Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมคิดว่าเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งเวปคือการช่วยกันเผยแพร่แนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ปัจจุบันก็ต้องถือว่าประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้ว ดังนั้นเราควรจะสานต่อเจตนารมณ์นั้นต่อไปโดยการส่งเสริมความรู้ด้านการลงทุนแบบเน้นคุณค่าต่อไปทั้งเพื่อคนในเวปและออกไปสู่นักลงทุนทั่วไปที่ยังไม่รู้จักการลงทุนแนวนี้ครับ อาจจะเริ่มด้วยการตั้งเป็นมูลนิธิแบบที่พี่ๆว่า(เผื่อจะมีคนใจดีร่วมลงขันเพิ่ม)
ส่วนการบริจาคหรีอทำบุญโดยตรงนั้นผมว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละคนที่ทำกันได้เองอยู่แล้วครับ

ผมเห็นว่าเงินส่วนนี้ น่าจะรักษาให้คงอยู่
แต่ก็ไม่น่าให้ใหญ่ขึ้นมากเกิน

เอาส่วนดอกผล ส่วนเกิน ไปใช้  
ทำอะไรก็ได้แล้วแต่กิจกรรมของเวป
ที่เป็นประโยชน์ ต่อการส่งเสริมการลงทุน
แบบเน้นคุณค่า ตามเจตนารมณ์ ของท่านผู้ก่อตั้ง
ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร เห็นสมควร ครับ

ขอบคุณท่านประธาน
ที่กรุณาให้พวกเราได้ออกความเห็นครับ

อยากเห็นกองทุนพัฒนานักลงทุนคุณค่าครับ
เหมือนกับกองทุนพัฒนาตลาดทุน ที่ส่งเสริมตลาดทุนอยู่ (เผื่อจะเอาโมเดลนี้มาใช้)

ส่วนเรื่องทำบุญ อยากให้ใช้แค่ดอกผลไปทำบุญครับ
สนับสนุน กิจกรรมส่งเสริมความรู้ให้นักลงทุนหน้าใหม่ รวมทั้งการบริจาคหนังสือตามห้องสมุดต่างๆ

เห็นด้วยกับเรื่อง ทยอยทำบุญทุกปีไปเรื่อยๆ

กับเอาเงินมาลงทุน ให้ความรู้แก่นักลงทุนที่สนใจด้านนี้ ทั้งในกทม. และต่างจังหวัดสามารถเข้ามาหาความรู้ได้ครับ

อันนี้พูดเพ้อไปเฉยๆ...ซื้อสถานี หาสปอนเซอร์ แล้วก็ทำ money channel ต่อไป แบบไม่ต้องง้อใคร...

ทำห้องสมุด vi ครับ แบบห้องสมุดมารวย  :lol:

ควรเอาผลตอบแทนมาใช้ค่ะ

ส่วนจะเอาไปใช้ทำอะไร แหม่มคิดว่าไอเดียทุกท่านดีอยู่แล้วค่ะ คงไม่ต้องออกความเห็นเพิ่มเติมอะไร

สนับสนุนให้บริจาคเพื่อการศึกษาครับ
อาจจะไม่จำกัดเรื่องการลงทุนก็ได้
เพราะคนที่ขาดแคลน ก็ต้องช่วยเหลือตามสิ่งที่เขาขาดแคลน
บริจาคเครืองกีฬาก็ดีครับ เพื่อสุขภาพ

ผลกรรมใดๆจะส่งผลให้ชาตินี้ชาติหน้ามีปัญญาและสุขภาพดี

เห็นด้วยกับคุณ meee ครับ

naris เขียน:ชงเสนอแยกเป็นกองทุนออกมาจากเวป....เพื่อไม่ให้เป็นภาระของคนอื่นที่จะไม่กล้าทำอะไรกับเงินที่ตนเองไม่ได้หามา

