อย่างตอนนี้เหล็กขึ้นเยอะมากผู้รับเหมาที่ไม่รับผิดชอบWang yun fat เขียน:
ก็หนีงานดื้อ ๆ
ผมขายวัสดุที่ทดแทนเหล็กบางตัวเรยขายดีช่วงนี้
ผมว่า ฝีมือเฉพาะทางก็มีส่วนเหมือนกันนะครับคุณMuffMuffin เขียน:พี่เพื่อน ผมว่า อยู่ที่ผู้ว่าจ้างเป็นหลักครับ
ถ้าผู้ว่าจ้างรู้เรื่อง ก็จะรู้ว่า lowest bid เนี่ย ไม่ค่อยจะ work หรอก
แต่ว่า....
สำหรับประเด็นนี้ ผมไม่เถียงเลยครับเพื่อน เขียน: ผมว่า ฝีมือเฉพาะทางก็มีส่วนเหมือนกันนะครับคุณMuff
พอดีผมก็ดูอยู่บริษัทหนึ่งที่ทำงานโครงเหล็กส่งนอก(ที่โด่งดังมากเมื่อปีก่อนในทำนองเจ้าเข้าเจ้าออก) ดูแล้วฝีมือกับผลงานINTERเลยครับ ไม่มีหนี้ ข่าวรับงานต่างประเทศทยอยออกมาเรื่อยๆ แข่งชนะรายที่เสนอราคาต่ำกว่าได้อีกด้วย
น่าสนนา... :lol:
คุณMuff ได้ไปดูโรงงานมาแล้วเหรอครับMuffin เขียน: เพราะบริษัทดังกล่าว ฝีมือ inter จริงๆ ไปดูโรงงานด้วยตา แทบไม่น่าเชื่อว่านี่บริษัทไทย
ยินดีเลยครับ แต่เรื่องสถานที่เที่ยวนี่ วัยรุ่นแบบผมคงยอมแพ้คุณMuffนะ ให้คุณMuffแนะนำจะดีกว่า ไปชวนๆกันต่อในห้องนั่งเล่นหรือPM.มาคุยกันต่อก็ยินดีครับ ช่วงนี้ค่อยๆมีเวลาว่างขึ้นละครับ... :lol:ว่าแต่ว่า พี่เพื่อนเมื่อไร จะพาผมไปเที่ยว
ผมไม่มีหุ้นบริษัทรับเหมาเลยสักหุ้น เพราะมีความรู้ด้านนี้เลยมากเกินไปsattaya เขียน:ผมไม่มีหุ้นบริษัทรับเหมาเลยสักหุ้น เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้เลย
รู้สึกว่าตัวแปรมันเยอะอย่างที่พี่ลูกอิสานบอกจริงๆ
ขอบคุณพี่ๆ ที่ให้ความรู้ครับ
little wing เขียน:โค้ด: เลือกทั้งหมด
โลกในมุมมองของ Value Investor 5 พฤศจิกายน 54 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ถ้าจะวิเคราะห์ผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นนั้น เราควรแยกความเสียหายออกเป็นสองด้านนั่นคือ ความเสียหายจากทรัพย์สิน และความเสียหายจากธุรกิจเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ ยอดขายที่ลดลงในระยะสั้นและระยะยาว โดยทั่วไปบริษัทมักจะเสียหายทั้งสองด้าน คือทรัพย์สินเสียหาย แล้วตามด้วยธุรกิจที่ถดถอยลง อย่างไรก็ตาม บางบริษัททรัพย์สินเสียหายบ้าง แต่ธุรกิจก็ไม่ได้ด้อยลง อาจจะดีขึ้นด้วยซ้ำ เช่นเดียวกัน บางบริษัท ทรัพย์สินไม่ได้เสียหาย แต่ธุรกิจด้อยลง ลองมาดูกันว่าธุรกิจแต่ละอย่างถูกกระทบอย่างไร บริษัทที่ทำนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตที่ถูกน้ำท่วมรุนแรงนั้นต้องถือว่าเป็นผู้ที่เสียหายหนักทั้งด้านของทรัพย์สินและการเสียหายด้านธุรกิจ ประเด็นของการเสียหายด้านทรัพย์สินนั้นมีทั้งด้านของสาธารณูปโภคของนิคมเช่น ระบบไฟฟ้าซึ่งรวมถึงเครื่องปั่นไฟที่บริษัทมักจะผลิตไฟฟ้าขายให้กับบริษัทในนิคม เครื่องทำน้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย และอื่น ๆ อีกมาก