Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

โห พี่เด็กใหม่ไฟแรงนอนดึกจังครับตีสองครึ่งแล้วยังไม่นอน

ไม่มีอะไรครับแซวเล่น

ขออนุญาตอีกสักตัวอย่างนะครับ

อย่างพี่ Champ_sp
ที่กรุณาไปนั่งพื้นฟังสัมมนาทุกเดือน
แล้วจดรายละเอียดยิบ มา post ให้เพื่อนๆได้อ่านกันตลอด
โดยตัวเองแทบไม่มีคนรู้จัก เจอหน้ายังไม่รู้ว่าเป็นใคร
ดีไม่ดีอาจจะรู้สึกว่าไอ้คนนี้มันยังไงของมันกัน

หากวันไหน พี่ champ เกิดจดผิดไปหน่อย
หรือเราอ่านแล้วเข้าใจผิด
พี่ champ จะถูกต่อว่าหรือเปล่าครับนี่

ขออีกสักตัวอย่างนะครับ
เรื่องการตีความ ความเห็นของผู้อื่น

ผมมีเพื่อนผู้ใหญ่มีที่ดินติดคลองอยู่แถวสุพรรณ
ที่แปลงถัดไปอยากเลี้ยงกุ้ง ขอเอาท่อน้ำผ่านที่ของพี่เขา เพื่อดูดน้ำในคลองไปใส่บ่อเลี้ยงกุ้ง
เขาก็อนุญาต
เวลาผ่านไป คนเลี้ยงกุ้งทำขาดทุน
วันหนึ่งเจอเพื่อนผม ก็ต่อว่า
ว่าหากไม่อนุญาตให้เขาเอาท่อน้ำผ่านที่ดินของพี่เขา
คนเลี้ยงกุ้งก็ไม่ขาดทุน...............

ฟังแล้วก็ขำนะครับ
แต่ลึกๆแล้วน่าคิดมากครับ

ทำตามที่ตัวเองคิดและเชื่อครับแล้วก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราตัดสินใจเองด้วย
ถ้าซื้อหรือขายตามท่านคิดหรือทำก็เป็นเพราะเราเชื่อท่าน แต่จะไปโทษท่านเวลามีปัญหาก็ไม่ถูก เพราะท่านไม่ได้มาจับมือเราให้กดซื้อขายนะครับ โดยส่วนตัวก็เห็นว่าท่านให้ระมัดระวัง พอร์ตลงทุนของท่านก็มีแต่หุ้นต้นทุนต่ำๆ ผมก็มองไม่เห็นเหตุผลว่าท่านจะขายทำไม เงินปันผลเมื่อเทียบกับต้นทุนบางตัวคงมากกว่า 10% ถือไว้เฉยๆให้บริษัทโตไปเรื่อยๆ รับปันผลมาซื้อเพิ่มเวลาตลาด panic ก็คงจะทำให้พอร์ตโตไปได้เรื่อยๆแล้ว
ถ้าเรามองย้อนกลับมาหาตัวเอง รับผิดชอบทุกอย่างที่เราตัดสินใจ มองหาข้อผิดพลาด ก็จะทำให้เราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามัวแต่มองออกไปข้างนอก โทษดินฟ้าอากาศ เราก็คงไม่ไปไหน ไม่ก็โดนคนอื่นที่พัฒนามากกว่าเหยียบเราขึ้นไป

จะทำตามที่ท่าน ดร.แนะนำ และพยายามจะทำตามที่ท่าน ดร.ทำ ครับ(ไม่ว่าจะได้มากหรือน้อยก็ตาม) 55555 อื่นใดผมว่าของใครของมัน....ขอบคุณสำหรับวิทยาทานครับ ท่านเป็นสุขในการให้น่ะครับผมว่า...

ผมขอตีความจากสิ่งที่ดร.นิเวศน์ท่านบอก ซึ่งผมอาจจะตีความผิดก็ได้นะครับ ถ้าผมตีความผิดต้องขออภัยด้วย

ดร.นิเวศน์ ท่านวิเคราะห์ว่าช่วงนี้มีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงจากหลักสถิติในอดีตที่ผ่านมา เมื่อดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวขึ้นสูงอย่างรวดเร็วติดต่อกันต่อมาหุ้นจะพักตัวหรือปรับตัวลดลงบ้างเป็นเรื่องปกติ เมื่อพิจาราณาถึง PEของตลาดก็ไม่ได้ถูกแล้วหา
หุ้นที่มูลค่ายังถูกอยู่ก็แทบจะไม่เจอ แล้วยังมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อ

(บางคนอาจจะตีความว่าเมื่อมีความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นจะตก จึงคิดว่าดร.ท่านแนะนำให้ขายหุ้นซึ่งผมคิดว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ)

จากสิ่งที่ดร.นิเวศน์บอก ท่านแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่ค่อนข้างมีรายได้มั่นคง แน่นอน ปลอดภัย รายได้ไม่ผันผวน ถ้าตลาดหุ้นปรับตัวลงจริงอะไรจริง
หุ้นในลักษณะแบบนี้จะปลอดภัย เมื่อระยะเวลาผ่านไปราคาจะกลับมาสะท้อนพื้นฐานที่แท้จริงครับ ดร.ท่านบอกว่าหุ้นก็เหมือนแฟน มีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่เดี๋ยวก็ต้องกลับดีกัน แต่ถ้าเลิกกันแล้วโอกาสที่กลับมาดีกันคงยาก หุ้นตกไปบ้าง แต่สุดท้ายจะต้องกลับมาถ้าพื้นฐานยังดีอยู่ครับ

นอกเหนือจากนั้นดร.นิเวศน์ ท่านบอกอยู่เสมอว่าไม่มีใครรู้จริงว่าดัชนีตลาดจะเป็นไปในทิศทางไหนครับ

ในรายการวิทยุคุณสุนันท์ ดร.นิเวศน์ท่านบอกว่า ดัชนีตลาดปรับตัวสูงไปอีก เช่นถึง 1500จุด ดร.ท่านอาจจะพิจารณาแล้วว่าต้องขายหุ้นออกไปบ้าง เพราะถ้าดัชนีปรับตัวขึ้นแรงติดต่อกันถึง3ปี มีความเป็นไปได้สูงที่ต่อไปดัชนีจะตก และหุ้นอาจจะovervalueไปแล้ว เนื่องจากพื้นฐานวิ่งตามราคาหุ้นไม่ทันครับ

ถึงผมจะชอบเสพดร. แต่ก็ไม่ได้เปนองครักษ์อะไร
แต่อยาดให้มองit svoa แกถือ ไม่ค่อยโต แถมบางทีขาดทุนด้วย แกก็ไม่ได้ขาย
หรือสถิติแกก็มีปีติดลบนะ
มองเฉพาะที่แกทำ ก็ต้องมองลึกๆอีกนิดคับ

nut776 เขียน:แต่อยากให้มองit svoa แกถือ ไม่ค่อยโต แถมบางทีขาดทุนด้วย แกก็ไม่ได้ขาย

ดร.นิเวศน์ท่านบอกว่าพื้นฐาน it ยังดีอยู่ ส่วนว่าดียังไงผมจำไม่ได้แล้วครับ จึงเป็นเหตุที่ยังไม่ได้ขายครับ

crash เขียน:

nut776 เขียน:แต่อยากให้มองit svoa แกถือ ไม่ค่อยโต แถมบางทีขาดทุนด้วย แกก็ไม่ได้ขาย

ดร.นิเวศน์ท่านบอกว่าพื้นฐาน it ยังดีอยู่ ส่วนว่าดียังไงผมจำไม่ได้แล้วครับ จึงเป็นเหตุที่ยังไม่ได้ขายครับ

ปันผลดี กระแสเงินสดดี กำลังจะมีจำหน่าย สินค้าของ apple ในบางสาขา (ได้สิทธิมา) และร่วมทุนกับ I Studio, U Store
ครับ กลางปีถึงปลายปี แทบเลตน่าจะมาแรง IT น่าจะได้ประโยชน์ส่วนนี้ด้วย ครับ

วันนี้คุณกำลังจะออกไปทำงานหารายได้ ผมบอกคุณว่าวันนี้มีความเป็นไปได้ที่ฝนจะตกพายุจะเข้า สมมุติว่าคุณเชื่อผมคุณจะทำอย่างไร
อยู่บ้านไม่ไปทำงานกลัวเปียกฝน หรือไปทำงานแล้วพกร่มมาด้วย อีกกรณีคุณจะขับรถไปทำงานแล้วได้ฟังกรมอุตุนิยมวิทยาว่าวันนี้ฝนจะตก คุณจะทำอย่างไร ไม่ขับรถไปเพราะกลัวถนนลื่น หรือขับรถไปแต่ใช้ความระมัดระวัง

จะเห็นว่าดร.นิเวศน์ไม่ได้แนะนำให้ซื้อหรือขาย คุณจะตัดสินใจอย่างไรคุณเท่านั้นเป็นคนเลือกเองครับ

เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ในเบื้องลึกของคนแล้ว
ทุกคนที่เกิดมาเป็นคน ล้วนมีเมตตาจิตอยู่ในสันดาน
เพียงแต่บางคนแสดงออก นำมาเผื่อแผ่คนอื่นๆ
บางคนไม่แสดงออก แม้ว่าในจิตใจจะมีเต็มเปี่ยม
บางคนผ่านชีวิตมีกิเลศมากๆ กิเลศก็กลบทับเมตตาจิตที่มีในสันดาน
ทำให้ไม่ได้แสดงออก และคนอื่นๆแทบมองไม่เห็น เว้นคนใกล้ชิดจริงๆ

ดร.นิเวศน์ก็คงเช่นเดียวกัน
พวกเราว่าท่านเป็นประเภทไหน
และเราเป็นประเภทไหนครับ

ขอบคุณครับ

ด้วยความเคารพนะครับ ผมขอเสนอความคิดเห็นเล็กน้อย ซึ่งอาจจะผิดก็ได้

"ตกผลึก" การลงทุนเเบบของตัวเอง ดีที่สุดครับ อ่านเยอะๆ แล้วลงทุน จากนั้นเรียนรู้จากข้อผิดพลาด บางทีการลงทุนเเบบ ท่าน ดร. อาจไม่เหมาะกับอารมณ์เละจิตใจของคุณก็ได้ ไม่เเปลกนี่ครับและไม่ผิดด้วยที่จะชอบการลงทุนเเบบหมอยรรยงซึ่งซื้อขายหุ้นทุกเดือน(เฉลี่ยเดือนละพันล้านบาท) หรืออาจจะชอบการลงทุนเเบบ VI ถือยาวแบบดร.

"วิธีการ"ลงทุนก็เหมือน"การเดินทาง" ไปถึงจุดหมาย คุณจะนั่งขับมอร์'ไซด์, ขับรถยนต์ หรือนั่งรถประจำทาง ก็ไปถึงจุดหมายเหมือนกัน โดยเเต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสีย(ความเสี่ยง)ต่างๆกัน ถ้าคุณชอบนั่งมอร์'ไซด์อาจไปถึงจุดหมายเร็วกว่าแต่"เสี่ยง" รถล้ม รถชน ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้หรือป้องกันความเสี่ยง(ใส่หมวกกันน็อค) คุณก็นั่งมอ'ไซด์ไปดิครับ ไม่เห็นต้องมานั่งรถยนต์เพราะมีคนเคยนั่งเเล้วบอกว่าปลอดภัยกว่า แต่ไปถึงช้านิดนึงเพราะรถติด

ไม่อยากให้มองว่า "ถ้าฉันเลือกวิธีลงทุนเเบบนี้ ชอบเเบบนี้ แล้วคนอื่นที่ไม่ทำเหมือนฉันคือ...ผิด"

aurakasa เขียน:ด้วยความเคารพนะครับ ผมขอเสนอความคิดเห็นเล็กน้อย ซึ่งอาจจะผิดก็ได้

"ตกผลึก" การลงทุนเเบบของตัวเอง ดีที่สุดครับ อ่านเยอะๆ แล้วลงทุน จากนั้นเรียนรู้จากข้อผิดพลาด บางทีการลงทุนเเบบ ท่าน ดร. อาจไม่เหมาะกับอารมณ์เละจิตใจของคุณก็ได้ ไม่เเปลกนี่ครับและไม่ผิดด้วยที่จะชอบการลงทุนเเบบหมอยรรยงซึ่งซื้อขายหุ้นทุกเดือน(เฉลี่ยเดือนละพันล้านบาท) หรืออาจจะชอบการลงทุนเเบบ VI ถือยาวแบบดร.

"วิธีการ"ลงทุนก็เหมือน"การเดินทาง" ไปถึงจุดหมาย คุณจะนั่งขับมอร์'ไซด์, ขับรถยนต์ หรือนั่งรถประจำทาง ก็ไปถึงจุดหมายเหมือนกัน โดยเเต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสีย(ความเสี่ยง)ต่างๆกัน ถ้าคุณชอบนั่งมอร์'ไซด์อาจไปถึงจุดหมายเร็วกว่าแต่"เสี่ยง" รถล้ม รถชน ถ้าคุณรับความเสี่ยงได้หรือป้องกันความเสี่ยง(ใส่หมวกกันน็อค) คุณก็นั่งมอ'ไซด์ไปดิครับ ไม่เห็นต้องมานั่งรถยนต์เพราะมีคนเคยนั่งเเล้วบอกว่าปลอดภัยกว่า แต่ไปถึงช้านิดนึงเพราะรถติด

ไม่อยากให้มองว่า "ถ้าฉันเลือกวิธีลงทุนเเบบนี้ ชอบเเบบนี้ แล้วคนอื่นที่ไม่ทำเหมือนฉันคือ...ผิด"

ผมเห็นด้วยครับ

ทำตามตัวเองแหละดีที่สุด

ผมขออนุญาตไม่คอมเม้นท์ ดร. นะครับ

แต่คอมเม้นท์ ตัวผม petro-expert

เริ่มจากชื่อ มันก็บอกความชอบ ความถนัด ของผม แต่ลองดูได้ว่า ผมแถบจะไม่เคยคอมเม้นท์ ให้ซื้อหรือขายหุ้นที่เกี่ยวข้องด้วยเลย ผมคอมเม้นท์ส่วนใหญ่ในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ราคาเคมี, เรื่องทั่วไป และแนะนำการลงทุนให้ระมัดระวัง มากกว่า

มีหลายครั้งผมแนะนำหุ้นบางตัวกับคนบางคน ซึ่งในเวลาเดียวกันผมก็ทำเหมือนเดิมในหุ้นคนละตัวกันอาจจะคนเดียวกันหรือคนละคน และในเวลาเดียวกันอีก หลายครั้งผมกลับไม่ได้ซื้อหุ้นที่ผมแนะนำไป

ทำไม ทำไม

บอกก่อนนะครับ ผมไม่ห่วงภาพพจน์ในการแนะนำ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด รู้อย่างเดียว เราหวังดีโดยบริสุทธิ์ใจ

มาตอบคำถามว่าทำไมกันดีกว่า.......... ผมว่าคนเรารู้เหมือนอาจทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน หมายถึง ปัจจัยของแต่ละคนต่างกัน ไม่ว่าเรื่องความนิ่ง ของใจและเงิน แนวคิดของการลงทุน ระยะ สั้น กลาง ยาว และสุดท้ายความพอใจครับ มากน้อย อยู่ที่นี่แหละ

คงต้องพูดตามหลักของกฏหมาย ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา

อาจพอตอบคำถามข้างต้นประมาณหนึ่ง เพราะขอให้คิดมุมกลับว่า ทุกครั้งที่ ดร. แนะนำแล้วเราซื้อไหม ถือนานไหม แล้ว ที่สุด คือ สบายใจไหม

ทุกคนย่อมทางของตนเองเสมอ

เท่าที่อ่านบทความของท่าน ดร มา ก้อไม่เห็นว่าท่านแนะนำอะไร และก้อไม่รู้ว่าท่านทำไรอยู่นะ แค่รู้ว่าท่านคิดอะไรอยู่เท่านั้น สิ่งที่ท่านคิดก้อดีที่สุดเท่าที่ท่านคิดได้ และเผยแพร่เป็นวิทยาทาน ก้อเท่านั้น แค่รู้สึกขอบคุณท่าน ดร มากมาย ที่เสียสละเวลาวิเคราะห์อะไรมากมาย และตกผลึกความคิดท่าน มาให้เราอ่านก้อแค่นั้น.....

blueplanet เขียน:ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
สิ่งที่ ดร.นิเวศน์ พูดและเขียน ล้วนแต่ทำให้ไม่กล้าซื้อหุ้น
ถ้าวิเคราะห์ให้ดีแล้ว ควรขายหุ้นในพอร์ตด้วย
แต่ผมเข้าใจ ว่า ดร.นิเวศน์ยังถือหุ้นอยู่ เกือบเต็มพอร์ต
ดังนั้นผมจึงเริ่มสับสน
ผมควรทำตามที่ ดร.พูด หรือ ทำตามที่ ดร.ทำ

ผมว่าสิ่งที่ท่านแสดงความคิดเห็น เป็นมุมมองของท่าน ซึ่งเราจะเชื่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวเราเองนะครับ
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับตัวท่านเลย
แค่ท่านเสียสละเวลา มาแชร์ความคิดเห็นให้เราได้อ่าน ได้ฟัง ก็ถือว่าเป็นประโยชน์มากแล้ว
คนฟัง คนอ่าน ก็ต้องไปต่อยอดกันเอง

ส่วนตัวผมเอง ชอบฟังและอ่าน ความเห็นท่าน ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อมูลหนึ่งในการลงทุน
แต่การที่เราจะลงทุน ซื้อ หรือขายหุ้น มันต้องมีข้อมูลในการตัดสินใจอีกเยอะ ไม่ใช่ฟังท่าน ดร.แล้วจบแค่นั้น
ดังนั้น ทุกสิ่ง ทุกอย่างในการตัดสินใจ อยู่ที่ ตัวคุณเอง จะไปโทษคนอื่นไม่ได้เลย

สองคน ยลตามช่อง
คนหนึ่งมอง เห็นโคลนตม
คนหนึ่ง ตาแหลมคม
เห็นดวงดาว อยู่พราวพราย

ส่วนตัวแล้วผมนับถือ ดร. นะครับ ที่ท่านเป็นคนแรกๆ ในเมืองไทยที่ให้ความรู้และเผยแพร่หลักการลงทุนแบบวีไอ
และก็ผมว่า แกสอนให้คนตกปลา ไม่ใช่ให้ปลา ให้คิดเอง ผมเห็นแต่คำแนะนำ ไม่ใช่ชี้นำ ตักเตือนให้คิดเอาเอง ให้มีความระวัง
ไม่ใข่บอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้มีพฤติกรรมทุบหุ้น เชียร์หุ้น นะ

ผมถือว่าแกมีบุญคุณ กะผมนะ เป็นคนนึง ที่ทำให้ผมมีความรู้ความเข้าใจในหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

ผมไม่ได้ต่อต้านใครนะ แต่ถ้าการอ่านบทความหรือฟัง ดร. แกแล้วทำให้สับสนไม่แน่ใจในการลงทุน รู้สึกไม่มีประโยชน์ ก็อย่าอ่านเลย หาความรู้ในช่องทางที่เหมาะกับสไตล์ตัวเองดีกว่า

ผมไม่ได้ติดตามอ่านบทความของ ดร.ตลอด แต่คิดว่าสิ่งที่แกต้องการจะบอกคือ
1. ผลตอบแทนของตลาดในปีนี้ อาจะไม่สูงเท่ากับปีก่อนๆ เพราะขึ้นมาแรงประมาณ 2 ปีแล้ว
2. ควรเน้นลงทุนในหุ้นที่ปลอดภัย เช่นพวกสาธารณูปโภคมากกว่า หุ้นที่ขึ้นลงหวือหวา

สำหรับผมในฐานะ VI ไม่ค่อยสนใจเรื่องผลตอบแทนของตลาดรวมว่าจะเป็นอย่างไร

แต่จะสนใจแค่ว่าหุ้นที่เราถืออยู่ยังมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นตัวอื่นในตลาดและการลงทุนอย่างอื่นก็พอใจแล้วครับ

สรุป "VI ไม่ควรสนใจภาวะตลาด แต่สนใจค้นหาหุ้นที่ดีที่สุดในตลาดในช่วงเวลาต่างๆ (สั้น กลาง ยาว แล้วแต่แผนการลงทุนของแต่ละคน) จะดีกว่าครับ"

ช่วงนี้ก็ปล่อยไปครับ ใครอยากซื้อก็ซื้อ
บอกว่ามันจะลงไม่มีใครเชื่อหรอกครับ โดนด่าว่าขัดลาภอีกต่างหาก
รอดูตอนมันลงคับ ตลาดหุ้นเม่าไม่เคยรวย

ผมก็มือใหม่ติดตามอ่านแนวคิดท่านเสมอ ผมเลือกทำในส่วนที่ถูกกับจริตของผม ผมไม่แน่ใจว่าหัวข้อนี้จะสื่ออะไรแต่สำหรับผมแล้ว ดร.นิเวศน์คือผู้เสียสละครับ คล้ายๆพุทธเจ้า กับฤาษีครับซึ่งผมไม่รู้ว่าฤาษีมีฤทธิมากมายแค่ไหนแต่รู้แค่พุทธเจ้าสอนอะไรที่เป็นประโยชน์
ผมไม่อยากให้น้องๆ ที่เป็นมือใหม่เข้าใจผิดในกรอบแนวคิดของดร.นิเวศน์นะครับ ปรับใช้ตามสภาพตนเองครับ ถ้าพูดถึงตัวหุ้นที่ท่านถือ อย่าลืมนึกถึงต้นทุนท่านด้วย ถ้าพูดถึงสภาพตลาดหากราคาหุ้นที่ท่านถือเหลือ 5% ท่านยังมีเงินเหลือหลายสิบล้านเลยนะครับ
แล้วมือใหม่จะเหลืออะไรถ้าหน้าตักไม่มากพอ

สรุปไม่ต้องเถียงกันเรื่องตีความ
ใครของแท้ใครของเก๋พวกเรารู้ๆกันอยู่.....

อ่านแล้วได้ความคิดเยอะนะครับ