หน้า 2 จากทั้งหมด 3
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 19, 2012 9:50 am
โดย pak
พลังงานตั้ง3คณะทำงานสางปัญหา
Source - ASTV ผู้จัดการรายวัน (Th), Thursday, January 19, 2012
ASTVผู้จัดการรายวัน - ก.พลังงานตั้ง 3 คณะทำงานพิจารณาทบทวนปรับราคาเอ็นจีวีแบ่งตามประเภทรถยนต์ใช้งานเพื่อความชัดเจน ยอมรับหากปรับ ครม.ชุดปู 2 อาจมีการทบทวนนโยบายได้แต่คงไม่ถึงขั้นยกเลิกปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาทบทวนการปรับราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ขึ้นมา 3 ชุด เพื่อศึกษาข้อมูลต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวี ภายหลังจากกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งเรียกร้องให้ทบทวนชะลอการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีออกไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนค่าขนส่งในระยะยาว
โดยคณะทำงานฯดังกล่าวจะแยกตามประเภทของรถยนต์ใช้งาน ดังนี้ คือ1.คณะทำงานทบทวนการปรับราคาเอ็นจีวีรถบรรทุกขนส่ง มีนายกิตติรัตน์ ณระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน 2. คณะทำงานทบทวนปรับราคาเอ็นจีวีรถโดยสารประจำทาง หรือรถร่วม ขสมก. มีนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน และ 3.คณะทำงานทบทวนการปรับราคาเอ็นจีวีรถแท็กซี่ มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน
"องค์ประกอบการของคณะทำงานจะประกอบด้วย ผู้แทน ปตท.สนพ. และกรมขนส่งทางบก แต่ที่ต้องแยกเป็น 3 คณะ เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งของการใช้รถยนต์แต่ละประเภทไม่เหมือนกัน หากต้องการความชัดเจนก็ต้องแยกกันหารือตามวัตถุประสงค์ของการใช้ ขณะนี้คณะทำงานดังกล่าวยังไม่ได้เริ่มประชุม เนื่องจากท่านปลัดพลังงานติดภารกิจอื่นอยู่ เชื่อว่าจะประชุมได้ในเร็วๆ นี้" นายสุเทพกล่าว
นายบรรยงค์ อัมพรตระกูลประธานชมรมรถร่วม ขสมก. กล่าวว่าในหลักการต้องการให้ภาครัฐทบทวนนโยบายการปรับราคาเอ็นจีวีที่กำหนดไว้เดือนละ 50 สต./กก. หรือปรับเพิ่มขึ้นตลอดปีรวม 6 บาท/กก. จากปัจจุบันจำหน่ายอยู่ที่ 8.50 บาท/กก. ซึ่งอาจจะใช้วิธีชะลอการปรับราคา หรือยืดระยะเวลาของการปรับราคาให้นานกว่านี้ ขณะเดียวกัน คณะทำงานที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาให้ชัดเจนว่าต้นทุนก๊าซฯจริงๆ อยู่ที่เท่าไหร่ เพราะยังไม่มั่นใจกับข้อมูลที่ ปตท.ชี้แจงออกมา ซึ่งมีตัวเลขที่ยังแตกต่างกัน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อการบริหารนโยบายหลังมีการปรับ ครม.ชุดใหม่นี้ ตำแหน่ง รมว.พลังงานจะมีการปรับเปลี่ยน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการทบทวนนโยบายดังกล่าว แต่คงไม่ถึงขั้นยกเลิกการปรับราคา เพราะจะกระทบกับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเนื่องจากปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯติดลบอยู่ 1.4 หมื่นล้านบาท จำเป็นต้องลดรายจ่ายลง ซึ่งล่าสุดได้มีการกู้เงินเสริมสภาพคล่องไปแล้ว 1,000 ล้านบาท ให้แก่กองทุนน้ำมันฯ
สำหรับแนวทางการลดกระแสการต่อต้านน่าจะเป็นการชะลอการปรับราคาหรือยืดระยะเวลาของการปรับราคาออกไปเพื่อไม่ให้ภาคขนส่งได้รับผลกระทบมากกว่า
ขณะเดียวกัน ภาครัฐจะต้องใช้วิธีการเจรจาทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งให้มากขึ้น ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าก่อนการปรับราคาเอ็นจีวีไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จนเกิดปัญหาการชุมนุมประท้วงนำรถบรรทุกมาปิดถนน
--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 21, 2012 9:33 am
โดย sirimethagul
พท.เล็งจัดระเบียบพลังงานห้ามใช้แอลพีจีภาคขนส่ง
คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยเล็งจัดระเบียบพลังงานใหม่ ส่อห้ามใช้แอลพีจีภาคขนส่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยเล็งจัดระเบียบพลังงานใหม่ ส่อห้ามใช้แอลพีจีในภาคขนส่ง อ้างทั่วโลกให้ใช้เฉพาะการหุงต้ม ส่วนเอ็นจีวีรัฐหนุนเฉพาะรถยนต์สาธารณะ ปล่อยรถยนต์ส่วนบุคคลรับผิดชอบภาษีที่เพิ่มขึ้น เตรียมจัดระเบียบรถแท็กซี่ล้นเมืองหลังผู้ให้เช่าหย่อนยานปล่อยคนไม่มีใบขับขี่สาธารณะนำรถไปวิ่ง
นายอุเทน ชาติภิญโญ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนจะเสนอแนวคิดเรื่องพลังงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคในการประชุมซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นวันที่ 23ม.ค. เพื่อให้เรื่องพลังงานของประเทศเกิดความสมดุล ไม่ให้มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ โดยในส่วนของก๊าซแอลพีจีนั้นประเทศต่างๆ ทั่วโลกใช้เป็นก๊าซสำหรับหุงต้ม ดังนั้นไม่ควรที่จะมีการใช้ก๊าซแอลพีจีในการขนส่ง เพราะจะทำให้เกิดการเบียดบัง และสภาพราคาต้นทุนที่แท้จริงถูกบิดพริ้ว ซึ่งจากนี้ไปก๊าซแอลพีจีควรจะต้องใช้ในการหุงต้มเท่านั้นเหมือนกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ขณะที่ก๊าซเอ็นจีวีนั้นจะต้องมีการสะท้อนต้นทุนราคาด้วย โดยจะแบ่งย่อยออกเป็น 2 ประเภทตามลักษณะของการใช้คือ1.ใช้เพื่อการขนส่ง และ2.ใช้เพื่อการอุตสาหกรรม ซึ่งทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวนี้จะต้องไม่ใช่ราคาเดียวกัน เนื่องจากในประเภทของการใช้เพื่อการอุตสาหกรรมนั้นเป็นการใช้เพื่อการค้า
นายอุเทน กล่าวอีกว่า สำหรับก๊าซเอ็นจีวีที่ใช้เพื่อการขนส่งนั้นยังต้องแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยคือสำหรับใช้กับรถสาธารณะและสำหรับใช้กับรถยนต์ส่วนบุคคล โดยในส่วนของรถยนต์สาธารณะนั้นรัฐบาลจะต้องสนับสนุนค้านราคาเพื่อเป็นการลดต้นทุนในการเดินทางให้กับประชาชน โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริงด้วยว่า รถยนต์สาธารณะแต่ละประเภทนั้นจริง ๆ แล้วมีต้นทุนพลังงานเท่าไหร่กันแน่ เนื่องจากหากดูจากข้อเท็จจริงแล้วนั้น ราคาค่ามิเตอร์หรือค่าโดยสารของรถยนต์สาธารณะนั้นเดิมคิดจากการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีที่มีราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันเกือบ 3 เท่าตัวแล้ว ก็ต้องมีการคำนวณต้นทุนพลังงานของรถยนต์สาธารณะใหม่ด้วย ขณะที่รถยนต์ส่วนบุคคลก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการรับผิดชอบด้านภาษีสรรพสามิตของก๊าซเอ็นจีวีที่จะต้องถูกปรับขึ้นในประเภทนี้ เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบสังคมแล้วให้รัฐบาลไปคุ้มครอง
"แนวคิดดังกล่าวนี้ก็เพื่อรองรับนโยบายของกระทรวงพลังงานให้เหมาะสมและดียิ่งขึ้น ข้อเท็จจริงแล้วนั้นปริมาณของรถแท็กซี่ในขณะนี้ก็ถือว่ามีมากจนเกินไปจึงต้องมาดูด้วยว่าผู้ขับขี่รถแท็กซี่แต่ละคันนั้นมีผู้ที่ทำใบขับขี่สาธารณะจริง ๆ แล้วกี่ราย และมีผู้ที่ทำผิดกฎหมายกี่ราย รวมทั้งเหตุใดผู้ที่ให้เช่ารถแท็กซี่นั้นจึงยอมให้ผู้ที่ทำผิดกฎหมายนำรถแท็กซี่ไปขับรับส่งผู้โดยสารได้ ซึ่งอาจจะมีมาตรการในการดำเนินการกับผู้ที่ให้เช่ารถแท็กซี่แก่ผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบขับขี่สาธารณะด้วย ที่สำคัญคือเรื่องของมาตรการภาษีต่าง ๆ จะต้องนำมาใช้อย่างจริงจังกับผู้ที่ให้เช่ารถแท็กซี่เหล่านี้ด้วย เพื่อให้คำว่าเจ๊กดาวน์ ลาวส่งหมดไปจากสังคมไทย"คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าว
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 24, 2012 10:29 am
โดย pak
ณอคุณเดินหน้าปรับโครงสร้างพลังงาน เผยยังไม่มีแผนงานเสนอรัฐมนตรีคนใหม่
Source - แนวหน้า (Th), Tuesday, January 24, 2012
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงพลังงานยังคงเดินหน้าเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันเบนซินเดือนละ 1 บาทต่อลิตร จากก่อนหน้านี้มีการลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯสำหรับเบนซิน 95 ประมาณ 8.20 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ลดลง 7.17 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลให้ชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯไว้ก่อน จากที่เก็บไปแล้ว 60 สตางค์ต่อลิตร ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) หลังจากที่มีการลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯประมาณ 3 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)เดือนละ 75 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) และขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) เดือนละ 50 สตางค์ต่อกก. ตามเดิมด้วย ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานก็ไม่มีแผนพลังงานใด รวมถึงการทบทวนนโยบายปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่จะเสนอต่อนายอารักษ์ ชลธารนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่
"ขณะนี้กระทรวงยังไม่มีแผนปฏิบัติการพลังงานอะไรที่จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่พิจารณาหรือทบทวนเป็นพิเศษ รวมทั้งการปรับโครงสร้างราคาพลังงานโดยขณะนี้ยังคงเดินหน้านโยบายตามมติกพช.ที่ให้ไว้ทั้งการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯกลุ่มเบนซินเดือนละ 1 บาทต่อลิตร ให้ครบตามที่เคยลดไปก่อนหน้านี้" นายณอคุณ กล่าว
ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ดำเนินการปรับโครงสร้างราคาพลังงานต่อเนื่อง เพราะถือเป็นสิ่งจำเป็นสำปรับประเทศชาติ โดยเฉพาะการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี เนื่องจากปัจจุบันภาคขนส่ง รถบรรทุกมีการมใช้มากถึง 5-6 แสนคัน จากที่มีอยู่ 7-8 แสนคัน ซึ่งหากกลุ่มนี้ยังคงใช้ก๊าซฯในราคาต่ำก็จะส่งผลให้ปตท.ขาดทุนและมีผลทำให้ประเทศเจ๊งได้
ส่วนการปรับราคาก๊าซแอลพีจีก็ต้องดำเนินการต่อ เพราะปัจจุบันราคาแอลพีจีของไทยต่ำกว่าเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดการลักลอบออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน และหากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ก็จะยิ่งทำให้เกิดไหลออกนอกประเทศ ทั้งที่ไทยต้องนำเข้าและจ่ายชดเชยราคาก๊าซแอลพีจีจำนวนมาก นอกจากนี้ ผู้ที่เข้ามาดูแลกระทรวงพลังงานจำเป็นต้องเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม เพื่อเพิ่มสำรองให้กับไทยที่ก๊าซธรรมชาติจะหมดในอีกว่า 10 ปีข้างหน้า
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ตนยินดีที่ได้เป็นรัฐมนตรีว่การกระทรวงพลังงาน และหากย้อนเวลากลับไป 4-5 เดือน ก็จะดำเนินนโยบายเดิมที่ทำไปแล้ว เพราะถือเป็นสิ่งที่ดี และอนาคตก็จะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติให้เจริญต่อไป ส่วนการถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)เร็วทั้งที่มีผลงานนั้น ตนไม่เสียใจเพราะเมื่อเข้ามาเล่นการเมืองก็ยอมรับสภาพได้ทุกเรื่อง โดยยืนยันว่าความสัมพันธ์ของตนภายในพรรคการเมืองก็ยังดีไม่มีปัญหา โดยหลังจากนี้จะทำงานวิชาการช่วยพรรคเพื่อไทยต่อไป
ทั้งนี้ เวลาประมาณ 11.30น. ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงาน ตลอดจนผู้บริหารจาก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีการจัดเลี้ยงอำลาตำแหน่งให้แก่นายพิชัยด้วย โดยการสังเกตพบว่านายพิชัย มีอาการที่เศร้าสร้อยหลังพ้นต่ำแหน่งรมว.พลังงาน
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2012 10:17 am
โดย pak
ชำแหละโครงสร้างราคาก๊าซNGV-LPGปตท.ขาดทุน-กำไร?
Source - ฐานเศรษฐกิจ (Th), Thursday, January 26, 2012
การเคลื่อนไหวของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง ขอให้ระงับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีภาคขนส่งที่ระดับ 16.06 บาทต่อลิตร และก๊าซเอ็นจีวีที่ระดับ 14.50 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าศาลจะยกคำร้องก็ตาม
แต่ก็สร้างข้อกังขาให้กับหลายฝ่ายว่าข้อเท็จจริงแล้วราคาที่มีการปรับขึ้นมาสมเหตุสมผลเพียงใด
เหตุผลที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคหยิบยกมาว่าราคาที่ปรับขึ้นมาไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค โดยเฉพาะกรณีของก๊าซเอ็นจีวีที่บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ระบุถึงการขาดทุนสะสมกว่า 40,000 ล้านบาท ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจากการตรึงราคาที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม เพราะหากย้อนกลับไปดูผลประกอบการ 3-4 ปีที่ผ่านมา พบว่าการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติในปี 2551 มีกำไรขั้นต้นถึง 59,661 ล้านบาท ปี 2552 มีกำไรขั้นต้น 47,375 ล้านบาท ปี 2553 มีกำไรขั้นต้น 56,685 ล้านบาท และช่วง 9 เดือน ของปี 2554 มีกำไรขั้นต้น 60,362 ล้านบาท จึงดูเหมือนเป็นเรื่องที่ขัดแย้งในตัวเอง
-ปตท.โขกราคาเท่าตัว
อีกทั้งการออกมาระบุถึงต้นทุนเนื้อก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 8.39 บาทต่อกิโลกรัม ก็สูงกว่า 2 เท่า ของราคาปากหลุมเฮนรี่ ฮับ สหรัฐอเมริกา ที่เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 4.29 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น และหากเทียบกับราคาขายปลีกที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 14.50 บาทต่อกิโลกรัม จะสูงกว่าราคาขายปลีกเฉลี่ยของตลาดโลกในปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ราคา 7.57 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งยังไม่รวมถึงกรณีของค่าดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นค่าบริหารจัดการและค่าขนส่ง รวมทั้งสถานีบริการเอ็นจีวี ถูกกำหนดอยู่ที่ 5.56 บาทต่อกิโลกรัม เป็นต้นทุนที่สูงภายใต้การบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้บมจ.ปตท.ฟันกำไรในแต่ละปีจำนวนมหาศาล
ขณะที่ราคาแอลพีจีภาคขนส่งที่ปรับขึ้นเป็น 16.06 บาทต่อลิตร ก็ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนเช่นกัน เพราะการใช้แอลพีจีในภาคขนส่งและอุตสาหกรรม ไม่ใช่ต้นเหตุก่อให้เกิดปัญหาขาดแคลนจนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่มาจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีการใช้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี การจะอ้างปรับราคาจึงฟังไม่ขึ้น และยังผลักให้ภาคอุตสาหกรรม รับภาระส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 8-11 บาทต่อกิโลกรัม แต่เก็บในส่วนของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเพียง 1 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการสร้างความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้น
-โต้ข้ออ้างราคาปากหลุม
ในส่วนของกระทรวงพลังงานและบมจ.ปตท.พยายามที่จะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับว่า ที่ผ่านมาโครงสร้างราคาพลังงานบิดเบือนมานาน มีการตรึงราคามาอย่างต่อเนื่อง แม้หลายรัฐบาลจะมีความพยายามปรับราคาขึ้นไปแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จนนำไปสู่ให้ประชาชนใช้พลังงานอย่างไม่ประหยัด
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ในฐานะที่ดูแลโครงสร้างราคาพลังงาน สะท้อนให้เห็นว่า ต้นทุนเนื้อก๊าซธรรมชาติของประเทศ เป็นราคาเฉลี่ยที่มาจาก 3 แหล่ง (Pool Gas) ได้แก่ จากอ่าวไทย สภาพพม่า และก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจีที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เมื่อรวมกับอัตราค่าบริการสำหรับจัดหาและค่าขนส่งทางท่อ ทำให้ต้นทุนก๊าซเวลานี้สูงกว่า 9 บาทต่อกิโลกรัม
เห็นได้จากค่าเอฟทีงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2555 ที่ปรับเพิ่มขึ้นมา 6 สตางค์ต่อหน่วย ก็เป็นผลมาจากราคาก๊าซเฉลี่ยที่มีการปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 292.65 บาทต่อล้านบีทียูจากงวดก่อนเดือนกันยายน-ธันวาคม 2554 อยู่ที่ 268.14 บาทต่อล้านบีทียู หรือเพิ่มขึ้นมา 24.51 บาทต่อล้านบีทียู
ดังนั้น ต้นทุนเนื้อก๊าซจากแหล่งก๊าซเฮนรี่ ฮับ ของสหรัฐอเมริกา จึงไม่สามารถนำมาอ้างหรือใช้กับประเทศไทยได้ เพราะหากประเทศไทยจะต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา การคิดราคาก๊าซจะต้องรวมถึงต้นทุนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการดำเนินการตั้งแต่ต้นทุนการทำให้ก๊าซเปลี่ยนสถานะจากไอเป็นของเหลว ต้นทุนการขนส่งแอลเอ็นจีทางเรือ ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการนำเข้า และต้นทุนการแปลงสภาพจากของเหลวกลับมาเป็นไอ เมื่อนำราคาก๊าซที่ตลาดเฮนรี่ ฮับ มารวมเป็นต้นทุนการดำเนินการที่เกิดขึ้น จะทำให้ต้นทุนราคาก๊าซแอลเอ็นจีที่ต้องนำเข้ามาเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก
-เอ็นจีวีต้นทุนบาน
ราคาก๊าซเอ็นจีวีที่ปรับขึ้นมาวันนี้ทางปตท.อ้างว่า เป็นผลการศึกษาของหน่วยงานกลางอย่าง "สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย" ที่ระบุต้นทุนของเนื้อก๊าซเวลานี้อยู่ในระดับ 9 บาทต่อกิโลกรัม เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการอยู่ที่ 5.56 บาทต่อกิโลกรัม แยกเป็น ต้นทุนค่าก่อสร้างสถานีแม่ 1.62 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนค่าขนส่ง 2.15 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนค่าก่อสร้างสถานีลูก 2.73 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนการบริการจัดการสถานีแม่-ลูก 0.60 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนค่าก่อสร้างสถานีตามแนวท่อ 2.15 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนการบริหารจัดการสถานีแนวท่อ 0.28 บาทต่อกิโลกรัม และภาษีมูลค่าเพิ่ม 1.02 บาทต่อกิโลกรัม รวมราคาขายปลีก 15.58 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าราคาที่ปรับขึ้นไปเพียง 14.50 บาทต่อกิโลกรัม
ราคาที่ปรับขึ้นไปนี้ก็เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่เป็นจริงมากขึ้น เพราะหากเทียบการใช้ก๊าซเอ็นจีวีช่วงแรกราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่เวลานี้ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นไปกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่ราคาเอ็นจีวีเพิ่งอยู่ที่ 9 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากปรับมา 50 สตางค์เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา
-ดัดหลังคนใช้แอลพีจี
สำหรับกรณีการปรับราคาแอลพีจีภาคขนส่งขึ้นไป เพราะที่ผ่านมามีการตรึงราคาอยู่ที่ 332.75 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน หรือ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 10.43 บาทต่อลิตร มานาน ในขณะที่ราคาตลาดโลกปรับขึ้นไปกว่า 900 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันหรือประมาณ 29.28 บาทต่อลิตร จึงทำให้ประชาชนหันมาใช้แอลพีจีมากขึ้น เพื่อหลีกหนีราคาน้ำมันแพง อันเป็นต้นเหตุให้มีการนำเข้าแอลพีจีจากต่างประเทศเข้ามาแทน จากเดิมที่เคยเป็นประเทศผู้ส่งออก
การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ของแอลพีจีในภาคขนส่งหรืออุตสาหกรรมอื่นๆ ก็มีเหตุผลที่ในอดีตภาคขนส่งและอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์จากการที่รัฐชดเชยราคาแอลพีจีเรื่อยมา การปรับขึ้นราคาเพื่อที่ภาครัฐค่อยๆ ลดการชดเชยลง และทำให้ภาคขนส่งและอุตสาหกรรมอื่นๆ เริ่มได้รับประโยชน์น้อยลง จนไปสู่การรับต้นทุนที่แท้จริง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ในอดีตรัฐบาลไม่เคยมีการชดเชยจากเงินกองทุนน้ำมันฯ เนื่องจากราคาซื้อขายปิโตรเคมีเป็นราคาตกลงซื้อขายที่สอดคล้องกับราคาตลาดโลก การที่รัฐเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 1 บาทต่อกิโลกรัม จึงทำให้ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นเพียงภาคเดียวที่ต้องมีภาระส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ
ท้ายสุดแล้วโครงสร้างราคาพลังงาน ที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง คงไม่อาจฟันธงได้ว่าฝ่ายใดถูกหรือหรือผิด คงต้องขึ้นกับหน่วยงานกลางที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับ หรือขึ้นอยู่กับข้อพิจารณาของศาลปกครองที่จะเดินหน้าพิสูจน์เรื่องนี้ต่อไป เพราะคงจะใช้เหตุผลส่วนตัวตัดสินไม่ได้ เพราะหากโครงสร้างบิดเบือนแล้ว นั่นหมายความว่าต่อไปเมื่อประเทศเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 แล้ว หากราคาพลังงานของประเทศยังไม่สะท้อนต้นทุนที่เป็นจริง รัฐบาลก็คงจะแบกรับภาระในการอุดหนุนราคาพลังงานอย่างมหาศาล เพื่อให้เพื่อนบ้านเข้ามาใช้พลังงานในราคาต่ำและอย่างไม่จำกัด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,708 26-28 มกราคม พ.ศ. 2555
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 01, 2012 10:11 am
โดย pak
แนะลอยตัวแอลพีจีลดบิดเบือน ให้เป็นธรรมผู้ใช้ทุกสาขาโยนกกพ.ดูแลราคาNGV
Source - ไทยโพสต์ (Th), Wednesday, February 01, 2012
พลังงาน * นักวิชาการแนะรัฐลอยตัวราคาแอลพีจีราคาเดียวกันหมดเพื่อความเป็นธรรม หลังอุดหนุนนานทำโครงสร้างบิดเบือน ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ศิษย์เก่า ปตท.แนะให้ กกพ.กำกับดูแลราคาพลังงาน ด้าน ปตท.พร้อมทำตามนโยบาย อารักษ์เดินสายมอบนโยบายประเดิม สนพ.รายแรก
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันและอดีตผู้บริ หาร บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า รัฐบาลควรจะพิจารณาการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุง ต้ม (แอลพีจี) ทั้งระบบ ด้วยการ นำไปสู่การลอยตัวราคาโดยให้ทุก ส่วนได้รับความเป็นธรรม เนื่อง จากโครงสร้างปัจจุบันผู้ที่จะรับบทหนักในการแบกภาระสูงคือ ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเมื่อถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2555 ราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมจะปรับขึ้นเต็มเพดานที่ 12 บาทต่อกิโลกรัม หรือราคาจะอยู่ที่ 30.13 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจะเป็นราคาใกล้เคียงกับราคานำเข้าจากต่างประเทศ (ไม่รวมค่าขนส่ง) ที่ระ ดับ 800 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือประมาณ 30 บาทต่อกิโลกรัม
"อย่าลืมว่าโครงสร้างแอลพีจีในประเทศจะต้องนำเอาก๊าซในอ่าวไทยมาหารเฉลี่ยกับแอลพีจีนำเข้า เพราะภาคอุตสาหกรรมก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับการใช้ทรัพยา กรธรรมชาติในประเทศเช่นกับ กลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะภาคปิโตรเค มีที่กลับใช้แอลพีจีในราคาที่ถูกกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ" นาย มนูญกล่าว
ทั้งนี้ ภาคปิโตรเคมีกลับคำ นวณการคิดราคาแอลพีจีที่ไม่ได้คงที่ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงตาม ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นปลาย ซึ่งภาพรวมเฉลี่ยราคาจะต่ำกว่าราคาของภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน หากแอลพีจีตลาดโลกต่ำ ลงก็จะทำให้ภาคที่ปรับราคาไปแล้วเป็นฝ่ายแบกภาระได้ แต่หาก สูงขึ้นรัฐก็จะต้องอุดหนุนเพิ่มปัญ หาจะไม่จบ ดังนั้นการลอยตัวแอล พีจีแล้วประกาศเป็นราคาเดียวทุก ส่วนให้เหมือนกับน้ำมันจะบริหารง่ายและยุติธรรมกับทุกส่วน แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไม่กล้าที่จะดำเนินการเพราะไม่ต้องการไปแตะรา คาภาคครัวเรือน
สำหรับปี 2555 แนวโน้มการเกิดใหม่ของธุรกิจปั๊มแอลพีจี จะชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มีอยู่ 1,031 แห่ง เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายปรับโครงสร้างราคา แอลพีจีภาคขนส่งขึ้นเดือนละ 75 สตางค์ต่อกิโลกรัม จนครบ 9 บาทต่อกิโลกรัมภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้แรงจูงใจในการเข้ามาดำเนินธุรกิจปั๊มแอลพีจีใหม่ๆ น่าจะลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน จะไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับสำนัก นโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) โดย สนพ.จะรายงานภารกิจหลัก ได้แก่ แนวทางการปรับโครงสร้าง ราคาแอลพีจีภาคขนส่งและเอ็นจีวี และการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ ประกอบการขนส่งต้องการให้ชะ ลอการปรับราคาออกไปก่อน
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวย สนพ.กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีในครั้ง ที่ 2 จะเริ่มในวันที่ 16 ก.พ.นี้ จะ ดำเนินการตามปกติ หากไม่มีนโย บายจากรัฐบาลให้มีการเปลี่ยน แปลง
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่ง แวดล้อมไทย อดีตกรรมการประ ธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรม การผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าว ว่า ปัญหาเรื่องก๊าซธรรมชาติ (เอ็น จีวี) ควรที่จะให้คณะกรรมการกำ กับกิจการพลังงาน (กกพ.) เข้าไปดูแล เพราะตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานนั้น มีหน้าที่ในการ กำกับดูแลเรื่องราคาก๊าซธรรมชาติ และค่าไฟฟ้าอยู่แล้ว
"การที่ กกพ.เข้ามากำ กับดูแลราคาเอ็นจีวีถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมเพราะจะทำให้ เกิดความเชื่อมั่น" นายประเสริฐ กล่าว
นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ปตท.กล่าวว่า การที่จะปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีรอบที่ 2 ในวันที่ 16 ก.พ.2555 นี้อีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมนั้น ขึ้นกับนโยบายของนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน.
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 01, 2012 10:17 am
โดย pak
แท็กซี่โวยปั๊มงดรับบัตรเครดิตพลังงาน อ้างเครื่องรูดบัตรเสีย-ตั้งใจไม่รับ
Source -กรุงเทพธุรกิจ (Th), Wednesday, February 01, 2012
ปตท.แจกแล้วกว่า 7 หมื่นใบขยายเวลาทำบัตรเพิ่มถึง 29 ก.พ.นี้
แท็กซี่โวยปั๊มไม่รับบัตรส่วนลดเอ็นจีวี อ้างเครื่องรูดเสีย ด้าน ปตท.เร่งเคลียร์ พร้อมหาสาเหตุรถโดยสารใช้บัตรส่วนลดน้อย ขณะที่บัตรเครดิตพลังงานมียอดใช้แล้วกว่า 5 ล้านบาทปตท.ย้ำขยายเวลาให้บัตรเครดิต-บัตรส่วนลดจนถึงเดือน ก.พ. 2555 แท็กซี่เร่งหาข้อสรุปต้นทุนเอ็นจีวี
นายบุญเสริม สมพงษ์ แท็กซี่ส่วนบุคคล เปิดเผยว่า จากการกระทรวงพลังงานและบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำบัตรเครดิตและบัตรส่วนลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ให้กับกลุ่มแท็กซี่ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าเกิดปัญหาสถานีบริการเอ็นจีวีจำนวนมาก ไม่รับบัตรเครดิต และบัตรส่วนลด โดยอ้างเครื่องรูดบัตรเสีย และบางรายตั้งใจไม่รับบัตร ทำให้แท็กซี่ไม่ได้รับส่วนลด และต้องจ่ายเอ็นจีวีในราคาเต็ม ที่มีการปรับขึ้นไป คือ 9 บาทต่อ กก.
แท็กซี่จำนวนมากเจอปัญหาเหมือนกันหมด โดยบางปั๊มอ้างเครื่องรูดบัตรเสีย โดยเฉพาะช่วง 2-3 ทุ่ม บางปั๊มก็ไม่ให้ความร่วมมือ และประกอบกับการเติมเอ็นจีวีต้องเข้าคิวนาน เมื่อพอถึงคิวแล้วบัตรใช้ไม่ได้ ก็ต้องยอมจ่ายเป็นเงินสดและไม่มีส่วนลด เพราะไม่ต้องการไปหาปั๊มใหม่ และเข้าคิวใหม่อีก นายบุญเสริมกล่าว
นายเดโช เอี่ยมชีรางกูร สหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมิ จำกัด กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มแท็กซี่ได้ไปพบผู้บริหาร ปตท. เพื่อแจ้งถึงปัญหาสถานีบริการเอ็นจีวีไม่รับบัตรเครดิตและบัตรส่วนลดแล้ว โดย ปตท.แจ้งว่าจะดำเนินการแก้ไขให้โดยเร็ว ซึ่งก็ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นบางส่วน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องการให้ดำเนินการโดยเร็วอีกเรื่อง คือ การหาข้อสรุปเรื่องต้นทุนเอ็นจีวี ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการนัดหารือในคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐ ปตท. และผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ และรถบรรทุกเลย
กลุ่มแท็กซี่ต้องการเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ เพื่อขอรับฟังนโยบายในเรื่องนี้ และแสดงจุดยืนของกลุ่มแท็กซี่ ว่ายอมรับการปรับราคาเอ็นจีวีขึ้น 2 บาทต่อ กก. เท่านั้น
ด้านนายพีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการให้บัตรส่วนลดเอ็นจีวีให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ รถสามล้อ รถตู้ร่วม ขสมก. รถโดยสารร่วม ขสมก. และรถสองแถวเล็กร่วม ขสมก. ในพื้นที่ให้บริการในเขต กทม. และปริมณฑล ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2555 จนถึงวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ปตท. ได้แจกบัตรไปแล้วกว่า 70,000 ใบ แต่ยอดการมาขอคืนส่วนลดกับ ปตท.ยังไม่มากนัก ซึ่งกำลังหาสาเหตุว่าเกิดจากบัตรที่แจกไปถึงผู้ใช้รถหรือไม่ เพราะในล็อตหลังแจกผ่านสหกรณ์ หรืออาจมาจากยังไม่มีการใช้ส่วนลด เพราะส่วนลดที่ให้ตอนนี้ที่ 50 สตางค์ต่อ กก.ยังถือว่าน้อยอยู่
ทั้งนี้ บัตรเครดิตพลังงานที่ให้กับกลุ่มแท็กซี่นั้น ดำเนินการแล้ว 30,000 บัตร มียอดใช้จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2554 ประมาณ 5 ล้านบาท โดย ปตท.ได้ขยายเวลาการจัดทำบัตรส่วนลดเอ็นจีวี รวมทั้งการเปิดรับสมัครและมอบบัตรเครดิตพลังงานเอ็นจีวีเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 1-29 ก.พ. 2555 ที่เจเจมอลล์
นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ ได้กำชับให้สถานีบริการเอ็นจีวีของ ปตท.และของผู้ค้ารายอื่นกว่า 200 แห่งใน กทม.และปริมณฑลอำนวยความสะดวก ในการรับบัตรส่วนลด ส่วนกรณีที่มีเสียงร้องเรียนว่าหลายสถานีบริการไม่รับบัตรส่วนลดนั้น กำลังมีการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง ว่า เกิดจากอุปกรณ์เสียจริงหรือไม่--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 02, 2012 10:01 am
โดย pak
ห่วงรัฐบาลอุ้มระเบิดเวลาอุดหนุนดีเซล-ก๊าซอีก5ปีตูมสนั่น
Source - ข่าวสด (Th), Thursday, February 02, 2012
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า จะมีการจ้างที่ปรึกษาเพื่อมาพิจารณาโครงสร้างพลังงานทั้งหมด โดยจะต้องเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ มีกลไกการทำงานร่วมกับประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้เกิดความเข้าใจกับโครงสร้างราคาพลังงานใหม่ แต่ขั้นตอนการพิจารณาอาจล่าช้า ทำให้อาจจะต้องมีการปรับราคาพลังงานในงวดวันที่16 ก.พ.2555 นี้ไปก่อน ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างราคาพลังงานในสัปดาห์หน้าคงมีข้อมูลที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2554 กำหนดการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี เดือนละ 0.50 บาท และก๊าซหุงต้ม เดือนละ 0.75 บาทต่อกิโลกรัม แต่กพช. ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องจัดเก็บในช่วงใด ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ต้องขอมติรับรองให้มีการปรับขึ้นราคาเป็นวันที่ 16 ก.พ.นี้ เพื่อให้มีเวลาพิจารณาโครงสร้างราคาใหม่
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวในการสัมมนา "ถอดรหัสจีดีพี ปี’55" จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ที่โรงแรมดุสิตธานี ว่า เรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลชุดนี้น่าจะมีความกล้าหาญในการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้อยู่ในความเป็นจริง ถ้าไม่ทำคือระเบิดเวลา ถ้ารัฐบาลคิดว่าอยู่บริหารเพียงช่วงสั้นๆ ไม่ต้องทำก็ได้ แต่ถ้าจะเป็นรัฐบาลในระยะยาวต้องทำ เพราะระเบิดนั้นจะทำให้ระเบิดตัวเองตาย ทุกวันนี้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแทบไม่ได้เก็บเลย ปีหนึ่งๆ เป็นเงินกว่าแสนล้านบาท ถ้าเอาเงินส่วนนี้ไปทำถนน โครงสร้างพื้นฐาน หรือแม้แต่ด้านการศึกษาได้เยอะมาก ถ้ารัฐบาลยังไม่แก้ อุดหนุนก๊าซเอ็นจีวี หรือก๊าซแอลพีจีโดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ที่ไม่ยอมเก็บภาษี ถ้าปล่อยแบบนี้เรื่อยๆ อีก 5 ปีต้องเตรียมเงินไว้ 8 แสนล้านบาท นายกรัฐมนตรีจะไปหาเงินทำไม เอาเงินจำนวนนี้มาใช้ทำโครงการต่างๆ ที่เสนอกันมา ช่วยเหลือเฉพาะคนที่เดือดร้อนจริงๆ เท่านั้น ไม่ต้องไปวิ่งหาเงินจำนวนมหาศาลเพียงแค่ปล่อยราคาน้ำมันไปตามสภาพความเป็นจริง
ทั้งนี้ ขอยกอีกตัวอย่างแอลพีจีในไทย เมื่อเทียบกับลาวที่ใช้แอลพีจี 40 บาทต่อกิโลกรัม (ก.ก.) แต่ไทยอุดหนุน 18 บาท/ก.ก. ส่วนต่างประมาณ22 บาท เอามาคำนวณกับปริมาณการใช้แอลพีจีของไทยทั้งหมด คิดเป็นเงินปีละ 1 แสนล้านบาทแล้ว ซึ่งคิดว่าเรามีต้นทุนพลังงานถูกดี แต่ถ้ามันเป็นต้นทุนที่แพงแล้วมาอุดหนุนยิ่งส่งเสริมให้ใช้พลังงานโดยสิ้นเปลือง
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 02, 2012 11:39 am
โดย prosper
chukieat30 เขียน:ดมแก๊ซไม่ไหวครับ เครื่องพังเร็ว รวนบ่่อย
ทางที่ดีเน้นรถ ที่ซีซีสัก 1500-1800 พอละครับ ตอนนี้ผมก้ใช้ 1.8
ถ้าต้องขับรถ3.0 แต่ต้องเอามาติดแก๊ซ คงไม่ไหว
รถมันไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้แก๊ซ
คือต้องขึ้นกับว่าเป็นรถรุ่นไหนนะครับ เพราะบางรุ่นก็จะมีข้อจำกัดด้านเซนเซอร์ที่อาจทำงานได้ไม่เต็มที่
ก็จะส่งผลไปยังเครื่องยนต์
แต่ปกติก็ใช้ได้นะครับ จูนให้ดีก็ไม่มีปัญหาเยอะหรอกครับ
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2012 10:19 am
โดย pak
แท็กซี่ยื่นฟ้อง"ปู-ครม."ขึ้นNGV-LPG
Source - ASTV ผู้จัดการรายวัน (Th), Wednesday, February 08, 2012
ASTVผู้จัดการรายวัน -กลุ่มปกป้องสิทธิ์คนขับแท็กซี่เล็งยื่นฟ้อง "ปู-ครม." สัปดาห์หน้า ฐานขึ้นราคา NGV-LPG ไม่โปร่งใส ขณะที่เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ กทม. ยันไม่เกี่ยวกันเผยเจรจาพลังงานได้ข้อยุติแล้ว ให้ขึ้น 6 บาทต่อกก. โดย2 บาทแรกใช้บัตรส่วนลด ปตท. 2 บาทถัดมาแท็กซี่รับแลกขึ้นค่าโดยสาร 5% และ 2 บาทสุดท้ายพลังงานหางบหนุน
นายสมบุญ จรรยาเลิศ ประธานกลุ่มปกป้องสิทธิ์คนขับรถแท็กซี่ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มฯ เตรียมยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทรวงพลังงาน กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อศาลปกครองภายในสัปดาห์หน้า หลังปล่อยให้ราคาก๊าซธรรมชาติในรถยนต์(NGV) และก๊าซหุงต้ม (LPG) ปรับราคาเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา โดย NGV ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) และ LPG ปรับขึ้นอีก 75 สตางค์ต่อ กก.
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและครม.เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากการออกกฎให้กระทรวงคมนาคมสั่งให้รถแท็กซี่เปลี่ยนมาใช้ NGV ทั้งหมด ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งดังกล่าวไม่โปร่งใส เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกตั้งเงื่อนไขว่า เจ้าของรถที่ต้องเปลี่ยนระบบต้องนำรถไปตรวจสอบสภาพกับบริษัทเอกชน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายปีละ 400 บาท ทำให้ทางกลุ่มตัดสินใจยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
"นายกฯ และครม.บริหารจัดการผิดพลาดในการแก้ปัญหาด้วยการขึ้นราคา NGV และ LPG ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น" นายสมบุญกล่าว
นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เครือข่ายฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เพราะการฟ้องต้องใช้เวลา จึงเห็นว่าการเจรจาเป็นวิธีที่ดีสุดและล่าสุดจากการหารือกับคณะทำงานทบทวนการปรับราคาเอ็นจีวีรถแท็กซี่ มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานวันที่ 7 ก.พ. ได้ข้อสรุปถึงแนวทางการปรับราคา NGV แล้ว
โดยการปรับราคา NGV จะเป็นไปตามกรอบเดิมตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กพช.) โดยทยอยขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อกก.จนครบ 6 บาทต่อ กก. ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มปรับแล้วเดือนแรกเมื่อ 16 ม.ค. 50 สตางค์ต่อกก. โดย 2 บาทต่อกก.แรก(ม.ค.-เม.ย.55) ปตท.จะรับภาระด้วยการออกบัตรส่วนลดราคาให้ ส่วน 2 บาทต่อกก.(พ.ค.-ส.ค.55) แท็กซี่จะรับภาระการจ่าย แต่มีเงื่อนไขว่าให้กรมการขนส่งทางบกที่มาร่วมประชุมด้วยครั้งนี้รับไปพิจารณาจะปรับขึ้นค่าโดยสารให้ 5% และส่วนที่เหลือ 2 บาทต่อกก. (ก.ย.-ธ.ค.55) กระทรวงพลังงานจะรับหน้าที่จัดหางบประมาณมาดำเนินการโดยไม่เกี่ยวข้องกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
"ทั้งหมดถือว่าสรุป แต่จะยุติหรือไม่อยู่ที่จะต้องนำเสนอแนวทางทั้งหมดให้ กพช. อนุมัติ ซึ่งหากเห็นชอบตามนี้ก็ถือว่ายุติ โดยงบประมาณเราเองก็ไม่ทราบว่าที่สุดรัฐบาลจะสรรหาอย่างไรมา แต่กระทรวงพลังงานก็ได้ตกลงแล้ว"นายวิฑูรย์กล่าว
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 09, 2012 10:56 am
โดย syj
prosper เขียน:chukieat30 เขียน:ดมแก๊ซไม่ไหวครับ เครื่องพังเร็ว รวนบ่่อย
ทางที่ดีเน้นรถ ที่ซีซีสัก 1500-1800 พอละครับ ตอนนี้ผมก้ใช้ 1.8
ถ้าต้องขับรถ3.0 แต่ต้องเอามาติดแก๊ซ คงไม่ไหว
รถมันไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้แก๊ซ
คือต้องขึ้นกับว่าเป็นรถรุ่นไหนนะครับ เพราะบางรุ่นก็จะมีข้อจำกัดด้านเซนเซอร์ที่อาจทำงานได้ไม่เต็มที่
ก็จะส่งผลไปยังเครื่องยนต์
แต่ปกติก็ใช้ได้นะครับ จูนให้ดีก็ไม่มีปัญหาเยอะหรอกครับ
ถ้าเป็น NGV ผมไม่ทราบ แต่ถ้าเป็น LPG นั้น เครื่องยนต์หลายๆ ยี่ห้อ
รับได้ 100% อยู่แล้วครับ (แต่บางยี่ห้อบางรุ่นก็มีปัญหา ต้องเช็คก่อนว่ารุ่น
นั้นๆ ใช้ได้หรือไม่) อยู่ที่การติดตั้งและปรับค่าต่างๆ เพราะที่ เกาหลีและอิตาลี
นั้น LPG ติดตั้งจากโรงงานเลยครับ (ไม่ใช่เมืองไทยทีีโรงงานส่วนมากจ้าง
ข้างนอกติดตั้ง NGV แล้วบอกว่าติดโดยโรงงาน
แต่ยังไงก็ยังได้รับประกันจากโรงงานก็ยังดี ดีกว่าติดเองประกันหมด)
ถ้าหากติดตั้งไม่ดีและจูนไม่ดี เครื่องยนต์มีปัญหาแน่นอนครับ หัวเทียนและสายหัวเทียน
ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ โดยเฉพาะหัวเทียนต้องเป็นรุ่นที่เหมาะสมจริงๆ (ไม่จำเป็นต้องแพง
แต่ สเปค ต้องได้)
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 13, 2012 9:47 am
โดย pak
กบง. เคาะราคาพลังงาน 15 ก.พ.
Source - บ้านเมือง (Th), Saturday, February 11, 2012
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ที่มีนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ซึ่งวาระการประชุม จะพิจารณาการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ก่อนที่จะมีผลในรอบที่ 2 วันที่ 16 ก.พ.นี้ โดยจะเสนอปรับขึ้นราคาพลังงานตามมติคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ หรือ กพช. เดิมที่ให้เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของน้ำมันกลุ่มเบนซิน 1 บาทต่อลิตร และ LPG ภาคขนส่ง 41 สตางค์ต่อลิตร และ NGV 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 12 เดือน ส่วนจะมีการปรับราคา ตามมติ กพช. หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของที่ประชุม ทั้งนี้ เชื่อว่าการปรับขึ้นราคาก๊าซLPG ภาคขนส่งจะไม่มีปัญหา แม้ว่าราคา LPG ในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น โดยล่าสุด ราคา LPG ในตลาดโลก อยู่ที่ 1,022 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องจากภัยหนาวในยุโรปและมาตรการตอบโต้อิหร่าน
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานทบทวนการปรับราคาก๊าซธรรมชาติ สำหรับยานยนต์ หรือ NGV ของกลุ่มรถโดยสารประจำทางสาธารณะ และรถหมวด 4 เอกชน หรือรถสองแถวในซอยว่า ได้สั่งการให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เร่งออกบัตรส่วนลดเติมก๊าซ NGV 50 สต. ถึง 2 บาทต่อลิตร ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ภายในสัปดาห์หน้า เช่นเดียวกับกลุ่มรถแท็กซี่ รวมทั้งจะให้สถาบันปิโตรเลียมและกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มาชี้แจงข้อมูลต้นทุนราคาก๊าซ NGV หน้าปากหลุม ให้ผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่มคือ กลุ่มรถแท็กซี่ กลุ่มรถร่วม ขสมก. และรถโดยสารประจำทางสาธารณะ ในบ่ายวันที่ 14 ก.พ.นี้ เพื่อให้รับทราบข้อมูลต้นทุนที่แท้จริงทั้งนี้ การช่วยเหลือดังกล่าว คาดว่าจะยุติลง หลังจากที่ภาครัฐมีการปรับฐานรายได้ให้กับประชาชนแล้ว ทั้งจากนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวัน และเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถปรับขึ้นราคาค่าโดยสารได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
นายศิริศักดิ์ วิทยอุดม รองปลัดกระทรวงพลังงาน มั่นใจว่าการแจกรอบ 2 ทั้งกรุงเทพมหานคร 3 จุด ได้แก่ สนามกีฬาหัวหมาก คณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา และศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ รวมทั้งต่างจังหวัด 229 อำเภอ 27 จังหวัดที่ประสบภัยจะสามารถแจกคูปองที่เหลืออีก 75,000 ใบ จากงวดที่แล้วแจกไปแล้ว 250,000 ใบ ครอบคลุม 1 ล้านครัวเรือน วงเงิน 2 พันล้านบาทได้ เพราะประชาชนจะทยอยมารับคูปอง และคาดว่าจะไม่มีการประท้วงเหมือนรอบที่แล้ว เนื่องจากได้ทำความเข้าใจมากขึ้นว่าคูปองส่วนลดซื้อสินค้าเบอร์ 5 เท่านั้น และจะมีการเข้มงวดร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 600 ร้านค้า รวมทั้งโมเดิร์นเทรดที่เข้าร่วมโครงการว่าจะต้องตรวจสอบชื่อและคูปองให้ชัดเจนป้องกันการสวมสิทธิ์
--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 24, 2012 8:42 am
โดย pak
กฟผ.ลั่นต้องใช้เงินลงทุน-หมดยุคพยุงเอฟที ชาวบ้านทำใจพ.ค.นี้ค่าไฟขึ้นแน่ [ ข่าวสด, 24 ก.พ. 55 ]
นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผย
ว่า ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) ในปี 2555 มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิง
ก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยเฉพาะค่าเอฟทีงวดเดือน
พ.ค.-ส.ค.2555 คาดว่าตัวเลขน่าจะขึ้นไปไม่น้อยกว่า 20-30 สตางค์ต่อหน่วย
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 28, 2012 9:40 am
โดย pak
เตือนรัฐหยุดกู้ตรึงก๊าซ-น้ำมันตลาดโลกขึ้นแรงหมื่นล้านเอาไม่อยู่บางจากรอขยับเบนซิน-ดีเซล40สต.
Source - โพสต์ ทูเดย์ (Th), Tuesday, February 28, 2012
โพสต์ทูเดย์ -เตือนกู้โปะกองทุนน้ำมันฯเพิ่มหมื่นล้านอุ้มก๊าซ แค่พอกหนี้ระยะยาวต้านราคาโลกไม่อยู่ หวั่นรัฐหวนกลับใช้นโยบายอุ้มน้ำมันอีก
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยว่า การเพิ่มเพดานกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะสร้างภาระหนี้ในระยะยาว และเชื่อว่าวงเงินกู้1-2 หมื่นล้านบาทก็ไม่เพียงพอกับการดูแลก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ตลอดจนราคาพลังงานอื่นๆเนื่องจากต้องใช้เงินอีกจำนวนมาก
ประเด็นที่ต้องติดตามคือ ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนสินค้า เป็นห่วงว่าหากราคาดีเซลปรับสูงขึ้นมากกว่านี้ รัฐบาลจะกลับมาตรึงราคา โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันฯอีกหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นคงต้องกู้เงินเสริมสภาพคล่องอีกหลายหมื่นล้านบาท
กระทรวงพลังงานควรพิจารณาทยอยปรับขึ้นราคาแอลพีจีทุกภาค เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันฯ ในการชดเชยราคาและการนำเข้าแอลพีจี เนื่องจากราคาน้ำมันแอลพีจีตลาดโลกปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1,100 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปกติอยู่ที่ 800-900 เหรียญสหรัฐ/ตัน
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียมกล่าวว่า ภาระกองทุนน้ำมันฯ ส่วนใหญ่จะนำไปดูแลแอลพีจี และการกู้เงินจำนวนเท่านี้คงไม่เพียงพอกับการดูแลในระยะยาว ซึ่งไม่อยากเห็นภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ สูงถึง 9 หมื่นล้านบาทเหมือนในอดีตอีก ดังนั้นควรหาทางเพิ่มรายได้ให้กับกองทุนน้ำมันฯ โดยเฉพาะการเพิ่มอัตราการจัดเก็บกองทุนน้ำมันฯ ของน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 แต่ดีเซลคงเก็บเพิ่มไม่ได้อีก เพื่อดูแลประชาชนไปก่อน
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันมีโอกาสขึ้นอีก ขอดูราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์และตลาดโลกก่อน หากราคายังขยับขึ้นต่อเชื่อว่าราคาขายปลีกจะปรับขึ้นอีก 40 สต./ลิตร
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานทบทวนต้นทุนราคาเอ็นจีวี ว่า ได้กำหนดกรอบการศึกษาต้นทุนราคาเนื้อก๊าซฯ ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 17 เม.ย.โดยขอบเขตการพิจารณามี 2 เรื่องได้แก่1.ต้นทุนราคาเนื้อก๊าซฯ จากทุกแหล่ง ทั้งในอ่าวไทย พม่า และราคานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) 2.ต้นทุนค่าดำเนินการในการบริหารจัดการของ ปตท.ที่ต้องนำมาศึกษาร่วมกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อนเสนอกระทรวงพลังงานต่อไป
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ในการศึกษาราคาต้นทุนเนื้อก๊าซฯต้องการให้ ปตท.แยกต้นทุนการนำเข้าแอลเอ็นจีออก ไม่ต้องนำมาคำนวณกับสูตรต้นทุนราคาเอ็นจีวีในอ่าวไทยและพม่าเพราะแอลเอ็นจีที่นำเข้ามีราคาสูงและถูกนำไปผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเอ็นจีวีได้ 25% ของราคาต้นทุนเนื้อก๊าซฯ ที่ ปตท.แจ้งไว้ 8.39 บาท/กก.
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 28, 2012 9:44 am
โดย pak
ธุรกิจขนส่งบี้ปตท.ลดต้นทุนNGV
Source - ไทยโพสต์ (Th), Tuesday, February 28, 2012
พลังงาน * ผู้ประกอบการขนส่งจี้ ปตท.แยกต้นทุนราคาเนื้อก๊าซเอ็นจีวี ระบุหากแยกต้นทุนราคา แอลเอ็นจีออก จะทำให้ต้นทุนรา คาเอ็นจีวีลดลง 25%
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ว่า ที่ประชุมวันนี้เป็น การชี้แจงขอบเขตการศึกษา ระ ยะเวลาและเนื้อหาสาระ ในการ ศึกษาต้นทุนราคาเนื้อก๊าซฯ และ ต้นทุนค่าดำเนินการในการบริ หารจัดการของ ปตท. คาดว่าผลการศึกษาจะเสร็จภายในวัน ที่ 17 เม.ย.นี้ เพื่อเสนอให้นาย อารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลัง งาน พิจารณาให้ทันการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีภาคขนส่งครบ 2 บาทต่อกิโลกรัม ในวันที่ 16 พ.ค.2555
นายวิฑูรย์ แนวพาณิชย์ ประธานเครือข่ายกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่สยาม กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ที่ศึกษาต้นทุนรา คาก๊าซเอ็นจีวีนั้น อ้างว่ามีข้อจำ กัดด้านเวลา จึงไม่สามารถไปดู ต้นทุนเนื้อก๊าซฯ ที่แท้จริงได้ เพียง แค่ดูราคาจากสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ของบริษัทผู้ได้รับสัมปทานเท่า นั้น ส่วนค่าดำเนินการของ ปตท.ที่กำหนดไว้ที่ระดับ 5.56 บาท ต่อกิโลกรัม จะลดลงได้อีกหรือ ไม่
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประ ธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าต้องการให้ ปตท. แยกต้นทุนการนำเข้า และสำรองก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ออกจากการคำนวณต้นทุนรวมกับราคาก๊าซในอ่าวไทยและพม่า เพราะเห็นว่าการจะนำต้นทุนราคาแอลเอ็นจีเข้ามารวมด้วยนั้น ไม่เป็นธรรมต่อ ผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีภาคขนส่ง เนื่องจากแอลเอ็นจีนำเข้าดังกล่าวเป็น การใช้เพื่อการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและใช้ในภาคปิโตรเคมี ซึ่งหากตัดส่วนดังกล่าวออก จะทำให้รา คาเอ็นจีวีปรับลดลงอีกกว่า 25% ของราคาขาย 8.39 บาทต่อกิโล กรัม.
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 29, 2012 10:50 am
โดย pak
ยอดใช้แอลพีจี มกราพุ่ง 40% [ เดลินิวส์, 29 ก.พ. 55 ]
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ยอดการใช้ก๊าซแอลพีจีเดือน
ม.ค. 55 ในกลุ่มของรถยนต์อยู่ที่ 3,017 ตันต่อวัน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40.2% และก๊าซเอ็น
จีสำหรับรถยนต์ติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีอยู่ที่ 7.42 ล้านกก. ต่อวันเพิ่ม 28.7% เนื่องจากราคาน้ำมันตลาด
โลกที่ปรับตัวสูงจากความตึงเครียดสถานการณ์ของความขัดแย้งระหว่างประเทศอิหร่านกับประเทศตะวันตก
ส่งผลให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาเติมก๊าซแอลพีจีและก๊าซเอ็นซีเอ็นจีที่รัฐบาลยังอุดหนุนราคาส่วนหนึ่งเพื่อประหยัด
รายจ่ายของครอบครัว
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 29, 2012 10:54 am
โดย pak
ผวา!น้ำมันแพงตั้งกรรมการรับมือพลังงานสั่งปั๊มแจ้งสต๊อกทุกวัน-เล็งห้ามส่งออก [ ข่าวสด, 29 ก.พ. 55 ]
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำมันเชื้อ
เพลิงว่า กรมได้ตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงแผนฉุกเฉินขึ้น โดยมีตนเป็นประธาน เพื่อ
ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกและปริมาณสำรองน้ำมันของประเทศอย่างใกล้ชิด
เพื่อเตรียมมาตรการและแผนต่างๆ ไว้สำหรับรับมือ หลังคาดว่าราคาน้ำมันดิบปีนี้อาจผันผวนอยู่
ที่ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 29, 2012 11:06 am
โดย pak
ควัก5พันล.ตรึงก๊าซมี.ค.
Source - โพสต์ ทูเดย์ (Th), Wednesday, February 29, 2012
โพสต์ทูเดย์ -คาด มี.ค. นำเข้าแอลพีจีพุ่ง 1.8 แสนตัน สูงสุดประวัติศาสตร์ ใช้กองทุนน้ำมันฯอุ้มเฉียด 5,000 ล้าน ภาคขนส่งใช้เพิ่ม 6%
นายวีระพล จิรประดิษฐกุลอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าการนำเข้าก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี)เดือน มี.ค. จะสูงถึง 1.8 แสนตัน/เดือน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่เคยนำเข้าแอลพีจีมา โดยคาดว่าต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายในการนำเข้าเกือบ 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ต้องนำเข้าแอลพีจีในปริมาณสูงเช่นนั้นเนื่องจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 1 ของบริษัท ปตท. และโรงกลั่นน้ำมันบริษัท ไทยออยล์ หยุดซ่อมบำรุงทำให้การผลิตแอลพีจีในประเทศลดลง แต่คาดว่าในเดือน เม.ย.ปริมาณการนำเข้าแอลพีจีจะลดลงมาอยู่ที่ 1.4-1.5 แสนตันเช่นเดิมขณะที่การนำเข้าในเดือน ม.ค. อยู่ที่1.13 แสนตัน ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯชดเชย 2,223 ล้านบาท และเดือนก.พ. อยู่ที่ 1.6 แสนตัน โดยจ่ายเงินชดเชยในการนำเข้าตั้งแต่วันที่1-21 ก.พ. อยู่ที่ 2,741 ล้านบาท
สำหรับการใช้แอลพีจีในเดือนม.ค. 2555 อยู่ที่ 5.9 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 6% โดยเพิ่มขึ้นในส่วนของภาคปิโตรเคมี18% เนื่องจากโรงปิโตรเคมีของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล กลับมาดำเนินการปกติหลังหยุดซ่อมฉุกเฉิน ในขณะที่การใช้แอลพีจีในภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 6% เนื่องจากผู้ใช้รถยนต์หันมาใช้แอลพีจีที่มีราคาถูกกว่าน้ำมัน แม้จะมีนโยบายขยับราคาแอลพีจีภาคขนส่งเดือนละ 75 สต./กก. ซึ่งปรับราคาไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ที่ 19.63 บาท/กก.แล้วก็ตาม การใช้แอลพีจีภาคครัวเรือนเดือน ม.ค.อยู่ที่ 2.4 แสนตัน ลดลงเล็กน้อยหลังเดือน ธ.ค.ใช้มากเพราะเกิดอุทกภัย ภาคอุตสาหกรรมใช้ 5.1 หมื่นตันลดลงต่อเนื่องเพราะขึ้นราคาไตรมาสละ 3 บาท/กก.ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2554
ด้านสถานการณ์การใช้น้ำมันในเดือน ม.ค.-ก.พ. 2555 พบว่าการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือน ม.ค. อยู่ที่ 20.4 ล้านลิตร/วัน ลดลง 4%เทียบกับเดือนก่อนหน้า
การใช้น้ำมันดีเซลในเดือนม.ค. อยู่ที่ 54.7 ล้านลิตร ลดจากเดือน ธ.ค. 2554 วันละ 3 ล้านลิตรเนื่องจากราคาปรับตัวสูงตามตลาดโลก
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 05, 2012 10:07 am
โดย pak
'ประชาธิปัตย์'จี้ตรึงดีเซล30บาท
Source - มติชน (Th), Sunday, March 04, 2012
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายชวนนท์อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า ปชป.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาปากท้องประชาชน จากที่ผ่านมาเน้นแก้ปัญหาทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพที่ดัชนีชี้วัดสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างที่รัฐบาลอ้างว่าจะพยายามควบคุมราคาสินค้า แต่กลับไม่บอกว่าจะควบคุมราคาพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซเอ็นจีวี และก๊าซแอลพีจี ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า ปลายปี 2555 ราคาน้ำมันดีเซลจะสูงถึงลิตรละ 36-37 บาท ส่วนก๊าซเอ็นจีวีในภาคขนส่งจะได้เห็นกิโลกรัมละ15 บาทอย่างแน่นอน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการตรึงราคาพลังงาน โดยน้ำมันดีเซลให้อยู่ในราคาลิตรละ 30 บาทส่วนก๊าซเอ็นจีวีและก๊าซแอลพีจีให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม เหมือนสมัยรัฐบาล ปชป. เพราะบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีกำไรต่อปีมหาศาล ควรจะนำมาช่วยดูแลประชาชนส่วนใหญ่บ้าง
"หากยังควบคุมราคาพลังงานที่เป็นต้นทุนของสินค้าไม่ได้ แล้วไปควบคุมราคาสินค้าที่ปลายทาง สุดท้ายก็จะไม่มีพ่อค้าแม่ค้าอยากขาย ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์สินค้าขาดตลาด ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยเดินทางไปที่ตลาดมีนบุรีไปจัดรายการ "นายกฯยิ่งลักษณ์พบประชาชน"เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่ารัฐบาลจะจัดร้านค้าธงฟ้าเพื่อควบคุมราคาอาหาร ล่าสุดในตลาดมีนบุรีกลับไม่มีร้านค้าใดติดธงฟ้าแม้แต่ร้านเดียว" นายชวนนท์กล่าว
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 09, 2012 9:47 am
โดย pak
ขึ้นราคาก๊าซภาคขนส่ง LPG75สต./กก.NGV50สต./กก.มีผล16มีนาคมนี้
Source - แนวหน้า (Th), Friday, March 09, 2012
กบง.มีมติขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี สำหรับภาคขนส่งอีก 75 สตางค์/กิโลกรัม และก๊าซเอ็นจีวี 50 สตางค์/กิโลกรัมมีผล 16 มีนาคมนี้ ทำให้แอลพีจีขยับขึ้นเป็น 20.33 บาท/กก.และเอ็นจีวีเป็น 10 บาท/กก. ส่วนก๊าซหุงต้มในภาคครัวเรือนกำลังหาช่องปรับ พร้อมเพิ่มเพดานเงินกู้กองทุนน้ำมันอีก 2 หมื่นล้านบาท รองรับอุดหนุนก๊าซเพิ่ม หลังน้ำมันทำท่าวิกฤติจากเหตุสงครามตะวันออกกลางและการปิดช่องแคบฮอร์มุส
นายคุรุจิตนาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)มีมติให้ปรับขึ้นราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี)ภาคขนส่งอีก 75 สตางค์ต่อกิโลกรัม(กก.) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี)ปรับเพิ่มขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อกก.โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2555 ส่งผลให้ราคาแอลพีจี จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 20.33 บาทต่อกก.จากปัจจุบันที่ราคา 19.58 บาทต่อกก. และราคาเอ็นจีวี จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 10 บาทต่อกก. จากปัจจุบันที่ราคา 9.50 บาทต่อกก. ซึ่งการขึ้นราคาก๊าซครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 หลังจากรัฐบาลมีนโยบายปรับโคงสร้างราคาก๊าซให้สอดคล้องกับกลไกตลาดมากขึ้น เพื่อลดภาระการชดเชยราคาของกองทุนน้ำมัน
นอกจากนี้ที่ประชุม กบง.ยังมีมติอนุมัติให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มกรอบวงเงินกู้อีก 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่ขอไว้ 10,000 ล้านบาท รวมเป็น 30,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ราคาแอลพีจีในตลาดโลกสูงขึ้น โดยล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่1,200 ดอลลาร์ต่อตัน คาดว่าจะต้องเพิ่มเม็ดเงินในการจ่ายส่วนต่างราคานำเข้าแอลพีจีมากขึ้น โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯมีภาระชดเชยแอลพีจี 4,300 ล้านบาทต่อเดือน
อนึ่งสำหรับผู้ใช้ก๊าซในกลุ่มครัวเรือนนั้น รัฐบาลก็มีแผนที่จะปรบราคาให้สอดคล้องกับตลาดมากขึ้นด้วยเหมือนกันโดยนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ.กล่าวว่า สนพ.อยู่ในระหว่างรับฟังความเห็นเพื่อประกอบการศึกษาในแผนปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มทุกภาคส่วน ให้มีราคาใกล้เคียงกันตามนโยบายรัฐบาล โดยในส่วนราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนที่จะทยอยปรับขึ้นต้องพิจารณาช่วยเหลือคนยากจนเฉพาะกลุ่ม
นายสุเทพกล่าวว่า ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนจากไทยเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ยังไม่ได้มีการปรับราคามานานมาก ตรึงราคาอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ราคาเพื่อนบ้านอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อกิโลกรัม จึงมีการลักลอบไปจำหน่ายสูงมาก ทาง ปตท.รายงานว่า เฉพาะถังก๊าซแอลพีจีที่หายไปจากระบบอยู่ที่ประมาณ 4 แสนถังต่อปี และคาดว่าตัวเลขจริงที่หายไปในประเทศเพื่อนบ้านอาจมีสูงกว่านี้ 3-4 เท่า อาจจะมีมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี เท่ากับว่าคนไทยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายเงินอุดหนุนต่างชาติ ดังนั้น การทยอยปรับขึ้นราคาภาคครัวเรือนที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
"ราคาแอลพีจีปี 2555 สร้างสถิติสูงสุด 1,220 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เมื่อบวกค่าขนส่งมายังไทยราคาเพิ่มเป็น 1,270 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เมื่อคำนวณเป็นราคาขายปลีกจะเท่ากับ49 บาทต่อ กก.แต่ราคาครัวเรือนของไทยอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม การนำเข้าก็สูงขึ้นทำให้เงินกองทุนน้ำมันชดเชยเกือบ 5 พันล้านบาทต่อเดือน" นายสุเทพกล่าว
สำหรับแนวทางศึกษาการปรับราคาแอลพีจีจะต้องพิจารณาถึงต้นทุนนำเข้าและต้นทุนของการใช้แอลพีจีจากโรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซธรรมชาติเป็นอย่างไร โดยเอาจากทุกแหล่งมาคำนวณเป็นต้นทุนราคาเดียว (pool) เพื่อกำหนดราคาขาย ซึ่งนโยบายของรัฐบาลคือ ให้ทยอยขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือน แล้วมีการอุดหนุนเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนจริง เช่นครัวเรือนยากจน กลุ่มแม่ค้าพ่อค้า เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพประชาชน โดยในกลุ่มคนยากจน ในขณะนี้กำลังพิจารณาว่า จะใช้แนวทางการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 5 ล้านครัวเรือน มาใช้เพื่อลดราคาช่วยเหลือได้หรือไม่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้สั่งให้เร่งศึกษาแล้วเสร็จในเดือนเมษายนนี้
ส่วนสถานการณ์ของราคาน้ำมันนั้นขณะนี้หลายฝ่ายกังวลเรื่องปัญหาสงครามตะวันออกกลาง และช่องแคบฮอร์มุสต้องถูกปิดตัว
ล่าสุดทาง กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ร่วมมือกระทรวงพลังงาน สต๊อกน้ำมันเพิ่มจากสามารถใช้น้ำมันได้ 42 วัน เป็น 64 วัน รองรับปัญหาการเกิดสงครามตะวันออกกลางและช่องแคบฮอร์มุสต้องถูกปิดตัว
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลางผ่านช่องแคบฮอร์มุสประมาณ 500,000 บาร์เรลต่อวัน จากความต้องการน้ำมันของไทยประมาณ 900,000 บาร์เรลต่อวัน
ด้านนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือจากการค้าน้ำมันในการเพิ่มสต๊อกน้ำมัน โดยจัดทำหลายรูปแบบ ได้แก่ การเพิ่มสต๊อกสำหรับการจำหน่ายอีก 2 วัน(1.4 ล้านบาร์เรล) จากปกติ 11 วันการยืดอายุการซ่อมบำรุงถังน้ำมันต่างๆ ซึ่งกรมธุรกิจพลังงานจะมีการผ่อนผันด้านกฎหมายด้านความปลอดภัย ทำให้สำรองเพิ่มได้ 4.68 ล้านบาร์เรล หรืออีก 7 วัน ขณะที่โรงกลั่นมีน้ำมันสำรองสำเร็จรูป 19 วัน มีน้ำมันดิบซึ่งอยู่ระหว่างการขนส่ง 8.4 ล้านบาร์เรล หรือ 13 วัน น้ำมันสำรองทางกฎหมายร้อยละ 5 หรือ 18 วันนั้น ก็สามารถใช้ได้ทันที 12 วันโดยรวมแล้วประเทศไทยจะสำรองน้ำมันได้เพิ่มเป็นจากปกติ ที่สำรองทางกฎหมายของโรงกลั่นฯ-ผู้ค้าน้ำมัน และน้ำมันสำรองทางการค้า เดิมจาก 42 วัน เป็น 64 วัน หรือสองเดือนเศษ
นายอารักษ์กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้เตรียมแผนสำรองน้ำมันด้วยเรือขนส่งน้ำมัน FLAOTING STORAGE โดยปัจจุบันมีเรือของ ปตท.ลอยลำที่สิงคโปร์ 2 ลำ ขนาด 2 ล้านบาร์เรล/วัน สำรองได้เพิ่มอีก 2 วัน หากเกิดเหตุการณ์ที่ฮอร์มุสจะหาเรือสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นรวมทั้งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รณรงค์ประหยัดพลังงาน ซึ่งหากเกิดสงครามจริงก็จะมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ลดสำรองทางกฎหมาย ลดสเปกของน้ำมัน ซึ่งอาจจะนำไบโอดีเซลและเอทานอลในประเทศมาผสมมากขึ้น ประกาศห้ามส่งออกน้ำมัน การขอความร่วมมือจากอาเซียนตามข้อตกลงร่วมในการจัดส่งน้ำมันช่วยเหลือกันการใช้คอนเดนเสทจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย มาผลิตน้ำมันจากที่ขณะนี้มีการส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ
"จากสถานการณ์ของอิหร่านที่น่าจะคลี่คลายก็คาดว่ามาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะการปันส่วนน้ำมันเหมือนต่างประเทศเช่น การกำหนดให้รถยนต์ทะเบียนคี่, คู่ เติมน้ำมันวันใดวันหนึ่งคงไม่ต้องเอามาใช้ แต่จะรณรงค์ประหยัดน้ำมันมากขึ้นเบื้องต้นได้ขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกวดขันการขับรถยนต์ให้ความเร็วเป็นไปตามกฎหมายกำหนดเพราะหากขับเร็วเกิน 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น" นายอารักษ์ กล่าว
ด้านนายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์ และประธานกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า การเพิ่มสำรองน้ำมันดังกล่าวทำให้ไทยมีน้ำมันใช้กว่า 2 เดือน ในระหว่างนี้ก็สามารถจัดหาน้ำมันจากแหล่งอื่นๆ ได้เพิ่มเติมในรูปแบบสัญญาระยะยาวทั้ง รัสเซีย ออสเตรเลีย แอฟริกา โดยจากศักยภาพของกลุ่ม ปตท.ที่มีการซื้อขายน้ำมันกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันก็ขอให้เชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาในการซื้อน้ำมันเพิ่มเติม และจากการที่ราคาน้ำมันสหรัฐถูกกว่าแหล่งอื่น ๆ ก็ส่งผลให้สหรัฐซื้อน้ำมันในประเทศมากขึ้น ยิ่งทำให้การจัดหาทำได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในระดับสูงก็ทำให้กลุ่มปตท.ปรับเป้าหมายราคาน้ำมันดิบดูไบจาก 106 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 109 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาอาจจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 110-120 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 12, 2012 5:24 pm
โดย pak
จ่อขึ้นแอลพีจี"ครัวเรือน"ก.ย. พลังงานชี้ราคาโลกพุ่งแบกรับไม่ไหว-ป้องกันขนขายเพื่อนบ้าน
Source - กรุงเทพธุรกิจ (Th), Saturday, March 10, 2012
สนพ.เผยแอลพีจีไทยถูกสุดอาเซียน พบถังแก๊สสูญจากระบบ 4 แสนใบ
พลังงานเตรียมปรับโครงสร้างราคาก๊าซใหม่ คาดผลศึกษาเสร็จ เม.ย.นี้ ลั่นเลิกตรึง แอลพีจีครัวเรือน เล็งทยอยปรับช่วงเดือน ก.ย. 2555 ยอมรับแบกรับภาระไม่ไหวเหตุราคาตลาดโลกพุ่งต่อเนื่อง แถมมีการลักลอบขนขายเพื่อนบ้าน สูญเสียปีละกว่า 2 พันล้านบาท
ด้านคมนาคมไฟเขียวปรับราคาแท็กซี่มิเตอร์ พร้อมจัดระเบียบ-มาตรฐานรถแท็กซี่ใหม่
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจี โดยจะเร่งศึกษาโครงสร้างใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ ส่วนก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือเอ็นจีวีนั้น ได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ศึกษาเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ทุกฝ่ายยอมรับ
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้ทยอยปรับขึ้นราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีภาคขนส่ง โดยราคาแอลพีจี ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ จะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 20.38 บาท ส่วนเอ็นจีวี จะอยู่ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม
เขากล่าวว่า ก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนนั้น ขณะนี้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) อยู่ระหว่างศึกษาทางเลือกเพื่อนำไปสู่การปรับขึ้นราคา จากเดิมที่มีนโยบายจะตรึงราคาต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี จำเป็นต้องทบทวนนโยบายใหม่ เนื่องจากแอลพีจีภาคครัวเรือนมีการตรึงราคามาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ปัจจุบันยังตรึงราคา ณ โรงกลั่นอยู่ที่ ระดับ 333 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ราคาตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อตัน
"การตรึงราคาทำให้เกิดการลักลอบส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านสูงขึ้น เนื่องจากส่วนต่างราคาแอลพีจีในไทยอยู่ในระดับ 18.13 บาทต่อ กก. ขณะที่ราคาประเทศเพื่อนบ้านอยู่ที่ 40-50 บาทต่อ กก. ต่างกันกว่า 3 เท่าตัว ขณะที่แอลพีจีครัวเรือน มีสัดส่วนการใช้มากที่สุด กว่า 40% ของปริมาณแอลพีจีทั้งหมด ปัจจัยทั้งหมดนี้ ทำให้การอุดหนุนส่วนต่างราคานำเข้าเพิ่มสูงขึ้น กระทั่งเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ติดลบไปแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท"
ชี้ทยอยปรับเพิ่มราคาภาคครัวเรือน
เขากล่าวว่า การทยอยปรับราคา จะเป็นวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ โดยเฉพาะการลักลอบนำแอลพีจีครัวเรือนไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากส่วนต่างราคาไม่จูงใจให้เกิดการลักลอบนำออกไปจำหน่าย ในการปรับขึ้นราคานั้นจะเป็นลักษณะทยอยปรับ
นอกจากนี้ จะต้องปรับช่วงที่ราคาแอลพีจีในตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำ หรือช่วงหน้าร้อนก่อนเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ ดังนั้น การปรับก่อนระยะเวลาดังกล่าวจะเหมาะสมที่สุด การปรับราคาขึ้นกับปัจจัยราคาน้ำมันและแอลพีจีในตลาดโลกด้วยว่า เป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่ หากเกิดกรณีราคาน้ำมันสูงมาก ก็ต้องเลื่อนการปรับราคาออกไปก่อน เพราะไม่ต้องการให้ปรับราคาแล้ว ทำให้แอลพีจีในประเทศกระโดดสูงเกินไป ส่วนแนวทางการปรับให้แอลพีจีมีราคาเดียวหรือไม่นั้น จะต้องศึกษาความเหมาะสมก่อน
"ความยากของการปรับราคาแอลพีจีครัวเรือน คือ ต้องคำนึงเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ และมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าด้วย ดังนั้น ต้องหาวิธีการปรับ และช่วยเหลือให้เหมาะสม มีความเป็นไปได้ที่จะใช้รูปแบบเดียวกับการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าฟรี ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อครัวเรือน ส่วนการใช้ระบบคูปองนั้นจะไม่ดำเนินการแน่นอน เพราะทำให้คนถือโอกาสหาประโยชน์ได้ง่าย" นายอารักษ์กล่าว
ขนออกชายแดนสูญปีละ 2.6 พันล้าน
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การลักลอบนำแอลพีจีจากไทย ออกไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน ตัวเลขที่หายออกไปตรวจจับได้ยาก เนื่องจากเป็นการขนถังออกไปเหมือนกับใช้งานตามปกติ แต่การใช้งานจริงพบว่าใช้ทั้งเป็นก๊าซหุงต้ม และดัดแปลงใช้ในรถยนต์ด้วย
อย่างไรก็ตาม สามารถคำนวณปริมาณแอลพีจี ที่ออกไปประเทศเพื่อนบ้านจากถังแอลพีจีขนาด 15 กิโลกรัม ที่หายจากระบบ ซึ่งได้รับรายงานจาก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ว่า มีจำนวน 4 แสนใบ ในจำนวนนี้คำนวณแล้วคิดเป็นปริมาณแอลพีจีไม่ต่ำกว่า 5,000 ตันต่อปี ทำให้ไทยต้องสูญเงินจากการอุดหนุนให้กับประเทศเพื่อนบ้านปีละกว่า 2,664 ล้านบาท
สำหรับราคาแอลพีจีประเทศเพื่อนบ้าน (ณ วันที่ 14 ก.พ. 55) ประเทศลาวราคา 47.58 บาทต่อกิโลกรัม เวียดนามราคา 51.91 บาทต่อกิโลกรัม กัมพูชาราคา 44.55 บาทต่อกิโลกรัม พม่าราคา 37.3 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนมาเลเซียราคา 20 บาทต่อกิโลกรัม (มีการอุดหนุนเหมือนไทย) ขณะที่ของไทยปัจจุบันอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม
กองทุนน้ำมันฯ อ่วมชดเชยแอลพีจี
นายสุเทพ กล่าวว่า ภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันฯ มาจากการชดเชยการนำเข้าแอลพีจี ที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปี 2554 อยู่ที่ 123,000 ตัน เป็น 160,000 ตันในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ประกอบกับราคาแอลพีจีตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีภาระจากการชดเชยแอลพีจีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย รวม 5,228 ล้านบาทในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แยกเป็นการชดเชยแอลพีจีนำเข้ากว่า 3,806 ล้านบาท และชดเชยโรงกลั่นน้ำมัน เพื่อให้ป้อนแอลพีจีในไทยแทนการส่งออกอีก 1,422 ล้านบาท
"ภาระการชดเชยที่เพิ่มขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากการตรึงราคาแอลพีจี โดยเฉพาะในภาคครัวเรือนที่มีการตรึงราคามานาน และมีสัดส่วนการใช้สูงกว่า 40% ทำให้มีการลักลอบนำออกไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่แอลพีจีขนส่งและอุตสาหกรรมปรับขึ้นไปแล้ว ส่วนแอลพีจีปิโตรเคมีสัดส่วนการใช้กว่า 30% กองทุนน้ำมันฯ ไม่ได้อุดหนุนราคา และเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันกิโลกรัมละ 1 บาท" นายสุเทพกล่าว
เตรียมย้ายที่ทำการกระทรวง
นายอารักษ์ กล่าวอีกว่า ได้ให้นโยบายและทิศทางพลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2555 ว่า ต้องการล้างภาพพจน์กระทรวงพลังงานใหม่ จากที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน และรัฐวิสาหกิจในสังกัด อาทิเช่น ปตท.หรือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไม่สามารถแยกภาพออกจากกันได้ ทำให้ถูกมองว่ามีการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
ดังนั้น กระทรวงอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางว่า จะทำอย่างไรให้กระทรวงพลังงาน มีภาพลักษณ์ของผู้กำกับดูแลนโยบายอย่างแท้จริง ที่จะทำให้คนทั่วไปนึกถึงเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งต้องการตอกย้ำให้ข้าราชการที่นั่งเป็นกรรมการในบอร์ดของรัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้กำกับดูแลอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน มีแนวคิดที่จะย้ายกระทรวงพลังงาน ออกจากอาคารเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นอาคารของบริษัทในเครือ ปตท.
