หน้า 2 จากทั้งหมด 3

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 10:40 am
โดย janont
ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เช่นกันครับ ไม่ใช่เป้าหมายหลักของผม

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 10:47 am
โดย Notelio
ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้มั้ยไม่รู้ครับ แต่ที่รู้คือชีวิตนักลงทุน ทำให้คนธรรมดาๆคนนึง ที่เรียนไม่เก่ง ไม่มีกิจการที่บ้านให้รับช่วง ไม่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ไม่มีความสามารถในการบริหารคน เป็นเพียงพนักงาน office ธรรมดา เงินเดือนหมื่นต้นๆ เป้าหมายเลข 7 หลักยังไม่รู้ว่ากี่ปีจะถึง สามารถพบอิสระทางการเงินได้ครับ

สุดท้ายผมยังเชื่อในหลักการของ put the right man to the right job, right place, right time คนบางคนอาจเกิดมาเพื่อจะเป็นเจ้าของกิจการ เป็นพ่อค้า เป็นผู้บริหาร เป็นพนักงานกินเงินเดือน บางคนอาจจะเกิดมาเป็น VI ขั้นเทพ สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักตัวเองให้ได้ว่าเราถนัดอะไร ทำในสิ่งที่เราชอบ มีความสุขกับมัน นั่นแหละครับถึงจะเป็นคำตอบว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งนั้นมั้ย

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 11:05 am
โดย sarawut_p
Notelio เขียน:ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้มั้ยไม่รู้ครับ แต่ที่รู้คือชีวิตนักลงทุน ทำให้คนธรรมดาๆคนนึง ที่เรียนไม่เก่ง ไม่มีกิจการที่บ้านให้รับช่วง ไม่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ไม่มีความสามารถในการบริหารคน เป็นเพียงพนักงาน office ธรรมดา เงินเดือนหมื่นต้นๆ เป้าหมายเลข 7 หลักยังไม่รู้ว่ากี่ปีจะถึง สามารถพบอิสระทางการเงินได้ครับ

สุดท้ายผมยังเชื่อในหลักการของ put the right man to the right job, right place, right time คนบางคนอาจเกิดมาเพื่อจะเป็นเจ้าของกิจการ เป็นพ่อค้า เป็นผู้บริหาร เป็นพนักงานกินเงินเดือน บางคนอาจจะเกิดมาเป็น VI ขั้นเทพ สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักตัวเองให้ได้ว่าเราถนัดอะไร ทำในสิ่งที่เราชอบ มีความสุขกับมัน นั่นแหละครับถึงจะเป็นคำตอบว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งนั้นมั้ย
+1 ครับ ตรง รู้จักตัวเอง

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 12:07 pm
โดย baggio
Notelio เขียน:ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้มั้ยไม่รู้ครับ แต่ที่รู้คือชีวิตนักลงทุน ทำให้คนธรรมดาๆคนนึง ที่เรียนไม่เก่ง ไม่มีกิจการที่บ้านให้รับช่วง ไม่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ ไม่มีความสามารถในการบริหารคน เป็นเพียงพนักงาน office ธรรมดา เงินเดือนหมื่นต้นๆ เป้าหมายเลข 7 หลักยังไม่รู้ว่ากี่ปีจะถึง สามารถพบอิสระทางการเงินได้ครับ

สุดท้ายผมยังเชื่อในหลักการของ put the right man to the right job, right place, right time คนบางคนอาจเกิดมาเพื่อจะเป็นเจ้าของกิจการ เป็นพ่อค้า เป็นผู้บริหาร เป็นพนักงานกินเงินเดือน บางคนอาจจะเกิดมาเป็น VI ขั้นเทพ สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักตัวเองให้ได้ว่าเราถนัดอะไร ทำในสิ่งที่เราชอบ มีความสุขกับมัน นั่นแหละครับถึงจะเป็นคำตอบว่าเราเกิดมาเพื่อสิ่งนั้นมั้ย
+1 คับ Notelio :D

ผมว่าคนที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่เราชอบ มันเป็นความสุขนะ และก็จะทำมันได้ดี เพราะเรามีความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งนั้น โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบังคับให้ทำ

และคนที่เข้ามาอ่านในบอร์ดนี้บ่อย ๆ ก็น่าจะเป็นคนที่ชอบการลงทุนทั้งนั้นครับ เพราะมีความสุขที่เราได้อ่านในสิ่งที่เราชอบ ที่เราสนใจ :P

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 12:39 pm
โดย areliang
แต่ก่อนผมเคยได้ดูหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อเรื่อง the family man

