หน้า 2 จากทั้งหมด 5

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 8:55 am
โดย krisy
Wang yun fat เขียน:
อย่างตอนนี้เหล็กขึ้นเยอะมากผู้รับเหมาที่ไม่รับผิดชอบ
ก็หนีงานดื้อ ๆ
ผมขายวัสดุที่ทดแทนเหล็กบางตัวเรยขายดีช่วงนี้

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 06, 2008 11:48 pm
โดย เพื่อน
หุ้นรับเหมาที่น่าสนใจก็มีนะครับ

ประเภทที่ต้องใช้ฝีมือเฉพาะทาง ทำให้มีคู่แข่งน้อย และตั้งกำไรได้สูงกว่าทั่วไปได้ เพราะผู้ว่าจ้างต้องการความมั่นใจในผลงานและเวลาส่งมอบงานมากกว่าเรื่องราคาประมูลที่แสนถูกของคู่แข่งที่ไม่ค่อยมีผลงานในแนวเดียวกัน

ถ้าคุณมีโอกาสเจอบริษัทที่ประมูลงานได้โดยไม่ใช่ราคาต่ำสุดและไม่ได้ใช้การวิ่งเต้นอิงอิทธิพลใคร แสดงให้เห็นว่าบริษัทนั้นน่าสนใจในระดับหนึ่ง
แต่คงค้องดูวัฎจักรของงานแต่ละประเภทประกอบด้วยครับ

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 12:47 am
โดย Muffin
พี่เพื่อน ผมว่า อยู่ที่ผู้ว่าจ้างเป็นหลักครับ
ถ้าผู้ว่าจ้างรู้เรื่อง ก็จะรู้ว่า lowest bid เนี่ย ไม่ค่อยจะ work หรอก

แต่ว่า....

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 12:53 am
โดย anakinnet
นึกถึงตอนคุณเรียวกะ post ไว้ ขำๆ นานแล้ว ว่า

KTECH : รับเหมา ไม่เอากำไร

ผมอ่านแล้วก๊ากเลยอ่ะ ตรงกะใจเป๊ะเลย อ่านงบแล้วไม่คิดจะซื้อเลย

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 8:45 pm
โดย เพื่อน
Muffin เขียน:พี่เพื่อน ผมว่า อยู่ที่ผู้ว่าจ้างเป็นหลักครับ
ถ้าผู้ว่าจ้างรู้เรื่อง ก็จะรู้ว่า lowest bid เนี่ย ไม่ค่อยจะ work หรอก

แต่ว่า....
ผมว่า ฝีมือเฉพาะทางก็มีส่วนเหมือนกันนะครับคุณMuff
พอดีผมก็ดูอยู่บริษัทหนึ่งที่ทำงานโครงเหล็กส่งนอก(ที่โด่งดังมากเมื่อปีก่อนในทำนองเจ้าเข้าเจ้าออก) ดูแล้วฝีมือกับผลงานINTERเลยครับ ไม่มีหนี้ ข่าวรับงานต่างประเทศทยอยออกมาเรื่อยๆ แข่งชนะรายที่เสนอราคาต่ำกว่าได้อีกด้วย

น่าสนนา... :lol:

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 08, 2008 9:48 am
โดย Wei Han
น่าจะได้แค่ trading มั๊งครับ หุ้นรับเหมาเนี่ย รายได้ก็ volatile แถมมีโอกาสเงินรั่วไหลก็เยอะ entry barrier ก็ไม่มาก ยกเว้น project ใหญ่จริงๆ

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 08, 2008 9:53 am
โดย Wang yun fat
แหะ  ๆ แค่ไม้แปรรูป ทำก่อสร้างน่ะครับ
ช่วงนี้แบบเหล็กแพงเรยขายดีนิพหน่อย

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 09, 2008 12:02 pm
โดย Muffin
เพื่อน เขียน:
ผมว่า ฝีมือเฉพาะทางก็มีส่วนเหมือนกันนะครับคุณMuff
พอดีผมก็ดูอยู่บริษัทหนึ่งที่ทำงานโครงเหล็กส่งนอก(ที่โด่งดังมากเมื่อปีก่อนในทำนองเจ้าเข้าเจ้าออก) ดูแล้วฝีมือกับผลงานINTERเลยครับ ไม่มีหนี้ ข่าวรับงานต่างประเทศทยอยออกมาเรื่อยๆ แข่งชนะรายที่เสนอราคาต่ำกว่าได้อีกด้วย

น่าสนนา... :lol:
สำหรับประเด็นนี้ ผมไม่เถียงเลยครับ
บริษัทดังกล่าว ผมก็เข้าไปลงทุนเป็นพักๆ  :)
เพราะบริษัทดังกล่าว ฝีมือ inter จริงๆ ไปดูโรงงานด้วยตา แทบไม่น่าเชื่อว่านี่บริษัทไทย
ฝีมืองาน ระดับส่งไปประเทศที่นับว่า ให้ความสำคัญของความแม่นยำและคุณภาพ ที่ไม่ธรรมดา
กรณีนั้นยกเว้น ผมถือว่า เป็นกรณีที่แตกต่างจากธุรกิจรับเหมา อื่นๆ และก็ไม่ได้แข่งขันกันด้วยราคาเป้นหลัก และความเสี่ยงก็แตกต่างจาก รับเหมาเจ้าอื่นด้วย

พูดขนาดนี้ ไม่รู้ก็แปลกแล้ว แต่ว่า...ไม่ได้เชียร์ ไปดูกันเอง

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 09, 2008 12:03 pm
โดย Muffin
ว่าแต่ว่า พี่เพื่อนเมื่อไร จะพาผมไปเที่ยว  :8)

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 3:58 pm
โดย investment biker
แต่ผมก็เห็นหุ้นรับเหมาหลายตัวเป็นที่นิยมกันใน thaivi นะครับ ทั้ง
ILINK
TRC
AIT
DEMCO
UEC

แสดงว่าบางตัวอาจมีลักษณะพิเศษบางประการ ถ้าใครเดา backlog และ margin ระยะสั้น ๆ ซัก 2-3 ไตรมาสได้ เล่นสั้น ๆ ก็เห็นได้กำไรกันตั้งมากมาย :P

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 8:43 pm
โดย เพื่อน
Muffin เขียน: เพราะบริษัทดังกล่าว ฝีมือ inter จริงๆ ไปดูโรงงานด้วยตา แทบไม่น่าเชื่อว่านี่บริษัทไทย
คุณMuff ได้ไปดูโรงงานมาแล้วเหรอครับ
ผมยังไม่เคยเห็นเค้าจัดcompany visit ซักทีเลยครับ
หรือว่าเรากำลังพูดถึงคนละบริษัทกัน.... :lol:

