Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

sptong2406 เขียน:หุ้นเติบโต ปันผลน้อย
หุ้นปันผลมาก มักไม่เติบโต

เป็นสูตรสำเร็จ เป็นความเชื่อ หรือ มีกรณียกเว้น

เติบโตสูงแล้วปันผลดี เป็นไปได้จากเหตุการณ์ระยะสั้น
เช่นกำไรพิเศษครั้งเดียว, การเปลียนmodel business, ผลกระทบวัฐจักร,

แต่ถ้า เอาเงินsupplyerมาปันผล, กู้มาปันผล ก็บรื้ออออ

ซื้อหุ้นเติบโตใน ราคาถูกหรือสมเหตุสมผล และมี MOS เยอะ ในวันนี้

วันข้างหน้ามันก็กลายเป็นหุ้นปันผลโดยอัตโนมัติเองครับ....

สามารถลงทุนได้ทั้ง 2 แบบนะครับ ขึ้นอยู่กับว่า

หากเป็น หุ้นปันผลดี ผมจะมองเฉพาะกิจการที่มีฐานะการเงินมั่นคง รายได้โตเฉลี่ยสม่ำเสมอ (ราวๆ 5-10% ต่อปี)
หุ้นพวกนี้ น่าเข้าซื้อก็ต่อเมื่อนายตลาดอยู่ในอารมณ์หดหู่ ยอมขายให้ในระดับ PE เฉลี่ยที่ต่ำกว่าระดับปกติอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งผลตอบแทนจะได้ทั้งเงินปันผลในระดับผลตอบแทนที่ดีกว่าปกติ + ส่วนต่างราคาที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อนายตลาดกลับมาอารมณ์ดีอีกคร้ัง

ส่วนหุ้นเติบโต ผมคิดว่าเป็นกิจการที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นมีคุณภาพกลางๆ แต่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง Business Model ภายในที่ส่งผลให้สามารถโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต (ซึ่งมีความเสี่ยงว่าจะทำได้หรือไม่ และหากทำได้แล้วจะสามารถรักษาความโดดเด่นนี้ต่อไปได้หรือไม่ในอนาคต) โดยผลตอบแทนจะอยู่ที่
- แบบที่ 1 ลงทุนตอนยังเป็นลูกผีลูกคน ต้องอาศัยการติดตาม+ความเชื่อมั่นในการวิเคราะห์ของตัวเองเยอะหน่อย เพราะถ้าบริษัททำได้สำเร็จ ก็หมายถึงกำไรที่เพิ่มมากขึ้น(ปันผลมากขึ้น) + ราคาหุ้นที่เลื่อนไปเทรดกันที่ PE ระดับสูงขึ้น จากการที่นายตลาดเริ่มเห็นคุณค่า
- แบบที่ 2 ปล่อยให้บริษัทพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าทำได้จริงๆและยังมั่นใจว่ายังเติบโตได้อีกในอนาคต โดยแลกกับการลงทุนที่ PE สูงขึ้นนิดหน่อย ผลตอบแทนลดลง (ให้พวกเซียนๆซื้อไปก่อนแล้วค่อยซื้อตาม :lol:)

แต่ยังไงก็ตาม ปัจจัยหลักก็อยู่ที่ว่า คุณเข้าใจในตัวธุรกิจดีขนาดไหนอยู่ดี ถึงจะสามารถเลือกกลยุทธ์ในการลงทุนที่ดีที่สุดได้ครับ

Saran เขียน:สามารถลงทุนได้ทั้ง 2 แบบนะครับ ขึ้นอยู่กับว่า

หากเป็น หุ้นปันผลดี ผมจะมองเฉพาะกิจการที่มีฐานะการเงินมั่นคง รายได้โตเฉลี่ยสม่ำเสมอ (ราวๆ 5-10% ต่อปี)
หุ้นพวกนี้ น่าเข้าซื้อก็ต่อเมื่อนายตลาดอยู่ในอารมณ์หดหู่ ยอมขายให้ในระดับ PE เฉลี่ยที่ต่ำกว่าระดับปกติอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งผลตอบแทนจะได้ทั้งเงินปันผลในระดับผลตอบแทนที่ดีกว่าปกติ + ส่วนต่างราคาที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อนายตลาดกลับมาอารมณ์ดีอีกคร้ัง

ส่วนหุ้นเติบโต ผมคิดว่าเป็นกิจการที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นมีคุณภาพกลางๆ แต่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง Business Model ภายในที่ส่งผลให้สามารถโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต (ซึ่งมีความเสี่ยงว่าจะทำได้หรือไม่ และหากทำได้แล้วจะสามารถรักษาความโดดเด่นนี้ต่อไปได้หรือไม่ในอนาคต) โดยผลตอบแทนจะอยู่ที่
- แบบที่ 1 ลงทุนตอนยังเป็นลูกผีลูกคน ต้องอาศัยการติดตาม+ความเชื่อมั่นในการวิเคราะห์ของตัวเองเยอะหน่อย เพราะถ้าบริษัททำได้สำเร็จ ก็หมายถึงกำไรที่เพิ่มมากขึ้น(ปันผลมากขึ้น) + ราคาหุ้นที่เลื่อนไปเทรดกันที่ PE ระดับสูงขึ้น จากการที่นายตลาดเริ่มเห็นคุณค่า
- แบบที่ 2 ปล่อยให้บริษัทพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าทำได้จริงๆและยังมั่นใจว่ายังเติบโตได้อีกในอนาคต โดยแลกกับการลงทุนที่ PE สูงขึ้นนิดหน่อย ผลตอบแทนลดลง (ให้พวกเซียนๆซื้อไปก่อนแล้วค่อยซื้อตาม :lol:)

แต่ยังไงก็ตาม ปัจจัยหลักก็อยู่ที่ว่า คุณเข้าใจในตัวธุรกิจดีขนาดไหนอยู่ดี ถึงจะสามารถเลือกกลยุทธ์ในการลงทุนที่ดีที่สุดได้ครับ

พี่สรัน เขียนได้ดีครับ ถ้าเข้าใจ bussiness model ก้จะเข้าใจว่า อะไรที่มีผลต่อธุรกิจครับ

ส่วนตัวชอบหุ้นที่เซียนยังไม่มองครับ ตามนิสัยของ เซียน ลิง เด็ก

ลิง 50/50 เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก เด็กไม่มี bias ในกิจการ ซื้อที่ดูแล้วดี

เด็กมักจะมองด้วยความจริงครับ อันนี้ผมเชื่อเลยที่ ดร นิเวศน์ก้มักจะถามคนรอบตัว

หากไปถามเด็กดูว่า หน้าร้อนอะไรจะขายดี เค้าก้คงตอบมาได้ถูกต้องเลยว่า

น้ำขวด น้ำอัดลม แอร์ พัดลม ซึ่งจากตรรกะนี้ เป็น FACT ครับ

บางครั้งตัวเลขหรือกิจการอาจจะ fakeได้ แต่เด็กและสตรีไม่เคยมองแบบ fake


ผมเองก้ถามลูกชายและภรรยาก่อน ว่ารู้จักสินค้าหรือบริการของหุ้นที่ผมซื้อไหม

ความรู้สึกของผลิตภัณ รวมถึงรูปลักษณะของร้าน พนักงาน รวมถึง service

ในกระทู้ BCP ผมไม่พูดเรื่องตัวเลข แต่ผมถามลูกชายและภรรยาถึงการบริการ

รวมถึงประสบการณ์จากการเคยมารับบริการ

ผมก้รู้สึกได้จริงๆๆ ว่า บริการเค้าดีขึ้นจริงๆๆ ผมไปเติมที่สาขา บางนาตราด แถว หัวเฉียว

และเติมที่สาขา บางพลี เค้าบริการดีกว่า สมัยก่อนมาก ผมยังจำลุคเขียวเชยๆๆ

พนักงานไม่ค่อยบริการ แต่วันนี้ เค้าเปลี่ยนไป

ที่ยกขึ้นมาเพราะอยากจะยกตัวอย่าง ถึงการปรับตัวของธุรกิจนะครับ สาขาอื่นผมไม่ทราบว่าดีมั๊ย แต่2สาขา นี้ ผมแวะประจำ

มันเป็น look ที่ ดูดีมีการเปลี่ยนไปในทางที่ดี รูปลักษณ์ของปั๊มก้ดูดีขึ้น

ธุรกิจบางอย่างพอ look เปลี่ยนอะไรก้ดูดีตามครับ

ถ้าผมเป็นคู่แข่งปั๊มบางจาก2สาขานี้ ผมคงหนักใจ

สินค้าที่ราคาพอๆๆกัน คุณภาพพอๆกัน บางที การบริการที่แตกต่างรวมถึงพนักงานที่ดูดี

กว่าที่อื่นน่าจะช่วยทำให้ ลูกค้าเยอะขึ้นได้ครับ

สินค้าบางอย่าง ที่เป็น local brand ผ่านไปนานๆๆเข้า บ้างร้านก้กลายเป็นร้านที่ใหญ่โต

กิจการมีทั่วโลกได้ครับ เช่น ร้าน starbuck ฮะจิบังราเมน

ถ้าถามผมว่า starbuck มีอะไรที่แตกต่างจากกาแฟร้านอื่น

ผมคงพูดได้เพียงสั้นๆๆว่า ความประทับใจในรสชาติและความเป็นเอกลักษณ์ของ lookครับ

สิ่งนี้แหล่ะครับ ที่ปีเตอร์ลินซ์ ให้คำจำกัดความ ว่า nitch

ถ้าเป็นบ้านเรา ผมก้จะนึกถึง ก๋วยเตี๋ยว ธัญรส ซึ่งมีสาขาเยอะมาก

จัดเป็น local brand ที่อยู่มานานและยังมีความโดดเด่น

การที่จะซื้อหุ้นปันผลหรือ เติบโต

ผมว่า อาจต้องมองกิจการก่อน รวมถึงสินค้าและบริการก่อน

รวมถึงถามคนที่เคยใช้ ว่า รู้สึกอย่างไรครับ

ผมไม่แปลกใจ ที่ อาจารย์ ดร นิเวศน์ จะเลือกซื้อหุ้นอย่าง cpall hmpro jmart

ผมเองก้รู้สึกได้ ถึงกิจการที่โดดเด่น บริการที่ดีกว่า สินค้ามีครบมีมากกว่า

รวมถึงบริการที่ดีกว่า

ถ้าให้คุณเลือกซื้อสินค้าที่ร้านแถวบ้านถูกกว่าแต่พูดจาไม่ดี ไม่ส่ง แถมหยิ่งไม่มองไม่คุย

กับไปเดินโฮมโปร พนักงานต้อนรับดีแนะนำดี สินค้าส่งถึงที่ ติดตั้งให้แต่แพงกว่ากันไม่มาก

คุณจะเลือกซื้อกับที่ไหน

หุ้นเติบโต ก็หวังกำไรส่วนต่างราคา 2-10เด้ง --------->แต่ต้องคิดให้ต่างกับนักวิเคราะห์ ถ้าสามารถมองวัฏจักรออกยิ่งสุดยอด
หุ้นปันผลดี ก็หวังกำไรส่วนต่างราคา 20%-40%