หน้า 2 จากทั้งหมด 2
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 30, 2011 5:13 pm
โดย สถาปนิกต่างดาว
money is extremely important in the areas in which it works,
and
extremely unimportant in the areas in which it doesn't.
secret of the millionair mind
t. harv eker
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 31, 2011 12:43 am
โดย ^^
เราทำหน้าที่(แต่ต้องเป็นกรรมดี)ที่ควรทำ และตอนกระทำก็ปฏิบัติธรรมไปด้วย ส่วนผลที่ได้ไม่ต้องไปคาดหวัง เพราะความคาดหวังคือกิเลส ส่วนการปฏิบัติตามหน้าที่เป็นธรรม
ผมชอบมากเลยครับประโยคนี้ มันสะกิดทัศนคติบางอย่างของผมมาก
ขอบคุณสำหรับผู้ประสบความสำเร็จทุกท่านครับ
สำหรับผม เงินเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ได้ต้องการขนาดโลภ โกงคน เพื่อให้ได้เงินมา
ให้คนที่ผมรักอยู่ได้ก็เพียงพอ
ผมชอบแนวคิดช่วยเพื่อนมนุษย์ครับ ญี่ปุ่นที่โดนสึนามิ ทำให้ผมระลึกว่า
คนที่มีเงินมากที่สุดอาจจะไม่ได้เป็นคนที่ได้รับการช่วยเหลือมากที่สุดก็ได้
เพราะเขาไม่เคยเผื่อแผ่ใคร และเมื่อเงินไม่มีค่า
เราก็จะมองกันที่ความดีที่ช่วยเหลือกันมามากกว่าเงินของใครมากกว่ากันในธนาคาร
อีกนัยหนึ่งก็คือ หากเงินไม่มีค่า จะมีคนช่วยผมด้วยใจมากมายนั่นเอง หากผมเผื่อแผ่เขายามเดือดร้อน
ทุกวันนี้ยังช่วยคนได้ไม่เยอะเลยครับ กะว่าก่อนตายของไล่อายุแต่เด็กมา
จะมีความดีที่เราจำได้มากมายจนเล่าไม่หมด ไม่อยากแบบว่า
เฮ้ย ทำความดีไรมั่ง จำไม่ได้อ่ะ เอ๊ะหรือว่าแค่ไปทำบุญทุกวันพระแล้วใส่เงิน
ปล.ไม่ใช่เซียน แต่กระทู้นี้มีหลายประโยคจุดประกายจนอยากแชร์ครับ
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 31, 2011 1:00 pm
โดย แงซาย
สิ่งที่เรามักจะนึกเสียใจก่อนเสียชีวิต !!!
http://www.4shared.com/document/A2szZD_u/_online.html
คนเราตายวัน ตายพรุ่งไม่มีใครรู้ อะไรดีดี ความฝันดีดี ที่ยังไม่ได้ทําก็รีบทําเสียครับ .............
ดีกว่ามาเสียใจตอนนอนพะงาบพะงาบ ว่า " รู้งี้ " ................
ชีวิตมันจะจบแบบไม่จบน่ะครับ............
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 31, 2011 2:39 pm
โดย avatar2009
สูงสุดคืนสู่สามัญ
ขอบคุณในคำถาม
นับถือในคำตอบ
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 31, 2011 3:52 pm
โดย satit
ผมเห็นพี่ๆหลายๆท่านในเว็บนี้เน้นศึกษาและปฏิบัติธรรมกันอย่างจิงจัง
และก็เน้นผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงด้วย
ผมเลยสงสัยว่า...
ถ้าเรามีเป้าหมายว่า
เราอยากมีปัญญาจากการปฏิบัติ
และปัญญานั้น จะพาเราไปสู่ทางแห่งนิพพานแล้ว
เราจะลงทุนแบบactive เน้นผลตอบแทนที่สูงไปทำไมครับ
ในเมื่อเงินที่เรามีอยู่ก็พอกินพอใช้ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
และ การมีเงินที่เพิ่มขึ้นน่าจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของเรา
เราควรทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติทำหรือปล่าว?
คือผมก็เป็นคนนึงที่คิดว่ายังไงชีวิตนี้ต้องมุ่งมั่นกับการปฏิบัติธรรมให้ได้
แต่ก็ยังโลภ อยากได้ผลตอบสูงๆอยู่ดี ทั้งๆที่ผลตอบแทนสูงๆ ไม่น่าจะตอบโจทย์ชีวิตเราเลย
เลยขอถามพี่ๆครับ ว่าพี่มีมุมมองในด้านนี้อย่างไร และจะbalance 2สิ่งนี้อย่างไรครับ?
