Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

SunShine@Night เขียน:

ย้ำคิดย้ำฝัน เขียน:หลายปีก่อนผมมีรายได้จากการทำงานหนักค่อนข้างมาก และก็มีความทุกข์มากมาก
หลายเดือนนี้ผมไม่มีรายได้จากการทำงานและการลงทุนเลย แต่กลับมีความทุกข์น้อยมาก

ว้าว แสดงว่ามีอิสภาพทางการเงินแล้ว

หรือไม่ก็ไปบวช

หลงป่าดูแผนที่

กับตอนเดินหาทางออกจากป่าจริง

ต่างกัน

มาก

simplelife เขียน:

SunShine@Night เขียน:

ย้ำคิดย้ำฝัน เขียน:หลายปีก่อนผมมีรายได้จากการทำงานหนักค่อนข้างมาก และก็มีความทุกข์มากมาก
หลายเดือนนี้ผมไม่มีรายได้จากการทำงานและการลงทุนเลย แต่กลับมีความทุกข์น้อยมาก

ว้าว แสดงว่ามีอิสภาพทางการเงินแล้ว

หรือไม่ก็ไปบวช

555 ไม่ได้บวชครับ
ตอนนี้ไม่ได้ทำงาน และอาจไม่ทำอีกแล้ว
มีเงินไม่มากครับ ไม่กล้าเรียกว่าเป็นอิสรภาพ

simplelife เขียน:

SunShine@Night เขียน:

ย้ำคิดย้ำฝัน เขียน:หลายปีก่อนผมมีรายได้จากการทำงานหนักค่อนข้างมาก และก็มีความทุกข์มากมาก
หลายเดือนนี้ผมไม่มีรายได้จากการทำงานและการลงทุนเลย แต่กลับมีความทุกข์น้อยมาก

ว้าว แสดงว่ามีอิสภาพทางการเงินแล้ว

หรือไม่ก็ไปบวช

ผม มีรายได้ทั้งสองทาง ทำงานไม่หนัก สบาย ๆ

แต่ผม ไม่มีความสุข และ ไม่มีความทุกข์ ....เฉย ๆ ต่อชีวิตมาก

ลองสมมติ สำหรับคนทั่วไปที่จะทำได้จริง ไม่ใช่ระดับโครตเซียนทำ

อายุเกือบ 30 ปี มีงานทำ และทำงานจนเกษียณ แบ่งเงินเก็บมาออมในหุ้นโดยเลือกหุ้นแนววีไอ ผลตอบแทนแบบงูๆปลาๆแต่เป็นขั้นตํ่านะครับ ถือคติไม่ให้ขาดทุนไว้ก่อน สมมติเริ่มลงทุนปีนี้สัก 300,000 บาท ที่ว่ากันว่า หุ้นแพงแล้ว หาหุ้นยากเหลือเกิน ทุกปีหาหุ้นที่พอจะได้เงินปันผล 3-4%และ capital gain ต่ากหาก แล้วลงทุนเพิ่มเฉลี่ยปีละ 25,000 บาททุกปี (หรือ เก็บเงินมาลงทุนเดือนละ 25,000/12 = 2,084 บาท) และบางปีก็ลงทุนเพิ่มมากๆหากเห็นโอกาสทอง มีวินัยเคร่งครัด เติมเงินตลอดและไม่เอาเงินในพอร์ตออกมาใช้จ่ายเด็ดขาด

ดูที่วันสุดท้ายคือ อีก 35 ปีให้หลัง พอแก่ตัวจะมีเงินถึง13 ล้านกว่า + ผลตอบแทนที่ได้ต่อปีในปีสุดท้ายคือ 7แสนกว่าบาท โดยลงทุนทั้งสิ้นแค่ 2.7 ล้าน

เหมือนจะน้อยนะครับ แต่ถ้าเทียบดูว่า ถ้าเพิ่มสัดส่วนอีก 10 เท่า > ลงทุน 27 ล้าน แก่ตัวจะมีเงิน 130 ล้าน + ผลตอบแทนที่ได้ต่อปีในปีสุดท้ายคือ 7 ล้านกว่าบาท โอ้โห เงินทำงานให้เราเอง 7 ล้านต่อปี ไม่น้อยนะครับ สบายแล้วหลังจากนี้ไม่ต้องลำบากแน่ๆแล้ว

