Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตอนนี้ผม 24 ปี ผมหวังว่า อายุ 26 จะมี 1 ล้านบาท ตอนนี้ผมมาครึ่งทางแล้ว ผมไม่รีบนะครับ แต่มันเปงเป้าหมายที่ผมวางไว้ครับ

financeseed เขียน:ตอนนี้ผม 24 ปี ผมหวังว่า อายุ 26 จะมี 1 ล้านบาท ตอนนี้ผมมาครึ่งทางแล้ว ผมไม่รีบนะครับ แต่มันเปงเป้าหมายที่ผมวางไว้ครับ

Cheers up วันที่สำเร็จ Post เเจ้งเพื่อนๆ พี่ๆ ด้วยนะครับ

torpongpak เขียน:

financeseed เขียน:ตอนนี้ผม 24 ปี ผมหวังว่า อายุ 26 จะมี 1 ล้านบาท ตอนนี้ผมมาครึ่งทางแล้ว ผมไม่รีบนะครับ แต่มันเปงเป้าหมายที่ผมวางไว้ครับ

Cheers up วันที่สำเร็จ Post เเจ้งเพื่อนๆ พี่ๆ ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

ล้านแรก เกิดจากจงใจเก็บออมตั้งแต่ ป.4 เป็นเวลาราวๆ 15 ปี (12 วันก่อนอายุ 25)
ล้านที่สอง เกิดจากผลของการลงทุน 8 ส่วน เกิดจากเติมเงิน 2 ส่วน ใช้เวลาเกือบ
1 ปี
ล้านที่สาม .......รออยุ่ว่าจะเกิดเมื่อไหร่.........

เริ่มต้น 200,000 ลงทุน เพิ่งจะล้านแรกไม่นานมานี้เองค่ะ เอาใจช่วยทุกคนค่าา

ครึ่งทางจากหลักแสน เติมไปเรื่อยจากที่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยประหยัดมากขึ้น
เก็บไว้ในพอร์ตอย่างเดียว คิดว่าไม่นานน่าจะได้มา

ผมว่าตั้งเป้าดีๆทำตามหลักการณ์PDCAผมว่ามองข้ามล้านแรกไปได้เลยครับ^^

แต่ถ้าอยากรวยไว!!! ผมว่าถ้าเงินระดับ1-10ล้าน วิธีหาที่ไวที่สุดน่าจะเป็นการทำธุรกิจขนาดเล็กๆ ที่เงินลงทุนต่ำๆ โอกาสเสี่ยงน้อยๆ แต่returnสูงๆ จะไวกว่าเล่นหุ้นเยอะมากๆๆๆครับ เพราะธุรกิจเล็กๆหลายตัวROA1000%ยังมี ซึ่งในตลาดหุ้นจะหาROA30ก็ยากส์แล้วครับ^^

picklife เขียน:ผมว่าตั้งเป้าดีๆทำตามหลักการณ์PDCAผมว่ามองข้ามล้านแรกไปได้เลยครับ^^

แต่ถ้าอยากรวยไว!!! ผมว่าถ้าเงินระดับ1-10ล้าน วิธีหาที่ไวที่สุดน่าจะเป็นการทำธุรกิจขนาดเล็กๆ ที่เงินลงทุนต่ำๆ โอกาสเสี่ยงน้อยๆ แต่returnสูงๆ จะไวกว่าเล่นหุ้นเยอะมากๆๆๆครับ เพราะธุรกิจเล็กๆหลายตัวROA1000%ยังมี ซึ่งในตลาดหุ้นจะหาROA30ก็ยากส์แล้วครับ^^

เท่าที่ซากได้อ่านอุทาหรณ์ของคนเริ่มทำธุรกิจ ความคิดแรกเริ่มอยากรวยไวนี่ทำเอาหลายคนฉิบหายม้วนเสื่อกันมาแล้วนา