คงไม่ได้หมายถึงบริษัทที่ทำส่งไปญี่ปุ่นนะครับ อันนั้นก็ฝีมือน่าจะไม่เบา ไม่งั้นญี่ปุ่นคงไม่จ้างเหมือนกัน บริษัทนี้ผมไม่ค่อยได้ตามครับ ไม่รู้เป็นยังไงบ้างตอนนี้ เห็นราคานิ่งๆไม่ค่อยขยับเท่าไหร่
ว่าแต่ว่า พี่เพื่อนเมื่อไร จะพาผมไปเที่ยว  
ยินดีเลยครับ แต่เรื่องสถานที่เที่ยวนี่ วัยรุ่นแบบผมคงยอมแพ้คุณMuffนะ ให้คุณMuffแนะนำจะดีกว่า ไปชวนๆกันต่อในห้องนั่งเล่นหรือPM.มาคุยกันต่อก็ยินดีครับ ช่วงนี้ค่อยๆมีเวลาว่างขึ้นละครับ... :lol:

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 12:29 am
โดย icque
ประเทศเราก็มีบริษัทรับเหมาเก่งๆ ที่มีฝีมือสามารถรับงานระดับ world class ได้ด้วยนะครับ

ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:58 am
โดย Muffin
ที่ผมพูดถึง หมายถึง รับเหมาที่เกี่ยวกับก่อสร้างครับ

สงสัยผมเดาใจพี่เพื่อนผิดบริษัท
ที่ผมพูดถึงคือบริษัทที่ส่งไปญี่ปุ่นนั่นเอง แล้วตอนไปดูโรงงาน ก็ไม่ได้ไปกับ thaivi ครับ

ไปๆมาๆ เรากลายเป็นกระทู้บริษัท รับจ้างทำของ หรือ รับเหมาเฉพาะทางกันไปแล้ว อันนั้น ความเสี่ยงไม่เหมือนรับเหมาก่อสร้างครับ
ดังนั้น คงไม่ต้องเหนื่อยใจ มั้งครับ   ส่วนรับเหมาไม่เอากำไร เนี่ย น่าเวียนหัวจริงๆครับ

สภาพอากาศนักลงทุนทั้งโลกอารมณ์ไม่ดี
เพราะเจอความเสี่ยงระดับมหภาค

เป็นสถานการณ์ที่วัดความเป็น นักลงทุนตัวจริงกับบริษัทที่มั่นคง ความสามารถในการแข่งขันสูง และบริหารความเสี่ยงกับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างดี...

แค่ถือหุ้น ก็เสียวแล้ว การเล่นหุ้นใครว่าง่ายกว่าทำงาน ผมว่ามันโค-ตา-ระ ยากเลยครับ  :lol:

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 10:49 am
โดย pak
หุ้นรับเหมาฯคึกงบแก้น้ำท่วมพุ่งดึงตปท.อยู่ไทย [ นสพ.โพสต์ทูเดย์, 20 ต.ค. 54 ]

หุ้นรับเหมาฯ วิ่งฉิว ผู้ประกอบการมองข้ามช็อต หลังจากนี้รัฐ-เอกชนทุ่มงบป้องกันน้ำท่วม สร้าง
ความมั่นใจ ตปท.

นักลงทุนแห่เก็งกำไรหุ้นรับเหมาก่อสร้าง ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดโดยรวมที่ลดลงแรง
โดยคาดหวังว่ากำไรสุทธิจะเติบโตขึ้นมากในอนาคตจากงานที่จะล้นมือหลังน้ำลด เช่น หุ้นบริษัทอิตาเลียนไทย
ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ปิด 3.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท หรือ 6.36% บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ
(NWR) ปิด 0.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 11.54%

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 10:50 am
โดย pak
รับเหมารุกสร้างฝาย-เขื่อนกั้นนั้น 'NWR' แจ๋วดีลเรียงคิว-พลิกกำไร [ นสพ.ข่าวหุ้น, 20 ต.ค. 54]

กลุ่มรับเหมาระรื่นรับอานิสงส์น้ำท่วมเต็มพิกัด หนุนงานในมือทั้งกลุ่มพุ่งเกิน 3 แสนล้านบาท ด้าน
"วัชรพัธ วัชราภัย" นอนตีพุงรับงานสร้างถนนและสะพาน แถมรอเวลารับงานยักษ์บูรณาการในวงเงินนับ
แสนล้านของภาครัฐเพื่อสร้างเขื่อนและฝายกักน้ำ หนุนธุรกิจขาขึ้น จับตาไตรมาส 3/2554 พลิกทำกำไร
เป้า 0.70 บาท ส่วนรับเหมารายใหญ่ ITD STEC และ CK ยังขาขึ้น

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 10:50 am
โดย pak
ผู้รับเหมาอ่วม! น้ำท่วมฉุดงานนิ่ง หวั่นระยะยาวราคาวัสดุก่อสร้าง-ค่าแรงซ้ำหนัก
Written by Administrator Friday, 14 October 2011 06:43

สถานการณ์น้ำท่วมที่ขณะนี้กำลังกลืนกินพื้นที่กรุงเทพฯเข้ามาทีละนิดทีละนิด ทำให้หลายฝ่ายนั่งไม่ติดเนื่องจากเกรงว่าความเสียหายจากอุทกภัยจะหนักหนาสาหัสเหมือนเช่นที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคเผชิญ โดยเฉพาะกลุ่มโครงการก่อสร้างต่างๆที่ต้องเตรียมพร้อมป้องกันพื้นที่ดำเนินงานก่อสร้างไว้อย่างเต็มที่ เพราะถ้าหากน้ำทะลักเข้าไปได้เมื่อไหร่ งานทุกอย่างต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ศูนย์

แม้ว่าหน่วยงานป้องกันสาธารณภัยจะทำแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจเอาไว้ในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ แต่ประชาชนและผู้ประกอบการทั้งหลายก็ดูเหมือนจะยังไม่มั่นใจกับระดับความป้องกันของ กทม. ที่ได้เตรียมป้องกันเอาไว้ โดยเฉพาะในกลุ่มงานก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์อย่างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ที่ตอนนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างงานฐานรากที่ถ้าหากเจอน้ำท่วมเข้าไปเมื่อไหร่มีหวังได้น้ำตาตกไม่แพ้ “อิชิตัน” แน่

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของ บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ว่า ผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่กดดันกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างมากที่สุดกรณีหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มงาน civil ที่กำลังดำเนินงานก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ซึ่งถ้าหากสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลายในเร็ววัน คาดว่าจะยิ่งส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยงภัยมากยิ่งขึ้น

“ผลกระทบที่ผู้รับเหมาอาจจะต้องเผชิญในระยะสั้นนี้ ได้แก่ การชะลองานก่อสร้างในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วม เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริเวณ บางใหญ่ สะพานพระนั่งเกล้าที่มีกลุ่มผู้รับเหมาทั้ง บริษัท ซิโน-ไทย จำกัด(มหาชน) และ บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) ดำเนินงานอยู่ ซึ่งถ้าหากสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย และระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นก็จะยิ่งทำให้ผู้รับเหมาแบกรับความเสี่ยงในอนาคตที่อาจส่งผลให้งานก่อสร้างดำเนินการได้ช้ามากขึ้นและชะลอตัวนานออกไป” เติมพร ตันติวิวัฒน์ ฝ่ายวิจัย กิมเอ็งฯ กล่าว

