company visit BLA ด่วนมากค่ะ
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: company visit BLA ด่วนมากค่ะ
โพสต์ที่ 32
ผมได้ไป company visit BLA มา แต่ผมไม่ได้จดรายละเอียดเลย
ขอแชร์เท่าที่ผมพอจะจำได้นะครับ
วันนี้คุณโชนไม่ได้มา แต่มีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยเข้าร่วมตอบคำถามด้วย
1. BLA มีแนวโน้มจะตั้งสำรองประกันชีวิตสูงขึ้นในไตรมาสสี่ปีนี้ไปจนถึงปีหน้า และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะตั้งสูงถึง 64-65% เพราะในปีสองปีที่ผ่านมาเน้นขายประกันแบบสะสมทรัพย์เยอะ ซึ่งประกันแบบนี้มีภาระจ่ายในอนาคตเยอะทำให้ต้องตั้งสำรองสูง
2. ในปีหน้าที่รัฐบาลอาจจะลดภาษีลงเหลือ 23% นั้น BLA อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์มากนักเพราะการตั้งสำรองที่คาดว่าจะสูงในปีหน้า (สูงกว่า 65% ในบางกรมธรรม์) ซึ่งส่วนที่เกินจาก 65% นี้จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้และทำให้ต้องเสียสูงขึ้น
3. คาดว่าไตรมาสสี่ปีนี้จะมีการเติบโตของเบี้ยใหม่ติดลบ เพราะฐานที่สูงมากในปีก่อน บวกกับน้ำท่วมที่ทำให้คนชะลอการทำประกันชีวิต ส่วนเบี้ยต่ออายุก็เชื่อว่าจะจ่ายช้าออกไปกว่าปกติ
4. การตั้งสำรองนั้นจะต้องเป็นไปตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย และต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดโดย คปภ ซึ่งในการคำนวณจริงๆแล้วมีตัวแปรบางตัวที่อาจจะปรับเปลี่ยนได้เล็กน้อยเพื่อให้จำนวนการตั้งสำรองนั้นสอดคล้องกับนโยบายบริษัท ซึ่งไม่ว่าจะตั้งสูงหรือต่ำแค่ไหนจะต้องสามารถชี้แจงเหตุผลถึงที่มาและหลักในการคำนวณได้ ไม่สามารถตั้งสูงหรือต่ำได้ตามใจชอบ
5. BLA กำลังพยายามทำให้ Duration ของการจ่ายผลตอบแทนตามกรมธรรม์และ Duration ของเงินลงทุนใกล้เคียงกันมากขึ้น โดยพยายามจะทำ Product mix ให้เน้นกรมธรรม์ที่เน้นความคุ้มครองชีวิตมากกว่าแบบออมทรัพย์
6. การจะทำให้เงินลงทุนและทรัพย์สินของ BLA เติบโตจนเกิน 2 แสนล้านบาทภายใน 3-4 ปีข้างหน้านั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะนำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับผลตอบแทนจ่ายคืนผู้เอาประกันนั้นยากกว่า
7. ค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันชีวิตในเมืองไทยนั้น BLA ต่ำที่สุดอยู่ที่ประมาณ 4.xx% เมื่อเทียบกับของ SCBLIF และ MTL ที่ 7.xx%-8.xx%
8. ธรรมชาติของส่วนรับประกันภัยนั้นมักจะขาดทุนเล็กน้อย และจะกำไรจากเงินลงทุน แต่ในช่วง 1 ปีทีผ่านมานั้นมีกำไรจากการรับประกันภัยสูงมากซึ่งผิดปกติและจะเป็นเช่นนี้ไม่นาน หลังจากนี้น่าจะกลับสู่ภาวะปกติ
9. อัตราการเสียชีวิตจริงๆของลูกค้า BLA คิดเป็นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับอัตราการตายตามตารางมรณะเดิม และน่าจะอยู่ประมาณ 70% เมื่อเทียบกับตารางมรณะใหม่ (เป็นการประมาณ)
10. อัตราเบี้ยประกันชีวิตรวมเมื่อเทียบเป็นรายปี ของปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.3% ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งยังน้อยเมื่อเทียบกับ SCBLIF และ MTL ที่จะอยู่ประมาณ 2%
11. BLA กำลังคิดว่าจะทุ่มงบโฆษณามากขึ้นในปีหน้า
12. ผลตอบแทนจากพันธบัตรเฉลี่ยที่มีการซื้อเพิ่มในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 4.xx% และผลตอบแทนรวมของเงินก้อนใหม่ที่ลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 5.xx% (ถามนอกรอบ)
ถ้าผมนึกอะไรออกจะมาโพสต์ใหม่นะครับ
ขอแชร์เท่าที่ผมพอจะจำได้นะครับ
วันนี้คุณโชนไม่ได้มา แต่มีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยเข้าร่วมตอบคำถามด้วย
