หน้า 2 จากทั้งหมด 7

Re: ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 26, 2010 11:39 pm
โดย Alastor
[quote="vivitawin"]

พี่พอใจไม่ได้ดูนิ พี่ลอก

Re: ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 26, 2010 11:53 pm
โดย ซากคน
[quote="Alastor"][quote="vivitawin"]

พี่พอใจไม่ได้ดูนิ พี่ลอก

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 26, 2010 11:59 pm
โดย หมีขาว
เห็นอ. นิเวศน์เขียนเรื่องที่ดิน  ขอถามพี่ฉัตร หรือ ผู้รู้ท่านอื่นๆ ครับว่า
1. ที่ดินไม่มีค่าเสื่อมราคาใช่ไหมครับ
2. ปกติจะมีการปรับปรุงมูลค่าที่ดินในงบการเงินบ่อยแค่ไหนครับ หรือต้องมีเหตุการ์ณอะไรก่อนถึงจะปรับ
3. ถ้าปรับปรุงแล้วมูลค่าเพิ่มขึ้น หรือลดลง จะปรากฎในงบกำไรขาดทุนไหมครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 8:50 am
โดย picklife
[quote="คนจนที่อยากรวย"]Vote เรียบร้อยแล้วครับ

Re: ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 9:42 am
โดย << New >>
por_jai เขียน:
:8) ดูขาก่อน

Re: ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 11:18 am
โดย กล้วยไม้ขาว
por_jai เขียน:
:8) ดูขาก่อน

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 2:08 pm
โดย chatchai
[quote="หมีขาว"]เห็นอ. นิเวศน์เขียนเรื่องที่ดิน

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 2:50 pm
โดย saichon
แฮ่...ขอคำถามหน่อมแหน๊มซักข้อน๊ะครับ

เราจะดูว่าบริษัทที่เราสนใจที่จะลงทุน
มีโอกาสเพิ่มทุนได้จากส่วนไหนของงบการเงิน
หรืออัตราส่วนไหนบ้างครับพี่ฉัตรชัย :roll:

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 3:25 pm
โดย picklife
[quote="chatchai"][quote="หมีขาว"]เห็นอ. นิเวศน์เขียนเรื่องที่ดิน

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 3:27 pm
โดย picklife
ปล.คุยเล่นๆนะครับ วันInvestor Dayผมได้นั่งหน้าเลย ได้เจอพี่ตัวจริง พี่โหวเฮ้งดีมากๆ เลยครับ ผมให้อันดับ1ในกลุ่มที่นั่งวันนั้นเลยครับ อิอิ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 3:49 pm
โดย chatchai
saichon เขียน:แฮ่...ขอคำถามหน่อมแหน๊มซักข้อน๊ะครับ

เราจะดูว่าบริษัทที่เราสนใจที่จะลงทุน
มีโอกาสเพิ่มทุนได้จากส่วนไหนของงบการเงิน
หรืออัตราส่วนไหนบ้างครับพี่ฉัตรชัย :roll:
คงต้องย้อนกลับไปว่า  อะไรเป็นสาเหตุหรือเหตุผลที่บริษัทต้องเพิ่มทุนจดทะเบียน

สาเหตุหลักๆ  ก็คือ  บริษัทมีเงินสดไม่เพียงพอใช้จ่าย  อาจจะใช้ชำระหนี้เงินกู้  ลงทุนขยายโรงงาน  ลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่  ลงทุนใน Working Capital เมื่อยอดขายเพิ่มสูงขึ้น  

ดังนั้น  ถ้าเราจะพิจารณาก็คงต้องดูที่  เงินสดและกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงาน  เปรียบเทียบกับ  ภาระหนี้เงินกู้  ภาระการลงทุนต่างๆ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 4:02 pm
โดย saichon
chatchai เขียน:
คงต้องย้อนกลับไปว่า