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของ บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็งฯ ยังเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งกลุ่มบริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL กำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้น ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 50% ซึ่งยังอยู่ในช่วงงานฐานราก และยังไม่ได้ลงเครื่องจักร แต่ทางกลุ่มผู้รับเหมาก็ได้มีการเตรียมความพร้อมโดยสร้างแนวคันกั้นน้ำสูง 1.5 เมตร ไว้โดยรอบ ดังนั้นจึงยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม และยังสามารถทำงานได้ปกติ

แม้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่แน่ชัดได้ เนื่องจากยังมีพื้นที่บางจุดที่ยังคงสุ่มเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมได้ ดังนั้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจึงยังต้องหาวิธีรับมือกับอุทกภัยครั้งนี้ต่อไป โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯและจังหวัดสมุทรปราการที่ยังคงมีความเสี่ยงทั้งจากน้ำท่วมและน้ำทะเลหนุนสูงอยู่ไปจนถึงปลายเดือนตุลาคมนี้

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์น้ำท่วมสามารถคลี่คลายลงได้ด้วยดี แต่กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบที่จะตามมาหลังจากน้ำท่วมคือ ราคาวัสดุก่อสร้าง ที่ส่อแววจะพุ่งสูงขึ้นในหลายๆประเภท ซึ่งถ้าหากภาครัฐไม่ยื่นมือเข้ามาควบคุมดูแล ผู้รับเหมาก็อาจจะต้องเตรียมทุนหนาขึ้นอีกอย่างน้อย 5% ให้อุ่นใจ แต่ถ้าจะให้คลายกังวลหายห่วงก็ควรจะเพิ่มไว้อีกซัก 10% สำหรับรองรับกับภาวะแรงงานขาดแคลนและค่าจ้างที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นตามมาติดๆด้วย


ที่มา : http://www.thaicontractor.com/index.php ... &Itemid=55

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 10:51 am
โดย pak
วัสดุรับพิษน้ำท่วม"ขาด-แพง" [ การตลาด , กรุงเทพธุรกิจ ]

วัสดุก่อสร้างรับพิษน้ำท่วม-ขนส่งมีปัญหา ปั่นกระแสของขาด-ราคาแพง ผู้รับเหมาฯ ยอมรับเกิดภาวะตลาดช็อก แต่เชื่อเป็นปัญหาแค่ชั่วคราวคาดคลี่คลายได้ใน 1-2 เดือน

โครงการก่อสร้างใหญ่ยืนยันรับมือไหว เหตุสต็อกวัสดุล่วงหน้ายื้องานต่อเนื่องได้อย่างน้อย 1 เดือน แต่งานก่อสร้างปลีกย่อยอ่วม รับสร้างบ้านวัสดุขาดต้องหยุดงานชั่วคราว

ความปั่นป่วนในวงการวัสดุก่อสร้าง จากภาวะขาดแคลนทราย และอิฐบล็อก ซึ่งถูกกว้านซื้อในตลาดมาเป็นวัสดุเพื่อสร้างกำแพงกันน้ำ ผลักดันให้เกิดภาวะขาดแคลนในบางพื้นที่ ทำให้พ่อค้าฉวยโอกาสปรับราคาขาย บางพื้นที่ปรับขึ้นสูงกว่าภาวะปกติถึง 1 เท่าตัว ขณะที่บางพื้นที่ไม่มีของจำหน่าย เป็นปัญหาเฉพาะหน้าสำหรับการซื้อ-ขายรายย่อย แต่สำหรับโครงการขนาดใหญ่ยังอยู่ในภาวะที่พอรับมือได้

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ซึ่งมีความรุนแรงในหลายพื้นที่ ทำให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง ประเภท ทราย อิฐบล็อก และอิฐมอญ เพิ่มขึ้นมาก เพราะถูกนำไปใช้ในการป้องกันน้ำท่วมที่อยู่อาศัย ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลน และการขนส่งเข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้ เพราะถนนถูกน้ำท่วม ตัดขาด ทำให้ขณะนี้การก่อสร้างในภาพรวมมีการชะลอตัวลง แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นเท่านั้น และสถานการณ์น้ำท่วมน่าจะคลี่คลายลงได้ในสิ้นเดือน ต.ค.นี้

รายใหญ่รอได้สต็อก 1 เดือน

ในส่วนของศุภาลัย มีโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 161 โครงการ ไม่ได้ชะลองาน ทั้งในส่วนบ้านจัดสรร 148 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 13 โครงการ เนื่องจากมีการวางแผนซื้อและสต็อกสินค้าวัสดุก่อสร้างไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว คาดว่าจะรองรับการดำเนินงานได้อีก 1-2 เดือน ช่วงนี้มีอุปสรรคบ้างในเรื่องการขนส่งไม่สะดวก และแรงงานบางส่วนที่ต้องกลับไปดูบ้านที่ถูกน้ำท่วม

บริษัทได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด มีการเตรียมความพร้อมช่วยเหลือลูกค้า เช่นจัดเตรียมกระสอบทราย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำโครงการละ 1 แห่งเป็นอย่างน้อย ในโครงการตั้งอยู่ในจุดเสี่ยง เช่น ย่านรังสิต บางบัวทองประมาณ 10% จาก 100 โครงการ มีทั้งโครงการเก่า โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง นายอธิป กล่าวและว่า ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยอาจชะลอตัวลงเล็กน้อย

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการ คอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของแสนสิริเอง ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง เฉพาะอาคารสูงในกลุ่มคอนโดมิเนียมกว่า 20 โครงการ ซึ่งใช้ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ เช่น บริษัทสี่พระยาก่อสร้าง, บริษัทฤทธา ฯลฯ ซึ่งมีอำนาจต่อรองในการจัดซื้อวัสดุในระดับหนึ่ง ประกอบกับทุกโครงการ มีการสั่งวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า ทำให้งานไม่หยุดชะงัก มีสต็อกวัสดุให้ดำเนินการได้ 1 เดือนโดยไม่มีปัญหา

ตอนนี้แม้วัสดุที่ปรับราคาบ้าง ก็ไม่กระทบเพราะสั่งซื้อล่วงหน้าไว้แล้ว แต่หลังจากนี้หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย คงต้องมาดูในรายละเอียดกันใหม่ นายอุทัย กล่าว

รับเหมาฯ ช็อกแต่มั่นใจแค่ช่วงสั้น

นายพลพัฒ กรรณสูต นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย กล่าวเช่นเดียวกันว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงมาก ผู้รับเหมาแทบทุกรายได้รับผลกระทบคล้ายกัน คืองานต้องชะงักชั่วคราว ยิ่งหากเป็นบริษัทใหญ่ๆ ด้วยแล้ว นอกจากพักงานบางส่วนยังต้องส่งเครื่องมือเครื่องจักร บางตัวไปช่วยกอบกู้สถานการณ์น้ำท่วม ดังนั้น ปัญหาเรื่องราคาวัสดุก่อสร้างแพงขึ้น อาจเป็นปัญหาจริง แต่คงไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้รับเหมามากนัก เพราะหลายคนคงต้องพักงานไว้ชั่วคราว รอดูสถานการณ์ก่อน

