จงกลัวเมื่อถึงเวลาที่ควรกลัว อย่าพึ่งหวังในเวลาที่ยังไม่ควร

[chukieat30]

ผม+1 ให้กับคุณต่อและกันนะครับ แนวคิดเหมือนจะทำให้ต่อยอดได้ครับ

[pak]

ขอบคุณมากๆครับ
สำหรับบทความที่ผมเองก็รู้สึกได้นะครับว่า มาจาก "ความหวังดี" จากใจจริง

แต่ความหวังของผม มันไม่ได้เกิดจากกราฟใดๆทั้งสิ้น
ความหวังของผม มันเกิดมาจากความมั่นใจในตัวของผู้บริหาร
มั่นใจมากเสียจน ผมตัดสินใจเป็น "หุ้น(ส่วน)" ร่วมกับเค้าไปแล้ว

และเมื่อเป็น "หุ้น(ส่วน)" กันแล้ว
มันเหลือ 2 ทางเท่านั้นครับ คือ เจริญไปด้วยกัน กับ เจ๊งไปพร้อมๆกัน!!!

ผมทราบดีครับว่า ความรู้น้อยของผมมันแปรผกผันกับความฝันที่มันมีมากเหลือเกิน
แต่ผมพร้อม และยอมรับความจริงข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นทุกอย่างแล้ว
ผมมาจากศูนย์ และผมเลือกที่จะเชื่อ และฝัน(แม้ว่าใครจะมองว่าลมๆแล้งๆ)
ผมเอง พร้อม และ ทำใจล่วงหน้าไว้แล้วครับ ถ้าผมจะต้องกลับไปยืนที่จุดเดิม

นี่ไม่ใช่ทางที่ถูก แต่เป็นทางที่ผมเลือกแล้วครับ

ด้วยความเคารพ
pak

[beaeaebe]

ขอบคุณมากๆครับ
สำหรับบทความที่ผมเองก็รู้สึกได้นะครับว่า มาจาก "ความหวังดี" จากใจจริง

แต่ความหวังของผม มันไม่ได้เกิดจากกราฟใดๆทั้งสิ้น
ความหวังของผม มันเกิดมาจากความมั่นใจในตัวของผู้บริหาร
มั่นใจมากเสียจน ผมตัดสินใจเป็น "หุ้น(ส่วน)" ร่วมกับเค้าไปแล้ว

และเมื่อเป็น "หุ้น(ส่วน)" กันแล้ว
มันเหลือ 2 ทางเท่านั้นครับ คือ เจริญไปด้วยกัน กับ เจ๊งไปพร้อมๆกัน!!!

ผมทราบดีครับว่า ความรู้น้อยของผมมันแปรผกผันกับความฝันที่มันมีมากเหลือเกิน
แต่ผมพร้อม และยอมรับความจริงข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นทุกอย่างแล้ว
ผมมาจากศูนย์ และผมเลือกที่จะเชื่อ และฝัน(แม้ว่าใครจะมองว่าลมๆแล้งๆ)
ผมเอง พร้อม และ ทำใจล่วงหน้าไว้แล้วครับ ถ้าผมจะต้องกลับไปยืนที่จุดเดิม

นี่ไม่ใช่ทางที่ถูก แต่เป็นทางที่ผมเลือกแล้วครับ

ด้วยความเคารพ
pak

ขอบคุณมากๆครับที่สนใจ

คืออ่านดูจะรู้ผมไม่เคย พูดวิจารณ์ความหวังส่วนบุคคลของใคร ทุกคนหวังได้ คิดได้ และผมก็ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทุกคนโชคดี สมหวัง

จากที่อ่านคือคุณ pak ก็น่าจะศึกษากิจการต่างๆเป็นอย่างดี รู้ข้อมูลผู้บริหาร และ น่าจะกระทำด้วยตนเอง

ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความหวังในบทความ

ความหวังในบทความที่กล่าว คือ ความหวังที่ถูกอัดฉีด โดยผู้อื่น กระแส กูรู ที่ไม่ได้มาจากการศึกษาด้วยตนเอง และไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์คิดพิจารณา ซึ่ง ผู้ที่ใช้ความหวังเหล่านั้นดำเนินชีวิต ก็เหมือนยืมฝันคนอื่นมาหายใจลวกๆ ประทังชีวิตไป แน่นอนว่าอันตรายอย่างยิ่ง

ผมจึงอยากเตือนสติ แต่ก็ไม่รู้จะเตือนได้แค่ไหน เพราะถึงขนาดนี้แล้ว ผมว่าคนเรามันหัวปักหัวปำได้ ผมเองก็ไม่ได้ว่าใครผิดถูก แต่อย่างน้อย ถ้าจะหวัง ก็ไม่ควรจะไปเอาความหวัง ความคิด ของผู้อื่นมาเสพ แล้วเชื่อตามโดยไม่คิดอะไรเลย แถมผิดหลักการลงทุนอย่างสิ้นเชิง เพราะพวกเข้าตลาดใหม่ติดดอยตอนนี้น่าจะซื้อหุ้นที่ไม่เหลือ MOS หรือเหลือน้อย หรือกิจการไม่ได้ดีอะไรมากมาย หรือถือหุ้นวัฏจักร โดยไม่เข้าใจรอบอย่างแท้จริง

อันนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับคุณนะครับ

ขอให้โชคดีครับ สู้ๆ

[beaeaebe]

ผมมีความรู้น้อยนะครับ และไม่อยากขัดขาใคร เพราะทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นเท่าเทียมกัน ผมขอเสนอให้หยุดโจมตีดีไหมครับ ลองนำความคิดเห็นต่อสถานการณ์เช่นนี้มาแลกเปลี่ยนกันเพื่อเป็นการเตือนหรือให้กำลังใจกันดีกว่าไหมครับ
อย่างที่บอกผมความรู้น้อย port ก็เล็ก แต่ผมยึดแนวทาง ดร.นิเวศน์ อย่างเหนียวแน่น ถึงแม้บางครั้งอยากออกแนวบ้างแต่ก็พยายามอดใจ ในสถานการณ์นี้ผมคิดว่าผมต้อง
กลับมาดูตัวเอง Port เป็นอย่างไร หากลงต่อจะปรับ port ไหมอันนี้ผมไม่ปรับ เพราะการลงกระทบผมเพียงแค่กำไรลดลง ไม่ได้ก่อให้เกิดการขาดทุน กรณีนี้พื้นฐานของบริษัทที่ผมลงทุนร่วมด้วย (ไม่ใช่หุ้นนะครับ) ไม่เปลี่ยนหรือเปลี่ยนไม่มาก MOS พอมีก็อยู่เฉยๆ รอดูไป ซึ่งของผมหลายตัวเป็นเช่นนี้ แต่สิ่งที่ผมทำอีกคือตอนนี้ผมไม่มีเงินสด ผมจึงเลือกขายบางตัวที่ลงน้อยออกมารอเก็บตัวที่ลงเยอะที่ตั้ง MOS คอยอยู่ อันนี้คือสิ่งที่ผมจะทำเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสให้กับ port ของผมเอง เพื่อนจะทำอะไรกันบางล่ะครับ

โดยส่วนตัวผมมองว่าคราวนี้คงลงไปเยอะอยู่ หากไม่มีมาตรการออกมาหยุดความกลัวของนักลงทุนนะ ตอนนี้ยังลงไม่เยอะเพราะหลายคนคิดว่าลงแล้วต้องรีบทะยอยเก็บบ้างเพราะเดี๋ยวขึ้นไปแล้วจะตกรถ ซึ่งจริงๆก็ถูกต้องแต่อย่างลืมอนาคตไม่มีใครรู้ แต่เหตุการณ์ในอดีตก็คล้ายๆนี้ คือ ช่วงแรกตกๆขึ้นๆ จากนั้นตกแรงหน่อยและขึ้นได้อีกหน่อยสัก 2-3 ครั้ง ซึ่งตรงนี้ใช้เวลาหลายเดือนเหมือนเล่นชักกะเย่อ จากนั้นเมื่อทุกคนเริ่มคลายความวิตก คราวนี้ดิ่งเลย อันนี้ผมสังเกตุจากความรู้สึกของ subprime กับกราฟ dotcom effect ครับ เพราะเข้ามารับความรู้สึกตอน dotcom ไม่ทันในตอนนั้น

ผมไม่ได้โจมตีใครนะครับ คุณอ่านบทความให้ดีๆครับ และ คิดตามด้วยครับ ส่วนนอกเหนือจากนั้นความเห็นท่านอื่นผมห้ามใครไม่ได้ และแนวทางที่คุณปฏิบัติ ผมว่าบทความนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับคุณนะครับ ออกจะสนับสนุนในสิ่งที่คุณทำด้วยซ้ำ ส่วน เรื่องกูรู ผมว่าท่านดร. นิเวศน์นี่สุดยอด ผมนับถือมาก เพราะแกไม่เคยฟันธง เชียร์อะไรจนคนแห่ตามเกินเหตุ แถมยังมากระตุกเตือนๆ ช่วยเหลือผู้อื่นครับ

ขอให้โชคดีในการลงทุนครับผม ^^"

[beaeaebe]

ถ้าตอนนี้ไม่มีความรู้สึกกลัวเลยจะผิดแปลกไปมั้ยนะ

ตอนก่อน Sub Prime ท่านรู้สึกแบบนี้รึเปล่าครับ? หรือท่านกลัวตอนนั้น คือผมอยากทราบจริงๆ ตอนนี้ผมทำวิจัยย่อยๆส่วนตัวคือ ไล่ถามคนรู้จักที่อยู่ในตลาดตอน Sub Prime ว่าเขาคิดอย่างไรในตอนนั้น แบ่งเป็นชอทๆ ช่วงลงแรกๆ ลงกลางๆ ก่อนเด้ง ผมแอบทำโพลส่วนตัวจากเพื่อนๆที่ทำงาน IB บ้าง Finance ธนาคาร หลายมุมมองมาก

ผมว่าการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ในการตัดสินใจในช่วงนั้น มีส่วนช่วยให้เราเข้าใจจิตใจคนในตลาดมากขึ้น โดยการวิเคราะห์จากแนวทางการลงทุนของคนที่เราไปถาม และ นำมาวิเคราะห์ ปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยในช่วงนี้หรือหลังจากนี้นะครับ

[pakhakorn]

ถ้าตอนนี้ไม่มีความรู้สึกกลัวเลยจะผิดแปลกไปมั้ยนะ

ตอนก่อน Sub Prime ท่านรู้สึกแบบนี้รึเปล่าครับ? หรือท่านกลัวตอนนั้น คือผมอยากทราบจริงๆ ตอนนี้ผมทำวิจัยย่อยๆส่วนตัวคือ ไล่ถามคนรู้จักที่อยู่ในตลาดตอน Sub Prime ว่าเขาคิดอย่างไรในตอนนั้น แบ่งเป็นชอทๆ ช่วงลงแรกๆ ลงกลางๆ ก่อนเด้ง ผมแอบทำโพลส่วนตัวจากเพื่อนๆที่ทำงาน IB บ้าง Finance ธนาคาร หลายมุมมองมาก

ผมว่าการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ในการตัดสินใจในช่วงนั้น มีส่วนช่วยให้เราเข้าใจจิตใจคนในตลาดมากขึ้น โดยการวิเคราะห์จากแนวทางการลงทุนของคนที่เราไปถาม และ นำมาวิเคราะห์ ปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยในช่วงนี้หรือหลังจากนี้นะครับ

ผมมีความเชื่อแปลกๆ ครับ

สิ่งที่กระทำนั้นบางคนเขาเรียกว่าการทำงาน แต่สำหรับบางคนอาจไม่คิดว่าเป็นการทำงาน

เช่นกัน...เกิดเห็นคนไปยืนอยู่กลางทางด่วน เราก็ไม่ควรรีบสรุปว่า.... ไอ้บ้านี่ ทำไมมัน..ไม่รู้จักกลัว

สิ่งที่เห็นในขณะนี้..ไม่ว่าคนที่ยืนอยู่ในหรือนอกตลาด เราคงไม่อาจสรุปให้เขาเหล่านั้นว่า..ใครถูก ใครผิด ครับ

เราไม่อาจจะรู้เหตุ เป้าหมาย เวลา และอื่นๆ ของเขาเหล่านั้น ที่ต้องการคำตอบนั้น

และที่สำคัญต้องแน่ใจก่อนนะ....ว่าต้องรู้อนาคตจริงๆ ถึงจะตัดสินได้ว่าการกระทำวันนี้ของเขาเหล่าถูกหรือผิด (ที่ไม่รู้จักกลัว)

ถ้า...พูดเมื่อเหตุมันแสดงผลผ่านไปแล้ว ก็งั้งๆใครๆก็ทำได้ เพราะที่สำคัญมันอยู่ที่การกระทำก่อนเหตุการณ์จะเกิด (เราจะเลือกการกระทำเช่นไรด้วยเหตุไร...เราก็ต้องเป็นคนตรวจคำตอบเอง ครับ )

แต่คุณbeaeaebe ก็น่าจะเยี่ยมนะ? รู้อนาคตด้วย "ก่อนเด้ง ผมแอบทำโพลส่วนตัวจากเพื่อนๆ"

สงสัย..ความคิดของผม คงแปลกพอๆกับ พี่นพพร ครับ

[Java The Boy]

เล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ

ตอน Sub Prime ผมก็รู้สึกคล้ายๆ ตอนนี้คือ ไม่กลัวเพราะเชื่อว่าหุ้นที่มีอยู่ยังถูก แต่ว่ายังถูกไม่พอยิ่งซื้อยิ่งลง ขาดทุนบาน ผมก็ยังอยากซื้ออีก ภรรยาบอกให้พอได้แล้ว สถานการณ์ตอนนั้น ผมมีหุ้นเต็มพอร์ท เงินหมด และก็อยู่กับหุ้นพวกนั้น 3 ปี ตอนนี้กำไรท่วม หลายตัวขายไปแล้ว เพราะคิดว่ามันเกินมูลค่า ขายไปก็สบายใจดี

ตอนนี้ก็ไม่กลัว แต่ก็ระวังตัวแจ หุ้นหลายตัวราคาไม่แพงแล้ว ผมมีเงินสดมากกว่าหุ้น
เลยบอกตัวเองว่าให้รอ รอ รอ ตีลูกที่ดีที่สุด ซึ่งไม่รู้ว่า จะทำได้หรือเปล่า

[beaeaebe]

เอ่อคุณ pakhakorn อ้านผิด หรือผม พิมพ์ประโยคติดๆกันทำให้เข้าใจผิดนะครับ

สรุปผมบอกว่าทำโพลในหมุ่เพื่อนๆ คำถามคือ

ตอน sub prime รุ้สึกอย่างไร แบ่งเป็น 3 ช่วง ลงแรกๆ ช่วงกลางๆ และก่อนเด้ง อันนี้คือหมายถึงปี 2008นะครับ

ผมก็งงไปทำนายอนาคตตรงไหน แถมไอ้ปีนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยวืกฤตจริงรึเปล่า และมันก็ยังไม่เด้ง ก็เลยงงๆ มีคนอ่านผิดแล้วไปเข้าใจแบบนั้นได้ไง ห่ะห่ะ ไม่เป็นไรครับ ผมพิมพ์ประโยคไม่ดีเอง ภาษาไทยมันไม่มีจุดฟูลสตอป

ส่วนเรื่องใครผิดถูก ผมไม่ทราบ ควรกลัวหรือไม่ผมก็ไม่ทราบ ตั้งเปิดมีกระทุ้นี้ผมก็ไม่เคยทำนายหรือใครผิดถูก แปลกหรือไม่แปลกผมก็ไม่ทราบ เพราะถ้าคิดเอาเองว่าตัวเองแปลก เดี๋ยวจะเข้สทำนอง คิดเอาเองว่าคนอื่นกลัวเราค้องโลภ เลยกลัว bias มากๆครับ

ที่กลัวคือสังเกตจากที่ตอบมา คือ ผมกลัวว่าคุณจะคิดว่าผมบอกให้กลัวซึ่งผิดครับ แนะนำ อ่านดีๆใหม่ เพราะไม่ทราบผมพิมพ์ภาษาไทยไม่เคลียร์ที่ไหนในนี้อีกรึเปล่า เพราะแค่ประโยคผมทำ โพลถามเพื่อนคุณยังเข้าใจผิดได้เลย อันนี้ผมบอกตรงๆ อันนี้ผมกลััวครับ ฮาาาาา ^^" แต่คงไม่มีมั๊งฮะ ผมล้อเล่น ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะและความคิดเห็นครับ

ถ้าถามส่วนตัว ตอนนี้ไม่ค่อยกลัวเช่นกันครับ แต่ไม่ค่อยโลภเท่าไหร่ สัก 5-10%ของความโลภ


ขอบคุณ คุณ Java the Boy สำหรับวิทยาทานครับ ขอบคุณครับ

[beaeaebe]

ขออีกนิดเดี๋ยวจะไม่เคลียร์อีก โพลน่ะผมทำช่วงนี้ ไม่ได้ทำตอน 2008 แต่คำถามน่ะถามถึงตอน 2008 ครับ น่าจะชัดละ

[harikung]

ตอนนี้ผมอยากรู้ที่สุดคิอวิกฤติหนี้ยุโรปจะยุติอย่างไร ใครพอจะรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ช่วยอธิบายหน่อยได้มั้ยครับว่ามันมีทางฉกหรือจุดจบแบบไหนบ้าง อย่างอ่านไว้เปนความรู้น่ะครับ พอดีผมไม่ค่อยมีความรี้เรื่องเศรษฐศาสตร์เท่าไหร่

[pakhakorn]

ถ้าสิ่งที่ผมเขียน ทำให้คุณbeaeaebe อารมณ์เสีย ก็ต้องขอโทษ นะ ครับ

ข้อเขียนของคุณbeaeaebe ดีเยี่ยม ครับ
และจะดีเยี่ยมสุดเลย...ถ้าข้อเขียนนี้ ถูกเขียนและเอามาลงก่อนหน้าสัก 1 เดือนหรือก่อนนั้น หรือสัก 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ จะช่วยกลุ่มเป้าหมายที่คุณbeaeaebe ต้องการได้มากที่สุดเลย ครับ

แต่เอามาลงตอนนี้ ก็ยังดีครับ ทุกเวลาย่อมมีค่า... ส่วนที่เหลือ...ยังกลับตัวทัน

ที่เอามาลงตอนนี้ ถ้าตัดบทสรุปตอนท้ายออกไปบ้าง ผมจะชอบมาก เช่น

"คนพวกนี้ นักวิเคราะห์ ผู้รู้ ฮีโร่พวกนี้ ไม่ได้ซื้อที่ยอดดอยซับไพรม์ ไม่ได้ซื้อที่ยอดดอยต้มยำกุ้ง ไม่งั้นคงมาโม้ให้ท่านฟังไม่ได้ในวันนี้ แต่คนพวกนี้ ซื้อของถูกที่เม่าที่ตายไปในหลายๆ รอบที่แล้วคายออกมาที่ก้นบึ้งแห่งความทรมาน ไม่ว่าจะหลังต้มยำกุ้ง หรือ หลังซับไพรม์ ดังนั้น ดูแลตัวท่านเอง และไปถ้ำกระบอก เลิกยาเสพติดความหวังที่ท่านมีอยู่เต็มสายเลือด และ กลับมามองโลกในความเป็นจริงซะ อย่าทำร้ายตัวเองด้วยความหวังที่มากเกินไป"

ผมไม่ใช่คนพวกนี้เลย แต่ดูแล้วไม่แฟร์ กับพวกเขาเหล่านั้น เพราะผลมันแสดงออกมาแล้ว (ค่อยเขียน) พวกเขาโต้เถียงไม่ได้

แต่ถ้าพูดเมื่อก่อนเวลา แล้วผลไม่ออกมา....ถ้าไม่เป็นแบบช่วงนี้ ผลมันจะเป็นอย่างไร...น่าคิดเหมือนกันใช่ไหม???

ผมก็เพี้ยนอีก...เราช่วยคนหนึ่ง เราจำเป็นต้องอีกแบบ..กับอีกคนไหม???

[cookclick]

นักลงทุนทุกคนล้วนต้องเคยเป็นแมงเม่ามาก่อนทั้งนั้นละครับ
การลงทุนมีสิ่งสำคัญไม่กี่อย่างหรอก ในหนังสือหรืออาจาร์สอนได้แต่มักไม่ค่อยเข้าหัวแมงเม่าหรอกครับ
สุดท้ายมักจะต้องเจ็บจากของจริงเสมอจึงจะเข้าใจสิ่งมี่เคยเรียนมา

ส่วนตัวผมจะแนะนำน้องๆที่เข้ามาใหม่ว่า ให้ใช้เงินลงทุนน้อยๆก่อนในการลงทุน 2-3 ปีแรกจะได้ไม่เสียค่าเล่าเรียนแพง

ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าทุกวันนี้กุยังเป็นแมงเม่าอยู่ป่าวเนี่ย

[beaeaebe]

ผมเข้าใจความรุ้สึกอยากปกป้องของคุณครับ ผมนับถือ และไม่ได้มองคุณในแง่ไม่ดีนะครับ เพราะคึณถึงขนาดยอมตัดประโยคมาครึ่งนึง ทั้งๆที่ใครขึ้นไปอ่านก็น่าจะอ่านออกว่าหมายถึงอะไร ผมไม่อารมณ์เสียนะครับ ออกจะตลกด้วยซ้ำ ไม่รู้จะไปอารมณ์เสียอะไร

เรื่องที่บอกเกิดแล้วค่อยพูด? อะไรเกิดครับ? วิกฤต? ผมว่าในตอนนี้ไม่มีใครฟันธงได้นะครับว่ามันวิกฤตรึยัง คุณพึ่งชมผมเยี่ยมที่ทำนายจลาดจากประโยคที่คุณตัดมาให้มันพอดีกับควสมตั้งใจของคุณ

ผมขอชมคุณกลับนะครับว่าเยี่ยม ที่บอกได้ว่าอะไรเกิดแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ทราบอะไรที่มันเกิด

เราต่างเป็นนักลงทุน เจตนาที่บทความจะสื่อ ผมก็อธิบายชัดเจนว่าต้องการเตือนสติ และไม่ได้ฟันธงใดๆ สาระมากน้อยแค่ไหนก็ต้องแล้วแต่ผู้อ่านจะเห็นคุณค่า ไม่อยากทะเลากับท่านจริงๆครีบ เสียเวลาหาข้อมูลลงทุนครับ ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ

และผมบอกตรงๆ คุณก็อาจจะไม่เชื่อ ผมก็นับถือนักวิเคราะห์ทุกๆท่านในสังคม ที่มีความกล้า และ ช่วยแบ่งปันข้อคิดต่างๆ ควมมรู้ แต่คนที่รับฟังนั้นบางครั้ง เวลาเราพูดเราเลือกคนฟังไม่ได้ บางครั้งต้องระวังตนเอง และ ผู้ฟัง ถ้ายิ่งคุณมีพาวเวอร์ หรือ คำพูด ท่านมีผลกระทบต่อแวดวงสังคมที่ท่านอยู่ ยิ่งต้องระวังมากขึ้น ผมเข้าใจคุณครับ คนที่มีความพยายามปกป้องผู้อื่นเป็นเจตนาที่ดี ผมไม่ได้เสียดสีใดๆ สิ่งที่โต้ตอบก็โต้ตอบกัน แต่เมื่อเสร็จแล้ว ก็ขอให้อิงหลักเหตุและผล ท่านก็ดูแลตัวท่านเอง การลงทุนของท่านเอง ผมไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ครับ บุญรักษาครับ

ผมจริงใจกับคำพูดที่ผมพิมพ์ลงมานี้ครับ จะเชื่อหรือไม่ก็สุดแท้แต่ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ คนที่อ่านบทความ ก็ต้องมีทั้งเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อันนี้ธรรมดาโลกครับ บางครั่งแค่เปิดใจ

[mprandy]

ผมขอคารวะ และขอชื่นชมในความคิดและความกล้าหาญของเจ้าของบทความครับ

เข้าใจว่า บทความก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้คนอ่านทุกคนคิดตาม และคิดได้แบบนั้น แน่นอนย่อมมีคนที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคนอ่านได้คิดตาม และรอดพ้นความงมงายออกมาได้ ไม่ว่าจะกำไร หรือขาดทุน ผมว่าได้ประโยชน์ทั้งนั้น

แค่นี้ก็คุ้มเหลือหลายแล้วครับ

[pot_c]

ขออนุญาติแสดงความเห็นครับ
ผมว่าปัจจุบันนักลงทุนจำนวนมากเข้าใจในการลงทุนหุ้นแบบเป็นเจ้าของกิจการเพื่อรับปันผลครับ ซึ่งก็เหมือนกับการนำเงินไปลงทุนร่วมกับเพื่อนทำกิจการเพื่อให้เกิดผลตอบแทน เปรียบเหมือน ทำร้านกาแฟ ร้านอาหาร ในอดีตเพื่อให้เงินทำงานจนนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินที่หลายท่านปรารถนา ในขณะเดียวกันก็แอบหวังว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากปัจจัยอื่นๆที่เข้ามา ทำให้นักลงทุนสมัยใหม่ไม่ได้แหยงหุ้นเหมือนในอดีต แต่เกิดการเรียนรู้ว่ายังไงการได้ถือหุ้นที่ดีก็จะได้ผลตอบแทนที่ดีตราบที่กิจการยังดีอยู่ เพียงแต่ว่าจะใช้โอกาสที่เกิดจากการผันผวนของเศรษฐกิจโลกอย่างไรเพื่อให้ได้ราคาหุ้นที่ต่ำที่สุดเท่านั้นเองครับ สังเกตได้จากผู้ที่ถือเงินสดก็ไม่ได้นำเงินไปลงทุนกับอย่างอื่น แต่เหมือนรอคอยโอกาสในการซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำสุดนั่นเองครับ

[pakhakorn]

ว่าต่อ นะ ครับ คุณbeaeaebe ต้องขอโทษ อีกครั้ง

เข้าใจในความหวังดี และการตอบกัน 2-3 ครั้ง ทำให้ผมรู้สึกดีกับคุณbeaeaebe ครับ ที่ผมเขียนนะ มันกระพี้ เห็นด้วยอย่างยิ่ง แก่น ที่กระตุ้นให้มีจุดยืน เป็นตัวของตัวเอง

ผมก็คิดคล้ายกับคุณbeaeaebe ผมก็เขียนก่อนหน้านี้ แบบเบาๆ กระตุ้นพิจารณาเหตุช่วงที่ผ่านมาแล้วตัดสินใจทำอะไร...อย่าลืมพิจารณาปัจจัยแวดล้อม + เป้าหมาย + ความพร้อมทางความรู้ + และจิตใจของตัวเราเอง ผมเชื่อว่าสิ่งนี้ต่างหากที่ทำให้แต่ละคนปฏิบัติต่างกัน ทั้งที่หลักการเดียวกัน จะได้มีความสุขกับสิ่งที่เราเลือกแล้ว

ซึ่งหากพิจารณาแล้วทำ จะได้คำตอบที่ต่างกันไป ไม่เหมือกันเลย ไม่ว่าจะ ถือ หรือซื้อ หรือขาย ที่ภายนอกเห็นเหมือนกัน แต่เหตุและเป้าหมายต่างกัน และขั้นต่อๆไปในการปฎิบัติก็จะต่างไปอีก

ส่วนตัวผมเองทุกๆครั้งที่ทำ มันทำให้ผมเรียนรู้และรู้จักตัวเองมากเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่หลายๆครั้งก็เจ็บมากเหมือนกัน แต่ก็ยอมรับผลที่จะตามมาด้วยทั้ง + และ -

ยินดีที่ไดุ้รู้จัก และยังรออ่านกระทู้ดีๆ จากคุณbeaeaebe อีก ครับ

[Green]

เค้าว่า กันว่า

"ราคาคือสิ่งที่เราจ่าย มูลค่าคือสิ่งที่เราได้รับ"

บางที เราก็จ่ายๆ ไปโดยไม่รู้ว่า มูลค่าคืออะไร อันนี้น่ากลัวครับ
เช่น เดี๋ยวกับว่า บางที เราก็ขายๆ ไปโดย ไม่รู้ว่า ของที่เราขายนั้น มีมูลค่าเป็นเท่าไหร่

เพราะในตลาด หุ้นนี้

" เต็มไปด้วยคนที่รู้จักแต่ราคา แต่หาคนที่รู้จักมูลค่าของมันน้อยเต็มที "

ให้ทายว่า Quote สองประโยคด้านบนนี้ ใครเป็นคนกล่าวไว้ครับ

[iruma]

เค้าว่า กันว่า

"ราคาคือสิ่งที่เราจ่าย มูลค่าคือสิ่งที่เราได้รับ"

บางที เราก็จ่ายๆ ไปโดยไม่รู้ว่า มูลค่าคืออะไร อันนี้น่ากลัวครับ
เช่น เดี๋ยวกับว่า บางที เราก็ขายๆ ไปโดย ไม่รู้ว่า ของที่เราขายนั้น มีมูลค่าเป็นเท่าไหร่

เพราะในตลาด หุ้นนี้

" เต็มไปด้วยคนที่รู้จักแต่ราคา แต่หาคนที่รู้จักมูลค่าของมันน้อยเต็มที "

ให้ทายว่า Quote สองประโยคด้านบนนี้ ใครเป็นคนกล่าวไว้ครับ

Buffett , Fisher

[BG]

ในอีกเกือบ 2 ปีถัดมา จากที่เริ่มนำบทความมาตั้งกระทู้ ดัชนียังสูงมาเรื่อยๆ(เกือบ 1,700 แล้ว) และกำลังผันผวนประวัติศาสตร์เป็นเรื่องควรศึกษา กระทู้นี้อ่านแล้วสนุก ได้ประโยชน์ อยู่บนหลักการ จนอยากที่จะกลับมาทบทวนเรื่อยๆเป็นระยะ