Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

@Viscabarcelona ส่วนตัวตั้งใจว่าจะถือทั้งหมดให้ยาวถึง ม.ค.ปีหน้าคะ แล้วค่อยๆ ปรับพอร์ต ขาย SCB BGH SCCC ออก ระหว่างนี้ต่อให้มีเงินก็แข็งใจไว้อย่าเพิ่งลง (ใจจริงอยากซื้อ PTT กับ EGCO มาก) รอสะสมวิทยายุทธให้มากกว่านี้ก่อนเพราะลงทุนในหุ้นไม่เหมือนช้อปปิ้ง ยอมรับว่าครั้งที่แล้วขาดสติมาก

@imerlot
งั้นเรียนถามเป็น Case study เลยนะคะ คิดยังไงกับ UPF ถ้าเราใช้แนว VI ในการตัดสินใจลงทุน
PRICE 75
P/E 7.12
P/BV 1.6
D/E 0.47
DPS 15
EPS 10.53
ROA% 20.39
ROE% 21.51
NPM% 5.83
Yield% 20
LYD% 17.96

@Viscabarcelona ส่วนตัวตั้งใจว่าจะถือทั้งหมดให้ยาวถึง ม.ค.ปีหน้าคะ แล้วค่อยๆ ปรับพอร์ต ขาย SCB BGH SCCC ออก ระหว่างนี้ต่อให้มีเงินก็แข็งใจไว้อย่าเพิ่งลง (ใจจริงอยากซื้อ PTT กับ EGCO มาก) รอสะสมวิทยายุทธให้มากกว่านี้ก่อนเพราะลงทุนในหุ้นไม่เหมือนช้อปปิ้ง ยอมรับว่าครั้งที่แล้วขาดสติมาก

@imerlot
งั้นเรียนถามเป็น Case study เลยนะคะ คิดยังไงกับ UPF ถ้าเราใช้แนว VI ในการตัดสินใจลงทุน
PRICE 75
P/E 7.12
P/BV 1.6
D/E 0.47
DPS 15
EPS 10.53
ROA% 20.39
ROE% 21.51
NPM% 5.83
Yield% 20
LYD% 17.96
@Viscabarcelona ส่วนตัวตั้งใจว่าจะถือทั้งหมดให้ยาวถึง ม.ค.ปีหน้าคะ แล้วค่อยๆ ปรับพอร์ต ขาย SCB BGH SCCC ออก ระหว่างนี้ต่อให้มีเงินก็แข็งใจไว้อย่าเพิ่งลง (ใจจริงอยากซื้อ PTT กับ EGCO มาก) รอสะสมวิทยายุทธให้มากกว่านี้ก่อนเพราะลงทุนในหุ้นไม่เหมือนช้อปปิ้ง ยอมรับว่าครั้งที่แล้วขาดสติมาก

@imerlot
งั้นเรียนถามเป็น Case study เลยนะคะ คิดยังไงกับ UPF ถ้าเราใช้แนว VI ในการตัดสินใจลงทุน
PRICE 75
P/E 7.12
P/BV 1.6
D/E 0.47
DPS 15
EPS 10.53
ROA% 20.39
ROE% 21.51
NPM% 5.83
Yield% 20
LYD% 17.96

UPF ต้องไปดูรายได้ในงบการเงินก่อนนะครับ ว่ารายได้มาจากรายได้ปกติเท่าไร มาจากรายได้พิเศษเท่าไร วัตถุดิบที่สำคัญสำหรับ UPF คือ ยางพาราครับ มีผลอยางมากต่อ INV. ที่จะบันทึกเป็นกำไรหรือขาดทุน

UPF อย่าลืมดูตรงรายได้อื่นๆ เทียบกับกำไรสุทธินะครับ
และลองสมมติว่าไม่มีรายได้อื่นๆ

http://www.set.or.th/set/companyhighlig ... country=TH

สังเกตตรง รายได้อื่นๆ และกำไรสุทธิด้วยนะครับ
รายได้อื่นๆส่วนใหญ่เป็นรายได้ที่ไม่ประจำนะครับ คือไม่ใช่รายได้ปกติของกิจการ

{ข้อควร ระวัง}
{ครูสอนว่ายน้ำไม่อาจ ว่ายแทนนักเรียนได้ ถ้่ายังว่่าย ไม่ แข็ง อย่าเพิ่ง กระโจน ออกทะเลลึก...ส่วน อจ.ใหญ่ คือ ดร.นิเวศ, อจ.ปู่ แกรมแฮม(Intelligent Investor), buffetผู้ใจบุญไม่หวงวิชา...}

CASE STUDY- UPF (ความเห็นส่วนตัว - อาจไม่ถูก พึงระวัง)
1. ไม่ผ่านเกณฑ์ ข้อที่ 1 คือ Size เล็ก เกินไป Port ของมือใหม่ อย่างเพิ่ง ซื้อ หุ้น บ. ที่มี กำไร น้อยกว่า 500ล้าน หรือ MkT Cap น้อย กว่า 5000ล้าน ถ้าให้ ปล่อดภัย ควร ซื้อ เฉพาะ ที่ติด SET100 ไปก่อน
SET100
http://marketdata.set.or.th/mkt/sectorq ... country=TH

2. วิเคราะห์ต่อ เป็นความรู้
ดร. นิเวศน์ ท่าน เคย สอนไว้ ให้ หา บริษัทที่ กำไร สมำ่เสมอ
ไม่ใช่ขึ้นๆลง
จะเห็นว่า กำไร 50 51 52 =
17, 18, 114
แต่พอ 3Q/53 เหลือ 40.6
ถ้าคูณ บรรยัดไตรยางค์ ไม่เอา season มาคิด คือยังไม่เจาะลึก
40.6x(12/9)=กำไรทั้งปี น่าจะได้ 54.13
ซึ่งเทียบกับ ปีก่อน 144 เท่ากับลดลง
-52%
---
เสร็จแล้วไปหน้านี้
ไป check ตอนประกาศงน Q3/53 เขาชี้แจงว่าไง
http://www.set.or.th/set/companynews.do ... country=TH

ได้ข้อมูลมาดังรูป
11 พ.ย. 2553 18:25:00 ชี้แจงผลการดำเนินงานเปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ 20 PDF
http://www.set.or.th/dat/news/201011/10039330.pdf
ก็ตรงกับที่ ท่าน อื่นให้ข้อมูล แล้ว ว่า ต้นทุนขึ้นกับยาง
3. ก็ต้องถามตัวเองว่า เรารู้เรื่องยางไหม ราคายาง ปี2553นี้ ขึ้น จาก ก.ย 110 ไปถึงปัจจจุบันสูงกว่า 170 เพราะเมืองจีน อะไร แบบนี้ เราตามทัน ไหม เข้าใจ ไหม ถ้า เข้า ใจ ก็ ดูต่อ
ถ้าไม่เข้าใจ ก็ตัดออก
เพราะbuffet บอกว่า จะซื้อเฉพาัะธุรกิจที่เขาพอรู้เรื่องเท่านั้น
...

ดูต่อ
ส่วน
กำไรต่อหุ้น (บาท) 2.28, 2.46, 15.27, 5.39
งวดงบการเงิน 50 51 52 Q3/53

http://www.set.or.th/set/companyrights. ... country=TH
29 มี.ค. 2553 XD วันปิดสมุดทะเบียน 01 เม.ย. 2553
วันจ่ายปันผล -
เงินปันผล(บาท/หุ้น) 15.00
รอบผลประกอบการ 01 ม.ค. 2552 - 31 ธ.ค. 2552
---
แต่ปีนี้
3Q/53 กำไร เหลือแค่ 5.39 ต่อหุ้น
เรายังไม่เจาะลึกแบบ seasonal ก็ บรรยัดไตรยางค์เลย
5.39x12/9=7.18บาท เราคำนวณคาดเดาแบบง่ายสุด
http://markets.ft.com/tearsheets/busine ... ?s=UPF:SET
ตรงPeer Analysis กด ปุ่ม view Financial Strength-จะได้ Payout Ratio (5y avg)=45.42%

เอากำไรที่คำนวณได้ 7.18x45.42%=3.26บาท
เท่ากับคาดว่าปันผลปีนี้ 3.26 จากปีที่แล้ว 15 (ยกเว้น เขาจะเอากำไรสะสม มาจ่าย แบบ ADVANC)

ราคาตลาดวันนี้ 75.0 บาท
3.26/75 = yield จะเหลือ 4.3% ไม่ใช่ 20% ที่แสดงเป็นของปีก่อน
--

http://www.set.or.th/set/factsheet.do?s ... country=TH

ส่วนวิธี คำนวณ PE
ลองทำแบบฝึกหัดตามlink
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=20&t=46289

เพราะตัวหารมัน เป็น 4Q moving ..

1. เลือกจาก set100 ก่อน
2. ดูว่า บริษัม เราเข้าใจ หรือไม่
3. บริษัทโดดเด่นหรือไม่ Marketshare DCA DemandTrend โครงการอนาคต Netprofit Marginดีขึ้น
4. กำไร สมำ่เสมอ และเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 10% ใน 3ปี
5. ราคาไม่แพงเกินไป

รวทถึง search google เพิ่มเติม แบบนี้
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 86439.html

เสร็จต้องเข้าไปดู บริษัทให้รู้จริง ว่า เขาทำอะไร
ผลิตภัณฑ์
--------------------------------------------------------------------------------
เส้นยางยืดและแถบยางยืด สายยางยืดถัก สายยางยืดทอ เข็มขัดพยุงหลัง

http://www.unionpioneer.co.th/code/product_t1.html


และ
อ่าน
annual report เพื่อให้เห็น ภาพใหญ่ๆ ของ บริษัท และ เป็นการ ยืนยัน ข้อมูลอีกครั้ง
http://www.unionpioneer.co.th/code/Annual-2004t.html

ที่สำคัญ
อย่าใกล้เกลือกินด่าง
คือแวะไปอ่น ห้องร้อยคนร้อยหุ้นดู ว่า ล่าสุดอย่างไรบ้าง
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... f&start=90

เสร็จแล้วเราก็มาตอบ คำถามให้ ตัวเอง ใน คำถามภาพใหญ่ๆ

1. หุ้น ตัวนี้ อยู่ใน อุตสาหกรรม อะไร? อุตสาหกรรมนี้ เป็นดาวรุ่ง หรือ ดาวร่วง? ถ้าส่งออก ประเทศไทยมีความได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไร มีคู่แข่งในตลาดโลกที่น่ากลัว ไหม อย่างเช่น จีน?
2. บริษัท มีข้อได้เปรียบ Knowhow Market Share Brand Francise คุณภาพ อะไร หรือไม่ สินค้าทดแทนหาง่ายหรือไม่
3. กำไรและยอดขายของ บริษัทจะสามารถเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างสมำ่เสมอ หรือไม่
4. บริษัทสามารถ ปันผลเพิ่มขึ้นทุกๆปี อย่าง สมำ่เสมอ หรือไม่
5. มูลค่าหุ้นตาม บัญชี หรือส่วนของ ผู้ถือหุ้น จะเพิ่มขึ้น ทุกๆปี อย่างสมำ่เสมอหรือไม่
6. บริษัทกำลัง มีสินค้าใหม่ กำลังผลิตใหม่ brand ใหม่ ออกตลาด หรือไม่ ซึ่งต้องลงทุนมากหรือน้อย ทำให้บริษัทต้องก่อหนี้เพิ่มหรือไม่ หนี้บริษัทต่อส่วนผู้ถือหุ้น หรืกำไร มากเกินไปหรือไม่
8. หรือ ถ้าตลาดหุ้นปิดทำการ 5 ปี เราจะถือหุ้น ตัวนี้ อย่างสบายใจหรือไม่ เพราะว่าผลประกอบการยังไง ก็ดีขึ้นอยู่แล้ว
9. ถ้า เราซื้อตอน นี้ ราคาตลาด 75 บาท ได้ ผลตอบแทน เป็นกำไร 7.18 ต่อปี(9.5%) และปันผลที่เราคำนวณไว้ สมมติ (3.26บาท/75=4.34%) เราพอใจหรือไม่
10. ข้อบ่งชี้ที่ว่า ราคายางเป็นต้น ทุนสูง เป็นเหตุให้กำไรน้อยลงนั้น เป็นสถานการณ์ ชั่วคราว เพราะน้ำท่วม หรือ สถานการณ์ถาวรแบบแนวโน้มใหญ่ ของสภาวะโลกร้อน (ตอนนี้แม้นแต่ มะพร้าวยัวต้องนำเข้า และราคาสูงข้นมาก)
และหากสถานะการณ์เป็นแบบ ถาวร บริษัทสามารถขึ้นราคาสินค้าได้หรือไม่
...

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... &hilit=UPF

ขอกล่าวถึงหุ้นแบบก้นบุหรี่ก่อน คือ UPF และ BCP

UPF ผมเข้าถือในช่วงเดือนธค 52 ด้วยต้นทุนที่ 60 บาท สถานการณ์ ณ ขณะนั้นคือบริษัทมีกำไรสามไตรมา สที่ 10 บาท ซึ่งกำไรที่เยอะขึ้นเป็นผลจากการที่ราคายาง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักตกต่ำลง ผมคำนวณ eps ทั้งปีไว้ที่ประมาณ 12 บาท และคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลที่ 11 บาท ซึ่งถ้าคิดมูลค่าเหมาะสมจาก yield model ที่ 10% ตัว upf ควรจะได้เทรดที่ประมาณ 100 110 บาท

ปรากฏ ว่าบริษัททำผลงานดีกว่าที่ คาด จากการที่ขยายลูกค้าไปยังประเทศ ในกลุ่มยุโรป ทำให้ eps รวมทั้งปีได้ 15 บาท และบริษัทก้จ่ายปันผลออกมาที่ 14 บาท.... ราคาพุ่งขึ้นตามปันผลไปถึง 130 บาท ผมตัดสินใจขายออกไปที่ช่วง 120 บาทต้นๆ เป็นหุ้นหนึ่งเด้งตัวที่ 3 ในชีวิตการลงทุนของผม

ยิ่งมีข้อมูลมากยิ่งดี..

ไปขุดมุนมองมาให้

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... tart=2160

ซื้อเพื่อปันผล งั้นหุ้นปันผลควรจะมีลักษณะแบบไหน

คำตอบน่าจะมีในใจอยู่แล้วใช่มั้ยครับ

อึ้ง

Thank you a hundred times..really appreciate for everything that u've done 4 me.
You're the greatest teacher.

ลองเข้าไปดูนะคะ เผื่อมีตัวที่น่าสนใจค่ะ
http://www.stockintrend.com/
เพราะดูของที่นี่อยู่เหมือนกัน เค้าบอกให้ซื้อก็ซื้อ บอกให้ขายก็ขาย แต่เลือกเฉพาะตัวที่เราชอบอ่ะ ก็ได้กำไรมานิดหน่อย เพราะมีทุนไม่มากค่ะ

punna เขียน:ลองเข้าไปดูนะคะ เผื่อมีตัวที่น่าสนใจค่ะ
http://www.stockintrend.com/
เพราะดูของที่นี่อยู่เหมือนกัน เค้าบอกให้ซื้อก็ซื้อ บอกให้ขายก็ขาย แต่เลือกเฉพาะตัวที่เราชอบอ่ะ ก็ได้กำไรมานิดหน่อย เพราะมีทุนไม่มากค่ะ

กรรม
ศึกษาธุรกิจ-ผบห. คิดวิเคราะห์ด้วยตนเองให้ดี แล้วเปรียบเทียบกับราคาตลาด
ก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ

ช่วยให้คำแนะนำสำหรับมือใหม่ครับ
เวลาเลือกหุ้นควรรู้ว่า หุ้นนั้นจัดอยู่ในประเภทใด เช่น เป็นหุ้นเติบโตสูง
หรือเป็นหุ้น turn around หรือเป็นหุ้นแข็งแกร่ง เป็นต้น เพราะหุ้นแต่ละกลุ่ม
จะมีจังหวะในการซื้อและขาย แตกต่างกันอย่างมาก เช่น หุ้นที่จะ turn around
เราจะหาจังหวะซื้อเมื่อ ค่าพีอีสูงมาก ๆ เพราะกำไรยังน้อยอยู่ (ต่อไปค่าพีอีจะ
ค่อย ๆ ลดลงในแต่ละไตรมาสเมื่อประกาศผลการดำเนินงานว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น)
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาด้วย ได้แก่ หนี้สิน ต้องมั่นใจว่าไม่มากจนเกินไปโดย
เฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ย, ผู้บริหาร, อยู่ในธุรกิจที่เป็น แนวโน้มใหญ่ เป็นต้น

ยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริงของผมแล้วกัน ปีก่อนผมเลือกลงทุนในหุ้น jas
singer, tru, jubile, snc, cpall, htech........

โดยยึด กฎ สองข้อต่อไปนี้ไว้เสมอ คือ
ข้อหนึ่ง อย่าขาดทุน
ข้อสอง อย่าลืม ข้อที่หนึ่ง

พอเท่านี้ก่อนนะครับ อ้อ ลืมบอกไปว่า ความรู้ในการลงทุนส่วนใหญ่ก็ได้มาจาก
ดร.นิเวศน์ และตำราการลงทุนในแนวvi นี่แหละครับ (เมื่อใดคุณมั่นใจเต็มที่
คุณอาจจะลงทุนในหุ้น ร้อยเปอร์เซ็นต์ เหมือนผมครับ )

ถือไปก่อน อ่านหนังสือให้เยอะๆ หุ้นที่คุณซื้อมันอยู่มาหลายสิบปีแล้ว ไม่เจ๊งหรอก มีปันผลด้วย ได้ปันผลมาหุ้นตกก็ดีจะได้ซื้อถูก หรือเอาไปซื้อตัวอื่นก็ได้ ทำแบบนี้วนไปวนมาซักสิบปีไม่กำไรให้เตะ

อย่างที่หลายๆท่านบอกครับ อ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านครับ ทางเดียวเท่านั้น

แนะนำว่าอ่านหนังสือก่อน ค่อยมาอ่านในนี้ครับ ในหนังสือเค้าแบ่งหมวดหมู่มาให้แล้ว แต่ในนี้ค่อนข้างกระจัดกระจายนิดนึง

หนังสือการลงทุนดีๆหาในห้องร้อยคนร้อยเล่มเลยครับ หนังสือแปลดีๆเพียบ

bgh ทุน 34 (คนเราอายุยืนมากขึ้น)
bts ทุน 0.79 (เจ้าใหญ่ในเรื่องรถไฟฟ้า) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
dtac ทุน 41.5 (รับปันผล) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
hmpro ทุน 8.85 (บ้านเก่า+บ้านใหม่ ได้ทั้งคู่) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
lanna ทุน 18.6 (ราคาถ่านหินขาขึ้น)
tcap ทุน 34.8 (PE ต่ำ และมีแหล่งรายได้เพิ่มจาก scib) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
tuf ทุน 50.8 (ตลาดกว้างมากขึ้นหลังซื้อกิจการ) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
tvo ทุน 21.7 (ของจำเป็นในครัวเรือน)
ลองแลกเปลี่ยนความเห็นได้ครับ

punna เขียน:ลองเข้าไปดูนะคะ เผื่อมีตัวที่น่าสนใจค่ะ
http://www.stockintrend.com/
เพราะดูของที่นี่อยู่เหมือนกัน เค้าบอกให้ซื้อก็ซื้อ บอกให้ขายก็ขาย แต่เลือกเฉพาะตัวที่เราชอบอ่ะ ก็ได้กำไรมานิดหน่อย เพราะมีทุนไม่มากค่ะ

ระวังนะคะ เห็นหลายตัว แนะนำซื้อ แต่น่ากลัว

Update status
ซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่ม (เยอะมาก) รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ที่สำคัญปรับพอร์ตลดลงเยอะ โดยไม่ขาดทุนด้วย ขอบคุณทุกคนมากคะ

phanom19 เขียน:bgh ทุน 34 (คนเราอายุยืนมากขึ้น)
bts ทุน 0.79 (เจ้าใหญ่ในเรื่องรถไฟฟ้า) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
dtac ทุน 41.5 (รับปันผล) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
hmpro ทุน 8.85 (บ้านเก่า+บ้านใหม่ ได้ทั้งคู่) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
lanna ทุน 18.6 (ราคาถ่านหินขาขึ้น)
tcap ทุน 34.8 (PE ต่ำ และมีแหล่งรายได้เพิ่มจาก scib) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
tuf ทุน 50.8 (ตลาดกว้างมากขึ้นหลังซื้อกิจการ) ซื้อก่อนปรับฐาน 2011
tvo ทุน 21.7 (ของจำเป็นในครัวเรือน)
ลองแลกเปลี่ยนความเห็นได้ครับ

PTL ทุน 5.85
MCS ทุน 5.10

jo7393 เขียน:

Paul Octopus เขียน:

jo7393 เขียน:หากมองโกรทเพียงในอตีด ก็ตามรูปข้างบนใช่ครับ
แต่หากมองอนาคตโกรท กลุ่มอสังหา ไม่น่าจะไปถึง 30% นะครับ
บวก กับหากมองโกรทได้สัก 30% ที่ค่อนข้างแน่นอนไปในอนาคตข้างหน้าหลายๆปีคงต้องตัด TNDT ออกอีก
ตัวที่เหลือ ต้องดูที่ราคาครับว่าเหมาะสมที่จะซื้อไหม
อ้อ อีกตัว TNH จะมีการสร้าง เวิล์ดเมดดิเคิล (ถ้าจำไม่ผิด ชื่อ) ในอนาคตค่าเสื่อมจะเข้ามามากเร็วกว่าที่จะแย่งลูกค้าจาก BGH ไ้ด้ ดังนั้นนี่น่าจะเป็นอีกตัวที่โกรทได้ไม่ถึง30% ในอนาคตนะครับ
ปล ปมอาจคาดการณ์ผิดก็ได้นะครับ

ผมแก้ข่าวนิดหนึ่งครับ คุณ Jo.....KH สร้าง World Medical Center ที่แจ้งวัฒนะใกล้ๆ Central ครับไม่ใช่ TNH

ดังนั้น TNH ยัง จุด จุด จุด

ขอบคุณครับพี่ Paul Octopus แหะๆ เบลอไปหน่อย

ใครอยากเข้าใจTNDTมากเกินนี้ เชิญที่ห้องTNDTครับ ถ้าคร่าวๆก็ในห้องUKEM ผมโพสท์รายละเอียดTNDTไว้เล็กน้อย