เรากำลังดูว่า ผู้รับเหมาในภาพรวมกระทบมากน้อยแค่ไหน ต้องประเมินความเสียหายและผลกระทบกันก่อน ค่อยหามาตรการช่วยเหลือในภายหลัง นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างฯ กล่าวและว่า ส่วนปัญหาวัสดุบางประเภทมีราคาแพงขึ้น ก็เป็นเรื่องของดีมานด์ซัพพลาย แต่ที่รุนแรงในขณะนี้น่าจะเป็นภาวะช็อก จากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เป็นหลัก เชื่อว่าจะคลี่คลายลงได้หลังจากนี้

รับสร้างบ้านกระทบต้องหยุดงาน

นายศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า น้ำท่วมส่งผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน ทำให้ผู้ที่คิดปลูกสร้างบ้านเกิดความลังเล ชะลอตัดสินใจถือเป็นปัญหา อีกทั้ง ล่าสุดเกิดภาวะขาดแคลนสินค้าวัสดุก่อสร้าง ต้องหยุดการก่อสร้างลง โดยวัสดุก่อสร้างขาดแคลนมากที่สุด คือ ทราย ที่ถูกนำไปช่วยเหลือน้ำท่วม ถนนถูกตัดขาด ทำให้รถเข้าไปทำงานในไซต์งานไม่ได้ ล่าสุดแพลนท์คอนกรีตของซีเมนต์ไทย ซีเมนต์นครหลวง ทีพีไอ ทำหนังสือมาถึงบริษัทว่า ไม่สามารถจัดส่งคอนกรีตได้ตามแผนตกลงไว้ เพราะต้องปิดแพลนท์ย่านติวานนท์ ปากเกร็ด

ขณะที่ อิฐมวลเบา ของโรงงานคิวคอน ตั้งอยู่ที่นิคมบางปะอิน ถูกน้ำท่วม ต้องหยุดมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ยังไม่มีกำหนดว่าผลิตได้เมื่อไร ส่วนอิฐซูเปอร์บล็อก อิฐแดงหรืออิฐมอญ โรงงานใหญ่ตั้งอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี และอ่างทอง ถูกน้ำท่วมเช่นเดียวกัน

ตอนนี้งานก่อสร้างหยุดชะงัก เพราะไม่ใช่แค่สินค้าวัสดุก่อสร้างขาดแคลนเท่านั้น การขนส่งสินค้าก็มีปัญหา วัสดุหิน ทราย และอิฐบล็อก มาจากภาคเหนือและภาคกลาง อีกทั้งแรงงานเกือบทั้งหมด ต้องกลับไปดูบ้านที่ถูกน้ำท่วม คาดว่างานก่อสร้างจะชะงักไปอย่างน้อย 1 เดือน แต่ไม่กระทบภาพรวมของบริษัท เพราะใน 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายสะสมอยู่มาก

การก่อสร้างในภาพรวมชะลอตัว แต่เชื่อว่าจะเป็นช่วงสั้น


ที่มา : http://daily.bangkokbiznews.com/detail/27635

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 10:51 am
โดย pak
น้ำท่วมพ่นพิษ"ทราย"ขาดตลาด! คนแห่ซื้อใส่กระสอบ-รับเหมาบ่นอุบต้นทุนพุ่ง10%
กรุงเทพธุรกิจ, วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 10:56:08 น.


น้ำท่วมพ่นพิษ ผู้รับเหมาโอดเจอปัญหาซ้ำซ้อน 4-5 เด้ง เข้าไซต์โครงการก่อสร้างลำบาก-งานไม่เดิน-คนงานขาด แรงงานคืนถิ่นช่วยบ้านรับมือน้ำท่วม-บ่อทรายหลัก "สิงห์บุรี-พระนครศรีอยุธยา-อ่างทอง-ปทุมธานี" ถูกปิด เพราะเป็นพื้นที่ประสบภัย แถมคนแห่ซื้อตุนทำแนวคันกั้นน้ำจนเกิดภาวะขาดตลาด ผู้ค้าสบช่องปรับราคาขายเพิ่มอีก 10% อ้างบวกค่าขนส่งที่ไกลขึ้น เพราะต้องหันไปขนทรายจาก "กาญจน์-ราชบุรี-สระบุรี" นายกเทศมนตรีบึงยี่โถ "รังสรรค์ นันทกาวงศ์" ระบุเป็นช่วงนาทีทองผู้ค้าทราย ต้นทุนค่าซื้อทรายพุ่ง จากคันรถละ 3,100 บาท เพิ่มเป็น 3,500 บาท

นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สถานการณ์น้ำท่วมได้ส่งผลกระทบทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างประสบกับปัญหาค่อนข้างมาก โดยหลัก ๆ มี 2 ปัญหาใหญ่ด้วยกัน คือ 1.ผู้รับเหมาเข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้ เพราะไซต์โครงการถูกน้ำท่วมและฝนตก 2.วัสดุบางตัวปรับราคาขึ้นและหาซื้อยาก

โดยเฉพาะทรายที่นำมาใช้ก่อสร้าง พบว่าตอนนี้ประสบภาวะขาดตลาด หาซื้อได้ยากลำบากมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากบ่อทรายซึ่งส่วนใหญ่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้ถูก น้ำท่วม ทำให้เจ้าของบ่อทรายไม่สามารถดูดทรายขึ้นมาจำหน่ายได้ ขณะเดียวกัน ในหลายพื้นที่มีหน่วยงานรัฐและประชาชนเหมาซื้อไป เพื่อไปทำเป็นแนวคันกั้นน้ำ

นอกจากนี้ ผลกระทบต่อเนื่องยังรวมถึงปัญหาโลจิสติกส์ขาดช่วง ทำให้การขนส่งทรายมีอุปสรรค เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือที่เพิ่มสูงขึ้นมากและไหลเชี่ยวกราก ทำให้การขนส่งทรายทางเรือจากจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิต เช่น จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี เป็นไปด้วยความยากลำบาก ราคาขายปลีกและส่งจึงมีการปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมาก

ปัจจุบันราคาขายปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20-30 บาทต่อคิวบิกเมตร ส่วนราคาขายส่ง จากเดิมที่ขายอยู่ที่ 290-300 บาทต่อคิวบิกเมตร เป็นราคาขายอยู่ที่ 320-330 บาทต่อคิวบิกเมตร ขณะที่ราคาขายปลีกปัจจุบันอยู่ที่ 350 บาทต่อคิวบิกเมตร

นายกฤษดากล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าว ทางผู้รับเหมาได้หันไปซื้อทรายจากท่าทรายในจังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรีแทน เพราะทั้ง 2 จังหวัดนี้ยังไม่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม ราคาซื้อขายในตลาดในย่านนี้ยังไม่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และปัจจุบันราคาขายถูกกว่าที่อื่นอยู่ประมาณ 30 บาทต่อคิวบิกเมตร หรือประมาณ 300 บาทต่อคิวบิกมตร

