Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เอาน่า...ซื้อตัวไหนก็ทัน

หุ้นขึันงวดนี้มันมีเหตุผลรองรับเหมือนกันนะครับ  
แต่นักลงทุนมักจะมองข้ามไป

ใครฝากเงินธนาคารจะรู้ดีว่า  
"ผลตอบแทนจากการอยู่เฉยๆ  ตอนนี้มันต่ำติดดินจริงๆ"

สู้เอามาเก็งกำไรราคาหุ้นไม่ได้

นักลงทุนแนววีไอ มักจะหลงประเด็น
เอาหุ้นดีๆ  ไปปนกับราคาหุ้นดีๆ
แล้วก็หงุดหงิดที่หุ้นดีๆของตัวเราเองไม่ขึ้น

ความจริงที่ต้องแยกแยะให้ออกก็คือ

หุ้นดีๆ  
เกิดจากการกระทำของคนในบริษัทจดทะเบียน

ราคาหุ้นดีๆ  
เกิดจากการกระทำของเงินที่มีอำนาจซื้้อนำในตลาดหลักทรัพย์


ถ้าเงินที่อำนาจซื้้อนำในตลาดหลักทรัพย์
ไม่ลงมือซื้อหุ้นดีๆที่เราถืออยู่
ราคาหุ้นมันจะดีขึ้นไปได้ยังไง

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 09918.html



:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ศรี ธน ได้ หรือเปล่า

ลึกล้ำ สมเป็นเฮีย เอ็นโด

ยินดีกับเฮีย เอ็นโดด้วยนะครับ

ยังไงก็ช่วยปลอบใจ คนตกรถ แถวๆ นี้ (รวมผมด้วย) นะค้าบบบบ

ดีที่พอซื้อ bluechip ได้ทันวันพุธ  ขายวันศุกร์ ก็ได้กำไรแล้ว เกือบ 20% ....


ขนมหวาน คราวนี้ อร่อยกว่า เมนคอร์ส อีกนะเนี่ย

ช่วงนี้หุ้นอื่นขึ้นกันกระจุย
แต่หุ้นผมเฉยๆมาก

ฮืมมมมมมมมมม ปรับพอร์ทไงดีน้อ....

คลายเครียด เขียน:ความจริงที่ต้องแยกแยะให้ออกก็คือ
หุ้นดีๆ เกิดจากการกระทำของคนในบริษัทจดทะเบียน
ราคาหุ้นดีๆ เกิดจากการกระทำของเงินที่มีอำนาจซื้้อนำในตลาดหลักทรัพย์

ผมให้เป็นวาทะแห่งปีเลยครับเฮีย ...

ส.สลึง เขียน:ผมให้เป็นวาทะแห่งปีเลยครับเฮีย ...

เห็นด้วยอีกเสียงครับ
ถูกต้องจริงๆครับ

เพราะฉะนั้น...
สิ่งที่ VI ควรทำ ...
คือเป็นเจ้าของหุ้นดีๆ
ที่ราคาหุ้นยังไม่โดดเด่น
และยังไม่เป็นที่สนใจของอำนาจซื้อในตลาดครับ

ส่วนหุ้นอะไรที่ไม่ดี ไม่ได้เจ๋งเป้งอะไร
ถึงราคาจะขึ้น ติดปีก หรือบินอย่างจรวด
ก็ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ

ถือซะว่าเสียดาย ดีกว่าเสียใจ
รอของแน่ๆ ชัวร์ๆ กันดีกว่าครับ ...

พอต่างชาติเริ่มเข้ามาซื้อ หุ้นที่พวกเขาสนใจและมีสภาพคล่องให้ซื้อได้ส่วนใหญ่อยู่ในบลูชิพ รายย่อยที่เคยซื้อหุ้นเหล่านี้ไว้ก็กระเป๋าตุงไปตามๆกัน รายย่อยก็ทยอยขาย ในที่สุดเงินที่รายย่อยขายและกำไรที่ได้ก็จะหันมาหาหุ้นตัวเล็กๆที่ผลประกอบการออกมาดีและราคายังไม่ไปไหน ในที่สุดราคาก็จะปรับตัวขึ้นไปครับ เมื่อวานนี้(13พ.ค.52)ผมเห็นหลายตัวเริ่มขึ้นกันบ้างแล้วครับ ผมเชื่อตั้งแต่นี้ไปถึงอาทิตย์หน้า หุ้นวีไอที่ผลประกอบการออกมาดีจะเริ่มวิ่งแล้วครับ :lol:

ชัดเจนแจ่มแจ้งมากครับเฮีย KK

naijan เขียน:พอต่างชาติเริ่มเข้ามาซื้อ หุ้นที่พวกเขาสนใจและมีสภาพคล่องให้ซื้อได้ส่วนใหญ่อยู่ในบลูชิพ รายย่อยที่เคยซื้อหุ้นเหล่านี้ไว้ก็กระเป๋าตุงไปตามๆกัน รายย่อยก็ทยอยขาย ในที่สุดเงินที่รายย่อยขายและกำไรที่ได้ก็จะหันมาหาหุ้นตัวเล็กๆที่ผลประกอบการออกมาดีและราคายังไม่ไปไหน ในที่สุดราคาก็จะปรับตัวขึ้นไปครับ เมื่อวานนี้(13พ.ค.52)ผมเห็นหลายตัวเริ่มขึ้นกันบ้างแล้วครับ ผมเชื่อตั้งแต่นี้ไปถึงอาทิตย์หน้า หุ้นวีไอที่ผลประกอบการออกมาดีจะเริ่มวิ่งแล้วครับ :lol:

แซวหน่อยนะ ถ้าเป็นแบบนี้จริง เล่นแบบรายย่อยที่ว่านี้ ได้ตังส์เยอะกว่า แนว VI สินะ  :lol:

ขอบคุณครับ

ผมเคยคิดเอาไว้เล่นๆแบบนี้ครับ


ผมลองแบ่งหุ้นตามสไตล์เทมเปิ้ลบ๊อกซิ่งออกเป็น ๔ ประเภท

๑ หุ้นดี ๆ   แต่ราคาหุ้นไม่ดี
แบบนี้เรียกว่า
โพซิถีบ ไดเวอร์เจ๊ง


๒ ห้นดีๆ  และราคาหุ้นดีๆ
แบบนี้เรียกว่า
โพซิถีบ คอนเวอร์เจ๊ง

๓ หุ้นเน่าๆ  แต่ราคาหุ้นดีๆ
แบบนี้เรียกว่า
เนกาถีบ  ไดเวอร์เจ๊ง


๔ หุ้นเน่าๆ  และราคาหุ้นเน่าๆ
แบบนี้เรียกว่า
เนกาถีบ คอนเวอร์เจ๊ง




ผมว่าหุ้นแบบที่ ๑  จะทำกำไรได้มากที่สุด
ถ้าเข้าซื้อในตอนเกิดสภาพแบบนั้นเช่น top pttar  irpc ptt bcp banpu

ส่วนหุ้นแบบที่  ๓  จะทำขาดทุนให้อย่างยับเยินที่สุด
ถ้าเข้าซื้อในตอนนั้นเช่นกัน เช่น  live  iec  bliss

ส่วนหุ้น ๒ กับ ๔
ภาษาพวกกูรู้บอกว่า
หุ้นตอบรับกับผลประกอบการและตั๋วคลายไปแล้ว
ก็เลยกำไรไม่มาก  เจ๊งก็ไม่ค่อยจะหนัก  เช่น pb








และ n-park



:lovl:  :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:

ไอ๊หย๋า  แบ่งสี่กลุ่มมันเจ๊งหมดเลยครับพี่ คลายเครียด    มีกลุ่มไหนเจ๋งๆน่าสนใจกว่ามั่งครับ :lol:  :lol:  :lol: