Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

นี่คือรายชื่อหุ้นที่ส่งไปให้ นักวิเคราะห์ทั้ง 3 ท่าน นะครับ

SVI     SPALI   CPF  
HMPRO B IGC  MAKRO   STANLY    BANPU    TMB   BLA  
UEC   STA   SOLAR    TICON   KH   TNH  IVL   SENA   BAY  
MINT   EASTW     IT    KK   PTTAR
KCAR  MODERN  SIS   MCS  LANNA  

ตามผลกันวันเสาร์ที่ 20 กพ นะครับ

[quote="เด็กใหม่ไฟแรง"]นี่คือรายชื่อหุ้นที่ส่งไปให้ นักวิเคราะห์ทั้ง 3 ท่าน นะครับ

SVI

ที่เสนอกันเข้ามา น่าสนใจทั้งนั้นเลย ยังไงก็ไม่พลาดแน่นอนครับ
แล้วก็อยากจะให้ขอให้ท่านนักวิเคราะห์ช่วยเปรียบเทียบในกลุ่มสื่อหน่อยครับ ระหว่าง BEC, MCOT กะ NBC หน่อยคับ
เห็นช่วงนี้แข่งกันปรับปรุงกันยกใหญ่เลยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ เด๋วไปบอกเพื่อนๆต่อว่าไม่มีเมล์คอนเฟิร์มครับ

เสียดายจัง ติดสอนไปไม่ได้

รอดูทาง DVD นะครับ

ตก SAD เอ้ย SAT ไปได้อย่างไรนี่

เต็มแล้วเหรอครับ

เข้าไปในเว็บ แล้วไม่มีให้จองแล้วน่ะครับ

can i wait for watching the dvd? i am not in thailand, yet.    

 :D   ขอบคุงครับพี่เด็กใหม่ไฟแรง  ลงทะเบียนเน็ต  แล้วไปหน้างานเลยย ...........ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับพี่เด็กใหม่ไฟแรง

คราวหน้าคงต้องให้ไวกว่านี้  :D

how was the analysis krab?
Could somebody give a brief, please?

