ต้องการ passive income ปีละกี่บาทกันครับ
- luckyman
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2203
- ผู้ติดตาม: 0
ต้องการ passive income ปีละกี่บาทกันครับ
โพสต์ที่ 31
thanks krub
:lol:
:lol:
website for the value investor
=> https://hoonapp.com
=> https://hoonapp.com
- pornchai_w
- Verified User
- โพสต์: 247
- ผู้ติดตาม: 0
ต้องการ passive income ปีละกี่บาทกันครับ
โพสต์ที่ 32
พอดีวันนี้เข้าอัพเดท Facebook มา
เลยเอาบทความที่จดๆไว้มาแบ่งปันกันครับ
อย่างเพิ่งเบื่อกันซะก่อนล่ะ
เลยเอาบทความที่จดๆไว้มาแบ่งปันกันครับ
อย่างเพิ่งเบื่อกันซะก่อนล่ะ
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
http://pefinance.wordpress.com/about/
- pornchai_w
- Verified User
- โพสต์: 247
- ผู้ติดตาม: 0
ต้องการ passive income ปีละกี่บาทกันครับ
โพสต์ที่ 33
เงินเดือนผมออกทุกวัน
เคยสังเกตกันไหมครับว่าทำไมเย็นวันศุกร์สิ้นเดือนรถจะเยอะเป็นพิเศษ และ ช่วงปลายเดือนถึงต้นเดือนพนักงานออฟฟิสจะออกไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านดีๆ กันเยอะกว่า ช่วงกลางเดือน ผมเป็นคนไม่มีรถเพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับผมตอนนี้ ก็เลยลองถามเพื่อนที่มีรถดู ได้ความว่า น้ำมันแพงจอดรถไว้เกือบสองอาทิตย์แล้ว พอเงินเดือนออกก็เลยเติมน้ำมันออกมาวิ่ง หรือ พอดีว่าคืนนี้มีนัดเลี้ยงต่อหลังเลิกงานก็เลยขับรถไปสะดวกกว่า เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังก็คือว่า เงินเดือนเพิ่งออก มีเงินเยอะ หาวิธีใช้เงินดีกว่า
แต่พอผ่านไปสักสองอาทิตย์ เงินหมดก็ต้องกลับมาประหยัดอีกและรอวันเงินเดือนออกต่อไป
ส่วนตัวผมเองรู้สึกว่า ไม่ว่าจะต้นเดือน กลางเดือน สิ้นเดือน ก็เหมือนๆ กัน ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ต้องการเงินเดือนนะครับ แต่ที่จริงเงินเดือนผมถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ หลังจากได้รับเงินเดือนแต่ละเดือนเรียบร้อยแล้วต่างหาก โดยที่ผมทำงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายโดยแบ่งเป็น 3 หมวด
1. ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายรายปี เช่น เงินที่จะต้องซื้อ LTFทั้งปี ค่าประกันชีวิตรายปี ค่าส่วนกลางคอนโดจ่ายรายปี หรือใครมีค่าทำประกันรถ ก็อยู่ในส่วนนี้
เช่น ค่าประกันชีวิตปีละ 60,000 บาท ก็ฝากเดือนละ 5,000บาท ค่าส่วนกลางคอนโดปีละ 20,000 บาท ก็ฝากเดือนละ 1,666 บาท เป็นต้น
โดยที่ผมเปิดบัญชีไว้เพื่อเก็บเงินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นรายเดือน เมื่อถึงกำหนดจ่ายก็สามารถนำเงินที่เก็บสะสมไว้ทุกเดือนมาจ่ายได้ทันที
2. เงินออมเพื่อกิจกรรมเฉพาะและเงินลงทุน เช่น เงินออมสำรองฉุกเฉิน เงินออมเพื่อการซื้อสินทรัพย์ (ซื้อบ้าน หรือ ลงทุนต่างๆ) เงินออมเพื่อการท่องเที่ยว ผมมีก้อนนี้เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบท่องเที่ยวโดยไม่อยากรอให้แก่ก่อนค่อยไปเที่ยวครับ
โดยคำนวนว่าต้องการออมในส่วนนี้ปีละเท่าไรแต่นำฝากเงินเป็นรายเดือน แยกจากบัญชีค่าใช้จ่ายในข้อที่ 1.
3. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (ส่วนใหญ่ข้อนี้จำเป็นสุดๆ สำหรับหลายๆคน) เช่น ค่าน้ำไฟโทรศัพท์ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ซื้อเสื้อผ้า ซื้อกาแฟ ซื้อหนังสือ ดูหนัง ดูคอนเสิรต์ เลี้ยงข้าวแฟน กินเหล้า ฯลฯ โดยก้อนนี้ก็ใช้เงินที่เหลือจาก ข้อ 1.และข้อ 2.
ทั้งนี้ข้อ 2. กับ ข้อ 3. สำหรับแต่ละคนอาจจะต่างกันขึ้นอยู่กับว่า สิ่งไหนสำคัญสำหรับคุณ บางคนอาจจะแย้งว่าเงินเหลือมาถึงข้อ 3. น้อยมากคุณจะอยู่ได้อย่างไร แต่เชื่อเถอะคุณอยู่ได้ ลองนึกถึงเงินที่คุณได้ตอนเรียนหนังสือหรือเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ สิ
แต่คนส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะทำกลับกันคือ เริ่มจากข้อ 3. ไปข้อ 2. ไปข้อ 1. ผลก็คือส่วนใหญ่จะเงินหมดตั้งแต่ข้อ 3. แล้ว และที่สำคัญหากไม่เตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่าย ที่ต้องจ่ายรายปี ในข้อ 1. แล้วล่ะก๊อ คุณมีปัญหาแน่นอน!!!
ถามจริงเหอะ..ไม่อยากรู้สึกว่าเงินเดือนออกทุกวันเหมือนผมเหรอ ^_^
เคยสังเกตกันไหมครับว่าทำไมเย็นวันศุกร์สิ้นเดือนรถจะเยอะเป็นพิเศษ และ ช่วงปลายเดือนถึงต้นเดือนพนักงานออฟฟิสจะออกไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านดีๆ กันเยอะกว่า ช่วงกลางเดือน ผมเป็นคนไม่มีรถเพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับผมตอนนี้ ก็เลยลองถามเพื่อนที่มีรถดู ได้ความว่า น้ำมันแพงจอดรถไว้เกือบสองอาทิตย์แล้ว พอเงินเดือนออกก็เลยเติมน้ำมันออกมาวิ่ง หรือ พอดีว่าคืนนี้มีนัดเลี้ยงต่อหลังเลิกงานก็เลยขับรถไปสะดวกกว่า เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังก็คือว่า เงินเดือนเพิ่งออก มีเงินเยอะ หาวิธีใช้เงินดีกว่า
แต่พอผ่านไปสักสองอาทิตย์ เงินหมดก็ต้องกลับมาประหยัดอีกและรอวันเงินเดือนออกต่อไป
ส่วนตัวผมเองรู้สึกว่า ไม่ว่าจะต้นเดือน กลางเดือน สิ้นเดือน ก็เหมือนๆ กัน ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ต้องการเงินเดือนนะครับ แต่ที่จริงเงินเดือนผมถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ หลังจากได้รับเงินเดือนแต่ละเดือนเรียบร้อยแล้วต่างหาก โดยที่ผมทำงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายโดยแบ่งเป็น 3 หมวด
