Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมว่า VI ไม่ถือยาวครับ

VI ถือ "หุ้น"

555

จำเป็น

สั้นหรือยาวของแต่ละคน มันไม่เหมือนกัน
หกเดือนหรือหนึ่งปี ผมว่าสั้น
หลายคนบอกว่า ถือไปได้ไง

ระยะเวลาเป็นประเด็นรอง
ประเด็นหลัก คือ มูลค่าของหุ้น

ของผมยาวครับ

ของใครสั้น ผมเสียใจด้วย



คุยเรื่องอะไรกันวะ

ล้อเล่นนะ

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ของผมยาวครับ

ของใครสั้น ผมเสียใจด้วย



คุยเรื่องอะไรกันวะ

ล้อเล่นนะ

ยาวเกินไปแฟนเลยทิ้งหรือป่าวพี่ตั้ม ขำๆนะ ล้อเล่ย

ziannoom เขียน:

วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ของผมยาวครับ

ของใครสั้น ผมเสียใจด้วย



คุยเรื่องอะไรกันวะ

ล้อเล่นนะ

ยาวเกินไปแฟนเลยทิ้งหรือป่าวพี่ตั้ม ขำๆนะ ล้อเล่ย

555555555555555555555555+

เห็นด้วยกับคุณ Jeng
ถ้าเราคิดว่าราคาเกินพื้นฐานไปมากก็ควรขาย แต่อาจกลับมาซื้อใหม่เมื่อราคาเหมาะสม
ขอยกตัวอย่าง สมมุติเราซื้อหุ้นนึงที่ราคา5บาท ถือไปจนปัจจุบันราคา50 ปันผล 2.5บาท
ถ้ามองในแง่เงินต้น คงหาไม่ได้แล้วหุ้นที่ให้ปันผล50% ของเงินต้น แต่ถ้าจู่ๆราคาเกิดวิ่งไป80
โดยที่พื้นฐานยังเหมือนเดิม การเติบโตเราก็คาดว่าคงเหมือนเดิม ก็ควรขายจริงไหม
เป็นโอกาสทำกำไรตั้งหลายเท่าโดยที่เราไม่ต้องถือรออีกเป็นสิบๆปี

เห็นด้วยกับหลายๆท่านที่ว่า
สั้น-ยาวไม่น่าจะเป็นหัวใจสำคัญครับ
หลักสำคัญผมว่าควรจะใช้มูลค่าเป็นเกณฑ์ในการจะซื้อ ขาย หรือถือหุ้นมากกว่าครับ

แต่ก็มีหุ้นบางกลุ่มที่กิจการของเค้ากำไรจะโตไปได้เรื่อยๆ
หุ้นกลุ่มนี้ผมว่าหากใครที่ไม่ต้องการเสี่ยงหาหุ้นใหม่ลงทุนอยู่เรื่อยๆ
ถือแล้วสบายใจ พอใจกับผลตอบแทนที่ได้ปีละ10-20เปอร์เซ็นต์
เราก็สามารถถือยาวไปได้เรื่อยๆ จนกว่าเรามองว่ากิจการจะไม่สามารถโตต่อไปได้หรือโตลดลง
เมื่อนั้นเราค่อยตัดสินใจขายก็ได้ครับ

torpongpak เขียน:ด้วยประสบการณ์ สั้นๆในการลงทุน ผมพบว่า
"การรอ...คือ กำไร" ครับ

^
^
ผมชอบประโยคนี้ของคุณ torpongpak นะ

แต่การรอคอย มันไม่ได้บอกหนิครับว่าจะต้อง "สั้น" หรือ "ยาว" แค่ไหน???
บางครั้ง...เราก็เจอที่สิ่งที่เรารอคอยอย่างรวดเร็ว ราวปาฏิหารย์
แต่บางครั้ง...การรอคอยกลับยาวนาน กว่าจะได้เจอสิ่งๆนั้นที่เราเฝ้ารอคอย
...ผมรูสึกแบบนั้นนะ

ผมมองว่า...
นักลงทุนที่ดี ควรจะต้องประเมินราคาที่เหมาะสมของบริษัทฯตัวเองไว้ทั้งหมดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นในปัจจุบัน และในอนาคต ณ Timming ต่างๆ
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลย ถ้าจะมีการปรับพอร์ตบ้าง เมื่อราคา Overvalue ไปมากๆจากราคาที่ตนเอง Projection ไว้
ทั้งนี้เป็นเพราะ ในตลาดของเรามีสิ่งที่เรียกว่า Speculator(แรงเก็งกำไร) หรือ การตามแห่
จึงทำให้ราคาเหวี่ยงไปได้ไกลกว่าที่มันควรจะเป็น

แต่ทั้งนี้...
ราคาที่เหมาะสมของบริษัทฯ ผมมองว่า เราไม่จำเป็นต้องคำนวณออกมาเป็นตัวเลขเปะๆนะครับ
เอาแค่เป็น "ช่วง" หรือ เป็น "Zone" ก็พอแล้ว
ให้เรารู้ว่า ในห้องเวลานี้ เป็นช่วงที่เป็น "Zone ที่ควรซื้อ" หรือเป็น "Zone ที่ควรจะขาย" กันแน่???
...แค่นั้น ก็เพียงพอแล้วครับ

เช่นเดียวกับ การประเมินราคาทองคำ
บางคนอาจมองว่า นี่คือ Zone ซื้อ แต่บางคนมองว่าเป็น Zone ขายแล้ว!!!
นี่คือมุมมอง และการประเมินที่แตกต่างกัน!!!

สุดท้ายนี้ ผมอยากถามว่า...

"คุณเคยเห็นเสือเวลามันจะตะปบเหยื่อบ้างไหม?
มันมักจะซุ่ม และใช้เวลายาวนานมากในการรอคอย
ทั้งนี้เพื่อสิ่งเดียว คือ "ปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ มันต้องไม่พลาด!!!"
ตะครุบครั้งเดียว หมัดเดียวต้องอยู่ แต่อิ่มนาน"

เสือใจเย็นมาก...เสือมันรู้ครับว่า "การรอคอยนั้น มันคุ้มค่าเพียงใด?"
ว่าแต่...คุณใจเย็นเยี่ยงเสือได้ไหมขอรับ?



ปล.
คำเตือน :
แต่การคิดไปเอง หรือวิเคราะห์ไปผิดทาง ก็อาจทำให้เราเจ็บตัวอย่างหนักได้เช่นกัน
ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
มิเช่นนั้น เราอาจจะต้องมาร้องเพลงนี้ก็ได้นะครับ ว่า...
"รอแล้วได้อะไร!!!"

คุณ PAE เฮ้ย คุณ PAK เขียนได้ดีครับ
สำหรับผม

ยิ่งสั้น ยิ่งดี...ยาว ๆ อาจจะเจอหุ้นถูกเรื้อรัง....
ซื้อวันนี้ ขึ้นไป 5 ซิลลิ่งใน 5 วัน ราคาเกินมูลค่าละ ขาย..จบ...ดีที่สุด