หน้า 2 จากทั้งหมด 3

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 01, 2011 11:05 pm
โดย Segasus_Seiya
ลบไปเกือบ 10% แต่เข้าใจในสิ่งที่พลาดตรงนั้นมาครับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 01, 2011 11:14 pm
โดย zephyr
ของผมบอกตรงๆเลยว่าเป็นครึ่งปีที่ผมอึดอัดขัดข้องใจมากครับ
ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ดันเปลี่ยนวิธีการของตัวเองครับ ผลตอบแทนเลยแย่ :cry:
รอดูครึ่งปีหลังล่ะครับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 01, 2011 11:51 pm
โดย Proxity
มูลค่า Port ลดลงจากสิ้นปีที่แล้ว ราว 20% ครับ..
หลักๆ มาจาก
> SCNYL ร่วงจาก ห้าร้อยกว่าไป สามร้อยกว่า..แล้วตัดใจ cut loss ไป...เรียกว่า Cut ไปที่ราคาต่ำเกือบที่สุดเลย
> PTL แรกๆ ก็ไม่เข้าใจ เห็นว่าหุ้นดี กำไรดี แต่ราคาร่วงตลอด เป็นเพราะผมไม่เข้าใจ timing ในการลงทุนหุ้นวัฎจักร.. พอได้อ่านบทความของ ดร. เรื่องนี้แล้วถึงตาสว่าง..

..ถือเป็นค่าวิชา.. :wall: :wall: :wall:

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 12:34 am
โดย Green
ยังถือตัวเดิมๆ หมั่นศึกษาตัวใหม่ๆ
หมั่นอ่านหนังสือลงทุนหลายๆเล่ม
Active กว่าเดิมเยอะ
แต่ในพอร์ต ตอนนี้ ไม่ได้ทำอะไรมาเกือบ ปีกว่าๆ แล้ว
ราคาขึ้นไปกว่าที่คาดเยอะ หวังว่าผลประกอบการณ์จะมาตามนัด มันจะได้เป็นเพียง Temporary High price
ถ้ามาตามหวัง ก็คงดี ถ้าผิดคาดก็คงมึน

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 3:16 am
โดย dome@perth
ขอบคุณทั้งคำแนะนำ และ คำอวยพร จากพี่ picatos ครับ :bow: :bow:

กลยุทธ์ของผมไม่เปลี่ยนไปแต่อยา่งใด
ไมว่าจะตลาดจะถูกหรือแพง ก็ทำเหมือนเดิม
อย่างพี่หมอ สามัญชน บอก หาหุ้นที่ยังอันเดอร์แวลู่อยู่ตลอดเวลา

การถือหุ้นหลายตัวขึ้นของผม ไม่ได้หลากหลายจนไม่รู้จัก
ผมถือหุ้นอยู่มากสุด 6-8 ตัว หลักๆ 3-4 ตัวครับ
ก็วนเวียนอยู่กับตัวเดิมๆที่เคยศึกษาอยู่ อาศัยหลักการ switch
ไปมา เมื่อราคาหุ้นพวกนั้นขึ้นลงต่างเวลากัน (ลักจำวิธีการของ โยโย่ มา 555)

การคลอสเซ็คคุณภาพของหุ้นผมก็ยังต้องขอคำแนะนำอาจารย์ผมอยู่
การประเมินมูลค่าเพื่อหาราคาที่จะซื้อ อีกแหละ ยังต้องขอตัวช่วยอีกหลายท่าน

แต่ทั้งหมดทั้งปวง หลักการที่ถูกต้องก็อย่างที่พี่โตส แนะนำนะครับ
อย่าเอาผมมาเป็นสาระเลย ประสบการณ์ผมยังน้อยมากๆ
อาศัยความขยันอ่านเท่านั้นเอง :oops: :oops: :oops:

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 6:13 am
โดย surachet70
ตั้งเป้า 15% ทั้งปี ได้มา 7.5% เมื่อเดินทางมาครึ่งปี
ยังอยู่ในแผน แต่น่าจะทำได้ดีกว่านี้

