การ realize profit เป็นศิลป์ไม่ด้อยกว่าการเลือกหุ้นdr.momo เขียน:ขอบคุณพี่ๆ ทั้งหลายอีกครั้งครับ
สาเหตุที่ผมถามคำถาม เนื่องจากผมมีความคิดดังนี้ครับ
ในความคิดของผม ผมว่าคนเราทุกคนมีอารมณ์ทั้งสิ้น ซึ่งเราก็รู้อยู่ว่า การลงทุนนั้น
การใช้อารมณ์จะนำมาสู่การตัดสินใจผิดพลาด (อันนี้เรื่องอื่นๆ ก็คงเหมือนกัน)
วิธีการที่ทำให้เราสามารถลดไม่ให้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องได้มากที่สุด
ก็คือการนำระบบเข้ามาใช้ เช่นการคำนวณมูลค่าจาก รายได้/กำไรของบริษัท
(ทั้งในอดีตและอนาคต) หรือวิธีการอื่นๆ เพื่อที่เราจะได้กระทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็น
ขั้นตอนและลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาด
ปัญหามันอยู่ตรงที่ บางครั้งเราเอาอารมณ์มาบิดเบือนระบบ
เช่นตอนเราซื้อเราดูอดีตของบริษัท รายได้/กำไรย้อนหลัง ดูคุณภาพ แล้วก็
ประมาณการรายได้/กำไรของบริษัทในอนาคต การเติบโตของบริษัท
ช่วงหุ้นตก ก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก เพราะตั้งใจจะลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว
แล้วก็ไม่ขายเป็นระยะเวลาหลายปี
แล้ววันหนึ่ง หุ้นที่ลงทุน เกิดมีราคาสูงขึ้นโดยสาเหตุอะไรไม่รู้ (นายตลาด/เจ้ามือ/รายใหญ่)
รวมกับข่าวต่างๆ นาๆ แล้วเราก็เกิดหวั่นไหว จนเริ่มเกิดความกลัว
กลัวว่ามูลค่าพอร์ตที่โตขึ้นมามากนั้น จะหายไป...
การตั้งคำถาม ได้อ่านคำตอบของพี่ๆ หลายคน
ซึ่งจริงๆ หลายๆข้อ ก็เคยได้อ่านจากหลายๆ ที่แล้ว
แต่ผมว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้รับคำย้ำเตือนจากพี่ๆ อีกครั้ง
ทำให้สงบขึ้น กลับมามองเหตุผลมากขึ้นครับ
นี่คือคำตอบที่ผมได้รับครับ
้ิเอาเข้าจริงอาจจะยากกว่าด้วยซ้ำไปคับ