หน้า 2 จากทั้งหมด 2
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 18, 2011 8:00 pm
โดย ปรัชญา
paeagain เขียน:ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ให้กำลังใจคะ จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไปเรื่อยๆส่วนตัวหวังผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีไว้ที่ 8-9%
(ไม่รู้สูงไปไหม)
เป้ก็จะเป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วยนะคะ ไว้เจอกันบ้างตอนเผื่อมีงานmeeting คะ
สู้ต่อไป
ไม่ได้ใบ้หุ้นนะ นี่เป็นกองทุนครับ
แบบนี้จิ๊บๆๆ
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 18, 2011 9:11 pm
โดย pon123
ผมคนหนึ่งละที่ท้อ ดูหุ้นมาทุกตัวแล้วแต่ก็หาไม่เจอ เลยลองมานั่งคิดดูหรือว่าเราเข้ามาดูหุ้น
ผิดจังวะมาสนใจเอาตอนที่หุ้นมันขึ้นมามากแล้วเลยเกิดความกล้วอยู่ในใจ ถ้าชื้อแล้วจะปลุกบ้านอยู่บนดอย
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 18, 2011 9:19 pm
โดย chaitorn
ถ้ายังหาหุ้นที่ตรงกับ เกณฑ์การลงทุน และ ตรงกับ Circle of competence หรือขอบเขตความรู้ของเราไม่ได้ อย่าเพิ่งใจร้อนลงทุนครับ
ในระหว่างนี้ ก็ถือโอกาสศึกษาหุ้นไปก่อนดีกว่าครับ เวลาลงทุนยังมีอีกมากในรอบ 1 ปีนี้ครับ หาหุ้นไม่เจอแม้จะท้อใจบ้าง ก็ดีกว่าลงทุนในหุ้นที่ขาดหลักการลงทุนที่ดี เป็นกำลังใจนะครับ เพียงแต่อย่าท้อถอยครับ
เมื่อศึกษาหุ้นที่ดีได้แล้วสักจำนวนหนึ่งที่เป็นหุ้นที่ดีตามเกณฑ์การลงทุนของเราเพื่อหาโอกาสการลงทุนที่ดีที่สุดไว้ก่อนก็ได้ และอดทนรอคอยให้ถึงเวลาที่ตรงกับเกณฑ์การลงทุนของเราได้ กล่าวคือมี Margin of safety ในระดับหนึ่งที่มีความปลอดภัย เทียบกับ ระดับผลตอบแทนจากมูลค่าหุ้นที่แท้จริงที่เราคำนวณว่าอยู่ในระดับครอบคลุมความเสี่ยงได้อย่างเพียงพอแล้ว จึงค่อยทะยอยลงทุนนะครับ ไม่ต้องรีบร้อนครับ โอกาสความสำเร็จจะตามมาเอง ถ้าหากเราอดทนและรอคอยได้
นักลงทุนที่ดี ต้องสามารถอดทนให้เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของนักลงทุนทั่วไปให้ได้ มีวินัยทั้งอดทนรอคอยการซื้อหุ้น และอดทนรอคอยการขายหุ้น ด้วยการพัฒนาทักษะตามหลักการลงทุนที่ดีครับ อย่าใช้อารมณ์เล่นหุ้นเป็นอันขาดครับ วางแผนการลงทุนให้ดีและตัดสินใจด้วยตนเองให้ดีที่สุดครับ
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 18, 2011 10:14 pm
โดย Paul Octopus
หาหุ้นไม่เจอนะโชคดีแล้วครับ
ลองเปลี่ยนจากหาหุ้น .....ไปเป็น "หาธุรกิจที่ชอบ" ดูซิครับ
ไม่ต้องไปพยายามหา 400 - 500 ตัวทั้งตลาด
หาธุรกิจที่มันอยู่ในใจเรา มองไปไกลๆ ถามตัวเองว่าถ้าเราเป็นเจ้าของ 100% เราจะยอมขายให้คนอื่นที่อยู่ในตลาด ในราคาเท่าไหร่ ผมรับรองได้ว่าภาพมันจะชัดขึ้นทันที่ว่าที่ขายๆกันอยู่มันถูกหรือแพง มีอนาคตหรือไม่มีจากการบริหารแบบนี้ ฯลฯ ข้อแม้แต่เพียงอย่างเดียวอย่าเชื่อการวิเคราะห์ของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น Analysts สำนักใหน พวกนี้เอาไว้ดูเรื่อง Information เท่านั้น