อยากพบปะกับนักลงทุน VI =j;pcotoesojvp8iy[

การสัมมนาวันนี้จะมีลักษณะให้นักวิเคราะห์แต่ละท่านเลือกหุ้นที่ชอบมา 5ตัวนะครับ แล้วให้อ.นิเวศน์ Comment
โดย
สุกิจ อุดมศิริกุล  เลือก (เรียงจากตัวชอบน้อยไปมากนะครับ)
1. mint พูดถึงเรื่องแนวโน้มว่าน่าจะฟื้นตัวจากปีทีแล้วได้ และลักษณะการทำธุรกิจหลากหลาย มีอาหาร โรงแรม และล่าสุดเริ่มมีการทำเรื่องอสังหา โดยทำคอนโดระดับกลุ่มไฮเอนด์ เปิดที่ราชดำริ โดยจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ ไตรมาส 3 ปีนี้  ให้ราคาที่ 13 บาท(ดร.นิเวศน์ ก็พูดว่าตัว mint ก็เป็นธุรกิจที่ดี มีการทำธุรกิจที่หลากหลาย รวมถึงการไปลงทุนที่ต่างประเทศซึ่งก็มองว่าน่าจะโตได้อีกเยอะ แต่ว่าก็มีจุดที่ต้องระวังในเรื่องของการเมืองก็อาจกระทบกลุ่มนี้ได้ และก็ต้องระวังในเรื่องของการไปลงทุนที่ต่างประเทศนั้นอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างที่ทำในไทยได้)
2. Modern พูดถึงว่าเป็นบริษัทที่มีแนวโน้มที่ดีในปีนี้บอกว่าจะทำกำไรในไตรมาสสี่ปี52 สูงเป็นประวัติการณ์ และบอกว่า Modern ถือหุ้นใน Tpac (พึ่งรู้เหมือนกัน) ด้วยเหมือนกันซึงปีนี้ก็กำไรดีเหมือนกัน โดยให้ Fair price ที่ 40 บาท (ดร. แกก็บอกว่าบริษัทเป็นบริษัทที่โลกลืม ติดตลกสไตล์แก โดยบอกว่าอาจจะดีก็ได้ แต่อุตสาหกรรมผลิตเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องระวังเพราะอาจขายไปได้เรื่อยๆไม่โตเทาไหร่ ซึงแกก็บอกว่ารุ่นพี่แกก็ทำเฟอร์นิเจอร์อยู่ก็เรื่อยๆเหมือนกัน แข่งขันสูง และนอกจากนี้ที่ต้องระวังก็ ซื้อได้อาจขายไม่ออกก็ต้องระวัง
3. Stanly พูดถึงแนวโน้มว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ปีนี้น่าจะฟื้นตัวเนื่องจากยอดขายรถยนต์ในเดือนธันวาคม และมกราคมเริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ บริษัทก็ดำเนินงานมานานผ่านประสบการณ์มาเยอะ แถมหนี้น้อยมาก เป็นผู้นำตลาดด้านโคมไฟรถยนต์จริง โดย รายได้มาจาก โคมไฟรถยนต์ 60กว่าเปอร์เซนต์
โคมไฟรถจักรยานยนต์ 30กว่าเปอร์เซนต์ ส่วน Mkt Share ของโคมไฟรถยนต์ ก็ประมาณ 60เปอร์เซนต์ของตลาดรถยนต์ และ Mkt Share ของโคมไฟ
รถจักรยานยนต์ 98 เปอร์เซนต์ ดังนั้นถ้ากลุ่มรถยนต์ฟื้น Stanly ก็น่าจะกลับมาได้ โดยให้ Fair price ที่ 135 บาท (ดร. แกก็บอกว่า Stanly เป็นบริษัทที่ดี มีประสบการณ์ เสมอต้นเสมอปลาย เก่งด้านอุตสาหกรรมจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกว่าเก่งด้านอุตสาหกรรม ก็อาจดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แต่ว่าเนื่องจากอุตสาหกรรมอาจต้องใช้เงินลงทุนเยอะ เวลากำไรมาเยอะก็ไม่อาจปันผลได้เยอะ เนื่องจากต้องนำเงินไปลงทุนซื้อเครื่อง โรงงานต่อ ทำให้เงินจมไปกับพวกนี้เยอะ แต่แกก็บอกว่าก็โอเค)
4. Kbank เป็นธนาคารที่มองแล้วเป็นธนาคารแห่งอนาคต มีการทำธุรกรรมหลายอย่าง โดยที่รายได้นอกจากจะได้มาจากเรื่องของดอกเบี้ยแล้วยังมีด้านอื่นๆ อีกในเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ และยังมองว่าเป็นธนาคารตัวที่ขึ้นไปยังไม่ได้เยอะมาก ลองมองแล้วถ้าเศรษฐกิจดี บ้านเมืองสงบ ราคาน่าจะไปได้ประมาณ 90 บาท (ดร.ก็บอกว่าเป็นธนาคารที่ดีน่าจะไว้ใจได้ ถ้าราคาหุ้นอยุ่ PE 10 เท่าก็ซื้อไม่ต้องคิดอะไรมากถ้ายังไม่เจอหุ้นถูกใจอาจจะไปเข้าที่ตัวนี้ก่อน)
5. Hmpro เป็นกลุ่มค้าปลีกที่มองแล้วน่าจะโตได้มากกว่า15 เปอร์เซนต์ต่อปี ไปได้อีก 3ปีเป็นอย่างต่ำ โดยปีล่าสุดก็เติบโตขึ้นมาอีก 19เปอร์เซนต์ ให้ราคาที่ 6 บาท (ดร. ก็พูดรวบตัว Cpall กับ Hmpro ทีเดียวเลยว่า หุ้นกลุ่มนี้มันจัดเป็นพฤติกรรมของคนไปแล้ว เดี๋ยวคนต้องเข้า7-11 เป็นเรื่องปกติ และยังมองแนวโน้มว่าหลังจาก 2 บริษัทนี้ยังเพิ่ม margin ได้อีกเยอะ โดย 7-11 เพิ่มได้ในเรื่องการนำอาหารมาจำหน่ายในร้านเพิ่มมากขึ้น ส่วนตัว Hmpro เพิ่มโดยการทำ House Brand มาขายที่ร้านเพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้ไปต่อได้อีกเยอะ )
อันนี้ของคุณสุกิจก่อนนะครับ แล้วจะมาต่อเพิ่มนะครับ
ส่วนSeries ของการเรียงไม่แน่ใจว่า Kbank หรือ modern ที่สลับที่นะครับ
พิมสดๆเลยนะครับไม่ได้เลกเชอร์คำพูดอาจผิดพลาดไปได้นะครับ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณ คุณ peodpeod55 มากครับ  