แล้วจัดการกองทุนนี้ให้ได้สัก5-10ล้าน และจากนั้นนำไปซื้อกองทุนอสังหากระจายสัก3-5ตัวและเอาเฉพาะเงินปันผลมาทำบุญทุกๆปี โดยกำหนดเป็นนโยบาย เช่นอาจจะแบ่งเป็น3กอง การศึกษา พุทธศาสนา และทางการแพทย์ ครับ

ผมเห็นด้วยกับความเห็นของพี่นริศครับ

เงินที่มีในตอนนี้หากมีวิธีที่จะทำให้เพิ่มพูนขึ้น
แล้วค่อยทยอยนำเฉพาะเงินปันผลออกมา
คิดว่าน่าจะสามารถทำบุญได้มากขึ้นและยาวนานขึ้น
ผู้ได้รับประโยชน์ก็จะมากขึ้นกว่าการเอาเงินออกมาใช้ในตอนนี้ครับ

เท่าที่ดูๆแล้วมีความคิดเห็นที่น่าสนใจหลายความคิดเห็นเลย
น่าจะแบ่งเงินไปทำหลายๆอย่างนะครับ

ลองเริ่มจากความคิดเห็นนี้ก่อนนะครับ

Little Boy เขียน: แนวทางแรก ผมเสนอให้หยิบยืม ขออนุญาติ หรือซื้อต่อ โปรแกรมของพี่ครรชิต แล้วนำมาปัดฝุ่น พัฒนา ต่อยอด
ให้มีการใช้งานได้อย่างสะดวกราบรื่น และครอบคลุมเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของนักลงทุนแนวเน้นคุณค่ามากที่สุด
โดยอาจจะทำเป็นโปรแกรมใหม่ไปเลย (คล้ายๆ ของ efin ที่มีโปรแกรมอ่ะครับ) โดยโปรแกรมนี้อาจเปิดให้สมาชิกได้ใช้งานฟรี
ส่วนเว็ปก็เจียดเงินส่วนหนึ่งมาเป็นค่าทีมงานที่ดูแลเป็นรายเดือน
คร่าวๆ ก่อนนะครับสำหรับแนวทางแรก เพราะผมก็ไม่ถนัดเรื่อง IT พวกโปรแกรมเท่าไหร่ แต่คิดว่ามันน่าจะทำได้
ซึ่งหากได้ทำโปรแกรมตามแนวคิดนี้จริงๆ เงินเก็บเว็ปไซด์ก็คงพร่องลงไปมาก จนอาจจะไม่สามารถดำเนินการตามแนวทางที่ 2 ได้
แต่หากเรายังมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง ใช้เวลาสักนิด ก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้

แนวคิดนี้น่าสนใจครับ เนื่องจากผมทำมาหากินด้านการพัฒนาโปรแกรมมานาน ผมเลยเห็นความเป็นไปได้ครับ

แต่ขอเสนอเพิ่มเติมนิดนึงครับ ผมคิดว่าเราควรจะแบ่งโปรแกรมนี้ให้เป็น 2 ส่วนครับ
ส่วนแรกให้สมาชิกทุกคนเข้าฟรี ข้อมูลก็จะเหมือนกับที่อยู่ในไฟล์พี่ครรชิต
ส่วนที่สองเราอาจจะมีการเพิ่มเติมอะไรบางอย่างเข้าไป เช่น apply สูตร magic formula จากข้อมูลในไฟล์พี่ครรชิต  เป็นต้น แต่การจะ access ส่วนนี้น่าจะมีค่าบริการครับ เพื่อจะให้มีรายได้เข้าเว็บอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเรื่องการพัฒนาติดต่อผมได้เลยครับ ผมยินดีช่วยเต็มที่ไม่คิดตังค์ครับ (แต่อาจจะช้าหน่อยเพราะทำคนเดียว) เพราะเว็บนี้และไฟล์ excel ของพี่ครรชิตก็ช่วยเหลือผมในการลงทุนมากเลย