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 4:18 pm
โดย chatchai
picklife เขียน:1.ใครเป็นคนตรวจสอบการปรับเพิ่มลดมูลค่าราคาที่ดินและสินทรัพย์อื่นๆครับ?เป็นออดิตหรือปล่าวครับ ถ้าใช่แล้วเขาจะรู้เรื่องราคาสินทรัพย์ที่เหมาะสมยังไงครับ กลัวกรณีเจ้าของปรับมั่วๆนะครับพี่
2.กรณีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ตราบใดที่ไม่มีการขายก็ไม่น่าจะได้ผลแระโยชน์อะไรใช่ไหมครับ นอกจากPBVอาจจะลดลงนิดหน่อย....แต่ถ้าอย่างที่พี่บอกว่าจะปรับเมื่อเกิดวิกฤติแต่ถ้าไม่เกิดมันก็ค้างเติ่ง10ปี20ปีปะครับ
3.ผมสมมุติกรณีCPNที่ดินราคาขึ้นๆมากๆบ.จะได้ผลประโยชน์อะไรบ้างครับ?แล้วเราในฐานนะผู้ลงทุนจะหาประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างไรครับ? แล้วถ้าที่ดินขึ้นมากๆจากประสบการณ์ของพี่จะทำให้ขึ้นราคาค่าเช่าที่ได้มากน้อยแค่ไหนครับ?
ขอบคุณครับ
1. ต้องเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจประเมินราคาครับ  โดยต้องมีใบอนุญาติ

2. บริษัทที่ดำเนินธุรกิจมาเก่าแก่นานหลายสิบปี  ก็มักจะมีมูลค่าตลาดของที่ดินสูงกว่ามูลค่าในบัญชีมากๆเลยครับ

3. ผมว่าเป็นทางตรงข้ามกันครับ  ความสามารถในการใช้ที่ดินเพื่อหาประโยชน์จะเป็นตัวบ่งบอกราคาที่ดินมากกว่าครับ  เช่น  ถ้าทำเลที่ดินอยู่ใจกลางเมือง  สามารถนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมขายได้ตร.ม.ละ100,000 บาท  ราคาที่ดินก็จะแพงกว่า  ทำเลที่สามารถขายได้เพียงตร.ม.ละ 50,000 บาท

มูลค่าที่ดินเพื่อการพาณิชย์  ปริมาณคนสัญจรก็เป็นตัวบ่งบอกถึงมูลค่าได้เป็นอย่างดีครับ  และก็เป็นตัวบ่งบอกถึงค่าเช่าเช่นกัน  เพราะถ้ามีคนสัญจรเยอะ  ยอดขายก็มักจะดี  ก็คุ้มค่าที่จะจ่ายค่าเช่าที่แพงได้

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 4:18 pm
โดย chatchai
picklife เขียน:ปล.คุยเล่นๆนะครับ วันInvestor Dayผมได้นั่งหน้าเลย ได้เจอพี่ตัวจริง พี่โหวเฮ้งดีมากๆ เลยครับ ผมให้อันดับ1ในกลุ่มที่นั่งวันนั้นเลยครับ อิอิ
ไม่เห็นมาทักทายกันเลยครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 6:18 pm
โดย doodeemak
ถามพี่ฉัตรหน่อยครับว่า

"อย่าหลงความดี แต่จงอยู่เหนือความดี" นี่หมายถึงอะไรเหรอครับ
เป็นแง่คิดเกี่ยวกับหุ้นรึเปล่า

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 7:06 pm
โดย chatchai
doodeemak เขียน:ถามพี่ฉัตรหน่อยครับว่า

"อย่าหลงความดี แต่จงอยู่เหนือความดี" นี่หมายถึงอะไรเหรอครับ
เป็นแง่คิดเกี่ยวกับหุ้นรึเปล่า
คงไม่เกี่ยวเรื่องหุ้นหรอกครับ

เพียงแต่นำคำสอนของท่านพุทธทาสมาเตือนใจว่า  อย่ายึดติด  แม้กระทั่งความดี

บางคนเสียดาย  เสียใจ  ที่ไม่ได้ทำความดี  ท่านก็สอนไว้ว่าไม่ควรยึดติด

ถ้าความดี  ซึ่งเป็นสิ่งที่ดียังไม่ยึดติด  ก็น่าหลุดพ้นจากการยึดติดทั้งปวงได้

เมื่อนั้น  ก็คงไม่ทุกข์  ไม่สุข

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 7:24 pm
โดย sai
chatchai เขียน:
คงไม่เกี่ยวเรื่องหุ้นหรอกครับ

เพียงแต่นำคำสอนของท่านพุทธทาสมาเตือนใจว่า

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 7:48 pm
โดย doodeemak
ถามพี่ฉัตรต่อครับ

ผมทดลองใช้ไฟล์ของพี่ครรชิต เพื่อดู ratio ระหว่าง Free cash flow กับ Market cap ณ วันนั้นๆ

เพื่อหาตัวที่มี FCF/Market cap สูงๆ มา review ก่อน

โดยใช้สูตรประมาณนี้ครับ
Free cash flow = Operating cash flow (4 years average)  - Investing cash flow (4 years average)

ส่วน Market cap ใช้ราคาตลาดคูณจำนวนหุ้น

แล้วจึงค่อยมาพิจารณาเป็นรายตัวไปว่าต้องมีการ adjust อะไรรึเปล่า
หรือว่า cash flow ที่ได้มีความสม่ำเสมอหรือไม่

ทดลองดูแล้วปรากฎว่าได้เป็นหุ้นสิ่งทอ ที่มี FCF ประมาณ 150 - 200 ล้านต่อปี

ผลิตภัณฑ์เป็นผ้าผืน ซึ่งมีลูกค้ากระจายอยู่หลายกลุ่ม อีกทั้งบริษัทก็ประกอบ
กิจการมานานมากและสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤติมาได้ทุกครั้ง

ด้านหนี้สินก็พบว่าบริษัทเพิ่งจ่ายชำระหนี้สินระยะยาวเกือบหมด ทำให้งบดุล
มีความแข็งแกร่งมาก

ขณะที่ FCF ไม่ค่อยมีการผันผวนเมื่อดูย้อนหลัง 5 ปี ส่วนด้านของเงินลงทุน
ก็พบว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างคงที่ แต่มีเพิ่มบ้างตอนเพิ่ม line ผลิต product ใหม่

ในขณะที่ Market cap ประมาณ 350 ล้าน ผมเลยมองง่ายๆว่า ด้วยระดับ
FCF ประมาณนี้ 3 ปีก็คืนทุน แถมได้ทรัพย์สินและกิจการที่เหลือมาด้วย

ไม่ทราบว่าผมมองแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ มีจุดอ่อนอะไรที่ต้องเพิ่มเติมมั๊ยครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 9:20 pm
โดย por_jai
chatchai เขียน:
:8) พี่ฉัตรดูหลายอย่าง น่าเวียนหัว

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 10:18 pm
โดย chatchai
[quote="doodeemak"]ถามพี่ฉัตรต่อครับ

ผมทดลองใช้ไฟล์ของพี่ครรชิต เพื่อดู ratio ระหว่าง Free cash flow กับ Market cap ณ วันนั้นๆ

เพื่อหาตัวที่มี FCF/Market cap สูงๆ มา review ก่อน

โดยใช้สูตรประมาณนี้ครับ
Free cash flow = Operating cash flow (4 years average)

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 11:08 pm
โดย AuI_a VI
เห็นพี่ให้ความสำคัญ กับ กระแสเงินสด เป็นสำคัญ แบบนี้ พี่มีมุมมอง เรื่อง P/E อย่างไรบ้างครับ เช่น หุ้นที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้เพื่มขึ้นเรื่อยๆต่อเนื่อง แต่ p/e 30 แบบนี้ พี่ยังจะสนใจ หรือมี ราคาที่รอรับที่p/eเท่าไรครับ หรือว่าไม่ต้องสนใจเลย ดีครับ

ขอบคุณครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 28, 2010 5:32 pm
โดย jverakul
เีรียนถามพี่ฉัตรชัย  

ผมได้ยินกิตติศัพท์พี่เกี่ยวกับเรื่องงบการเงินว่าเป็นเอกอุในเว็ป  ซึ่งเท่าที่ผมติดตามอ่านกระทู้ผมก็เห็นด้วยตามนั้น :bow:

ก็เลยมีข้อข้องใจบางอย่าง อยากจะสอบถามนะครับ  คือเวลาอ่านงบกระแสเงินสด ในส่วนที่มาจากการดำเนินงาน

จะมีในส่วนของ "ภาษีเงินได้รอจ่าย/ค้างจ่าย (บวกเข้า)"

และสุดท้าย ก็จะมี  "จ่ายภาษีเงินได้ "  (ลบออก)  

ผมสงสัยว่า :?