ขอบคุณมากครับ อยู่ต่างจังหวัดได้ข้อมูลจาก web นี้ web เดียวเลย อุตส่าห์เผยแพร่ความรู้ให้  :D  :D

ขอบคุณมากๆๆครับ จะรออ่านต่อนะครับ

สุดยอดเลย  :lol:

มาต่อกันเลยนะครับ
คุณพิชัย เลิศสุพงษ์กิจ
1. ตอนแรกจะเลือกตัว CPF แต่มีคนเลือกก่อนเลยเลือกมาเป็น IVLแทนนะครับซึงตัวนี้มาแทน ตัว IRP และมองว่าแนวโน้ม PTA PET Polyester ปีนี้น่าจะดี แกให้ราคาไว้ที่ 13 บาท(ขออนุญาตนะครับตัวนี้ผมฟังนักวิเคราะห์พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเนื่องจากแกพูดเบา ประกอบกับเป็นตัวที่ผมไม่ได้ศึกษาทำให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนนะครับ)
มาฟัง ดร.พูดแทนละกันครับ แกก็บอกว่าแกไม่ได้ศึกษาพวกกลุ่มนี้เหมือนกัน แต่ก็ทิ้งประเด็นไว้ว่าพวก Commodity ก็ต้องระวังเพราะราคาแกว่งขึ้นลงเร็ว ปีนี้กำไรอาจดี แต่ปีหน้าอาจไม่ดีก็เป็นได้
2. CPN มองดูแล้วในระยะยาวน่าจะดี โดยตอนนี้ราคาก็ถูก Discount ลงมาเยอะเหลือ 18.40 เองแต่ว่าในปีนี้อาจจะไม่ได้กำไรดีมากเพราะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการปิดซ่อมห้างที่ลาดพร้าว และอาจจะมีในเรื่องของปัจจัยการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องได้ แต่ส่วนตัวก็มองแล้วในระยะยาวก็น่าจะเติบโตไปได้ โดยให้ ราคาไว้ที่ 30 บาท (ดร. ก็บอกว่าเป็นตัวที่มองๆไว้อยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเราดูกลุ่มอสังหาตอนนี้ส่วนใหญ่ราคาจะขึ้นมาเยอะ เนื่องจากกำไรจากการซื้อที่ดินตรงใจกลางเมืองได้ในราคาถูก เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดี ราคาที่ดินที่เคยซื้อไว้ เมื่อนำไปทำโครงการก็จะทำให้ได้ต้นทุนที่ราคาถูก โดยจะเห็นได้ว่า กลุ่มอสังหาส่วนใหญ่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปได้เยอะแล้ว แต่ตัว CPN นั้นราคายังนิ่งๆ ไปไม่ไกล โดยเชื่อว่าราคาค่าเช่าน่าจะปรับขึ้นไปได้ รวมถึงตัวที่ดินที่ถือครองอยู่นั้นได้ปรับราคาอีกด้วย โดยแกก็บอกอีกว่า วัน 26 กุมภา ก็ลุ้นๆอยุ่ ถ้าราคาลงมาเยอะ ก็อาจจะเข้าไป โดยทิ้งท้ายอีกว่า คนไทยส่วนใหญ่ถ้าอยู่นอกบ้านก็มักจะคิดอะไรไม่ออก ต้องไปเดินห้าง แต่ถ้าอยู่ในอยู่ในบ้านก็อีกเรื่องนึงนะครับ หึหึ
