หน้า 2 จากทั้งหมด 2

Re: ร้านก๋วยเตี๋ยวกับการลงทุนแบบ Value Investment

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2012 2:34 pm
โดย chukieat30
chitadisai เขียน:อีกปัจจัยนึงที่ทำให้ร้านก๊วยเตี๋ยวบางร้าน ประสพความสำเร็จมากๆคิอ ขายในช่วงเวลาที่เค้าไม่ขายกัน ขายดึกๆ ขายใกล้ชุมชนคนกลางคืนที่ต่างๆ บางแห่งที่หาของกินกลางคืนยากๆ แทบจะผูกขาดเลยทีเดียว
ขอบคุณครับ อันนี้ก้ถือว่า ถ้าเป็นกิจการก้ต้องเรียกว่า nitch market

การขายเฉพาะกลางคืนเพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

ถือเป็น ก๋วยเตี๋ยวสไตล์ปีเตอร์ลินซ์ครับ ขอบคุณที่แชร์ครับ

Re: ร้านก๋วยเตี๋ยวกับการลงทุนแบบ Value Investment

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2012 2:38 pm
โดย chukieat30
ขอแชร์บ้างนะครับ

ก๋วยเตี๋ยวที่ ช่วงวิกฤติจะอยู่รอด สำหรับผมคือ อร่อย ถูก และเน้นคนกินในประเทศครับ

อาจจะอยู่ในแหล่งชุมชนที่ไม่เน้นนักท่องเที่ยว

ก้เช่นเดียวกับ วิกฤติรอบนี้ กิจการที่ผมเลือก ก้จะเน้นหนักไปที่เน้นบริโภคในประเทศ

ร้านก๋วยเตี๋ยวต้อง มีเงินเย็นมากพอ เวลาเกิดวิกฤติแล้วจะได้ไม่เกิดเวินสดตึงมือ

กิจการก้เช่นกัน ถ้ากิจการไม่สามารถผลิตเงินสดได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายเท่าเดิม

การไม่มีเงินสดในมือ เพื่อซื้อหุ้นคืนหรือประคองกิจการ

โอกาศล้มก้มี

Re: ร้านก๋วยเตี๋ยวกับการลงทุนแบบ Value Investment

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2012 2:46 pm
โดย chukieat30
ก๋วยเตี๋ยวเฉพาะอย่างก้ขายดีในช่วงวิกฤติครับ

มาม่า ไวไว

เปรียบได้กับ กิจการบางอย่างช่วงวิกฤติกลับจะรายได้ดีสวนกลุ่มอื่น

เช่นกลุ่มเป็นหนี้รูดปึ๊ดๆๆ

Re: ร้านก๋วยเตี๋ยวกับการลงทุนแบบ Value Investment

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2012 4:21 pm
โดย chukieat30
chukieat30 เขียน:ขอแชร์บ้างนะครับ

ก๋วยเตี๋ยวที่ ช่วงวิกฤติจะอยู่รอด สำหรับผมคือ อร่อย ถูก และเน้นคนกินในประเทศครับ

อาจจะอยู่ในแหล่งชุมชนที่ไม่เน้นนักท่องเที่ยว

ก้เช่นเดียวกับ วิกฤติรอบนี้ กิจการที่ผมเลือก ก้จะเน้นหนักไปที่เน้นบริโภคในประเทศ

ร้านก๋วยเตี๋ยวต้อง มีเงินเย็นมากพอ เวลาเกิดวิกฤติแล้วจะได้ไม่เกิดเวินสดตึงมือ

กิจการก้เช่นกัน ถ้ากิจการไม่สามารถผลิตเงินสดได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายเท่าเดิม

การไม่มีเงินสดในมือ เพื่อซื้อหุ้นคืนหรือประคองกิจการ

โอกาศล้มก้มี



บางคนเริ่มอาหารเป็นพิษแล้วครับจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อกวางยุโรป

:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

Re: ร้านก๋วยเตี๋ยวกับการลงทุนแบบ Value Investment

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 14, 2012 6:18 pm
โดย navapon
dragonrider เขียน:คงหมายถึง ก๋วยเตี๋ยวเจ๊เพ็ญ ผมเคยทานแล้วครับ ทานครั้งเดียวแล้วก็ไม่ทานอีก
สำหรับผม คิดว่า การตลาดเข้ามามีส่วนเยอะ สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวในต่างจังหวัด
พยายาม สร้าง product differentiation ให้ได้ เช่น ใส่ก้ามปู กั้ง ราคาสูง
วันนึงอาจจะขายไม่ได้กี่ชาม แต่ขายชามนึง กำไร มากกว่า 100% ถ้ามาทำกรุงเทพ เจ๊ง ครับ
เพราะเจอคู่แข่งเยอะ
เห็นว่ามีการสร้างกระแสใน internet และ facebook บ่อยและเยอะ หนังสือ รายการทีวีก็เข้าไปทำ
ในกรณีนี้ product กับ price เป็น ตัวแปรสำคัญ ใน การสร้าง differentiation
ใช่แล้วครับ ผมพยายามไม่โฆษณาชื่อร้านให้เขา จึงไม่เอ่ยชื่อ ไม่ทราบว่าคุณ dragonrider
พอจะผ่านหน้าเขาบ่อยไหมครับ ไม่ต้องถึงขนาดเข้าไปนะครับ แค่ขับรถผ่านหน้าร้านเขา
ก็น่าจะเห็นแล้วว่า เดี๋ยวนี้ลูกค้ายังเยอะอยู่ไหม
สำหรับราคา ผมถือว่าค่อนข้างแพง (ค่อนข้างจับตลาดบนๆ ) แต่แพง เราคงต้องมองเทียบกับ
คุณภาพว่ามันคุ้มไหม สำหรับที่ผมทานก็โอเคนะครับ คุ้มราคา แต่อันนี้ก็แล้วแต่คน
รสชาติถูกปากคนหนึ่ง อาจจะไม่ถูกปากอีกคนก็ได้
สำหรับ ผม มองว่าร้านนี้น่าอยู่รอดได้ในระยะยาว แต่ผมเองก็ไม่ได้ไปกินบ่อย ถึงขั้นประจำ
แต่เท่าที่ผ่านหน้าร้าน(แบบขับรถผ่านๆ) ผมมองว่า คนก็ยังเต็มอยู่ตลอดเวลานะ
หรือท่านอื่นว่าไงครับ

ผมจะขอยกตัวอย่าง ไอศกรีมสเวนเซ่น ก็ราคาสูงนะครับ ราคาสูงกว่ากินข้าวแกงหนึ่งมื้ออีก
ก็แค่อิ่มได้หนึ่งมื้อเหมือนกัน (แถมจะอิ่มหรือเปล่า เพราะมันก็แค่ไอศกรีม) แต่ก็เห็นคนกินกันเต็มตลอด
แล้วอย่างนี้จะว่าอย่างไรดีครับ มันแพงจริงหรือไม่
ไม่อยากให้มองว่า ราคาสูงแล้วแปลว่าแพง เพราะ ราคาสูงไม่ได้แปลว่าแพง นะครับ
ของทุกอย่าง ราคาคงต้องเทียบกับคุณภาพ ถึงจะบอกได้ว่าถูกหรือแพง
รู้สึกคุ้นๆว่า ประโยคนี้ท่านดอกเตอร์จะเป็นคนสอนเอง ในหนังสือตีแตก
มิฉะนั้น อาจมองไม่รอบ แล้วปิดกั้นโอกาสลงทุนในร้านก๋วยเตี๋ยวหรืออาจพลาดโอกาส
ในการกินก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆได้^^ (แซวนะครับ)