หน้า 2 จากทั้งหมด 2

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 07, 2010 8:12 pm
โดย iluckyhappy
[quote="picklife"][quote="iluckyhappy"]ผมว่าเราควรต้องบริหารความเสี่ยง เพราะ ถ้าเป็นแบบปี 40 จริง ๆ ผม
ขอ ถอย 1 ก้าว มานั่งมองจากวงนอก

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 07, 2010 9:56 pm
โดย superboy
ผมอยากรอด แต่ทำยังไง ครับ  

แนะนำให้หน่อย ครับ

พี่ๆๆ ระวังตัวกันแบบนี้ ผมคิดว่า รอดกันเยอะแน่ๆๆ ครับ

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 11:13 am
โดย aviruth
ผมว่าบางคนก็ขายล้างพอร์ตออกไปนั่งดูวงนอกนะครับ แต่ปัญหาคือเราไม่รู้ว่าวิกฤตมันจะจบลงเมื่อใหร่ ไม่สามารถถือเงินสดรอกันเป็นปีๆไ้ด้ สุดท้ายก็โดดเข้าไปใหม่ ตอนมันลงมาแล้ว 20% มั่ง 50% มั้ง แต่มันก็ยังลงไปอีก ผมว่าถือหุ้นผ่านมันไปดีกว่าอย่างน้อยก็ได้ปันผล ค่อยหาเงินใหม่มาิเติมตอนมันลงไปเยอะๆดีกว่า รู้อะไรไม่สู้รู้งี้หรอกครับ

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 11:51 am
โดย sorn adis
คนตายพูดไม่ได้ครับ

มีใครรอดจากปี 40 มาช่วยแชร์ไอเดียก็ดีนะครับ

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 11:54 am
โดย picklife
แต่ถ้ามองวันนี้ ผมมว่าแค่วิกฤติปี51น่าจะใกล้เคียงกว่าครับ อย่างวิกฤติปี40ไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกแล้วครับ เพราะตอนนั้นPEสูงมากมาย :D

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 11:59 am
โดย kmphol
[quote="stolic"][quote="satantuey"]ถ้าเกิดแบบปี 40 อีกครั้ง

ผมว่าตอนตกหนักๆสิดี จะได้เป็นโอกาสให้ได้ของดีราคาถูก :lol:

