Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ขอบคุณครับ มาโพสเรื่อยๆนะพี่.

Jeng เขียน: วันนี้ 2 ทุ่ม เมกากำลังประชุมกัน เรื่องเพดานหนี้ 14.30 ล้านๆเหรียญ ว่าจะเพิ่มเพดานหรือไม่
ถ้าไม่เพิ่ม ก็จะมีการเบี้ยวหนี้ เล็กน้อย ทำให้เสียเครดิต
ถ้าเพิ่ม ก็จะทำให้ วินัยทางการเงินที่ ตั้งใจไว้ ทำไม่ได้อีก
ซึ่งก็อาจจะส่งผลให้หุ้นเมกา ตกลงก็ได้ เพราะเมื่อวาน nasdaq ก็ลบ 2.65 %
หรืออาจจะไม่ลดลงก็ได้ เพราะอาจจะให้ข่าวว่า รับรู้ข่าวไปหมดแล้ว

แสดงว่าคืนนี้น่าจะติดตามได้จาก money channel พี่ Jeng ลองวิเคราะห์ให้ฟังจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหน่อยครับว่าจะมีผลกับตลาดทุนทั่วโลกรวมทั้งไทยแบบไหน และเมื่อเทียบกับตอน subprime นี่เหมือนหรือต่างกันอย่างไรครับ

viim เขียน:

Jeng เขียน: วันนี้ 2 ทุ่ม เมกากำลังประชุมกัน เรื่องเพดานหนี้ 14.30 ล้านๆเหรียญ ว่าจะเพิ่มเพดานหรือไม่
ถ้าไม่เพิ่ม ก็จะมีการเบี้ยวหนี้ เล็กน้อย ทำให้เสียเครดิต
ถ้าเพิ่ม ก็จะทำให้ วินัยทางการเงินที่ ตั้งใจไว้ ทำไม่ได้อีก
ซึ่งก็อาจจะส่งผลให้หุ้นเมกา ตกลงก็ได้ เพราะเมื่อวาน nasdaq ก็ลบ 2.65 %
หรืออาจจะไม่ลดลงก็ได้ เพราะอาจจะให้ข่าวว่า รับรู้ข่าวไปหมดแล้ว

แสดงว่าคืนนี้น่าจะติดตามได้จาก money channel พี่ Jeng ลองวิเคราะห์ให้ฟังจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหน่อยครับว่าจะมีผลกับตลาดทุนทั่วโลกรวมทั้งไทยแบบไหน และเมื่อเทียบกับตอน subprime นี่เหมือนหรือต่างกันอย่างไรครับ

มิบังอาจวิเคราะห์ครับ พี่ก็แค่อ่านข่าว และติดตาม เพื่อที่จะได้ปรับพอร์ทการลงทุนได้ตลาดสถานการณ์ครับ

ข่าวบางข่าวอ่านแล้วก็น่ากลัวมาก เช่นข่าวนี้

If US Defaults, Stocks Fall 30%, GDP 5%: Credit Suisse

http://finance.yahoo.com/news/If-US-Def ... et=&ccode=

http://finance.yahoo.com/news/If-US-Def ... et=&ccode=

ใครแปลเก่งๆ ช่วยสรุปใจความให้หน่อยซิ ขอบคุณครับ

ขอบคุณค่ะ
อัตราการบริโภคต่อการออมสูงมาก
ขนาดยังไม่ถึงยุคที่ Babyboom เกษียณอายุ ค่ารักษาพยาบาล ค่าต่างๆเยอะแยะมาก

ขอบคุณครับ ผมว่า1-2mo น่าจะไปต่อก่อนจะปรับฐาน

ขอบคุณครับ

ผมดูในมันนี่ชาแนล เขาบอกว่า ในรัฐธรรมนูญของอเมริกามีข้อหนึ่งระบุว่าอเมริกาต้องชดใช้หนี้ของตัวเอง ดังนั้นการจ่ายคืนหนี้จึงมีลำดับความสำคัญมากกว่าค่าใช่จ่ายอื่นๆ แต่ที่น่ากลัวกว่าคือวิกฤตทางฝั่งยุโรป

ช่วยเบรคความคิดเชิงบวกให้ฉุกคิดได้บ้าง...
พี่งเจ๋งครับ...
พี่เจ๋งจริง 555

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณครับรุ่นพี่ที่เป็นห่วงรุ่นน้องเสมอ

ส่วนผมยังถือคติ...

จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้าและจงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว

สวัสดีครับพี่เจ๋ง หายหน้าหายตาไปซะนานนะครับ้

Belffet เขียน:สวัสดีครับพี่เจ๋ง หายหน้าหายตาไปซะนานนะครับ้

ดีครับ

Very Nice kab

พี่เจ๋ง แรงดีไม่มีตก

คนนี้ วิชาดีๆ เยอะ นะ อิอิอิ

ขอบคุณครับ เป็นคำแนะนำที่กำลังต้องการเลยครับ

โดยส่วนตัว คิดว่า สมัย subprime ตลาดหุ้นตก เพราะทฤษฎีสมคบคิด คือ ตกไปเหอะ จะได้ซื้อของดีราคาถูกด้วยกัน ตกตามกระแส เขาตก เราตกด้วย ทั้งๆที่ของเราก็ดีอยู่แล้ว

ดูปันผลซิ ในเดือน 10 ปี 2551 ถึงเดือน 3 ปี 2552 ปันผล อยู่ทั้งตลาดอยู่ระหว่าง 6.25 - 7.25

บางตัวปันผลเกิน 20 %

ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่า วิกฤติการณ์ครั้งนี้ จะนำไปสู่เหตุการณ์กดราคาซื้อของดีราคาถูกอีกหรือไม่

รอติดตามเช่นกัน

ยังจำได้ดี เมื่อปลายปี ที่ SET อยู่ที่ 428 ผมซื้อกองทุนไปมากที่สุดในชีวิต

ตอนนี้ยังไม่ขาย ยังถืออยู่ กำไร เกือบ 200% แล้ว

ปัจจุบันอยู่เฉยๆ ไม่กล้าเข้า รอมันลง จะซื้อเก็บ ไม่มีขาย

ขอบคุณสำหรับข้อคิดครับคุณเจ๋ง
วิกฤตซัพไพร์มช่วงนั้น หุ้นปูนใหญ่ราคาต่ำกว่าร้อย ผมจำได้
ใครใจถึงก็สามสี่เด้งไปแล้ว ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ อาจมีมากกว่าตอนธรรมดาด้วยซ้ำ

yes sir จะเฝ้าดู เพราะยังทุนยังไม่มาก
เก็บข้อมูลให้นิ่งๆไว้ครับ

thank you

คงไม่เป็นอย่างภาพนี้นะ

ตลาดหยุดพักพอดี แดงดีได้ใจจริงๆ 555
คิดถึงอตีด ที่แดงเดือด

ขอบคุณพี่เจ๋งครับ

croyoty เขียน:ขอบคุณมากครับ สำหรับเตือนสติมือใหม่อย่างผม

มืออาชีพสุดๆๆแล้วพี่หมอโค ใบ้ให้ บลาๆๆ ยังไปเลยเมพขิงๆๆ

chukieat30 เขียน:

croyoty เขียน:ขอบคุณมากครับ สำหรับเตือนสติมือใหม่อย่างผม

มืออาชีพสุดๆๆแล้วพี่หมอโค ใบ้ให้ บลาๆๆ ยังไปเลยเมพขิงๆๆ

อุตส่าห์นึกหุ้นไม่ออกนะ เลยใบ้มั่วๆไปว่า บลาๆๆ เห็นชอบใช้ในภาษาพิมพ์สมัยใหม่ อะคับ

ดูตลาด Panic วันนี้แล้วเสียวๆเหมือนกันครับ
แต่เมื่อดูเป็นรายตัว ก็มีหลายตัวที่ไม่ได้ตกหรือตกน้อยกว่าตลาด

แสดงว่าตลาดยังมีวุฒิภาวะทางอารมณ์พอสมควร

แต่เมื่อเทียบสถิติช่วงตลาดขาลง หุ้นพื้นฐานดีก็มีสิทธิ์เขวเหมือนกัน
พื้นฐานยังคงดี แต่อารมณ์พาไป ก็อาจทำให้ปรับฐานได้เหมือนกัน

ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ ก็คงได้แต่นั่งดูและรอโอกาสของเราก๊าบบ

เอา Blog ของ Mobius มาสนับสนุนเงินทุนไหลเข้าอย่าง P' Jeng ว่า หวังว่าอย่างน้อยใครไม่มาแต่กองทุนแกที่ดูแลเงินเป็นหมื่นล้านคงโยกเงินมาลงเมืองไทยบ้างนะ

http://mobius.blog.franklintempleton.com/

The U.S. Debt and Emerging Market Opportunities
August 8, 2011Leave a comment
I wanted to put a quick note out regarding the U.S. debt downgrade and the events of the past week as we have been getting a number of questions from readers and twitter followers. Standard & Poor’s potential downgrade of U.S. debt had been signaled for a few weeks, so it did not come as a complete surprise. In fact, some smaller rating agencies had already downgraded the U.S. Nonetheless, the initial market reaction will likely be a high degree of uncertainty and volatility, since investors will likely not know where to turn for assets with lower short-term volatility. During the subprime crisis, investors largely sought such assets in U.S. Dollars and Treasuries. While during the subprime crisis the USD index was high, now it is low reflecting a changed perception of markets that may be considered less volatile in the short-term. In particular, we believe currencies and stocks of emerging countries may look relatively attractive given: (1) emerging markets generally have more foreign reserves than developed countries and (2) the debt-to-GDP levels of emerging countries tend to be lower than developed countries. This improved ability to manage their currencies and historically better ability to service debt is why we believe emerging market currencies have been so strong – and may continue to be.

จำได้แม่น ไม่ขายไม่ขาดทุน แต่กว่าจะคืน 2-3 ปี เซอร์กิจเบรคเกอร์ 2 ครั้ง ยังจำได้ฝังใจ มันเกิดอะไรขี้น