ในขณะที่คนสำเร็จ ไม่มีสักคนที่เริ่มต้นด้วยอาการอยากรวยไว และเค้าก็นึกไม่ถึงด้วยว่า เค้าจะมาได้เร็วขนาดนี้ มาได้ไกลขนาดนี้ เกินความคาดหวังขนาดนี้จนเหมือนบังเอิญ
ทุกคนสำเร็จที่มีเหมือนกัน คือ ใช้สามัญสำนึกเป็นตัวชี้นำการทำงาน อยุ่กับปัจจุบัน ใช้ PDCA อย่างที่พี่ปิ๊กบอกโดยไม่รู้ตัว (บางคนอาจไม่รู้ความหมายด้วยซ้ำ)

picklife เขียน:ผมว่าตั้งเป้าดีๆทำตามหลักการณ์PDCAผมว่ามองข้ามล้านแรกไปได้เลยครับ^^
แต่ถ้าอยากรวยไว!!! ผมว่าถ้าเงินระดับ1-10ล้าน วิธีหาที่ไวที่สุดน่าจะเป็นการทำธุรกิจขนาดเล็กๆ ที่เงินลงทุนต่ำๆ โอกาสเสี่ยงน้อยๆ แต่returnสูงๆ จะไวกว่าเล่นหุ้นเยอะมากๆๆๆครับ เพราะธุรกิจเล็กๆหลายตัวROA1000%ยังมี ซึ่งในตลาดหุ้นจะหาROA30ก็ยากส์แล้วครับ^^

แม้ลงทุนในหุ้นพอร์ตเล็กโตช้า รวยช้า แต่ถ้ามองยาวๆ มันคือการฝึกฝนฝีมือไปในตัว
เมื่อพอร์ต ท่านใหญ่ท่านก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทำเงินหายแล้ว เพราะหลักการลงทุนก็ยังเป็นแบบเดิม
แต่ทำธุรกิจนี่จะขยายใหญ่ๆนี่ยากมากครับ น้อยคนที่จะทำได้ดี ครับผม
(แต่ไม่ใช่ ไม่เห็นด้วยกับการทำธุรกิจนะครับ รวยเร็วกว่าจริงๆแหละ แต่ดูท่าแล้วจะเหนื่อยกว่ามาก 55++)

ล้านนึงนี่เป็นทางผ่านของคนที่คิดจะมีอิสรภาพทางการเงินแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้นเลือกหลักการที่ถูกต้องไว้แต่แรก จะดีกว่าครับ มีความสุขในการลงทุนนะครับ

เห็นด้วยครับ
นิสัยการลงทุนสำคัญครับ ผมก็พยายามฝึกอยู่ ถึงเเม้portเล็ก ลงทุนเเบบVI(ไม่ได้เก็งกำไร) Portโตไปเรื่อยๆ รวยช้า เเต่ก็จนช้าครับ ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมาคือ"นิสัยการลงทุนเเบบVI)

การลงทุนเเบบเก็งกำไร(ไม่ว่าVS, ไว, Day trade) คนที่ทำกำไรมากๆ เป็นคนส่วนน้อยซึ่งพี่ๆน้องๆที่ทำได้ จากเเส้นหรือล้านเดียวเป็น10ล้าน20ล้านในปีสองปี เค้าก็เก่งจริงเเหละครับ
เเต่ถ้าคุณไม่"เทพ"จริง ก็ยากส์ ข่าวสารก็รู้หลังเพื่อน, กราฟเทคนิคก็งูๆปลาๆ, มองหุ้นก็ไม่ขาด
ซึ่งถ้าเราติดนิสัยเเบบนั้น อาจจะรวยเร็ว เเต่ถ้ามองผิดอาจเจ็บหนัก ประมาณว่าได้มาตลอดที่ละนิดๆ เเต่เสียหนักครั้งเดียว ก็ไม่คุ้มครับ

ขอบคุณสำหรับความเห็นดีๆ กับกระทู้ดีๆนะครับ
ส่วนตัว ยังไม่มีล้านแรกแบบใครเขา
เลยมาแอบอ่านครับ

ผมมีล้านแรกตอนผมอายุ 36 มั้งครับ ปี 2010 เนี่ยแหละ
แต่ผมนับรวมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วยนะครับ
ส่วนพอร์ทยังไม่ถึงล้านดีเลย 9 แสนกว่าๆ แต่ก็มาจาก 2 แสน เมื่อ 7 ปีที่แล้ว
ตอนนี้มีรวมๆ ก็ 2 ล้าน

เงินเก็บเป็นตัวหลักครับ ผลตอบแทนยังเป็นตัวรองอยู่
เคยมีความคิดว่าเราอยากรวยเร็วเลยพยายามหาหุ้นที่มันจะราคาขึ้นเร็วๆ แต่ผลมักไม่ค่อยดี
เพราะเราจะพะวงกับราคาหุ้นมากเกินไป และทำให้การตัดสินใจเป็นไปด้วยอารมณ์

ตอนนี้ก็ยังอยากรวยเร็วอยู่ครับ แต่ต้องพยายามข่มใจ เพราะรู้สึกว่าเมื่ออยากได้มันไม่ค่อยได้
ค่อยๆสะสมไปดีกว่า แล้วเดี๋ยวผลมันก็จะออกมาเองครับ

Rocker เขียน:จะได้ 1 ล้าน เร็วหรือ ไม่นั้น ขึ้นอยู่ 3 ปัจจัยครับ

1 เงินต้น

2 เงินที่เติมเข้าไป

3 ผลตอบแทบแทน

หลังจากคุณ เติม เงินลงทุนเข้าไป แต่ ไม่ใช่ เติมปุ๊บ ซื้อ ปั๊บ หรือ ซื้อหุ้น ถัวเฉลี่ย ตาม บทความหรือหนังสือท้องตลาดแนะนํากันนะครับ เราจะซื้อหุ้น ต่อเมื่อ มี Margin of Safety เท่านั้น !!!!
ถ้ายังหาหุ้นทีมี MOS+GROWTH พอไม่ได้ การถือเงินสดไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับเงินที่เราเติมก็จะสะสมไป พอเราเจอตัวที่ใช่ ค่อย ลงทุนครับ แล้วพยายามลงทุนในหุ้น Growth Stock หรือ หุ้นที่ Earnings กําลังโต เนื่องจาก
ปัจจัยหลายๆอย่าง ถือ มันไว้ตราบที่มันยังโต แล้วคุณ จะพบ กับ Miracle of Life ตื่นขึ้นมา เผลอ 1-2 ปีจากนี้ คุณอาจทะลุ เป้า ก็ได้นะครับ

ผมชอบคุณ Rocker ที่แนะนำเรื่องเิงินที่เติมเข้าไป, อดเปรี้ยวไว้กินหวาน หาหุ้นที่มี MOS+Growth ครับ รู้สึกว่าตรงกับประสบการณ์ส่วนตัว นอกจากนี้เราก็ยังต้อง PDCA (Plan - Do - Check - Action) แบบที่คุณ Picklife กล่าวไว้ วางกลยุทธ์ในสิ่งที่ตัวเองถนัด ลงมือปฏิบัติ ตรวจสอบ และปรับปรุงข้อผิดพลาดเรื่อยๆ แบบนี้มีเงินล้านแน่ๆ ครับ

เงินล้านแรก เป็นอะไรที่วิ่งวนหาอยู่นานมากหลังจากจบ ป.ตรี ก็ทำงาน เปลี่ยนงาน เงินเดือนก็ไม่ถึงหมื่น
แต่อาศํยว่าอยู่บ้านพ่อแม่ ไม่ได้ทำงานต่างที่ พ่อให้เงินเริ่มต้น 2 แสน หลังท่านเกษียณ แต่มีเก็บเองอยู่
1.5 แสน เริ่มลงทุนหุ้น ปี 2543 เริ่มด้วย 3.5 แสนบาท อายุ 22-32 ยังไม่ได้เงินล้านครับ
แค่เกือบเคยมีถึง 7 แสนสูงสุด ได้วูบวาบจากการลงทุน ประมาณปี 2545 แต่ก็ตกกลับลงมาน้อยกว่า 3 แสนอีก
หลังปีที่มีเลห์แมนล้ม น่าจะ 4 ปีที่แล้ว ตลอดมายังลงทุนในหุ้นซื้อไป ขายมา สั้นบ้าง ยาวบ้าง
(จริง ๆ ถ้าถือยาว ได้เงินล้านไปนานแล้ว) และทำงานสะสมเงินได้มาก็ลงทุนในหุ้นและฝากเงินในรูปสหกรณ์ของบริษัท
คล้ายบังคับให้ฝากประจำดีเหมือนกัน เพิ่งมีเงินล้านแรกจากเงินเดือน +เงินลงทุนหุ้นในช่วงที่หลังจบเรื่องเลห์แมนมา
ซัก 2 ปี ครับ ตอนนี้ ยังลงทุนหุ้นอยู่+ทำงานสะสมเงินเดือน+ฝากสหกรณ์+ประกันชีวิต เนื่องจากโสด ไม่มีภาระรับผิดชอบมาก
จึงค่อยๆ มีล้านที่ 2 และมุ่งหวังล้านต่อๆ ไป โดยไม่รีบร้อนแล้วครับ ตอนวัยรุ่นเราก็มักคิดใหญ่ หวังเร็ว แต่มันวูบวาบครับ
นี่คือข้อผิดพลาดที่ปัจจุบัน ผมเริ่มละมันไปได้มากจากอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ยังคงเน้นเก็บเงินออมเงินเดือน รวมทั้งลงทุนไปด้วย
ช่วยให้เรามีความมั่นคงการเงิน ไม่เดือดร้อน สบายใจสุดๆ ครับ
*ข้อคิดจากประสบการณ์การหาเงินล้านแรก และสร้างความมั่นคงต่อไปในล้านต่อๆ ไป ของผม ได้ข้อสรุปดังนี้

-ใจเราสำคัญที่สุด อย่าประมาทในการหาเงิน และ เก็บเงิน
-อย่าเลิกทำงาน เพราะมันให้ความมั่นคงทั้งทางกายและใจเราเป็นอย่างดี การมีอะไรทำย่อมดีต่อเรา
-อย่าเลิกลงทุน ไม่ว่ารูปแบบใด เพราะการไม่ลงทุนเป็นอะไรที่เสี่ยงกว่าการลงทุน (เสี่ยงจากการลดลงของมูลค่าเงิน และการเพิ่มขึ้นจากค่าครองชีพ)
ไม่ว่าลงทุน หุ้น พันธบัตร เงินฝากในรูปแบบที่เราฝากต่อเนื่อง (แบบลืมๆ แต่บังคับเก็บ) การทำประกันชีวิต หรือซื้อกองทุนเพื่อเป็นหลักประกันและลดหย่อน
ภาษีประจำปีได้อีกด้วยเราจะมีเงินเพิ่มขึ้น
-อย่าใช้จ่ายในสิ่งไม่จำเป็น หรือจำเป็นแค่รองๆ
-หาโอกาสในการทำให้กาย และใจเราเป็นสุข +สุขภาพกาย-ใจ การพักผ่อน และท่องเที่ยว กิจกรรมที่ชอบ สร้างสรรค์ แบ่งปัน และช่วยเหลือสาธารณะตาม สมควร

**สำหรับข้อคิดในการลงทุนในหุ้น ที่ผ่านมาหากเราไม่ซื้อขายหุ้นที่เรามองว่าธุรกิจมั่นคงในระยะยาวต่อเนื่อง บ่อย เปลี่ยนหุ้นและขายขาดทุนบ่อยเราจะได้ผลตอบแทนที่อัศจรรย์ และค่อนข้างไม่เสี่ยงวูบวาบกับดัชนีที่ขึ้นลงเลย หามันให้เจอและคอยติดตามผลงานของกิจการบริษัทนั้นเป็นระยะๆ ก็พอ หากเป็นไปอย่างคิด จงถือมันต่อไป เพื่อให้หุ้นกิจการนั้นทำงานแทนเราได้เลยครับ...

--หวังว่าเรื่องของผมคงเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ บ้างนะครับ--

ซากคน เขียน:ล้านแรก เกิดจากจงใจเก็บออมตั้งแต่ ป.4 เป็นเวลาราวๆ 15 ปี (12 วันก่อนอายุ 25)
ล้านที่สอง เกิดจากผลของการลงทุน 8 ส่วน เกิดจากเติมเงิน 2 ส่วน ใช้เวลาเกือบ
1 ปี
ล้านที่สาม .......รออยุ่ว่าจะเกิดเมื่อไหร่.........

ผมแทบไม่เคยเห็นคนที่ออมอย่างเดียว แล้วมีเงินล้าน แค่ช่วงต้นวัยทำงานเอง

สุดยอดจริงๆ พี่โวล