เราต้องคิดเองจาก Information ที่หาได้ และ ต้องหาให้ได้มากที่สุด ให้เสมือนว่าเรากำลังจะทำธุรกิจนั้นเอง (เอาแค่ตรงนี้ผมว่า มันใช้เวลาโขแล้วก่อนจะตัดสินใจซื้อหุ้นใดๆ) การมองด้วยความโลภ เข้าข้างตัวเอง จะนำเราไปสู้หายนะในที่สุด ดังนั้นต้องมีสติ และ เป็นกลาง เคารพตัวเอง ใช้เหตุผลนำหน้าความอยากเสมอ
ผมคิดง่ายๆ ถ้าความรู้ไม่พอที่จะสร้างธุรกิจนั้นได้เอง ผมจะยังไม่ตัดสินใจใดๆทั้งสิ้น
รายได้ เงินออม ขนาดนี้ต้องผ่านงานมาพอสมควร ผมคิดว่าน่าจะเข้าใจสิ่งที่ผมอยาก Share นะครับ
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 18, 2011 10:24 pm
โดย ปรัชญา
pon123 เขียน:ผมคนหนึ่งละที่ท้อ ดูหุ้นมาทุกตัวแล้วแต่ก็หาไม่เจอ เลยลองมานั่งคิดดูหรือว่าเราเข้ามาดูหุ้น
ผิดจังวะมาสนใจเอาตอนที่หุ้นมันขึ้นมามากแล้วเลยเกิดความกล้วอยู่ในใจ ถ้าชื้อแล้วจะปลุกบ้านอยู่บนดอย
มีวิธีดูหุ้น อย่างไร จากตรงไหน ลองเล่าให้ดูหน่อยว่าเริ่มต้นอย่างไรที่ว่าหาไม่เจอครับ
เผื่อจะมีผู้อ่านเข้ามาตอบ
หวังอย่างไร
ต้องการอะไร
หลักการอย่างไร
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 11:43 am
โดย khonkrung
หุ้นถ้าดูจากปัจจุบัน ดูค่าต่างๆ อาจยังไม่ถูกพอที่จะซื้อ ต้องประมาณกำไรในอนาคตหรือปีข้างหน้าออกมา แล้วมาคิดพีอี ถึงจะรู้ได้ว่ามันถูก แต่ปัญหามันก็อยู่ที่ว่าจะประมาณได้ใกล้เคียงแค่ไหน นี่ละคือความเสี่ยงที่เราต้องรับ
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 8:16 pm
โดย pon123
ปรัชญา เขียน:pon123 เขียน:ผมคนหนึ่งละที่ท้อ ดูหุ้นมาทุกตัวแล้วแต่ก็หาไม่เจอ เลยลองมานั่งคิดดูหรือว่าเราเข้ามาดูหุ้น
ผิดจังวะมาสนใจเอาตอนที่หุ้นมันขึ้นมามากแล้วเลยเกิดความกล้วอยู่ในใจ ถ้าชื้อแล้วจะปลุกบ้านอยู่บนดอย
มีวิธีดูหุ้น อย่างไร จากตรงไหน ลองเล่าให้ดูหน่อยว่าเริ่มต้นอย่างไรที่ว่าหาไม่เจอครับ
เผื่อจะมีผู้อ่านเข้ามาตอบ
หวังอย่างไร
ต้องการอะไร
หลักการอย่างไร
ที่จริงแล้วผมไม่รู้จะเริ่มตรงไหนมากกว่าครับ ตอนนี้ได้แต่ดูกราฟว่าหุ้นขึ้นมากแค่ไหน เท่านั้นเอง
ตอนนี้ไปชื้อหนังสือเกี่ยวกับงบการเงินมาอ่านอยู่ครับไม่รู้ว่าจะได้เรื่องแค่ไหนเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องทางบัญชีสักเท่าไหร่ (คนโง่อยากลงทุน)
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 9:05 pm
โดย Warantact
ผมว่ามันยังมีเยอะแยะเลยนะ
ถ้าไม่ดูดัชนีรวมนะ
เพราะส่วนใหญ่ดัชนีมันไปบวมตรง set50
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 19, 2011 10:25 pm
โดย Lionel
คิดถูกแล้วครับที่หาความรู้เพิ่มก่อน ^^ ยินดีด้วยครับ โอกาสมีเสมอครับไม่ต้องกลัวตกรถ ตราบใดที่ยังมีตลาดอยู่ รถก็มาเรื่อยๆครับ รีบมากอาจจะได้ขึ้นคันที่ไปที่สูง ใจร่มๆครับ
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 4:17 am