แนวคิดต่อไปที่เห็นหลายคนพูดถึงคือการสอนเรื่องการลงทุนแนว VI

อันนี้ผมก็ว่าน่าสนใจครับ แต่คงต้องแตกต่างการการสอนออมและลงทุนที่เห็นกันทั่วไป ผมคิดว่าน่าจะ focus เนื้อหาไปที่ Financial Freedom ครับ เพราะจะดูน่าสนใจกว่า ที่คนทุกวันนี้ออมน้อยและไม่ค่อยลงทุน ส่วนหนึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเขายังไม่ทราบถึงพลังของการลงทุนและดอกเบี้ยทบต้น ไม่เห็นหนทางที่เขาจะไปถึง Financial Freedom เขาเลยไม่เลือกอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เขาเลยใช้จ่ายเพื่อความสุขที่เขามั่นใจ และที่เขาเห็นตรงหน้า ขั้นเริ่มต้นผมว่าเป็นทำเป็นหนังสือแล้วดู feedback ก่อนน่าจะดีครับ แล้วหลังจากนั้นอาจจจะทำเป็นการเรียนการสอนเป็นเรื่องเป็นราวอย่างที่คุณ picatos แนะนำ หรืออาจจะทำแบบ Turtle trader ก็ได้ที่คัดคนธรรมดามาฝึกเป็น VI ซัก 20-30 คน ให้เห็นว่าการเป็นนักลงทุนไม่ได้ยากเกินไปสำหรับคนทั่วไป เป็นต้น

อีกแนวคิดที่น่าทำคือเรื่องที่พี่นริศเสนอเรื่องจัดตั้งกองทุน อันนี้ก็ดีครับ จะได้ทำให้เราสามารถทำบุญในวงกว้างกว่านี้ได้ในอนาคต เงินเป็นสมบัติผลัดกันชม เมื่อมีมากเราก็ส่งผ่านได้มากครับ แนวคิดนี้น่าจะมีคนมีความสามารถทำให้กองทุนงอกเงยได้หลายคนอยู่ครับ ผมคิดว่าเงินที่เหลือจากการทำโครงการอื่นๆน่าจะมาลงที่นี่ครับ เพื่อในอนาคตจะได้มี cash flow มาทำอะไรดีๆอย่างนี้กันอีก เพราะยังมีอีกหลายแนวคิดที่น่าทำครับ

สนับสนุนแนวคิดส่งเสริมการลงทุน ขอรับ แต่เป็นกระจายโอกาสไปยังเยาวชนที่ด้อยโอกาสตามต่างจังหวัด  ให้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน  การวางแผนทางการเงิน  การวางแผนการออม  โดยจัดอบรมสัมมนาหรือค่ายนักลงทุนน้อย  ให้นักเรียนที่อยู่ต่างจังหวัด  อาจเป็นเด็กระดับมัธยม  อาชีวศึกษา  หรือมหาวิทยาลัย   เนื้อหาตามระดับที่เราเห็นว่าเด็ก ๆ น่าจะรู้  ถ้าตอนเป็นเด็กมีใครสอนเราอย่างนี้  ป่านนี้เรามีอิสระภาพแล้ว  อะไรประมาณเนี้ยแหละขอรับ  ข้าพเจ้าเป็นเด็กบ้านนอก  กว่าจะรู้เรื่องการลงทุนก็ทำงานแล้วหลายปี  กว่าจะมาเจอการลงทุนแนว VI  ก็เสียค่าเทอมไปหลายตังส์  โอกาสที่เด็กบ้านนอกจะรู้เรื่องตลาดทุนตลาดเงิน  ยังน้อยอยู่ขอรับ  เรามาทำบุญโโยการให้โอกาส และความรู้กับเยาวชน  ก้น่าจะดีน่ะขอรับ  :P

ขอบคุณนะครับ
ความคิดดีๆทั้งนั้นเลย  :lol:

สนับสนุนไอเดียคุณนริศครับ

อยากให้เน้นเรื่องการศึกษาและความยากจนครับ...