ตัวเอก เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นชาวอเมริกา พอเรียนจบ ได้ตัดสินใจไปฝึกงานที่ประเทศอังกฤษ ทางด้านการเงิน โดยต้องห่างจากแฟนที่คบกันมานานอย่างดี

และฉากก็ตัดมาที่หลังจากเวลานั้น 13 ปี ชายคนนี้ อาศัยอยู่ในที่พักสุดหรูคนเดียว ได้เป็น ceo ของบริษัทการเงินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เป็นผู้นำ และมีความเชื่อมั่นสูงมากๆ ในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ

จนกระทั่งคืนวันหนึ่ง เป็นคืนเกี่ยวกับวันคริสมาส

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 1:10 pm
โดย warlord
ลองหาเป้าหมายในชีวิตของตัวเองก่อน ว่าจริงๆ ต้องการอะไร
แล้วลองหาวิธีที่จะไปถึงเป้าหมายครับ ซึ่งอาจจะมีมากมายหลายวิธี ลองหาสิ่งที่ตัวเองถนัด ทำแล้วมีความสุข

ไอน์สไตน์พูดไว้ว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความคิด" :D :D :D
=> ฝันให้สูงเข้าไว้ เก็บไว้เป็นแรงจูงใจ เพื่อให้ความฝันเราเป็นจริง

สำหรับผม ผมฝันไว้ว่า ผมต้องการความอิสระ อยากทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ โดยไม่ต้องพะวงเรื่องเงินๆ ทองๆ
ให้เวลากับครอบครัวได้ 100%

โดยปัจจุบัน ผมพบว่า "การลงุทน" เป็นคำตอบสำหรับวิธีที่จะบรรลุเป้าหมายของผม
หลังจากเริ่มการลงทุนแบบ VI มา 2 ปี(ก่อนหน้านี้เล่นเก็งกำไร แต่ไม่ถึงกับ trade รายวัน) ผลตอบเทนยังเป็นที่น่าพอใจ(มาก)อยู่ครับ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 1:17 pm
โดย patto_kung
สำหรับผมจะเรียกว่า มั่นใจไหมก็ตอบได้ลำบาก เพราะนอกจากการลงทุนผมก็ยังคงมีความสุขกับการทำงานเป็นพนักงานกินเงินเดือนอยู่ ได้ทำงานในสายอาชีพที่เรียนมา (ที่เลือกเรียนสายอาชีพนี้ก็เพราะชอบด้วย) แต่ถ้าถามว่า ไม่ได้ทำงานแล้วจะไปทำอะไร คำตอบก็คือเป็น "นักลงทุน" ครับ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 1:21 pm
โดย areliang
คืนนั้นเองที่เขาได้เข้านอน อย่างเหนื่อยนิดหน่อย

และตอนเช้า เขาก็ตื่นขึ้นมา บนสถานที่หนึ่งที่ไม่มีอะไรเหมือนห้องพักสุดหรูของเขาเลย

และก็ได้เห็นว่า แฟนเขาที่ห่างกันไป 13 ปี นอนอยู่ข้างๆ และมีลูก อีก 2 คน คนแรกเป็นหญิง อายุ สัก 5-6 ขวบมั้ง อีกคนเป็นชาย เบบี้ อยู่เลย

และพอเขาตื่นขึ้น พร้อมกับตกใจ จึงรีบไปขับรถตู้ เข้าไปยังเมืองที่มีที่พักและที่ทำงานของเขา ตึกเหมือนเดิม แต่คนเปลี่ยนไป ทุกๆคนไม่รู้จักเขาเลย เปรียบเหมือนว่าเขาไม่เคยมีตัวตนอยู่

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 1:28 pm
โดย areliang
เขาจึงขับรถกลับบ้าน

และเขาก็ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัว ที่มีแฟนเก่า และลูกอีก 2คนเรื่อยมา และงานใหม่ของเขาตอนนี้ คือ ผู้จัดการร้านขายยางรถยนต์ และใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตอนแรก อยู่ขั้นเซ็งจัดแบบว่าทุกข์มาก แล้วค่อยๆ ชิน ขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นแบบสบายๆ และก็กลายเป็นชีวิตที่ขาดไม่ได้ แบบมีความสุขจนไม่อยากให้ขาดหายไป
เขาได้ลืมชีวิต ที่เขาเคยเป็น ceo ไปมากแล้ว
จนวันหนึ่ง ประธาน ของบริษัทการเงินที่เขาเคยเป็น ceo รถได้ยางแตก และได้มาเปลี่ยนยางร้านที่เขาได้ทำงานอยู่ เลยได้พูดคุยกัน จนกระทั่ง ประธาน อนุมัติ ให้เขากลับเข้ามาทำงานในส่วนบริหารอีกครั้ง
เขาดีใจมาก