เพื่อนๆลองทำตารางเอ็กเซลแบบนี้ แล้วสมมติตัวเลขในใจกันเล่นๆนะครับ สนุกดี (เพราะความฝันเป็นพลังขับเคลื่อนของชีวิต)

ถ้ามีไม่ถึงพันล้าน

ชีวิตจะเป็นทุกข์ไปตลอดชีวิตหรือไม่ครับ

ตัวเลขคณิตศาสตร์ มันตายตัว

แต่ในชีวิตจริง เหตุการณ์จริงคงมีตัวแปรที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกหลากหลาย

อาจจะได้พันก่อนตายหรือตายก่อนได้พัน ยังไม่แน่ชัด
แต่ก็ขออวยให้สมหวังนะครับ

ส่วนตัวผมขอแค่มีความสุขทุกวันในชีวิตการลงทุนก็พอแร๊ะ
พันไม่เอาเพราะความสามารถทางครอบครัวคงไปไม่ถึงน่ะ

เจียมอยู่

วันที่เงินน้อยการได้ผลตอบแทนมากอาจไม่ยากมาก
แต่พอเงินเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยากครับ ไม่ใช่คณิตศาสตร์แล้ว
คุณคิดว่ามีเงิน 1 ล้าน กับมีเงิน 100 ล้าน จะลงทุนเหมือนกันหรือไม่

35 ปี 40 ปี 60 ปี ไกลเกินไปเยอะครับ
อย่าลืมว่า วิกฤติต้มยำกุ้งเพิ่งผ่านมาแค่ 15 ปี และ subprime เพิ่งผ่านมาแค่ 3 ปี
ที่สำคัญ การคำนวณแบบทบต้น มีจุดด้อยอย่างหนึ่งคือ
ตั้งแต่ระยะเวลาเริ่มต้น จนถึงจบ จะไม่มีการนำเงินออกมาใช้จ่ายหรืออะไรเลย
ตัวเลขทบต้นถึงจะเป็นอย่างที่คำนวณ ... ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วทั้งในแง่บวกหรือลบ

ดังนั้น การคำนวณแบบทบต้น สำหรับผม มันเป็นแค่ guide ให้เห็นเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2-3 ปีสุดท้าย หากขาดทุนปีละซัก 20% ... คุณคิดว่าตอนจบ จะเหลือเงินเท่าไหร่

ผมก็เป็นอีกคนที่ทำตารางแบบนี้มาเมื่อสัก 7 ปีที่แล้ว. และเข้าใจว่าระหว่างทางจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่มันก็ทำให้เป้าหมายของเราชัดเจนขึ้นและสามารถประเมินตัวเองในแต่ละปีได้ว่ายังคงเป็นไปตามแพลนหรือเปล่า หากไม่เป็นไปตามที่เราคิดไว้ เราก็สามารถที่จะวิเคราะห์ไดว่าเพราะอะไร และแก้ไขกันไประหว่างทางครับ

ส่วนตัวผมไม่ได้ตั้งเป้าที่พันล้าน แต่ตั้งเป้าไว้ที่เงินปันผลแต่ละปีที่จะทำให้ผมมีอิสระภาพทางการเงินเร็วที่สุด

สำหรับผมการมีเงินเยอะไม่ได้ช่วยอะไร หากเราไม่มีโอกาสได้ใช้ ดังนั้นมันสำคัญมากที่จะต้องพยายามเพิ่มผลตอบแทนให้ได้มากที่สุดโดยพิจารณากับความเสี่ยงหรือความมั่นใจของเรา เพื่อจะให้ใช้เวลาที่สั้นที่สุดเพื่อจะไปถึงจุดที่ผมเรียกว่าจุดเริ่มต้นของอิสระภาพทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันผมตั้งไว้ที่ยี่สิบล้านบาทครับ

คลายเครียด เขียน:ถ้ามีไม่ถึงพันล้าน

ชีวิตจะเป็นทุกข์ไปตลอดชีวิตหรือไม่ครับ

ในมุมมองของผม ความสุขและความทุกข์มันเป็นเหรียญสองด้านบาง ๆ ครับ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ที่จะพลิกเหรียญไปด้านไหน

การคิดหาเงินให้มาก หาใช่ทำให้เรามีความสุขก็จริงอยู่ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นทุกข์ได้ เพราะว่า ความสุขและทุกข์นั้นหาใช่จีรังไม่ สุขวันนี้ พรุ่งนี้ก็ไม่สุข ทุกข์วันนี้ พรุ่งนี้ก็ไม่ทุกข์

ถ้าเราคิดเสมอว่า สิ่งที่เราจะทำในอนาคตจะต้องทำให้เราสุขอย่างเดียวนั้น ชีวิตของเราคงไม่ต้องดำเนินไปแน่ ๆ เพราะว่า เราคงหาสิ่งนั้นไม่เจอ

สำหรับผม ไม่ว่าเราจะเลือกทางเดินแบบไหน เราก็คงหนี้ไม่พ้นที่จะเจอทุกข์และสุข ทางที่ดีเราก็แค่ต้องทำใจว่าตอนนี้ถ้าเราสุขอยู่ในไม่ช้าเราก็จะทุกข์ ถ้าเราทุกข์อยู่ ไม่นานความสุขก็คงพาเข้ามาในชีวิตเราบาง เมื่อเราทำใจได้แล้ว ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขเรามาในชีวิต เราก็คงจะผ่านมันไปได้

ขอบคุณครับ

tt เขียน:วันที่เงินน้อยการได้ผลตอบแทนมากอาจไม่ยากมาก
แต่พอเงินเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยากครับ ไม่ใช่คณิตศาสตร์แล้ว
คุณคิดว่ามีเงิน 1 ล้าน กับมีเงิน 100 ล้าน จะลงทุนเหมือนกันหรือไม่

จขกทเขาเฉลี่ยให้ไว้ที่ 12% แล้วหนิครับ?

การจะหาเงินไม่ว่าจำนวนจะมากน้อยเท่าไหร่ ก็ว่ายากแล้ว แต่การที่จะรักษาเงินให้คงอยู่มันยากกว่ามากนัก

10 หลัก 9หลัก 8หลัก

มันขึ้นกับความพอใจ

10หลัก เลิกลงทุนฝากแบงค์อย่างเดียว ดอกร้อยละ 3 ปีนึงดอก 30 ล้าน

9หลัก เลิกลงทุนฝากแบงค์อย่างเดียว ดอกร้อยละ3 ปีนึงดอก 3 ล้าน

8หลัก เลิกลงทุนฝากแบงค์ ดอกปีนึง 3แสน


ถ้าเป็นคนไม่สุรุ่ยสุร่ายอะไร ปีึนึงดอก 3 ล้าน เนี่ยคิดเป็นเงินเดือนประมาณ 2แสนกลางๆ

ต่อเดือน

ถ้าไม่สูบบุหรี่ เที่ยวเฮียชู เดือนละ 2แสนกลางๆ เนี่ย ผมว่าก้ไม่เห็นต้องไป ดิ้นรนให้ 10หลัก

ไปให้เครียด

โดยส่วนตัวผมว่า 9หลัก ถ้าเริ่มต้นด้วย 7หลัก พอมีลุ้น ถ้าเริ่ม 6หลัก ก้พอเป็นไปได้

ถ้าเริ่ม 5หลัก คงเหนื่อยหน่อย

ส่วนตัวขอ 9หลักก้จะหยุดลงทุนแล้วครับ ขอหยุดตัวเอง ไม่ทำงาน

เอาเวลามาดูแลพ่อแม่ครับ

ผมก็อยากมีครับ เคยประกาศกับคนหลาย ๆ คนไปแล้ว

ผมว่าเมื่อถึงจุดหมาย คงสนองตัณหาตัวเองซักสอง สาม ปี ก็น่าจะอิ่ม ไปๆมาๆ ก็กลายเป็นเหมือนหลาย ๆ คนเมื่อรวยแล้ว ก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายธรรมดา เพราะสนองตัณหาตัวเองทางด้านวัตถุครบแล้ว ทำให้เกิดเป้าหมายใหม่ในชีวิต คือ ความสุข แต่อันนี้วัดเป้าหมายได้ยาก ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงออกผนวช (ผมเดาเอานะ)

ความเครียด เป็นต้นกำเนิดของหลายๆโรคที่จะตามมา
อย่ากดดันตัวเองเลยครับว่าจะต้องมีเท่าไร
ใช้ชีวิตทุกวันให้มีความสุข ออกกำลังกายบ้าง
กิน เที่ยว ให้เต็มที่เพราะเวลาเรียกย้อนกลับมาไม่ได้
ถ้าอยากมี พันล้านจริงๆ " จังหวะชีวิต " เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ศึกษาหาความรู้ให้เยอะ ทำการบ้านอย่างหนัก ( ผมทำไม่ได้เลย )
มีความตั้งใจ แล้วความสำเร็จจะมาเยือน ไม่ช้า ก็เร็ว
ในชีวิตเจอแต่ลูกเศรษฐี " พันล้าน " แต่ยังไม่เคยรู้จักคนที่ทำ พันล้านได้ด้วยตนเองเลย

ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ ^^

เวลามีเงินน้อยกล้าเอาเงินซื้อหุ้นหมดเลย
เวลามีเงินเยอะ 555

เปงแรงบันดาดใจที่ดีครับ

อยากถามเจ้าของกระทู้ต่อครับว่า ถ้าทำได้จริง คิดว่าจะเอาเงินไปทำอะไรครับ

ส่วนตัวผม พันล้าน มากเกินว่าที่จะให้ตัวเองและครอบครัว ผมก็เคยคิดเล่นๆเหมือนกันนะครับ ว่าถ้าทำได้จริง ผมอยากเอาเงินไปทำอะไรที่เป็นสาธาณประโยชน์มากกว่า เช่น ตั้งมูลนิธิคนพิการ หรือ เด็กด้อยโอกาส หรือไม่ก็สร้างสวนสาธารณะ สนามบอล อะไรทำนองนี้ ผมคงมีความสุขมากกว่าเอาเงินไปซื้อวัตถุต่างๆหรือเก็บเงินสร้างความมั่งคั่งไปเรื่อยไม่จบสิ้น

sakkaphan เขียน:อยากถามเจ้าของกระทู้ต่อครับว่า ถ้าทำได้จริง คิดว่าจะเอาเงินไปทำอะไรครับ

ส่วนตัวผม พันล้าน มากเกินว่าที่จะให้ตัวเองและครอบครัว ผมก็เคยคิดเล่นๆเหมือนกันนะครับ ว่าถ้าทำได้จริง ผมอยากเอาเงินไปทำอะไรที่เป็นสาธาณประโยชน์มากกว่า เช่น ตั้งมูลนิธิคนพิการ หรือ เด็กด้อยโอกาส หรือไม่ก็สร้างสวนสาธารณะ สนามบอล อะไรทำนองนี้ ผมคงมีความสุขมากกว่าเอาเงินไปซื้อวัตถุต่างๆหรือเก็บเงินสร้างความมั่งคั่งไปเรื่อยไม่จบสิ้น

ให้ตอบจริงๆ(อย่างอายๆเล็กน้อย) ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่า มีเงินพันล้านแล้วจะไปทำอะไร
ผมมองว่าการลงทุนก็เหมือนกับการปลูกต้นไม่ละครับ คงบอกยากว่าพอต้นไม้ของเราโตเท่านั้นเท่านี้แล้ว เราจะเอาต้นไม้ต้นนี้ของเราเอาไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์แบบไหน ยิ่งถ้าจะประกาศฟันธงว่าผมอยากจะไปให้สาธารประโยชน์(คิดอยู่นะครับ)ผมคงไม่กล้า เพราะผมก็ไม่รู้ว่า พอเรามีเงินเท่านั้นจริงๆ เราในว่านั้นจะเป็นเราในวันนี้หรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งผมคิดว่าสำคัญมากๆอย่างหนึ่งที่อยากจะทำ คือ การแบ่งปั่นประสพการณ์ให้กับเด็กรุ่นหลัง ซึ่งตอนนี้ผมเพยายามเริ่มต้นที่จะทำบาง และผมเชื่อว่าเมื่อเราประสพความสำเร็จระดับหนึ่ง เสียงเล็กๆเสียงนี้ อาจจะมีคนเริ่มฟังบาง อาจจะทำให้คนหลายๆคน เริ่มหั่นมาเก็บเงิน ประหยัด อดออม มากขึ้น แค่นั้นผมว่าผมก็น่าจะมีความสุขกับความว่าให้บางครับ

มีวินัยการลงทุน ไม่นอกลู่นอกทาง เดี๋ยวก็ถึงครับผม สู้ๆ ^^

PrasertsakK เขียน:

sakkaphan เขียน:อยากถามเจ้าของกระทู้ต่อครับว่า ถ้าทำได้จริง คิดว่าจะเอาเงินไปทำอะไรครับ

ส่วนตัวผม พันล้าน มากเกินว่าที่จะให้ตัวเองและครอบครัว ผมก็เคยคิดเล่นๆเหมือนกันนะครับ ว่าถ้าทำได้จริง ผมอยากเอาเงินไปทำอะไรที่เป็นสาธาณประโยชน์มากกว่า เช่น ตั้งมูลนิธิคนพิการ หรือ เด็กด้อยโอกาส หรือไม่ก็สร้างสวนสาธารณะ สนามบอล อะไรทำนองนี้ ผมคงมีความสุขมากกว่าเอาเงินไปซื้อวัตถุต่างๆหรือเก็บเงินสร้างความมั่งคั่งไปเรื่อยไม่จบสิ้น

ให้ตอบจริงๆ(อย่างอายๆเล็กน้อย) ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่า มีเงินพันล้านแล้วจะไปทำอะไร
ผมมองว่าการลงทุนก็เหมือนกับการปลูกต้นไม่ละครับ คงบอกยากว่าพอต้นไม้ของเราโตเท่านั้นเท่านี้แล้ว เราจะเอาต้นไม้ต้นนี้ของเราเอาไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์แบบไหน ยิ่งถ้าจะประกาศฟันธงว่าผมอยากจะไปให้สาธารประโยชน์(คิดอยู่นะครับ)ผมคงไม่กล้า เพราะผมก็ไม่รู้ว่า พอเรามีเงินเท่านั้นจริงๆ เราในว่านั้นจะเป็นเราในวันนี้หรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งผมคิดว่าสำคัญมากๆอย่างหนึ่งที่อยากจะทำ คือ การแบ่งปั่นประสพการณ์ให้กับเด็กรุ่นหลัง ซึ่งตอนนี้ผมเพยายามเริ่มต้นที่จะทำบาง และผมเชื่อว่าเมื่อเราประสพความสำเร็จระดับหนึ่ง เสียงเล็กๆเสียงนี้ อาจจะมีคนเริ่มฟังบาง อาจจะทำให้คนหลายๆคน เริ่มหั่นมาเก็บเงิน ประหยัด อดออม มากขึ้น แค่นั้นผมว่าผมก็น่าจะมีความสุขกับความว่าให้บางครับ

อืมมม จริงครับ การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์แก่ผู้อื่น ก็ถือเป็นการ"ให้"ที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างหนึ่งแล้ว

ขอบคุณครับ ^^

แต่ผมว่าจะกี่หลักก็แล้วแต่ บุคคลเนอะที่ฝันที่จะไปให้ถึง

ยังไงก็ขอให้ทุกท่านที่นี้ พรอต์ทะลุ 9 หลักกันไปทุกท่านละกันครับ ร่ำรวยๆสู้ๆครับ

ขอบคุณ คุณ PrasertsakK
เป็นกระทู้ที่ดี และทำให้ท่านอื่น มีความหวังในการลงทุน

ผมชอบนะครับ อีกอย่าง assumption ที่ให้มาก็ make sense นะ
(สำหรับผมอ่ะ) แต่จริงๆ ผมว่าไม่ถึง พันล้าน สักหลักร้อย
เราก็สามารถอยู่อย่างเป็นสุข และช่วยเหลือสังคมได้มากแล้วครับ

คลายเครียด เขียน:ถ้ามีไม่ถึงพันล้าน

ชีวิตจะเป็นทุกข์ไปตลอดชีวิตหรือไม่ครับ

เป็นคนดีสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด นะครับ แค่พอมีแล้วไม่เดือดร้อนก็ พอ ครับ
จะได้ไม่เครียด

คลายเครียด เขียน:ถ้ามีไม่ถึงพันล้าน

ชีวิตจะเป็นทุกข์ไปตลอดชีวิตหรือไม่ครับ

ส่วนตัวก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ แต่ผมมันพวกใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง โดยคิดว่าชีวิตเกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว

ขอใช้ให้มันคุ้มที่สุด ส่วนตัวแล้วผมมองทะลุพันล้านไม่อีกครับ "แต่ทำได้รึปล่าวนั้นมันอีกเรื่อง" ขอให้ได้ลองทำก่อน ถ้าไม่สำเร็จ

แล้วจะกลับมาบอกนะครับว่า ผมเสียใจรึปล่าว หรือถ้าสำเร็จก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีความสุขรึปล่าว ???