ขออนุญาตเห็นต่างครับ
เงิน1ล้านบาทไม่ใช่เงินที่มากมายอะไร
บริจาคไปก็หายหมดไม่งอกเงยอะไร
ผมว่าเอามาสร้างวิทยาทานความรู้การลงทุนแก่ส่วนรวมดีกว่า
ก็เป็นการทําบุญเหมือนกัน
(บุญในบาลีแปลว่าทําให้งอกเงยครับ)
คนทียังไม่เก่งจะได้เก่ง คนที่เก่งแล้วจะได้เก่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
ซื้อหนังสือการลงทุนต่างประเทศมาซีร็อกซ์ขายสมาชิกราคาถูก
ทําห้องสมุดe-libraryให้ทุกคนได้หาความรู้
หรือมาปรับปรุงเวบให้สวยงามทันสมัย
เพิ่มraw dataที่จําเป็นสําหรับการลงทุนและหาได้ยากเช่น
กราฟset กราฟราคาหุ้น งบดุลบัญชีปันผล ระยะยาว10ปีขึ้นไป ฯลฯ
ในความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า
เงิน1ล้านเอามาพัฒนาเวปTVI ให้มีvalue 10ล้านหรือ100ล้านดีกว่า
ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นviมืออาชีพ

สามัญชน เขียน:ตอนนี้เว็บเรามีเงินล้านกว่า
อยากจะตอบแทนสังคมบ้าง
จึงน่าจะระบายเงินออกไปไม่ให้เหลือเยอะเกินไป
ดร.ไพบูลย์เคยทักว่า  เงินก้อนนี้ถ้าปล่อยให้ใหญ่ไปเรื่อยๆจะเป็นปัญหาในภายหลัง
ผมเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน
เรามีแค่พอค่าใช้จ่ายน่าจะดีกว่า
.........................................................................................................................................................
:lol:

ท่านประธานครับผมใคร่เสนอให้กรุณานำเอาวัตถุประสงค์ของการขอบริจาคแต่เดิมมาแจงให้ทุกคนรับทราบก่อน  เสร็จแล้วลองทบทวนพร้อมประเมินและปรับปรุงวัตถุประสงค์ขึ้นมาใหม่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน   โดยขอความเห็นการVoteจากสมาชิกโดยเฉพาะเน้นให้สิทธิและฟังความเห็นผู้บริจาคแต่เดิมว่าอยากให้เงินที่งอกเงยมานั้นต้องการให้เอาไปทำอะไร  อย่างที่ท่าน ดร.ไพบูลย์ ท่านกังวลนั้นถูกต้องที่สุด เพราะเรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใคร  หากทำอะไรที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ถูกไม่ควร ก็จะเป็นที่ครหาได้ในภายหลัง อันจะนำมาซึ่งความแตกแยกความสามัคคีกันระหว่างสมาชิก ThaiVI ได้

การจัดการเงินก้อนนี้อย่างมีระบบระเบียบ มีกฎเกณฑ์ควบคุม น่าจะดีที่สุด  เช่น การตั้งเป็นกองทุน หรือ มูลนิธิ ThaiVI เพื่อทำให้งอกเงยเติบใหญ่ขึ้นแบบทบต้นไปเรื่อยๆ(ตามหลักและแนวทางของ Value Investing นั่นแหละ)  แล้วจึงค่อยมาคิดนำดอกผลที่ได้มาตอบแทนสังคม น่าจะดีที่สุด  เพราะถ้าหากนำไปทำบุญบริจาค หรือช่วยการกุศล ย่อมทำให้เงินต้นหดหายไป  และหากภาวะตลาดหุ้นตกต่ำมูลค่าเงินต้นก็จะยิ่งหดหายมากเข้าไปอีกได้