1. ค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายรายปี เช่น เงินที่จะต้องซื้อ LTFทั้งปี ค่าประกันชีวิตรายปี ค่าส่วนกลางคอนโดจ่ายรายปี หรือใครมีค่าทำประกันรถ ก็อยู่ในส่วนนี้
เช่น ค่าประกันชีวิตปีละ 60,000 บาท ก็ฝากเดือนละ 5,000บาท ค่าส่วนกลางคอนโดปีละ 20,000 บาท ก็ฝากเดือนละ 1,666 บาท เป็นต้น
โดยที่ผมเปิดบัญชีไว้เพื่อเก็บเงินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นรายเดือน เมื่อถึงกำหนดจ่ายก็สามารถนำเงินที่เก็บสะสมไว้ทุกเดือนมาจ่ายได้ทันที
2. เงินออมเพื่อกิจกรรมเฉพาะและเงินลงทุน เช่น เงินออมสำรองฉุกเฉิน เงินออมเพื่อการซื้อสินทรัพย์ (ซื้อบ้าน หรือ ลงทุนต่างๆ) เงินออมเพื่อการท่องเที่ยว ผมมีก้อนนี้เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบท่องเที่ยวโดยไม่อยากรอให้แก่ก่อนค่อยไปเที่ยวครับ
โดยคำนวนว่าต้องการออมในส่วนนี้ปีละเท่าไรแต่นำฝากเงินเป็นรายเดือน แยกจากบัญชีค่าใช้จ่ายในข้อที่ 1.
3. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (ส่วนใหญ่ข้อนี้จำเป็นสุดๆ สำหรับหลายๆคน) เช่น ค่าน้ำไฟโทรศัพท์ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ซื้อเสื้อผ้า ซื้อกาแฟ ซื้อหนังสือ ดูหนัง ดูคอนเสิรต์ เลี้ยงข้าวแฟน กินเหล้า ฯลฯ โดยก้อนนี้ก็ใช้เงินที่เหลือจาก ข้อ 1.และข้อ 2.
ทั้งนี้ข้อ 2. กับ ข้อ 3. สำหรับแต่ละคนอาจจะต่างกันขึ้นอยู่กับว่า สิ่งไหนสำคัญสำหรับคุณ บางคนอาจจะแย้งว่าเงินเหลือมาถึงข้อ 3. น้อยมากคุณจะอยู่ได้อย่างไร แต่เชื่อเถอะคุณอยู่ได้ ลองนึกถึงเงินที่คุณได้ตอนเรียนหนังสือหรือเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ สิ
แต่คนส่วนใหญ่ที่ผมเห็นจะทำกลับกันคือ เริ่มจากข้อ 3. ไปข้อ 2. ไปข้อ 1. ผลก็คือส่วนใหญ่จะเงินหมดตั้งแต่ข้อ 3. แล้ว และที่สำคัญหากไม่เตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่าย ที่ต้องจ่ายรายปี ในข้อ 1. แล้วล่ะก๊อ คุณมีปัญหาแน่นอน!!!