1.ทำไมต้องบวกเข้า-ลบออก  แล้วทำไมสองค่านี้ไม่เท่ากัน เท่่าที่ผมสังเกตุภาษีเงินได้รอจ่าย จะน้อยกว่า  จ่ายภาษีเงินได้

2. ผมได้อ่านในเว็บบางทีมีคนโพสว่า ที่ดินของบ. กอ  ราคาที่บันทึกคือราคาเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว  ผมก็เลยสงสัยว่าแล้วเราจะำรู้ไ้ด้อย่างไรว่าราคานั้นคือราคาเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว  หรือราคาที่ประเมินใหม่

3.ถ้าจะสรุปว่า "งบกระแสเงินสดคือ งบแสดงเงินสด หรือเที่ยบเท่า ที่ผ่านมือของบริษัท  " พอจะใกล้เคียงไหมครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 28, 2010 11:03 pm
โดย dome@perth
ดีใจจัง มีกระทู้ ทรงคุณค่า
ไว้ตามอ่านอีกกระทู้แล้ว

ขอบคุณพี่เจ้าของกระทู้
เจ้าของคำถามทุกคำถาม
และขอบคุณท่านพี่ผู้ใจดี
เจ้าของคำตอบครับ...พี่ฉัตรชัย
:bow:  :bow:  :bow:

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 28, 2010 11:30 pm
โดย chatchai
AuI_a VI เขียน:เห็นพี่ให้ความสำคัญ กับ กระแสเงินสด เป็นสำคัญ แบบนี้ พี่มีมุมมอง เรื่อง P/E อย่างไรบ้างครับ เช่น หุ้นที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้เพื่มขึ้นเรื่อยๆต่อเนื่อง แต่ p/e 30 แบบนี้ พี่ยังจะสนใจ หรือมี ราคาที่รอรับที่p/eเท่าไรครับ หรือว่าไม่ต้องสนใจเลย ดีครับ

ขอบคุณครับ
คงต้องวิเคราะห์ก่อนว่า  กระแสเงินสดอิสระนั้นมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับราคาหุ้น  P/FCF

ตามปรกติแล้ว  FCF ก็น่าจะสอดคล้องกับ Net Profit  บวก ค่าเสื่อมราคา

ถ้า P/E 30 เท่า  แต่ P/FCF ไม่แพง  ก็คงต้องหาสาเหตุว่า  ทำไม E ถึงน้อยกว่า FCF มากๆ  E หรือ FCF ที่แสดงถึงผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทมากกว่ากัน  

อาจจะมีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษที่ไม่เป็นตัวเงิน เช่น มีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนมาก  ซึ่งการตั้งสำรองจำนวนมากจะไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ  ผมก็คงยึด P/FCF เป็นหลัก

แต่ถ้าไม่มีอะไรผิดปรกติเลย  ผมก็คงขอผ่านครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 28, 2010 11:49 pm
โดย chatchai
[quote="jverakul"]มีข้อข้องใจบางอย่าง อยากจะสอบถามนะครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2010 12:22 am
โดย หมีขาว
chatchai เขียน:
1. ที่ดินจะไม่มีค่าเสื่อมราคาครับ

2. ส่วนใหญ่แล้ว  จะปรับปรุงเมื่อบริษัทมีฐานะทางการเงินที่ย่ำแย่  ขาดทุนจนส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ  เลยมีการประเมินมูลค่าใหม่  เพื่อเพิ่มส่วนผู้ถือหุ้น  และอาจจะมีการปรับมูลค่าลดลง  ถ้าราคาที่ดินมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  

3. ไม่บันทึกในงบกำไรขาดทุนครับ  แต่จะบันทึกใน  สินทรัพย์ถาวร  และ  ส่วนผู้ถือหุ้น
1) ขอถามพี่ฉัตรเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องที่ดินครับ
วันนี้อ่านเจอการบันทึก "การด้อยค่าของสินทรัพย์" ในหมายเหตุประกอบงบการเงินของ kiat น่ะครับ
ในนั้นกล่าวว่า จะบันทึกการด้อยค่าในงบกำไรขาดทุน (หัวข้อ 5.9 ของหมายเหตุงบปี)

อย่างนี้แปลว่า ถ้าประเมินมูลค่าที่ดินได้เพิ่ม จะไม่บันทึกลงงบกำไรขาดทุน
แต่ถ้าประเมินแล้วมูลค่าลด จะบันทึกขาดทุนหรือเปล่าครับ?