1. BLA มีแนวโน้มจะตั้งสำรองประกันชีวิตสูงขึ้นในไตรมาสสี่ปีนี้ไปจนถึงปีหน้า และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะตั้งสูงถึง 64-65% เพราะในปีสองปีที่ผ่านมาเน้นขายประกันแบบสะสมทรัพย์เยอะ ซึ่งประกันแบบนี้มีภาระจ่ายในอนาคตเยอะทำให้ต้องตั้งสำรองสูง
2. ในปีหน้าที่รัฐบาลอาจจะลดภาษีลงเหลือ 23% นั้น BLA อาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์มากนักเพราะการตั้งสำรองที่คาดว่าจะสูงในปีหน้า (สูงกว่า 65% ในบางกรมธรรม์) ซึ่งส่วนที่เกินจาก 65% นี้จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้และทำให้ต้องเสียสูงขึ้น
3. คาดว่าไตรมาสสี่ปีนี้จะมีการเติบโตของเบี้ยใหม่ติดลบ เพราะฐานที่สูงมากในปีก่อน บวกกับน้ำท่วมที่ทำให้คนชะลอการทำประกันชีวิต ส่วนเบี้ยต่ออายุก็เชื่อว่าจะจ่ายช้าออกไปกว่าปกติ
4. การตั้งสำรองนั้นจะต้องเป็นไปตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย และต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดโดย คปภ ซึ่งในการคำนวณจริงๆแล้วมีตัวแปรบางตัวที่อาจจะปรับเปลี่ยนได้เล็กน้อยเพื่อให้จำนวนการตั้งสำรองนั้นสอดคล้องกับนโยบายบริษัท ซึ่งไม่ว่าจะตั้งสูงหรือต่ำแค่ไหนจะต้องสามารถชี้แจงเหตุผลถึงที่มาและหลักในการคำนวณได้ ไม่สามารถตั้งสูงหรือต่ำได้ตามใจชอบ
5. BLA กำลังพยายามทำให้ Duration ของการจ่ายผลตอบแทนตามกรมธรรม์และ Duration ของเงินลงทุนใกล้เคียงกันมากขึ้น โดยพยายามจะทำ Product mix ให้เน้นกรมธรรม์ที่เน้นความคุ้มครองชีวิตมากกว่าแบบออมทรัพย์
6. การจะทำให้เงินลงทุนและทรัพย์สินของ BLA เติบโตจนเกิน 2 แสนล้านบาทภายใน 3-4 ปีข้างหน้านั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะนำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับผลตอบแทนจ่ายคืนผู้เอาประกันนั้นยากกว่า
7. ค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันชีวิตในเมืองไทยนั้น BLA ต่ำที่สุดอยู่ที่ประมาณ 4.xx% เมื่อเทียบกับของ SCBLIF และ MTL ที่ 7.xx%-8.xx%
8. ธรรมชาติของส่วนรับประกันภัยนั้นมักจะขาดทุนเล็กน้อย และจะกำไรจากเงินลงทุน แต่ในช่วง 1 ปีทีผ่านมานั้นมีกำไรจากการรับประกันภัยสูงมากซึ่งผิดปกติและจะเป็นเช่นนี้ไม่นาน หลังจากนี้น่าจะกลับสู่ภาวะปกติ
9. อัตราการเสียชีวิตจริงๆของลูกค้า BLA คิดเป็นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับอัตราการตายตามตารางมรณะเดิม และน่าจะอยู่ประมาณ 70% เมื่อเทียบกับตารางมรณะใหม่ (เป็นการประมาณ)
10. อัตราเบี้ยประกันชีวิตรวมเมื่อเทียบเป็นรายปี ของปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.3% ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งยังน้อยเมื่อเทียบกับ SCBLIF และ MTL ที่จะอยู่ประมาณ 2%
11. BLA กำลังคิดว่าจะทุ่มงบโฆษณามากขึ้นในปีหน้า
12. ผลตอบแทนจากพันธบัตรเฉลี่ยที่มีการซื้อเพิ่มในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 4.xx% และผลตอบแทนรวมของเงินก้อนใหม่ที่ลงทุนในปีนี้อยู่ที่ 5.xx% (ถามนอกรอบ)
ถ้าผมนึกอะไรออกจะมาโพสต์ใหม่นะครับ
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
Re: company visit BLA ด่วนมากค่ะ
โพสต์ที่ 35
ขอบคุณพี่ sky foreverมากครับ
อยากเห็นโปรแกรมลักษณะ wisdoms เหมือน MTL บ้าง
ไม่แน่ใจว่าเพิ่ม cost เยอะรึเปล่า แต่จะได้เบี้ยใหม่เยอะเลย
อยากเห็นโปรแกรมลักษณะ wisdoms เหมือน MTL บ้าง
ไม่แน่ใจว่าเพิ่ม cost เยอะรึเปล่า แต่จะได้เบี้ยใหม่เยอะเลย
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.