โดย ekkachai22
ไม่รู้ว่าใช้หลักการไหนเลือกหุ้นอะครับ
ของผมเน้น เติบโต ไม่โตไม่เอา เงินปันผลก็ได้น้อยหน่อย
ได้แนวทางละว่าต้องโต คราวนี้ ก็มาดูว่าจะโตไปได้ประมาณกี่ปีเพราะอะไร ตรงนี้แหละ หุ้นแต่ละตัวจะไม่เหมือนกันก็มานั่งๆนอนๆ หาข้อมูล แล้วก็ติดตาม ก็ประมาณนี้
ส่วนเรื่องMOS ก็ถ้าเราเน้นโต ก็ไม่ต้องเผื่อเยอะก็ได้ ก็แค่มั่นใจว่ามันโต แต่ที่ผมมั่นใจในกิจการของผมมากกว่าว่ามันจะโต ก็คือ มันต้องไม่เจ๊ง ก็ประมาณนี้
ก็คงต้องหาแนวทางของตัวเองให้เจอ ว่าอยากได้หุ้นแบบไหน เดี๋ยวก็หาได้ ซื้อวันนี้จะให้พรุ่งนี้ขึ้น มันยาก แต่ให้มองว่ากิจการมันดี เด๋วมันมีกำไร มันก็ขึ้นไปเอง
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 20, 2011 10:30 pm
โดย chaitorn
คุณ pon123
ที่จริงแล้วผมไม่รู้จะเริ่มตรงไหนมากกว่าครับ ตอนนี้ได้แต่ดูกราฟว่าหุ้นขึ้นมากแค่ไหน เท่านั้นเอง
ตอนนี้ไปชื้อหนังสือเกี่ยวกับงบการเงินมาอ่านอยู่ครับไม่รู้ว่าจะได้เรื่องแค่ไหนเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องทางบัญชีสักเท่าไหร่ (คนโง่อยากลงทุน)
ถ้าคิดจะลงทุนแบบ Value investor นั้น คุณ Pon 123 คงต้องตั้งหลักการและวิธีคิดให้ถูกต้องก่อนครับ ผมแนะนำให้อ่านหนังสือของอาจารย์ใหญ่ของเวปนี้ก่อนก็ได้คือ อาจารย์ดร.นิเวศน์ ซึ่งเขียนหนังสือไว้หลายเล่ม อ่านก็ง่ายด้วย ลองไปหามาอ่านให้มาก ๆ หรือจะอ่านบทความของเวปนี้ก็ได้ มีความรู้จำนวนมากให้เราได้ศึกษาหาความรู้อย่างเต็มที่ครับ
แนวความคิดที่เข้าใจว่า การลงทุนแบบเน้นคุณค่านั้น มองว่า ราคาถูกกว่าในอดีต และน่าซื้อกว่า หรือราคาแพงกว่าในอดีตแล้ว ไม่น่าซื้อ เป็นต้น เป็นเรื่องของ finance behavior ซึ่งเป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้การลงทุนเราเกิด Bias
ดังนั้น หากลงทุนแบบเน้นคุณค่า ก็ต้องมองที่ว่า earning แล้วประเมินหามูลค่าหุ้นที่แท้จริงเทียบกับ ราคาในปัจจุบันแล้วเป็นอย่างไร
ลงทุนต่อเมื่อมูลค่าหุ้นที่แท้จริงที่เราคำนวณได้ อยู่ระดับสูงกว่า ราคาปัจจุบัน ยิ่งสูงยิ่งดี แสดงว่า มี Margin of safety หรือส่วนต่างเพื่อความปลอดภัยสูง เป็นต้น
ขอยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้เห็นครับ
สมมุติว่า เราต้องการลงทุนในหลักทรัพย์หนึ่ง ซึ่งปัจจุบันให้ผลตอบแทน 6 บาทต่อปี หากเราต้องการอัตราผลตอบแทนที่ 6% ต่อปี ราคาหลักทรัพย์ที่เราควรซื้อจะต้องไม่เกินราคา 6 หารด้วย 0.06 หรือราคาหุ้นละ 100 บาทนั้นเอง
แต่หากในอนาคตหลักทรัพย์นั้นให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 10 บาท หากเราต้องการอัตราผลตอบแทนที่ 6% ต่อปี ราคาหลักทรัพย์ที่เราควรซื้อจะต้องไม่เกินราคา 10 หารด้วย 0.06 หรือเท่ากับ หรือเท่ากับราคาหุ้นละ 166.67 บาท
ในทำนองเดียวกัน หากหลักทรัพย์ดังกล่าวให้ผลตอบแทนที่ลดลงเหลือปีละ 4 บาท หากเราต้องการผลตอบแทนที่ 6% ต่อปี ราคาหลักทรัพย์ที่เราควรซื้อจะต้องไม่เกินราคา 66.67 บาทต่อหุ้น
จะเห็นได้ว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับว่า ราคาปัจจุบันมันจะอยู่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าราคาในอดีตแต่อย่างใด แต่ขึ้นกับพื้นฐานของหลักทรัพย์นั้นจะสร้างผลตอบแทนที่สูงมากน้อยเพียงใด เทียบกับผลตอบแทนที่เราต้องการ (คำนึงถึงความเสี่ยงของหลักทรัพย์ที่เราสนใจ ซึ่งหมายถึงความแน่นอนของผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในอนาคต และโอกาสการเติบโตของผลตอบแทนในอนาคต หรือ Growth ของผลตอบแทน ตลอดจนเทียบกับผลตอบแทนของหลักทรัพย์อื่นที่มีระดับความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกับหลักทรัพย์ที่เราสนใจเป็นต้น)
ดังนั้น ต้องแม่นในหลักการ และสร้างวิธีคิดที่ถูกต้องก่อน ต่อจากนั้น เราก็ไปต่อยอดหาความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้อง และพัฒนาแนวทางการลงทุนต่อไป
ถ้าหากยังไม่รู้เรื่องการลงทุนจริง ๆ ผมแนะนำว่า ให้ศึกษาหาความรู้ก่อนครับ สงสัยก็ตั้งคำถามในกระทู้เพื่อเพิ่มความเข้าใจในเวปนี้ก็ได้ครับ มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ หลายคนคงมีความเมตตามาช่วยตอบให้กระจ่างจนกว่าจะพอเข้าใจ
ให้นึกเสียว่า เสียดายที่ไม่ได้ลงทุนตอนนี้ทั้งที่ยังไม่มีความรู้เพียงพอ ดีกว่าเสียใจในอนาคตเมื่อต้องประสบภาวะขาดทุนจนกินนอนไม่ได้ เป็นทุกข์เป็นร้อน โดยไม่รู้ว่าเราลงทุนทำอะไรผิดพลาดอย่างไรครับ
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 05, 2011 6:30 pm
โดย 1329
เข้ามาท้อด้วยคน
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 06, 2011 8:40 pm
โดย The Dark
[/quote]สมมุติว่า เราต้องการลงทุนในหลักทรัพย์หนึ่ง ซึ่งปัจจุบันให้ผลตอบแทน 6 บาทต่อปี หากเราต้องการอัตราผลตอบแทนที่ 6% ต่อปี ราคาหลักทรัพย์ที่เราควรซื้อจะต้องไม่เกินราคา 6 หารด้วย 0.06 หรือราคาหุ้นละ 100 บาทนั้นเอง [/quote]
ถามหน่อยครับ ผลตอบแทน 6 บาทต่อปี นี่ดูจากอะไร หรือเอาค่ามาจากไหนครับ พอดีมือใหม่
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 07, 2011 12:24 am
โดย House at Ping river
ไม่เจอยังดีกว่าเจอแล้วไม่ซื้อหรือเปล่าคะ ดิฉันเองเป็นมือใหม่ เริ่มศึกษาประมาณกลางปีที่แล้วค่ะ ตัวแรกที่มองเลยคือ cmr มองตั้งแต่ 33 บาท ประมาณตุลา 53 ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเลยค่ะ แต่ก็มองอย่างเดียว ไม่ทำอะไรเลย เพราะไม่กล้า ไม่มีประสบการณ์ ไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราวิเคราะห์เองจะถูกหรือเปล่า และ cmr เป็นหุ้นที่คนพูดถึงน้อยมาก ยิ่งทำให้เรา วันนี้ cmr ขึ้นไปที่ 70 ละ คิดอีกด้านว่า cmr อาจเป็นของมีเจ้า ไม่งั้นคงไม่พุ่งทะยานขนาดนี้ แถมปันผลก็งั้นๆ ลืมเสียดีกว่า หาตัวใหม่ละกัน (ปลอบใจตัวเอง)
ตอนนี้ปอดเล็กๆ มีทั้งเขียวและแดงปนกันค่ะ แต่ภาพรวมยังเขียวอยู่ค่ะ