การเน้นทำบุญโดยจัดทำแหล่งให้ความรู้เรื่องการลงทุนแบบ Value Investing ที่มีคุณภาพมากยิ่งๆขึ้นไปจากที่ ThaiVI ทำอยู่ขณะนี้ ให้แก่คนทั่วไปน่าจะเป็นเรื่องหลักที่ดอกผลดังกล่าวควรจะถูกนำไปใช้  (สอนให้คนหาปลา แทนที่จะให้ปลาไปเปล่าๆ)

สนับสนุนให้บริจาคเพื่อการศึกษา ให้ผู้ด้อยโอกาศครับ

ใครเคยไปค่าย ที่ต่างจังหวัดในถิ่นทุรกันดาร คงรู้ว่า โลกของเขากับโลกของเรา
แตกต่างกันเพียงใด บางที เด็กยังไม่มีรองเท้าใส่ไปเรียนหนังสือเลย
ใส่เสื้อขาดๆ ยิ่งเห็น ข้าวกลางวันของเขา ยิ่งสลดใจ

ผมว่าคนที่มีเงินเล่นหุ้น ก็เป็นคนที่มีชีวิตที่ดีในระดับหนึ่งเเล้ว
และผมเชื่อว่า ทุกคนสามารถ หาความรู้เพิ่มได้ด้วยตนเอง ในการใช้ทุนของตัวเอง ในการต่อยอดความรู้ได้อยู่แล้ว
ไม่ว่าจะหาหนังสือมาอ่าน หรือ เข้าไปฟังสัมมนาต่างๆ
แกะงบอยู่หน้าคอม ฯลฯ

ผมไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเอางบที่มี
ไปช่วยในการต่อยอดความรู้แต่อย่างใด

ผมว่า เป็นโอกาศอันดีที่เว็บจะ เปิดบริจาคเพิ่มด้วยก็ได้
เพื่อไปบริจาคผู้ด้อยโอกาศในถิ่นทุรกันดาร

เป็นเพียงความเห็นหนึ่ง

ไม่มีความเห็นอื่นใดครับ มาอนุโมทนาบุญกับทุกๆความเห็นข้างต้นครับ
เจตนาสมกับเป็นเวปแห่ง VI ครับ

รู้สึกแค่ 1 ล้านมันน้อยไป อยากให้กันส่วนนึงไปลงทุน แค่ 10 ปีก็กลายเป็น 100 ล้านแล้ว ฝีมือเทพ ๆ ทั้งนั้น ไม่น่ายาก  :lol:
ถึงตอนนั้นก็เอาปันผลปีละ 5-6 ล้านมาบริจาคอย่างเป็นระบบ

ว่าที่จริงผมก็กำลังอยากได้ idea เหมือนกันว่าบริจาคที่ไหนดีครับ ถึงจะคุ้มค่าที่สุด เท่าที่เคยคุยกับเพื่อน ๆ vi หลาย ๆ คน พอทราบว่าเป็นนักบริจาคกันทั้งนั้น นอกจากลอกหุ้นแล้ว อยากลอกวิธีการทำบุญบ้างครับ  :lol:

เห็นด้วยกับความเห็นของคุณ Little Boy ครับ

มีการ Training เป็นระบบ แล้วสร้าง VI รุ่นสู่รุ่นครับ เพราะการมี VI เก่งๆเพิ่มขึ้น  VI แต่ละท่านจะสามารถช่วยสังคมได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนมากขึ้นครับ

จากประสบการณ์ตรงที่ผมได้เข้าไปทำงานในชมรมอาสาพัฒนา การบริจาคเงินและสิ่งของนั้น ไม่สามารถช่วยคนทั้งหมดได้ในครั้งเดียวครับ  

