มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์ที่ 31

โพสต์

sword in heart เขียน:ถ้าผมเป็นเสี่ยแก มีตั้ง 700 ล้าน ผมพอแล้วครับ
หาหุ้นดีๆ  มี MOS มีปันผลซัก 7-8% แล้วถือยาวไปเลย
ปีหนึ่ง ปีหนึ่ง รับปันผลอย่างเดียวก็เหนาะๆ 50 ล้าน
ไปเที่ยวให้สบายใจเฉิบ ไม่ต้องมาเครียดเฝ้าหน้าจอดูราคาทุกวัน
:8) คุยกันขำๆนะ
     มีเซียนอยู่ท่านนึงเคยเล่าให้ผมฟังว่า
     ตอนนี้เปรียบไปก็เหมือนกัปตันที่เครื่องบินอยู่2หมื่นฟุตปลอดภัยแล้ว
     กำลังนั่งจิบกาแฟสบายใจอยู่
     ผมนึกในใจว่า
     ถ้า เป็นผม
     ไม่จิบกาแฟอย่างเดียวหรอกครับ
     คงต้องเรียกแอร์เข้ามานั่งคุยด้วย จึงจะดี
     แต่จนแล้วจนรอด ก็ได้แต่ ถ้า เพราะมันไม่เกิดขึ้นจริงซักที
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
กระบี่อยู่ที่ใจ
Verified User
โพสต์: 307
ผู้ติดตาม: 0

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์ที่ 32

โพสต์

por_jai เขียน:sword in heart wrote:
ถ้าผมเป็นเสี่ยแก มีตั้ง 700 ล้าน ผมพอแล้วครับ
หาหุ้นดีๆ  มี MOS มีปันผลซัก 7-8% แล้วถือยาวไปเลย
ปีหนึ่ง ปีหนึ่ง รับปันผลอย่างเดียวก็เหนาะๆ 50 ล้าน
ไปเที่ยวให้สบายใจเฉิบ ไม่ต้องมาเครียดเฝ้าหน้าจอดูราคาทุกวัน


คุยกันขำๆนะ
    มีเซียนอยู่ท่านนึงเคยเล่าให้ผมฟังว่า
    ตอนนี้เปรียบไปก็เหมือนกัปตันที่เครื่องบินอยู่2หมื่นฟุตปลอดภัยแล้ว
    กำลังนั่งจิบกาแฟสบายใจอยู่
    ผมนึกในใจว่า
    ถ้า เป็นผม
    ไม่จิบกาแฟอย่างเดียวหรอกครับ
    คงต้องเรียกแอร์เข้ามานั่งคุยด้วย จึงจะดี
    แต่จนแล้วจนรอด ก็ได้แต่ ถ้า เพราะมันไม่เกิดขึ้นจริงซักที
จะไปฟ้องอาซ้อ อิอิ  :lol:
adi
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์ที่ 33

โพสต์

กระบี่อยู่ที่ใจ เขียน:
แสดงว่า เสี่ยแกไม่ตกผลึกแนวการลงทุนแบบ vi
แนวการลงทุนแบบ vi สอนให้นักลงทุนสร้างภูมิคุ้มกันชั้นยอด
นั่นคือ
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์ที่ 34

โพสต์

[quote="chatchai"]ผมไม่ค่อยชอบประโยค
กระบี่อยู่ที่ใจ
Verified User
โพสต์: 307
ผู้ติดตาม: 0

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์ที่ 35

โพสต์

adi เขียน:กระบี่อยู่ที่ใจ wrote:
Quote:
เพราะผมคิดว่ายอมขาดทุนถือเงินสดเอาไว้ดีที่สุด เรามีโอกาสแก้ตัว แต่กับอีกคนๆหนึ่งที่เล่นหุ้นสไตล์ "แวลู อินเวสเตอร์" ถือหุ้นอยู่ 1,000 ล้านบาท "เต็มพอร์ต" วันไหนที่ตลาดหุ้นเกิด "แพนิค" (ตื่นตระหนก) วันเดียว เงินคุณหายไปเท่าไร "...


แสดงว่า เสี่ยแกไม่ตกผลึกแนวการลงทุนแบบ vi
แนวการลงทุนแบบ vi สอนให้นักลงทุนสร้างภูมิคุ้มกันชั้นยอด
นั่นคือ  Margin of safety.
ยาวิเศษขนานแท้ ที่คุณมนตรี เคยว่าไว้
ตัวอย่างเห็นๆ ที่ผมประสบกับตนเอง คือ เหตุการณ์วันมาตรการ 30%
ลักษณะมันก็คล้ายกับ 911 ที่เสี่ยแกพูดถึง ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า
ที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครรู้มาก่อน ยกเว้น บิน ลาเดน กับ หม่อมอุ๋ย
ถามว่า ใครมันจะไปขายทัน โดยเฉพาะพอร์ตระดับเสี่ย
ความเสียหายจะหนักกว่าพอร์ตเล็กๆของนักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ เสียด้วยซ้ำ
เพราะต่างคนต่างตกใจขายหนีตายกัน เป็นโดมิโน.......
แต่สำหรับผม วันนั้นพอร์ตรวมของผม ยังเขียวครับ
จำได้ว่า ผมลงทุน อยู่ 3 ตัว ตัวหลักยังเขียวแม้ว่า กำไรจะลดลงอย่างหน้าใจหาย
ซึ่งหากผมตกใจขายตาม ก็ขายหมูล่ะครับเสี่ย ก็ราคามันลงมาไม่ถึงต้นทุนผมเลย
แล้วจะให้ผมขายทำไม!!!!! แล้วตัวนี้มันก็กลับมาให้ผมกำไรเป็น เด้ง เด้ง




อย่าเอาต้นทุนมาตัดสินใจซื้อขายสิครับ
โอ้! แน่นอนครับ ผมไม่ได้ใช้ต้นทุนในการตัดสินใจซื้อขายอย่างเดียวหรอกครับ
แนวทางการลงทุนแบบ vi ต้องพิจารณาอีกหลายด้านผมทราบดี!!!!
เพียงแต่ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะพูดมากไปเดี๋ยวเพื่อนในเวปจะเอียนพาลอ้วกกันเสียก่อน
แต่เมื่อเราคิดว่าเจอของดีแล้ว ข้อสำคัญคือ ราคาต้องมีส่วนเผื่อความปลอดภัย
ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก:-
                 - การที่เราวิเคราะห์กิจการผิดพลาด
                    - เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
                    - การไม่มีสภาพคล่องของหุ้น

เพราะเมื่อไรเราประสบกับกรณีดังกล่าวข้างต้นแล้ว อย่างน้อย ก็ช่วยให้เราไม่ขาดทุนหรือขาดทุนน้อยกว่าชาวบ้านเค้า
sunrise
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2273
ผู้ติดตาม: 0

มองต่างมุม "แวลู อินเวสเตอร์"

โพสต์ที่ 36

โพสต์

แนวทางแตกต่างเท่านั้นเอง

เสี่ยยักเค้ามีทางของเค้า
นักลงทุนแบบ VI มีทางแบบของเรา
แค่ vi ยังมีวิธีการหลากหลายเลย
ดังนั้นเราคงไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด

ดังนั้นผมว่าตอนนี้ดูแลแค่ตัวเราใช้วิธีที่เราพอใจแล้วก็ไม่เบียดเบียนคนอื่นก็พอ
แล้วจะเราจะสบายใจในการลงทุน
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่