ถามจริงเหอะ..ไม่อยากรู้สึกว่าเงินเดือนออกทุกวันเหมือนผมเหรอ ^_^
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
http://pefinance.wordpress.com/about/
- pornchai_w
- Verified User
- โพสต์: 247
- ผู้ติดตาม: 0
ต้องการ passive income ปีละกี่บาทกันครับ
โพสต์ที่ 34
ทำงานมา 10 ปี ยังไม่มีเงินออม
ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสนัดเจอกับเพื่อนเก่าที่เรียนจบมารุ่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้เรียนจบและทำงานกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว กินข้าวและนั่งคุยเรื่องต่างๆ นาๆ หลายคนก็ทำงานบริษัท บางคนก็ฟรีแลนซ์ ที่ทำกิจการส่วนตัวก็มีบ้าง ทุกคนบอกว่าตอนนี้ก็โอเค งานก็ดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่พอแซวว่า งานดีเงินดี ตอนนี้รวยแล้วล่ะสิ หลายคนกลับบอกว่า มีเงินพอใช้เดือนแค่ชนเดือน ก็เลยถามกลับไปว่า ตอนนี้มีเงินฝากธนาคารอยู่เท่าไร คำตอบที่ได้คือ เงินฝากเหรอ อืมม์ ก็กำลังคิดจะฝากอยู่ แต่ปกติใช้เดือนชนเดือนก็แทบจะไม่พอใช้แล้ว เคยเก็บไว้ได้ก้อนหนึ่งเหมือนกันแต่พอดีว่ามีธุระจำเป็นเลยต้องเอามาใช้ ฯลฯ
ผมลองมองย้อนดูตัวเองรู้สึกโชคดีที่พอมีเงินออมอยู่บ้าง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนไปหยิบยืมจากใคร
โดยส่วนตัวผมเมื่อตอนเริ่มทำงานครั้งแรกเงินเดือนเด็กจบใหม่ก็ไม่มากมาย แต่มีความคิดว่าผมอยากเก็บเงินก้อนหนึ่ง แต่ก็กลัวว่าจะถอนออกมาใช้จะทำอย่างไรดี จึงคิดว่าเอาไปฝากประจำดีกว่า ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าฝากประจำคืออะไร คิดว่า ต้องฝากทุกเดือนเป็นประจำ พอเดินไปที่ธนาคารบอกอยากฝากประจำเดือนละ 3,000 บาท และจะเอาเงินมาฝากให้เป็นประจำทุกเดือน แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารก็อธิบายให้ฟังว่าฝากประจำคือนำเงินเข้ามาฝากไว้ตามกำหนดเวลาแล้วแต่จะเลือก เช่น 3 เดือน 12 เดือน หรือ 24 เดือน โดยฝากขั้นต่ำแต่ละครั้ง 10,000 บาท โดยไม่จำเป็นต้องมาฝากเป็นประจำทุกๆเดือน ผมก็เลยเซ็งและคิดว่า เฮ้ยอะไรเนี่ยะ จะสร้างวินัยการฝากเงินก็ทำไม่ได้ แต่พอลองดูเงินฝากประเภทอื่น ก็พบว่ามีบัญชีเงินฝากที่น่าสนใจ บัญชีที่ว่าก็คือ
เงินฝากทวีทรัพย์ 24 เดือน วงเงินฝาก 1,000 - 25,000 บาท
โดยต้องฝากเท่ากันทุกเดือน หากฝากครบได้ดอกเบี้ยสูง ไม่เสียภาษี
ดอกเบี้ยที่ว่านี้ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเงินฝากประเภทอื่นๆ นะครับ
(อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันของ KBank)
ออมทรัพย์ 0.50%
ประจำ 3 เดือน 0.65%
ประจำ 12 เดือน 0.65%
ประจำ 24 เดือน 1.50%
ทวีทรัพย์ 24 เดือน 2.00% ไม่เสียภาษี
ผมจึงตัดสินใจออมเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน เมื่อครบก็ได้เงินก้อน 72,000 บาท บวกกับดอกเบี้ย 1,816.77 บาท ซึ่งผมก็ออมได้ครบสองปี สิ่งที่มีค่าที่ผมได้จากการออมในครั้งนั้น คงไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยหรือแม้แต่เงินก้อนจำนวน 73,816.77 บาท(มากกว่าโบนัสที่ได้จากบริษัทอีก) เพื่อนำไปลงทุนต่อ แต่สิ่งที่ได้คือวินัยในการออมที่เป็นพื้นฐานที่จะสร้่างความมั่งคั่งให้แก่อนาคตทางการเงินต่อไป
ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสนัดเจอกับเพื่อนเก่าที่เรียนจบมารุ่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้เรียนจบและทำงานกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว กินข้าวและนั่งคุยเรื่องต่างๆ นาๆ หลายคนก็ทำงานบริษัท บางคนก็ฟรีแลนซ์ ที่ทำกิจการส่วนตัวก็มีบ้าง ทุกคนบอกว่าตอนนี้ก็โอเค งานก็ดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่พอแซวว่า งานดีเงินดี ตอนนี้รวยแล้วล่ะสิ หลายคนกลับบอกว่า มีเงินพอใช้เดือนแค่ชนเดือน ก็เลยถามกลับไปว่า ตอนนี้มีเงินฝากธนาคารอยู่เท่าไร คำตอบที่ได้คือ เงินฝากเหรอ อืมม์ ก็กำลังคิดจะฝากอยู่ แต่ปกติใช้เดือนชนเดือนก็แทบจะไม่พอใช้แล้ว เคยเก็บไว้ได้ก้อนหนึ่งเหมือนกันแต่พอดีว่ามีธุระจำเป็นเลยต้องเอามาใช้ ฯลฯ
ผมลองมองย้อนดูตัวเองรู้สึกโชคดีที่พอมีเงินออมอยู่บ้าง หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนไปหยิบยืมจากใคร
โดยส่วนตัวผมเมื่อตอนเริ่มทำงานครั้งแรกเงินเดือนเด็กจบใหม่ก็ไม่มากมาย แต่มีความคิดว่าผมอยากเก็บเงินก้อนหนึ่ง แต่ก็กลัวว่าจะถอนออกมาใช้จะทำอย่างไรดี จึงคิดว่าเอาไปฝากประจำดีกว่า ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่าฝากประจำคืออะไร คิดว่า ต้องฝากทุกเดือนเป็นประจำ พอเดินไปที่ธนาคารบอกอยากฝากประจำเดือนละ 3,000 บาท และจะเอาเงินมาฝากให้เป็นประจำทุกเดือน แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารก็อธิบายให้ฟังว่าฝากประจำคือนำเงินเข้ามาฝากไว้ตามกำหนดเวลาแล้วแต่จะเลือก เช่น 3 เดือน 12 เดือน หรือ 24 เดือน โดยฝากขั้นต่ำแต่ละครั้ง 10,000 บาท โดยไม่จำเป็นต้องมาฝากเป็นประจำทุกๆเดือน ผมก็เลยเซ็งและคิดว่า เฮ้ยอะไรเนี่ยะ จะสร้างวินัยการฝากเงินก็ทำไม่ได้ แต่พอลองดูเงินฝากประเภทอื่น ก็พบว่ามีบัญชีเงินฝากที่น่าสนใจ บัญชีที่ว่าก็คือ
เงินฝากทวีทรัพย์ 24 เดือน วงเงินฝาก 1,000 - 25,000 บาท
โดยต้องฝากเท่ากันทุกเดือน หากฝากครบได้ดอกเบี้ยสูง ไม่เสียภาษี
ดอกเบี้ยที่ว่านี้ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเงินฝากประเภทอื่นๆ นะครับ
(อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันของ KBank)
ออมทรัพย์ 0.50%
ประจำ 3 เดือน 0.65%
ประจำ 12 เดือน 0.65%
ประจำ 24 เดือน 1.50%
ทวีทรัพย์ 24 เดือน 2.00% ไม่เสียภาษี
ผมจึงตัดสินใจออมเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน เมื่อครบก็ได้เงินก้อน 72,000 บาท บวกกับดอกเบี้ย 1,816.77 บาท ซึ่งผมก็ออมได้ครบสองปี สิ่งที่มีค่าที่ผมได้จากการออมในครั้งนั้น คงไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยหรือแม้แต่เงินก้อนจำนวน 73,816.77 บาท(มากกว่าโบนัสที่ได้จากบริษัทอีก) เพื่อนำไปลงทุนต่อ แต่สิ่งที่ได้คือวินัยในการออมที่เป็นพื้นฐานที่จะสร้่างความมั่งคั่งให้แก่อนาคตทางการเงินต่อไป
Blog ของคนใช้เงินเก่ง ^_^
http://pefinance.wordpress.com/about/
http://pefinance.wordpress.com/about/