หน้า 2 จากทั้งหมด 2

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 29, 2011 9:12 pm
โดย simplelife
chatchai เขียน:คนที่ลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด กับ คนที่ลงทุนเพียงน้อยนิดจนไม่มีผลต่อความมั่งคังของครอบครัว
เห็นด้วยครับ ว่าบางทีผมเห็นนักลงทุนหลายๆคน หรือเพื่อนๆที่มองการลงทุนจากกรอบนอก ว่าหวังจะไ้ด้เท่านั้นเท่านี้ภายในกี่ปีๆ พอกด IRR มาปรากฎว่าเป็น 80% ต่อปีทบต้น 5 ปี พอมาลงทุนจริงก็ทุ่มหวังว่าจะได้ตามที่หวัง กลายเป็นว่าเลือกทางที่เสี่ยงเกินไป โดยมองแต่ upside gain ไม่เคยคิด downside risk เลย แทนที่จะโตเท่านั้นเท่านี้ กลายเป็นขาดทุนไป 50% บ้าง ภายในเวลาไม่นาน กลายเป็นว่ายิ่งมองเป้าสูง ยิ่งไม่เคยมองพื้นเลยว่าตกจากตรงนี้ไปข้างล่างมันจะเจ็บแค่ไหน และต้องใช้เวลากี่ปีกว่าจะกลับมาที่เดิม

ถ้าพอมองเป้าต่ำๆหน่อย เออ.. ปันผลมันก็เยอะกว่าฝากธนาคารแล้ว ปันผลมันก็เพิ่มทุกปี มีตังค์เพิ่มก็ซื้อเพิ่มเข้าไป ทนไปหลายปีก็ขึ้นมาหลายเท่าแล้วครับ ขอให้อดทนหน่อยและประหยัดหน่อยช่วงแรกๆ แค่นั้นเอง

ปล. อาม่าเขาไม่ได้คำนวนอะไรที่เกี่ยวกับมูลค่าหุ้นเลย จะบอกว่าเป็น VI ก็คงไม่ได้

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 29, 2011 9:17 pm
โดย pornchai_w
อยากบอกว่าภรรยาผมก็ซื้ออย่างนี้เหมือนกัน
Wacoal, Tipco, LH, CPN
ซื้ออย่างเดียวไม่เคยขายและบอกว่าไม่คิดจะขาย
KDLTF ซื้อตั้งแต่ปี 2548 ยังไม่ยอมขายเลย ทั้งที่ไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีใดๆแล้ว

เขาแค่โอเคที่ได้ปันผลจากหุ้นและกองทุนนี้
ก็เลยบอกว่าไม่รู้จะขายทำไม ขายไปก็ไม่รู้จะเอาไปลงทุนอะไร
:B

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 29, 2011 10:45 pm
โดย BIG87
โด่ ถ้าผมเป็นโบรคเกอร์สมัยนั้นนะ
ผมคงแนะนำ อาม่าตัวนี้ครับ

FIN-1 สุดยอดหุ้นครับ ไม่มีทางล้ม มั่นคงสุดๆ บริษัทเงินทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ
มีปันผลตลอดครับ อาม่าไม่ต้องกลัวครับ ซื้อแล้วทิ้งยาวเลยครับ มีคนซื้อกันเยอะแยะ เก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกให้หลานเลยครับ .....

จัดเต็มเลยครับอาม่า



ปล.ไม่ได้หมายถึงอาม่าคนนี้นะ แค่พูดแบบรวมๆให้เห็นภาพ ...

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 1:01 am
โดย The Kop 71
chatchai เขียน:การตัดสินใจ หรือ สภาพจิตใจ คงแตกต่างกัน

คนที่ลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด กับ คนที่ลงทุนเพียงน้อยนิดจนไม่มีผลต่อความมั่งคังของครอบครัว

เหมือนกับบางคนที่ลงทุนด้วยเกมส์ก็ดูง่าย แต่พอลงทุนจริง ด้วยเงินจริง ไม่ง่ายเหมือนเก่าหรอกครับ
ที่พี่ฉัตรให้ความเห็นสำคัญมากครับ ถ้าใช้เงินเก็บของอาม่าทั้งหมด (ฝากประจำ) มาลงทุนตอนต้นปีนี้ด้วยมูลค่าสมมุติ 10 ล้านบาท เจอสภาวะตลาด ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะวันที่ 26 ก.ย. 54 สภาพจิตใจ กับการตัดสินใจของแกคงไม่เป็นแบบที่ยกมาเล่าให้ฟัง เพราะนี่คือการลงทุน ที่หวังผลตอบแทน และถ้าเงินจำนวนนี้(สมมุติเป็นก้อนสุดท้ายที่จะให้ลูกหลาน)ลดลงครึ่งหนึ่ง ทั้งอาม่าและลูกหลาน จะยังชื่นชมกันและกันอีกหรือเปล่า

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 9:01 am
โดย beaeaebe
เพื่อนแม่ผมเป็นอาม่าๆ แล้วเหมือนกัน แกซื้อ TA สมัยก่อนสองร้อยกว่าได้มั๊ง

ปัจจุบัน ขนาดเล่นกลจนได้ 3G แล้ว เปลี่ยนชื่อหนีอดีตก็แล้ว บริษัทพ่อรวยไม่รุ็เรื่องสุดๆ ราคาตอนนี้วนอยู่แถว 3บาทกว่า แฮะๆ อาม่าแกไปประชุมทุกทีอะคับผู้ถือหุ้น ไปสาปแช่งเจ้าของ :o

แล้วบุญวาสนาครับ ถ้าไม่ได้ศึกษาจริงจัง

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 30, 2011 8:33 pm
โดย city_hunter
อาม่าจูอายุเท่าไรแล้วเนี่ย
อ่านแล้วทำให้หายเครียดได้เหมือนกัน

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 01, 2011 9:13 am
โดย นพพร
โชคช่วยด้วยน่ะครับ จึงมากล่าวให้ลูกหลานได้ฟังในวันนี้ เชื่อสิ :|

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 01, 2011 12:52 pm
โดย jo7393
ลงทุนแบบไม่ศึกษาอะไรเลย เฮงก็โม้ได้ ซวยก็โทษดวง :P

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 02, 2011 7:40 pm
โดย thanadee
ฟังดูเหตุผลที่แต่ละคนอธิบายน่าจะเป็นจริงในหลายทิศทาง สุดแท้แต่ประเด็นที่จะพูด
แต่เมื่อรวมความแล้ว ถ้าเราเลือกหุ้นที่ถูกต้องตามคุณสมบัติประเภททองแท้ แม้ผ่านอุปสรรคนานา ก็จะรอดพ้นไปได้ ฉนั้นเวลาและความอดทนจะเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน เป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของนักลงทุน สรุปความว่าเลือกหุ้นที่ดีสุด(คงยากและมีคำถามอีกเยอะ)และถือไว้ให้นานที่สุด :)

Re: หุ้นตก อย่าตกใจมาดูอาม่า VI ตัวจริงดีกว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 03, 2011 12:01 am
โดย halogen
chatchai เขียน:เชื่อไหมว่ากรณีนี้ เป็นกรณีที่คนตายไม่ได้พูด

ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ซื้อหุ้นและถือคล้ายๆกับอาม่า กิจการที่ซื้อตอนนั้นก็ดูมั่นคงแข็งแรง แต่เมื่อหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ใครจะเชื่อว่าบริษัทเหล่านี้ไม่มีอยู่แล้ว

บงล.ธนสยาม บง.เอกธนกิจ บงล.จีเอฟ บงล.นิธิภัทร บงล.ซิกก้า หรือแม้แต่ธนาคารศรีนคร ธนาคารมหานคร ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ ธนาคารแหลมทอง สหธนาคาร

และถ้าซื้อบริษัทเหล่านี้ที่ดูเหมือนมีกิจการใหญ่โตมั่นคงผู้ถือหุ้นน่าเชื่อถือ เช่น TT&T TRUE SAMART THAI ก็คงไม่ได้ผลตอบแทนซักเท่าไร ถ้าเผื่อมีคนชวนไปจองซื้อหุ้นตอน IPO

การเพิกเฉย กับ การไม่ตื่นตูม บางครั้งก็ดูคล้ายๆกัน

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อมีวิกฤตปี 40 มีนักลงทุนคนหนึ่งซื้อหุ้น KK ไป แล้วเกิดอุบัติเหตุทำให้ไม่ได้ติดตามเรื่องหุ้นนานมากเลย พอหายกลับมาดูหุ้น KK เป็นเพียง 2 บริษัทเงินทุนจาก 58 แห่งที่ไม่ถูกปิดกิจการ เรื่องเลวร้ายทั้งหลายก็ผ่านพ้นไปแล้ว ราคาหุ้น KK กลับพุ่งขึ้นได้กำไรเป็นเท่าๆตัว

นักลงทุนคนนี้เก่งหรือเฮง ถ้าเขาไม่เกิดอุบัติเหตุ เขาก็ทนถือหรือไม่
น่านับถือครับ ทีมาเตือนสติ มือใหม่แบบผม :shock: