Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

leky เขียน:ถ้าวันจันทร์หุ้นลง

นักวิเคราะห์ "ตลาดตอบสนองด้านลบต่อข่าว S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ แนวโน้มตลาดไม่น่าไว้วางใจ แนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้น"

ถ้าวันจันทร์หุ้นขึ้น

นักวิเคราะห์ "ตลาดซึมซับรับข่าวร้ายนี้มาหลายวันแล้ว ตอนนี้ราคาหุ้นลงมาค่อนข้างมาก ทำให้นลท.ที่มองว่าผลประกอบการของบ.จดทะเบียนไทยที่กำลังจะออกมาในสัปดาห์หน้ายังมีกำไรเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี จึงเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี"

คิดเล่น ๆ ครับ

CheNz เขียน:ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับว่า
การที่สหรัฐโดนลดอันดับเครดิต ส่งผลทำให้สหรัฐจะต้องเพิ่มดอกเบี้ยพันธบัตรของตัวเอง เพื่อให้สูงขึ้นทันกับความเสี่ยงที่มากขึ้น ในสินทรัพย์ที่ด้อยค่าลงของตนเอง
ดังนั้นแปลว่า ผู้ที่ถือพันธบัตรสหรัฐเช่น จีน ก็จะได้รับผลประโยชน์คือได้ดอกเบี้ยมากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่อาจจะไม่ได้รับเงินต้นคืน ถูกต้องไหมครับ

leky เขียน:ถ้าวันจันทร์หุ้นลง

นักวิเคราะห์ "ตลาดตอบสนองด้านลบต่อข่าว S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ แนวโน้มตลาดไม่น่าไว้วางใจ แนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้น"

ถ้าวันจันทร์หุ้นขึ้น

นักวิเคราะห์ "ตลาดซึมซับรับข่าวร้ายนี้มาหลายวันแล้ว ตอนนี้ราคาหุ้นลงมาค่อนข้างมาก ทำให้นลท.ที่มองว่าผลประกอบการของบ.จดทะเบียนไทยที่กำลังจะออกมาในสัปดาห์หน้ายังมีกำไรเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี จึงเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดี"

คิดเล่น ๆ ครับ

jo7393 เขียน:เราลองมาช่วยกันคิดดีกว่าไหมครับ หากวันจันทร์ตลาดแดงมากๆ หุ้นกลุ่มไหนได้รับผลกระทบจาก ที่ไอ้กันโดนลดเกรด และกลุ่มไหนที่ได้ประโยชน์จากที่ไอ้กันโดนลดเกรด
มันต้องมีกลุ่มที่ได้ประโยชน์สิน่า เช่น US ดอกเบี้ยขึ้น ดอลล่าร์อ่อนค่า เงินบาทแข็ง
กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์ไหมครับ

KimVi เขียน:

Pat T Buffett เขียน:มองแล้ววิกฤติคล้ายๆจะเป็น stagflation ยังไงยังงั้น.

• “Stagflation” เป็นการรวม 2 แนวคิดเข้าด้วยกัน คือ stagnation ซึ่งหมายถึง ภาวะเศรษฐกิจซบเซา และ inflation หรือเงินเฟ้อ (stagflation = stagnation + inflation) อาการของเศรษฐกิจในภาวะ stagnation จึงมี 2 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ เศรษฐกิจซบเซา ซึ่งอาจสะท้อนออกมาทางอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
  
  สถานการณ์ดังกล่าวเป็นภาวะที่ผิดปกติ และไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเศรษฐศาสตร์สำนักเคนส์ ซึ่งระบุว่า กลไกตลาดจะมีปัญหาการขาดเสถียรภาพในตัวเองเสมอ เพราะในยามที่เศรษฐกิจขยายตัว (อัตราการว่างงานต่ำ) อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ในยามที่เศรษฐกิจชะลอตัว (อัตราการว่างงานสูง) อัตราเงินเฟ้อจะต่ำ ดังนั้นเป้าหมายการว่างงานในระดับต่ำและอัตราเงินเฟ้อต่ำจึงมีความขัด
  Stagflation เป็นภาวะที่เกิดจากปัจจัยด้านอุปทาน (supply shock) ส่งผลทำให้ผลผลิตลดลงอย่างรวดเร็ว หรืออุปทานมวลรวมลดลงทันที ซึ่งไม่ได้เกิดจากกลไกราคาหรือระดับราคาสินค้าที่ลดลง แต่เป็นการลดลงของอุปทานมวลรวม ณ ทุก ๆ ระดับราคาสินค้า เมื่อผู้ผลิตผลิตสินค้าลดลงจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น
  ในอดีต stagflation เกิดขึ้นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกายุคทศวรรษ 1970 อัตราเงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ 12 อัตราว่างงานสูงเกือบร้อยละ 9 ซึ่งสาเหตุของปัญหาดังกล่าวมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้นไปกว่าร้อยละ 400 จากราคาเดิม สำหรับในประเทศไทยเคยเกิดภาวะ stagflation เมื่อปี พ.ศ.2523 ในเวลานั้น อัตราเงินเฟ้อสูงเกินกว่าระดับร้อยละ 10 เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้นกว่าร้อยละ 40 และทำให้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี
  
  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=318924

อเมริกาเงินเฟ้อยังไม่สูง ไม่ใช่หรือครับ หรือจากนี้ไปอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากเครดิตลด ทำให้ต้นทุนการเงินเพิ่ม แล้วจะเป็นการเพิ่มเงินเฟ้อให้มากขึ้นในภายหลัง............พยายามเรียนรู้อยู่ครับ ขออภัยถ้าไม่ make sense

torpongpak เขียน: หรือเป็นเพราะว่าเศรฐกิจมันยังไมฟื้นจริง เเต่รัฐบาลอัดเงินเข้าไปในระบบเยอะ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเศรฐกิจฟื้นตัว เพราะมีการจับจ่ายอย่างจอมปลอมชั่วคราว ช่วงที่เม็ดเงินเข้าตลาด ของเลยขึ้นราคา เเต่พอเงินหมดก็เข้าสู่วัฎจักเดิม
(ผิดรึเปล่าไม่รู้ครับ ความรู้เศรฐศาสตร์เเค่ ม.4)

My House เขียน:เสียวแทนคนเล่นมาร์จิ้นจริงครับ เอาใจช่วยนะครับหวังว่าตลาดคงรับข่าวไปแล้วนะครับ

deksaplay99 เขียน:ผมสังเกตุดูน้ะครับ

เมื่อวาน ค่าเงินบาท อ่อนไปถึง 29.90 - 30.03 เลยทีเดียว

วันนี้ค่าเงินบาททะลุลงมา 29.6 แล้วครับ แสดงว่าต่างชาติหนีมาถือบาทเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ แต่คงไม่ซื้อหุ้นที เพราะรอช่วง panic ซื้อต่ำๆมากกว่าครับ ต้องรอดูไป แต่เงินไทยแข๊งขึ้นมากจริงๆครับวันนี้

อ้างอิง : http://finance.yahoo.com/q?s=USDTHB=X แข๊ง 40

กล้วยไม้ขาว เขียน:การที่อเมริกาถูกลดเครดิตถือว่าเป็นการเริ่มต้น realize ความผิดพลาดที่หมักไว้มานาน
ถึงจะยังลดน้อยกว่าความเป็นจริงอยู่เพราะเห็นใจบ้างก็ตาม
น่าจะช่วยให้คนอเมริการู้จักปรับตัว เลิกบริโภคนิยมเกินตัวได้บ้างครับ

ทีนี้เห็นหลายๆ ท่านสงสัยว่าลดเครดิตแล้วจะเกิดอะไร
จากที่ผมตามอ่านข้อมูลมาก็พอจะสรุปได้แบบงูๆ ปลาๆ ดังนี้ครับ

บริษัททางด้านการลงทุน ธนาคาร ประกัน ทั่วโลกจะมีกฏเกี่ยวกับการลงทุนอยู่
ซึ่งส่วนหนึ่ง(เยอะด้วย) จะลงทุนในพันธบัตรเรตติ้ง AAA เท่านั้น
ทีนี้ก็จะเกิดการกระหน่ำขายพันธบัตรสกุลเงินดอลล่าร์จากกลุ่มนี้

หลักการเรื่องเรตติ้งปัจจุบันคือ รัฐต้องมีเรตติ้งดีที่สุดในประเทศนั้นๆ
ดังนั้นบริษัทต่างๆ ในสหรัฐจะต้องถูกลดเรตติ้งตามลงมา ทำให้ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น
กำไรก็จะน้อยลง ลงผลให้ราคาหุ้นตกต่ำได้

ต้นทุนทางการเงินดอกเบี้ยของอเมริกาเพิ่มขึ้นราว 100 Billion Dollar ต่อปี
ถ้าคิดว่าเท่ากับอัตราดอกเบี้ย 5% ก็เหมือนมีหนี้เพิ่มทันที 2000 Billion Dollar

และอื่นๆ เป็นลูกโซ่มากมาย

leky เขียน:

My House เขียน:เสียวแทนคนเล่นมาร์จิ้นจริงครับ เอาใจช่วยนะครับหวังว่าตลาดคงรับข่าวไปแล้วนะครับ

เอาเงินของภรรยามาเล่นเสียวกว่าครับ

กล้วยไม้ขาว เขียน:เพิ่มเติมอีกนิดครับ

พันธบัตรทั้งของรัฐและเอกชนที่ออกเป็นสกุลเงินดอลล่าร์ ก็จะถูกลดเรตติ้งเช่นกัน
ไม่ว่าคนที่ออกจะเป็นชาติไหน เนื่องจากสกุลเงินของประเทศใดๆ จะอิงกับเรตติ้งของประเทศนั้นๆ

ที่ผ่านมามีหลายประเทศมากมายที่ออกพันธบัตรเป็นสกุลเงินดอลลาร์ เพราะเรตติ้งจะดีกว่าออกเป็นสกุลเงินตัวเอง
อย่างประเทศไทยช่วงสองปีที่ผ่านมาก็ออกพันธบัตรเป็นดอลล่าร์ถึง 2หมื่นล้านดอลล่าร์ (6 แสนล้านบาท)
เมื่อพันธบัตรเหล่านี้ถูกลดเรตติ้ง ก็จะทำให้พันธบัตรที่จะออกใหม่ต้องเสียดอกมากขึ้น
ส่วนพันธบัตรเก่า ก็จะถูกเทขายจากทั้งนโยบายลงทุนของเหล่ากองทุน และเพื่อปรับ Yield ให้เท่ากับตัวใหม่

ผลกระทบกว้างจริงๆ ครับ แถมทั้งโลกมีเอี่ยวโดนลูกหลงด้วยกันทั้งนั้น
มากบ้างน้อยบ้าง