Re: ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 1:33 pm
โดย leechong
chatree เขียน:หากเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาววีไอจะขาดทุนมั๊ยครับ แบบประเภท set จาก 1700 เหลือ 200+ แล้วสิ่งที่เราควรจะทำคืออะไร และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลานั้นแล้ว ผมคิดว่าเราควรจะ expect for the best but prepare for the worst คือหวังผลเลิศ แต่เตรียมพร้อมสำหรับหายนะ พอดีผมมือใหม่ครับ เลยอยากจะเตรียมตัวไว้ก่อน ไม่อยากลงทุนเพลินจนกระทั่งกว่าจะรู้ตัวก็ขาดทุนมหาศาล เพราะปรับตัวไม่ทัน และไม่มีกลยุทธ์ในการถอย รบกวนผู้รู้ช่วยแบ่งปันด้วยนะครับ เพื่อมือใหม่อย่างผมและหลายๆท่านจะได้ปลอดภัยในการลงทุน
[/quote]
เสนอ 2 มุมมอง
    ถ้าเป็นแบบนี้ ปัญหาเดิมๆ รูปแบบเดิม รู้แน่ชัด ผมว่ารอดเกิน 50%
    ถ้าเป็นแบบใหม่ๆ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นปัญหาใหม่ๆ กรณีศึกษาใหม่ๆ ผมว่าชาววีไอพันธ์แทนจะมีโอกาสรอดมากกว่า ส่วนชาววีไอเก็งกำไรกับชาวสวนจนน้ำตายครับ
    เหตุผลประกอบ
    วันหนึ่่งผมดูรายการที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์หุ้นและเศรษฐกิจของจีน (ดาวเที่ยมใน ร.พ.) ผมจำใจความได้ว่า การผลิต การค้า การบริการ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมี (ฐานตัวเลขดัชนี) ที่สมดุลของมันในด้านอุปสงค์และอุปทาน และในแต่ละปี ตัวเลขเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น/ขยายตัวในอัตราเพิ่มขึ้น แต่ก็จะหนีไม่พ้นจุดสมดุลของมัน ในกรณ๊ที่มีสินค้าหรือบริการใดตายไปจากวงจรก็มักจะมีสินค้าและบริการใหม่เข้ามาแทนที่ในวงจร แต่สิ่งที่ผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่น การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย การไม่ประหยัด การผลิตเกินความต้องการของตลาด การขาดวินัยทางการเงิน การไม่เข้มงวดในการรักษากฎระเบียบ กฎหมาย และอื่นๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันจะค่อยสะสม ในขณะเดียวกันการบริโภคก็ไม่รู้จักคำว่าหยุดกับคำว่าพอ (เศรษฐกิจพอเพียง) มินานเกินรอค่อย มันก็จะระเบิดขึ้น คาวนี้ก็หนี้ตายกันทั่วหน้า ส่วนชาวสวนที่พื้นฐานไม่ดีก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปกับเขาด้วย เพราะทุกสิ่งที่เราทำมันอยู่บนพื้นฐานกระดานเช็ดก้น กระทบจริงๆก็ไปไม่รอด
    ยกตัวอย่างของนักวิเคราะห์ชาวจีน
    1. ยอดขายของบริษัทหรืออุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นตลอดทุกปี (ดีไม่ถูกดี) เพราะมันเพิ่มแบบเกือบทวีคูณ จาก 1ล. เป็น 2ล. เป็น 4ล. มันผลปกติของการประกอบธุรกิจ นักลงทุนต้องเขาไปตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ/ขาย
    2. ยอดการสร้างบ้าน (อเมริกา) ก่อนเกิดวิกฤติ 1-2ปี ตัวเลขเกี่ยวกับการสร้างบ้านโตเอาโตเอา โตแบบทวีคณู 2 ถ้าเรามองตามความเป็นจริง เราต้องเขาไปตรอจสอบ ไม่มีการค้าใด้ที่โตเอาโตเอาแบบนี้ได้ตลอดไปหลอก
    3. ลามมาจากข้อ 2 ยอดการให้/ขอ สินเชือ (บางกลุ่มเป้าหมาย) โตขึ้นอย่างผิดปกติ โตเอาโเอาแบทวีคณู 2 ถ้าเรามอง ต้องตรวจสอบอีกครับ
    สรุป อะไรก็ตามที่โตแบบทวีคูณ 2 (มากกว่านั้น) เราต้องเข้าไปตรวจสอบก่อน เป็นการปลอดภัย เพราะบริษัทเล็กๆ ทำรายได้ จาก 1ล. เป็น 2ล. เป็น 4ล. เป็น 8ล. มีความเป็นไปได้ครับ แต่บริษัทใหญ่ๆ จะทำรายได้ จาก 1000ล. เป็น 2000ล. เป็น 4000ล. เป็น 8000ล. เป็น 16000ล. ผมไม่เชื่อแต่แรก ไม่ไปไม่ได้ตลอดรอดฝั่งหลอก
    อย่างหุ้นไทยในปัจจุบัน ผมว่าความผิดปกติของการซื้อขายค่อยๆปรากฏเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ยิ่งสถานการณ์ผิดปกติมีความชัดเจนมากเท่าไรผมก็จะถือเงินสดมากขึ้น ส่วนตัวที่มีพื้นฐานดีพื้นฐานเพชร ผมก็จะถือเอาไว้
    (ขอโทษที่คิดไม่ดีกับท่าน)
    วิกฤติร้ายร้ายของคนอื่น คือโอกาสดีดีของเรา
    ฝันหอมหวานของคนอื่น คือแผงตลาดนัดของเรา
    วิ่งหนีตายของคนอื่น      คือเราประมูลของทอดตลาด

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 2:49 pm
โดย โอบาน่า
ดร.พอร์ตใหญ่ขายไม่ทันแถมมีหุ้นดีๆ นั่งกินปันผลได้เรื่อยๆ ก็ไม่เดือดร้อนอะไรมาก แถมมีเงินซื้อเพิ่มได้อีกของถูกเต็มตลาด แต่พอร์ตเล็กเงินน้อยขายไม่ทัน แถมหุ้น ก้นบุหรี่เพียบ อีกทั้ง หุ้นโตเร็วตกทีหาก้นเหวไม่เจอ หรือหุ้น turnaround กลายเป็นหุ้น turnอะลงๆ ช่วงวิกฤติตกงานไม่มีเงินซื้อหุ้น ผมว่าเตรียมตัวไว้แบบที่ จขกท พูดนะดีแล้วครับ ถ้าพอร์ตไม่ใหญ่มากวิกฤตมันก็คือโอกาสเลยครับ ขายไม่ทันก็ต้องมี cash of king