3. Glow มองว่าเป็นหุ้นไฟฟ้าที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ Ratch, Egco ซึง 2 ตัวนี้เค้ามองว่าน่าจะเป็นขาลงแล้วเนื่องจากไม่มีโครงการใหม่ที่จะมารองรับโครงการเก่าที่จะหมดสัญญาลง โดยมองว่า Glow นั้นจะเติบโตได้อีกเยอะ แถมน่าจะได้ Yield ที่ดีด้วย แต่ก็มีเรื่องปัจจัยเสี่ยงที่ต้องกังวลในเรื่อง ของลูกค้าของ Glow ที่ติดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องมาบตาพุด โดย Scc เป็นลูกค้ารายใหญ๋ที่ติดปัญหาอยู่ ก็ต้องรอเรื่องนี้คลี่คลายไป โดยให้ราคาที่ 40 (ดร. ก็บอกกลุ่มนี้น่าจะไปได้ เนื่องการทำงานไม่ได้ซับซ้อน แกก็บอกว่าแค่เปิดเครื่องให้เดิน ก็ผลิตไฟฟ้า ไม่ได้ยุ่งยาก แล้วก็ไฟฟ้าก็สามารถปรับตามราคาน้ำมันที่ขึ้นได้ ก็มองว่าไม่น่าจะมีอะไร ถ้าเรามอง yield ที่ต้องการ ก็ล็อคราคาซื้อที่เราต้องการแค่นั้น)
4. ptt มองว่าตอนนี้ราคายังถูกอีกมาก เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันที่อยู่ตามท้องตลาด และมองว่าบริษัท ยังโตได้อีกเยอะ ปีละสิบกว่าเปอร์เซนต์ แต่ตอนนี้ราคา PE ที่ 8เท่า (ไม่น่าจะฟังผิดนะครับ แต่ผมว่าเค้าคงไปเทียบกับกำไรตอนพีคที่ E=30บาทแน่เลย) ปันผลล่าสุดอีก 4.5บาท เมื่อรวมทั้งปี ได้ 8.5บาท ก็คิดได้ประมาณ 4เปอร์เซนต์ โดยมองราคาน่าจะปรับตัวขึ้นได้ถ้าในเรื่องของมาบตาพุตเรื่องคลี่คลาย เนื่องจากตอนนี้ราคาหุ้นถูกกดดันโดยเรื่องมาบตาพุตอยุ่ โดยให้ราคาที่ 300 บาท (ดร.ก็บอกว่าไม่รู้เกี่ยวกับพวกปิโตรเคมีเหมือนเดิม แต่แกก็บอกว่าลงทุนได้ถ้าราคาถูกอยุ่ก็พอไปได้)
5. Cpall มีแนวโน้มเติบโตไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Same stores growth และการขยายสาขาเพิ่มไปเรื่อย โดยมองว่าน่าจะเติบโตไปได้เรื่อยๆ อย่างน้อยปีละ 15 เปอร์ แน่นอน และบอกอีกว่าตอนนี้มีการเพิ่มมาร์จิ้นในเรื่องของการนำอาหารมาขายเพิ่มมากขึ้น ให้ราคาที่ 30 บาท
ของดร. ขออนุญาตไม่พิมซ้ำนะครับ
ต้องขอโทษนะครับหากพิมพ์ผิดพลาดประการใด ทำเต็มที่แล้วครับ เท่าทีจำได้ ถ้ายังไง คนอื่นมาเพิ่มเติมได้นะครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ
พึ่งสังเกตว่า CPN ราคาลดมาเยอะเหมือนกันนะครับ