อย่างไรก็ตาม ความเสียหายในส่วนนี้ บริษัทมักมีการทำประกันไว้ ดังนั้น ก็จะได้รับการชดเชยบ้าง แต่ทรัพย์สินสำคัญที่น่าจะเสียหายอย่างหนัก แต่เราอาจจะยังไม่ตระหนักก็คือ “การลดค่าของที่ดิน” เนื่องจากทำเลนั้นกลายเป็นทำเลที่ “ไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างโรงงาน” เนื่องจากอาจจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้อีกในอนาคต ซึ่งการเสียหายแบบหลังนี้น่าจะสูงกว่าแบบแรก รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่ามันเป็นความเสียหายที่ไม่มีการทำประกันไว้ ความเสียหายทางธุรกิจของนิคมอุตสาหกรรมเองก็น่าจะสูงมาก เหตุผลก็เพราะว่าลูกค้ารายใหม่ ๆ ที่คิดจะซื้อที่ดินสร้างโรงงานก็คงหลีกเลี่ยงที่จะซื้อที่ดินเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกในอนาคต จริงอยู่ นิคมอาจจะทำระบบกำแพงป้องกันน้ำท่วมแบบแข็งแรงน้ำไม่สามารถเข้าไปท่วมได้ แต่นั่นก็ไม่รับประกันว่าโรงงานที่อยู่ข้างในจะสามารถเปิดดำเนินการได้ถ้าภายนอกนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำและคนและวัตถุดิบต่าง ๆ ไม่สามารถจะเข้าไปได้ นอกจากนั้น การสร้างกำแพงป้องกันก็ต้องลงทุนไม่น้อย และไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ราคาขายที่ดินถ้าไม่ลดลงก็คงจะไม่สามารถปรับขึ้นไปได้ ดังนั้น ดูไปแล้ว ธุรกิจของนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมคงจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากไปอีกนานพอสมควรทีเดียว อย่างมากที่จะทำได้ก็คือ ต้องไปหาทำเลใหม่และเริ่มต้นนับหนึ่งจากทำเลนั้น ซึ่งกว่าจะเริ่มออกดอกผลก็มักจะต้องใช้เวลานานเมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่ต้องใส่ลงไป บริษัททำบ้านจัดสรร โดยเฉพาะที่มีโครงการและที่ดินเหลืออยู่ในทำเลที่ถูกน้ำท่วมหนักเช่นในย่านบางบัวทองหรือบางใหญ่ ความเสียหายของทรัพย์สินนั้นในทางบัญชีอาจจะดูเหมือนว่าจะมีน้อย อย่างไรก็ตาม นี่ก็เหมือนกับในกรณีของนิคมอุตสาหกรรมนั่นคือ มันไม่ได้รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการลดค่าของที่ดินซึ่งน่าจะมีไม่น้อย ผมเองไม่ได้มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่เมื่อคิดถึงตัวเองที่มีที่ดินจัดสรรอยู่ในเขตน้ำท่วมรุนแรงซ้ำซากแล้ว ถ้าขายได้ครึ่งหนึ่งของราคาเดิมผมก็พอใจแล้ว ในกรณีของที่ดินในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่โดนน้ำท่วมหนักในครั้งนี้ ผมคิดว่าราคาจะลดลงซัก 20-30% ก็น่าจะเป็นไปได้ ในส่วนของธุรกิจบ้านจัดสรรเองนั้น ผมคิดว่าการขายบ้านที่อยู่ในเขตน้ำท่วมหนักครั้งนี้คงจะยากขึ้นมากโดยเฉพาะในช่วงปีหรือสองปีนี้ ว่าที่จริงแม้แต่บ้านที่มีการวางมัดจำหรือผ่อนดาวน์ไปบ้างแล้วก็น่าจะมีการทิ้งดาวน์ไม่ไปโอนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เหตุผลนอกจากการไม่อยากมีบ้านอยู่ในทำเลที่ “ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย” แล้ว ก็อาจจะเป็นเพราะคนที่จองซื้อไว้อาจจะมองว่าราคาของบ้านคงจะลดลงมา ดังนั้นจึงยอมทิ้งดาวน์ และถ้าอยากจะได้จริง ๆ ก็ค่อยไปซื้อใหม่น่าจะได้บ้านในราคาที่ถูกกว่า ดังนั้น ธุรกิจของบริษัทที่มีโครงการและที่ดินอยู่ในเขตน้ำท่วมหนักอย่างมีนัยสำคัญคงถูกกระทบค่อนมากในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า วิธีการแก้ไขก็คงต้องไปทำโครงการที่อยู่ในทำเลที่ไม่ถูกน้ำท่วมรุนแรง อย่างไรก็ตาม นี่ก็มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงการ บริษัทที่เป็นโรงงานผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคและยานยนต์ที่มีโรงงานหลักอยู่ในเขตที่น้ำท่วมรุนแรงนั้น ความเสียหายจากทรัพย์สินคงจะมีไม่น้อยทีเดียวแม้ว่าจะมีการประกันภัยไว้ เพราะนอกจากทรัพย์สินแล้ว โรงงานคงมีค่าใช้จ่ายที่ไม่น่าจะเคลมคืนได้เช่น ค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรงงาน ค่าแรงคนงานที่มักจะยังต้องจ่ายในระดับถึง 75% ของค่าแรงพื้นฐาน สินค้าและวัตถุดิบที่เสียหาย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมาก ในส่วนของความเสียหายทางด้านธุรกิจนั้นผมคิดว่าคงมีไม่น้อยเหมือนกันโดยเฉพาะผู้ผลิตที่เป็นผู้ส่งออกทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นหลัก เหตุผลนั้นนอกจากความเสียหายที่ไม่สามารถขายสินค้าได้ในช่วงที่โรงงานถูกน้ำท่วมเป็นเดือน ๆ แล้ว ในระยะยาวออกไปหลังจากที่โรงงานกลับมาดำเนินการใหม่บริษัทเองก็อาจจะประสบปัญหาในการขายได้เหมือนกันในแง่ที่ว่า ลูกค้าเดิมนั้นอาจจะหันไปหาซัพพลายเออร์รายใหม่ไปแล้วเนื่องจากเขารอไม่ไหว จริงอยู่ บริษัทน่าจะได้รับออเดอร์กลับมาบ้าง แต่ผู้ซื้อก็อาจจะต้องกระจายความเสี่ยงโดยการสั่งซื้อจากที่อื่นมากขึ้นเนื่องจากเขากลัวว่าถ้าเกิดปัญหาน้ำท่วมอีกในอนาคต การผลิตของเขาจะมีปัญหาอีกเช่นในปีนี้ ธุรกิจเช่นพวกผู้ค้าปลีกเองนั้น ความเสียหายจากทรัพย์สินเองมักจะมีไม่มากเนื่องจากมักจะเป็นแค่ร้านค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าที่อยู่ในเขตน้ำท่วมหนัก เครื่องมือหรืออุปกรณ์มักมีราคาไม่สูงและน่าจะมีการประกันภัยไว้ ในส่วนของธุรกิจเอง ความเสียหายส่วนใหญ่น่าจะมาจากยอดขายที่หายไปจากการปิดสาขาร้านที่อยู่ในเขตน้ำท่วมหนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมแล้วก็ยังไม่มากมายนัก ความเสียหายอีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่สินค้าขาดเนื่องจากระบบจัดส่งสินค้าขัดข้องเนื่องจากศูนย์กระจายสินค้าถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่ลดลงนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องระยะสั้น