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 3:07 pm
โดย Pekko
มีงานประจำทำอยู่หรือเปล่าครับ ถ้ายังมีก็พอรอด เพราะผมลงทุนเป็นอาชีพเสริม(อีกหน่อยจะกลายเป็นอาชีพหลัก) คงปล่อย PORT ไว้เดิมๆ ครับ คิดเสียว่าปรับ PORT ไม่ทัน และเชื่อมั่นในแนวคิดว่า "เดี๋ยวมัน(ราคาหุ้น)ก็กลับมา" แม้อาจจะใช้เวลาหลายๆ ปีก็ตาม

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 3:13 pm
โดย laohanant
ผมว่าเพิ่งจะเป็นช่วงเริ่มต้นในตลาดกระทิงรอบใหญ่ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า  :mrgreen:

หลายๆ คนก็ออกแนวหวาดกลัว เป็นเรื่องปกติเมื่อขึ้นมาเยอะๆ  แต่ถ้าลองได้กลับไปศีกษาสาเหตุที่ฟองสบู่แตกใหญ่ปี 2540 ดูดีๆ แล้วก็จะรู้ว่าปัจจุบันยังห่างอีกไกลโขทีเดียวนะ  :D

ถึงแม้ตอนนั้นในอนาคต ทั้งตลาดจะ Overvalue แต่ก็ใช่ว่าฟองสบู่จะแตกทันที มันอาจจะขยายตัวออกไปอีกหลายเท่าในหลายปีก็เป็นได้ อย่างที่ลินซ์ ว่าไว้ ว่ามันเหมือนกับตัวกระตูนที่กระโดดออกจากหน้าผา มันก็ยังคงไต่อากาศขึ้นไเรื่อยๆ ตราบเท่าที่พวกมันยังไม่รู้ตัว  :lovl:

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 6:40 pm
โดย iluckyhappy
:wink:
ตอนนี้ สิ่งที่น่าจับตามอง น่าจะเป็นเรื่อง กระแสเงินทุนของโลก เฮดฟันด์ เปลี่ยนไปพร้อมที่จะเข้าไปเก็งกำไรตามประเทศต่าง ๆ ที่มีโอกาส
อย่างน้อยการไหล เข้าออก ของเงินทุน ก็ทำให้ นักลงทุน น้ำตาตก ได้เหมือนกัน ..ทิ้งให้นักลงทุน ได้แต่เฝ้ารอความหวัง
ต่อไปว่า เมื่อไหร่ พวกเขาเหล่านั้น (เฮดฟันด์) จะแวะวนกลับมาอีก

สัจธรรมแท้ ๆ เลย  :D )
----------------------------------------------------
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ถ้าเกิดเหตุการณ์ปี 40 อีกครั้ง ชาว VI จะรอดมั๊ย

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 08, 2010 7:29 pm
โดย เต่าเผือก
ผมว่าถ้าเล่นหุ้นให้ได้กำไรเยอะๆ ต้องcut loss ให้ได้ เช่นตั้งไว้ว่าลง10% ต้องขาย  ถึงหุ้นพื้นฐานดีถ้าเป็นขาลง มันก็ลง ถ้าบอกset เหลือ 200 ตัวพวกนี้ยิ่งต่ำ  เพราะปัญหาอยู่ที่พอหุ้นลงแล้วถ้าไม่ขายstop loss จะไม่มีเงินช้อนตอนของถูก ตอนset ต่ำๆ ส่วนตัวผม ถ้าเป็นขาลง ผมจะล้างportหมด และรอรอรอ จน set เริ่มมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นแล้วเลือกหุ้นพื้นฐานดีเก็บไว้ซัก3-5กลุ่ม แล้วรอรอรอรออีก จะกี่ปีช่างมัน พอ set ไปแตะซัก1000 จุดค่อยเริ่มขายตาม trend ครับ