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มอีก 1 เดือนข้างหน้านี้ ราคาขายทั้ง 2 จังหวัดนี้จะมีการขยับขึ้นอย่างแน่นอน เพราะมีคนแย่งซื้อกันมาก และอาจจะเกิดภาวะทรายขาดตลาดได้ เนื่องจากทรายที่สำรองไว้ขายอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด เพราะมีบางบ่อที่ซื้อทรายจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานีมาขายต่ออีกทอดหนึ่ง

"ตอนนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาวนเวียนในวังวนเดิม ๆ แล้ว ทุกครั้งเมื่อเกิดน้ำท่วม นอกจากทรายจะขาดตลาดและราคาแพงแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องแรงงานก่อสร้างขาดแคลน และกำลังวิกฤตหนักอยู่ในขณะนี้ เพราะแรงงานส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด หน้าทำนาก็กลับบ้านไปช่วยเกี่ยวข้าว พอเกิดน้ำท่วม แรงงานก็จะคืนถิ่นไปช่วยเหลือครอบครัวของตัวเองในการฟื้นฟูบ้านเรือน"

นายรังสรรค์ นันทกาวงศ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า จากภาวะน้ำท่วมหนักในปีนี้ ทำให้บางพื้นที่ของตำบลบึงยี่โถ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดคลองรังสิต ประสบกับปัญหาน้ำท่วม จึงทำให้เทศบาลต้องมีการสั่งซื้อทรายจำนวนมาก เพื่อนำมาบรรจุในกระสอบ ทำเป็นแนวคันกั้นน้ำ โดยทางเทศบาลมีความต้องการที่จะใช้ทรายอย่างน้อย 400-500 คัน เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน

แต่ตอนนี้เกิดปัญหาว่าแหล่งทรายที่อยู่ริมแม่น้ำถูกน้ำท่วม อาทิ นครสรรค์ พระนครศรีอยุธยา ทำให้ผู้ค้าที่ซื้อทรายมาจำหน่ายอีกทอดหนึ่งไม่สามารถ สต๊อกสินค้าได้ หากจะสต๊อกจะต้อง หาซื้อจากแหล่งอื่นในพื้นที่ไม่ถูกน้ำท่วม เช่น สระบุรี เป็นต้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายแพงขึ้น เพราะต้องบวกต้นทุนค่าขนส่ง

"ตอนนี้ ทราย นอกจากจะขาดช่วงแล้ว ยังราคาแพงขึ้น จากราคาคิวละ 310 บาท เป็น 350 บาท หรือคันละ 3,100 บาท เป็น 3,500 บาท เพราะผู้ขายต้องไปซื้อจากแหล่งอื่นที่น้ำไม่ท่วม ท่าทรายก็อยู่ไกลจากที่เดิมออกไปอีก เพื่อมาซัพพลายให้กับลูกค้า เพราะเป็นโอกาสทองที่จะทำยอดขายในช่วงนี้" นายรังสรรค์กล่าว


ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.p ... &subcatid=

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 10:52 am
โดย pak
โบรกฯ แนะซื้อหุ้นรับเหมาก่อสร้างหลังน้ำท่วมสร้างความเสียหายหนัก
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 18 ตุลาคม 2554 09:58:41 น.


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ออกบทวิเคราะห์ แนะ"ซื้อ"กลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะได้รับประโยชน์มากจากภาวะน้ำท่วมปีนี้รุนแรงสุดในรอบ 17 ปี(นับจากปี 2538) ธปท.คำนวณมูลค่าความเสียหายโดยรวม กรณีน้ำท่วมที่นิคมฯ อยุธยาสูงถึง 1 แสนล้านบาท ในระยะสั้นมีสิ่งก่อสร้างที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากที่จะต้องซ่อมแซมและบูรณาการหลังน้ำลด ไม่เพียงแต่ที่อยู่อาศัย แต่ปีนี้จะเป็นกรณีพิเศษ คือ โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่-กลางต่างๆ เช่น ผลิตรถยนต์, ชิ้นส่วนยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ

เราประเมินว่าเฉพาะโรงงานที่อยุธยาและนวนครที่ปทุมธานี จะมีโรงงานที่มีความเสี่ยงว่าจะเสียหายรวมประมาณ 700 โรงงาน หรือแม้แต่นิคมอุตสาหกรรมเอง ซึ่งจะมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ถนน โรงไฟฟ้า และโรงน้ำที่ใช้ในอุตสาหกรรม

ส่วนในระยะยาว คาดว่าภาครัฐและเอกชนจะต้องเตรียมการป้องกันภาวะน้ำท่วมในปีต่อๆมาให้เป็นระบบการจัดการน้ำแบบยั่งยืนกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการก่อสร้างโครงการกักเก็บน้ำ รับและระบายน้ำต่างๆ ให้มีประสิทธิผล เช่น การสร้างเขื่อนเพิ่ม หรือ แก้มลิงเพิ่มเติม เป็นต้น งานก่อสร้างจะเพิ่มอีกมาก

Top Pick ในหมวดผู้รับเหมาก่อสร้างคือ STEC ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งสุดในหมวดผู้รับเหมาก่อสร้าง และฐานะการเงินดี เป็นเงินสดสุทธิ ให้ราคาเหมะสมที่ 12.78 บาท


ที่มา : http://www.ryt9.com/s/iq05/1261112

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 10:56 am
โดย pak
^
^
^
"6 ข่าวข้างต้น" ที่ผมตั้งใจโพสต์มา
เพื่อจะพยายามสื่อสารว่า...

"ข่าวดี" หรือข่าวด้านบวก...ผมใช้หัวข้อข่าวเป็น "ตัวอักษรสีน้ำเงิน"
"ข่าวร้าย" หรือข่าวด้านลบ...ผมใช้หัวข้อข่าวเป็น "ตัวอักษรสีแดง"

สรุปว่าไปกันคนละทิศคนละทาง
...ฤาว่า "ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ"...ตามที่คุณลูกอิสานว่าไว้จริงๆ

(^_^)

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2011 12:55 pm
โดย Financeseed
ขอบคุณครับ

Re:

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 21, 2011 8:04 am
โดย pporkha
sattaya เขียน:ผมไม่มีหุ้นบริษัทรับเหมาเลยสักหุ้น เพราะไม่มีความรู้ด้านนี้เลย
รู้สึกว่าตัวแปรมันเยอะอย่างที่พี่ลูกอิสานบอกจริงๆ

ขอบคุณพี่ๆ ที่ให้ความรู้ครับ
ผมไม่มีหุ้นบริษัทรับเหมาเลยสักหุ้น เพราะมีความรู้ด้านนี้เลยมากเกินไป

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 07, 2011 11:58 am
โดย pak
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะครับ ที่ผมเห็นท่านอาจารย์ไม่มีมุมมองเป็น "เชิงลบ" ต่อ "กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง"
v
v
little wing เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โลกในมุมมองของ Value Investor                 5 พฤศจิกายน 54
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

	เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้  ถ้าจะวิเคราะห์ผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นนั้น  เราควรแยกความเสียหายออกเป็นสองด้านนั่นคือ  ความเสียหายจากทรัพย์สิน  และความเสียหายจากธุรกิจเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ  ยอดขายที่ลดลงในระยะสั้นและระยะยาว   โดยทั่วไปบริษัทมักจะเสียหายทั้งสองด้าน  คือทรัพย์สินเสียหาย  แล้วตามด้วยธุรกิจที่ถดถอยลง  อย่างไรก็ตาม  บางบริษัททรัพย์สินเสียหายบ้าง  แต่ธุรกิจก็ไม่ได้ด้อยลง  อาจจะดีขึ้นด้วยซ้ำ   เช่นเดียวกัน  บางบริษัท  ทรัพย์สินไม่ได้เสียหาย  แต่ธุรกิจด้อยลง   ลองมาดูกันว่าธุรกิจแต่ละอย่างถูกกระทบอย่างไร
	บริษัทที่ทำนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตที่ถูกน้ำท่วมรุนแรงนั้นต้องถือว่าเป็นผู้ที่เสียหายหนักทั้งด้านของทรัพย์สินและการเสียหายด้านธุรกิจ  ประเด็นของการเสียหายด้านทรัพย์สินนั้นมีทั้งด้านของสาธารณูปโภคของนิคมเช่น  ระบบไฟฟ้าซึ่งรวมถึงเครื่องปั่นไฟที่บริษัทมักจะผลิตไฟฟ้าขายให้กับบริษัทในนิคม  เครื่องทำน้ำประปา  ระบบบำบัดน้ำเสีย  และอื่น ๆ  อีกมาก  อย่างไรก็ตาม  ความเสียหายในส่วนนี้  บริษัทมักมีการทำประกันไว้  ดังนั้น  ก็จะได้รับการชดเชยบ้าง   แต่ทรัพย์สินสำคัญที่น่าจะเสียหายอย่างหนัก  แต่เราอาจจะยังไม่ตระหนักก็คือ  “การลดค่าของที่ดิน”  เนื่องจากทำเลนั้นกลายเป็นทำเลที่ “ไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างโรงงาน”  เนื่องจากอาจจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้อีกในอนาคต  ซึ่งการเสียหายแบบหลังนี้น่าจะสูงกว่าแบบแรก  รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่ามันเป็นความเสียหายที่ไม่มีการทำประกันไว้
	ความเสียหายทางธุรกิจของนิคมอุตสาหกรรมเองก็น่าจะสูงมาก  เหตุผลก็เพราะว่าลูกค้ารายใหม่ ๆ  ที่คิดจะซื้อที่ดินสร้างโรงงานก็คงหลีกเลี่ยงที่จะซื้อที่ดินเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกในอนาคต  จริงอยู่  นิคมอาจจะทำระบบกำแพงป้องกันน้ำท่วมแบบแข็งแรงน้ำไม่สามารถเข้าไปท่วมได้  แต่นั่นก็ไม่รับประกันว่าโรงงานที่อยู่ข้างในจะสามารถเปิดดำเนินการได้ถ้าภายนอกนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำและคนและวัตถุดิบต่าง ๆ  ไม่สามารถจะเข้าไปได้  นอกจากนั้น  การสร้างกำแพงป้องกันก็ต้องลงทุนไม่น้อย   และไม่ว่าจะเป็นกรณีใด  ราคาขายที่ดินถ้าไม่ลดลงก็คงจะไม่สามารถปรับขึ้นไปได้   ดังนั้น  ดูไปแล้ว  ธุรกิจของนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมคงจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากไปอีกนานพอสมควรทีเดียว  อย่างมากที่จะทำได้ก็คือ  ต้องไปหาทำเลใหม่และเริ่มต้นนับหนึ่งจากทำเลนั้น  ซึ่งกว่าจะเริ่มออกดอกผลก็มักจะต้องใช้เวลานานเมื่อเทียบกับเงินลงทุนที่ต้องใส่ลงไป
	บริษัททำบ้านจัดสรร  โดยเฉพาะที่มีโครงการและที่ดินเหลืออยู่ในทำเลที่ถูกน้ำท่วมหนักเช่นในย่านบางบัวทองหรือบางใหญ่  ความเสียหายของทรัพย์สินนั้นในทางบัญชีอาจจะดูเหมือนว่าจะมีน้อย  อย่างไรก็ตาม  นี่ก็เหมือนกับในกรณีของนิคมอุตสาหกรรมนั่นคือ  มันไม่ได้รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการลดค่าของที่ดินซึ่งน่าจะมีไม่น้อย  ผมเองไม่ได้มีตัวเลขที่ชัดเจน  แต่เมื่อคิดถึงตัวเองที่มีที่ดินจัดสรรอยู่ในเขตน้ำท่วมรุนแรงซ้ำซากแล้ว  ถ้าขายได้ครึ่งหนึ่งของราคาเดิมผมก็พอใจแล้ว  ในกรณีของที่ดินในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่โดนน้ำท่วมหนักในครั้งนี้  ผมคิดว่าราคาจะลดลงซัก 20-30%  ก็น่าจะเป็นไปได้
	ในส่วนของธุรกิจบ้านจัดสรรเองนั้น  ผมคิดว่าการขายบ้านที่อยู่ในเขตน้ำท่วมหนักครั้งนี้คงจะยากขึ้นมากโดยเฉพาะในช่วงปีหรือสองปีนี้  ว่าที่จริงแม้แต่บ้านที่มีการวางมัดจำหรือผ่อนดาวน์ไปบ้างแล้วก็น่าจะมีการทิ้งดาวน์ไม่ไปโอนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน  เหตุผลนอกจากการไม่อยากมีบ้านอยู่ในทำเลที่  “ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย”  แล้ว  ก็อาจจะเป็นเพราะคนที่จองซื้อไว้อาจจะมองว่าราคาของบ้านคงจะลดลงมา  ดังนั้นจึงยอมทิ้งดาวน์  และถ้าอยากจะได้จริง ๆ  ก็ค่อยไปซื้อใหม่น่าจะได้บ้านในราคาที่ถูกกว่า  ดังนั้น  ธุรกิจของบริษัทที่มีโครงการและที่ดินอยู่ในเขตน้ำท่วมหนักอย่างมีนัยสำคัญคงถูกกระทบค่อนมากในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า   วิธีการแก้ไขก็คงต้องไปทำโครงการที่อยู่ในทำเลที่ไม่ถูกน้ำท่วมรุนแรง  อย่างไรก็ตาม  นี่ก็มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงการ
	บริษัทที่เป็นโรงงานผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคและยานยนต์ที่มีโรงงานหลักอยู่ในเขตที่น้ำท่วมรุนแรงนั้น  ความเสียหายจากทรัพย์สินคงจะมีไม่น้อยทีเดียวแม้ว่าจะมีการประกันภัยไว้  เพราะนอกจากทรัพย์สินแล้ว  โรงงานคงมีค่าใช้จ่ายที่ไม่น่าจะเคลมคืนได้เช่น  ค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรงงาน  ค่าแรงคนงานที่มักจะยังต้องจ่ายในระดับถึง 75%  ของค่าแรงพื้นฐาน  สินค้าและวัตถุดิบที่เสียหาย  และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  อีกมาก
	ในส่วนของความเสียหายทางด้านธุรกิจนั้นผมคิดว่าคงมีไม่น้อยเหมือนกันโดยเฉพาะผู้ผลิตที่เป็นผู้ส่งออกทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นหลัก  เหตุผลนั้นนอกจากความเสียหายที่ไม่สามารถขายสินค้าได้ในช่วงที่โรงงานถูกน้ำท่วมเป็นเดือน ๆ  แล้ว  ในระยะยาวออกไปหลังจากที่โรงงานกลับมาดำเนินการใหม่บริษัทเองก็อาจจะประสบปัญหาในการขายได้เหมือนกันในแง่ที่ว่า  ลูกค้าเดิมนั้นอาจจะหันไปหาซัพพลายเออร์รายใหม่ไปแล้วเนื่องจากเขารอไม่ไหว   จริงอยู่  บริษัทน่าจะได้รับออเดอร์กลับมาบ้าง  แต่ผู้ซื้อก็อาจจะต้องกระจายความเสี่ยงโดยการสั่งซื้อจากที่อื่นมากขึ้นเนื่องจากเขากลัวว่าถ้าเกิดปัญหาน้ำท่วมอีกในอนาคต  การผลิตของเขาจะมีปัญหาอีกเช่นในปีนี้
	ธุรกิจเช่นพวกผู้ค้าปลีกเองนั้น  ความเสียหายจากทรัพย์สินเองมักจะมีไม่มากเนื่องจากมักจะเป็นแค่ร้านค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าที่อยู่ในเขตน้ำท่วมหนัก  เครื่องมือหรืออุปกรณ์มักมีราคาไม่สูงและน่าจะมีการประกันภัยไว้  ในส่วนของธุรกิจเอง  ความเสียหายส่วนใหญ่น่าจะมาจากยอดขายที่หายไปจากการปิดสาขาร้านที่อยู่ในเขตน้ำท่วมหนัก  อย่างไรก็ตาม  เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมแล้วก็ยังไม่มากมายนัก  ความเสียหายอีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่สินค้าขาดเนื่องจากระบบจัดส่งสินค้าขัดข้องเนื่องจากศูนย์กระจายสินค้าถูกน้ำท่วม  อย่างไรก็ตาม  ยอดขายที่ลดลงนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องระยะสั้น  เมื่อน้ำลดหรือระบบกระจายสินค้าทั้งที่เป็นศูนย์ชั่วคราวหรือศูนย์เดิมทำงานได้แล้ว   ยอดขายก็จะกลับมาเป็นปกติ  ผลกระทบระยะยาวมีน้อยมาก
	สุดท้ายก็คือบริษัทที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูบ้านหรือสิ่งก่อสร้างหลังน้ำลด  นี่รวมถึงผู้ขายวัสดุและผู้รับเหมาก่อสร้าง  บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะไม่ใคร่ถูกกระทบในด้านของทรัพย์สินที่เสียหายจากน้ำท่วมใหญ่  ในด้านของธุรกิจเองนั้น  ในช่วงน้ำกำลังท่วมบริษัทอาจจะมียอดขายที่ลดลงบ้างเนื่องจากปัญหาการคมนาคมและตัวลูกค้าและคนงานที่อาจจะพะวงอยู่กับปัญหาน้ำท่วม   แต่หลังจากน้ำลดลงแล้ว  ธุรกิจก็จะเฟื่องฟูมากจน  “ทำไม่ทัน”  และมากกว่ายอดขายที่เสียไป  ยอดขายหรือธุรกิจที่ดีขึ้นนี้น่าจะดำรงอยู่อย่างน้อยก็ 1-2 ปีขึ้นไป  และต้องถือว่านี่คือกลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จากน้ำท่วมใหญ่  ในขณะที่กลุ่มอื่นทั้งหมดนั้น  โดยรวมแล้วมักจะเสียหายหรือขาดทุนหรืออย่างมากก็เสมอตัวในเหตุการณ์วิกฤติน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 07, 2011 11:59 am
โดย pak
KBANK มีปัจจัยบวกเอื้อหนุน ปล่อยกู้กลุ่มรับเหมาหลังน้ำลด [ นสพ.ทันหุ้น, 7 พ.ย. 54 ]