เมื่อน้ำลดหรือระบบกระจายสินค้าทั้งที่เป็นศูนย์ชั่วคราวหรือศูนย์เดิมทำงานได้แล้ว ยอดขายก็จะกลับมาเป็นปกติ ผลกระทบระยะยาวมีน้อยมาก สุดท้ายก็คือบริษัทที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูบ้านหรือสิ่งก่อสร้างหลังน้ำลด นี่รวมถึงผู้ขายวัสดุและผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ใคร่ถูกกระทบในด้านของทรัพย์สินที่เสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ ในด้านของธุรกิจเองนั้น ในช่วงน้ำกำลังท่วมบริษัทอาจจะมียอดขายที่ลดลงบ้างเนื่องจากปัญหาการคมนาคมและตัวลูกค้าและคนงานที่อาจจะพะวงอยู่กับปัญหาน้ำท่วม แต่หลังจากน้ำลดลงแล้ว ธุรกิจก็จะเฟื่องฟูมากจน “ทำไม่ทัน” และมากกว่ายอดขายที่เสียไป ยอดขายหรือธุรกิจที่ดีขึ้นนี้น่าจะดำรงอยู่อย่างน้อยก็ 1-2 ปีขึ้นไป และต้องถือว่านี่คือกลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จากน้ำท่วมใหญ่ ในขณะที่กลุ่มอื่นทั้งหมดนั้น โดยรวมแล้วมักจะเสียหายหรือขาดทุนหรืออย่างมากก็เสมอตัวในเหตุการณ์วิกฤติน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้
ขอบคุณคุณ Chezilla มากๆนะครับ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับchezilla เขียน:ขอตอบแบบวิศวกรโยธาหน่อยนะครับ
สำหรับเพื่อนๆหลายท่านที่ไม่รู้ว่า "ฤทธา" มีดีขนาดไหน?
ฤทธา เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความสามารถสูงมากในการควบคุมเรื่องของ "เวลา, คุณภาพและต้นทุน"
ซึ่งเป็นหัวใจหลักของงานรับเหมาก่อสร้าง และนั่นคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
ลูกค้าบางเจ้าไม่ได้เลือกที่ "ราคาต่ำที่สุด" (อย่าง Fashion Island นั่นจริงๆราคาของฤทธาแพงกว่าราคาต่ำสุดพอสมควร)
สตาฟท์ที่เป็นวิศวกรหน้างาน (เพื่อนๆผมนี่ล่ะ) เดินจี้ผู้รับเหมาช่วงแทบจะเดินทำงานด้วยกัน
"โอที" เต็มที่ ถ้างานได้โปรเกรสทันเวลา (ใช้คนงานไทย ไม่อิงต่างด้าวเหมือนบริษัทอื่น)
จัดซื้ออย่างสมเหตุสมผล และที่สำคัญคือ ประสบการณ์ในการเลือกใช้งานสินค้าทางวิศวกรรมต่างๆอย่างฉลาด
(ที่ทราบเพราะผมเป็น supplier ของฤทธา)
และจากการได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของฤทธา ณ ตอนนี้ไม่มีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
เพราะไม่มีความจำเป็นต้องระดมทุน กระแสเงินสดไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีพันธมิตรในวงการอีกหลายบริษัท
ที่่ร่วมทุนเห็นเด่นชัดคือ RTH ซึ่งบริหารในสไตล์เดียวกันกับฤทธา แต่ต้นทุนถูกกว่า รับงานในตลาดล่างลงมา
ส่วนมากฤทธารับงานอาคารสูง(ยิ่งสูงยิ่งชอบ)เป็นหลัก น้อยมากที่จะรับพวกโครงสร้างพืนฐาน
สามารถเป็นคู่แข่งที่สูสีกับบริษัทดังจากแดนปลาดิบได้เลยล่ะครับ ในเรื่องคุณภาพ
คร่าวๆเท่านี้ก่อนนะครับ
ขอบคุณครับ
^_^