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 07, 2011 12:39 am
โดย mr_chai
ขอเสนอวิธีเลือกหุ้นง่ายๆครับ ทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ
1.ถามตัวเองชอบอุตสาหกรรมไหนบ้าง
2.เลือกเอามาซักอุตสาหกรรมหนึ่งที่ชอบและคิดว่าสามารถอ่านเกมธุรกิจออก
3. list หุ้นในอุตฯนั้นออกมาว่ามีตัวไหนบ้าง
4. screen แบบคร่าวๆเอาตัวที่ดูดีๆหน่อย
5.เจาะลึกแต่ละตัวเลยครับ
6.เลือกตัวที่ดีที่สุดและเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน
7.ถือไปจนตราบที่มูลค่าที่แผงอยู่จะออกมา
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 07, 2011 9:17 am
โดย densin
บางทีเราไม่เจอคนถูกใจ เพราะเราลืมคนเก่าที่เรารู้จักดีแล้ว
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2011 6:57 am
โดย chaitorn
คุณ bankxl
[quote][ถามหน่อยครับ ผลตอบแทน 6 บาทต่อปี นี่ดูจากอะไร หรือเอาค่ามาจากไหนครับ พอดีมือใหม่/quote]
การประมาณการกำไรนั้นมีหลายวิธีนะครับ ขึ้นอยู่กับลักษณะของประเภทธุรกิจที่ศึกษา ที่เราต้องมีความรู้ในประเภทธุรกิจนั้น เช่น เป็นธุรกิจที่เป็น Growth stock เป็นธุรกิจวัฏจักร เป็นธุรกิจที่เติบโตไปตามภาวะเศรษฐกิจ เป็นธุรกิจที่พลิกฟื้น เป็นธุรกิจที่เป็น sun down ตกต่ำ เป็นต้น รวมถึงขนาดของธุรกิจที่อยู่ในช่วงใด คือ เพิ่งเริ่มต้น หรือทำมานานจนมีขนาดใหญ่แล้ว เป็นต้น ซึ่งทำให้มองเห็นศักยภาพโอกาสการเติบโตของผลงานในอนาคตเป็นต้น ต้องระวังอย่าใช้กำไรในอดีตมากำหนดอนาคตของหุ้นที่เราลงทุน แต่เราต้องใช้ข้อมูลในอดีตรวมกับข้อมูลปัจจุบันมาวิเคราะห์หาศักยภาพการเติบโต ลดลง คงที่ หรือเพิ่มขึ้น และเปลี่ยนแปลงประมาณการมากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องผ่านการวิเคราะห์หลายมุมมองด้วย
แต่หลัก ๆ ง่าย ๆ อาจประมาณการกำไรได้ดังนี้ครับ
1. ประเมินโดยใช้อัตราการขยายตัวในอดีตเป็นบรรทัดฐาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อัตราการขยายตัวในอนาคต จะเท่ากับอัตราการขยายตัวในอดีต
2.ประเมินการเติบโตของกำไรโดยดูจากว่าบริษัทมีจุดเด่น หรือข้อได้เปรียบที่แสดงให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาก้าวหน้า ทั้งจากการเปรียบเทียบกับข้อมูลในอดีตและมาตรฐานอุตสาหกรรม อัตราการขยายตัวก็น่าจะสูงขึ้น
3. การเติบโตที่เทียบกับตัวแปรสำคัญที่ดูจากในอดีตว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เช่น เติบโตเทียบกับ GDP ของประเทศ เป็นต้น
หากอยากศึกษาเพิ่มเติมทางเทคนิค ก็อาจอ่านได้จากบทความนี้นะครับ น่าจะเป็นประโยชน์ครับ
http://www.taladhoon.com/taladhoon/lib/ ... 01-4-d.htm
Re: ท้อใจ ไม่เจอหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2011 12:10 pm
โดย dino
อิอิ ตอนนี้มีให้ซื้อเต็มตลาดเลยครับ
กล้ารึป่าวหละ
ตัวที่เคยว่าแพง อาจจะลงมาให้เชยชมแล้วนะครับ
กล้ารึป่าวหละ
รถไฟมาอีกครั้งแล้ว อิอิ
เอาใจช่วยนะครับ