KBANK ขอลุ้นอีกเฮือก เดินหน้าดันสินเชื่อรายใหญ่เติบโตเข้าเป้า 4-6% แม้ปัญหาน้ำท่วมสร้างความ
เสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิต แต่ยังเห็นลูกค้าเบิกใช้วงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นเพื่อปรับปรุงเครื่องจักร คาด
ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2554 ติดลบแน่นอน หลังภาคส่งออกส่อแววชะลอตัวทั้งที่เป็นช่วงไฮซีซัน แต่หวังสิน
เชื่อปี 2555 กลับมาพีคปลายไตรมาส 1/2555 มองกลุ่มรับเหมารับอานิสงส์ช่วยฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำ
ท่วม
ด้านโบรกส่องราคาหุ้นมีลุ้นวิ่งทดสอบ 126.00 บาท

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2011 10:01 am
โดย pak
ITD-CK-NWRชิงอุโมงค์บางซื่อ2.5พันล้าน [ นสพ.ข่าวหุ้น, 24 พ.ย. 54 ]

รายงานข่าวจากสำนักงานระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับ "ข่าวหุ้นธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 22
พฤศจิกายนที่ผ่านมาสำนักการระบายน้ำ กทม.ได้เปิดให้ผู้รับเหมายื่นซองประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
(อี-ออคชั่น) โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ มูลค่าก่อสร้าง 2,457 ล้านบาท เป็น
อุโมงค์ยักษ์แห่งที่ 2 จากทั้งหมด 4 แห่ง ตามนโยบายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ที่มี
เป้าหมายจะนำมาใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯอย่างยั่งยืนต่อไป

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 24, 2011 10:07 am
โดย pak
เครือฤทธาดัมพ์ถูกกว่าคู่แข่งไซมิสฯ ชูคุมต้นทุน-กันน้ำท่วม สั่งลุย 3 โครงการมูลค่า 6 พันล. [ โพสต์ทูเดย์, 24 พ.ย. 54 ]

ไซมิส แอสเสท บุกตลาดอสังหาฯ หรู ชูจุดขายถูกกว่า คู่แข่งในแต่ละทำเล 30-40% พร้อมวางแผน
ป้องกันน้ำท่วมหนัก

นายขจร แซ่xxx กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเครือฤทธา
บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัว
3 โครงการใหม่มูลค่ารวมกันกว่า 6,000 ล้านบาท

=======================================================

ว่าแต่ "เครือฤทธา"? นี่ของใครครับ ผมเห็นว่าได้งานใหญ่ๆเยอะมากครับ

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 28, 2011 9:26 am
โดย pak
กลต.หนุนกองทุนอินฟราฯ ยกผลตอบแทนสูงไม่เสียภาษี แถมช่วยชาติ [ นสพ.ทันหุ้น, 28 พ.ย. 54 ]

ก.ล.ต.ลุยแผนพัฒนาระบบการลงทุนหลังน้ำลด หนุนประชาชนลงทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน จุด
เด่น ได้ผลตอบแทนสูงไม่ต้องเสียภาษีในส่วนของเงินที่ได้จากปันผล แถมยังได้ช่วยพัฒนาชาติไม่ต้องสร้างหนี้
สาธารณะเพิ่ม

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2011 11:09 pm
โดย chezilla
ขอตอบแบบวิศวกรโยธาหน่อยนะครับ

สำหรับเพื่อนๆหลายท่านที่ไม่รู้ว่า "ฤทธา" มีดีขนาดไหน?

ฤทธา เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความสามารถสูงมากในการควบคุมเรื่องของ "เวลา, คุณภาพและต้นทุน"

ซึ่งเป็นหัวใจหลักของงานรับเหมาก่อสร้าง และนั่นคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
ลูกค้าบางเจ้าไม่ได้เลือกที่ "ราคาต่ำที่สุด" (อย่าง Fashion Island นั่นจริงๆราคาของฤทธาแพงกว่าราคาต่ำสุดพอสมควร)

สตาฟท์ที่เป็นวิศวกรหน้างาน (เพื่อนๆผมนี่ล่ะ) เดินจี้ผู้รับเหมาช่วงแทบจะเดินทำงานด้วยกัน
"โอที" เต็มที่ ถ้างานได้โปรเกรสทันเวลา (ใช้คนงานไทย ไม่อิงต่างด้าวเหมือนบริษัทอื่น)
จัดซื้ออย่างสมเหตุสมผล และที่สำคัญคือ ประสบการณ์ในการเลือกใช้งานสินค้าทางวิศวกรรมต่างๆอย่างฉลาด
(ที่ทราบเพราะผมเป็น supplier ของฤทธา)

และจากการได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของฤทธา ณ ตอนนี้ไม่มีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
เพราะไม่มีความจำเป็นต้องระดมทุน กระแสเงินสดไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีพันธมิตรในวงการอีกหลายบริษัท
ที่่ร่วมทุนเห็นเด่นชัดคือ RTH ซึ่งบริหารในสไตล์เดียวกันกับฤทธา แต่ต้นทุนถูกกว่า รับงานในตลาดล่างลงมา


ส่วนมากฤทธารับงานอาคารสูง(ยิ่งสูงยิ่งชอบ)เป็นหลัก น้อยมากที่จะรับพวกโครงสร้างพืนฐาน
สามารถเป็นคู่แข่งที่สูสีกับบริษัทดังจากแดนปลาดิบได้เลยล่ะครับ ในเรื่องคุณภาพ


คร่าวๆเท่านี้ก่อนนะครับ

ขอบคุณครับ

^_^

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 13, 2011 9:38 am
โดย pak
chezilla เขียน:ขอตอบแบบวิศวกรโยธาหน่อยนะครับ

สำหรับเพื่อนๆหลายท่านที่ไม่รู้ว่า "ฤทธา" มีดีขนาดไหน?

ฤทธา เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความสามารถสูงมากในการควบคุมเรื่องของ "เวลา, คุณภาพและต้นทุน"

ซึ่งเป็นหัวใจหลักของงานรับเหมาก่อสร้าง และนั่นคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
ลูกค้าบางเจ้าไม่ได้เลือกที่ "ราคาต่ำที่สุด" (อย่าง Fashion Island นั่นจริงๆราคาของฤทธาแพงกว่าราคาต่ำสุดพอสมควร)

สตาฟท์ที่เป็นวิศวกรหน้างาน (เพื่อนๆผมนี่ล่ะ) เดินจี้ผู้รับเหมาช่วงแทบจะเดินทำงานด้วยกัน
"โอที" เต็มที่ ถ้างานได้โปรเกรสทันเวลา (ใช้คนงานไทย ไม่อิงต่างด้าวเหมือนบริษัทอื่น)
จัดซื้ออย่างสมเหตุสมผล และที่สำคัญคือ ประสบการณ์ในการเลือกใช้งานสินค้าทางวิศวกรรมต่างๆอย่างฉลาด
(ที่ทราบเพราะผมเป็น supplier ของฤทธา)

และจากการได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของฤทธา ณ ตอนนี้ไม่มีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
เพราะไม่มีความจำเป็นต้องระดมทุน กระแสเงินสดไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีพันธมิตรในวงการอีกหลายบริษัท
ที่่ร่วมทุนเห็นเด่นชัดคือ RTH ซึ่งบริหารในสไตล์เดียวกันกับฤทธา แต่ต้นทุนถูกกว่า รับงานในตลาดล่างลงมา


ส่วนมากฤทธารับงานอาคารสูง(ยิ่งสูงยิ่งชอบ)เป็นหลัก น้อยมากที่จะรับพวกโครงสร้างพืนฐาน
สามารถเป็นคู่แข่งที่สูสีกับบริษัทดังจากแดนปลาดิบได้เลยล่ะครับ ในเรื่องคุณภาพ


คร่าวๆเท่านี้ก่อนนะครับ

ขอบคุณครับ

^_^
ขอบคุณคุณ Chezilla มากๆนะครับ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ

Re: ถือหุ้นรับเหมาแล้วเหนื่อยใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 13, 2011 9:39 am
โดย pak
ITD firms Dawei project
Source - Bangkok Post (Eng), Tuesday, December 13, 2011
NUNTAWUN POLKUAMDEE


Steel mill estimate runs to B300bn

Italian-Thai Development expects to allot 40,000 rai of industrial land in Burma’s Dawei project next year, with plans calling for a 300-billion-baht steel mill, says ITD president Premchai Karnasuta.

The industrial estate will also comprise a fertiliser factory and petrochemical refineries. The basic infrastructure for industrial use is expected to be com-pleted and ready to operate in 2015.

Mr Premchai said the steel mill would sit on 12,000 rai of land, with an investment of as much as 300 billion baht,and ITD would have a Japanese partner.

The mill would have a production capacity of 10 million tonnes per year,and also make downstream products for industrial and electronic uses.

Separately, ITD is negotiating with the national energy flagship, PTT, in an oil-and-gas venture.

The company previously succeeded in selling 3,000 rai of land to Ratchaburi Holding for building power plants, with revenue to be realised in 2012.

Mr Premchai said land prices in the Dawei project were on par with those in Map Ta Phut in eastern Thailand.But Dawei will include a deep-sea port that can serve a large bulk weight of 80,000 tonnes and 55 vessels at once.

Construction is completed on a 132-kilometre road from Thailand to Dawei. The first phase of the deep-sea port is expected to begin soon and conclude in the next four years, with all infrastructure in the area to be finished within a decade.

ITD has been seeking investment partners since the Burmese government granted it a 75-year concession o 160,000 rai in Dawei. It arranged roadshows in China, Japan, South Korea,India and elsewhere. ITD’s investment in the project is projected to be about US$8 billion.

According to an industry source, PTT will partner with ITD in a3,000-megawatt coal-fired power plant in Dawei. The investment value of the plant is seen as high as $4 billion. The Electricity Generating Authority of Thailand is a potential buyer of power output from the plant.

Cement and paper plants are also planned for Dawei, Mr Premchai said.

Shares of ITD closed on Friday on the Stock Exchange of Thailand at 3.84 baht, down 4 satang, in trade worth 335.7 million baht.


Source: Bangkok Post