"บอร์ดรัฐวิสาหกิจที่มีข้าราชการเป็นบอร์ดนั้น คงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผมมองว่าการเข้าไปเป็นบอร์ด เพื่อกำกับดูแลให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายกระทรวงพลังงาน น่าจะดีกว่าไม่มีข้าราชการเข้าไปนั่ง เพียงแต่ข้าราชการที่ไปนั่งต้องวางตัวเป็นผู้กำกับดูแลแท้จริง เรื่องนี้ต้องกำชับกันต่อไป" นายอารักษ์กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า มีแนวคิดที่จะย้ายสำนักงานรัฐมนตรี และสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ออกจากอาคารเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กลับไปที่กระทรวงพลังงานเดิมที่ถนนพระราม 1
ไฟเขียวแท็กซี่มิเตอร์ขึ้นราคา
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รักษาการปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่งอีก 75 สตางค์ต่อกิโลกรัม และเอ็นจีวีปรับขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็น 10 บาท ยอมรับว่าการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี ส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนของประกอบการรถแท็กซี่เพิ่มขึ้น เบื้องต้นอาจต้องยอมให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ปรับขึ้นอัตรามิเตอร์แท็กซี่ จากปัจจุบันเริ่มต้นที่ 35 บาท แต่จะให้ปรับขึ้นเท่าใดยังบอกไม่ได้
ส่วนกรณีที่รถสองแถว และรถโดยสารร่วมบริการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ของสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร ที่มีนางสุจินดา เชิดชัย เป็นนายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร ยื่นหนังสือขอปรับขึ้นค่าโดยสาร ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมักจะยื่นหนังสือเป็นเอกสารแผ่นเดียวขอปรับขึ้นราคา แต่ไม่ได้ยื่นเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบด้านโครงสร้างต้นทุน ทำให้ไม่สามารถพิจารณารายละเอียด เพื่อพิจารณาค่าโดยสารได้ หากผู้ประกอบการต้องการให้พิจารณาต้องยื่นเอกสารรายละเอียดโครงสร้างต้นทุนด้วย
"อาจจำเป็นต้องให้ปรับขึ้นค่าโดยสารเริ่มต้นแท็กซี่มิเตอร์ เพราะแนวโน้มราคาก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารรถสองแถว และรถโดยสาร บขส. ส่วนใหญ่ยังใช้น้ำมันดีเซลนั้น อาจต้องรอให้ราคาน้ำมันดีเซลคงที่สักระยะก่อน ไม่ใช่ปรับขึ้นๆ ลงๆ เหมือนปัจจุบัน จึงจะพิจารณาอัตราค่าโดยสาร เพื่อให้การปรับอัตราค่าโดยสารสะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันที่แท้จริง แต่ทั้ง 2 กรณี ต้องนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางให้เป็นผู้พิจารณาก่อน ขณะนี้ ยังไม่มีการกำหนดนัดวันประชุม" นายศิลปชัยกล่าว
เล็งคุมมาตรฐาน-จัดระเบียบแท็กซี่
นอกจากนี้ กระทรวงยังมีแนวคิดที่จะจัดระเบียบรถแท็กซี่ ที่วิ่งให้บริการในกรุงเทพฯ โดยอาจจะพิจารณาจำกัดจำนวนแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการ เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณมากถึง 1 แสนคัน แต่สามารถวิ่งให้บริการจริงเพียง 8 หมื่นคัน บางส่วนเป็นแท็กซี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด บางคันมีอายุเฉลี่ยเกินกว่า 7 ปี
"เราอาจต้องเข้ามาจัดระเบียบแท็กซี่เสรีมากขึ้น โดยจะเน้นส่งเสริมเฉพาะผู้ที่ทำเป็นอาชีพจริงๆ เท่านั้น เพื่อควบคุมให้การให้บริการเป็นไปตามมาตรฐาน โดยเฉพาะเรื่องการออกใบอนุญาตขับขี่แท็กซี่ ต้องเป็นบุคคลที่สอบผ่านตามกฎหมายกำหนดเท่านั้น ผมได้กำชับไปยังกรมการขนส่งทางบกเข้มงวดเรื่องนี้แล้ว ปัจจุบันพบว่าแท็กซี่ส่วนบุคคลจำนวนมากผู้ขับไม่มีใบอนุญาตขับขี่ บางครั้งยังไม่ใช่คนไทย แต่เป็นกะเหรี่ยงเข้ามาขับจำนวนมาก อาจทำให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ขณะนี้ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กวดขันเรื่องนี้แล้ว" นายศิลปชัยกล่าว
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 14, 2012 9:40 am
โดย pak
'อารักษ์' งัดสูตรแก้น้ำมันแพง เลื่อนภาษีดีเซลตั้งกองทุนแห่งชาติ
Source - ประชาชาติธุรกิจ (Th), Wednesday, March 14, 2012
สถานการณ์ในอิหร่าน ประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันตลาดโลกรายใหญ่ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะประเทศไทย บริษัทผู้ผลิตและค้าน้ำมัน 2 ค่ายหลัก คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ประกาศขยับขึ้นราคาขายปลีกรายสัปดาห์ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ปรับถี่ยิบถึง 10 ครั้ง
ล่าสุด 12 มีนาคม ก็สร้างประวัติศาสตร์รอบใหม่ขึ้นราคากลุ่มเบนซินและดีเซลอีกลิตรละ 60 สตางค์ ทำให้เบนซิน 91 กลายเป็นลิตรละ 41.51 บาท แกสโซฮอล์ 95 ทะยานถึง 40.23 บาท แกสโซฮอล์ 91 เป็น 38.48 บาท ส่วนดีเซลหลังจากปล่อยลอยตัวไม่ให้เกิน ลิตรละ 30 บาท ได้เพียงเดือนเศษรอบนี้ทะลุครั้งแรกเป็นลิตรละ 32.33 บาท
ต่อเนื่องจากเมื่อ8 มีนาคม 2555 เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ชุดของนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน อนุมัติให้ปรับอัตราใหม่การจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าข่ายเริ่มนำร่องลอยตัวนั่นเอง จากกาซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) ลดลง 50 สตางค์ ส่งผลให้ราคาขายปลีกเพิ่มเป็น 10 บาท/กก. และ กาซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคขนส่งเก็บเพิ่มอีก 75 สตางค์/กก. ราคาขึ้นเป็น 20.38 บาท/กก. ยกเว้นไว้เพียงเบนซิน 95 และ 91 เท่านั้น ที่ไม่มีความแน่นอน จะต้องรอประเมินสถานการณ์รายวัน
ท่ามกลางปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือนเมษายนนี้เพิ่มเป็น 0.82 เหรียญสหรัฐ ปิดที่ 107.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เบรนต์เพิ่ม 0.54 เหรียญสหรัฐ ปิดที่ 125.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล บวกกับปัจจัยเสริมจากกรีซเริ่มแก้โครงสร้างหนี้สำเร็จได้แรงสนับสนุนเงินกู้จากสหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟ 1.3 แสนล้านยูโร ตลาดการจ้างงานภาคเกษตรในสหรัฐอเมริกาเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 2.27 แสนตำแหน่ง และการค้าระหว่างประเทศสหรัฐดีขึ้นส่งผลให้นำเข้าเพิ่มอีก 2.1% ส่งออกเติบโต 1.4%
ทุกปัจจัยล้วนมีผลกระทบมาถึง "ราคาพลังงาน" ในไทยขยับขึ้นยกแผง ท่ามกลางการเดินหน้านโยบาย "ลอยตัว" ของกระทรวงพลังงาน เนื่องจากไม่สามารถให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแบกรับภาระอุดหนุนต่อไปได้อีกในปีนี้ต้องกู้เงินมาเตรียมสำรองไว้ถึง 30,000 ล้านบาท
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภายหลังวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่อผู้ค้ารายใหญ่ทั้ง ปตท.และ บางจากปรับราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินขยับขึ้นไปเกินลิตรละ 40 บาท ดีเซล 32.33 บาท ส่วนแอลพีจีและเอ็นจีวีก็อยู่ระหว่างต้องลอยตัวราคาภายในตุลาคมนี้ ทั้งภาคครัวเรือนและขนส่ง ตามแผนบรรเทาความเดือดร้อนระยะสั้นภายในเดือนมีนาคมนี้ จะขอหารือกับที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อีกครั้ง ให้ชะลอโดยเลื่อนการเก็บภาษีดีเซลออกไปอีก1 เดือน เดิมจะเริ่มกลับมาเก็บใหม่ลิตรละ 5.30 บาท เริ่ม 1 เมษายนนี้ และการทบทวนโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ รวมแกสแอลพีจีภาคครัวเรือนด้วย ซึ่งได้กำหนดกรอบลอยตัวด้วยวิธีปรับขึ้นแบบขั้นบันไดเริ่มใช้ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป เร็วขึ้นกว่าเดิมจะเริ่ม 1 มกราคม 2556
จากนั้นก็จะให้หน่วยงานในกระทรวงพลังงานร่วมกันศึกษาข้อมูลสรุปให้จบภายใน 1-2 เดือนนี้ เพื่อหา"ต้นทุน" และสะท้อน"ราคา" ที่แท้จริง รวมถึงหามาตรการที่เหมาะสมเข้ามาให้ความช่วยเหลือภาคครัวเรือนก่อน เพราะเป็นกลุ่มเฉพาะที่จะต้องได้รับการอุดหนุน (Target subsidy) เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ส่วนการเตรียมแผนระยะยาว กรณีการมีแนวคิด "ยุบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง" แล้วหันมาเสนอกฎหมายจัดตั้ง "กองทุนสำรองน้ำมันแห่งชาติ" แทนนั้น ต้องทำเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ป้องกันวิกฤตพลังงานในประเทศ เป็นแนวคิดที่จะต้องขอตรวจสอบรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรอหารือร่วมกับคณะกรรมการศึกษาการแก้กฎหมายจัดตั้งกองทุนดังกล่าวที่มีนายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เนื่องจากตามขั้นตอนจำเป็นต้องออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เสนอร่างให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาพิจารณาใช้เวลาราว 4 ปี
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาพลังงานทุกชนิดช่วงนี้นั้น ทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแนะนำให้ช่วยเหลือกลุ่มที่ไม่ได้เป็นนิติบุคคล หรือร้านประกอบการริมทาง เช่น ร้านบะหมี่ ร้านขนมหวาน ซึ่งได้รับผลกระทบจริง ส่วนการลอยตัวแอลพีจีภาคครัวเรือนให้ใกล้เคียงกับภาคอื่นๆ ทั้งขนส่ง อุตสาหกรรม ก็ยังต้องทำต่อไปเพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันขาดทุน20,000 ล้านบาท
รายงานจากกระทรวงพลังงานยืนยันว่า อย่างไรราคาเชื้อเพลิงในประเทศก็ต้องปรับขึ้นตามกลไกตลาด เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะขณะนี้หลายประเทศก็ปรับตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก เช่น โคลัมโบ ศรีลังกา ปรับเพิ่มถึง 37% เมื่อเปรียบเทียบแล้วไทยยังขายต่ำกว่าตลาดโลกเกือบ 4 เท่า โดยเฉพาะแอลพีจีประเทศเพื่อนบ้านแถบกัมพูชาสปป.ลาว ขาย 40-50 บาท/กก. แต่ภาคครัวเรือนของไทยยังใช้อยู่ที่ 18.13 บาท/กก.
รายงานจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า หลังจากราคาเอ็นจีวีและแอลพีจีภาคขนส่งปรับขึ้นราคา เตรียมพิจารณารับข้อเสนอของกลุ่มรถแท็กซี่ปรับขึ้นมิเตอร์เริ่มต้นที่ 35 บาท เพิ่มขึ้นตามต้นทุนใหม่ แต่จะเป็นเท่าไร จะต้องหารือกันอีกครั้งภายในเดือนมีนาคมนี้
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2012 9:06 am
โดย pak
ผวาขึ้นค่าแรงขนส่งLPGโวยขอขึ้นราคาอีกถังละ5บาท
Source - ASTV ผู้จัดการรายวัน (Th), Monday, March 19, 2012
ผวาขึ้นค่าแรงซ้ำเติม! ขนส่งLPGขอขึ้น5บาท
ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ค้าแอลพีจีมึนราคาดีเซลพุ่งเกินพิกัดดันต้นทุนค่าขนส่งเพิ่ม 5 บาทต่อถัง (15 กก.) แถม 1 เม.ย. ค่าแรงขึ้น 300 บาทต่อวันถล่มซ้ำ เตรียมยื่นพาณิชย์ขอขยับค่าขนส่งแอลพีจีภายใน เม.ย. 55 มากกว่า 5 บาทต่อถัง ขณะที่สัปดาห์นี้ถกแก้ราคาเอ็นจีวีเล็งยื่นรัฐปรับ 4 บาทต่อ กก. เอกชนชี้ "ปู" เอาไม่อยู่ค่าครองชีพสูง ด้าน ปชป.ตั้งวงเสนวนา อัดรัฐบาลทำของแพงทั้งแผ่นดิน
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลที่จะปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันนำร่อง 7 จังหวัดมีผล 1 เม.ย. 2555 นี้ทำให้สมาคมฯอยู่ระหว่างการรวบรวมถึงผลกระทบต่อต้นทุนของร้านค้าแอลพีจีทั่วประเทศในส่วนของค่าแรงที่เพิ่มขึ้นรวมกับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงถึง 32.33บาทต่อลิตร เพื่อนำเสนอกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ในการขอปรับเพิ่มค่าขนส่งแอลพีจีที่ปัจจุบันอยู่ที่ 10 บาทต่อถัง (15กิโลกรัม) ภายในไม่เกิน เม.ย. 2555
ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะตัวเลขผล กระทบจากน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นจาก 25 บาทต่อลิตรมาอยู่ที่ 32.33 บาทต่อลิตรหรือสูงกว่า 30 บาทต่อลิตรได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งแอลพีจีให้แก่ผู้ค้าแอลพีจีประมาณ 5 บาทต่อถัง 15 กก.หรือเฉลี่ย กก.ละ30 สตางค์ ดังนั้นเมื่อมีค่าแรงเข้ามาบวกเพิ่มอีกก็จะส่งผลต่อต้นทุนค่าขนส่งให้เพิ่มมากกว่า 5 บาทต่อ กก.แต่ตัวเลขคงจะต้องรวบรวมอีกครั้ง
"แรงงานในร้านค้าแอลพีจีทั่วประเทศมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 40,000-50,000 คนซึ่งค่าจ้างเฉลี่ยมีทั้งที่เกิน 300 บาทต่อวันและอยู่ที่ระดับ 220-250 บาทต่อวันเมื่อขั้นต่ำเพิ่มขึ้นก็ย่อมดันให้ค่าแรงทั้งระบบเพิ่มขึ้นตามไปด้วยและปีแรกนำร่องแค่ 7 จังหวัดแต่ในปี 2556 ก็จะเป็นทั่วประเทศ และค่าขนส่งปัจจุบันที่อยู่ระดับ 10 บาทต่อถัง (15 กก.) นั้นคำนวณจากฐานน้ำมันดีเซลที่ 25 บาทเท่านั้นจะเห็นว่าการที่เราขอปรับขึ้นนั้นเราได้แบกรับภาระก่อนหน้านี้มามากแล้ว" นายชิษณุพงศ์กล่าว
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะหารือร่วมกับกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับกรอบเบื้องต้นในการพิจารณาแนวทางปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ เอ็นจีวีที่รัฐบาลได้กำหนดการทยอยปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อ กก.จนครบ 6 บาทต่อ กก.ในเดือน ธ.ค.นี้ซึ่งทางผู้ประกอบการยืนยันที่จะให้ปรับเบื้องต้นไปก่อน 2 บาทต่อ กก. และที่เหลือ 4 บาทต่อ กก.จะขอหารือใน 3 ประเด็นหลักคือ 1. ต้นทุน ปตท. 2. โครงสร้างภาษีต่างๆ และ 3.ความคุ้มทุนของผู้ประกอบการ ที่ใช้เอ็นจีวี
"เราต้องการให้รัฐบาลทำเรื่องนี้ให้จบไปเลยทีเดียวโดยต้องการให้คิดถึงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตของเอ็นจีวีด้วยเพราะเชื่อว่าที่สุดอนาคตจะต้องมีซึ่งการทำทีหลังจะยุ่งยากอีก และจะได้รู้ว่าเอ็นจีวีขณะนี้ไม่มีภาษีฯจึงทำให้ดูเหมือนถูกกว่าดีเซลแต่ที่จริงไม่ใช่ดังนั้นถ้าการขึ้นเอ็นจีวี 6บาทต่อกก.แล้วเข้ากระเป๋าปตท.เพียงผู้เดียวเราไม่ยอมซึ่งเป็นไปได้ว่า 4 บาทต่อ กก.ที่เหลืออาจเป็นรายได้ภาษีสรรพสามิตแทนก็คงต้องหารือกันในรายละเอียดอีกครั้ง" นายยูกล่าว เอกชนชี้ "ปู" เอาไม่อยู่ค่าครองชีพสูง
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่ารัฐบาลจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้เพราะนอกจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะภาวะราคาน้ำมันแพง วัตถุดิบราคาเพิ่มแล้วยังพบว่า การดำเนินนโยบายประชานิยมทั่วโลกจะยิ่งทำให้ประเทศนั้นๆ มีอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น เช่น นโยบายการขึ้นค่าแรงหรือนโยบายเงินเดือนข้าราชการระดับปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน รวมถึงการลด แลก แจก แถม อื่นด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะมีโครงการธงฟ้า ซึ่งจะจำหน่ายสินค้าราคาถูกๆ แต่เชื่อว่าคงทำได้ไม่นานและไม่สามารถครอบคลุมผู้เดือดร้อนทั้งหมดได้ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก
ทั้งนี้ ที่สุดรัฐควรปล่อยให้ราคาสินค้าให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงหรือใกล้เคียงไม่เช่นนั้นอาจเกิดภาวะขาดแคลน เพราะต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงเกือบทุกมิติ โดยเฉพาะนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันของรัฐบาลเชื่อว่าราคาสินค้าจะปรับขึ้นในเดือน ก.ค. นี้ เฉลี่ยที่ 5-6% โดยเฉพาะกลุ่มอุปโภค บริโภค รองเท้า เครื่องหนัง อาหารกระป๋อง เสื้อผ้าคงจะปรับมากกว่า 6% เพราะในปัจจุบันราคายังไม่สูงและใช้แรงงานจำนวนมาก ขณะที่สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ คงเพิ่มไม่มาก เนื่องจากราคาขายค่อนข้างสูงอยู่แล้วและส่วนใหญ่มีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้กันมากในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตได้
ด้านนายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผอ. สมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า จากที่ผ่านมาเรามีการตรึงราคาช่วยผู้บริโภค ซึ่งตนอยากเสนอให้มีการตั้งกระทรวงค้าขายแทน เป็นทางแก้ปัญหาจะดีกว่า นั่นคือ การนำเอากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ มารวมกัน เพราะถือเป็นหน่วยต้นทาง ทั้งหมดจะได้สามารถควบคุมการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าได้โดยตรง ซึ่งตนคิดว่าการตั้งกระทรวงแบบนี้ จะไม่ยุ่งยากในทางกลับกันทำให้เรากำหนดราคาได้เลยปชป.ตั้งวงอัดแพงทั้งแผ่นดิน
เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (18 มี.ค.) พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดงานเสวนาหัวข้อ "ฝ่าวิกฤต ข้าวของแพง" โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในหัวข้อ "สภาวะค่าครองชีพสูง และแนวทางการแก้ไขในทัศนะของผู้นำฝ่ายค้าน" ว่าปัญหาข้าวของแพง และปัญหาเงินเฟ้อ เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่ ซึ่งประชาชนสามารถรู้สึกได้เองที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ซึ่งเงินเฟ้อ ความจริงเป็นภาษีที่ร้ายกาจที่สุด คือเก็บจากทุกคน เงินหายไปดื้อๆ ตรงนี้คือสิ่งที่เป็นปัญหา ต้องเอาใจใส่ มองดูเหมือนไม่น่ามีอะไรก็ได้ แต่เป็นเรื่องที่ซับซ้อน รัฐบาลจะเนรมิตราคาสินค้าให้เป็นไปตามกลไกจริงๆ เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากราคาอุปสงค์ และอุปทาน จะเป็นตัวกำหนด