ขอบคุณมากๆครับ
คำท่านพุทธทาส น่าจะตอบโจทย์ได้
คนเราทำได้ และมีได้ทุกสิ่ง แต่อย่ายึดว่าเป็น "ตัวกู ของกู" เท่านั้นเอง
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 31, 2011 5:35 pm
โดย chootana
สามัญชน เขียน:ความฝันของผม อยากเป็นผู้มีปัญญาครับ
ไม่อยากทำอะไรแล้ว เพราะเป็นผู้ทำมานานแล้ว
ผู้คิดก็ไม่อยากเป็น เพราะปัญญาจากการคิดไม่ถูกใจผมนัก
ขอปัญญาจากการเป็นผู้รู้ครับ(ถ้ามีบุญพอนะครับ)
พี่หมอจำคำถามที่มีคนถามอาจารย์ไพบูลย์ได้หรือเปล่า แล้วอาจารย์ไพบูลย์เค้าถามพี่หมอต่อว่าไปเรียน........ที่ไหน แล้วพี่หมอก็ตอบ
ผมเองที่เขียนขึ้นไปถาม เป้าหมายของผมเหมือนพี่หมอเลย ตั้งไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากจะบวชเมื่ีออายุไม่เกิน 60 ตอนนี้เลยต้องรีบหาเงินไว้ให้ลูกเมียใช้ครับ (คิดไว้ถ้ามีบุญพอเหมือนกันครับ)
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 02, 2011 1:25 pm
โดย leaderinshadow
ขอบคุณ พี่นริศ พี่ฉัตรชัย และพี่หมอสามัญชน
สำหรับแง่คิด ทุกๆอย่าง มากๆครับ
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 02, 2011 2:25 pm
โดย woodooshy
naris เขียน:MaiFuen เขียน:ขอถามพี่หมอและพี่ๆทุกท่านครับ
ผมเห็นพี่ๆหลายๆท่านในเว็บนี้เน้นศึกษาและปฏิบัติธรรมกันอย่างจิงจัง
และก็เน้นผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงด้วย
ผมเลยสงสัยว่า...
ถ้าเรามีเป้าหมายว่า
เราอยากมีปัญญาจากการปฏิบัติ
และปัญญานั้น จะพาเราไปสู่ทางแห่งนิพพานแล้ว
เราจะลงทุนแบบactive เน้นผลตอบแทนที่สูงไปทำไมครับ
ในเมื่อเงินที่เรามีอยู่ก็พอกินพอใช้ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว
และ การมีเงินที่เพิ่มขึ้นน่าจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของเรา
เราควรทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อการปฏิบัติทำหรือปล่าว?
คือผมก็เป็นคนนึงที่คิดว่ายังไงชีวิตนี้ต้องมุ่งมั่นกับการปฏิบัติธรรมให้ได้
แต่ก็ยังโลภ อยากได้ผลตอบสูงๆอยู่ดี ทั้งๆที่ผลตอบแทนสูงๆ ไม่น่าจะตอบโจทย์ชีวิตเราเลย
เลยขอถามพี่ๆครับ ว่าพี่มีมุมมองในด้านนี้อย่างไร และจะbalance 2สิ่งนี้อย่างไรครับ?
ขอบคุณมากๆครับ
ถ้าพูดถึงความอยากให้ผลตอบแทนสูงๆ กับการเลือกหุ้นมันคนละประเด็นนะครับ
จะคล้ายๆกับคำว่า จงทำงานแบบไม่หวังเงิน
พระอาจารย์ของผมสอนไว้ว่า เราทำหน้าที่(แต่ต้องเป็นกรรมดี)ที่ควรทำ และตอนกระทำก็ปฏิบัติธรรมไปด้วย ส่วนผลที่ได้ไม่ต้องไปคาดหวัง เพราะความคาดหวังคือกิเลส ส่วนการปฏิบัติตามหน้าที่เป็นธรรม
ผมมาพิจารณาก็เห็นด้วยว่าถ้าเรามุ่งเน้นผลตอบแทน หรือ นำเราไปเทียบกับคนอื่น หรือ ไปสนใจราคาหุ้น สิ่งพวกนี้มีแต่เป็นต้นเหตุของความร้อนในจิตใจ แต่ถ้าเราเลือกกิจการที่เราจะลงทุน เลือกเสร็จก็เสร็จ คอยติดตามทุกไตรมาสเป็นระยะๆ นิสัยผมก็จะเลือกกิจการที่มีเวลาเป็นเพื่อน เพราะกิจการเขาดี กำไรก็วิ่งมาหาเรา อย่างนี้เราเป็นผู้ถือหุ้นก็สบายใจ ไม่ต้องไปเฝ้าหน้าจอ แต่ถ้าเราเลือกกิจการที่ไม่มีพื้นฐาน หรือเป็นหุ้นที่มีระเบิดเวลาวางไว้ในอนาคต เราก็ต้องแอกทีพเสมอๆ ไม่งั้นเงินเรามีโอกาสหาย อย่างนี้ผมไม่เอาครับ เพราะมันจะร้อน
การบาลานซ์สองสิ่งนี้ในคำตอบพี่คือ ไม่ต้องบาลานซ์ เพราะเวลาทำงาน คือเวลาปฎิบัติธรรมครับ
สาธุครับพี่นาริส
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 04, 2011 5:25 pm
โดย 996gt3
ผมอยากเป็นคนที่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคมและผู้อื่นครับ
สามารถเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากครับ
อยากสร้างโรงอาหารกลางวันฟรีสำหรับคนรายได้น้อย จะได้ท้องอิ่มมีแรงทำงานหารายได้ครับ
อยากสร้างโรงพยาบาลรักษาฟรี เพื่อคนที่เจ็บป่วยไม่สบายจะได้มีความสุขเพิ่มมากขึ้น
อยากสร้างโรงเรียนเรียนฟรีที่มีคุณภาพเพื่อสอนให้เด็กโตขึ้นเป็นบุคคลากรที่มีค่าต่อสั่งคม
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตผมถือว่าสบายมากเมื่อเทียบกับคนอื่นอีกหลายล้านคน ซึ่งก็เป็นกำไรชีวิตที่ได้มาอย่างคุ้มค่าแล้วครับ พอได้รับมาแล้วก็อยากแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วยครับ
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 04, 2011 9:00 pm
โดย dome@perth
996gt3 เขียน:ผมอยากเป็นคนที่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคมและผู้อื่นครับ
สามารถเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากครับ
อยากสร้างโรงอาหารกลางวันฟรีสำหรับคนรายได้น้อย จะได้ท้องอิ่มมีแรงทำงานหารายได้ครับ
อยากสร้างโรงพยาบาลรักษาฟรี เพื่อคนที่เจ็บป่วยไม่สบายจะได้มีความสุขเพิ่มมากขึ้น
อยากสร้างโรงเรียนเรียนฟรีที่มีคุณภาพเพื่อสอนให้เด็กโตขึ้นเป็นบุคคลากรที่มีค่าต่อสั่งคม
ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตผมถือว่าสบายมากเมื่อเทียบกับคนอื่นอีกหลายล้านคน ซึ่งก็เป็นกำไรชีวิตที่ได้มาอย่างคุ้มค่าแล้วครับ พอได้รับมาแล้วก็อยากแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วยครับ
แค่คิดก็ได้บุญแล้วครับ ลงมือยิ่งได้มากขึ้นไปอีก
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 09, 2011 7:25 pm
โดย Tihdnab
สามัญชน เขียน:ความฝันของผม อยากเป็นผู้มีปัญญาครับ
ไม่อยากทำอะไรแล้ว เพราะเป็นผู้ทำมานานแล้ว
ผู้คิดก็ไม่อยากเป็น เพราะปัญญาจากการคิดไม่ถูกใจผมนัก
ขอปัญญาจากการเป็นผู้รู้ครับ(ถ้ามีบุญพอนะครับ)
เมื่อเป็น
ผู้มีปัญญา เป็น
ผู้รู้แล้ว
คิดว่า
อยากหรือไม่อยากทำอะไรต่อไปอีกครับ
ห้ามตอบว่า ...เป็นผู้รู้ก่อนแล้วถึงจะรู้...
Re: คำถามสุดท้าย ที่ลืมถาม เหล่าเซียน ในงาน Money Talk ครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 09, 2011 7:58 pm
โดย เกล้า
ผมว่าผู้รู้ในความหมายของพี่หมอสามัญชนคือผู้รูแจ้งแทงตลอด
ถ้าพูดในภาษาพระท่านก็คงเข้าใจกันดีว่าหมายถึงอะไร..แต่สิ่งนี้
จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องประกอบ ด้วย ทาน ศิล ภาวนาประกอบกันจน
เต็มกำลังของแต่ละบุคคลที่พึงประกอบกันมาจนส่งผลน้อมนำส่ง
ผลบุคคลที่พึงประพฤติไปถึงฝั่งฝัน..จนขาดจากอาสวะต่างๆภายใน
จิตใจโดยสิ้นเชิงไม่มีเชื้อแห่งทุกข์ไม่มีสิ่งที่ทำให้เกิด..และโลกของ
วัฎสงสาร...การกลับมาเกิดแก่เจ็บตายก็คงไม่มีอีกแล้ว..อันนี้พระท่านว่าไว้
ไม่ใช่ผมนะ(กลายเป็นกระทู้ธรรมไปซะงั้น)