ผมจึงอยากเสนอให้มีการสร้าง VI รุ่นสู่รุ่น แล้วเราจะมีทุนไปช่วยเหลือสังคมแบบยั่งยืนคร๊าบ  :D

อยากให้การทำบุญ   ออกมาในแนวทางการสร้างปัญญา ให้แก่คนในสังคมโดยเฉพาะการเสริมสร้างความรู้ในการจัดการบริหารเงินทอง  ของครอบครัว
ของชุมชนต่างๆ  เมื่อคนในสังคมมีความรู้ความเข้าใจในการบริหารเงินทองของตนเอง  ความสุขในครอบครัวและชุมชนก็ตามมา  ผลก็จะทำให้ประเทศมีความมั่นคงไปด้วยครับ
          การดำเนินการ  อาจจะบริจาคหนังสือแนวการบริหารเงินทองแก่ห้องสมุดของโรงเรียนต่าง ๆ  หรือของชุมชน
          ส่วนการดำเนินการให้เงินทุนเว็บให้งอกเงยนั้น ผมว่าความจำเป็นครับ  เพื่อให้มีเงินทุนมากพอที่จะทำบุญและทำได้อย่างต่อเนื่อง   และถือว่าเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมของเว็บเรา  พวกเราต้องช่วยกันคิดละครับ

อ่านแล้วทึ่งกับไอเดียดีๆ ทั้งนั้นเลย

ผมสนับสนุนไอเดียในการทำบุญรูปแบบใดก็ได้ครับที่ยั่งยืน ไม่ใช่แบบทำครั้งเดียวแล้วก็ต้องมาเริ่มรวบรวมกันใหม่อีกครั้ง มีเงินเริ่มต้นอยู่แล้วสามารถออกดอกออกผลมาใช้ทำบุญได้เรื่อยๆ อย่างยาวนาน  ได้ดอกผลมากก็ทำมาก น้อยก็ทำน้อยครับ

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าด้วยครับ

ป.ล. ไม่ทราบว่าเห็นอย่างไรกับการเปิดโอกาสให้สมาชิกเว็บได้ร่วมทำบุญด้วยตามกำลังศรัทธาครับ?

ขออนุญาตินำเสนออีกหนึ่งไอเดีย
ทางเว็บอาจจะมีการจัดประกวดแผนธุรกิจเพื่อสังคม โดยผู้ที่ชนะจะได้รับเงินทุนเพื่อสร้างธุรกิจนั้นขึ้นมาจริงๆ ธุรกิจนั้นๆต้องอยู่รอดได้และสามมารถคืนเงินทุนกลับมาเพื่อที่ทางเว็บจะสามารถจัดประกวดแผนธุรกิจเพื่อสังคมได้ทุกๆปี ผ่านไปซัก 10-20 ปี เว็บ THAIVI ก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใน 10-20 ธุรกิจ ที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมของเรา ฝันไกลไปไหมเอ่ย  

มาฟังความเห็นแล้วอดเสนอบ้างไม่ได้ครับ
การทำบุญในความเข้าใจของผม คือ
การลดความเห็นแก่ตัวลง (กำจัดวัชพืชในใจไม่ดีออก)
สร้างความเมตตาขึ้นแทนที่ (เพาะปลูกพืชที่ดีงามในใจขึ้นใหม่)
ทุกความเห็นที่ผมอ่านมาล้วนบรรลุข้อนี้ทั้งนั้น

เพียงแต่ต้นไม้ใดเล่าที่ให้ผลงอกงามดีที่สุด เหมาะกับพื้นที่นี้ที่สุด
ดินงาม เมล็ดดี อากาศดี มีคนหมั่นขยันรดน้ำดูแล
ย่อมต้องมีผลออกมาดี
เห็นด้วยกับการปลูกต้นไม้ให้งอกกิ่งใบผล ที่จะแผ่ก้านใหญ่ทุกความเห็นครับ

เป้าหมายตอนนี้ยังเห็นว่าเราจะเน้นที่กลุ่มไหนเท่านั้นเอง
ผมเห็นว่าการที่สนับสนุุนให้เว็บนี้ยั่งยืนก็มีผลให้คนหมั่นทำบุญมากขึ้นไม่น้อยนะครับ
เพราะมีไอดอลให้เอาเป็นแบบอย่างอยู่หลายท่าน
ดังนั้น เบื้องต้นผมเห็นว่าควรปลูกต้นไม้ (เว็บนี้) ต้นนี้ใหม่เป็นปึกแผ่นมั่นคงก่อนครับ
 :)  :)

อยากให้เงิน 1 ล้าน ไปเป็นค่าแรงให้วิทยากรขั้นพฐให้กับหมู่บ้านหรือชาวบ้านในชนบท

-ผู้สันทัดเรื่องการทำบัญชี เพื่อไม่ให้เป็นหนี้
-ผู้สันทัดเรื่องการผลิต
-ผู้สันทัดเรื่องการตลาด
-ผู้สันทัดเรื่องการวิจัย เคมี
-ผู้สันทัดเรื่องชีวภาพ
-และอื่นๆอีกมากมาย

ผมอยากให้รายได้ต่อหัวคนชนบทดีขึ้น ประเทศเราน่าจะดีขึ้นด้วย
ในท้ายที่สุดมันจะกลับมาหาเราเองในตลาดหุ้น

สำหรับความเห็นส่วนตัวผมแล้ว จะทำกิจกรรมตอบแทนสังคมอะไรก็แล้วแต่ เงินส่วนที่เหลือจากกิจกรรม ควรนำมาออมไว้ในหุ้นกลุ่มโรงพพยาบาลดีๆซักโรงในประเทศครับ เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจการช่วยเหลือชีวิตคน ได้บุญได้กุศล ได้เงินปันผล ทั้งเงินต้นยังไม่สูญหาย

ดีทุกข้อครับ เห็นด้วยกับทุกความเห็น

สนับสนุนแนวทางของคุณนริศครับ

สำหรับผมเห็นด้วยกับการเริ่มต้นด้วย

1) นำเงินส่วนหนึ่งไปสนับสนุนกิจกรรมอบรมเพิ่มความรู้พื้นฐานการลงทุนแนวทางวีไอ แต่ทั้งนี้ต้องเปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการอบรมได้คืนหรือบริจาคกลับเข้ามา (อาจจะได้มากว่าค่าใช้จ่ายที่ทางเวปออกนำกับเข้าไปรวมเข้าไปเพื่อไปใช้ในส่วนที่2)

2) นำเงินส่วนที่2 จัดตั้งเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กยากจนในต่างจังหวัด

ผมอยากให้ทำหนังสือครับ เป็นของเว็บจดลิขสิทธิ์  ขายคู่ตีแตกไปเลย
ผมว่าด้านบุคลากรมีไม่น้อยเลยที่จะเขียนได้เขียนคนเดียวอาจจะยากช่วยกันน่าจะพอไหว อีกอย่างนึงผมว่าลูกค้าน่าจะมีมากพอสมควร  คล้าย AF ,THE  SATAR ที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรแล้วอาจขายได้ไม่ตามเป้า แต่ถ้าเนื้อหาดีตรงวัตถุประสงค์ กำไรก็ตกกับผู้อ่านเอง ถ้าเหลือจิงๆนะ บริจาคตามห้องสมุดมหาลัย โรงเรียนต่าง ๆ ก็ยังได้ ถ้าไฟไม่ไหม้ น้ำไม่ท่วม ยังมีประโยชน์อีก 20-30 ปี ระยะยามตามวัตถุประสงค์เลย แต่เรื่องค่าใช้จ่ายไมรู้เกินงบหรือเปล่า  (ให้พี่ๆถือหุ้น ซีเอ็ด อัมรินทร์เยอะๆคุยเลย )