  คุณ Toh_Noy   ถ้าสมมุตื ฐานภาษี  30%   ถ้า บริษัทเสียภาษี  15% - 20%    คนเสียภาษีจะไม่ได้ผลประโยชน์  แถม เสียประโยชน์ จะเลือกไม่ยื่น เฉพาะ รายการที่เสียประโยชน์   และ ยื่นเฉพาะรายการที่ได้ประโยชน์ได้หรือไม่    
     หรือ ถ้า ยื่นแล้วต้องยื่นหมดทุกรายการ ยกเว้น รายการที่ไม่มีสิทธิ์เครดิตใช่หรือไม่  

[quote="Yippy"]ขอสรุป ความเข้าใจหน่อยว่า ถูกหรือไม่
1. พวกเงินปันผลที่ไม่มีสิทธิ์เครดิตภาษี(เช่นได้ BOI, ได้สิทธิพิเศษตามกฏระเบียบเฉพาะกาล ฯลฯ ตาม ข้อ 2.1 -2.5)

มีใครแนบเอกสารไปทางเมล์บ้างคะ แล้วเป็นไงบ้าง ของเราแนบไปครั้งแรกวันที่11 มค.  วันที่ 16 มค. ระบบทางเว็บก็บอกว่ายังไม่ได้รับเอกสาร เลยโทรถามเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่บอกให้ส่งใหม่  ก็ส่งไปใหม่ทางเมล์  วันนี้เช็คทางระบบ ก็ยังไม่ได้รับเอกสารเหมือนเดิม โทรถามเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าฝ่ายที่ทำเรื่องอาจจะได้รับแล้วแต่ยังไม่ update ข้อมูลในเว็บ และเขาไม่สามารถตรวจได้ว่า จริงๆแล้วได้รับแล้วหรือยัง เพราะอยู่กันคนละส่วน  ถ้าไม่แน่ใจให้ส่ง เอกสารไปทางไปรษณีย์อีกครั้งหนึ่ง

ของเพื่อนๆเป็นไงกันบ้างคะ มีใครเหมือนของเราบ้างมั้ย

คุณ porpiangrich ครับ
ผมเริ่มซื้อครั้งแรกปี 2550 ครับ ยังไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนเลย จึงสงสัยว่าส่วนที่ซื้อเกินไป 50,000 ฿ ผมขายเลยในปี 2551 ได้หรือไม่

ขอบคุณ คุณลูกอีสานมากค่ะ
เข้าใจแล้ว
:lol:  :lol:

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันให้ความกระจ่างครับ

ขออภัยที่ทำให้เข้าใจกันคลาดเคลื่อนครับ อย่างเรื่องเงินปันผลที่เครดิตภาษีเงินปันผลไม่ได้ จริงๆก่อนตอบผมได้โทรไปถามทาง Call center แล้วก็ได้รับคำตอบอย่างที่ตอบไปครับ

[quote="peaceful"]มีใครแนบเอกสารไปทางเมล์บ้างคะ แล้วเป็นไงบ้าง ของเราแนบไปครั้งแรกวันที่11 มค.

ขอแปะ เรื่องน่ารู้ก่อน ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ผ่านอินเทอร์เน็ต ของคุณ niyom_value ไว้ที่นี่นะครับ

มีใครได้ภาษีคืนแล้วบ้างไม๊ครับ แล้วมีปัญหากับ ส่วนที่เครดิตไม่ได้อย่างเดียวกับผมไม๊ครับ

    คือว่า ปีนี้ผมยื่นแบบ เพื่อขอคืนภาษีตั้งแต่ต้นปี โดยไม่ยื่นส่วนปันผลในข้อ 2.2  ( ไม่สามารถเครดิตภาษีได้ เพราะเป็นปันผลจากรายได้ที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล )  แต่ว่ากว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากสรรพากรโทรมา ก็เมื่อ 18 มค. 2551 บอกว่า ให้รวมเงินปันผลส่วนนี้เข้าไป ไม่สามารถตัดทิ้งไปได้ โดยอ้างว่าทางกฎหมายของกรมฯ ยืนยันว่า จะต้องรวมคำนวณ

    เพื่อนๆ พี่ๆ เจอปัญหาอย่างเดียวกับผมหรือเปล่าครับ ( ตอนนี้ผมก็ได้แต่รับสภาพ และเตรียมตัวยื่นใหม่ตามคำสั่งครับ )


นายไช้

[quote="นายไช้"]มีใครได้ภาษีคืนแล้วบ้างไม๊ครับ แล้วมีปัญหากับ ส่วนที่เครดิตไม่ได้อย่างเดียวกับผมไม๊ครับ

Tanasit เขียน:ผมเริ่มซื้อครั้งแรกปี 2550 ครับ ยังไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนเลย จึงสงสัยว่าส่วนที่ซื้อเกินไป 50,000 ฿ ผมขายเลยในปี 2551 ได้หรือไม่

ลองโทรไปถาม Call Center ของกองทุนที่คุณซื้อดู  กรณีนี้ผมไม่เคยถาม
ถามแต่ว่าถ้าเก็บไว้ 5 ปีแล้วขาย เราต้องเสียภาษีในกำไรของส่วนที่ซื้อเกินไป

View previous topic :: View next topic

Kao เขียน: กรณีผู้จ่ายเงินได้เป็นนิติบุคคล ให้กรอกในคอลัมม์ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
โดยดูได้จากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
หากมีผู้จ่ายเงินได้มากกว่า1ราย ให้กรอกรายที่จ่ายให้เรามากที่สุด

ยื่นแบบไปก่อนจะมาเจอกระทู้นี้ค่ะ
ตอนยื่นก็โทรไปถาม call center เจ้าหน้าที่แจ้งว่า กรอกเลขประจำตัวของผู้ที่จ่ายเงินให้เรา บริษัทใดก็ได้ค่ะ ให้เลือกมาบริษัทเดียว ก็เลยกรอกรายที่จ่ายให้น้อยที่สุดไปค่ะ  :P

[quote="oatty"]
miracle
Regular


Joined: 18 Dec 2004
Posts: 3990

Posted: Mon Feb 11, 2008 8:52 am

[quote="oatty"]
kyoza

Posted: Mon Feb 11, 2008 11:59 am