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 7:00 am
โดย Murphy.Bkk
ได้ผลตอบแทนประมาณ 20% (ไม่รวมปันผล) ครับ
รู้สึกพอใจกับผลตอบแทนที่ได้ เพราะตั้งเป้าทั้งปีไว้น้อยกว่านี้ครับ
ที่ชนะตลาดได้ น่าจะมาจาก การถือหุ้นน้อยตัว ทำให้ผลตอบแทนไม่ไปตามตลาดและตัวที่มั่นใจถือในอัตราส่วนมาก และบังเอิญมันขึ้นมาครับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 10:44 am
โดย xsutt
ตอนนี้ได้ประมาณ 15% ครับ แต่ว่าลดพอร์ต ออกมาเกือบหมดเมื่อต้นเดือน มิถุนายน ยังไม่รู้จะเข้าไปตอนไหนดี ถ้าปีนี้ไม่ได้เข้าอีก ก็ได้ เท่านี้เลยครับ ฮิฮิ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 10:48 am
โดย CHOOKY
6เดือน54 คิดเทียบ YOY แล้ว ดีขึ้นมาก
6เดือน54 คิดเทียบ End of Year ก็ +13.xx% โดยในช่วง เดือนที่ผ่านมา swing อยู่ประมาณ + 9% ถึง + 13.xx%
-ข้อผิดพลาด คือ แพ้ใจตัวเอง / ไม่มั่นใจในกิจการ / กิจการที่เลือกแล้ว ราคาลดลงไม่กล้าซื้อ ฯ
-พัฒนาการที่ดีขึ้น - ประเมินมูลค่าหุ้นได้ดีขึ้น ในกิจการบางประเภท/ ตัดสินใจขายถูกเวลา(ราคาเกิน/ใกล้ มูลค่าที่ประเมินได้) ฯ

ขอบคุณเว็บ ไทยวีไอ รวมถึงเพื่อนสมาชิก ทุกท่าน ที่ช่วยขัดเกลา ครับ :bow:

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 11:04 am
โดย กาละมัง
noooon010 เขียน:ผมว่า เราไม่ได้ลงทุนเพื่อแข่งกับใคร บทเรียนที่เราได้จากการลงทุน และเราได้ทำอะไรอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์หรือเปล่านั้นน่าสนใจกว่ามาก เพราะสามารถนำมาใช้ได้ตลอดชีวิตครับ

สบายทั้งใจ และสบายทั้งเงินที่ลงทุนไว้ครับ มีเวลาว่างไปทำสิ่งที่เรารัก และมีเวลาไปศึกษาสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติม ได้รู้จักคนมากขึ้น เรียนรู้จากประสบการณ์ของเค้า (ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับหุ้น แต่นำมาพัฒนาแนวคิดได้นะครับ)

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม :D
+1 เห็นด้วยอย่างแรง และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่เคยวัดผลตอบแทนการลงทุน
สำคัญกว่า คือ การสะสมความรู้ connections และประสบการณ์ทุกวัน เพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น
สุดท้ายเมื่อมีอิสรภาพทางการเงิน เนื่องจากตายไปก็นำไปไม่ได้ ให้ครอบครัวก็เกินพอ ก็นำส่วนเกินที่สบายใจจะสละมาช่วยกันทำให้สังคมดีขึ้นบ้าง

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 11:35 am
โดย SupachaiZ594
6 เดือน ผลตอบแทนรวมไม่ถึง 10% ครับ :( :(

ปัจจุปันลดพอร์ตเหลือแค่ 10% กลัวตลาดจะเป็นขาลง

ลองปรับพอร์ตบางส่วนมาเทรดรายวันรายสัปดาห์ ปรากฏว่า ขาดทุนยับเยิน :wall: :wall:

สรุป ปีนี้ ผมแพ้ตัวเองยับเยินครับ หากลยุทธ์ใหม่ ๆ มาลองตลอดตั้งแต่ต้นปี จนตัวเองสับสน
สุดท้ายยอมตัดใจขายขาดทุนหลายตัวเพื่อตั้งต้นใหม่

ข้อคิดที่ได้ในปีนี้ คือ
เทรดเยอะ ไม่ได้หมายความว่า กำไรจะเยอะตาม
เทรดดี ๆ ไม่กี่ครั้ง ก็เีพียงพอแล้วกับกำไรงาม ๆ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 12:12 pm
โดย birth_pianist
ยังติดลบอยู่ 20 % ไม่ได้ผิดพลาดด้านการศึกษาหาหุ้น แต่ผิดพลาดด้านจิตใจอ่อนไหวเกินไป

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 2:45 pm
โดย HARINLUX
6 เดือน ผลตอบแทนบวก 27% ไม่รวมปันผล :)
ตอนนี้ ถือหุ้น ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะ หุ้นที่มีอยู่ รายได้และกำไรของกิจการ เป็นไปตามคาดหวังครับ :D

-----------------
ความรู้ คู่คุณธรรม

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 9:48 pm
โดย Warantact
รู้สึกหุ้นในตลาดค่อนข้างน่าเบื่อ ไม่ค่อยมีบริษัทลดกระหน่ำแบบเตะตาแตก

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 02, 2011 11:20 pm
โดย My House
picatos เขียน:
dome@perth เขียน:สวัสดีครับพี่มิ เอาครึ่งปีก่อนเลยหรือ :D

ของผมดีกว่าตลาด มาก ได้มากกว่าเป้าหมายทั้งปีแล้วหละ
แต่เำพื่อความไม่ประมาท เพลย์เซฟเพื่อให้พอร์ตไม่ลดลงกว่านี้
โดยการกระจายการถือครองหลายตัวขึ้น
และยังให้กองหน้า ใช้กลยุทธ์ เสาะ สืบ ขุด ล่า

หาหุ้นผลตอบแทนสูงอยู่ตลอดเวลา อย่าหยุดนิ่งพอร์ตเราเล็กอยู่
9 หลักเมื่อไหร่ค่อย สบายๆ ผ่อนคลายทีหลัง.......สู้ๆครับ

เป็นกำลังใจให้เบี้ยน้อยหอยน้อยด้วยกันทุกท่านครับ
ขอบคุณที่พี่โดมเป็นกำลังใจให้กับเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผมด้วยครับ...

:bow: :bow: :bow:

โดยส่วนตัวผมว่ากลยุทธหาหุ้นผลตอบแทนสูงอยู่ตลอดเวลา เป็นกลยุทธที่อันตรายในสภาวะตลาด เศรษฐกิจ และระดับความถูกแพงของหุ้นโดยรวม ณ ขณะนี้ครับ... สำหรับผม... กลยุทธที่ผมใช้ในช่วงนี้จะเป็นการรักษาเงินต้นอย่างระมัดระวัง ไม่เปิดตัวเองไปสู่ความเสี่ยงที่มากจนเกินไป... และไม่กระจายพอร์ตมากจนเกินไปครับ

ผมมีความเชื่อว่า... ความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดของ VI คือ ความเสี่ยงจากความไม่รู้และไม่เข้าใจในกิจการครับ... ดังนั้นการถือหุ้นมากตัวจนเกินไป บางทีเราลงทุนโดยมีความเข้าใจในกิจการนั้นๆ น้อยมากๆ โดยเข้าไปเล่นแค่ Story หนึ่งๆ ในกรอบระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงมาก หากเรื่องที่เราคิดไม่เป็นไปตามที่คาด และไม่มีพื้นฐานในระยะยาวรองรับ... ทำให้ผมตกรถ พลาดไม่ได้ลงทุนหุ้นไปหลายๆ ตัว... ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าเราเลือกกลยุทธแบบนี้ในการลงทุน

วันก่อนมีพี่คนนึงบอกว่าผมลงทุนอยู่ในหุ้นแค่ไม่กี่ตัว หุ้นตัวอื่นๆ ผมไม่สนใจหรอก... ซึ่งก็ทำให้ผมได้กลับมาพิจารณาตัวเองว่ามันเกิดจากอัตตา อคติส่วนตัว หรือความเห็นผิดบางอย่างที่ควรแก้ไขหรือไม่... พอมาพิจารณา... ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่... อันที่จริง ผมก็อ่าน ก็ศึกษากิจการอื่นๆ อยู่เรื่อยๆ... แต่ส่วนใหญ่ผมจะจบการศึกษาอยู่ที่ Business Model กับ Competitive Strategy แล้วก็ตัดกิจการนั้นๆ ออกไปจาก List เพราะ เป็นกิจการที่ยากเกินความสามารถของผมที่จะเข้าใจได้เป็นส่วนใหญ่... ตัวที่ผ่านเข้ามาใน List ก็จะลงลึกไปถึงระดับ Operation และระดับ Financial ... ถ้าระดับปฎิบัติการโอเค สภาพตลาดและเศรษฐกิจรองรับ และไม่มีความเสี่ยงมากจนเกินไป ค่อยจะลงลึกไปถึงระดับการประเมินมูลค่ากิจการและการศึกษางบการเงินอย่างละเอียด
โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า... ตลาดยิ่งแพงเรายิ่งหาหุ้นได้ยาก... ตลาดยิ่งแพงยิ่งหมายถึงความเสี่ยง โอกาสที่จะเกิดความเสียหายที่เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ... ดังนั้นผมเชื่อว่าในสภาวะตลาดแบบนี้ เราควรที่จะยกระดับ ยกมาตรฐาน การคัดกรอง เพิ่มความเข้มงวดในการคัดเลือกกิจการเข้ามาใน List ให้มากขึ้น... ผลลัพธ์ก็คือ ผมหาหุ้นใหม่ๆ ดีๆ เข้ามาในพอร์ตได้น้อยลงๆ...

นอกจากนี้... ผมมองว่า... ยิ่งตลาดแพง... เราควรจะควบคุมจิตใจให้อย่าคึกคักจนเกินไป ขยันหาหุ้นให้น้อยลง ระมัดระวังต่อสัญญาณเตือนภัยต่างๆ ให้มากขึ้น... ในขณะที่เกิดวิกฤต หรือตลาดหุ้นตกต่ำ กลับเป็นช่วงที่เราพยายามปลุกปลอบตัวเองให้คึกคักอย่างถึงที่สุด ควรขยันหาหุ้นให้มากๆ ... ซึ่งหากทำกลับกัน... หายนะในการลงทุนอาจมาเยือนได้หากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คาด... และส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คาดตามกฎไตรลักษณ์

การพยายามหาอัตราผลตอบแทนสูงสุด ภายใต้สภาวะตลาดแบบนี้ หมายถึง การยอมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น การต้องเลือกที่จะหลับตาข้างนึง ไปจนถึงการหลับตาข้างครึ่ง เลือกกิจการที่คุณภาพของรายได้และกำไรในอดีตไม่ค่อยมีเสถียรภาพ แต่มีศักยภาพที่จะสร้างรายได้และกำไรที่สูงในอนาคต โดยเมินเฉยกับคุณภาพและความโปร่งใสของผู้บริหาร รวมไปถึงหวังการเติบโตของกิจการที่มาจาก Non-Organic Growth ซึ่งพวก Non-Organic Growth เหล่านี้หากศึกษาในอดีต ผมว่าส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ไม่ได้สร้างรายได้และกำไรให้กับกิจการอย่างที่ผู้บริหารคุยโตโอ้อวดเอาไว้ได้เลยสักโครงการ โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะทำให้ภาพของกำไรในระยะสั้นตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย... และบางกิจการโครงการเหล่านี้กลับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหากับธุรกิจหลักด้วยซ้ำ

สุดท้ายนี้ ขอให้พี่โดมพอร์ตถึง 9 หลักไวๆ นะครับพี่...
สุดยอดครับ :bow: :bow: :bow:

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 03, 2011 9:21 am
โดย nACrophiles_117
ขอถามอะไรโง่ๆหน่อยครับ ว่าวิธีการคิดเป็นอย่างไร สมมติว่า

ปลายปี 53 มีเงินลงอยุ่ในพอร์ต 100 บาท มูลค่า ณ ปิดตลาดวันที่ 31 ธค เป็น 120 บาท

ต่อมา ในช่วง 6 เดือน ได้ปันผล ไป 5 บาท ระหว่างนี้ได้ทำการปรับพอร์ต หลงโจ้งคือ ขายหุ้นไปกำไร 10 บาท และเอาเงินดังกล่าว + เติมเงินใหม่เข้าไปอีก เพื่อไปซื้อหุ้นใหม่
สรุปว่าสิ้นวันที่ 30 มิย เม็ดเงินลงทุนในหุ้น เป็น 120 บาท มูลค่าหุ้นตอนปิดเป็น 125 บาท
อย่างนี้จะคิดผลตอบแทนเป็นกี่เปอร์เซนต์ครับ

ขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 03, 2011 11:50 am
โดย Nanotube
+89% YTD ครับ เริ่มถอยเหมือนกันจากเคยถือหุ้น 100% ก็ลดลงมาเหลือ 65% ครับ และเพิ่มสัดส่วนในหุ้นที่ไม่หวือหวามากแต่มีอนาคตครับ :D

บทเรียนสำคัญในช่วงครึ่งปีแรกนี้คือ 1.การรู้จักพอ และ 2.เราแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เรากำหนดอนาคตได้จากสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน :D

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 03, 2011 8:33 pm
โดย leonleon
25% รวมเงินปันผลครับ
ยอมรับว่าปีนี้เหนื่อย ยากพอดูครับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 03, 2011 9:10 pm
โดย porzilla
picatos เขียน: โดยส่วนตัวผมว่ากลยุทธหาหุ้นผลตอบแทนสูงอยู่ตลอดเวลา เป็นกลยุทธที่อันตรายในสภาวะตลาด เศรษฐกิจ และระดับความถูกแพงของหุ้นโดยรวม ณ ขณะนี้ครับ... สำหรับผม... กลยุทธที่ผมใช้ในช่วงนี้จะเป็นการรักษาเงินต้นอย่างระมัดระวัง ไม่เปิดตัวเองไปสู่ความเสี่ยงที่มากจนเกินไป... และไม่กระจายพอร์ตมากจนเกินไปครับ

ผมมีความเชื่อว่า... ความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดของ VI คือ ความเสี่ยงจากความไม่รู้และไม่เข้าใจในกิจการครับ... ดังนั้นการถือหุ้นมากตัวจนเกินไป บางทีเราลงทุนโดยมีความเข้าใจในกิจการนั้นๆ น้อยมากๆ โดยเข้าไปเล่นแค่ Story หนึ่งๆ ในกรอบระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงมาก หากเรื่องที่เราคิดไม่เป็นไปตามที่คาด และไม่มีพื้นฐานในระยะยาวรองรับ... ทำให้ผมตกรถ พลาดไม่ได้ลงทุนหุ้นไปหลายๆ ตัว... ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องทำใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าเราเลือกกลยุทธแบบนี้ในการลงทุน

วันก่อนมีพี่คนนึงบอกว่าผมลงทุนอยู่ในหุ้นแค่ไม่กี่ตัว หุ้นตัวอื่นๆ ผมไม่สนใจหรอก... ซึ่งก็ทำให้ผมได้กลับมาพิจารณาตัวเองว่ามันเกิดจากอัตตา อคติส่วนตัว หรือความเห็นผิดบางอย่างที่ควรแก้ไขหรือไม่... พอมาพิจารณา... ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่... อันที่จริง ผมก็อ่าน ก็ศึกษากิจการอื่นๆ อยู่เรื่อยๆ... แต่ส่วนใหญ่ผมจะจบการศึกษาอยู่ที่ Business Model กับ Competitive Strategy แล้วก็ตัดกิจการนั้นๆ ออกไปจาก List เพราะ เป็นกิจการที่ยากเกินความสามารถของผมที่จะเข้าใจได้เป็นส่วนใหญ่... ตัวที่ผ่านเข้ามาใน List ก็จะลงลึกไปถึงระดับ Operation และระดับ Financial ... ถ้าระดับปฎิบัติการโอเค สภาพตลาดและเศรษฐกิจรองรับ และไม่มีความเสี่ยงมากจนเกินไป ค่อยจะลงลึกไปถึงระดับการประเมินมูลค่ากิจการและการศึกษางบการเงินอย่างละเอียด

โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่า... ตลาดยิ่งแพงเรายิ่งหาหุ้นได้ยาก... ตลาดยิ่งแพงยิ่งหมายถึงความเสี่ยง โอกาสที่จะเกิดความเสียหายที่เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ... ดังนั้นผมเชื่อว่าในสภาวะตลาดแบบนี้ เราควรที่จะยกระดับ ยกมาตรฐาน การคัดกรอง เพิ่มความเข้มงวดในการคัดเลือกกิจการเข้ามาใน List ให้มากขึ้น... ผลลัพธ์ก็คือ ผมหาหุ้นใหม่ๆ ดีๆ เข้ามาในพอร์ตได้น้อยลงๆ...

นอกจากนี้... ผมมองว่า... ยิ่งตลาดแพง... เราควรจะควบคุมจิตใจให้อย่าคึกคักจนเกินไป ขยันหาหุ้นให้น้อยลง ระมัดระวังต่อสัญญาณเตือนภัยต่างๆ ให้มากขึ้น... ในขณะที่เกิดวิกฤต หรือตลาดหุ้นตกต่ำ กลับเป็นช่วงที่เราพยายามปลุกปลอบตัวเองให้คึกคักอย่างถึงที่สุด ควรขยันหาหุ้นให้มากๆ ... ซึ่งหากทำกลับกัน... หายนะในการลงทุนอาจมาเยือนได้หากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คาด... และส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คาดตามกฎไตรลักษณ์

การพยายามหาอัตราผลตอบแทนสูงสุด ภายใต้สภาวะตลาดแบบนี้ หมายถึง การยอมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น การต้องเลือกที่จะหลับตาข้างนึง ไปจนถึงการหลับตาข้างครึ่ง เลือกกิจการที่คุณภาพของรายได้และกำไรในอดีตไม่ค่อยมีเสถียรภาพ แต่มีศักยภาพที่จะสร้างรายได้และกำไรที่สูงในอนาคต โดยเมินเฉยกับคุณภาพและความโปร่งใสของผู้บริหาร รวมไปถึงหวังการเติบโตของกิจการที่มาจาก Non-Organic Growth ซึ่งพวก Non-Organic Growth เหล่านี้หากศึกษาในอดีต ผมว่าส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ไม่ได้สร้างรายได้และกำไรให้กับกิจการอย่างที่ผู้บริหารคุยโตโอ้อวดเอาไว้ได้เลยสักโครงการ โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะทำให้ภาพของกำไรในระยะสั้นตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย... และบางกิจการโครงการเหล่านี้กลับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหากับธุรกิจหลักด้วยซ้ำ
ขอบคุณครับพี่picatos สำหรับคำแนะนำดีๆที่แบ่งปัน :bow:

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 04, 2011 2:58 pm
โดย charonp
สุดยอดกันทุกคนเลยนะครับพี่ๆ ชาว VI ทั้งหลาย

แต่อยากให้คนแพ้เข้ามาแชร์กันเยอะๆครับ

ส่วนผมยังไม่ได้เข้าตลาดครับ ทุนยังไม่พอ

นับถือทุกท่านครับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 04, 2011 4:07 pm
โดย Unstablemind
charonp เขียน:สุดยอดกันทุกคนเลยนะครับพี่ๆ ชาว VI ทั้งหลาย

แต่อยากให้คนแพ้เข้ามาแชร์กันเยอะๆครับ

ส่วนผมยังไม่ได้เข้าตลาดครับ ทุนยังไม่พอ

นับถือทุกท่านครับ
ขอแชร์เรื่องแพ้น่ะปีห้าสามผมเข้ามาใหม่ๆก็ลองศึกษาหุ้นและไปเอาหุ้น tipco มาผมก็นั่งเห็นกำไรดีๆเฮฮาแบบเม่าโครตๆ แต่ผมทำการบ้านไม่พอ
เงินบาทแข็ง น้ำกลั่น(flood)สัปปรดมันเลยแพงแต่ตอนนั้นผมไม่รู้มันจะทำไห้กำไรติดลบ ผมไม่ได้ศึกษาปัจจัยหลักพอและพอราคามันตกแรงเสียดายที่ไม่ขายเพิ่งมาศึกษาอะไรได้บ้างถึงปัจจัยของธุรกิจนั้นและ fearมันก็เข้าและผมไปขายเพราะมันไม่ไห้ปันผล
และตอนนี้ผมทำการบ้านมากขึ้นก่อนจะลงทุนไม่รู้อ่ะแต่ตอนนี้ผมไม่ได้เก็บหุ้นมา
ตอนนี้ผมก็มีหุ้น ห้าสิบเปอร์ของพอร์ทที่ได้เก็บปีห้าสามเอาปัลผล
และอีกห้าสิบเปอร์ของพอร์ทก็เก็บเป็นเงินสดเพราะผมกำลังศึกษาอ่านงบบที่สนใจจะได้ไม่เจ็บ

So i don't know if my comments make any sense but the most important thing i have learned
is that you really have to do your homework. Doing your homework is so important!!!

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 04, 2011 6:53 pm
โดย CONAN
ผิดหวังกับตัวเองนิดหน่อยเรื่องการต่อราคาครับ อุตสาศึกษาbusiness model แล้วไปดูของจริงมาแล้วมั่นใจแล้ว ต่อแค่ 0.03 บาท มันก็วิ่งไปแล้ว เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าถ้ามั่นใจแล้ว อย่าต่อราคาแค่ไม่กี่สตางค์ เมื่อเทียบกับจำนวนเด้งที่มันเกิดขึ้น :wall: :wall:

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 04, 2011 9:43 pm
โดย c_man
ตัว ที่อยู่ใน Watch list วิ่งดีทุกตัว แต่ตัวที่ถือ คลานเป็นเต่า
เลย บวกไปแค่ 12 พอดีครับ
เศร้านิดหน่อย

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 04, 2011 11:41 pm
โดย Notelio
จบครึ่งปีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นมา 55 % จากสิ้นปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมเริ่มใช้ margin เป็นปีแรก เปรียบเทียบก็คงเหมือนกับบริษัทที่มี de สูงขึ้น แล้วทำให้ roe สูงขึ้นตามด้วย ยอมรับว่าค่อนข้างหวาดเสียวพอเห็นใครต่อใครลดพอร์ตลง เหลือแต่ผมที่ยังถือเต็ม port แล้วใช้ margin เต็มวงเงิน แถมออกอาการเสพติด margin ด้วย (เหลือวงเงินเท่าไหร่ต้องซื้อหุ้นหมด )

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2011 12:02 am
โดย Notelio
จบครึ่งปีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดเพิ่มขึ้นมา 55 % จากสิ้นปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมเริ่มใช้ margin เป็นปีแรก เปรียบเทียบก็คงเหมือนกับบริษัทที่มี de สูงขึ้น แล้วทำให้ roe สูงขึ้นตามด้วย ยอมรับว่าค่อนข้างหวาดเสียวพอเห็นใครต่อใครลดพอร์ตลง เหลือแต่ผมที่ยังถือเต็ม port แล้วใช้ margin เต็มวงเงิน แถมออกอาการเสพติด margin ด้วย (เหลือวงเงินเท่าไหร่ต้องซื้อหุ้นหมด )

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2011 12:16 am
โดย guaycheng
เคยได้สิบกว่าเปอร์เซ็นแต่สรุป ณ วันนี้ได้แค่เปอร์เซ็นกว่า เพราะในพอร์ตมี 2 ตัว แต่เอาเงินถมเพิ่มไปกับหุ้นตัวนึงคิดแล้วเป็นเงินเกือบ 3 เท่า ของอีกตัวนึง เลยถัวกันได้เปอร์เซ็นกว่าแค่นั้นเองครับ ปีนี้ขอแค่ได้ร้อยละ 15 ก็พอใจแล้ว

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2011 12:48 am
โดย sermsakv
พอเพียง พอดี พอใจ
ครึ่งปีท่านที่เกิน 25% ท่านได้แต่ใดมา สุดยอดครับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2011 12:49 am
โดย ถุงเงินเก่า
ผมรวมปันผลแล้วครับ
ครึ่งปี -10%
ปีต่อปี +79% ซึ่งชะลอตัวลงมาก
กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีอยู่ครับ

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2011 5:38 pm
โดย jo7393
ไม่น่าเชื่อ ลงทุนแบบเต่าแต่ผลตอบแทนครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแฮะ
รวมปันผล คำนวณแบบ IRR ได้ 19.27%
ลงทุนแต่ในหุ้นเต่าๆ เอื่อยซะมาก wg makro se-ed GL ตัวโกรทมีแค่ 2ตัว cpall กะ bla ก็ทำผลงานที่น่าพอใจได้แฮะ :B

Re: 2011 จบครึ่งปีแล้ว อาการเป็นไงกันบ้าง

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2011 5:48 pm
โดย jo7393
jo7393 เขียน:ไม่น่าเชื่อ ลงทุนแบบเต่าแต่ผลตอบแทนครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแฮะ
รวมปันผล คำนวณแบบ IRR ได้ 19.27%
ลงทุนแต่ในหุ้นเต่าๆ เอื่อยซะมาก wg makro se-ed GL ตัวโกรทมีแค่ 2ตัว cpall กะ bla ก็ทำผลงานที่น่าพอใจได้แฮะ :B
พิมพ์ผิดคับ ที่ถูก คือไม่รวมปันผล