2) ในหมายเหตุ "วัสดุคงเหลือ" (หมายเหตุ 5.5) ของ kiat เขียนว่า จะ"แสดงตามราคาทุน
หรือบันทึกตามมูลค่าสุทธิที่คาดว่าจะได้รับ แล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า"

แสดงว่ากรณีนี้ก็เหมือนกันกับที่ดินใช่ไหมครับ กล่าวคือ ถ้ามูลค่าลดจะบันทึก stock loss
แต่ถ้ามูลค่าเพิ่มจะไม่มี stock gain ไม่ทราบผมเข้าใจถูกไหมครับ?

ขอบคุณมากครับพี่ :bow:

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2010 9:42 am
โดย chatchai
[quote="หมีขาว"][quote="chatchai"]

1. ที่ดินจะไม่มีค่าเสื่อมราคาครับ

2. ส่วนใหญ่แล้ว

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2010 1:16 pm
โดย green-orange
Power Investor wrote:
HEMRAJ will not book any asset or liability of Gheco.  It will not book any revenue or expense of Gheco.  It will only book the sharing of the profit or loss of Gheco based on their 35% equity stake.  

Clear?


That is incorrect krub. HEMRAJ books GHECO-One assets as an Associate Investment so it will recognise BOTH share of income from associates and dividend payments. Dividend payments will be the larger of the two. Basic accounting practice for consolidating minority-owned companies

Total CAPEX is 4.4bn for 35% share but actual cash out on HEMRAJ's separate financial statement level has been very little (~200m).  Another way to look is the movement in associates value in the end note. It has not moved much.

Also in non-current asset section,  there is a 2bn deposits. That will be used for GHECO-One injection. They will need an additional 1.3bn for GHECO-One this year and 0.9bn in 2011.

200+2,000+1,300+900 = ~4.4bn

FYI, CAPEX this year = 3bn + could be more to purchase SIL. Deal completion has dragged on with SCC for some time (though this may be in 2011).
สวัสดีครับพี่ฉัตรชัย

ผมมีคำถามเกี่ยวกับการรวมงบของ hemraj ที่ไปลงทุนในโรงไฟฟ้ากับ glow อ่ะครับ จากที่เค้าพูดกันข้างบนเนี่ย สรุปมันต้องเป็นยังไงกันแน่ครับ รบกวนพี่ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ ว่าเค้าจะรวมงบกันยังไง วิธีไหนถูก และรวมงบแล้วกระแสเงินสดมันจะเป็นอย่างไรครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2010 7:32 pm
โดย Gondar
ถามคุณ chatchai ครับ ถ้าบริษัทซื้อพันธบัตรมาเพื่อลงทุน

ถ้าเกิดดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้นมีผลทำให้พันธบัตรที่ซื้อมามีมูลค่าลดลง

บริษัทต้องปรับปรุงมูลค่าพันธบัตรในงบดุล แล้วต้องบันทึกขาดทุนในงบกำไรขาดทุนหรือปล่าครับ

ขอบคุณครับ

ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 29, 2010 7:35 pm
โดย thalucoz
ขอบังอาจเสริมบางส่วนเพิ่มครับ :oops:

      ด้วยความทรงจำอันน้อยนิดของผม เกี่ยวกับการประเมินการด้อยค่าของสินทรัพย์ครับ :oops:

      จริง ๆ แล้วเจตนาของผู้ร่าง มาตรฐานการบัญชี นั้นยึดหลักความระมัดระวังครับ อะไรที่จะเป็นผลดี แต่ยังไม่เกิดขึ้นจะรับรู้เป็นรายได้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นผลเสียจะต้องรับรู้ทันที่ที่มีมูล (ถึงแม้จะประเมินมูลค่าไม่ได้ ก็ต้องเปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบครับ)

       ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์กับ เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายครับ