การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
picatos เขียน:
ผมว่า มนุษย์เรา เกิดมาก็เพื่อจะตาย กิน อยู่ หลับ นอน หายใจไปแต่ละครั้ง ในแต่ละวัน ก็เพื่อที่จะบ่ายหน้าเข้าสู่ความตาย สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามากระทบกับชีวิตส่วนใหญ่ก็หาสาระอะไรกับมันไม่ได้มาก... ตัวผมเองหมดเวลาไปกับการหาเงิน หาสิ่งสวยๆ งามๆ แสวงหาอารมณ์อันเพริศแพร้ว... ก็แค่ให้แต่ละวันที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ความตาย ได้เพลิดเพลินและปราศจากความทุกข์ที่สุดเท่าที่ทำได้
อย่างไรก็ตาม... สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ความสุข ในแต่ละช่วงเวลา นั้นแตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์ ตามเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะ...
และขณะนี้ ผมคิดว่าจริงๆ แล้ว แค่การมีสติและสมาธิอยู่กับการหายใจทิ้งไปวันๆ กลับนำพามาซึ่งความสุขที่ยิ่งใหญ่มากกว่า การแสวงหาเงิน และแสวงหาความสุขจากสิ่งต่างๆ ที่งดงาม ปราณีต ที่เคยประสบมาทั้งหมด...
ขอให้พี่ปรัชญาพบความสุขสันติ จากการหายใจทิ้งไปวัน วัน ครับ...
ขอบคุณสำหรับคำอวยพร
พออายุเพิ่มมากขึ้นได้เป็นสอวอ ก็คงคิดแบบปลงๆ
แต่น้องเขียนเรียบเรียงถ้อยความให้อ่าน ได้สวยสดงดงามทางภาษามาก ประทับใจ ออกพ็อกเก็นบุ๊คได้เลยครับ
-
Jeng
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
สว = สุขทุกวัน
-
amnats
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
ขายอะไหล่รถยนต์ครับ เป็นธุรกิจที่ดีอย่างหนึ่ง คู่แข่งเข้ามาในธุรกิจยากเพราะต้องมีความรู้เรื่องอะไหล่รถดี ถ้ามีแต่เงินอย่างเดียวไปไม่รอด กำไรพอสมควรพออยู่รอดได้ แต่การแข่งขันระหว่างร้านอะไหล่ด้วยกันรุนแรงพอสมควร ใช้ลูกจ้างไม่เยอะแค่ 2 คนเพราะกิจการเล็กๆ ผมมีเงินทุนไม่เยอะเลยต้องกู้ธนาคารเยอะหน่อย ค่อยเป็นค่อยไป เงินหมุน โดนลูกค้าโกงบ้างนิดหน่อยแต่ก็โอเค ลงทุนในหุ้นด้วยเล็กน้อย ทำให้เราพอได้ข้อมูลราคาน้ำมันเครื่อง โดยดูจากราคาน้ำมันดิบ ราคาแบตเตอรี่โดยดูจากราคาตะกั่ว อยู่ในเมืองที่ดีไม่มีรถติดไม่เครียด (สุพรรณบุรีครับ). มีสถานที่เที่ยวเยอะดีเค้ากำลังจะพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเค้าเริ่มสร้างทีละอย่าง หอคอยบรรหาร, มังกรตัวใหญ่ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง,ตลาดสามชุก,สวนพืชพรรณไม้งามที่อู่ทอง, อนุสรณ์ดอนเจดีย์, บึงฉวาก, และกำลังจะสร้างพพระพุทธรูปแกะสลักที่หน้าผา พัฒนาเป็นอุทยานพระพุทธศาสนาอีก อนาคตน่าจามีรถผ่านมาเยอะขึ้น ก็น่าจามีผลมาถึงร้านขายอะไหล่รถด้วยมั้งครับ
-
ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเคยทำงานที่มีลูกน้องเกือบ 10 คน (เป็นพวกโปรแกรมเมอร์อะไรอย่างเงี้ย) ทำไปต้องทำทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์ วันๆ ต้องคอยนั่งเฝ้าลูกน้อง คอยสร้างกำลังใจลูกน้อง หาเงินมาจ่ายเงินเดือน เหนื่อยสุดๆ สุดท้ายก็ต้องมาคุยกับลูกค้า ลูกค้าเค้าก็เบี้ยว ยกเลิกโครงการ ที่ลงทุนไปก็เสียเปล่า ต้องเชิญลูกน้องทั้งหมดออก เสียเงินไปหลายเหมือนกัน แถมเวลาให้กับครอบครัวก็ไม่มี
ตอนนี้ทำด้วยมีลูกน้องคนเดียวที่ไว้ใจได้ (เป็นญาติกัน) ที่เหลือจ้างเอาเป็นงานๆ ได้โครงการเล็กกว่าแต่ก็มีความสุขมากกว่า มีเพื่อนมาชวนไปลงทุนใหญ่ๆ กำไรเยอะ (ตามที่มันบอก) ผมไม่เอาดีกว่า พออยู่พอกินของผมอย่างงี้แหละ
บ่นไปเรื่อยๆ เกี่ยวกันกับหัวข้อกระทู้มั้ยเนี่ย
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
อนัตตา
- Verified User
- โพสต์: 447
- ผู้ติดตาม: 0
ayethebing เขียน:ผมเคยทำงานที่มีลูกน้องเกือบ 10 คน (เป็นพวกโปรแกรมเมอร์อะไรอย่างเงี้ย) ทำไปต้องทำทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์ วันๆ ต้องคอยนั่งเฝ้าลูกน้อง คอยสร้างกำลังใจลูกน้อง หาเงินมาจ่ายเงินเดือน เหนื่อยสุดๆ สุดท้ายก็ต้องมาคุยกับลูกค้า ลูกค้าเค้าก็เบี้ยว ยกเลิกโครงการ ที่ลงทุนไปก็เสียเปล่า ต้องเชิญลูกน้องทั้งหมดออก เสียเงินไปหลายเหมือนกัน แถมเวลาให้กับครอบครัวก็ไม่มี
ตอนนี้ทำด้วยมีลูกน้องคนเดียวที่ไว้ใจได้ (เป็นญาติกัน) ที่เหลือจ้างเอาเป็นงานๆ ได้โครงการเล็กกว่าแต่ก็มีความสุขมากกว่า มีเพื่อนมาชวนไปลงทุนใหญ่ๆ กำไรเยอะ (ตามที่มันบอก) ผมไม่เอาดีกว่า พออยู่พอกินของผมอย่างงี้แหละ
บ่นไปเรื่อยๆ เกี่ยวกันกับหัวข้อกระทู้มั้ยเนี่ย
ใจนึงผมก็อยากจะล้างไพ่เหมือนกันครับพี่เอ๋ย แต่มันเหมือนขี่หลังเสือแล้วไม่กล้า
ลงหรือยังลงไม่ได้ ต้องขี่หลังมันไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
ผมว่าแนวทางที่พอเพียงกับความต้องการของตัวเองนั้นเหมาะสมที่สุด บางคน
ที่เขาทำธุรกิจใหญ่ๆ ได้ก็ต้องยอมรับว่าเขาเหล่านั้นเก่งจริงๆ แต่มันอาจจะไม่
เหมาะกับอีกหลายคนที่ชอบชีวิตเรียบง่ายก็เป็นได้
จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้
-
prakarnb
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเน้นเป็น Specialist ครับ อย่างธุรกิจผม ( คอนกรีต ) สุดท้ายผมเลือกขายงานขนาดเล็กๆ ขายให้ชาวบ้าน สบายใจไม่ยุ่งยาก เก็บเงินสด ใช้คนก็น้อย เงินทุนหมุนเวียนก็ใช้น้อย สรุปคือ เมื่อก่อนยอดขายล้านบาท กำไรเท่ากับตอนนี้ที่ผมขายแค่ห้าแสนบาท เพราะผมมาค้นพบว่า ทุกคนชอบงานขนาดใหญ่ยอดเยอะๆ แต่ชาวบ้าน ผู้ผลิตคนอื่นไม่สนใจที่จะขายเพราะซื้อทีละน้อยๆ ตอนนี้ผมก็เลยเป็นเจ้า Segment งานชาวบ้านไปเลย งานล็กงานน้อยผมบริการหมด แต่เงินสดนะครับพี่ แชร์ประสบการณ์นะครับ ไม่ได้เก่งอะไร แต่กว่าจะค้นพบก็หายไปเยอะเหมือนกันครับ
-
nightshade
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีทุกท่านครับ ผม ชิน ครับ
งานที่ผมทำก็เกี่ยวกับคนงานเยอะเหมือนกันครับ ผมทำบ้านจัดสรรครับ เรื่องค่าแรงก็โดนเหมือนกันแต่ปัจจัยสำคัญกว่าคือการควบคุมคนงานมันยากขึ้นมาก ผมเลยเริ่มลดการใช้คนงานครับ
ปัจจุบันผมเริ่มศึกษาการใช้ระบบสำเร็จรูปมาก่อสร้างครับ เพิ่งจะเริ่มใช้อิฐมวลเบาแทนอิฐแดงปีนี้ (ของแพงกว่า แต่งานเร็วกว่า และวัตถุดิบหาง่ายกว่า ผมเจอปัญหาตอนที่น้ำท่วมปีก่อน อิฐแดงแพงและหายากมาก) และจะเริ่มใช้ ระบบ เสา-คานสำเร็จในเฟสหน้าครับ การลดจำนวนคนงานจะทำให้งานง่ายขึ้น แม้ต้นทุนเบื้องต้นจะดูมากขึ้นแต่เราควบคุมง่ายกว่าคนงานครับ
ตอนนี้นโยบายกู้บ้านหลังแรกของรัฐก็ทำเอาเหนื่อยครับ เพราะนโยบายยังไม่ชัดแต่ลูกค้าอยากรอครับ
เ้ป็นน้องใหม่ครับ ฝากตัวด้วยครับ
-
harikung
- Verified User
- โพสต์: 2236
- ผู้ติดตาม: 0
nightshade เขียน:สวัสดีทุกท่านครับ ผม ชิน ครับ
งานที่ผมทำก็เกี่ยวกับคนงานเยอะเหมือนกันครับ ผมทำบ้านจัดสรรครับ เรื่องค่าแรงก็โดนเหมือนกันแต่ปัจจัยสำคัญกว่าคือการควบคุมคนงานมันยากขึ้นมาก ผมเลยเริ่มลดการใช้คนงานครับ
ปัจจุบันผมเริ่มศึกษาการใช้ระบบสำเร็จรูปมาก่อสร้างครับ เพิ่งจะเริ่มใช้อิฐมวลเบาแทนอิฐแดงปีนี้ (ของแพงกว่า แต่งานเร็วกว่า และวัตถุดิบหาง่ายกว่า ผมเจอปัญหาตอนที่น้ำท่วมปีก่อน อิฐแดงแพงและหายากมาก) และจะเริ่มใช้ ระบบ เสา-คานสำเร็จในเฟสหน้าครับ การลดจำนวนคนงานจะทำให้งานง่ายขึ้น แม้ต้นทุนเบื้องต้นจะดูมากขึ้นแต่เราควบคุมง่ายกว่าคนงานครับ
ตอนนี้นโยบายกู้บ้านหลังแรกของรัฐก็ทำเอาเหนื่อยครับ เพราะนโยบายยังไม่ชัดแต่ลูกค้าอยากรอครับ
เ้ป็นน้องใหม่ครับ ฝากตัวด้วยครับ
พ่อผมก้อทำบ้านจัดสรรครับ แต่ไม่ได้ก่อสร้างเอง พึ่งทำมาโครงการเล็กๆโครงการเดียวเองครับ กำลังรอโอนเพื่อปิดโครงการนี่แหง่ะครับเพราะขายหมดแล้ว อาจจะโอนได้ช้าขึ้นเพราะโครงการบ้านหลังแรกนี่แหล่ะครับ ยังดีที่พ่อผมไม่ได้กู้แบงค์เลยไม่มีภาระดอกเบี้ย(จริงๆควรจะกู้แต่เค้าเหนเปนมือใหม่เลยไม่ปล่อย)
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
-
navapon
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
พอดีแถวบ้านผมที่สอยดาวมีอาชีพเป็นเกษตรกรกันเป็นส่วนมาก เมื่อก่อนปลูก อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา กัน
เพิ่งประมาณ 6-7 ปีมานี้ ลำไยบูมมากครับ จนมีนายทุนจากที่ต่างๆ มาลงทุนทำสวนลำไยกัน ผลตอบแทนดีมาก
คุมเอานะครับ ไม่ต้องทำเอง ที่นี่ใกล้ชายแดน ใช้แรงงานเขมรเอา ไม่มีปัญหาเรื่องปริมาณแรงงานและค่าแรงเลยครับ (ยืนยันว่าที่นี่ไม่มีปัญหา แม้ไทยจะรบกับกัมพูชา)
ลงทุน ประมาณ 25% x 4 ปี (แค่เช่าทำก็คุ้ม อาจไม่ต้องซื้อที่ดินเอง เพราะที่ดินที่นี่บอกราคาขายกันสุดยอด)
พอปีที่4 ก็ลงทุนไป 100% และเริ่มเก็บเกี่ยวดอกผลได้(ไม่นับเงินลงทุนที่ดินนะ)
พอครบปีที่ 6 น่าจะคืนทุน (แค่ 2 ปีหลัง ที่ลำต้นโต จนเก็บเกี่ยวผลลำไยได้ ก็ทำให้คืนทุนแล้ว ถ้าประสบความสำเร็จในการทำให้ลำไยตกลูกดกๆได้ตลอด)
กำไรดีมาก (ถ้าไม่ติดลูก เจ๊งก็เยอะ เพราะการลงทุนให้ติดลูกติดผล ต้องลงทุนพอสมควร)
มีพ่อค้าคนกลางเรียก ล้งลำไย มารับซื้อ ส่งออกต่างประเทศ คือ จีนเป็นหลัก มีนายทุนเงินหนารู้ภาษาจีนจากที่ต่างๆ(ตามจังหวัดต่างๆ)มาสร้างล้งลำไยกันมาก ตอนนี้มี 40 กว่าล้งได้ และยังมีมาสร้างล้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อมูลอีกอย่างที่รู้มา ลำไยภาคเหนือ สู้สอยดาว จันทบุรี ไม่ได้ จีนรับแต่ลำไยสอยดาว สภาพอากาศเหมาะกว่า ส่วนจีนเองไม่ปลูกครับ เห็นว่างั้นนะ เพราะปลูกแล้วอร่อยสู้มาจาก อ.สอยดาว ประเทศไทย ไม่ได้
ความต้องการในจีนสูงมากและยังน่าจะสูงต่อไปมากอีกเกิน 10 ปี (ข้อมูลจากล้งลำไยนะครับ) แม้จะเป็นสินค้าเกษตรซึ่งเป็น soft commodity
ชาวสวนกำไรดีจริงๆครับ รวยกันมาก บางคนรวยกว่าหมอหลายเท่า!!! บางรายเก่งๆปลูกลำไย 70 ไร่ ทำรายได้ 4-6 ล้านบาทต่อรอบก็มี แต่ไม่ใช่ได้อย่างนี้ทุกคนนะครับ (หมายเหตุ 1. รายได้นะครับ ไม่ใช่กำไร มาจิ้นเท่าไหร่ ผมไม่รู้เพราะไม่ได้ปลูกกับเขา เคยเห็นของจริงที่ธนาคาร เวลาเขาซื้อขายโอนเงินค่าลำไยกัน ระหว่างล้งกับชาวสวน หมายเหตุ 2.รอบของลำไยคือ ทุก 7-8 เดือน จะเก็บลำไยทีหนึ่ง) ชาวสวนที่เป็นอันดับต้นๆของอำเภอ ปลูกเป็น1000ไร่ก็มี รวยกันสุดๆ ! ! ! แถมเกษตรกร ไม่ต้องเสียภาษีนะครับ เด็ดไหม
ชาวไร่ตอนนี้เลยหันมาปลูกลำไยกันเยอะ ตอนนี้อาจปลูกถึง 20-30%ของพื้นที่ในอำเภอหรือมากกว่า อิจฉาคนอื่นเขาจัง แต่ผมปลูกไม่เป็น ไม่สู้งานไร่สวนครับ เป็นหมอแล้วทำงานถนัดต่อไปดีกว่า
สรุปรายได้ดีทั้งคนปลูกและคนมาทำล้งลำไย
ส่วนเรื่องยางพารา เห็นว่าตอนนี้จีนปลูกแข่งกับไทยมากๆ พื้นที่ปลูกยางน่าจะ ประมาณ 2-4 เท่าของพื้นที่ไทยทั้งประเทศ แต่เพิ่งเริ่มปลูก ปกติยางพารา 7-8 ปี จะเริ่มกรีดเอานํ้ายางได้ พอสัก 10 ปี ปริมาณนํ้ายางก็จะเก็บได้เต็มที่ ถึงตอนนั้น คงเป็นปัญหากับไทยเพราะเป็นคู่แข่งทำให้ซับพลายล้นโลก (ข้อมูลนี้ก็ได้จากล้งลำไยที่ค้าขายกับจีนอยู่นะครับ เขาเล่าว่าไปเที่ยวจีนมา แล้วไปดูข้อมูลทางธุรกิจพวกนี้ด้วย ไม่แน่ใจว่า เขาจะหลอกให้คนหันปลูกลำไยกันเยอะหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องปลูกยาง ส่วนตัวเขาจะได้รับซื้อลูกลำไยในราคาตํ่าลงได้ ถ้าคนปลูกกันมากๆจนล้น ใครมีข้อมูลการปลูกยางพาราในจีน หรือเคยไปเที่ยวไปเห็นมา ก็แชร์ด้วยนะครับ ผมสนใจปลูกยางพารามากกว่า เพราะการดูแลน้อยกว่า แต่ถ้าจีนปลูกมาก ผมคงไม่แข่ง)
ตอนนี้สอยดาวเศรษฐกิจบูมมากนะครับ เป็นอำเภอเล็กๆ แต่มีธนาคารอยู่ถึง 6 แห่ง มันบอกอะไรได้บ้างไหม เงินหมุนเวียนฝากถอนแต่ละวันของแต่ละธนาคารก็สูงมาก
มี lotus expressหนึ่ง, 7-11 สาม, ยังไม่มีห้างใหญ่ๆมาลง, ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว มีแค่นํ้าตกเขาสอยดาว แต่แปลกมีคนสร้างรีสอร์ตกันเยอะมาก (ผมว่าไม่น่ารุ่งนะ งงเหมือนกัน สร้างกันทำไมเยอะแยะ แต่อาจเป็นเพราะที่นี่สูงกว่าระดับนํ้าทะเลพอควร อยู่ติดภูเขาสอยดาว อากาศดีเย็นสบายทั้งปีเป็นส่วนใหญ่ อากาศคล้ายภาคเหนือ), ภูมิประเทศเป็นเทือกสวนไร่นา, ยอดขายรถกระบะ ทั้งโตโยต้า อีซูซู สูงมากๆแค่อำเภอเดียวเขาว่าสูงกว่าหลายจังหวัดรวมกัน, ตัวอำเภออยู่ห่างจากตัวจังหวัด 72 กิโลเมตร
ประชากรการศึกษาเฉลี่ย ม.3-ม.6 ปวช (เมื่อ 10ปีก่อน คนอ่านออกเขียนได้ยังน้อยกว่านี้มาก ตอนนี้รุ่นลูก รุ่นเด็กๆที่โตมาแทน พัฒนาดีขึ้น)
จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น 5-10%ในระยะเวลา 7ปีที่ผ่านมาเห็นจะได้(ตัดสินจากความคิดส่วนตัวผมเองเพราะดูแล้วมีคนแปลกหน้าเยอะขึ้นมาก) ส่วนใหญ่น่ามาจากการอพยพถิ่นฐาน ย้ายมาอยู่สอยดาวจากจังหวัดอื่น จำนวนประชากรไม่แน่ใจ เคยถามปลัดอำเภอเมื่อปีก่อน มีรายชื่อในทะเบียนราษฎ์น่าจะเกิน 100,000 คน
อยากให้มีคนมาสนใจมาลงทุนทำธุรกิจที่บ้านผมมากขึ้นครับ บ้านเมืองผมจะได้เจริญขึ้นอีก (ประชาสัมพันธ์ซะเลย)
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
-
picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
ของผมทำธุรกิจสำนักพิมพ์... ทำหนังสือ ทำของเล่นสำหรับเด็ก... ธุรกิจก็โอเคนะ... แต่พอลงทุนในหุ้นประสบความสำเร็จระดับหนึ่งประกอบกับได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม เลยรู้สึกอยากปล่อย อยากถอยออกจากการทำธุรกิจ... จะได้มีเวลาไปลงทุน ไปปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น... ตอนนี้ก็เลยพยายามหาทางขายกิจการอยู่...
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
a_clumsy16
- Verified User
- โพสต์: 108
- ผู้ติดตาม: 0
picatos เขียน:ของผมทำธุรกิจสำนักพิมพ์... ทำหนังสือ ทำของเล่นสำหรับเด็ก... ธุรกิจก็โอเคนะ... แต่พอลงทุนในหุ้นประสบความสำเร็จระดับหนึ่งประกอบกับได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม เลยรู้สึกอยากปล่อย อยากถอยออกจากการทำธุรกิจ... จะได้มีเวลาไปลงทุน ไปปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น... ตอนนี้ก็เลยพยายามหาทางขายกิจการอยู่...
อนุโทนากับพี่ด้วย ดูเหมือนพี่ปล่อยได้เยอะแล้ว ไม่แบกไว้หนักเหมือนกับคนทั่วไป
(เหมือนผม) ยังหลงกับเงิน แสงสี นารี เที่ยว ขอบคุณที่ช่วยมาแบ่งปันครับ