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 2:06 pm
โดย areliang
แต่หลังจากได้คุยกับภรรยาเขา ครอบครัวเขาดูไม่เห็นด้วยนัก กับการย้ายไปอยู่อีกเมือง ซึ่งจะทำให้ภรรยาทิ้งงานของตัวเอง ซึ่งดูเหมือนเป็นทนายการกุศล ได้เงินไม่มาก และต้องให้ลูกๆย้ายโรงเรียน

และเขากับภรรยา ก็ได้คุยกัน

เขาพูดให้ภรรยาฟังแบบสบายๆไม่เครียดอะไร ว่า แต่ก่อนทุกเช้า ที่เขาจะไปทำงาน ceo เขาจะหนีบหนังสือสือพิมพ์ wall street แล้วก็ถือกาแฟ ร้อนๆ หนึ่งถ้วย แล้วก็ไปทำงาน เขามั่นใจมาก ว่านี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ มั่นใจในทุกๆการตัดสินใจ ทุกๆการกระทำ มันเป็นชีวิตที่ดูดีกว่านี้ตั้งมากมายหลายเท่า(พูดเหมือนผิดหวังเล็กๆแต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว)

ภรรยาก็เล่าว่า แล้วคิดว่าตัวฉัน ไม่อยากหาเงินได้เยอะๆ มีทุกอย่างแบบที่คนอื่นเขามีเหรอ ฉันก็อยากมีจริงๆนะ แต่ฉันได้ลบสิ่งเหล่านั้นออกไปหมดแล้ว ตั้งแต่มีเรา และครอบครัว นี่คือสิ่งที่ฉันมั่นใจ

เขาก็เลยพูดต่อว่า ตอนนี้สิ่งที่เขามั่นใจที่สุด คือ ไม่มีที่ที่ไหนที่เขาต้องการอยู่ เท่ากับการอยู่ที่นี่กับคุณ

ความมั่นใจของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ตามสิ่งที่เขาได้สัมผัส ได้รับรู้ และได้เข้าใจ จากหัวใจ
แต่แน่นอนตามที่คาดกัน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความจริง

ประสบการณ์ที่เขาได้เจอนี้เป็นความฝัน หรือที่ถูกเรียกว่า การชำเลืองมอง

หลังจากตื่นขึ้นมา ในชีวิตจริงของเขา เขาก็รู้สึกผิดหวัง ผิดหวังจริงๆ
เขาไม่ต้องการชีวิตจริงที่ very high ของเขาตอนนี้ เขาต้องการชีวิตครอบครัวที่เรียบง่ายเหมือนในฝัน
แต่ความจริง ก็คือความจริง และในเมื่อเขารู้ว่า อะไรกันแน่ที่เขาต้องการ เขาจึงตามหา

เขาหาที่อยู่ของแฟนเก่า เขา ซึ่งตอนนี้ เป็นทนาย ระดับรายได้ดีทีเดียว แต่ที่บังเอิญคือ เขายังโสด แต่กำลังต้องย้ายไปทำงานที่ ฝรั่งเศส

แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ พยายามขอโอกาส ในการพูดคุย แล้วก็จบครับ

ไม่รู้ว่าพอจะอ่านรู้เรื่องกันรึเปล่า
แต่นี่คือ ตัวอย่าง ความมั่นใจ อันหนึ่งที่ผมได้เคยพบเห็น และมันสำคัญสำหรับชีวิตผมมากทีเดียว

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 4:28 pm
โดย VTchai
:P ผมคิดว่าผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้หรือไม่ ไม่มีคำตอบในใจผมแต่สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่เืพื่ออนาคตของผมและครอบครัวซึ่งผมมั่นใจครับว่าผมเลือกมาถูกทางแล้วและกำลังก้าวไปอย่างมั่นใจและมั่นคงในหลักการของนักลงทุนเน้นคุณค่า

VTchai

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 4:40 pm
โดย carbondale
areliang เขียน:แต่หลังจากได้คุยกับภรรยาเขา ครอบครัวเขาดูไม่เห็นด้วยนัก กับการย้ายไปอยู่อีกเมือง ซึ่งจะทำให้ภรรยาทิ้งงานของตัวเอง ซึ่งดูเหมือนเป็นทนายการกุศล ได้เงินไม่มาก และต้องให้ลูกๆย้ายโรงเรียน

และเขากับภรรยา ก็ได้คุยกัน

เขาพูดให้ภรรยาฟังแบบสบายๆไม่เครียดอะไร ว่า แต่ก่อนทุกเช้า ที่เขาจะไปทำงาน ceo เขาจะหนีบหนังสือสือพิมพ์ wall street แล้วก็ถือกาแฟ ร้อนๆ หนึ่งถ้วย แล้วก็ไปทำงาน เขามั่นใจมาก ว่านี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ มั่นใจในทุกๆการตัดสินใจ ทุกๆการกระทำ มันเป็นชีวิตที่ดูดีกว่านี้ตั้งมากมายหลายเท่า(พูดเหมือนผิดหวังเล็กๆแต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว)

ภรรยาก็เล่าว่า แล้วคิดว่าตัวฉัน ไม่อยากหาเงินได้เยอะๆ มีทุกอย่างแบบที่คนอื่นเขามีเหรอ ฉันก็อยากมีจริงๆนะ แต่ฉันได้ลบสิ่งเหล่านั้นออกไปหมดแล้ว ตั้งแต่มีเรา และครอบครัว นี่คือสิ่งที่ฉันมั่นใจ

เขาก็เลยพูดต่อว่า ตอนนี้สิ่งที่เขามั่นใจที่สุด คือ ไม่มีที่ที่ไหนที่เขาต้องการอยู่ เท่ากับการอยู่ที่นี่กับคุณ

ความมั่นใจของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ตามสิ่งที่เขาได้สัมผัส ได้รับรู้ และได้เข้าใจ จากหัวใจ
แต่แน่นอนตามที่คาดกัน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความจริง

ประสบการณ์ที่เขาได้เจอนี้เป็นความฝัน หรือที่ถูกเรียกว่า การชำเลืองมอง

หลังจากตื่นขึ้นมา ในชีวิตจริงของเขา เขาก็รู้สึกผิดหวัง ผิดหวังจริงๆ
เขาไม่ต้องการชีวิตจริงที่ very high ของเขาตอนนี้ เขาต้องการชีวิตครอบครัวที่เรียบง่ายเหมือนในฝัน
แต่ความจริง ก็คือความจริง และในเมื่อเขารู้ว่า อะไรกันแน่ที่เขาต้องการ เขาจึงตามหา

เขาหาที่อยู่ของแฟนเก่า เขา ซึ่งตอนนี้ เป็นทนาย ระดับรายได้ดีทีเดียว แต่ที่บังเอิญคือ เขายังโสด แต่กำลังต้องย้ายไปทำงานที่ ฝรั่งเศส

แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ พยายามขอโอกาส ในการพูดคุย แล้วก็จบครับ

ไม่รู้ว่าพอจะอ่านรู้เรื่องกันรึเปล่า
แต่นี่คือ ตัวอย่าง ความมั่นใจ อันหนึ่งที่ผมได้เคยพบเห็น และมันสำคัญสำหรับชีวิตผมมากทีเดียว
+1 นึกว่าจะมีผมคนเดียวซะอีกที่ชอบหนังเรื่องนี้ ดูมาสี่รอบแล้วครับจนจำประโยคพูดได้แล้ว
หนังเรื่องนี้สื่อให้คิดถึงเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตนั่นคือการตัดสินใจ แค่เพียงการตัดสินใจของพระเอกว่าจะไปเรียนต่อ
ผลก็เป็นอีกแบบแต่ถ้าไม่ไปเรียนต่อแล้วอยู่กับนางเอกก็เป็นอีกแบบ มันก็เหมือนกับว่าเราตัดสินใจขายหุ้นตัวหนึ่ง
ไปหาอีกตัวหนึ่งซึ่งเราเองก็ต้องตัดสินใจแม้ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ ส่วนตัวผมเองผม "อยากที่จะเป็นนักลงทุน"แต่ไม่ได้คิด
ว่าตัวเองเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่ยิ่งนานก็ยิ่งรู้สึกว่ามีอะไรที่ให้ค้นหาและเรียนรู้อยู่เสมอ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 6:18 pm
โดย SunShine@Night
supparsorn เขียน:
sarawut_p เขียน:
supparsorn เขียน:ผมขายธุรกิจส่วนตัว (นอกตลาดฯ) ทั้งหมดของผม แล้วหันมาลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แทนครับ แต่ผมมองในแง่ของการร่วมหุ้นทำธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้นะครับ หวังเรื่องของการเจริญเติบโตของเงินปันผลในปีต่อๆ ไปเป็นหลักครับ ไม่เคยคิดว่าจะรวยเร็วๆ จาก Capital Gain ครับ และไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าต้องได้เท่าโน้นเท่านี้ครั้งละมากๆ แต่เน้นความมั่นคงในชีวิตเป็นหลัก

ความคิดผมอาจจะไม่ค่อยเหมือนคนส่วนใหญ่ คือ ผมไม่ค่อยชอบตอนหุ้นราคาขึ้นเท่าไหร่ เนื่องจากจะทำให้ผมเอาเงินปันผลที่ได้มาเก็บสะสมหุ้นที่ผมชอบได้จำนวนน้อยลงครับ เพราะหากคิดในมุมของการทำธุรกิจแล้ว การใช้เงินจำนวนเท่าเดิม แต่สามารถเพ่ิมความเป็นเจ้าของบริษัทได้มากๆ (เนื่องจากหุ้นราคาถูก) ย่อมถือเป็นโอกาสครับ ส่วนตอนราคาหุ้นเพ่ิมขึ้นไปมากๆ เนื่องจากผมไม่ค่อยมีความคิดจะขายหุ้นที่ตัวเองถืออยู่แล้ว มูลค่าพอร์ตที่โตขึ้นจาก Unrealized Capital Gain จึงไม่มีความหมายมากเท่าไหร่สำหรับผมครับ มันเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น

แต่นี้ก็เป็นแค่เพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
เป็นสไตล์ที่น่าสนใจครับ
อยากทราบว่าทำไมตอนหุ้นขึ้นไปมาก ๆ จนเกิดมูลค่าที่แท้จริงของมัน ทำไมถึงไม่คิดขายครับ

ครับ สำหรับผมแล้ว การลงทุน คือ การหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเงินของเราครับ (ในแง่ของผลตอบแทนจากกิจการนั้นๆ และความเสี่ยง) ดังนั้น เวลาที่ผมลงทุน ผมจะมองในเชิงของการเปรียบเทียบมากกว่าครับ โดยทั่วไป ผมจะไม่ค่อยขายหุ้นในบริษัทที่ผมถืออยู่ นอกเสียจากว่ามีตัวเลือกที่ดีกว่าให้ผมต้องทำการสลับตัว ก็อาจจะตัดใจขายหุ้นบริษัทเดิมเพื่อไปถือหุ้นในบริษัทใหม่ครับ

คำว่า "ตัวเลือกที่ดีกว่า" ของผม หมายความว่า ผมสามารถเป็นเจ้าของในบริษัทใหม่ในสัดส่วนที่มากกว่าบริษัทที่ผมถือหุ้นอยู่ปัจจุบัน (โดยที่ผมวิเคราะห์เปรียบเทียบแล้วเรื่องความเสี่ยงของทั้ง 2 บริษัท) เพราะนั้นจะสามารถทำให้ผมได้เงินปันผลมากขึ้นในงวดต่อๆ ไป เพื่อนำย้อนกลับไปสะสมหุ้นเพ่ิมขึ้นได้อีกครับ

ความจริงแล้ว ผมคิดว่า วิธีเปรียบเทียบทางเลือกในการลงทุน ที่ผมใช้อยู่ ก็ไม่ได้แตกต่างจากการหามูลค่าหุ้นที่เหมาะสมในเชิง Concept ลึกๆ เท่าไหร่นะครับ เพียงแต่ผมไม่ได้ไปตั้งธงว่า เมื่อหุ้นตัวหนึ่งราคาเพ่ิมมาถึงเท่านั้นเท่านี้แล้วจะต้องขายเพื่อ "ทำกำไร" เพียงแต่ว่า หากหุ้นที่ผมถืออยู่ราคามันเพ่ิมขึ้นไปมากจนเกินไปมาก จนพอมองเปรียบเทียบกับหุ้นตัวอื่น มันก็จะเป็นตัวบอกให้เรารู้ว่า มันเร่ิมมีทางเลือกที่ดีกว่าโผล่ขึ้นมาบอกเป็นนัยให้เราย้ายเงินไปลงทุนที่อื่นแทนแล้วครับ (แต่นานๆ มันถึงจะเกิดขึ้นสักทีครับ)

ส่วนวิธีการหามูลค่าที่เหมาะสม ในความคิดของผม คิดว่าทำให้มีความแม่นยำได้ยากพอสมควรครับ สมัยตอนทำ MBA (Finance) ผมก็ใช้วิธี DCF ในการหามูลค่าหุ้นนี้แหละครับ แต่ปัญหาก็คือว่า ทุกๆ อย่างในอีก 5-10 ปี ข้างหน้า ล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุต (คาดคะเน) ทั้งสิ้นถูกไหมครับ? แค่ Discount Rate เปลี่ยนไปนึดเดียว วิธี DCF ก็ให้คำตอบต่างกันมากแล้วครับ เรียกว่าแทบจะเนรมิตคำตอบที่ต้องการได้ดั่งใจ เพียงแค่เปลี่ยนสมมุตฐานนึดๆ หน่อยๆ

ผมไม่ได้บอกว่าวิธี DCF ไม่ดีนะครับ เพียงแต่ว่า สมมุตว่าต่อให้เราตั้งสมมุติฐานทุกอย่าง "เหมาะสม" ในความคิดของเรา แต่คนอื่นๆ ในตลาดอาจจะมีความ "เหมาะสม" แตกต่างไปจากเรา ซึ่งทำให้ใช้เป็นบรรทัดฐานได้ยากครับ

ความจริงสมัยเรียน ผมใช้วิธี DCF จนคล่องเสียจน Professor ให้ผมไปเป็นผู้ช่วยสอนเด็กปริญญาตรีในสมัยนั้น แต่ที่เล่าให้ฟังนี้ไม่ได้ต้องการบอกว่าผมรู้มากแต่อย่างใด แค่ต้องการยกตัวอย่างให้เห็นว่า ผมไม่ได้มีอคติกับวิธี DCF ครับ เพียงแต่ผมพยายามมองด้วยใจที่เป็นกลางครับ ปัจจุบันผมไม่ได้ใช้วิธีนี้ในการวิเคราะห์หุ้นเท่าไหร่แล้วครับ
แนวห่านทองคำป่าวครับ :)

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 7:37 pm
โดย old_man_and_the_set
areliang เขียน:แต่หลังจากได้คุยกับภรรยาเขา ครอบครัวเขาดูไม่เห็นด้วยนัก กับการย้ายไปอยู่อีกเมือง ซึ่งจะทำให้ภรรยาทิ้งงานของตัวเอง ซึ่งดูเหมือนเป็นทนายการกุศล ได้เงินไม่มาก และต้องให้ลูกๆย้ายโรงเรียน

และเขากับภรรยา ก็ได้คุยกัน

เขาพูดให้ภรรยาฟังแบบสบายๆไม่เครียดอะไร ว่า แต่ก่อนทุกเช้า ที่เขาจะไปทำงาน ceo เขาจะหนีบหนังสือสือพิมพ์ wall street แล้วก็ถือกาแฟ ร้อนๆ หนึ่งถ้วย แล้วก็ไปทำงาน เขามั่นใจมาก ว่านี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ มั่นใจในทุกๆการตัดสินใจ ทุกๆการกระทำ มันเป็นชีวิตที่ดูดีกว่านี้ตั้งมากมายหลายเท่า(พูดเหมือนผิดหวังเล็กๆแต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว)

ภรรยาก็เล่าว่า แล้วคิดว่าตัวฉัน ไม่อยากหาเงินได้เยอะๆ มีทุกอย่างแบบที่คนอื่นเขามีเหรอ ฉันก็อยากมีจริงๆนะ แต่ฉันได้ลบสิ่งเหล่านั้นออกไปหมดแล้ว ตั้งแต่มีเรา และครอบครัว นี่คือสิ่งที่ฉันมั่นใจ

เขาก็เลยพูดต่อว่า ตอนนี้สิ่งที่เขามั่นใจที่สุด คือ ไม่มีที่ที่ไหนที่เขาต้องการอยู่ เท่ากับการอยู่ที่นี่กับคุณ

ความมั่นใจของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ตามสิ่งที่เขาได้สัมผัส ได้รับรู้ และได้เข้าใจ จากหัวใจ
แต่แน่นอนตามที่คาดกัน เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความจริง

ประสบการณ์ที่เขาได้เจอนี้เป็นความฝัน หรือที่ถูกเรียกว่า การชำเลืองมอง

หลังจากตื่นขึ้นมา ในชีวิตจริงของเขา เขาก็รู้สึกผิดหวัง ผิดหวังจริงๆ
เขาไม่ต้องการชีวิตจริงที่ very high ของเขาตอนนี้ เขาต้องการชีวิตครอบครัวที่เรียบง่ายเหมือนในฝัน
แต่ความจริง ก็คือความจริง และในเมื่อเขารู้ว่า อะไรกันแน่ที่เขาต้องการ เขาจึงตามหา

เขาหาที่อยู่ของแฟนเก่า เขา ซึ่งตอนนี้ เป็นทนาย ระดับรายได้ดีทีเดียว แต่ที่บังเอิญคือ เขายังโสด แต่กำลังต้องย้ายไปทำงานที่ ฝรั่งเศส

แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ พยายามขอโอกาส ในการพูดคุย แล้วก็จบครับ

ไม่รู้ว่าพอจะอ่านรู้เรื่องกันรึเปล่า
แต่นี่คือ ตัวอย่าง ความมั่นใจ อันหนึ่งที่ผมได้เคยพบเห็น และมันสำคัญสำหรับชีวิตผมมากทีเดียว
ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกันครับ Nicolas Cage นำแสดง

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 8:34 pm
โดย sarawut_p
กระทู้นี้ป๊อบมากเลยครับ ยังไม่ถึง ๒ วันดี จัดไปแล้ว 1524 View

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 8:50 pm
โดย Flashy
สำหรับผม คิดว่าไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้
แต่สิ่งนี้เกิดมาเพื่อผมต่างหาก เพราะผมคงไม่ใช่พ่อค้าเงินล้าน ข้าราชการดีเด่น แม่ทัพทหารเอก พ่อครัวหัวป่า ผู้บริหารระดับสูง ฯลฯ
แต่มีอาชีพเดียวที่เหมาะกับตัวผม ตอบโจทย์ผม และผมหลงใหลมัน ...นักลงทุนนั่นเอง (แนว VI ด้วยนะจ๊ะ)

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 9:32 pm
โดย navapon
แค่"ตั้งใจ"เฉยๆครับ เพราะพิจารณาอย่างดีแล้วว่า การลงทุนจะทำให้ประสพความสำเร็จได้จริง
ส่วน"มั่นใจ"ยังไม่มั่นใจ เพราะเพิ่งลงทุน ไม่รู้ว่าเราจะทำได้ไหม แต่จะพยายามต่อไปครับ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 10:22 pm
โดย nanoVI
:D :D ไม่แน่ใจว่าเหมาะมั้ย? แต่ชอบที่ได้เป็น.. :D :D

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 18, 2011 10:57 pm
โดย zephyr
ผมก็คิดว่าตัวเองไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้

แต่ตอนนี้ ผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ผมมีอิสระภาพทางการเงินได้เร็วที่สุดครับ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 9:29 am
โดย คลายเครียด
ผมเรียกตัวเองว่า


ผู้เดินทางแสวงหาเงินในตลาดหลักทรัพย์


:mrgreen: :B :P :D

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 9:43 am
โดย jack_jack
คลายเครียด เขียน:ผมเรียกตัวเองว่า


ผู้เดินทางแสวงหาเงินในตลาดหลักทรัพย์


:mrgreen: :B :P :D
งั้นแบบผมนี่น่าจะเป็น ผู้เดินเล่นพยายามหาเงินในตลาดหลักทรัพย์

แต่ไหงเดินไปเดินมา ทำท่าจะกลายเป็น ผู้หลงทางเดินบริจาคเงินในตลาดหลักทรัพย์
ก็ไม่รู้ :'O

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 9:56 am
โดย คลายเครียด
jack_jack เขียน:
คลายเครียด เขียน:ผมเรียกตัวเองว่า


ผู้เดินทางแสวงหาเงินในตลาดหลักทรัพย์


:mrgreen: :B :P :D
งั้นแบบผมนี่น่าจะเป็น ผู้เดินเล่นพยายามหาเงินในตลาดหลักทรัพย์

แต่ไหงเดินไปเดินมา ทำท่าจะกลายเป็น ผู้หลงทางเดินบริจาคเงินในตลาดหลักทรัพย์
ก็ไม่รู้ :'O
เดินทางแสวงหาเงิน ก็เดินเล่นไป แสวงหาเงินไปได้นะครับ
ไม่ต้องเอาเป็น เอาตาย ว่าจะต้องได้เท่านั้นเท่านี้ จะต้องไปให้ถึงในเวลา เท่านั้น เท่านี้
พอไม่ได้อย่างที่หวัง ก็เกิดความไม่พึงพอใจในชีวิตตัวเอง

ยังไง ทุกคนก็ต้องไปวัดเหมือนกันหมด
เพียงแต่ก่อนที่จะเดินทางไปวัดเป็นครั้งสุดท้าย
เราได้เดินทางแสวงหาเงิน อย่างมีความพึงพอใจในชีวิตตัวเองหรือเปล่า

หลงทางบ้างก็ดีนะครับ เพราะเรารู้ตัวว่ากำลังหลงทาง
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ไม่รู้ตัวว่ากำลังหลงทาง


"แผนที่แผ่นไหนในโลกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเราไม่รู้ว่า เรากำลังยืนอยู่ตรงไหนในแผนที่"


:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 10:11 am
โดย saichon
ผมวางเป้าหมายใหญ่ๆสำหรับชีวิตไว้4-5เรื่องครับ

เรื่องที่1 คือครอบครัว ที่ผมวางแผนจะสร้างครอบครัวที่ไม่สร้างภาระให้สังคม
และจะช่วยเหลือสังคมเท่าที่พอจะทำได้
เรื่องที่2 คือเรื่องสุขภาพ ที่ผมวางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงในช่วงสูงวัยของผม
เรื่องที่3 คือเรื่องการลงทุน ซึ่งวีไอคือแนวทางที่ผมศรัทธา หลงไหลและจะยึดถือปฏิบัติต่อไปในอนาคต
เรื่องที่4 คือเรื่องความสุขสงบทางจิตวิญญาญ
เรื่องที่5 เป็นเรื่องของความสุข ความบันเทิงในการดำรงชีวิต

ไม่รู้ตอบตรงคำถามหรือเปล่า
แต่คิดว่านักลงทุนคือ1ในเป้าหมายใหญ่ๆในการดำรงชีวิตของผมครับ :D

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 2:54 pm
โดย akekarat
มั่นใจมานานแล้วครับ ว่าผมไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้
แต่ว่าการลงทุนเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมมีเงินและเวลาไปทำในสิ่งที่เกิดมาอยากจะทำ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 4:03 pm
โดย aonzzung
Financial Freedom คือเป้าหมายปลายทางของผมครับ
Stock Investment เป็นเพียง vehicle อันหนึ่งที่ผมชอบ ผมศึกษามัน สนุกกับมัน และเชื่อว่ามันจะพาผมไปถึงจุดหมายได้
แต่ถ้าระหว่างทางผมเจอ vehicle ตัวอื่นที่ผมพอจะมีความสามารถไปใช้มัน ผมก็อาจจะใช้มันควบคู่ไปด้วย(ตอนนี้ยังไม่เจอ)

ปล เพิ่งเล่นจิงจังตอน มีนา 2011 ครับ พอร์ตเล็กๆของผมโตเกือบ 30% ครับ เป็นกำลังใจที่ดีให้ตัวเองครับ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 4:05 pm
โดย aonzzung
คลายเครียด เขียน: "แผนที่แผ่นไหนในโลกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเราไม่รู้ว่า เรากำลังยืนอยู่ตรงไหนในแผนที่"
ผมชอบคำคมนี้จัง บาดใจจิงๆ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 5:30 pm
โดย 1154
chootana เขียน:ทำไมมันต้องมีเลข0 อยู่ข้างบนครับ
เป็นระบบ vote ประมาณ Like,+1 แต่ตอนนี้ยังจิ้มไม่ได้
คาดว่าเร็วๆนี้มั๊งครับ :D

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 7:30 pm
โดย ซุนเซ็ก
รวยก่อนครับ ถึงจะมั่นใจ
ตอนนี้ยังไม่ค่อยรวย จึงยังไม่ค่อยมั่นใจ

การลงทุนเป็นเพียงเครื่องมือชนิดนึงครับ
ผมมาลงทุนก็เพียงเพื่อว่า วันนึงจะมีเงินมากพอที่ไม่ต้องคิดเรื่องเงิน
ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ขอแค่นี้ล่ะครับชีวิต ไม่มีอะไรมาก

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 19, 2011 7:59 pm
โดย jo7393
1154 เขียน:
chootana เขียน:ทำไมมันต้องมีเลข0 อยู่ข้างบนครับ
เป็นระบบ vote ประมาณ Like,+1 แต่ตอนนี้ยังจิ้มไม่ได้
คาดว่าเร็วๆนี้มั๊งครับ :D

Intrend ดีครับ เอิ้กๆ ชอบครับ

Re: ช่วยตอบตามจริงนะครับ กับชีวิตนักลงทุน มีใครมั่นใจแล้วว่า

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 20, 2011 8:35 am
โดย คลายเครียด
aonzzung เขียน:
คลายเครียด เขียน: "แผนที่แผ่นไหนในโลกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเราไม่รู้ว่า เรากำลังยืนอยู่ตรงไหนในแผนที่"
ผมชอบคำคมนี้จัง บาดใจจิงๆ


ผมดัดแปลงคำพูด จากหนังสือเล่มนี้ครับ

http://www.weloveshopping.com/shop/show ... pid=162098





.