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ 1. รัฐบาลต้องยอมรับว่ามีปัญหาเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระบวนการกองเชียร์รัฐบาล ที่ให้ข่าวว่า สินค้าไม่แพง เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านสร้างขึ้น ตนอยากจะบอกว่า ขณะนี้แพงทั้งแผ่นดินแล้ว การที่โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ของไม่แพง แต่ทำไมนายกรัฐมนตรี จึงนัดประชุมเรื่องของแพง ถ้านายกรัฐมนตรียืนยันสิ่งที่กองเชียร์พูด ตนอยากให้นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศเลยว่าของไม่แพง และจะไม่แก้ไข แต่ถ้าแพงก็ขอให้บอกกองเชียร์ว่า หยุดพูดได้แล้ว และหันมาช่วยกันแก้ไข
2. หากยอมรับว่ามีปัญหา ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจว่าปัญหาเกิดจากจุดไหน กองเชียร์ตอนนี้พูดต่างๆ นานา ถ้านโยบายพลังงานของรัฐบาล ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นราคาน้ำมัน สภาพราคาสินค้าต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน มีกองเชียร์รัฐบาลตอบโต้ว่า "ใครเอาน้ำมันดีเซลไปเจียวไข่" ตนอยากบอกว่า หากค่าขนส่งแพงขึ้น สินค้าทุกตัวก็ต้องแพงขึ้น ต้องทำความเข้าใจ ตนอยากถามว่า แล้วเงินเฟ้อ หมายความว่าอย่างไร ขณะนี้สิ่งที่จำเป็นอย่างมากคือ นโยบายพลังงาน ต้องมีการทบทวน
3. รัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจกับปัญหา และมีใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่มีผลประโยชน์อื่นใดมาเกี่ยวข้อง
"เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการตั้งกระทู้ถามรัฐบาล เห็นได้ชัดว่า แนวคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ออกมาตอบนั้นจะเป็นการซ้ำเติมประชาชน มีการอ้างตัวเลขที่ไม่แท้จริง หากเอาราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มีสูงกว่าแน่นอน ท่านไม่มีหลักคิดเลยว่า ก๊าซธรรมชาติที่นำมาใช้ทำแอลพีจี เอ็นจีวี เป็นทรัพย์สมบัติของประเทศ ท่านกลับคิดว่าก๊าซนี้ต้องไปอิงกับราคาส่งออก ผมไม่เคยเห็นในประเทศไหนเลยที่ผลิตก๊าซเอง แล้วขายคนในประเทศเท่ากับที่ขายตลาดโลก การที่รัฐมนตรีระบุว่า คนไทยเคยตัว ใช้ก๊าซถูกมานาน ต้องใช้แพงขึ้นบ้างถึงจะประหยัด ผมอยากจะบอกว่า อย่ามาพูดอย่างนี้ ก๊าซไม่ใช่นำมาจุดเล่น คนที่นำมาจุดเล่นคือ พวกเผาบ้านเผาเมือง ไม่ประหยัดเลย" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า มีการพูดว่า ของแพงครั้งนี้เกิดขึ้นในภาวะที่ราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ กลายเป็นว่าขณะนี้เกิดปัญหาสองด้าน โครงการจำนำข้าวก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของเกษตรกร และทำลายโอกาสการส่งออกข้าวอย่างรุนแรง ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกคนจับตาดูน้ำมันปาล์ม เพราะขณะนี้มีแนวคิดนำเข้าน้ำมันปาล์ม ซึ่งหากดูจากสถานการณ์ในขณะนี้ไม่ใช่อยู่ในสภาวะที่ขาดแคลน แต่จะมีการทำนโยบายเพื่อตรึงราคานำเข้า โดยจะอุดหนุน ปตท. เรื่องไบโอดีเซล ตนอยากให้รัฐบาลทบทวน และพิจารณาให้ดี และขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไข ใส่ใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เรื่องรัฐธรรมนูญค่อยแก้ทีหลังก็ได้ แฉ ปตท.ฟันกำไรเยอะ
ด้านนายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า การแก้ไขปัญหานั้น รัฐบาลคงต้องดูเป็นรายสินค้าไป ที่แพงเป็นเพราะอะไร และแก้ไขให้ถูกจุด เพราะไม่มีนโยบายอะไรที่ออกมาแล้วแก้ไขได้ทั้งหมด
สำหรับการขึ้นราคาสินค้านั้น ตนเห็นว่าเกษตรกรผู้ผลิตสมควรปรับขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับผู้ใช้ ตนอยากถามว่าเราจะมีโอกาสทำให้สูงขึ้นบ้างได้หรือไม่ แต่ต้องไม่สูงมากจนเกินไป กำไรต้องได้บ้าง แต่ไม่ใช่เกินเหตุ
ส่วน ปตท.กำไรเกินเหตุหรือไม่นั้น ตนเห็นว่ากำไรเยอะก็จริง แต่เป็นกำไรที่ได้จากปิโตรเคมี ได้จากการขายเนื้อแก๊สธรรมชาติ แต่ที่เขาขายแก๊สธรรมชาติรถยนต์นั้น ตนเห็นว่าเขาขาดทุนแน่นอน เนื่องจากค่าการขนส่งสูงมาก แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ควรปรับราคาให้สูงมากนักอัดยับนโยบายจำนำข้าวจะทำพัง
ส่วน นายชัยวัฒน์ แสงชัย ที่ปรึกษาสมาคมตลาดสด กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ในสายตาผู้บริโภค ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีน ไข่ ขยับราคาสูงขึ้น ตนเห็นว่าหนทางเลือกอาจจะหันไปใช้สินค้าอย่างอื่นที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันทดแทน อาทิเนื้อหมู ก็หันไปบริโภคกระดูกหมู เป็นต้น รัฐบาลควรจะวิเคราะห์ราคาสินค้า และกำลังซื้อของประชาชนตามอุปสงค์ และอุปทานด้วย ซึ่งราคาสินค้าที่สูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งต้องยอมรับว่าสินค้าเหล่านั้น จะมีความผันผวนตามฤดูกาล และวัฏจักร ขณะนี้กระเทียม หอมแดง ก็ถูกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศจีน พม่า มีผลทำให้ราคาตกต่ำพอสมควร ซึ่งตนเห็นว่าของแพงก็ควรจะแก้ไข
ส่วนนโยบายการรับจำนำข้าวนั้น ในที่สุดก็ขายสู้ประเทศอื่นๆ ไม่ได้ ตนคาดว่าอาจจะกลายเป็นองค์การค้าข้าวเสื่อมก็ได้ เพราะข้าวจะถูกนำมาขายในลักษณะของข้าวเสีย เมื่อราคาต่ำรัฐบาลก็ขาดทุน และที่เป็นปัญหาที่สำคัญ คือ เราใช้เงินเกินตัว เอาเงินในอนาคตมาใช้มาก นโยบาย ประชานิยมอย่างรุนแรง ในที่สุดจะทำให้พฤติกรรมเหลวแหลก ขาดเงินออม ถ้าใครเห็นแก่ผลประโยชน์ อาทิ การตั้งกองทุนสตรี ตนอยากถามว่าพวกเราจะได้เงินทุนเหล่านั้นสัก เท่าไรกัน
นอกจากนี้ รัฐบาลไม่ควรประกาศขึ้นราคาค่าแรงในลักษณะก้าวกระโดดเช่นนี้ ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในอนาคตข้างหน้าไทยจะเข้าไปอยู่ในสมาคมอาเซียน การแก้ไขสินค้าราคาแพง จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานราคาสินค้า มาตรฐานการผลิต เพราะจะช่วยทำให้สินค้าที่ล้นตลาดออกขายสู่ตลาดนอกได้ การเคลื่อนไหวไปมาระหว่างประเทศได้ สินค้าจะนำเข้า ส่งออกได้อย่างเสรี
"ผมเป็นห่วงว่า ถ้ารัฐบาลปล่อยอยู่เช่นนี้ มุ่งแต่แก้รัฐธรรมนูญ ปัญหาเราจะเกิดความยากลำบาก พฤติกรรมที่เป็นมากของคนไทย คือ พฤติกรรมการเลียนแบบการบริโภค กลไกการเมือง ทุนนิยมการเมือง เราเจอเผด็จการ ที่อันตรายกว่าทหารเอาปืนมาจ่อ และที่อันตรายกว่า คือเผด็จการในรัฐบาล รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างแท้จริง" นายชัยวัฒน์ กล่าวขึ้นค่าแรงมากทำเอสเอ็มอีเจ๊ง
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เงา กล่าวว่า ตนอยากเสนอให้รัฐบาล 1. ทบทวนนโยบายพลังงาน 2. การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล อย่าต่างคนต่างทำ เพราะขณะนี้มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ ควรจะทำงานร่วมกัน และแก้ไขอย่างเป็นระบบ นายกรัฐมนตรีต้องลงมากำกับดูแลด้วยตนเอง
3. รัฐบาลไม่ควรปรับเงินขึ้นค่าแรงในลักษณะก้าวกระโดด ตนอยากถามว่า เวลาท่านทำงานในบริษัท เคยปรับขึ้นเงินเดือนทีละ 40 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ รัฐบาลกำลังจะบอกว่า ยกระดับให้แก่ผู้ใช้แรงงาน เงินเยอะก็จริง แต่ธุรกิจ เอสเอ็มอี จะได้รับผลกระทบ ตนยังไม่ได้ยินว่า รัฐบาลมีมาตรการลดผลกระทบกับ เอสเอ็มอี และผู้ประกอบการ อย่างไร ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหา
4. ประชาชนเดือดร้อนจากน้ำท่วม รัฐบาลต้องเร่งเข้าไปฟื้นฟู จ่ายเงินชดเชย การทำงานของรัฐบาล อย่าแยกงานกันทำ อาทิ ผลักภาระให้แก่กระทรวงพาณิชย์อย่างเดียว รัฐบาลควรไปทำงานร่วมกับกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
5. ถ้ารัฐบาลยังไม่ทำงานเชิงรุก ในเดือนมี.ค.-พ.ค. จะเป็นฤดูกาลของผลไม้ ถ้ารัฐบาลไม่เร่งแก้ปัญหา สินค้าเกษตรบางประเภท อาจได้รับผลกระทบโดยตรง ตนเห็นว่าหากนโยบายบางเรื่องรัฐบาลทำ และไม่เกิดประโยชน์จริง ขอให้ทบทวน มิเช่นนั้นประชาชนจะทบทวนว่า เขาเลือกท่านมาถูกหรือไม่ พท.เล็งตั้งวอร์รูมแก้ของแพง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค เพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีถึงภาวะข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน ว่าไม่เป็นความจริง เพราะจากการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบราคาสินค้าแล้ว พบว่าสินค้าบางอย่างไม่ได้แพงเสมอไป อีกทั้งราคาพืชผักยังมีราคาถูกอยู่ แต่สาเหตุที่สินค้าบางอย่างแพงนั้น เกิดจากปัญหาโรงงานน้ำท่วม และราคาพลังงานปรับตัวขึ้นสูง อีกทั้งสินค้าน้ำมันปาล์ม ที่จะขึ้นราคานั้นน่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมือง หรือเกี่ยวกับโรงงานในหลายพื้นที่ในภาคใต้
ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการให้ฝ่ายค้านมุ่งโจมตีทางการเมือง แต่ควรร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่อเรื่องนี้มากกว่า ขณะที่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยประสบกับปัญหาชั่งกิโลไข่ขาย และน้ำมันปาล์มขาดตลาดมาแล้ว
โดยในที่การประชุมพรรควันที่ 20 มี.ค.นี้ ตนจะเสนอให้นายกรัฐมนตรี ตั้งวอร์รูมเพื่อแก้ปัญหาข้าวของแพงอย่างบูรณาการ โดยจะเชิญกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม มาร่วมหารือ ถึงแนวทางการแก้ไขด้วยไม่แพงแล้วประชุมแก้ปัญหาทำไม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกส่วนตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และอีกหลายคนในพรรคเพื่อไทย ระบุประเทศยังไม่เข้าสู่ภาวะสินค้าราคาแพงว่า ถือเป็นการสะกดจิตประชาชน หากไม่มีปัญหาสินค้าราคาแพงแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเรียกประชุมแก้ปัญหาทำไม อยากถามว่า ถ้าของไม่แพงแล้วเกิดปัญหาเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันขึ้นได้อย่างไร นายสุรนันท์ ไม่น่าลดตัวมาพูดจาไร้สาระ ทำไมจึงไม่เอาความสามารถไปแนะนำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าควรแก้ปัญหาอย่างไร แต่กลับมากล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ ปั่นกระแสเรื่องของแพง ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตอนนี้ประเทศเกิดภาวะแพงทั้งแผ่นดินไปแล้ว
"การออกมาพูดสะกดจิตหมู่ประชาชน จะทำให้รัฐบาลล่มจมแทนที่ นายสุรนันท์จะเป็นตัวช่วย กลับกลายเป็นตัวถ่วง ทำให้รัฐบาลไปเร็วขึ้น เพราะมีการเลือกนำสินค้าบางตัวที่ราคาตกตามฤดูกาลมากล่าวอ้าง แสดงว่า ไม่ตั้งใจทำงานแต่ใช้โวหารมาแก้ตัว" จี้เร่งผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม
ด้านนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่นายกรัฐมนตรี พูดว่าจะต่ออายุโครงการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ถือว่ามีคนจนอยู่ในหัวใจ แต่ควรแถลงให้ชัดเจนว่าจะต่ออายุโครงการนี้ออกไปจนถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ เพราะโครงการนี้จะหมดอายุในวันที่ 30 เม.ย. นี้แล้ว อย่าต่อเพียงแค่ 3 หรือ 6 เดือน แต่ควรต่อไปถึงสิ้นปี เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจที่มีต่อประชาชนผู้มีรายได้น้อย
นอกจากนี้รัฐบาลควรผลักดันกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับของพี่น้องกรรมกรที่เสนอเข้ามาโดย น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ตัวแทนองค์กรผู้ใช้แรงงาน ที่ค้างอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภา เป็นเรื่องด่วนลำดับที่ 9 รัฐบาลควรหยิบมาพิจารณาก่อน เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อกรรมกรอย่างแท้จริง และควรทำตามนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน คือ ค่าแรงวันละ 300 บาทให้ปรากฏเป็นจริง ของที่แพงอยู่ทุกวันนี้ เพราะรัฐบาลปั่นรายได้ว่าประชาชนมีรายได้มากขึ้น ทั้งที่ความจริงไม่เป็นอย่างที่รัฐบาลพูด ถือเป็นการหลอกประชาชน
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2012 9:08 am
โดย pak
อารักษ์โชว์ลดพลังงานถอดสูททำงาน รัฐนำร่องปิดไฟ-คาร์พูลชวนเอกชนร่วมหน้าร้อนหมูแพงโวยปุ๋ยพุ่งเท่าตัว
Source - มติชน (Th), Monday, March 19, 2012
’อารักษ์’แจงมาตรการประหยัดพลังงาน นำร่องงดใส่สูท-ลดความเย็นแอร์ สินค้าแห่ปรับราคาไม่หยุด เกษตรกรร้องปุ๋ยเคมีแพงหูฉี่ ดอดขึ้น 50-100%
อารักษ์แจงแผนประหยัดพลังงาน
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานราชการปรับลดการใช้พลังงานอย่างน้อย 10% ว่า เป็นเรื่องต้องหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงต่างๆ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะเน้นการประชาสัมพันธ์มากกว่าการออกกฎระเบียบบังคับ ในการประชุม ครม.สัญจรวันที่ 20 มีนาคม ที่จังหวัดภูเก็ต กระทรวงพลังงานจะเรียกหารือทุกหน่วยราชการนอกรอบในเรื่องนี้ สำหรับกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการจัดทำมาตรการ เช่นร่วมเดินทางโดยใช้รถคันเดียว (คาร์พูล) กำหนดอัตราความเร็วรถบนทางด่วน กำหนดที่จอดรถเพิ่มเติมเพื่อให้ประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะแทน ปิดไฟฟ้าในช่วงเที่ยงของภาคราชการ และรณรงค์ให้องค์กรเอกชน โรงเรียนภาคอุตสาหกรรม ร่วมกันประหยัด
"ผมจะปรับการแต่งกายให้สอดคล้องกับภาวะอากาศและยังเป็นการลดการใช้พลังงานโดยเฉพาะการไม่เพิ่มความเย็นของเครื่องปรับอากาศ จะไม่ใส่สูทในการทำงาน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(19 มี.ค.) เพื่อลดการใช้แอร์ ไม่ใช่สร้างภาพแต่เป็นเรื่องทำได้ง่ายสุด" นายอารักษ์กล่าว
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้จัดทำแผนรณรงค์ประหยัดพลังงานให้ทุกหน่วยงานของทุกกระทรวงดำเนินการร่วมกัน โดยจะเสนอนายกฯพิจารณา และนำเข้าที่ประชุม ครม.ต่อไป
กบง.ขออำนาจคุมราคาพลังงาน
นายสุเทพกล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่23 มีนาคม กระทรวงพลังงานจะเสนอ กพช.เพื่อขอมติให้อำนาจคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งหมด ได้แก่ น้ำมันเบนซิน ดีเซลก๊าซแอลพีจี ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี) ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ จากปัจจุบันกำหนดให้มีการเปลี่ยนแปลงราคาในทุกเดือน เพื่อให้การปรับโครงสร้างราคาพลังงานกระทบภาระค่าครองชีพของประชาชนในช่วงไตรมาส 1-2 ปีนี้ให้น้อยที่สุด
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงคืบหน้าจัดทำโครงการ1 ร้านค้า 1 ชุมชน เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 20 มีนาคมกระทรวงพาณิชย์จะเสนอแผนงานโครงการและของบประมาณ 1,500 ล้านบาท เพื่อเปิดร้านค้าชุมชนให้ได้ 10,000 แห่งภายในปีนี้ โดยกำหนดเปิดตัวโครงการไม่เกินสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม เริ่มในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ สินค้าที่วางขายจะมีทั้งอาหารราคาแนะนำไม่เกิน 25-30 บาท สินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวันและสินค้าเพื่อการปรุงอาหาร เช่น ข้าวสารน้ำมันพืช น้ำตาลทราย ผงซักฟอก แปรงสีฟันยาสีฟัน สบู่ เป็นต้น
ปุ๋ยแอบขึ้นราคา50-100%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่าปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะสูตรที่จำเป็นต้องใช้ในการเพาะปลูก ได้แก่ สูตร 46-0-0 สูตร 15-15-15 และสูตร 20-0-0 ได้ปรับขึ้นราคาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 ทั้งที่กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าไม่มีการอนุมัติให้ปรับราคา นอกจากนี้ผู้ผลิตยังแจ้งจะปรับราคาเพิ่มอีกในเร็วๆ นี้โดยอ้างต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันโลกซึ่งจากการตรวจสอบราคา พบว่า ปุ๋ยเคมีสูตร46-0-0 ปรับขึ้นอีกถุงละ (น้ำหนัก 50 กิโลกรัม)300-320 บาท หรือตันละ 6,000-6,400 บาทสูตร 15-15-15 ปรับขึ้นถุงละ 260-290 บาทหรือตันละ 5,200-5,800 บาท และสูตร 21-0-0 ปรับขึ้นถุงละ 200-290 บาท หรือตันละ 4,000-5,800 บาท หรือมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ 5 จนเกือบ ร้อยละ 100
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตปุ๋ยเคมีได้ยื่นขอปรับราคาตั้งแต่ปลายปี 2553 และคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำปุ๋ยเคมีได้อนุมัติให้ปรับราคาปุ๋ยเคมี 10-35% มีผลตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2554 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามรัฐบาลขณะนั้นสั่งให้ชะลอการขึ้นราคาเอาไว้ก่อน
’ค้าภายใน’ยันไม่เคยอนุมัติ
แหล่งข่าวจากวงการผู้ผลิตปุ๋ยเคมี กล่าวว่าผู้ผลิตปุ๋ยเคมีหลายรายได้ส่งหนังสือขอปรับขึ้นราคาไปยังกรมการค้าภายในแล้ว เนื่องจากทนแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ไหว และยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้ ทำให้ต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น แต่ได้รับแจ้งจากกรมการค้าภายในให้ตรึงราคาจำหน่ายไปก่อน เพื่อไม่ให้เกษตรกรที่ต้องใช้ปุ๋ยจำนวนมากในช่วงนี้เดือดร้อน
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ยืนยันว่ากรมไม่ได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาปุ๋ยเคมีในสมัยรัฐบาลชุดนี้ ราคาที่ปรับขึ้นเป็นผลจากมติคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยเคมีตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน มีมติให้แต่ละบริษัททยอยปรับขึ้นราคาได้ตามต้นทุนที่นำเข้ามาใหม่ พร้อมทั้งยืนยันว่าราคาปุ๋ยเคมีที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันได้จำหน่ายอยู่ในกรอบราคาแนะนำ ไม่ได้มีการขายเกินแต่อย่างใด
วิเคราะห์ต้นทุนขนส่งพุ่ง