สุดท้ายแล้วนะครับ
วชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย
1. CPF โดยมองว่าปีนี้เป็นปีที่สร้างกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากการ Transform ธุรกิจเน้นด้าน Foodมากขึ้น โดยทำรายได้มาจาก 3 ทาง 1. Food 2. Farm 3. Feed
โดยมองว่าปีนี้การทำทางด้าน Food นั้นเริ่มประสบความสำเร็จ โดยยังมองว่าปีนี้ก็น่าจะเป็นปีที่ดีของธุรกิจด้านอาหารอีกเช่นกัน มองราคาไว้ที่ ประมาณ 14 บาท (ดร.แกก็พูดว่า ยอมรับว่าปีนี้ถือว่า CPF ทำกำไรได้อย่างน่าตกใจ Transform จนสามารถกำไรเพิ่มขึ้นมาก โดยแต่ก่อนจะมีคนมองว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นมีเจ้ามองหลอกเอาเงินไปเรื่อย เป็นหุ้นทำเงินให้นักลงทุน เป็นหัวดาวเด่นไปเลยในปีนี้ แต่ดร.แกก็พูดว่าก็ต้องลองจับตามองปีนี้ดีๆอีกทีว่าจะยังสามารถรักษากำไรที่ทำไว้ได้ไหม เพราะโดยส่วนตัวแกไม่ยังไม่เชื่อเต็มที่ ว่า CPF จะสามารถ Transform ธุรกิจตัวเองให้เปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ โดยมองว่าปีนี้พวก ข้าวโพด และอื่นมันถูก ก็อาจจะทำให้ต้นทุนในการดำเนินงานต่ำ ก็เลยมองว่าปีนี้ดีอาจจะไม่ใช่ดีเพราะฝีมือเพียงอย่างเดียว
2. KCE มองว่ากลุ่มอิเล็กทรอนิกปีนี้น่าจะดี และก็มองปีที่เลวร้ายที่ผ่านมาทำให้บริษัท ที่ทำด้านอิเล็กทรอนิกล้มหายตายจากไป ก็จะเหลือแต่พวกที่เก่งจริงๆถึงจะอยู่ได้ และนอกจากนี้ประเทศไทยเก่งด้านอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้วก็น่าจะทำได้ดี โดยปี53 เค้าบอกว่ากำไรจะมากเป็น 4เท่า ของปี52 (อันนี้ต้องลองไปพิจารณากันเองนะครับ) และนอกจากนี้เค้ายังบอกอีกว่า บ.แม่ของทรินิตี้ถือหุ้นของบ.ลูก KCE ดังนั้นนักวิเคราะห์สามารถมา comment ได้ โดยให้ราคาไว้ที่ 9 บาทกว่าๆ จำไม่ได้ขอโทษนะครับ (ดร. แกก็บอกว่ากลุ่มนี้ เอาแน่ไม่ได้ อาจจะดีจริงหรือไม่ดีไปเลยก็ได้ ไม่แน่นอน เนื่องจากกลุ่มนี้มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ดังนั้นถ้าได้กำไรก็จะได้เยอะไปเลย หรือก็ขาดทุนหนักไปเลย ก็ต้องระวัง)
3. Delta อีกเช่นกันนักวิเคราะห์บอกว่ากลุ่มอิเล็กทรอนิกปีนี้น่าจะดี ก็มองว่าบริษัทเป็นบริษัทที่ดำเนินงานมานานแล้ว ปันผลค่อนข้างดี ซื้อดักก่อนจ่ายปันผลก็น่าจะดี ราคาเป้าหมายจำไม่ได้ ต้องขอโทษจำไม่ค่อยได้เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ศึกษาอีกเช่นกัน (ดร. แกก็บอกกลุ่มนี้ เป็น High risk High return ก็ต้องระวัง)
4. Pttch นักวิเคราะห์ก็บอกว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีของกลุ่มปิโตร โดยมองว่าราคาน่าจะเป็นขาขึ้นทำให้กำไรในปีนี้น่าจะเติบโตได้อีกเยอะ และนอกจากนี้ก็มองว่า รัฐบาลน่าจะล็อกราคาน้ำมันทำให้ขึ้นลงไม่เยอะทำให้ควบคุมต้นทุนได้ โดยให้ราคาที่ 120 โดยได้บอกอีกเมื่อก่อนราคาหุ้นเคยขึ้นไป 140กว่า โดยที่กำไรปีละกว่าหมื่นกว่าล้าน แต่นักวิเคราะห์บอกว่ามองแนวโน้มกำไรในปี53-54 น่าจะขึ้นไปถึง 2หมื่นล้าน(ตกใจ) ก็คิดว่าราคาน่าจะไปถึง 120 ได้ไม่ยาก (ดร. แกก็บอกว่า ก็ต้องระวังราคาหุ้นตอนนี้ขึ้นไปเยอะแล้วรวมถึงพวก Commodities มาเร็วไปเร็ววันนี้อาจดีแต่พรุ่งนี้อาจจะไม่ดีแล้ว และนอกจากนี้ถ้าเราไปดู market cap ของ pttch จะพบว่าติดอันดับ 1 ใน10 ของตลาดหลักทรัพย์ ดร.แกก็บอกมองว่าน่าจะมีหุ้นตัวอื่นที่ดีกว่านี้อยู่อันดับ 1 ใน10แทนได้
5. TUF มองว่าแนวโน้มการส่งออกน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยมองว่าถ้ายิ่งเป็นเรื่องของอาหารที่ส่งออกด้วยแล้วๆ น่าจะดีสำหรับปีนี้ หุ้นตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ปันผลดี และยิ่งปีนี้มีเรื่องภาษีอาฟตาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้วก็น่าจะยิ่งทำให้ยอดขายเติบโตได้อีก ราคาเป้าหมายจำไม่ได้ (ดร.แกบอกว่าหุ้นตัวนี้เจ้าของเก่ง เพราะมองว่าสินค้าเป็น Commodities แต่ก็ยังสามารถทำกำไรมาได้เรื่อยๆ แกก็บอกว่าดีแต่ก็ยังติดว่าเป็น Commodities)
หากผิดพลาดอย่างไร ขอโทษด้วยนะครับ
มีแถมครับ
ดร.ไพบูลย์แกมี Declare ว่าถือ Hmpro, Stanly, KCE, CPF อยู่ด้วยนะครับ
ดร.นิเวศน์ ก็ CPALL, HMpro
เฉพาะที่มีการนำมาพูดเท่านั้นนะครับ

พิมเยอะอาจจะมีพิมผิดตกหล่นไปบ้างนะครับ
ถ้ายังไงก็อย่าถือโทษกันนะครับ

peodpeod55 เขียน:พิมเยอะอาจจะมีพิมผิดตกหล่นไปบ้างนะครับ
ถ้ายังไงก็อย่าถือโทษกันนะครับ

ขอบคุณมากเลยครับ ที่แชร์ข้อมูลที่ไปฟังมา

ขอบคุณมากครับ

ผมไม่ได้ไปก็ตามอ่านจากน้ำใจชาวเว็บเราเนี่ยหละครับ  :D

ขอบคุณ คุณ peodpeod55 มากครับ ละเอียดกว่าที่ผมจดเองอีกครับ

มีใครได้คุยนอกรอบกับ ดร.นิเวศน์หรือเปล่าครับ
ผมว่าเป็นไฮไลท์อีกอันนึงเลยครับ ใครถามอะไรพี่ตอบหมด
ไม่มีกั้ก ไม่ออกอากาศ เลยระบุตัวได้ชัดเจน มุงกันเป็นสิบ
ผมยืนได้ไม่ชิดเท่าไร ได้ทีเด็ดมาแชร์กันนิดหน่อย คงไม่ครบครับ
อาจไม่ถูกเป๋ง มันห่างอ่ะครับ ใครชัดกว่านี้เชิญแก้ไขเพิ่มเติม
หรือแชร์ความคิดเห็นได้เลยนะครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ

cpall ติดตามการเปิด 7-11 ที่เวียตนาม ถ้าเราได้ทำจะดีขึ้นมาก ตอนนี้ไม่ถูก
แต่อนาคตยังโตได้อีก
mbk ดูสัญญาที่เหลือว่าได้อีกนานไหม ที่ทำเลทอง แถมมีทรัพย์สินมากมาย
cpn hmpro ขยายสาขาต่อเนื่องน่าจะเติบโตได้อีก
ที่เหลือคุยการเมือง ทำให้ผมเห็นว่า ดร.แกมีความคิดที่ดีและเป็นสากลมาก
ขอไม่ลงรายละเอียด เดี๋ยวยาว

อย่าลอกการบ้านโดยไม่ศึกษาข้อมูลก่อนนะครับ อันตรายและเสี่ยงมาก

ขอให้คุณ peodpeod55 และพี่น้องทุกท่านรวยเละเทะ สมปรารถนาครับ

ขอบคุณ คุณ peodpeod55 อีกครั้งครับ อุตส่าห์ตามเขียนให้จนครบ

[quote="peodpeod55"]การสัมมนาวันนี้จะมีลักษณะให้นักวิเคราะห์แต่ละท่านเลือกหุ้นที่ชอบมา 5ตัวนะครับ แล้วให้อ.นิเวศน์ Comment
โดย
สุกิจ อุดมศิริกุล

thank a lot for the brief krab.
Cpn is quite interesting but must wait for q3 when the close of ladpraw take effect.