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าได้ทำการศึกษาผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาพลังงานต่อภาคการขนส่งและต้นทุนสินค้า หลังจากมีการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีจาก 8.50 บาทเป็น 9.50 บาท/กิโลกรัม(กก.) เพิ่มขึ้น 12% และปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลจาก 30 บาท เป็น 32.33 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 8% จะทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงในภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 8.48% และมีผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น 0.44% สำหรับผลกระทบต่อภาคการผลิต พบว่า ราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจาก3.13 บาทเป็น 3.58 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 14.37%น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นจาก 28.06 บาทเป็น 31.41 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 12% และราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ซีเอ็นจี) และเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นจาก8.50 บาท เป็น 9.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 12% มีผลกระทบต่อต้นทุนเชื้อเพลิงในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 12.45% และมีผลกระทบต่อต้นทุนสินค้า0-0.62%
แหล่งข่าวกล่าวว่า สินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาพลังงาน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมากและการบรรทุกต่อเที่ยวทำได้น้อย เช่น ปูนซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก และปุ๋ยเคมี เป็นต้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ดูแลอัตราค่าขนส่งให้เป็นธรรมและห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา เพราะภาคขนส่งส่วนใหญ่ได้หันไปใช้เอ็นจีวีแทนน้ำมันดีเซลเกือบหมดแล้ว ส่วนสินค้าจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา เนื่องจากต้นทุนไม่ได้สูงขึ้นมาก
เนื้อหมูจ่อขึ้นราคาอีก
นายกิตติวงศ์ สมบุญธรรม เลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า จากภาวะอากาศร้อนมีผลทำให้สุกรโตช้าลง ซึ่งปกติสุกรเพื่อชำแหละต่อตัวจะมีน้ำหนัก 110 กก. กลับลดเหลือ 105 กก. หรือลดลง 5% ทำให้ราคาขายสุกรเป็นเพิ่มอีกกก.ละ 2 บาท หรือจากเฉลี่ยสุกรเป็น กก.ละ 48 บาท เพิ่มเป็น 50-52 บาท
"แนวโน้มอาจมีการปรับเพิ่มหมูหน้าฟาร์มอีก2-3 ครั้งเพราะน้ำหนักหมูต่อตัวลดลง เป็นการเพิ่มต้นทุนเลี้ยง แต่ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อราคาหมูชำแหละปลายทาง ไม่เกินกก.ละ 110-120 บาท เพราะตามสูตรต้นทางคูณสองถึงเป็นราคาปลายทาง ตอนนี้ต้นทาง 52 บาท ดังนั้นขายจะไม่เกิน 105 บาท จึงเป็นราคาเหมาะสม" นายกิตติวงศ์กล่าว
มาร์คชี้ของแพง-’เฟ้อ’ภาษีร้าย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการเสวนาหัวข้อ"ฝ่าวิกฤต ข้าวของแพง" โดยมีนายชัยวัฒน์แสงชัย ที่ปรึกษาสมาคมตลาดสด นายพรายพลคุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เงา เข้าร่วม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในหัวข้อ "สภาวะค่าครองชีพสูงและแนวทางการแก้ไขในทรรศนะของผู้นำฝ่ายค้าน"ว่า อยากย้ำว่าปัญหาข้าวของแพง และปัญหาเงินเฟ้อ เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่ประชาชนสามารถรู้สึกได้เองที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทำให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งความจริงเป็นภาษีที่ร้ายกาจที่สุด คือ เก็บจากทุกคน เงินหายไปดื้อๆ ตรงนี้คือเป็นปัญหาต้องเอาใจใส่ จะมองดูเหมือนไม่น่ามีอะไรก็ได้ แต่เป็นเรื่องที่ซับซ้อน รัฐบาลจะเนรมิตราคาสินค้าให้เป็นไปตามกลไกจริงๆ เป็นไปไม่ได้เนื่องจากราคาอุปสงค์ และอุปทานจะเป็นตัวกำหนด
จี้ทบทวนนโยบายพลังงาน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น อยากจะบอกว่าขณะนี้แพงทั้งแผ่นดินแล้ว การที่โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าของไม่แพงแต่ทำไมนายกรัฐมนตรีจึงนัดประชุมเรื่องของแพง ถ้านายกรัฐมนตรียืนยันสิ่งที่กองเชียร์พูดอยากให้นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศเลยว่าของไม่แพง และจะไม่แก้ไข หากยอมรับว่ามีปัญหาก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ ว่าปัญหาเกิดจากจุดไหน ขณะนี้สิ่งที่จำเป็นอย่างมากคือนโยบายพลังงานต้องมีการทบทวน และรัฐบาลต้องเร่งทำความเข้าใจกับปัญหา และจริงใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่มีผลประโยชน์อื่นใดมาเกี่ยวข้อง
ทักท้วงนำเข้าน้ำมันปาล์ม
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า มีการพูดว่า ของแพงครั้งนี้เกิดขึ้นในภาวะที่ราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำกลายเป็นว่าขณะนี้เกิดปัญหาสองด้าน โครงการจำนำข้าวไม่เป็นไปตามเป้าหมายของเกษตรกรและทำลายโอกาสการส่งออกข้าวอย่างรุนแรงอยากให้ทุกคนจับตาดูน้ำมันปาล์ม เพราะขณะนี้มีแนวคิดนำเข้าน้ำมันปาล์ม ซึ่งหากดูจากสถานการณ์ในขณะนี้ไม่ใช่อยู่ในสภาวะที่ขาดแคลน แต่จะมีการทำนโยบายเพื่อตรึงราคาและจะมีการนำเข้าเพื่ออุดหนุน ปตท.(บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน)) ในเรื่องไบโอดีเซลอยากให้รัฐบาลทบทวนและพิจารณาให้ดี และขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไข ใส่ใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นรัฐธรรมนูญค่อยแก้ทีหลังก็ได้
แนวโน้มราคาอาหารยังเพิ่มสูง
ด้านนายพรายพลกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าและบริการต่างๆแพงขึ้น สินค้าที่ซื้อบ่อยๆ อาทิ อาหาร ปรับราคาสูงขึ้นร้อยละ 3-4 แม้จะยังไม่ถือว่าสูงมาก แต่ค่อนข้างไปในทิศทางที่สูง ดังนั้นต้องคิดว่าเมื่อราคาสินค้าสูงแล้ว รายได้ของผู้บริโภคสูงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ประเด็นสำคัญคือ ราคาสินค้าในตลาดโลกสูงขึ้น ทั้งอาหาร น้ำมัน เวลาสินค้าแพงอาหารสัตว์ก็จะแพงตามไปด้วย ทำให้ต้นทุนในการผลิตแพง จึงเห็นว่านโยบายของภาครัฐบางครั้งผิดพลาดในส่วนของนโยบายการค้า ทำให้ราคาสินค้าบางช่วงสูงขึ้น
ราคาน้ำมันก็มีความสำคัญมาก เพราะต้องใช้ในภาคขนส่ง ต้นทุนส่วนนี้จึงสูงพอสมควร เมื่อน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ราคาสินค้าอื่นๆ ก็สูงตามไปด้วย เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกัน หากไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันแพงมากเกินไป รัฐบาลต้องเข้าไปอุดหนุน โดยใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้ารัฐบาลไม่อุดหนุนประชาชนต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง
นายพรายพลกล่าวอีกว่า แนวทางการแก้ไขปัญหา รัฐบาลคงต้องพิจารณาเป็นรายสินค้า ว่าสาเหตุที่มีราคาแพงเป็นเพราะอะไร และแก้ไขให้ถูกจุด เพราะไม่มีนโยบายอะไรที่ออกมาแล้วแก้ไขได้ทั้งหมด สำหรับการขึ้นราคาสินค้านั้นเห็นว่า เกษตรกรผู้ผลิตสมควรปรับขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่สูงมากจนเกินไป
ค้านขึ้นค่าแรงก้าวกระโดด
ด้วยนายชัยวัฒน์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรประกาศขึ้นราคาค่าแรงในลักษณะก้าวกระโดดเช่นนี้ ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในอนาคตข้างหน้าไทยจะเข้าไปอยู่ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การแก้ไขสินค้าราคาแพงจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานราคาสินค้า มาตรฐานการผลิตเพื่อช่วยให้สินค้าที่ล้นตลาดออกไปขายต่างประเทศได้
"ผมเป็นห่วงว่าถ้ารัฐบาลปล่อยอยู่เช่นนี้มุ่งแต่แก้รัฐธรรมนูญ ปัญหาเราจะเกิดความยากลำบาก พฤติกรรมที่เป็นมากของคนไทยคือ พฤติกรรมการเลียนแบบการบริโภค กลไกการเมือง ทุนนิยมการเมือง เราเจอเผด็จการที่อันตรายกว่าทหารเอาปืนมาจ่อและที่อันตรายกว่า คือเผด็จการในรัฐบาล รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างแท้จริง" นายชัยวัฒน์กล่าว
กระตุ้นรัฐช่วยเอสเอ็มอี
ขณะที่นายอภิรักษ์กล่าวว่า อยากเสนอให้รัฐบาล 1.ทบทวนนโยบายพลังงาน 2.การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล อย่าต่างคนต่างทำเพราะขณะนี้มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ควรจะทำงานร่วมกัน และแก้ไขอย่างเป็นระบบนายกรัฐมนตรีต้องลงมากำกับดูแลด้วยตนเอง3.รัฐบาลไม่ควรปรับเงินขึ้นค่าแรงในลักษณะก้าวกระโดด อยากถามว่าเวลาทำงานในบริษัทเคยปรับขึ้นเงินเดือนทีเดียวร้อยละ 40 หรือไม่รัฐบาลกำลังจะบอกว่ายกระดับให้กับผู้ใช้แรงงานแต่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (เอสเอ็มอี)จะได้รับผลกระทบ ขณะนี้ยังไม่ได้ยินว่ารัฐบาลมีมาตรการลดผลกระทบกับเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการอย่างไร ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหา
4.ประชาชนเดือดร้อนจากน้ำท่วม รัฐบาลต้องเร่งเข้าไปฟื้นฟู จ่ายเงินชดเชย การทำงานของรัฐบาลอย่าแยกงานกันทำ อาทิ ผลักภาระให้แก่กระทรวงพาณิชย์อย่างเดียว รัฐบาลควรไปทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย5.ถ้ารัฐบาลยังไม่ทำงานเชิงรุก ในเดือนมีนาคมพฤษภาคมจะเป็นฤดูกาลของผลไม้หากไม่เร่งแก้ปัญหา สินค้าเกษตรบางประเภทอาจได้รับผลกระทบโดยตรง
’เด็จพี่’ชงตั้งวอร์รูมแก้แพง
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์โจมตีรัฐบาลว่าบริหารงานผิดพลาดจนทำให้เกิดภาวะข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน ว่าการกล่าวอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะจากการสำรวจราคาพืชผัก ยังถูกอยู่ และสาเหตุที่สินค้าบางอย่างราคาแพง เกิดจากโรงงานน้ำท่วม ส่วนราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้นสูงและสินค้าน้ำมันปาล์มที่จะขึ้นราคานั้น น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือโรงงานในหลายพื้นที่ในภาคใต้เพราะฉะนั้น ฝ่ายค้านไม่ควรหาประโยชน์ทางการค้า และมุ่งโจมตีทางการเมือง แต่ควรมาร่วมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหามากกว่า
"หากพูดเรื่องของแพงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็ประสบปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด ขายไข่ชั่งกิโลยังเคยเกิดมาแล้ว ในการประชุมพรรคในวันที่ 20 มีนาคม ผมจะเสนอนายกฯให้ตั้งวอร์รูมเพื่อแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ โดยเชิญกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม มาร่วมหารือว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร" นายพร้อมพงศ์กล่าว
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 26, 2012 12:38 pm
โดย pak
สนพ.ผนึกปตท.แก้ต้นทุน'แอลพีจี' ปิ๊งนำก๊าซ DME ผสมหวังชะลอขึ้นราคาครัวเรือนQ3
วันที่ : 26/03/2012, ประชาชาติธุรกิจ
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 9:11 am
โดย pak
ประเสริฐหนุนขึ้นราคาแอลพีจีแนะเลิกอุ้มหวั่นซ้ำรอยหนี้แสนล้าน
Source - ไทยโพสต์ (Th), Thursday, March 29, 2012
พลังงาน * "ประเสริฐ บุญสัมพันธ์" อดีตบิ๊ก ปตท.ชี้เงินกองทุน 3 หมื่นล้านไม่พอแนะรัฐเลิกอุ้มแอลพีจี ต้องปรับขึ้นราคาให้สอดคล้องกับตลาดโลก หวั่นซ้ำรอยอดีต "ไทยรักไทย" สร้างหนี้เงินกู้เกือบแสนล้าน ด้านกระทรวงพลังงานเล็งหารือมาตรการคุมเข้มรถขนส่งแอลพีจี 11 เม.ย.นี้ แย้มคุมเข้ม เล็งแอลกอฮอล์, อายุการใช้งานรถ และกำหนดพื้นที่ห้ามวิ่ง
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยในงาน "พลังงานสัญจร สะท้อนความเห็นผู้ประ กอบการปี 55" ว่า รัฐต้องปรับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ให้สะท้อนราคาที่แท้จริง เพราะหากยังตรึงต่อไปเงินกอง ทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่กู้ยืมเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท รวมเป็น 30,000 ล้านบาท ก็จะไม่เพียงพอสำหรับการอุดหนุน เห็นได้จากในอดีตสมัยพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล ได้มีการกู้ยืมเงินถึง 90,000 ล้านบาท มาอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล แต่ที่สุดก็ต้องยกเลิกการอุดหนุนเพราะสู้ราคาไม่ไหว เห็นด้วยที่จะ มีการศึกษาโครงสร้างราคาพลัง งานทั้งระบบและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
"คงไม่อยากให้กองทุนน้ำ มันฯ ต้องประสบกับปัญหาภาระหนี้ที่เคยสูงเกือบแสนล้านบาทเมื่อหลายปีก่อนซึ่งนโยบายการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ที่กระ ทรวงพลังงานดำเนินการอยู่ถือเป็นเรื่องที่ดีทั้งนี้ หากปล่อยไว้ จะกลายเป็นระเบิดเวลาต่อการ บริหารนโยบายพลังงานได้ เพราะ ขณะนี้คนไทยใช้แอลพีจีราคาถูกคิดเป็นมูลค่าปีละ 1 แสนล้านบาท"
นายประเสริฐกล่าวว่า แนว โน้มราคาน้ำมันน่าจะอยู่ในระดับ 110-120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยจากเหตุการณ์ในอิหร่าน มาเป็นตัวแปร แต่เชื่อว่ากรณีที่จะมีการปิดช่องแคบฮอร์มุซจะเกิดได้ยาก หรือถ้าเกิดขึ้นจริงจะเป็นระ ยะเวลาสั้นเท่านั้น
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมต.พลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน กำกับราคาพลังงานให้เหมาะสมและเป็นธรรม รวมทั้งส่งเสริมการผลิต การใช้ การวิจัย และพัฒนาพลังงานทดแทน และมาตรการสร้างความปลอดภัย โดย จากการเกิดเหตุอุบัติเหตุรถก๊าซแอลพีจีไฟไหม้ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2555 ที่ผ่านมา ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านความปลอด ภัยให้เข้มมากยิ่งขึ้น ส่วนเงินกอง ทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะจัดเก็บเพิ่มจากน้ำมันดี เซลและเบนซิน เพราะราคาขายปลีกขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาตลาดโลกเป็น หลัก
นายสมนึก บำรุงสาลี รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ถึงมาตรการคุมเข้ม "ความปลอดภัยรถขนส่งแอลพีจี" ซึ่งที่ประชุมได้เห็นร่วมกันว่าควรที่จะมีความเข้มงวดมากขึ้น ส่วนรายละเอียดจะเป็นในรูปแบบ ใดนั้น จะมีการหารือกันอีกครั้งในวันที่ 11 เม.ย.2555 นี้
อย่างไรก็ตาม กรมการขน ส่งทางบก (ขบ.) จะดูแลพนักงานขับรถแอลพีจี โดยจะมีการตรวจเข้มเรื่องแอลกอฮอล์-สารเสพติดให้มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาเป็นประเด็นหนึ่งของการเกิดความไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ จะดูอายุการใช้งานของรถขนส่งแอลพีจี อาจจะกำหนดอายุงานไม่เกิน 15 ปี และอาจจะมีการควบคุมพื้นที่และเวลาของการขนส่งแอลพีจี เช่น พื้นที่ชุมชน กทม.บางพื้นที่อาจจะมีการกำหนดห้ามวิ่ง หรือกำหนดเวลาไม่ให้แอลพีจีขนส่งช่วงกลางวันให้เหมือนกับรถขนส่งน้ำมันที่ปัจจุบันขนส่งเฉพาะกลางคืน ช่วงระยะเวลา 22.00-05.00 น.เท่านั้น ปัจจุ บันรถแอลพีจียังสามารถขนส่งได้ช่วงเวลา 09.00-15.00 น. และสามารถขนส่งได้อีกช่วงเว ลา 21.00-05.00 น. โดยห้ามวิ่งในช่วง 05.00-09.00 น. และ 15.00-21.00 น.
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 29, 2012 9:12 am
โดย pak
ถกคุมรถขนแอลพีจี 11 เม.ย.นี้
Source - บ้านเมือง (Th), Thursday, March 29, 2012
นายอารักษ์ ชลธารนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดสัมมนา "พลังงานสัญจรสะท้อนความเห็นผู้ประกอบการปี 55" ว่า รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน กำกับราคาพลังงานให้เหมาะสมและเป็นธรรม รวมทั้งส่งเสริมการผลิต การใช้ การวิจัย และพัฒนาพลังงานทดแทน และมาตรการสร้างความปลอดภัย โดยจากการเกิดเหตุอุบัติเหตุรถก๊าซแอลพีจี ไฟไหม้เมื่อวันที่23 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านความปลอดภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ส่วนเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะจัดเก็บเพิ่มจากดีเซลและเบนซิน เพราะราคาขายปลีกขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นมาก เป็นผลมาจากราคาตลาดโลกเป็นหลัก ส่วนการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ โดย ปตท.จะแก้ไขปัญหาปริมาณน้ำมันปาล์มในประเทศมีราคาแพง ทาง ปตท. พร้อมนำเข้า โดยรอเพียงการแจ้งจากกระทรวงพาณิชย์ว่าจะมีการนำเข้าเมื่อใดปริมาณเท่าใด ซึ่งหากนำเข้ามาจะใช้ระยะเวลา 7 วัน และราคาขายเมื่อสกัดเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภคราคาจะไม่เกินประมาณ42 บาทต่อลิตร
นายสมนึก บำรุงสาลี รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบกในการคุมเข้มเรื่องความปลอดภัยรถขนส่งแอลพีจี ที่ประชุมได้เห็นร่วมกันว่าควรจะดูแบบเข้มงวดยิ่งขึ้นและหารืออีกครั้งวันที่ 11 เมษายนนี้ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกจะมีการดูแลพนักงานขับรถแอลพีจี ซึ่งจะมีการตรวจเข้มเรื่องแอลกอฮอล์สารเสพติดให้มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาเป็นประเด็นหนึ่งของการเกิดความไม่ปลอดภัย นอกจากนี้จะไปดูอายุการใช้งานของรถขนส่งแอลพีจี อาจจะกำหนดอายุงานไม่เกิน 15 ปี และอาจจะมีการควบคุมพื้นที่และเวลาของการขนส่งแอลพีจี เช่น พื้นที่ชุมชน กทม. บางพื้นที่อาจจะมีการกำหนดห้ามวิ่ง หรือกำหนดเวลาไม่ให้แอลพีจีขนส่งช่วงกลางวันให้เหมือนกับรถขนส่งน้ำมัน ปัจจุบันขนส่งเฉพาะกลางคืน ช่วงระยะเวลา 22.00-05.00 น. เท่านั้น ปัจจุบันรถแอลพีจียังสามารถขนส่งได้ช่วงเวลา 09.00-15.00 น. และสามารถขนส่งได้อีกช่วงเวลา 21.00-05.00 น. โดยห้ามวิ่งในช่วง 05.00-09.00 น. และ 15.00-21.00 น.
ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. แสดงความเป็นห่วงเรื่องการตรึงราคาแอลพีจีว่า คงจะต้องมีการขยับราคาที่เหมาะสมสะท้อนราคาตลาดโลก เพราะหากยังตรึงต่อไปเงินกองทุนน้ำมันที่กู้ยืมเพิ่มอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท รวมเป็นประมาณ 30,000 ล้านบาท อาจจะไม่เพียงพอ
--จบ--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 02, 2012 9:40 am
โดย pak
'ปู'เปิดเดินเครื่องฮอนด้า ดึงโมเดลเกาหลีป้องท่วม
Source - มติชน (Th), Sunday, April 01, 2012
’ปู’ปธ.เปิดสายการผลิต’ฮอนด้า’กรุงเก่า ให้คำมั่นไม่ซ้ำรอยอุทกภัยปี’54 ชมสปิริตทำลายรถจมน้ำบิ๊กฮอนด้าตั้งเป้า 9 เดือนผลิต 2 แสนคัน ทุ่มพันล้านตั้ง’กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย’
’ปู’ชี้300กระทบต้นทุนน้อย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ถึงกรณีขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 300 บาท วันที่1 เมษายน ในพื้นที่ 7 จังหวัด ว่าจากการสำรวจพบว่าบริษัทใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักเพราะบางบริษัทจ่ายค่าแรงสำหรับแรงงานที่มีฝีมือมากกว่า 300 บาทอยู่แล้ว แต่ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าไปดูแลธุรกิจเอสเอ็มอี (ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะแผนพัฒนาฝีมือแรงงาน
"ยอมรับว่ายังเป็นห่วงอยู่ โดยจะรับฟังปัญหาในรายเฉพาะจุดพร้อมพูดคุย และร่วมมือนักลงทุนในการพัฒนาฝีมือแรงงานไทยในภาคส่วนต่างๆ ให้มากขึ้น ซึ่งทางประเทศญี่ปุ่นก็ส่งสัญญาณพร้อมที่จะช่วยพัฒนาฝีมือแรงงานให้เพิ่มมากขึ้นด้วย" นายกรัฐมนตรีกล่าว
วอนเห็นใจผู้มีรายได้น้อย
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้เพิ่มขึ้นมาหลายปีแล้ว ขณะที่ค่าครองชีพกลับเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น ขอให้เห็นใจผู้ใช้แรงงานที่มีรายจ่ายสูงขึ้น แต่รายรับไม่ได้เพิ่มขึ้นด้วย เพราะเมื่อคำนวณรายได้ต่อเดือนที่เพิ่มขึ้นเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ก็จะเห็นว่าไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายอะไร และในระบบบัญชีถือว่าค่าแรงเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในการประกอบการ แต่เมื่อพิจารณาภาพรวมจะเห็นว่าค่าแรงไม่ได้สูงมากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลจึงขอความกรุณาและความเห็นใจจากทั้งภาคผู้ใช้แรงงานและภาคธุรกิจ
"รัฐบาลเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือในการประคองช่วยเหลือกันในเรื่องนี้ เพราะเมื่อผู้ใช้แรงงานมีรายได้มากขึ้น จะมีเงินจับจ่ายใช้สอยสุดท้ายแล้วรายได้เหล่านั้นจะกลับมาสู่ร้านค้าบริษัท และรัฐบาล เชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหาจากฐานล่างที่มีคนส่วนใหญ่อยู่เป็นจำนวนมากให้มีรายได้ขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่จะส่งผลต่อธุรกิจทุกภาคส่วน และเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ จะได้ไม่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจต่างประเทศเพียงอย่างเดียว" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
ยันไม่ละเลยแก้ปากท้อง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงการแก้ปัญหาปากท้องประชาชนว่า ไม่ได้ละเลยปัญหา โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างประเทศก็จะฝากงานกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมด แม้หลายคนจะเกิดคำถามว่าทำไมต้องไปต่างประเทศในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ต้องยืนยันว่า การเดินทางไปต่างประเทศมีความจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์อันดี เมื่อมีความเชื่อมั่น มีการลงทุนแล้ว สุดท้ายจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนเพื่อให้แข่งขันกับต่างประเทศ ทุกครั้งที่จะไปต่างประเทศก็จะเป็นห่วงสถานการณ์ในประเทศตลอดเวลา
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันที่ 30 พฤษภาคม-1 มิถุนายน ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ซึ่งเป็นการประชุมว่าด้วยภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่กรุงเทพฯ จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะจะเป็นการส่งสัญญาณให้ต่างชาติเห็นว่าไทยพร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว โดยจัดเวทีให้นักธุรกิจทั่วโลกได้พบกับนักธุรกิจไทยและเชื่อว่าขณะนี้ไทยอยู่ในฐานะที่ทุกประเทศให้ความสนใจลงทุน เพราะได้รับการตอบรับที่ดีและแสดงความพอใจแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ซึ่งจะมีระบบติดตามการตอบรับของต่างประเทศที่เข้ามาติดต่อการค้าการลงทุนกับไทย
ชี้’ประกันภัยพิบัติ’เสริมมั่นใจ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติว่าตั้งขึ้นมาภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกับกองทุนประกันภัยทุกประเภท ถือเป็นความจำเป็นในการสร้างความเชื่อมั่น เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งรุนแรงจนบริษัทเอกชนบ่นว่าหาบริษัทประกันเกี่ยวกับภัยพิบัติยาก บางครั้งก็มีการเพิ่มเบี้ยประกันภัยสูงขึ้น
"รัฐบาลจึงร่วมมือกับบริษัทประกันภัยทุกประเภท สร้างระบบการประกันภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และได้ตั้งกองทุนประกันภัยนี้ขึ้นมาในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท รับประกันร่วมกับบริษัทประกันภัยทั้งหมดเพื่อช่วยกันประคับประคองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทุกภาคส่วน รวมไปถึงช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงประกันภัยในราคาที่ถูกลง" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว และว่า ในช่วงที่เดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ก็ได้คุยกับภาคส่วนต่างๆว่า ขณะนี้ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนมีทางเลือก 2 ทาง คือ เลือกใช้ระบบประกันที่ทำร่วมกับรัฐบาล หรือเข้าประกันตรงกับบริษัทประกันภัย
ใช้โมเดลโสมช่วยแก้ท่วม
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การเดินทางเยือนเกาหลีใต้ ก็ได้หารือแลกเปลี่ยนระบบบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากไทยและเกาหลีใต้ประสบภัยธรรมชาติคล้ายคลึงกัน ซึ่งเกาหลีใต้แก้ปัญหาโดยการใช้แม่น้ำ 4 สาย เชื่อมระบบและพัฒนาเป็นแหล่งน้ำหรือเขื่อน เป็นระบบในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเราได้เรียนรู้การพัฒนาในส่วนของเขื่อน หรือแหล่งน้ำ ที่ต้องคำนึงถึงหลักต้นน้ำกลางน้ำ ปลายน้ำ ซึ่งเป็นหลักของแรงโน้มถ่วงแล้วพยายามสร้างแหล่งน้ำในการรองรับ ซึ่งเขาไม่ได้สร้างเป็นประตูกั้นน้ำธรรมดา แต่ได้ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีสัญลักษณ์ที่ดูสวยงามขณะเดียวกัน น้ำในแหล่งน้ำสามารถนำไปใช้ในการเกษตรได้ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดี รวมทั้งมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่ใช้ในการเชื่อมข้อมูลทุกหน่วยงานเข้าด้วยกัน ทั้งการพยากรณ์อากาศการเตือนภัย รวมถึงระดับน้ำ การคาดการณ์ เพื่อให้การตัดสินใจในการเปิดปิดประตูน้ำมีระบบมากขึ้นด้วย
"เราจะนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นแบบอย่างเพื่อปรับใช้ในการรับมือกับสถานการณ์น้ำในปี 2555 โดยจะรวมศูนย์ในการบริหารให้เป็นระเบียบและเป็นเอกภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่ผ่านมา และในอนาคตจะเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ เพื่อให้การคำนวณอย่างเป็นระบบ โดยไม่ต้องใช้การคำนวณจากคนเป็นจำนวนมาก" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
’ปู’ปธ.เปิดฮอนด้าโรจนะ
วันเดียวกัน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะจ.พระนครศรีอยุธยา หลังประสบอุทกภัยต้องหยุดการผลิตไปตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2554 โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกอบด้วย นายทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด นายฮิโรชิโคบายาชิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)จำกัด และนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานจอดของบริษัทจากนั้น นั่งรถเก๋ง ฮอนด้า สีขาว รุ่นโอดิสซี่ ป้ายแดง ทะเบียน ง 1152 กรุงเทพมหานคร เข้ามายังบริเวณโรงงาน โดยกลุ่มพนักงานโรงงานฮอนด้าและผู้เข้าร่วมงาน ต่างเฝ้าจับตาดูพร้อมจดหมายเลขทะเบียน เพื่อนำไปเสี่ยงโชคเนื่องจากใกล้วันหวยออก
ให้คำมั่นฮอนด้าไม่ซ้ำรอยปี’54
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวในพิธีเปิดว่า หากย้อนนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 จะจำได้ว่าโรงงานแห่งนี้เพิ่งถูกน้ำท่วมสูงมาก แม้จะระดมสรรพกำลังเข้ามาช่วยเหลือ แต่ไม่อาจช่วยได้ เพราะมวลน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณมากแต่อย่างไรก็ตามทางฮอนด้ากลับเลือกที่จะทำลายรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมทิ้งทั้งหมด ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่ตนรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่ง แต่รู้สึกภูมิใจที่ฮอนด้าได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าขอบคุณฮอนด้าที่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และยังให้ความเชื่อมั่นแก่ประเทศไทย
"รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ในปีนี้จะออกมาตรการมาปกป้องและแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดการบูรณาการอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดภาพดั่งที่เคยเกิดมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมาอีก" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว และว่า มีโอกาสเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่ตนรู้สึกดีใจและขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเต็มที่เพื่อให้การฟื้นฟูกลับมาโดยเร็วที่สุด
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงนามเป็นภาษาอังกฤษ บนฝากระโปรงรถเก๋งฮอนด้าที่นั่งเข้ามาในงานและรับมอบใบพันธสัญญาเพื่อสังคมไทยของฮอนด้าจากผู้บริหารบริษัทฮอนด้าด้วย
9เดือนตั้งเป้าผลิต2แสนคัน
ด้านนายฮิโรชิกล่าวก่อนทำพิธีเปิดสายการผลิตว่า ฮอนด้าประสบอุทกภัยกว่า 6 เดือนใช้เวลาฟื้นฟู 3 เดือน และสามารถกลับมาผลิตได้อย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มีนาคม ซึ่งการกลับมาเดินเครื่องผลิตครั้งนี้จะเป็นสัญญาณตอกย้ำถึงความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของธุรกิจฮอนด้าในประเทศไทย เพราะฮอนด้าเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้ดีขึ้นในอนาคต ช่วงตลอด 9 เดือนที่เหลือของปีนี้ฮอนด้าตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ 200,000 คัน แบ่งเป็นการส่งออกประมาณ 70,000 คัน กระจายใน 6 รุ่น โดยฮอนด้ายังมีแผนหาผู้ผลิตชิ้นส่วนที่กระจายในพื้นที่อื่นๆ ที่น้ำไม่ท่วม เพราะต้องการกระจายความเสี่ยงด้านการผลิต
ทุ่มพันล้าน’กองทุนเคียงข้างไทย’
นายฮิโรชิกล่าวว่า ฮอนด้าได้ประกาศจัดตั้ง"กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย" ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องความช่วยเหลือกรณีประเทศไทยเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกที่ดำเนินโครงการนี้ ตั้งวงเงินกองทุนสูงสุดไว้ที่ 1,000 ล้านบาท คาดว่าภายในปีนี้จะมีเงินสะสมเข้ากองทุนประมาณ300 ล้านบาท แนวทางการสะสมเงินจะใช้วิธีหักเงิน 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์ 1 คัน หักเงิน100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์ 1 คันและหักเงิน 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 1 เครื่อง
นายฮิโรชิกล่าวถึงนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2555 ว่าบริษัทพร้อมทำตามกฎหมายของรัฐบาลไทย
ย้ำไม่ย้ายฐานหนีไทย
นายพิทักษ์กล่าวว่า โรงงานผลิตรถยนต์ของฮอนด้าในไทยมีแห่งเดียว คือเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ มีกำลังผลิตรวม 240,000 คันต่อปี จากปัญหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่ผ่านมาทำให้ฮอนด้าไม่สามารถผลิตได้ แต่ความต้องการของลูกค้ายังมีอยู่มาก โดยมีรถยนต์ที่รอส่งมอบมากถึง 60,000 คัน ดังนั้น ภายในเดือนเมษายนนี้จะเริ่มผลิตรถออกสู่ตลาดและจะใช้เวลา 3 เดือน ส่งมอบรถทั้งหมดให้กับลูกค้าเพราะแผนการผลิตที่วางไว้จากนี้คือ ทำการผลิตทั้ง 2 โรงงาน โรงงานละ 2 กะ ซึ่ง 1 กะจะอยู่ที่ 8 ชั่วโมง ทำให้มียอดผลิตต่อวันอยู่ที่ 1,000 คัน
นายพิทักษ์กล่าวถึงแผนขยายการลงทุนของฮอนด้าว่า ยืนยันว่าฮอนด้าไม่ย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยแน่นอน เมื่อถามว่า ปัจจุบันฮอนด้ามีความมั่นใจเกี่ยวกับแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลมากเพียงใด นายพิทักษ์กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นในอนาคตได้ แต่บริษัทมีแผนลดความเสี่ยงปัญหาน้ำท่วม โดยขยายฐานผลิตไปยังพื้นที่อื่นของไทย เช่น ภาคตะวันออกเผื่อไว้ในกรณีที่รัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ตามแผน
ปตท.ชี้300บ.กระทบต้นทุน
นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)กล่าวถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาทตามนโยบายของรัฐบาลที่จะประกาศใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ว่า ปตท.ได้ทยอยปรับขึ้นค่าแรงเด็กปั๊มเป็น 300 บาทต่อวัน ไปก่อนหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าวจะส่งผลให้ต้นทุนธุรกิจน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอีก 12-13 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ต้องหารายได้จากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมถึงจะสนับสนุนให้ผู้ใช้บริการหันมาเติมน้ำมันด้วยตัวเอง โดยลดราคาให้ 30 สตางค์ต่อลิตรจากอัตราปกติ เพื่อลดภาระต้นทุนทำธุรกิจ ทั้งนี้ กำลังพิจารณาจะเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันแบบบริการตัวเองเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีเปิดบริการแล้ว 4 แห่ง
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบางจากได้ปรับขึ้นค่าแรงงานเด็กปั๊มทั่วประเทศ300 บาทต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 5-7 สตางค์ต่อลิตร บริษัทจึงพยายามหาธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันมาเสริมรายได้ให้มากขึ้น โดยวางแผนจะขยายร้านกาแฟอินทนิลศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและล้างรถ และร้านสะดวกซื้อใบจากให้มากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 04, 2012 11:23 am
โดย pak
พลังงานทุบสูตรโครงสร้างเอ็นจีวี ยกแรก5เม.ย.ชงเลือก3ทางเชียร์ลดต้นทุนผสมCo2
Source - ประชาชาติธุรกิจ (Th), Wednesday, April 04, 2012
ลั่นแผนปรับโครงสร้างพลังงาน ยกแรกได้ข้อสรุปแน่ 5 เม.ย.นี้ สูตรลดต้นทุน เนื้อก๊าซ นำร่องผสมคาร์บอนไดออกไซต์ใน "เอ็นจีวี" ส่วนการใช้ยังฟุ่มเฟือยเหมือนเดิม เดือน ก.พ.พุ่งถึง 7.7 ล้านกิโลกรัม และแนวโน้มรัฐบาลอาจอุ้มต่อ เพื่อลดราคาสินค้า ค่าขนส่ง ขึ้นฉับพลัน
นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการร่วมประชุมคณะกรรมการศึกษาต้นทุนก๊าซธรรมชาติ (NGV) ครั้งที่ 2 ความข้อสรุปจากการหารือกันเบื้องต้น คือเรื่องราคาเนื้อก๊าซ เปรียบเทียบระหว่างอ่าวไทย ราคา 7 บาท กับแหล่งพม่า 13 บาท สาเหตุ ที่ราคาสูงกว่า เพราะพม่าต้องนำเข้าจาก ต่างประเทศ อีกทั้งต้นทุนการขนส่งสูง ราคาเฉลี่ยจึงอยู่ที่ 8 บาท ไม่รวมก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แตกต่างจากราคาก๊าซของไทยผูกอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทกับเหรียญสหรัฐ จึงเปลี่ยนแปลงไม่มาก
ส่วนราคาในมาเลเซียจำหน่ายถูกกว่าไทยมากแบบครึ่งต่อครึ่งนั้น เนื่องจากได้รับการอุดหนุนราคาก๊าซเอ็นจีวีจากหน่วยงานรัฐบาลประมาณ 70% ของราคาจำหน่าย เป็นเงินรายได้ที่มาจากการส่งออกน้ำมันของประเทศ ซึ่งมาเลเซียเตรียมวางแผนยกเลิกการอุดหนุนในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
"ที่ประชุมเสนอให้ผสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สัดส่วนไม่เกิน 20% ลงไปในก๊าซเอ็นจีวี เพื่อลดต้นทุนเนื้อก๊าซเพราะถ้าเพิ่มสัดส่วนเข้าไปมากกว่านั้นจะทำให้เครื่องยนต์ไม่ทำงานจากปัจจุบัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ผสมอยู่ 12-18% ของสัดส่วนการผลิตก๊าซ"
นายบัณฑิตกล่าวว่า ได้หารือกันอีก 2-3 เรื่องได้แก่ 1.ต้นทุนท่อขนส่งก๊าซ 2.ค่าดำเนินการและสร้างสถานีแม่-สถานีลูกมาพิจารณา ซึ่งสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยระบุถึงค่าท่อขนส่งก๊าซขณะนี้อยู่ที่ 70 สตางค์ ค่าดำเนินการอีก 5.56 บาท 3.จะพิจารณาถึงวิธีการปรับลดค่าดำเนินการอีกครั้ง เพราะยังมีความแตกต่างเรื่องนี้ระหว่างบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีต้นทุนสูงที่สุด หรือ ปตท.จ้างเอกชน และเอกชนดำเนินการเอง
ทั้งนี้ ช่วงต้นเดือนเมษายนนี้เตรียมจัดสัมมนาราคาก๊าซเอ็นจีวี เพื่อรับฟังความเห็นจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับพลังงน จากนั้นจะสรุปทุกอย่างให้แล้วเสร็จในวันที่ 5 เมษายนนี้
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวทางที่กระทรวงพลังงานเร่งปรับโครงสร้างก๊าซหุงต้มและเอ็นจีวีเป็นวิธีทำที่ถูกทาง เพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกรณีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเคยต้องแบกภาระหนี้จากการอุดหนุนราคามาแล้ว มูลค่าเกือบแสนล้านบาท อีกทั้งคนไทยเองกลับได้ใช้ก๊าซแอลพีจีราคาถูก คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
กรมธุรกิจพลังงานรายงานสถิติการใช้ก๊าซเอ็นจีวีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเฉลี่ย 7.7 ล้าน กก./วัน เพิ่มขึ้น 4% ในราคาขายปลีก 10 บาท/กก.
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังจากที่นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีนโยบายให้เร่งสรุปแผนปรับโครงสร้างพลังงานใหม่ โดยให้สะท้อนต้นทุน ที่แท้จริง และผ่อนคลายให้ใกล้เคียงกับกลไกราคาตลาดมากที่สุด แต่อุปสรรคสำคัญคือรัฐบาลเกือบทุกยุคมุ่งเน้นใช้ราคาพลังงานสร้างกระแสประชานิยมติดต่อกันมานานจนเป็นเหตุให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องแบกภาระหนี้ อีกทั้งยังต้องกู้เงินสำรองเพิ่มตลอดปีนี้เต็มเพดาน 30,000 ล้านบาท
แนวโน้มหากยังไม่สามารถปรับราคาตามจริงได้ภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า เงินที่เตรียมไว้อาจจะไม่เพียงพอ แต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จำเป็นจะต้องทำเพื่อแลกกับเรื่องปากท้องความเป็นอยู่ของผู้บริโภคที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากราคาอาหารอุปโภคบริโภค ค่าครองชีพ การขนส่งสูงขึ้นแบบฉับพลัน หลังจากน้ำมันในตลาดโลกผันผวนสะวิงไปมาที่ 116-125 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ถึงแม้ ผู้ผลิตและค้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกคือซาอุดีอาระเบียจะออกมาประกาศพร้อมตรึงราคาไว้ไม่ให้เกิน 116 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลก็ตาม แต่สถานการณ์ภายในก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก หากรัฐบาลยังอุดหนุน ผู้ใช้ ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคขนส่งต่อไป ทำให้การนำเข้าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นทุกเดือน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 5 - 8 เม.ย. 2555--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 04, 2012 11:24 am
โดย pak
เอกชนลุ้นยืดเวลายกเลิกเบนซิน91 สมาคมแก๊สหุงต้มสุดทนน้ำมันแพงจ่อขึ้น10บ./กก.
Source - ประชาชาติธุรกิจ (Th), Wednesday, April 04, 2012
ธพ.ซุ่มทบทวนยืดเวลายกเลิก "น้ำมันเบนซิน 91" ปลายปีนี้ หวั่นกระทบโรงกลั่น เพิ่มปรับปรุงการผลิตยูโร 4 ค่าย "เชลล์" แอ่นอกพร้อมสนองนโยบายรัฐดึงยู 91 เสียบทำยอดปีละ 1.8 พันล้านลิตร ส่วน "สมาคมแก๊สหุงต้ม" เตรียมบุกกระทรวงขอขึ้นราคาถัง 15 กก.อีก 5-10 บาท อ้างพิษดีเซล 32 บวกค่าแรง 300 บาท ดันต้นทุนพุ่ง
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลัง 2555 กำลังทบทวนนโยบายและมาตรการเดิม กรณียกเลิกจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อีกครั้งให้ชัดเจน เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่30 พฤศจิกายน 2554 มีมติให้ยกเลิก ด้วยเหตุผลจะกระทบต่อโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตน้ำมันเบนซินพื้นฐาน (G-base) หรือน้ำมันองค์ประกอบบางตัว (component) ได้เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน จนอาจต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งตลาดสิงคโปร์ยังใช้น้ำมันคุณภาพยูโร 3 ไม่ตรงกับไทยที่ใช้มาตรฐานยูโร 4 นั่นเอง
"หากจะยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 โรงกลั่นจะต้องหยุดดำเนินการ และใช้เวลาราว 3 ปี ปรับปรุงระบบการกลั่นน้ำมันจีเบส และอาจทำได้ไม่มากนัก เนื่องจากโรงกลั่นบางแห่งได้อยู่ระหว่างปรับปรุงระบบการกลั่นเพื่อผลิตน้ำมันยูโร4 ก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบกับยังมีข้อจำกัดการปรับลดค่าความดันไอและค่าอุณหภูมิของการผลิตเบนซินมาเป็นเบนซินพื้นฐาน"
นายวีระพลกล่าวว่า กรณีการนำเข้าน้ำมันจีเบสเพื่อมาผลิตแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยเดือนละ30-70 ล้านลิตรนั้น มีค่าใช้จ่ายสูง เพราะผู้ประกอบการในไทยยังไม่มีท่าเรือรองรับการนำเข้าน้ำมันจีเบส คงมีเพียง 2 ค่ายที่ทำได้คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และหากจะต้องปฏิบัติตามมาตรการตามเดิมคือยกเลิกใช้เบนซิน 91 ก็ทำได้ทันที ยกเว้นแต่จะเปลี่ยนแปลงตามขั้นตอนจำเป็นต้องนำเสนอเข้า กพช.อีกครั้ง
ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล และพูดคุยกับผู้ประกอบการว่าจะสามารถผลิตน้ำมันจีเบสได้หรือไม่ เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงพลังงาน ในปัจจุบันมีการจำหน่ายน้ำมันกลุ่มเบนซินเฉลี่ยวันละ 10 ล้านลิตร น้ำมันดีเซล วันละ 8 ล้านลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์วันละ 10 ล้านลิตร
นางพิศวรรณ อัชนะพรกุล ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีก กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงมาตรการยกเลิกเบนซิน 91 ก็พร้อมจะสนองนโยบายรัฐบาลทันที หากวันที่ 1 ตุลาคมนี้ประกาศให้ผู้ค้าน้ำมันหยุดจำหน่ายก็พร้อมหยุด และอาจศึกษาไลน์ผลิตใหม่ เพราะเชลล์มีกลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะซื้ออยู่แล้ว
ทั้งนี้ น้ำมันเบนซินของเชลล์ หรือยู 91 ได้ถูกนำกลับมาจำหน่ายเมื่อสิงหาคม2554 จนถึงปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ยปีละ 1,800 ล้านลิตร เพื่อตั้งรับมาตรการของรัฐบาลไทย ซึ่งเดิม กพช.มีมติเมื่อปีที่ผ่านมาให้ยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 91 ภายในตุลาคม 2555
ด้านนายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซหุงต้ม) กล่าวว่า เตรียมยื่นหนังสือกับกระทรวงพลังงาน เสนอปรับขึ้นราคา ค่าขนส่งก๊าซหุงต้ม 5-10 บาท กับแก๊สขนาดถังละ 15 กิโลกรัม เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นเกินลิตรละ 32 บาท จากเดิมคำนวณราคาตั้งรับดีเซล ไว้ที่ลิตรละ 25-30 บาท อีกทั้งยังเจอค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาท ทำให้ต้นทุนธุรกิจแก๊สเพิ่มขึ้นวันละ 30 บาท/คน และภายในวันที่ 15 เมษายนนี้ ทางสมาคมจะเปิดรับฟังความคิดเห็นของสมาชิก 1,700 คนอีกครั้ง
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 5 - 8 เม.ย. 2555--
Re: แนวโน้ม ราคา LPG ใช้ในรถ เป็นอย่างไรคับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 11, 2012 5:25 pm
โดย pak
พลังงานยันตรึงราคาชั่วคราวแอลพีจีขนส่ง-เอ็นจีวี3เดือน กลางปีเสนอเก็บใหม่สะท้อน
แหล่งข่าว : กรุงเทพธุรกิจ, วันที่ : 11/05/2012